ฟีเจอร์ Fast Pair ของ Google นั้นเป็นฟีเจอร์พื้นฐานสำหรับการค้นหา และเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ ครั้งแรกได้ง่ายขึ้น ซึ่ง Fast Pair ถือเป็นโค้ดส่วนหลักของโมดูลด้านการเชื่อมต่อใน AOSP ล่าสุดกลับพบว่าโค้ดที่เกี่ยวข้องกับฟีเจอร์ดังกล่าวถูกออกจาก AOSP โดย Google เป็นคนลบเอง แต่ฟีเจอร์นี้จะยังมีอยู่กับโทรศัพท์ Android ที่มี Google Play Services ติดมากับเครื่อง
Google Play ประกาศเปลี่ยนโยบายการส่งแอปขึ้นหน้าสโตร์โดยบังคับแอปที่ให้บริการเงินกู้จะต้องแสดงหลักฐานว่าได้รับอนุญาตภายในวันที่ 31 สิงหาคมนี้
แอปกู้เงินเป็นหมวดที่กูเกิลควบคุมเป็นพิเศษมาก่อนหน้านี้แล้ว โดยแต่ละชาติจะมีนโยบายต่างกันไป แต่กูเกิลมีเงื่อนไขกลางๆ เช่น ห้ามเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลเกินกำหนด, ห้ามโฆษณาเงินกู้โดยไม่แจ้งอัตราดอกเบี้ยหรือไม่แจ้งระยะเวลาจ่ายเงินคืน สำหรับประเทศไทยกูเกิลระบุว่าต้องส่งหลักฐานการได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย
แอปกู้เงินเป็นปัญหาในประเทศไทยมานาน แอปจำนวนหนึ่งเข้าข่ายหลอกลวงที่พยายามหลอกล่อให้เหยื่อโอนเงินไปก่อนจึงจะกู้เงินได้
เมื่อวานนี้ Google ได้ประกาศปรับเปลี่ยนนโยบาย โดยอนุญาตให้นักพัฒนาแอปพลิเคชันสามารถใส่สินทรัพย์ดิจิทัล เช่น NFT ลงในแอปพลิเคชันและเกมของตนภายใน Google Play ได้ พร้อมกำหนดให้นักพัฒนาต้องระบุให้ชัดเจนว่า แอปดังกล่าวมีองค์ประกอบของบล็อคเชน
เมื่อปีที่แล้ว รัฐสภายุโรปได้ประกาศผ่านกฎหมาย Digital Markets Act (DMA) ที่ควบคุมไม่ให้เกิดการผูกขาดอำนาจของแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งเปิดช่องให้ระบบปฏิบัติการสมาร์ทโฟนมีสโตร์เพิ่มขึ้น มากกว่าแค่ Play Store หรือ App Store
ล่าสุด The Verge รายงานว่า Meta วางแผนที่จะให้ผู้ใช้งานในสหภาพยุโรป สามารถดาวน์โหลดแอปผ่านโฆษณาบน Facebook ได้โดยตรง เพื่อแข่งกับเจ้าของแพลตฟอร์มรายใหญ่อย่าง Google และ Apple โดย Meta จะทดสอบบริการนี้บนระบบ Android กับนักพัฒนาจำนวนหนึ่งก่อน ภายในสิ้นปีนี้ และในช่วงแรก จะไม่มีการหักรายได้แอปที่เข้าร่วมโครงการนี้
รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังร่างกฎหมายบังคับให้เจ้าของแพลตฟอร์มอย่างแอปเปิลและกูเกิลต้องเปิดให้ผู้ให้บริการรายอื่นสามารถสร้างแอปสโตร์ขึ้นมาแข่งได้ หากคู่แข่งนั้นมีมาตรฐานความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวดีเพียงพอ
