ไมโครซอฟท์ประกาศจัดงาน Microsoft Build ในวันที่ 21 - 23 พ.ค. 2567 ที่ซีแอตเทิลและออนไลน์
Microsoft Build เป็นงานประชุมที่รวบรวมบรรดานักพัฒนาจากทุก ๆ สายงานทั่วโลก มาร่วมรับฟังวิสัยทัศน์และติดตามการเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ ๆ ของไมโครซอฟท์ ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยเราคงได้เห็นการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจใน Microsoft Cloud, Copilot, Azure AI, Fabric, Windows และเครื่องมืออื่น ๆ สำหรับนักพัฒนา
ไมโครซอฟท์ประกาศออก Microsoft Office 2024 ซึ่งเป็น Office แบบไลเซนส์ซื้อขาด (perpetual license) ไม่ใช่ subscription แบบ Office 365/Microsoft 365 ที่กลายเป็นผลิตภัณฑ์หลักของไมโครซอฟท์ในปัจจุบัน
Office 2024 ยังคงแนวทางเดียวกับรุ่นพี่ Office 2021 คือเป็นการตัดเอาฟีเจอร์ของ Microsoft 365 รุ่นออนไลน์มาให้ใช้งานกันแบบออฟไลน์ (แต่จะไม่มีฟีเจอร์พวก AI จำพวก Copilot ที่ต้องประมวลผลที่ฝั่งเซิร์ฟเวอร์ เพราะ Office 2024 เน้นใช้กับเครื่องที่ไม่ต่อเน็ต) และจะไม่มี Microsoft Publisher ที่ประกาศเลิกทำไปแล้ว
ไมโครซอฟท์ขยายบริการ Copilot Pro ที่เป็น Subscription ราคา 20 ดอลลาร์ต่อเดือน ให้เข้าถึงฟีเจอร์ต่าง ๆ Copilot มากกว่าแบบฟรี โดยเพิ่มเป็น 222 ประเทศทั่วโลก หลังจากเปิดตัวบริการไปเมื่อเดือนมกราคม
นอกจากนี้ไมโครซอฟท์ยังอยากให้ผู้ใช้งานได้เข้าถึงทดสอบว่า Copilot Pro นั้นดีอย่างไร จึงให้ข้อเสนอทดลองใช้งานฟรี 1 เดือน เพียงติดตั้งแอป Copilot บน iOS หรือ Android
ที่มา: ไมโครซอฟท์
Microsoft Azure เป็นผู้ให้บริการคลาวด์ยักษ์ใหญ่รายที่สาม ที่ประกาศยกเลิกค่าโอนย้ายข้อมูลออก (data transfer out หรือ egress) เมื่อลูกค้าเลิกใช้บริการ Azure อย่างถาวร
Azure ให้โควต้าย้ายข้อมูลออกฟรี 100GB ต่อเดือนกับลูกค้าทุกรายอยู่แล้ว แต่ถ้าต้องการย้ายข้อมูลปริมาณเยอะกว่านั้น สามารถติดต่อ Azure Support เพื่อขอเครดิตสำหรับย้ายข้อมูลได้ โดยลูกค้ามีเวลา 60 วันในการย้ายข้อมูลออกให้เสร็จสิ้น
Microsoft Paint เพิ่มฟีเจอร์ใหม่กันต่อเนื่อง โดยในเวอร์ชันล่าสุด 11.2402.32.0 ซึ่งเริ่มได้ใช้งานก่อนสำหรับกลุ่ม Windows Insiders ใน Windows 11 และทยอยให้อัปเดตต่อไป มีของใหม่คือเครื่องมือเลือกขนาดแปรง (Brush) ที่ละเอียดขึ้น
เมื่อผู้ใช้งานเลือกแปรง, ดินสอ หรือยางลบ จะแสดงแถบเลื่อนเลือกขนาดที่ด้านซ้าย ทำให้ผู้ใช้งานเลือกเลื่อนปรับขนาดแปรงที่ต้องการได้ตรงความต้องการมากขึ้น
