มีการโพสต์บน XDA Developers ว่า ซัมซุงได้ทำลายฝาหลังของ Galaxy S III สีน้ำเงินเข้ม (Pebble Blue) ไปกว่า 6 แสนชิ้น และกำลังปรับปรุงกระบวนการผลิตอยู่ ซี่งนี่อาจเป็นสาเหตุของการรายงานข่าวที่ว่า Galaxy S III สีดังกล่าวเริ่มขาดตลาดและเริ่มถูกส่งมอบล่าช้าออกไป อาทิ ผู้ให้บริการเครือข่ายในนิวซีแลนด์แจ้งลูกค้าที่สั่งจองเครื่องสีดังกล่าวว่าจะเลื่อนการส่งมอบเครื่องไปช่วงกลางเดือนมิถุนายนนี้ เป็นต้น

ตามรายงานนี้รุ่นสีขาวนั้นไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างไร

Nick Bilton นักข่าวจาก The New York Times รายงานว่า Facebook ได้จ้างอดีตวิศวกรของ Apple ที่เคยทำงานด้านซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์กับ iPhone มากกว่า 6 คน และที่เคยทำงานกับ iPad อีกหนึ่งคน มาทำงานในโครงการที่มีชื่อว่า "Buffy"

อดีตวิศวกร iPhone คนหนึ่งได้พบกับ Mark Zuckerberg ซึ่ง Mark Zuckerberg ได้ถามเกี่ยวกับรายละเอียดต่างๆ และชนิดของชิปที่ใช้งาน อดีตวิศวกรยังเล่าอีกว่าทาง Facebook มีความต้องการดึงตัววิศวกรด้านฮาร์ดแวร์จาก Apple โดยผู้บริหาร Facebook และเล่าเรื่องเกี่ยวกับบริษัทจัดหาฮาร์ดแวร์อีกด้วย

นักวิจัยตลาด Gene Munster จากบริษัท Piper Jaffray ได้คาดการณ์ว่าทีวีของแอปเปิล (หรือที่หลายคนเรียกมันแบบไม่เป็นทางการว่า iTV) จะเข้าสู่ตลาดราวเดือนธันวาคมนี้ โดยจะมีหน้าจอให้เลือกระหว่าง 42 ถึง 55 นิ้ว ด้วยราคาที่สูงถึง 1,500 ถึง 2,000 ดอลลาร์ (ราว 46,500 ถึง 62,000 บาท) ถึงแม้เมื่อเทียบกับทีวีที่วางขายในสหรัฐฯ ที่มีราคาระหว่าง 700 ถึง 1,400 ดอลลาร์ (ราว 21,700 ถึง 43,400 บาท) แล้วทำให้ iTV ดูแพงมากทีเดียว แต่ Munster เชื่อว่าแอปเปิลจะสามารถมีส่วนแบ่งตลาดถึงร้อยละ 10 ได้ใน 1-3 ปีนับจากการวางขาย iTV

หนังสือพิมพ์จากประเทศแคนาดา The Globe and Mail ได้ออกมารายงานว่าซีอีโอคนใหม่ของ RIM จะต้องทำการตัดสินใจครั้งใหญ่หลังจากที่เข้ารับตำแหน่งได้ไม่นาน โดยในคราวนี้เขาจะต้องตัดสินใจเรื่องการปลดพนักงานอย่างน้อย 2,000 คนก่อนวันที่ 1 มิถุนายนที่จะถึงนี้ ในขณะเดียวกันสำนักข่าวรอยเตอร์สเชื่อว่า RIM อาจจะต้องปลดพนักงานมากถึง 6,000 อัตราด้วยกัน รวมไปถึงพนักงานใหม่ที่เพิ่งได้รับงานกับ RIM ด้วย

ไม่ใช่ประเทศไทยเท่านั้นที่อยากให้นักเรียนในประเทศตัวเองมีแท็บเล็ตใช้กัน ล่าสุดบริษัท MalTechPro ได้ปล่อยแท็บเล็ตแบรนด์ประเทศตัวเอง 1MalaysiaPad (ตามนโยบาย 1Malaysia ของประเทศ) ออกมาวางขายที่ราคาเครื่องละ 999 ริงกิตมาเลเซีย หรือประมาณหนึ่งหมื่นบาทไทย สำหรับเครื่อง 5,000 เครื่องแรกที่จัดจำหน่าย โดยแท็บเล็ตดังกล่าวจะมาพร้อมกับหน้าจอ 7 นิ้วและรันระบบปฏิบัติการ Gingerbread

