มีเรื่องเล่าออกมาจากคนใกล้ชิดของบรรดาผู้บริหารระดับสูงในบริษัท Research In Motion (RIM) ผู้ผลิตสมาร์ทโฟน BlackBerry และแท็บเล็ต PlayBook ว่าปัญหาที่ไม่เคยจบสิ้นในทุกการประชุมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือแผนการตลาดของ RIM คือการเลือกว่าจะทำสินค้าไปหาใครระหว่างลูกค้าองค์กรหรือลูกค้าทั่วไป โจทย์ดังกล่าวเป็นข้อถกเถียงไม่รู้จักจบสิ้น และความไม่แน่นอนก็สะท้อนออกมาในทุกแผนการตลาดในสินค้า RIM ช่วงปีที่ผ่านมา

เรื่องวุ่นๆ ของ PlayBook

ราคา 199 ดอลลาร์ของ Kindle Fire อาจทำให้หลายคนฉงนสงสัยว่าทำได้อย่างไรกัน (ซึ่ง Amazon ก็คงไม่ยอมบอก) ก่อนหน้านี้มีนักวิเคราะห์ออกมาประเมินแล้วว่า Amazon ขายขาดทุนเครื่องละ 50 ดอลลาร์

ข่าวช้าไปนิดแต่นี่คือปฏิกิริยาจากการเซ็นสัญญาของไมโครซอฟท์-ซัมซุง

Alibaba ยักษ์อีคอมเมิร์ซจากจีน ถือเป็นอีกบริษัทที่มีสายสัมพันธ์กับ Yahoo! (Yahoo! เคยมีหุ้นในบริษัทลูกของ Alibaba และตอนนี้ Alibaba เป็นเจ้าของ Yahoo! China แบบเดียวกับที่ Yahoo! Japan เป็นของ SoftBank) และล่าสุด Jack Ma ซีอีโอของบริษัทก็ไปพูดที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ถิ่นกำเนิดของ Yahoo! ว่าเขาสนใจจะซื้อ Yahoo! อย่างมาก

Jack Ma บอกว่า "เราสนใจมาก และทั้งสองบริษัทก็มีความสำคัญต่อกัน และทุกบริษัทที่สนใจจะซื้อ Yahoo! ก็มาคุยกับเราหมดแล้ว" เขาบอกว่าต้องการจะซื้อ Yahoo! ทั้งหมดไม่แยกส่วน และอยากเป็นเจ้าของ Yahoo! แต่เพียงผู้เดียว ไม่ต้องการ "ร่วมซื้อ" กับพันธมิตรรายอื่น

Adobe MAX คืองานสัมมนาประจำปีของ Adobe พูดถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ด้านดีไซน์ และใช้เป็นเวทีเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทมาหลายครั้ง

Adobe MAX 2011 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-5 ตุลาคมนี้ที่ลอสแองเจลิส แต่ที่น่าจับตาคือการประกาศ keynote มีสองวันคือ 3 และ 4 ตุลาคม ซึ่งกรณีของวันที่ 4 ตุลาคมนั้นแถลงเวลา 10.00 น ตามเวลาท้องถิ่น

เมื่อสิบปีที่แล้วในปี 2001 เดือนตุลาคมเป็นเดือนที่สตีฟ จ็อบส์ได้ออกมาเปิดตัวสินค้าตระกูลใหม่ที่ทำให้หลายคนแปลกใจ และคิดว่ามันเป็นเรื่องตลก แต่สินค้าตัวนั้นได้พิสูจน์แล้วว่า มันคือสินค้าที่เปลี่ยนโลกการฟังเพลงแบบพกพาไปโดยสิ้นเชิง และนั่นก็คือ "ไอพ็อด" เครื่องเล่นเพลงที่สามารถบรรจุเพลงได้ "พันกว่าเพลง"

ในวันนี้ แอปเปิลเรียกมันว่า iPod classic เนื่องจากมันเป็นไอพ็อดเพียงรุ่นเดียวที่ได้รับการเปลี่ยนแปลงน้อยที่สุด และยังคงใช้ฮาร์ดดิสก์ไดรว์ในการบรรจุเพลง หลายปีมาแล้ว ที่มันไม่ได้รับการอัพเดตใด ๆ จากแอปเปิล นอกจากการเพิ่มความจุของเพลง