ของใหม่อย่างอื่นที่เพิ่มมาในเวอร์ชันนี้ด้วยคือ ตัวเลือกสีพื้นแบ็กกราวด์ในเลเยอร์ และตัวเลือกคัดลอกภาพทั้งหมดที่ปรากฏในทุกเลเยอร์ที่ซ้อนกัน จากเดิมจะคัดลอกเฉพาะเลเยอร์ที่เลือกอยู่ ทั้งหมดนี้จึงทำให้ Paint มีความสามารถใกล้เคียงโปรแกรมแต่งภาพยอดนิยมมากขึ้นไปอีกนั่นเอง
Microsoft Copilot มีการปรับปรุงใหญ่ โดยผู้ใช้งานทั่วไปได้ใช้ GPT-4 Turbo แทนที่ GPT-4 เดิม ซึ่งมีจุดเด่นคือโมเดลถูกเทรนด้วยชุดความรู้ใหม่กว่าถึงเมษายน 2023 และมีความสามารถอื่นเพิ่มเติมจาก GPT-4 เดิม
ข้อมูลนี้ถูกเปิดเผยโดย Mikhail Parakhin หัวหน้าทีม Windows ซึ่งโพสต์ใน X
GPT-4 Turbo จะถูกใช้งานใน Copilot เวอร์ชันฟรี รองรับทั้งโหมด Creative และ Precise แต่หากยังต้องการใช้ GPT-4 เดิม ต้องเป็นลูกค้า Copilot Pro จึงจะได้ปุ่มปิดให้ไปใช้ GPT-4 เดิม
ไมโครซอฟท์ประกาศว่า Microsoft Copilot for Security ระบบวิเคราะห์เหตุการณ์ด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ด้วย AI ที่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว ตอนนี้จะเปิดให้ใช้งานทั่วไปแล้วตั้งแต่ 1 เมษายน เป็นต้นไป
Microsoft Copilot for Security มีความสามารถช่วยตรวจสอบเหตุการณ์ให้ผู้ดูแลความปลอดภัย เรียนรู้จากสัญญาณความผิดต่าง ๆ มากกว่า 78 ล้านล้านรูปแบบโดยทีมความปลอดภัยของไมโครซอฟท์ โดยไมโครซอฟท์อ้างผลสำรวจจากการทดสอบใช้งานก่อนหน้านี้ ผู้ดูแลบอกว่าทำงานได้เร็วขึ้น 22% และส่วนใหญ่บอกว่าจะใช้ Copilot ช่วยในครั้งถัดไป
รูปแบบการคิดไลเซนส์ของ Microsoft Copilot for Security ใช้วิธีจ่ายตามการใช้งาน (pay-as-you-go) รองรับอินพุท 8 ภาษา
ปัญหาเรื่องไคลเอนต์ Microsoft Teams บนพีซีมี 2 ตัวที่ดันชื่อเหมือนกัน (ต่างกันแค่สีของตัว T และวงเล็บด้านหลัง free กับ work or school) แต่ใช้ร่วมกันไม่ได้ เพราะเป็นบัญชีส่วนตัว vs บัญชีองค์กร สร้างความสับสนให้ผู้ใช้จำนวนมากมายาวนาน
ล่าสุดปัญหานี้กำลังจะหมดไป เพราะไมโครซอฟท์จะรวมไคลเอนต์ทั้งสองเวอร์ชันเข้าเป็นตัวเดียวกัน ล็อกอินหลายบัญชีพร้อมกัน กดสลับไปมาที่ไอคอนหน้าเราตรงมุมขวาบนของหน้าจอได้แล้ว (บริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก เพิ่งคิดได้เนอะ) เราสามารถเปิด Teams สองหน้าต่างแยกบัญชีกัน มีไอคอนที่ Taskbar แยกกันได้ด้วย (ตามภาพมี Teams สีสว่างและสีมืดรันอยู่พร้อมกัน)
ไมโครซอฟท์ออกพรีวิว Windows 11 เวอร์ชัน 24H2 ซึ่งจะเปิดให้ดาวน์โหลดทั่วไปภายในปีนี้ มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญคือ Microsoft Teams จะรองรับการใช้งานทั้งบัญชีส่วนตัว (Personal) และสลับบัญชีทำงาน (Work) ได้เลย จากเดิมที่ผู้ใช้งานต้องดาวน์โหลด Teams สองไคลเอนต์แยกกัน