นอกจากนี้แท็บเล็ตดังกล่าวสามารถเชื่อมต่อกับเครือข่าย 3G ได้ และมาพร้อมกับระบบ IM ของตัวเอง ที่ผู้ใช้สามารถจะใช้ส่งข้อความหาแท็บเล็ต 1MalaysiaPad เครื่องอื่น ๆ ได้ โดยจากในรายงานเชื่อว่าแท็บเล็ตดังกล่าวนี้จะถูกนำไปขายให้กับนักเรียนภายในประเทศภายหลังในราคาที่อาจจะต่ำกว่านี้

WikiLeaks ประกาศเปิดตัวโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คของตัวเองภายใต้สโลแกน 'Encrypted Facebook' หรือ Facebook ในรูปแบบที่ผ่านการเข้ารหัส หลังจากมีการอ้างว่า Facebook ได้ขายข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานให้กับรัฐบาลและยังประณามการที่ Facebook สนับสนุนร่างกฎหมาย Cyber Intelligence Sharing and Protection Act (CISPA) ซึ่งว่าด้วยการที่ผู้ให้บริการสามารถเข้าถึงข้อมูลใดๆ ก็ได้ภายใต้ข้ออ้างความปลอดภัยทางไซเบอร์

สำหรับโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คนี้ยังอยู่ในช่วงเบต้า และยังเปิดให้ทุกคนสามารถสมัครสมาชิกได้ภายในลิงก์ที่มาข่าวครับ

The Pirate Bay เพิ่มหมายเลข IP ใหม่ให้ผู้ใช้งานเพื่อช่วยในการเข้าถึงเว็บไซต์หลังจากประเทศในแถบยุโรปเช่นอังกฤษ และเนเธอร์แลนด์ ต่างเพิ่มมาตรการให้ ISP บล็อค The Pirate Bay โดยได้รับความช่วยเหลือจากกลุ่มผู้ใช้งานภายในประเทศที่มีการบล็อคการเข้าถึงเว็บไซต์

สำหรับการแก้ไขของ The Pirate Bay ในตอนนี้ไม่ใช่การแก้ไขในระยะยาว เพราะ ISP ก็สามารถบล็อคหมายเลข IP ที่ได้รับการเผยแพร่ใหม่นี้ได้เช่นกัน แต่ก็จะเห็นได้ว่าตัวเว็บไซต์ของ The Pirate Bay ยังได้รับการพัฒนาให้สามารถเข้าถึงผ่านทางพร็อกซี่ได้อย่างสะดวกมากขึ้นอีกด้วย

ข่าวดีของแฟนๆ โนเกียและ Windows Phone ครับ เพราะสถิติล่าสุดจาก IDC ระบุว่าส่วนแบ่งตลาดเริ่มเพิ่มขึ้นแล้ว

เริ่มจากโนเกียก่อน ข้อมูลล่าสุดของ IDC ระบุว่าส่วนแบ่งตลาดมือถือในฟินแลนด์ (บ้านเกิดของโนเกีย) พบว่าโนเกียกลับมามีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นในสองไตรมาสล่าสุด โดยส่วนแบ่งตลาดของโนเกียร่วงลงไปต่ำสุดช่วงไตรมาสที่สามของปี 2011 ที่ 31% แต่สองไตรมาสล่าสุดกลับมาเพิ่มเป็น 35% และ 40% ตามลำดับ (ปี 2010 ส่วนแบ่งตลาดของโนเกียสูงถึง 76%)

อันดับสองเป็นของซัมซุงที่ 28% ในไตรมาสล่าสุด (เคยขึ้นไปถึง 31% ในไตรมาสก่อน) ตามด้วยแอปเปิล 21% (ขึ้นไปสูงสุดที่ 22%)

ตัวเลขชุดนี้น่าจะเป็นหลักฐานที่บ่งชี้ได้ว่ายุทธศาสตร์ Windows Phone ของโนเกียเริ่มได้ผล อย่างน้อยก็ในบ้านเกิดของตัวเอง

เอชพีประกาศว่า จะยุบแบรนด์ "HP Compaq" ในปีหน้า ส่วนแบรนด์ "Compaq" นั้นบริษัทจะยังใช้ทำตลาดต่อไป แต่จะเน้นผลิตภัณฑ์กลุ่มคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลสำหรับการใช้งานขั้นพื้นฐานในราคาต่ำเพียงอย่างเดียว