หนังสือพิมพ์แจกฟรี London Evening Standard เผยว่ากูเกิลได้เปิดร้าน Google Store อย่างเงียบ ๆ ภายในร้าน PC World สาขาถนน Tottenham Court โดยสินค้าในร้านประกอบไปด้วย Chromebooks และอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ

จากในรายงาน การเปิดร้าน Google Store สาขานี้เป็นเพียงแค่การทดลองดูตลาดเท่านั้น แต่เป็นไปได้ ว่ากูเกิลอาจจะทำอะไรเพิ่มอีก หากธุรกิจขายปลีกของกูเกิลมีผลประกอบการที่ดีจริง

Arvind Desikan หัวหน้าฝ่ายการตลาดสำหรับลูกค้าปลีกของกูเกิลในสหราชอาณาจักร บอกว่า 80% ของยอดซื้อแล็ปท็อปทั้งหมดมาจากการซื้อขายปลีกตามร้านค้าบนถนนแบบนี้ และกูเกิลคาดว่าการเปิดร้าน Google Store จะเป็นวิธีการขาย Chromebook ที่ดีที่สุด

Ubuntu One บริการซิงค์ไฟล์ของค่าย Canonical เคยออกรุ่นทดสอบบนวินโดวส์เมื่อหนึ่งปีก่อน วันนี้มันถูกปรับปรุงใหม่และออกตัวจริงแล้ว

การใช้งานโดยรวมคงไม่ต่างกับ Ubuntu One บนลินุกซ์ ใช้ได้กับ Windows XP/Vista/7 เนื้อที่เริ่มต้น 5GB สำหรับรุ่นฟรีครับ

นอกจากรุ่นบนวินโดวส์แล้ว Ubuntu One ยังมีรุ่น iOS/Android อีกด้วย (ดูหน้า Ubuntu One Download)

ไม่ใช่ภาพจากเฮลิคอปเตอร์จริงๆ แต่ Google Maps ได้เพิ่มโหมดแสดงเส้นทางแบบ 3 มิติ แทนที่จะเป็นมุมมองภาพถ่ายดาวเทียมอย่างเดียว และผู้ใช้สามารถพรีวิวเส้นทางที่จะขับรถไปได้ เหมือนกับว่านั่งอยู่บนเฮลิคอปเตอร์แล้วดูภาพพื้นล่าง (ภาพจำลอง 3 มิติ) วิ่งผ่านไปเรื่อยๆ

กูเกิลบอกว่าโหมด helicopter view นี้ออกมาแก้จุดอ่อนของโหมดภาพถ่ายดาวเทียม ที่เห็นเส้นทางแต่ไม่เห็นสภาพความสูงต่ำของพื้นที่

ฟีเจอร์นี้ยังใช้ได้เฉพาะเส้นทางในสหรัฐ และบางเส้นทางในยุโรป ถ้าอยากลองเล่นก็ดูได้ตาม เดโม (ต้องลง Google Earth Plugin ก่อน จะมีปุ่ม 3D ขึ้นมาตรงข้างๆ เส้นทางที่เลือก)

จากข่าว ไมโครซอฟท์-ซัมซุง ลงนามสัญญาใช้สิทธิบัตรร่วมกันแล้ว ทำให้ไมโครซอฟท์ได้เงินจากเบอร์หนึ่งและสองในโลกของ Android คือ ซัมซุงและ HTC (ส่วนเบอร์สาม Motorola นั้นคงยาก)

ข่าวนี้ไม่ใช่ข่าวมือถือใหม่ แต่เป็น "ส่วนประกอบ" ของมือถือรุ่นใหม่จากซัมซุง 2 อย่าง

อย่างแรกคือซีพียู Exynos (ตัวเดียวกับที่ใช้ใน Galaxy S II) ออกรุ่นใหม่ Exynos 4212 ดูอัลคอร์ 1.5GHz ที่ประสิทธิภาพดีขึ้น 25% และใช้การผลิตที่ 32 นาโนเมตรแบบ High-K Metal Gate (HKMG) ประหยัดพลังงานขึ้นอีก 30% นอกจากนี้ยังมี GPU รุ่นใหม่ มีประสิทธิภาพด้าน 3D สูงกว่ารุ่นก่อน 50%

Exynos 4212 จะรองรับการเล่น-ถ่ายวิดีโอ 1080p และ HDMI 1.4 ในตัว เริ่มส่งตัวอย่างให้ลูกค้าช่วงไตรมาสที่สี่ของปีนี้ ส่วนจะมาทัน Nexus Prime หรือไม่คงต้องลุ้นกันหน่อย

