Phil Spencer ซีอีโอของ Microsoft Gaming ให้สัมภาษณ์กับ IGN ยอมรับว่าสถานการณ์เกมปี 2022 ไมโครซอฟท์ออกเกมใหม่น้อยเกินไป (เป็นผลจากหลายเกมที่ต้องเลื่อน เช่น Starfield และ Redfall) ซึ่งเขายอมรับผิดแต่โดยดีในฐานะผู้รับผิดชอบสูงสุดของแพลตฟอร์ม
จากข่าว พบฟีเจอร์ split screen ของ Microsoft Edge ตอนนี้มีข้อมูลเพิ่มเติมจาก WalkingCat นักปล่อยข่าวหลุดสายไมโครซอฟท์ชื่อดัง ว่าฟีเจอร์ split screen เป็นเพียงส่วนหนึ่งของโครงการภายใน Project Phoenix ที่ไมโครซอฟท์พยายามสร้าง UI ใหม่ของ Edge
WalkingCat ยังโชว์ภาพหน้าตาของ Project Phoenix ทำให้เราเห็นหน้าตาใหม่ของ Edge ที่ใช้แท็บโค้งมนกว่าเวอร์ชันปัจจุบัน ธีมแนวโปร่งแสงเข้าชุดกับ Fluent Design ของ Windows 11 มากขึ้น และรวมถึงฟีเจอร์ split screen ด้วย
ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่า Project Phoenix เป็นการทดสอบหน้าตาใหม่ของเบราว์เซอร์ทั้งตัว หรือเป็นการทดลองเพื่อเก็บข้อมูลแล้วทยอยปล่อยออกมาทีละส่วนกันแน่
GitHub เผยสถิติว่ามีบัญชีนักพัฒนาในระบบเกิน 100 ล้านบัญชีแล้ว ทำได้เร็วกว่าเป้าหมายเดิมเมื่อปี 2019 ที่ตั้งเป้าแตะ 100 ล้านบัญชีในปี 2025
ฐานนักพัฒนาจำนวนมหาศาลของ GitHub เป็นเหตุผลสำคัญที่ไมโครซอฟท์เข้าซื้อกิจการในปี 2018 ตอนนั้นมีบัญชีนักพัฒนา 28 ล้านราย หรือเติบโตประมาณ 4 เท่าในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา
สถิติอื่นที่น่าสนใจคือ บัญชีนักพัฒนาใหม่เพิ่มถึง 20.5 ล้านบัญชีในปี 2022 โดยการเติบโตมาจากประเทศอื่นๆ นอกสหรัฐ เช่น อินเดียมีนักพัฒนา 10 ล้านราย, บราซิลมี 3 ล้านราย ซึ่ง GitHub ประเมินว่าหากอินเดียยังเติบโตด้วยอัตราแบบนี้ต่อไป ตัวเลขนักพัฒนาจะแซงสหรัฐอเมริกาได้ในปี 2025
บริการจำนวนมากของไมโครซอฟท์มีปัญหาพร้อมๆ กันโดยไม่ได้ดับไปทั้งหมด แต่มีผู้ใช้เจอปัญหาใช้งานบางอย่างไม่ได้เป็นระยะ
เว็บ Down Detector รายงานว่าบริการของไมโครซอฟท์หลายตัวมีปัญหาใกล้ๆ กัน รวมถึงขณะนี้เองก็เข้าหน้า Status ของไมโครซอฟท์ไม่ได้ทั้ง Azure Status และ Office 365 Status
อัพเดต: ไมโครซอฟท์รายงานว่าบริการทั้งหมดกลับมาเป็นปกติ ตั้งแต่ 21:47น.