การเปลี่ยนแปลงนี้คงไม่ได้ส่งผลต่อภาพลักษณ์ในมุมของกลุ่มตลาดเป้าหมายหรือลูกค้ามากนัก เพราะหลังจากเอชพีได้ซื้อบริษัทคอมแพคเมื่อปี 2002 นั้น แบรนด์ Compaq ก็ถูกใช้เพื่อการทำตลาดระดับล่างมาโดยตลอด 

ถ้ายังพอจำกันได้ ส่วนหนึ่งใน

OpenStack เป็นซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สสำหรับสร้างกลุ่มเมฆ มันถูกสร้างขึ้นโดยความร่วมมือของ Rackspace กับ NASA (นำซอฟต์แวร์ของทั้งสององค์กรนี้มารวมกัน) ภายหลังมีบริษัทจำนวนมากเข้าร่วมกับ OpenStack และเริ่มให้บริการกลุ่มเมฆเชิงพาณิชย์กันแล้ว เช่น Rackspace หรือ HP

Toshiba America ให้ข้อมูลกับเว็บไซต์ Liliputing ว่าจะไม่นำเน็ตบุ๊กของบริษัทเข้ามาทำตลาดสหรัฐอเมริกาอีกแล้ว โดยบริษัทจะเน้นทำตลาดอัลตร้าบุ๊กอย่าง Toshiba Portege Z830 แทน เพราะมีขนาดและน้ำหนักใกล้เคียงกัน แต่ประสิทธิภาพดีกว่ามาก (ราคาก็ต่างกันเยอะด้วย)

เมื่อปีที่แล้ว ยาฮูออกแอพ Livestand สำหรับอ่านแมกกาซีนบนแท็บเล็ต ปรากฏว่าเวลาผ่านไปไม่ถึงครึ่งปี ยาฮูตัดสินใจหยุดพัฒนามันต่อแล้ว

ข้อมูลจากแอพ WP Bench ซึ่งเป็นเบนช์มาร์คสำหรับแพลตฟอร์ม Windows Phone พบมือถือใหม่ของโนเกียหลายรุ่นที่รันระบบปฏิบัติการเวอร์ชัน 8.0.9698.0 โผล่เข้ามาในฐานข้อมูล

ชื่อมือถือใหม่ๆ ที่ปรากฏมีดังนี้

• Nokia PureLambda
• Nokia Phi
• Nokia Pure Phi
• Nokia Alpha

ชื่อทั้งหมดนี้คงเป็นโค้ดเนมแน่นอน แต่ที่น่าสนใจคือคำว่า "Pure" จะหมายถึงรุ่นที่มีกล้อง PureView ติดมาด้วยหรือไม่?

ที่มา - MyNokiaBlog, WMPoweruser

มีภาพและข้อมูลหลุดแท็บเล็ตรัน Windows 8 จากเดลล์ ถึงสองรุ่น คือ Latitude 10 ที่มีหน้าตาคล้าย Latitude ST ที่วางขายอยู่ในขณะนี้ และ XPS 12 ที่มีหน้าจอหมุนเปลี่ยนเน็ตบุ๊กเป็นแท็บเล็ตได้เหมือนกับ Inspiron Duo รุ่นที่ท้ายที่สุดเดลล์ไม่ได้ผลิตออกจำหน่ายจริง รายละเอียดมีดังนี้

ถ้ายังจำกันได้ ยักษ์สื่อสาร Cisco มีแท็บเล็ตสำหรับตลาดองค์กรชื่อ Cius (ข่าวเก่า) แนวคิดของ Cisco วางแผนให้มันเป็นแท็บเล็ตที่องค์กรสั่งซื้อให้ผู้บริหารและพนักงานใช้ โดยผนวกเอาซอฟต์แวร์สื่อสารในองค์กรอย่าง WebEx หรือ TelePresence มาให้ในตัว

กูเกิลออกมาประกาศข่าวว่า Google Play Store รองรับการสมัครสมาชิกภายในแอพ (in-app subscription) โดยผู้ใช้สามารถซื้อบริการ (เช่น หนังสือ นิตยสาร เพลง) เป็นรายเดือนหรือรายปีจากตัวแอพ แล้วจ่ายเงินด้วยบัญชีของ Google Play ได้