ไมโครซอฟท์บอกว่าการรวม Teams ในแอปเดียวนี้ เป็นหัวข้อที่ผู้ใช้งานเรียกร้องเข้ามาโดยตลอด จึงอัพเดต Teams ให้รองรับความต้องการดังกล่าว ทั้งนี้ผู้ใช้งานสามารถเรียก Teams ที่ล็อกอินแยกบัญชีเป็นสองไอคอนในทาสก์บาร์ได้ด้วย
นอกจากนี้การแจ้งเตือนบน Windows ก็ปรับปรุง โดยมีรายละเอียดมากขึ้น พร้อมระบุว่าเป็นการแจ้งเตือนของบัญชีใด
Peter Moore อดีตผู้บริหารสูงสุดของ Xbox ระหว่างปี 2003-2007 ผู้รับผิดชอบ Xbox 360 ซึ่งถือเป็นยุคทองของ Xbox ออกมาให้ความเห็นเรื่องอนาคตของฮาร์ดแวร์เกมคอนโซลในสภาพตลาดที่เปลี่ยนไป และชี้ว่าตอนนี้ภายในทีมไมโครซอฟท์คงกำลังถกกันอย่างหนักว่า "ยังจำเป็นต้องมีคอนโซล Xbox อยู่อีกไหม"
ประวัติของ Peter Moore เคยเป็นผู้บริหารของ Sega of America และเคยอยู่ในช่วงที่บริษัทถอนตัวจากธุรกิจฮาร์ดแวร์คอนโซล (หลัง Dreamcast ไม่ประสบความสำเร็จ) เขาย้ายมาคุมทีม Xbox ในปี 2003-2007 จากนั้นย้ายไปคุมทีมเกมกีฬาของ EA ระหว่างปี 2007-2017 และย้ายข้ามธุรกิจมาเป็นซีอีโอของสโมสรฟุตบอล Liverpool FC ในปี 2017-2020 (ลงจากตำแหน่งหลังได้แชมป์พรีเมียร์ลีก)
หลังจากไมโครซอฟท์ประกาศช็อควงการด้วยการนำเกมตัวเองไปขายบนคอนโซลคู่แข่ง เกมใหญ่ที่ถูกจับตามากที่สุดใน 4 เกมแรกคือ Sea of Thieves เกมโจรสลัดออนไลน์ มีกำหนดลง PS5 วันที่ 30 เมษายน ในราคาแพ็กเกจล่างสุดที่ 39.99 ดอลลาร์ / 39.99 ปอนด์
ล่าสุด Sea of Thieves เปิดให้พรีออเดอร์บน PlayStation Store และก็ไม่ทำให้ไมโครซอฟท์ผิดหวัง เพราะขึ้นเป็นเกมพรีออเดอร์อันดับหนึ่งในสโตร์หลายประเทศ เช่น สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส (สโตร์ของสหรัฐอเมริกา ตอนเขียนข่าวนี้อยู่อันดับสอง แต่ก็มีคนจับภาพขณะขึ้นอันดับแรกไว้ได้)
ไมโครซอฟท์อัพเดตถึงเหตุการณ์ถูกกลุ่ม Midnight Blizzard แฮกเมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดนล่าสุดพบว่ากลุ่มแฮกเกอร์ยังใช้ข้อมูลที่ได้ไปก่อนหน้านี้พยายามเจาะเข้าระบบของบริษัทอยู่เรื่อยๆ และสามารถเข้าถึงซอร์สโค้ดบางส่วน และระบบภายในได้สำเร็จ โดยไม่มีหลักฐานว่าระบบที่เกี่ยวข้องได้รับผลกระทบแต่อย่างใด
รายงานระบุว่าแฮกเกอร์หาค่า secret ที่พนักงานไมโครซอฟท์ส่งไปมากับลูกค้า โดยตอนนี้ไมโครซอฟท์ติดต่อลูกค้าที่อาจจะได้รับผลกระทบแล้ว
แม้จะอุดช่องโหว่เดิมไปแล้ว แต่ไมโครซอฟท์ก็ยังพบว่ากลุ่ม Midnight Blizzard นี้ยังยิงรหัสผ่านแบบ password spray อย่างต่อเนื่อง แถมปริมาณเพิ่มมากขึ้นจากช่วงมกราคมเป็น 10 เท่าตัว