ไมโครซอฟท์รายงานผลประกอบการ ประจำไตรมาสที่ 2 ตามปีการเงินบริษัท 2023 สิ้นสุดเดือนธันวาคม มีรายได้รวมตามบัญชี GAAP 52,747 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 2% เทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 16,425 ล้านดอลลาร์
รายได้แยกตามกลุ่มธุรกิจ แบ่งเป็น กลุ่ม Productivity and Business Processes เพิ่มขึ้น 7% เป็น 17,002 ล้านดอลลาร์ โดย Office Commercial เพิ่มขึ้น 7%, Office Consumer ลดลง 2% และ LinkedIn เพิ่มขึ้น 10%
กลุ่ม Intelligent Cloud มีรายได้ 21,508 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 18% เฉพาะ Azure รายได้เพิ่มขึ้น 31% และกลุ่ม More Personal Computing รายได้ 14,237 ล้านดอลลาร์ ลดลง 19% ส่วนใหญ่มาจาก Windows OEM ที่ลดลง 39%, Xbox ลดลง 12% และกลุ่มอุปกรณ์รวมทั้ง Surface ลดลง 39%
มีคนไปค้นพบว่า Microsoft Edge Insider แอบเพิ่มฟีเจอร์ Split Screen แบ่งครึ่งจอเปิดเว็บเพจฝั่งซ้าย-ขวาคู่กัน เหมาะสำหรับเวลาต้องเทียบหน้าเว็บ 2 หน้าพร้อมกัน
ฟีเจอร์นี้ถูกเพิ่มเข้ามาเงียบๆ และต้องเปิดใช้จาก flag ชื่อ Microsoft Edge Split Screen ก่อน จากนั้นจะมีปุ่มใหม่บนทูลบาร์ชื่อ split window ขึ้นมาให้กดแบ่งจอเบราว์เซอร์เป็นครึ่งซ้าย-ขวา รูปแบบการใช้งานเหมือนเปิด 2 แท็บที่อยู่ภายใต้ทูลบาร์อันเดียวกัน แต่ช่อง URL/Address จะแยกเป็น 2 ช่องชัดเจน
ไมโครซอฟท์ยังไม่เคยพูดถึงฟีเจอร์นี้อย่างเป็นทางการ และมันอาจเป็นแค่ฟีเจอร์หนึ่งที่ทดสอบแล้วไม่ถูกนำมาใช้จริง
ไมโครซอฟท์ประกาศลงทุนใน OpenAI เพิ่มเติมอีกหลายพันล้านดอลลาร์ กระจายเงินลงทุนไปหลายปีโดยไม่ระบุทั้งมูลค่าเต็มและระยะเวลา (มีข่าวลือว่ามูลค่าถึงหมื่นล้านดอลลาร์แต่ไมโครซอฟท์ไม่ระบุในประกาศ) นับเป็นการประกาศการลงทุนครั้งที่สาม หลังจากลงทุนในปี 2019 และ 2021 โดยความร่วมมือมี 3 ด้านหลัก ได้แก่
ไมโครซอฟท์สั่งปิด AltspaceVR บริการโซเชียลโลกเสมือนที่ซื้อกิจการมาตั้งแต่ปี 2017 (แต่ไม่น่ามีใครรู้จัก) โดยเป็นส่วนหนึ่งของการปลดพนักงานรอบล่าสุด 10,000 คน
AltspaceVR เป็นบริการโซเชียลในโลก VR สร้างอวตารมาพูดคุยกัน (ลักษณะเดียวกับ Horizon Worlds ของ Meta) แต่ใช้ได้กับแพลตฟอร์มหลากหลาย ทั้ง Oculus, HTC Vive, Windows Mixed Reality และใช้งานบนเดสก์ท็อปแบบไม่ต้องใส่แว่นก็ได้
อัพเดต 343 Industries ปฏิเสธข่าวแล้ว
มีข่าวลือในแวดวง Halo ว่าไมโครซอฟท์กำลังปรับทิศทางของสตูดิโอ 343 Industries ผู้พัฒนาแฟรนไชส์ Halo ใหม่ เปลี่ยนมาเป็นการดูแลภาพรวมของแฟรนไชส์อย่างเดียว แล้วกระจายงานพัฒนาเกมให้สตูดิโอภายนอกบริษัทแทน