ที่มา - Talk Android

อ่านไม่ผิดครับ มือถือที่ใช้ Ice Cream Sandwich (ICS) เปิดตัวแล้ว ก่อนที่ ICS จะเปิดตัวจริงๆ เสียอีก

เรื่องนี้เกิดที่ญี่ปุ่น เมื่อเครือข่าย SoftBank เปิดตัวมือถือใหม่ 9 รุ่น และหนึ่งในนั้นมีมือถือที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android ICS อยู่ด้วยคือ Sharp AQUOS 104SH

มือถือตัวนี้ใช้จอ 4.5" 1280x720, ซีพียู TI OMAP 4460 1.5GHz ดูอัลคอร์, กล้อง 12.1MP, ทีวีทูนเนอร์ และกันน้ำได้ด้วย

ระบบปฏิบัติการก็ตามข่าวคือ ICS แต่เปิดตัววันนี้จริง กว่าจะได้ซื้อหามาใช้กันก็ช่วงฤดูใบไม้ผลิของปี 2012 นู่น

หลังจากไมโครซอฟท์และผู้ให้บริการเครือข่ายได้ปล่อยอัพเดต Windows Phone 7.5 (Mango) อย่างเป็นทางการ ไมโครซอฟท์ก็ได้เปิดให้ดาวน์โหลด Windows Phone SDK 7.1 เวอร์ชันจริง (release to web หรือ RTW) แล้ว ซึ่งนอกจากนั้นจะแก้ไขบั๊กของเครื่องมือพัฒนาแล้วก็ยังเพิ่มภาษาท้องถิ่นที่จะปรากฎบนเครื่องมือพัฒนาและเอกสารต่างๆ อีก 8 ภาษา อาทิ ภาษาจีน ญี่ปุ่น เยอรมัน เป็นต้น

ไมโครซอฟท์ยังระบุว่า นักพัฒนาไม่จำเป็นต้อง recompile โค้ดของแอพฯ ที่พัฒนาบน Windows Phone SDK 7.1 เวอร์ชัน RC (release candidate) แต่อย่างไร

แท็บเล็ตที่อีกสองเดือนถึงจะเริ่มวางขายอย่าง Kindle Fire กำลังทำให้วงการแท็บเล็ตสั่นคลอนได้อย่างไม่น่าเชื่อเมื่อผู้ผลิตหลายรายพากันลดราคาตอบรับราคา 199 ดอลลาร์ของ Kindle Fire อย่างรวด้เร็วโดยรายล่าสุดคือ HTC Flyer ที่ลดราคาจาก 499 เหลือ 299 ดอลลาร์เท่านั้น

ในเมืองไทยเองในงาน Thailand Mobile Expo ที่จัดอยู่ตอนนี้ HTC ในไทยอาศัยการจัดโปรโมชั่นแถม HTC ChaCha แทนการลดราคาโดยตรง ผมคาดว่าหลังงานเองก็น่าจะมีปรับราคากันอีกสักรอบเพื่อให้ไม่ต่า่งจากโปรโมชั่นแถม ChaCha และราคาในเมืองนอกมากเกินไป

ที่มา - Best Buy

พบกันทุกหกเดือน หลังจาก GNOME 3.0 เมื่อเดือนเมษายน คราวนี้เป็นคิวของ GNOME 3.2

ใจความหลักของ GNOME 3.2 คือการปรับปรุง GNOME 3.0 ให้เข้ารูปเข้ารอย แก้บั๊กเล็กๆ น้อยๆ หลายจุด เช่น เพิ่มตัวนับการแจ้งเตือน, ปรับขนาดปุ่มควบคุมให้เล็กลง เหมาะสำหรับจอเน็ตบุ๊ก, ปรับปรุงเอฟเฟคต์ในการแสดงผล ฯลฯ

ส่วนฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มเข้ามาได้แก่

ข่าวดีเล็กๆ ของคนที่เบื่อคดีฟ้องร้องของสองยักษ์ซัมซุง-แอปเปิล ที่ฟ้องกันยุ่งไปหมดในหลายประเทศหลายทวีป

ตามข่าวบอกว่าตัวแทนของซัมซุงได้ยื่นข้อเสนอไปยังแอปเปิล เพื่อยุติคดีที่เกี่ยวข้องกับสิทธิบัตรจอสัมผัสในออสเตรเลียแล้ว ในข่าวไม่ได้ระบุรายละเอียดของข้อเสนอ แต่ทนายความของแอปเปิลได้เอกสารไปแล้ว และขอกลับไปพิจารณาก่อน