ไมโครซอฟท์ประกาศแผนการย้ายจาก Outlook Classic มาเป็น New Outlook สำหรับลูกค้าฝั่งองค์กร โดยแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอน ปัจจุบันอยู่ในช่วง แรกคือ Opt In ผู้ใช้เป็นฝ่ายเลือกเองว่าจะเข้าร่วมทดสอบ New Outlook ตัวใหม่หรือไม่
หลังจากนั้น New Outlook จะเข้าสถานะ GA สำหรับลูกค้าองค์กรเมื่อไมโครซอฟท์มองว่าพร้อมมากพอ (ยังไม่ระบุช่วงเวลาชัดเจน แต่ฝั่งลูกค้าทั่วไป GA ไปแล้ว) แล้วจะทิ้งช่วงอีกอย่างน้อย 12 เดือน เพื่อเข้าขั้นตอนที่สอง Opt Out คือใช้ตัวใหม่เป็นดีฟอลต์ แอดมินองค์กรจำเป็นต้องตั้งค่าเพื่อบอกว่าต้องการใช้ Outlook Classic ต่อไป
ไมโครซอฟท์ประกาศจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวสินค้าใหม่ ตรงกับเวลาเที่ยงคืนเข้าสู่วันที่ 22 มีนาคม 2024 ตามเวลาในไทย โดยใช้ชื่องานว่า New Era of Work เผยแพร่เฉพาะช่องทางออนไลน์
รายละเอียดผลิตภัณฑ์ที่ไมโครซอฟท์เปิดเผยว่าจะพูดถึงในงานแถลงข่าวนี้ได้แก่ Copilot, Windows และ Surface จึงคาดว่าเป็นการเปิดตัว Surface Pro และ Surface Laptop รุ่นใหม่ตามธีม AI PC ที่ไมโครซอฟท์ผลักดันอยู่ในปีนี้
มีข้อมูลว่าไมโครซอฟท์จะเปิดตัว Surface รุ่นอินเทล โดยวางขายในเดือนเมษายน และรุ่น Arm ในเดือนมิถุนายน ส่วน Copilot นั้นจะพูดถึงฟีเจอร์ที่ใช้ NPU ในการประมวลผล รวมถึงฟีเจอร์ใหม่ชื่อว่า AI Explorer
ไมโครซอฟท์ประกาศหยุดทำ Windows Subsystem for Android (WSA) ของ Windows 11 โดยจะซัพพอร์ตถึงวันที่ 5 มีนาคม 2025 (อีกหนึ่งปีจากนี้) ส่วนสโตร์ Amazon Appstore on Windows ก็จะปิดบริการในวันเดียวกัน
ตอนนี้ Amazon Appstore on Windows ปิดการรับแอพใหม่เพิ่ม และตัวสโตร์ไม่สามารถเข้าถึงได้จาก Microsoft Store แล้ว แต่นักพัฒนาแอพเดิมยังอัพเดตแอพได้ต่ออีก 1 ปี และผู้ใช้ที่ติดตั้งแอพไปแล้วสามารถใช้งานได้ตามปกติเช่นกัน
ไมโครซอฟท์ประกาศออกอัพเดตฟีเจอร์ให้ Windows 11 รุ่นเสถียร (22H2 และ 23H2) โดยเป็นการอัพเดตแยกจากเวอร์ชันของตัวแกนระบบปฏิบัติการ (ยังไม่ใช่ 24H1)
ฟีเจอร์หลายตัวเคยประกาศและทดสอบกับกลุ่ม Insider ไปแล้ว โดยไมโครซอฟท์จะทยอยปล่อยฟีเจอร์แต่ละตัวไม่พร้อมกัน และปล่อยอัพเดตให้ผู้ใช้ทีละกลุ่มไปจนครบในเดือนเมษายน
ไมโครซอฟท์พรีวิวความสามารถ Copilot ใน OneDrive ที่ประกาศไปก่อนหน้านี้ ซึ่งช่วยให้ดึงข้อมูลที่ต้องการได้จากไฟล์ในนั้นอย่างสะดวกมากขึ้น รองรับทั้ง OneDrive บนเว็บ และ File Viewer ใน Microsoft Teams, OneDrive และ SharePoint สำหรับลูกค้าที่สมัครใช้ Copilot ใน Microsoft 365