343 Industries เป็นสตูดิโอที่ไมโครซอฟท์ตั้งขึ้นมารับผิดชอบการพัฒนาเกม Halo แทนผู้สร้างเดิม Bungie ที่แยกตัวจากไมโครซอฟท์ในปี 2007 (หลังออก Halo 3) ผลงานสำคัญของ 343 Industries คือ Halo ภาคหลักไตรภาคที่สอง (4, 5, Infinite) รวมถึงภาครีมาสเตอร์ของเก่า The Master Chief Collection
Wall Street Journal รายงานข่าวว่าไมโครซอฟท์จ้างนักร้องเพลงร็อคชื่อดัง Sting ไปแสดงคอนเสิร์ตส่วนตัวให้ผู้บริหารระดับสูง 50 คน ระหว่างการเข้าร่วมประชุม World Economic Forum ที่สวิตเซอร์แลนด์ในสัปดาห์นี้
ข่าวนี้อาจไม่เป็นประเด็นเลย หากไม่ออกมาในช่วงเดียวกับที่ไมโครซอฟท์ประกาศปลดพนักงานครั้งใหญ่ถึง 10,000 คน ทำให้เกิดคำถามว่าทำไมยังมีงบฟุ่มเฟือยกับคอนเสิร์ตอยู่ ในขณะที่คนจำนวนมากต้องตกงาน
ถึงแม้เป็นไปได้สูงว่า การตกลงว่าจ้าง Sting มาแสดงคอนเสิร์ตอาจเกิดขึ้นมาก่อนหน้าแล้ว และฝ่ายที่จัดจ้างคอนเสิร์ตไม่น่าจะรู้เรื่องการปลดคนล่วงหน้าก็ตาม แต่ข่าวลักษณะนี้คงไม่ใช่ภาพลักษณ์ที่ดีของบริษัทนัก
ไมโครซอฟท์ออก Windows 11 Insider Preview Build 25281 ให้กลุ่มทดสอบ Dev Channel ของใหม่ที่สำคัญคือ Notepad มีแท็บแล้ว ตามข่าวหลุดก่อนหน้านี้
ไมโครซอฟท์อธิบายว่าแท็บใน Notepad เป็นฟีเจอร์ที่ถูกเรียกร้องเข้ามามากที่สุด เพราะผู้ใช้ต้องการแก้หลายไฟล์พร้อมกันในหน้าต่างเดียว ผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าจะให้เปิดไฟล์ใหม่ในแท็บหรือในหน้าต่างใหม่เป็นค่าดีฟอลต์
ฟีเจอร์ใหม่ของ Notepad ยังปรับปรุงการเก็บไฟล์ที่ยังไม่ได้เซฟ เช่น ตั้งชื่อไฟล์ชั่วคราวให้โดยอิงจากเนื้อหาในไฟล์ และมีสัญลักษณ์บ่งบอกในแท็บว่ายังไม่ได้เซฟไฟล์ด้วย
Bloomberg ให้รายละเอียดเพิ่มเติมถึงแผนปลดพนักงานครั้งใหญ่ของไมโครซอฟท์ 10,000 ตำแหน่ง ว่าแผนกที่โดนผลกระทบด้วยคือทีม HoloLens และธุรกิจฝั่งเกม ที่มีชื่อคือ 343 Industries สตูดิโอที่สร้าง Halo และ Bethesda Game Studios
ในประกาศของ Satya Nadella บอกใบ้อยู่แล้วว่าจะปรับโครงสร้างฝั่งธุรกิจฮาร์ดแวร์ (changes to our hardware portfolio) ซึ่งธุรกิจฝั่ง HoloLens ที่มีปัญหามาได้สักพักใหญ่ อีกทั้งแว่นตาสำหรับการทหารก็ไม่ประสบความสำเร็จนัก ย่อมเป็นแผนกแรกๆ ที่ถูกลดคน
ไมโครซอฟท์ประกาศปลดพนักงาน 10,000 ตำแหน่ง คิดเป็นเกือบ 5% ของพนักงานทั่วโลก ตรงตามข่าวลือก่อนหน้านี้
ซีอีโอ Satya Nadella บอกว่าการปลดพนักงานครั้งนี้เป็นการปรับต้นทุนตามทิศทางธุรกิจในยุคเศรษฐกิจถดถอย ลูกค้าเริ่มจ่ายเงินซื้อบริการไอทีน้อยลงจากเดิม โดยไมโครซอฟท์จะยังจ้างพนักงานเพิ่มในบางธุรกิจที่สำคัญอยู่