ความคืบหน้าของคดีในออสเตรเลียคือ ซัมซุงยอมตัดฟีเจอร์บางอย่างของ Tab 10.1 ที่ไปชนกับสิทธิบัตร (ไม่ใช่ "ดีไซน์" อย่าเอาไปเถียงผิดประเด็นนะครับ) ของแอปเปิลออก ทำให้ตอนนี้คดีเหลือเพียงเรื่องเดียวคือสิทธิบัตรด้านจอสัมผัสอันนี้

ดูท่าว่าซัมซุงจะยังไม่พอใจกับอุปกรณ์ขนาด 5" (Galaxy Note) และ 7.7" (Galaxy Tab 7.7) เพราะยังมีที่ว่างอยู่อีกตั้งเกือบสองนิ้ว

ซัมซุงจึงจับ Galaxy Tab 7" รุ่นแรกมาปรับปรุงใหม่เป็น Galaxy Tab 7.0 Plus ขนาดหน้าจอ 7" 1024x600 เท่าเดิม หน้าตาคล้ายๆ เดิมแต่ไม่เหมือนซะทีเดียวเพราะตัดปุ่มควบคุมด้านหน้าออกไปหมด (เนื่องจากใช้ Android 3.2 Honeycomb แล้ว) ตัวเครื่องบางและเบากว่าเดิม

ฮาร์ดแวร์ภายใน ซีพียูปรับขึ้นมาเป็น 1.2GHz ดูอัลคอร์, แรม 1GB เท่าของเดิม, กล้อง 3MP/2MP, แบตเตอรี่ 4,000 mAh, พื้นที่เก็บข้อมูล 16/32GB เพิ่ม Micro SD ได้ ฟีเจอร์ด้านซอฟต์แวร์ก็มี TouchWiz UX และ Kies Air เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์รุ่นหลังๆ ของซัมซุงตัวอื่น

NFC Forum ได้อกมาเปิดเผยถึงมาตรฐานการสื่อสารระยะใกล้ใหม่ โดยในมาตรฐานใหม่นี้มีฟังก์ชั่นที่เรียกว่า SNEP หรือ Simple NDEF Exchange Protocol (NDEF ย่อมาจาก NFC Data Exchange Format อีกที มันคือตุ๊กตาแม่ลูกดกของรัสเซียดี ๆ นี่เอง) โดย SNEP จะอนุญาตให้อุปกรณ์ที่รองรับ NFC สองเครื่องสามารถรับส่งข้อมูลระหว่างกันได้

เว็บไซต์ VentureBeat รายงานข่าวลือในแวดวงว่า แผนก Palm/webOS กำลังจะถูก HP ลอยแพด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง และผู้ซื้อที่มีโอกาสสูงสุดคือ Amazon

หลังจาก Amazon เปิดตัว Kindle Fire ไปเมื่อวันก่อน ก็ชัดเจนแล้วว่าทิศทางของบริษัทจะบุกไปยังโลกอุปกรณ์พกพา ทำให้การซื้อ Palm/webOS เริ่มสมเหตุสมผลมากขึ้น อย่างน้อยๆ ก็ได้กำลังคนมาทำงาน ส่วนจะใช้ webOS ต่อหรือไม่ก็อีกเรื่องนึง

Amazon ยังมีสายสัมพันธ์อันดีกับทีม Palm เพราะ Jon Rubenstein อดีตซีอีโอของ Palm (ตอนนี้ถูกโยกไปคุมแผนกอื่นใน HP) ก็มีตำแหน่งในบอร์ดของ Amazon ด้วย

HP ซื้อ Palm มาด้วยเงิน 1.2 พันล้านดอลลาร์

ที่มา - VentureBeat

บริษัท StatCounter ซึ่งเก็บสถิติส่วนแบ่งตลาดเว็บเบราว์เซอร์ ออกมาพยากรณ์ว่าส่วนแบ่งตลาดของ Chrome จะแซง Firefox ภายในเดือนธันวาคมนี้เป็นอย่างช้า

ตอนนี้ส่วนแบ่งตลาดตามที่ StatCounter ระบุคือ IE 41.7%, Firefox 26.8%, Chrome 23.6% ถ้าแนวโน้มยังเป็นแบบนี้ต่อไป Chrome จะขึ้นมาเท่ากับ Firefox ในเดือนพฤศจิกายน และแซงในเดือนธันวาคม