รัฐบาลญี่ปุ่นหวังว่าการเปิดให้มีการแข่งขันจะทำให้ราคาแอปรวมถูกลง เพราะทุกวันนี้เจ้าของแพลตฟอร์มนั้นคิดค่าบริการถึง 30%
สหภาพยุโรปมีกฎหมาย Digital Market Act (DMA) ที่บังคับให้แพลตฟอร์มขนาดใหญ่ จะถูกควบคุมการขายพ่วง หรือให้ความสำคัญกับสินค้าในบริษัทตัวเองเหนือกว่าบริษัทอื่นที่อยู่บนแพลตฟอร์ม โดยไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะแอปสโตร์บนโทรศัพท์เท่านั้น แต่รวมถึงบริการขนาดใหญ่อื่นๆ เช่น Google Search, Facebook, คลาวด์รายใหญ่, แอปแชตอย่าง WhatsApp ด้วย โดย DMA จะมีผลบังคับเดือนมีนาคมปี 2024
กูเกิลประกาศฟีเจอร์ใหม่ของ Android ชื่อ auto-archive เป็นการแบ็คอัพแอพที่นานๆ ใช้ทีขึ้นคลาวด์ของกูเกิล เพื่อประหยัดเนื้อที่ในเครื่อง
กูเกิลบอกว่าผู้ใช้มักลบ (uninstall) แอพเก่า หากต้องการติดตั้งแอพใหม่แล้วพื้นที่สตอเรจไม่พอ ซึ่งจะทำให้ข้อมูลทั้งหมดในแอพของผู้ใช้ถูกลบไปด้วย
ฟีเจอร์ auto-archive ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหานี้ โดยข้อมูลบางส่วนของแอพที่ไม่ค่อยได้ใช้จะถูกส่งขึ้นไปเก็บบนคลาวด์ของกูเกิลแทน แต่ยังคงไอคอนของแอพในเครื่องไว้ พร้อมแปะป้ายรูปก้อนเมฆเพื่อบอกว่าไฟล์อยู่ในคลาวด์ หากคลิกที่แอพก็จะโหลดข้อมูลกลับลงมาในเครื่องให้เหมือนเดิม
หน่วยงานกำกับดูแลการผูกขาดของเกาหลีใต้ Korea Fair Trade Commission (KFTC) ออกคำสั่งปรับกูเกิลเป็นเงิน 4.21 หมื่นล้านวอน (ประมาณ 1 พันล้านบาท) ในข้อหาพยายามผูกขาดตลาดแอปเกมในประเทศ
โดยข้อกล่าวหานี้มาจากช่วงปี 2016-2018 ระบุว่ากูเกิลพยายามกดดันบริษัทผู้พัฒนาและเผยแพร่เกม ให้นำเกมลงเฉพาะ Play Store เท่านั้น ไม่ให้นำไปลง One Store แพลตฟอร์มแอปบน Android ของกลุ่มบริษัทในเกาหลีใต้ ที่ร่วมลงทุนโดย 3 ผู้ให้บริการเครือข่าย SK Telecom, KT และ LG Uplus ร่วมด้วย Naver บริษัทอินเทอร์เน็ตรายใหญ่
Google Play ประกาศข้อบังคับใหม่ว่าแอพจะต้องเพิ่มช่องทางให้ผู้ใช้ขอลบข้อมูลในบัญชีของตัวเองได้ (ลบเฉพาะข้อมูลในแอพ แต่ไม่จำเป็นต้องลบตัวบัญชี เหมือนกับรีเซ็ตบัญชีใหม่)
กูเกิลบอกว่าข้อบังคับนี้จะช่วยให้ผู้ใช้สะดวกขึ้น คุ้มครองข้อมูลส่วนตัวมากกว่าเดิม แต่ก็บอกว่าต้องการให้เวลานักพัฒนาเตรียมตัวพัฒนาฟีเจอร์นี้ด้วยเช่นกัน เบื้องต้นกูเกิลจะขอให้นักพัฒนาตอบแบบสำรวจเรื่องฟีเจอร์ลบแอพภายในวันที่ 7 ธันวาคม 2023 จากนั้นจะเริ่มขึ้นป้าย data deletion ในสโตร์ช่วงต้นปี 2024 เป็นต้นไป