ส่วนพนักงานที่ถูกปลดจะได้รับแพ็กเกจชดเชยที่ดีกว่าค่าเฉลี่ย ประกันสุขภาพอีก 6 เดือน สิทธิในการได้หุ้นของบริษัทต่ออีก 6 เดือน ซึ่งรายละเอียดจะต่างกันไปตามแต่ละประเทศ
ที่มา - Microsoft
Microsoft เปิดตัว Surface Laptop 5 โน้ตบุ๊กสายพรีเมียมที่เผลอแป๊ปเดียวก็เดินทางมาถึงรุ่นที่ 5 แล้ว โดยในรุ่นนี้ก็เป็นการปรับซีพียูให้ทันรอบของ Intel โดยขยับมาใช้ Intel Core 12th gen (Alder Lake) เรียบร้อย (แต่วางขายพร้อมๆ กับที่ Intel เปิดตัว Core 13th gen) มีหน้าจอให้เลือกสองขนาดคือ 13.5 และ 15 นิ้ว ซึ่งความแตกต่างของทั้งสองขนาด นอกจากสเปกแล้ว ยังมีเรื่องของวัสดุด้วย โดยในรุ่นจอ 13.5 นิ้วบางสเปกจะเลือกผ้า Alcantara สีเทาบุภายในบริเวณรอบคีย์บอร์ดและแป้นวางข้อมือได้ หรือจะเลือกสีดำที่เป็นอะลูมิเนียมก็ได้ แต่ในรุ่น 15 นิ้วจะมีแค่อะลูมิเนียมสีเทาหรือดำเท่านั้น
สำนักข่าว Sky News ของอังกฤษ รายงานข่าวลือว่าไมโครซอฟท์เตรียมประกาศปลดพนักงานชุดใหญ่ในเร็วๆ นี้ โดยตัวเลขน่าจะอยู่ราว 5% ของพนักงานทั่วโลก 220,000 คน หรือปลดออกราว 11,000 คน
บริษัทไอทียักษ์ใหญ่ต่างทยอยปลดพนักงานกันมาก่อนแล้ว เช่น Meta ปลด 11,000 คน, Salesforce ปลด 10%, HP ประกาศปลด 4,000-6,000 คน, Amazon ประกาศแผนปลด 18,000 คน
ที่มา - Sky News
Adobe ส่งเอกสารชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับดีลซื้อกิจการ Figma หลังหน่วยงานกำกับดูแลเข้ามาตรวจสอบประเด็นผูกขาด ซึ่งมีข้อมูลใหม่ว่ามีอีกบริษัทได้พูดคุยเรื่องซื้อกิจการ Figma ด้วยตอนนั้น
ในเอกสารนั้น Adobe ระบุชื่อว่าบริษัท A แต่ CNBC อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้อง ยืนยันว่าบริษัทนั้นคือไมโครซอฟท์ โดยการพูดคุยเกิดขึ้นหลังจาก Adobe มาขอซื้อกิจการครั้งแรก ที่ปรึกษาทางการเงินของ Figma จึงแนะนำให้ลองคุยกับผู้สนใจรายอื่น ซึ่งไมโครซอฟท์มีการใช้งาน Figma ภายในบริษัทอยู่มาก แต่ก็จบที่ไมโครซอฟท์ปฏิเสธข้อเสนอนี้ไป
เว็บไซต์ The Verge อ้างว่าได้เห็นบันทึกภายในของไมโครซอฟท์ ปรับนโยบายเรื่องการลางานของพนักงานในสหรัฐ เพิ่ม "วันลาไม่จำกัด" (unlimited time off หรือ discretionary time off) เข้ามาจากนโยบายเดิม
นโยบายเรื่องวันหยุดของไมโครซอฟท์ ยังมีวันหยุดประจำปี 10 วัน, ลาป่วย, ลาพักแก้เครียด (mental health time off), วันหยุดเมื่อมีการสูญเสียบุคคลในครอบครัว และวันลาไปทำหน้าที่คณะลูกขุน (jury duty) โดยพนักงานที่ใช้วันลาพักร้อนไม่หมดในแต่ละปี สามารถแปลงเป็นเงินได้ด้วย