กูเกิลบอกว่าฟีเจอร์นี้เป็นการต่อยอด in-app purchase/billing เดิมที่มีอยู่แล้ว ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยสถิติของกูเกิลระบุแอพส่วนใหญ่ในกลุ่ม top grossing เลือกใช้โมเดลหารายได้แบบนี้เป็นหลักอยู่แล้ว

ฟีเจอร์นี้จะใช้ได้กับ Google Play เวอร์ชัน 3.5 ขึ้นไป ส่วนนักพัฒนาแอพก็ศึกษา API กันได้ถ้าต้องการ

ที่มา - Android Developers Blog

Flickr ยังเดินหน้าปรับปรุงฟีเจอร์อย่างต่อเนื่อง จากที่ประกาศ Photo View โฉมใหม่ที่เรียงภาพแบบติดๆ กัน (มีชื่อว่า Justified View) และ Uploadr ตัวใหม่ ไปแล้ว คราวนี้ถึงฟีเจอร์ด้านการแชร์ภาพเข้ากลุ่มความสนใจเดียวกันหรือ Groups

เว็บไซต์ Pocket-lint อ้างแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดวงในว่า Facebook กำลังสนใจซื้อ Opera Software บริษัทผู้สร้างเว็บเบราว์เซอร์ Opera เป้าหมายก็เพื่อเป็นเจ้าของเว็บเบราว์เซอร์เอง จะได้ต่อกรกับกูเกิลในโลกออนไลน์ได้สูสีมากขึ้น

ข่าวนี้ยังไม่ได้รับคำยืนยันใดๆ แต่ The Next Web หาข้อมูลเพิ่มเติมได้ว่า Opera (ซึ่งตอนนี้เป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ของนอร์เวย์) กำลังพิจารณาขายบริษัทให้กับบริษัทขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง และตอนนี้มีข่าวอีกเช่นกันว่า Opera หยุดจ้างพนักงานใหม่ชั่วคราว ซึ่งอาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่ากำลังมีข่าวใหญ่เกิดขึ้น

ถ้าข่าวนี้เป็นจริง สงครามเบราว์เซอร์คงร้อนระอุขึ้นมาอีกรอบ แถมยังน่าจะกระทบวงการเบราว์เซอร์บนมือถือที่ Opera กินส่วนแบ่งตลาดอยู่มากด้วย

Sony Mobile Communications ออกมาประกาศผ่านบล็อกของ Xperia ว่ามือถือที่วางขายในปี 2011 จะเริ่มได้รับอัพเกรด Android 4.0 ICS ตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป

มือถือที่เข้าข่ายได้แก่ Xperia arc, Xperia neo, Xperia mini, Xperia mini pro, Xperia pro, Xperia active, Sony Ericsson Live with Walkman ทั้งนี้ไม่รวม Xperia PLAY ที่บริษัททดสอบแล้วพบว่าการเล่นเกมบน ICS ไม่เสถียรพอ จึงตัดสินใจไม่อัพเกรด Xperia PLAY ในที่สุด

สำหรับมือถือของปี 2012 ตามแผนคือ Xperia S จะได้ช่วงปลายเดือนมิถุนายน ตามด้วย Xperia P หลังจากนั้นไม่นาน, ส่วน Xperia U จะได้ไตรมาสที่สามของปี (ส่วน Xperia arc S, Xperia ray, Xperia neo V ได้ไปก่อนแล้ว)

จากข่าวลือ ทีม webOS กำลังลาออกจาก HP ไปอยู่ Google ทางโครงการโอเพนซอร์ส Enyo ของ HP ออกมาชี้แจงเรื่องนี้แล้ว

ในบล็อกของ Enyo ยอมรับแต่โดยดีว่า "สมาชิกคนสำคัญ" จำนวนหนึ่งของทีม Enyo ลาออกจาก HP ไปแล้ว แต่ทีมวิศวกรรมส่วนใหญ่ยังอยู่กับบริษัท และ HP จะทุ่มทรัพยากรให้กับโครงการ Enyo มากขึ้น และตอนนี้กำลังรับสมัครวิศวกรเพิ่มเพื่อขยายกำลังของทีมต่อไป

ข่าวนี้จะขัดแย้งกับข้อมูลของ The Verge ที่บอกว่าทีมพัฒนาของ Enyo ที่รับผิดชอบโค้ดเกือบทั้งหมด (99%) ลาออกไปหมดแล้ว