กูเกิลประกาศแบนแอป Pinduoduo แอปอีคอมเมิร์ชรายใหญ่จากประเทศจีนที่มีผู้ใช้ถึง 800 ล้านคน และบริษัทอยู่ในตลาดหุ้น NASDAQ สัญลักษณ์ PDD โดยกูเกิลระบุสาเหตุว่าแอปเวอร์ชั่นที่ใช้งานในประเทศจีนซึ่งอยู่นอก Google Play นั้นทำงานเหมือนมัลแวร์
แอป Pinduoduo เวอร์ชั่นนอก Google Play ถูกรายงานว่าเป็นมัลแวร์ โดย Kaspersky ระบุชื่อกลุ่มมัวแวร์เป็น Backdoor.AndroidOS.Pinduo.a โดยมีรายงานระบุว่าแอปมีพฤติกรรมน่าสงสัย พยายามดึงข้อมูลจากผู้ใช้เกินความจำเป็น และพยายามซ่อนตัวเอง
หลังจาก ChatGPT แชทบ็อตที่คุยโต้ตอบได้แบบมนุษย์ของ OpenAI ได้รับการพูดถึงมากในช่วงนี้ ปรากฎว่าทั้งใน App Store และ Play Store มีแอปที่เกี่ยวข้องกับ ChatGPT เกิดขึ้นหลายแอปที่อ้างว่าเป็นบริการเวอร์ชันพิเศษ ทั้งที่จริงแล้ว ChatGPT ให้บริการบนหน้าเว็บไซต์โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และปัจจุบันทาง OpenAI ก็ยังไม่มีแอปออกมา
กูเกิลประกาศนโยบายว่าแพลตฟอร์มสมาร์ททีวี Android TV และ Google TV จะเริ่มบังคับใช้แพ็กเกจแอพแบบใหม่ Android App Bundle (.aab) มีผลตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2023 เป็นต้นไป
Android App Bundle (AAB) เป็นเทคนิคการแจกจ่ายไฟล์แอพแบบใหม่ที่เริ่มใช้มาตั้งแต่ปี 2018 แนวคิดคือให้ Google Play Store ตัดสินใจเลือกแพ็กเกจที่จำเป็นต่ออุปกรณ์นั้นๆ ไม่จำเป็นต้องโหลดไฟล์ APK ไปทั้งก้อน (แล้วไม่ได้ใช้บางส่วนอยู่ดี) ผลคือประหยัดเนื้อที่สตอเรจมากขึ้น โดยเฉพาะกรณีของสมาร์ททีวีที่อาจมีสตอเรจเพียง 8GB ก็น่าจะช่วยให้ประหยัดเนื้อที่ได้เพิ่มขึ้นมากนั่นเอง
กูเกิลเปิดตัว Android 13 (Go edition) ระบบปฏิบัติการสำหรับมือถือสเปกต่ำ พร้อมประกาศว่ามีอุปกรณ์ใช้งาน Android Go จำนวน 250 ล้านเครื่องแล้ว (นับเป็น monthly active devices)
ของใหม่ใน Android 13 (Go edition) ได้แก่
กูเกิลอนุมัติให้ Truth Social แอปโซเชียลเน็ตเวิร์คของอดีตประธานาธิบดี Donald Trump ขึ้น Play Store แล้ว หลังจากแอปเปิลอนุมัติขึ้น App Store ไปตั้งแต่เมื่อต้นปี
ก่อนหน้านี้กูเกิลปฏิเสธให้ Truth Social ขึ้น Play Store โดยให้เหตุผลเรื่องแอปละเมิดข้อกำหนดมาตรฐานหลายอย่าง โดยเฉพาะประเด็นการควบคุมดูแลเนื้อหาที่รุนแรง หรืออาจผิดกฎหมาย เช่น ต้องมีระบบรายงานหากพบเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม เป็นต้น