Kathleen Hogan ผู้บริหารฝ่ายทรัพยากรบุคคล ให้เหตุผลของสวัสดิการแบบใหม่ว่าสภาพการทำงานของพนักงานปัจจุบันเปลี่ยนไปมาก ทั้งเรื่องเวลาทำงาน สถานที่ทำงาน วิธีทำงาน บริษัทจึงต้องปรับสวัสดิการด้านวันหยุดให้ยืดหยุ่นมากขึ้นตาม
ไมโครซอฟท์ออกแพ็กเกจ Microsoft 365 Basic รุ่นราคาถูก 1.99 ดอลลาร์ต่อเดือน หรือ 19.99 ดอลลาร์ต่อปี โดยได้พื้นที่ OneDrive 100GB, Outlook แบบไม่มีโฆษณา และฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยเพิ่มเติม
แพ็กเกจนี้ไม่ใช่ของใหม่ เพราะไมโครซอฟท์มีแพ็กเกจ OneDrive Standalone 100GB ราคา 1.99 ดอลลาร์ต่อเดือนอยู่แล้ว สิ่งที่เปลี่ยนคือชื่อแพ็กเกจมาใช้แบรนด์ Microsoft 365 และเพิ่มของที่ได้อีกหน่อย เริ่มขายวันที่ 30 มกราคม 2023 เป็นต้นไป (ผู้ใช้แพ็กเกจ OneDrive 100GB เดิมจะย้ายมาเป็นแพ็กเกจใหม่ให้อัตโนมัติ)
Windows Central อ้างแหล่งข่าวว่า Surface Duo 3 อุปกรณ์พกพารุ่นถัดไปของไมโครซอฟท์ จะออกช่วงปลายปี 2023 โดยเปลี่ยนจากการใช้จอคู่มีบานพับตรงกลาง มาเป็นจอพับได้ (foldable) ลักษณะเดียวกับ Galaxy Z Fold แทน
ตามข่าวบอกว่าไมโครซอฟท์เริ่มหันมามองแนวทางจอพับได้หลังออก Surface Duo 2 แต่ก็เป็นไปได้ว่าไมโครซอฟท์อาจรีแบรนด์ไลน์สินค้าใหม่ ไม่ใช้คำว่า Duo (สองจอ) อีกแล้ว
นอกจากนี้ยังมีข่าวว่าไมโครซอฟท์กำลังทุ่มพัฒนาซอฟต์แวร์ Android เวอร์ชันของตัวเอง เพื่อสร้างจุดขายให้แตกต่างจากคู่แข่ง รวมถึงมีความเป็นไปได้ว่าไมโครซอฟท์จะออกสมาร์ทโฟน Android แบบปกติ (จอเดียว) เพิ่มเติมจากไลน์ Duo ด้วยเช่นกัน
เว็บ Semafor อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้อง เผยว่าไมโครซอฟท์กำลังเจรจาเพื่อขอลงทุนใน OpenAI บริษัทผู้พัฒนาปัญญาประดิษฐ์แชทบ็อต ChatGPT ด้วยวงเงินถึง 10,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเงินลงทุนนี้คิดที่มูลค่ากิจการของ OpenAI 29,000 ล้านดอลลาร์ (ตามข่าวก่อนหน้า) ทั้งนี้หากดีลดังกล่าวเจรจาลงตัว คาดว่าจะประกาศเป็นทางการได้ภายในปีนี้
ไมโครซอฟท์ประกาศซื้อกิจการ Fungible Inc. ผู้ผลิตชิป DPU (Data Processing Unit) สำหรับงานประมวลผลข้อมูล โดยไม่ได้เปิดเผยมูลค่าของดีลดังกล่าว
ไมโครซอฟท์บอกว่าเทคโนโลยีของ Fungible จะเข้ามาเสริมประสิทธิภาพการทำงานของเครือข่ายและสตอเรจในศูนย์ข้อมูล ให้ยังมีความเสถียรและปลอดภัย โดยทีมงานของ Fungible จะเข้ามาร่วมทีมวิศวกรรมโครงสร้างศูนย์ข้อมูลของไมโครซอฟท์ เพื่อพัฒนาโซลูชัน DPU เสริมประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์