หลังจากที่สไกป์ (ภายใต้ไมโครซอฟท์) ได้ยืนยันว่า Windows Phone ทุกรุ่นที่มีแรมน้อยกว่า 512 เมกะไบต์ จะไม่สามารถใช้แอพฯ ของตนได้ ซึ่งต่อมาโนเกียกลับประกาศว่า Lumia 610 จะสามารถใช้แอพฯ สไกป์ได้ทุกเครื่อง แต่ล่าสุดเว็บไซต์แห่งหนึ่งอ้างคำสัมภาษณ์จากโนเกียในประเทศจีนว่า ถึงแม้แอพฯ นั้นจะสามารถทำงานบน Lumia 610 ได้ แต่หลังจากทำการทดสอบแล้วพบว่าผู้ใช้ไม่สามารถได้รับประสบการณ์การใช้งานได้ดีตามที่โนเกียและสไกป์คาดหวังไว้ จึงตัดสินว่าจะไม่แนะนำให้ผู้ใช้ใช้แอพฯ ดังกล่าว และในอนาคตแอพฯ สไกป์นี้จะไม่เปิดให้ดาวน์โหลดกับ Lumia 610 อีกต่อไป

อยู่ดีๆ เมื่อคืนที่ผ่านมา แอปเปิลก็ประกาศผ่านทวิตเตอร์ว่าได้เปิดให้ผู้ใช้ดาว์โหลด Cut the Rope: Experiments ซึ่งเมื่อเข้าไปที่หน้าแอพสโตรก็จะเห็นหัวข้อโปรโมชั่น "App of the Week" อยู่ 

ถึงแม้แอปเปิลจะยังไม่ประกาศอย่างเป็นทางการ แต่ก็เป็นที่คาดกันว่าบริษัทจะเปิดให้ดาวน์โหลดแอพฯ ได้ฟรีเป็นประจำเหมือน Amazon Appstore ใครต้องการติดตามโปรโมชั่นนี้ ก็ให้แท็ก #FreeAppoftheWeek ครับ

ที่มา: @App Store ผ่าน PhoneArena

ก่อนหน้านี้มีข่าวลือออกมาเรื่อยๆ ว่า RIM กำลังพิจารณาเปิด BBM ให้แพลตฟอร์มอื่นๆ ใช้งานได้ด้วยเพื่อขยายตลาดของตัวเองออกไป แต่ล่าสุดหนังสือพิมพ์ Wall Street Journal รายงานว่า RIM พับแผนนี้ไปแล้ว

แหล่งข่าวของ WSJ ระบุว่าซีอีโอ Thorsten Heins เป็นคนล้มแผนนี้ไปเอง โดยเขาตัดสินใจว่า RIM จะไม่สนใจเปิดให้พาร์ทเนอร์รายอื่นมาขอใช้ BBM อีกต่อไป และจะโฟกัสที่ BB10 เพียงอย่างเดียวก่อน

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ก็ตั้งคำถามว่า BBM ยังเป็นแพลตฟอร์มแชทอันดับหนึ่งเหมือนเดิมหรือเปล่า ในยุคที่มีคู่แข่งเพิ่มขึ้นมาก และคู่แข่งหลายค่ายก็ทำงานแบบข้ามแพลตฟอร์มได้ด้วย

ข่าวร้ายสำหรับนักพัฒนาโปรแกรมสายไมโครซอฟท์ทุกท่านครับ เพราะไมโครซอฟท์เปลี่ยนนโยบายของ Visual Studio 11 Express รุ่นแจกฟรีแล้ว โดยจากนี้ไปมันจะสามารถใช้พัฒนาได้แค่แอพแบบ Metro เท่านั้น ไม่สามารถใช้พัฒนาแอพ Win32 หรือ .NET แบบเดิมได้

ดังนั้นถ้าอยากพัฒนาแอพแบบเดิมๆ ของวินโดวส์ นักพัฒนามีทางเลือกเหลือ 2 ทางคือ

• ยอมจ่ายเงิน 500 ดอลลาร์ ซื้อ Visual Studio 11 Professional
• กลับไปใช้ Visual Studio 2010 Express ที่ยังใช้ได้ฟรีเหมือนเดิม

เรียกว่างานนี้ไมโครซอฟท์ตัดสินใจหักดิบสุดๆ กะดัน Metro ให้เกิดแบบเต็มตัว คำถามคือนักพัฒนาจะคิดแบบนั้นจริงๆ หรือเปล่า?