อย่างไรก็ตามช่วงที่ผ่านมา Truth Social ก็มีวิธีการลงแอปบน Android โดยใช้ apk หรือเผยแพร่ผ่าน Store อื่นที่อนุญาต
ที่มา: Axios
หน่วยงานป้องกันการผูกขาดทางการค้าของอินโดนีเซีย (KPPU) เปิดเผยว่ากำลังสอบสวน Google เรื่องการผูกขาดทางการค้าผ่านระบบชำระเงินของ Google Play
เจ้าหน้าที่ของอินโดนีเซียพบว่า ผู้พัฒนาแอปพลิเคชันบน Google Play ามจะต้องใช้บริการการชำระเงินของ Google ซึ่งเสียค่าธรรมเนียมบริการ 15-30% (มากกว่าระบบจ่ายเงินอื่น ๆ ในประเทศที่คิด 5%) รวมถึงผู้พัฒนาแอปไม่มีทางเลือกเพราะหากปฏิเสธจะถูก Google นำแอปออกจาก Google Play หรือไม่ให้อัปเดตแอปพลิเคชัน
ตามปกติแล้ว Google Play Store จะแสดงรีวิวแอปพลิเคชันแบบเดียวกันไม่ว่าผู้ใช้จะใช้สมาร์ทโฟน แท็บเล็ตหรือสมาร์ททีวี
ล่าสุด Google ได้เปลี่ยนเป็นการแสดงรีวิวตามอุปกรณ์ที่ผู้ใช้กำลังใช้งานอยู่ (เช่น ถ้าผู้ใช้ใช้สมาร์ทโฟน ก็จะแสดงรีวิวจากผู้ใช้แอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนเช่นเดียวกัน)
ในหน้าการให้คะแนนและรีวิวแอปพลิเคชันใน Google Play จะมีข้อความกำกับว่า “Ratings and reviews are verified and are from people who use the same type of device that you use” ดังนั้น จำนวนของผู้รีวิวจะแตกต่างกับไปตามอุปกรณ์ที่ใช้ ทั้งนี้ Google Play จะยังคงแสดงคะแนนเฉลี่ยของแอปพลิเคชันเท่ากันในทุกอุปกรณ์ที่ใช้
แอปโซเชียลมีเดีย Parler ที่เป็นแอปที่ได้รับความนิยมจากผู้มีแนวคิดฝ่ายขวาได้กลับเข้าสู่ Google Play Store แล้ว หลังจากถูกแบนไปในเดือนมกราคมของปีที่แล้ว
Parler ถูกนำออกจาก Apple Store และ Google Play Store เนื่องจากเป็นแพลตฟอร์มที่ไม่มีนโยบานกลั่นกรองเนื้อหาที่กระตุ้นให้เกิดความรุนแรง และกลายเป็นแพลตฟอร์มที่กลุ่มม็อบสนับสนุนโดนัล ทรัมป์ใช้ในการพูดคุยกันเพื่อรวมตัวบุกรัฐสภาสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม Parler ได้กลับเข้าสู่ Apple Store ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว
Parler ตกลงที่จะแก้ไขแอปพลิเคชันเพื่อจัดการกับเนื้อหาที่ยั่วยุให้เกิดความรุนแรงและสร้างระบบที่รายงานและบล็อกบัญชีผู้ใช้ที่เผยแพร่เนื้อหาไม่เหมาะสม