Fungible ก่อตั้งในปี 2016 โดยมีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาสเกลที่เกิดขึ้นในศูนย์ข้อมูล คือการประมวลผลข้อมูลระหว่างโนดที่ไม่มีประสิทธิภาพ จึงพัฒนา DPU และซอฟต์แวร์ที่ทำงานแก้ไขปัญหาดังกล่าว
Microsoft เปิดตัวปัญญาประดิษฐ์ใหม่ใช้ชื่อว่า VALL-E ที่สามารถเลียนเสียงมนุษย์ได้เพียงแค่ป้อนเสียงตัวอย่างที่มีความยาว 3 วินาที จุดที่น่าสนใจ คือ VALL-E สามารถเลียนน้ำเสียงและอารมณ์ของเสียงต้นแบบและปรับได้ตามโหมดต่าง ๆ ได้ ทำให้แตกต่างจากโมเดลอื่น ๆ นอกจากนี้ ยังสามารถพูดในสิ่งที่เสียงต้นแบบไม่ได้พูดได้ด้วย
Microsoft ใช้เสียงภาษาอังกฤษ 60,000 ชั่วโมงในการเทรนปัญญาประดิษฐ์ อย่างไรก็ตาม เสียงที่สร้างจาก VALL-E บางครั้งก็ดูธรรมชาติ แต่บางครั้งก็ยังเป็นเสียงที่ไม่เหมือนมนุษย์อยู่ดีซึ่งต้องพัฒนาต่อไปในอนาคต
วันนี้ 10 มกราคม 2023 เป็นวันที่ระบบปฏิบัติการ Windows 7, Windows 8.1 สิ้นอายุขัยอย่างสมบูรณ์ นั่นคือหมดระยะซัพพอร์ตพิเศษแบบเสียเงิน Extended Security Update (ESU) เท่ากับว่าหลังจากนี้ไมโครซอฟท์ไม่มีแพตช์ใดๆ ให้อีกแล้ว (แพตช์สุดท้ายจะออกวันนี้)
Windows 7 และ Windows 8.1 หมดระยะซัพพอร์ตแบบปกติตั้งแต่ 14 มกราคม 2020 ผู้ใช้ทั่วไปไม่มีแพตช์ใหม่มานาน 3 ปีแล้ว แต่องค์กรที่ยังไม่พร้อมเปลี่ยน ยังสามารถจ่ายเงินซื้อการอัพเดตแพตช์จากไมโครซอฟท์ต่อได้อีก 3 ปี
ไมโครซอฟท์เตือนสำหรับผู้ใช้ Windows 8.1 ว่าจะมีแพตช์อัพเดตรอบขยายครั้งสุดท้ายในวันที่ 10 มกราคม 2023 จากนั้นจะเข้าสู่สถานะหยุดการสนับสนุน ตาม Windows 7 ที่เข้าสู่สถานะหยุดสนับสนุนตั้งแต่ 3 ปีที่แล้ว
ทั้งนี้เมื่อเข้าสถานะหยุดการสนับสนุน ไมโครซอฟท์จะหยุดออกแพตช์ความปลอดภัย หยุดให้การสนับสนุนทางเทคนิค คำแนะนำสำหรับผู้ใช้งานคือการอัพเกรดไปใช้ระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่กว่า ซึ่งตอนนี้รุ่นล่าสุดคือ Windows 11 หรือ Windows 10 แต่ตัวหลังก็จะมีระยะสนับสนุนไปถึง 14 ตุลาคม 2025 หรือไม่ถึง 3 ปี
ที่มา: Neowin
ไมโครซอฟท์ประกาศเปิดตัวโครงการ Skills for Jobs เพื่อเสริมสร้างทักษะดิจิทัลที่จำเป็นต่อตำแหน่งงานยอดนิยม พร้อมทักษะพื้นฐาน ได้แก่ Digital Literacy & Productivity, Soft Skills และ Entrepreneurship โดยเปิดให้เรียนรู้หลักสูตรออนไลน์เพิ่มเติมอีกกว่า 350 คอร์สผ่าน LinkedIn Learning ได้ฟรีจนถึงปี 2568 พร้อมประกาศนียบัตร Career Essentials เพิ่มโอกาสในการได้รับจ้างงาน
โดยนับเป็นการต่อยอดจากโครงการ Global Skills Initiative (GSI) ที่ได้ให้การสนับสนุนกับผู้คนกว่า 80 ล้านคนทั่วโลกตั้งแต่ปี 2563 (มีผู้เรียนชาวไทยรวมกว่า 534,000 ราย)