ตัวอย่างความสามารถ เช่น สรุปเนื้อหาในเอกสาร, ถามคำถามที่หาคำตอบได้จากข้อมูลในไฟล์ เช่น สรุปยอดขายในพื้นที่ แยกยอดขายรายเดือน, ค้นหาไฟล์ที่ต้องการด้วย Natural Language (เช่น แสดงไฟล์ที่แก้ไขในช่วง 7 วันที่ผ่านมา), สร้างสรุป ตาราง หรือ FAQs, คำแนะนำปรับปรุงเนื้อหาในไฟล์
ไมโครซอฟท์ออกอัพเดตฉุกเฉินเบราว์เซอร์ Microsoft Edge เวอร์ชัน 122.0.2365.66 หลังมีรายงานจากผู้ใช้งานว่าไม่สามารถโหลดหน้าเว็บไซต์ได้ พร้อมข้อความเตือนว่า Out of Memory
ก่อนหน้านี้ไมโครซอฟท์ออกอัพเดตย่อย Edge เวอร์ชัน 122.0.2365.63 เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ แต่มีรายงานปัญหาไม่สามารถใช้งานได้ ซึ่งผู้ที่พบปัญหานี้ ไมโครซอฟท์แนะนำว่าตอนนี้ควรได้อัพเดตอัตโนมัติที่แก้ไขแล้ว และตรวจสอบเวอร์ชันได้ที่ edge://settings/help
ไมโครซอฟท์เปิดตัว DirectSR เป็น API ใหม่ในตระกูล DirectX ช่วยใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์ของจีพียูทำ Super Resolution (SR) หรือการขยายสเกลภาพให้ละเอียดขึ้น
เราเห็นฟีเจอร์จำพวก NVIDIA DLSS Super Resolution, AMD FidelityFX Super Resolution, Intel XeSS ออกสู่ตลาดกันมาสักระยะ การออก API ตัวนี้จะช่วยให้นักพัฒนาเกมทำงานง่ายขึ้น เพราะเขียนเกมให้รองรับ DirectSR อย่างเดียวพอ แล้ว DirectSR ไปคุยต่อกับจีพียูแต่ละค่ายให้เอง
ไมโครซอฟท์ออกฟีเจอร์ใหม่ให้แอพ Phone Link / Link to Windows สามารถใช้สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ 9.0 ขึ้นไป เป็นเว็บแคมให้พีซีวินโดวส์ได้
ฟีเจอร์นี้เคยเปิดตัวพร้อมกับ Galaxy S24 ของซัมซุง ที่มีแอพ Link to Windows มาให้ในตัวอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ไมโครซอฟท์ขยายไปยังสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ด้วยทั้งหมด (ต้องลงแอพ Link to Windows เพิ่มกันเอง) ส่วนฝั่งพีซีตอนนี้ยังต้องเป็น Windows 11 Insider เท่านั้น
ที่มา - Microsoft
สตูดิโอ Toys for Bob ในเครือ Activision ซึ่งเคยมีผลงานทำเกมซีรีส์ Skylanders, รีมาสเตอร์เกมซีรีส์ Spyro, Crash Bandicoot 4 และช่วงหลังถูกโยกมาช่วยทำ Call of Duty ประกาศแยกตัวเป็นสตูดิโออิสระ ไม่อยู่ภายใต้ Activision และ Microsoft อีกต่อไป
Toys for Bob เพิ่งมีข่าวว่าถูกปลดพนักงาน 86 คนและปิดสำนักงาน แต่ยังมีพนักงานทำงานแบบรีโมทอยู่ ไม่ได้ถูกปลดพนักงานออกทั้งหมด เพียงแต่ไม่ได้เปิดเผยว่ามีพนักงานเหลืออยู่เท่าไร