กูเกิลฉลอง 10 ปีร้าน Google Play Store ด้วยการเปิดตัวโลโก้ใหม่ที่ยังเป็นปุ่มสามเหลี่ยมเหมือนเดิม แต่ปรับสีให้เข้ากับโทนโลโก้ยุคใหม่ของกูเกิล ที่ใช้สีสันสดใส 4 สีตามสัญลักษณ์ของบริษัท เปลี่ยนจากของเดิมที่ใช้สีโทนฟ้า-เขียวอ่อน
สถิติอื่นที่กูเกิลเปิดเผยคือ ผู้ใช้งานจริง 2.5 พันล้านคนต่อเดือน จาก 190 ประเทศ, จ่ายเงินให้นักพัฒนาไปแล้ว 1.2 แสนล้านดอลลาร์
กูเกิลยังฉลอง 10 ปีของ Google Play โดยการแจกแต้ม Google Play Points เพิ่ม 10 เท่า หากซื้อแอพหรือเกมในช่วงนี้ (เมืองไทยก็อดเช่นเคยเพราะยังไม่รองรับ Play Points)
เราเห็นข่าวหน่วยงานภาครัฐทั่วโลกพยายามบี้แอปเปิลและกูเกิล ให้ปลดล็อคเรื่องการจ่ายเงินในร้านขายแอพของตัวเอง ตัวอย่างคือ กรณีของ App Store ในเกาหลีใต้ ที่ลดค่าธรรมเนียมเหลือ 26% หากใช้ระบบจ่ายเงินอื่น, กรณีของกูเกิลในเกาหลีใต้ หรือ กรณีของ App Store ในเนเธอร์แลนด์ แต่เฉพาะแอพหาคู่เดต
กูเกิลเปิดทดสอบ Google Play Games บน Windows เพิ่มอีก 2 ประเทศ ได้แก่ไทยและออสเตรเลีย หลังจากเปิดทดสอบใน 3 ประเทศเมื่อต้นปี
การเปิดทดสอบนี้ใช้ระบบ waitlist ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนผ่านหน้าเว็บไซต์ และดูรายชื่อเกมที่รองรับได้บนหน้าร้านค้า
ที่มา - 9to5Google
มีรายงานว่าแอปแชตยอดนิยมของเกาหลีใต้ KakaoTalk ถูกปฏิเสธการอัพเดตเวอร์ชันของแอปใน Play Store ของกูเกิล โดยกูเกิลให้เหตุผลว่าแอปทำผิดข้อกำหนดการใช้งาน ที่ห้ามแทรกลิงก์ไปจ่ายเงินผ่านแพลตฟอร์มภายนอก
ก่อนหน้านี้กูเกิลออกข้อกำหนดมีผลตั้งแต่ 1 มิถุนายน ว่าหากพบแอปใดมีลิงก์ให้ไปจ่ายเงินค่าบริการยังเว็บไซต์ภายนอก ที่ไม่ใช่ระบบจ่ายเงินของกูเกิล แอปจะถูกระงับการอัพเดตหรืออาจถูกถอดออกจาก Play Store
Amazon มีแอพหลายตัวบนสมาร์ทโฟน แอพหลักตัวหนึ่งคือ Amazon Shopping ที่ใช้สั่งซื้อสินค้าผ่านอีคอมเมิร์ซ แต่ก็สามารถซื้อสินค้าที่เป็นดิจิทัลอย่างอีบุ๊กของ Kindle ได้ด้วย
ล่าสุด Amazon ปิดการซื้ออีบุ๊ก Kindle บนแอพตัวนี้แล้ว ด้วยเหตุผลว่าต้องการเลี่ยงเงื่อนไขการบังคับจ่ายเงินผ่านระบบ Google Play ซึ่งจะโดนกูเกิลหักส่วนแบ่งรายได้ (แอปเปิลทำมาแต่แรกแล้ว แต่กูเกิลเพิ่งบังคับ) ซึ่งเป็นกรณีเดียวกับที่ Bandcamp บริษัทขายเพลงในเครือ Epic เพิ่งยื่นฟ้องกูเกิลไปเมื่อเร็วๆ นี้ โดยแอพ Amazon Shopping ขึ้นข้อความแจ้งให้ผู้ใช้ไปกดซื้อผ่านหน้าเว็บแทน