ไมโครซอฟท์เปิดตัว Microsoft Copilot for Finance ซึ่งเป็นชุดความสามารถใหม่ล่าสุดของ Copilot สำหรับลูกค้าธุรกิจที่ใช้งาน Microsoft Copilot for Microsoft 365 ที่พัฒนาความสามารถสำหรับงานในฝ่ายการเงินโดยเฉพาะ
ฟีเจอร์เด่นของ Copilot for Finance จะทำงานร่วมกับแอปของไมโครซอฟท์ใน Microsoft 365 ทั้งการวิเคราะห์ข้อมูลจาก Excel, จัดเตรียมข้อมูลเพื่อการนำเสนอ และปรับปรุงเวิร์กโฟลว์ใน Outlook นอกจากนี้ยังสามารถรวบรวมข้อมูลที่อยู่ใน SAP และ Dynamics 365 มาช่วยในการประมวลผลได้ โดยจะเพิ่มฟีเจอร์อื่นอีกในอนาคต
ไมโครซอฟท์รายงานจำนวนเงินที่ลงทุนใน Mistral สตาร์ทอัพด้าน AI จากฝรั่งเศส ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือให้บริการโมเดล Mistal Large บน Azure โดยไมโครซอฟท์ลงทุนเป็นเงิน 15 ล้านยูโร และเงินลงทุนนี้สามารถแปลงเป็นหุ้นของ Mistral ได้ เมื่อบริษัทเปิดระดมทุนซีรีส์ใหม่
ผลจากดีลดังกล่าวจึงทำให้มูลค่ากิจการของ Mistral ยังไม่เปลี่ยนแปลง จนกว่าจะมีการแปลงเงินลงทุนนี้เป็นหุ้น ทั้งนี้ Mistral ได้รับเงินลงทุนรอบล่าสุด 385 ล้านยูโร จากนักลงทุนนำโดยกองทุน Andreessen Horowitz และทำให้บริษัทมีมูลค่ากิจการล่าสุดประมาณ 2 พันล้านดอลลาร์
เกม Indiana Jones and the Great Circle ที่เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนมกราคมที่ผ่านมา วันนี้มีข้อมูลเพิ่มเติมตัวเกมได้นักแสดงชาวไทยถึง 2 คนแสดงเป็นตัวละครภายในเกม ซึ่งประกอบไปด้วย คุณวิทยา ปานศรีงาม นักแสดงชาวไทยที่มีผลงานในระดับอินเตอร์มาแล้วอย่างภาพยนตร์เรื่อง Only God Forgives แสดงร่วมกับ Ryan Gosling ส่วนอีกคนคือ คุณวรนันต์ บุญชมธนดีสีห์ หรือ เกรซ The Face
โดยคุณวิทยาแสดงเป็นตัวละครชื่อ Sunan ในขณะที่คุณเกรซแสดงเป็นตัวละครชื่อ Komen ซึ่งคาดว่าเป็นตัวละครสัญชาติไทยทั้งคู่ เพราะตัวเกมระบุว่าผู้เล่นจะได้สำรวจวัดในสุโขทัยด้วย
ไมโครซอฟท์ประกาศความร่วมมือเป็นระยะเวลาต่อเนื่องหลายปีกับ Mistral สตาร์ทอัพด้าน AI จากฝรั่งเศส ที่เพิ่งเปิดตัวโมเดล Mistral Large ซึ่งรองรับภาษาที่ใช้ในยุโรป โดยโมเดลของ Mistral สามารถใช้งานได้บน Azure
ประกาศความร่วมมือที่เป็นทางการมีเท่านี้ แต่ Financial Times ก็มีข้อมูลเพิ่มเติมว่าไมโครซอฟท์นั้นได้ตกลงที่จะลงทุนเป็นหุ้นอัตราส่วนเล็กน้อยใน Mistral ด้วย ซึ่งบริษัทมีมูลค่ากิจการล่าสุดประมาณ 2.1 พันล้านดอลลาร์ (2 พันล้านยูโร) จึงเป็นประเด็นน่าสนใจเพราะผู้อ่านก็ทราบกันดีว่าไมโครซอฟท์นั้นเดิมพันสูง ตกลงที่จะลงทุนมากกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ใน OpenAI อยู่แล้ว