Bandcamp แพลตฟอร์มขายเพลงออนไลน์ที่ Epic Games เพิ่งซื้อกิจการเมื่อเดือนมีนาคม 2022 เปิดฉากยื่นฟ้องกูเกิลในประเด็นเรื่องส่วนแบ่งรายได้ Google Play Store ไม่เป็นธรรมต่อแพลตฟอร์ม
ปีที่แล้ว กูเกิลออกนโยบายบังคับแอพให้ต้องซื้อสินค้าดิจิทัลผ่าน in-app billing (แบบเดียวกับที่แอปเปิลบังคับมานานแล้ว) โดยแอพที่ไม่ปฏิบัติตามจะถูกถอดออกจาก Play Store ในวันที่ 1 มิถุนายน 2022 ซึ่งกรณีของ Bandcamp เข้าข่ายนี้ (ไม่ยอมทำตาม และรอถูกถอด)
สิ่งที่ Epic ทำคือยื่นฟ้องศาลเพื่อขอความคุ้มครองชั่วคราว ไม่ให้ Bandcamp ถูกถอดออกจาก Play Store ระหว่างคดี
Google Play Store ประกาศนโยบายให้แอพต้องปรับตัวรองรับ API ของ Android เวอร์ชันใหม่ๆ มากขึ้น
ปัจจุบัน Google Play มีนโยบายว่าแอพใหม่และแอพเดิมที่มีอัพเดต จะต้องตั้ง target API ตาม Android เวอร์ชันล่าสุดภายใน 1 ปีหลังจากออกเวอร์ชัน หากไม่ปฏิบัติตามจะไม่สามารถส่งแอพขึ้นสโตร์ได้ แต่ไม่มีผลกับแอพเดิมที่อยู่บนสโตร์
นโยบายใหม่มีผลต่อแอพเดิมที่อยู่บนสโตร์ หากไม่ target API ตาม Android เวอร์ชันล่าสุดภายใน 2 ปีหลังออกเวอร์ชัน จะค้นหาไม่เจอและผู้ใช้ใหม่ไม่สามารถติดตั้งได้อีก (ผู้ใช้เดิมยังใช้ต่อได้) นโยบายนี้จะเริ่มมีผล 1 พฤศจิกายน 2022 เป็นต้นไป
Spotify ประกาศความร่วมมือกับกูเกิลเปิดให้ผู้ใช้เลือกจ่ายค่าสมาชิกแบบพรีเมี่ยมโดยตรงกับ Spotify เอง หรือจะจ่ายผ่าน Google Play Billing ก็ได้ โดยในตัวแอปจะมีตัวเลือกสองแบบข้างๆ กัน กูเกิลเรียกฟีเจอร์นี้ว่า User Choice Billing
ไม่มีรายละเอียดว่าดีลนี้มีการจ่ายค่าบริการให้กูเกิลเท่าใด แต่ดีลนี้เป็นก้าวสำคัญหนึ่งในการต่อรองระหว่างบริการต่างๆ กับเจ้าของระบบปฎิบัติการ ที่ต้องการเก็บค่าธรรมเนียมการจ่ายเงินค่าบริการผ่านโทรศัพท์มือถือตั้งแต่ 15-30% ตัว Spotify เองก็เป็นหนึ่งในโจทย์ที่ร้องเรียน App Store ว่าผูกขาด
กูเกิลปรับนโยบายช่องทางการจ่ายเงินบน Google Play Store ให้ผ่อนคลายมากขึ้น จากเดิมที่บังคับต้องจ่ายผ่านระบบของกูเกิลเท่านั้น แต่เมื่อช่วงหลังได้รับแรงกดดันจากหน่วยงานภาครัฐในหลายประเทศ (เช่น เกาหลีใต้ที่ถึงขั้นออกเป็นกฎหมาย) ทำให้กูเกิลต้องยอมปรับตัว
ล่าสุดกูเกิลประกาศว่าจะ 'ทดลอง' ให้นักพัฒนาในประเทศอื่นใช้ระบบจ่ายเงินของตัวเองด้วย โดยเริ่มจาก Spotify เป็นรายแรก ที่สามารถนำเสนอวิธีการจ่ายเงินของตัวเองคู่ไปกับ Google Play billing แล้วให้ผู้ใช้เป็นฝ่ายเลือกว่าจะจ่ายทางไหน