ต้องย้ำอีกรอบว่านี้เป็นสัดส่วนของ StatCounter เพียงรายเดียว เพราะยังมีบริษัทอื่นๆ อีกมากที่เก็บสถิติเบราว์เซอร์ และมีตัวเลขที่ต่างออกไป อย่างตัวเลขของ Net Applications จะเป็น Firefox 22.6%, Chrome 15.5%

ที่มา - Computerworld

ยักษ์สีฟ้าไอบีเอ็มได้กลายเป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีที่มีมูลค่ากิจการตามราคาในตลาด (Market Capitalization) สูงที่สุดในโลกเป็นอันดับ 2 เมื่อคืนนี้หลังปิดการซื้อขายในตลาดหุ้นอเมริกา ด้วยมูลค่าบริษัท 2.14 แสนล้านดอลลาร์ แซงหน้าอันดับ 2 เดิมอย่างไมโครซอฟท์ซึ่งมีมูลค่าบริษัทเมื่อคืนนี้ 2.132 แสนล้านดอลลาร์ โดย

รวมข่าวลือของ iPhone รุ่นใหม่ที่กำลังจะออกมาวันนี้เริ่มด้วย ในงานสัมมนา Macworld Asia 2011 รองประธานของ China Unicom ได้เปิดเผยว่า iPhone รุ่นถัดไปซึ่งเขาเรียกมันว่า iPhone 5 นั้นจะรองรับความเร็วคลื่น HSPA+ สูงสุดถึง 21 Mbps ซึ่งปัจจุบันผู้ให้บริการหลายรายมักเรียกคลื่นความถี่นี้ในการโฆษณาว่า 4G โดยปัจจุบัน iPhone 4 นั้นรองรับคลื่น W-CDMA สูงสุดที่ 7.2 Mbps

หลังจากไมโครซอฟท์เปิด Windows Phone Marketplace ภาค Mango ก็มีนักพัฒนาส่งแอพขึ้นไปขายกันมากขึ้น สิ่งที่ตามมาคือปัญหา "สแปม" ในลักษณะที่นักพัฒนาบางราย ส่งแอพขึ้นทีเดียวมากๆ เพื่อครองรายการในหมวด "New"

ไมโครซอฟท์จึงแก้ปัญหาโดยปรับลิมิตของการส่งแอพต่อคนต่อวัน จากเดิม 20 ตัว ลงมาเหลือ 10 ตัว พร้อมทั้งจับตาการส่งแอพขึ้น Marketplace อย่างใกล้ชิด นักพัฒนาที่ทำผิดเงื่อนไขจะถูกแบน (ชั่วคราวและถาวร)

ไมโครซอฟท์ยังส่งเสริมให้นักพัฒนาพยายามแยกแอพที่คล้ายๆ กันด้วยไอคอนที่แตกต่างกัน และไม่ควรสร้างแอพที่มีรูปแบบคล้ายกันจนเกินไป (เช่น เปลี่ยนบางส่วนแล้วเปลี่ยนชื่อเป็นแอพอีกตัว)

หลายคนอ่านแล้วคงอยากส่งไปให้กูเกิลอ่านกันบ้าง...

ข้อมูลน่าสนใจของฝั่ง HP ครับ

ในเอกสารที่ HP ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ของสหรัฐ ระบุว่า Meg Whitman ซีอีโอหญิงคนใหม่ของบริษัท จะรับค่าเหนื่อยเพียง 1 ดอลลาร์ต่อปีเท่านั้น (เหมือนกับสตีฟ จ็อบส์ในอดีต)

ในยุคโซเชียลเน็ตเวิร์คที่กระจายข่าวสารกันแบบเรียลไทม์ บริการเก็บสถิติหลายยี่ห้อต้องปรับตัวตอบสนองความต้องการนี้ (ตัวอย่างเช่น พวก bit.ly ที่ดูว่าคนคลิกลิงก์ชั่วโมงละกี่คน)

Google Analytics เป็นบริการเก็บสถิติตัวหนึ่งที่ได้รับความนิยม (Blognone ก็ใช้) เก็บข้อมูลได้ละเอียดมากแทบจะทุกแง่มุม แต่ที่ผ่านมา Google Analytics รายงานข้อมูลได้เฉพาะหลัก "วัน" เท่านั้น ไม่สามารถดูสถิติแบบเรียลไทม์ได้

วันนี้กูเกิลออกมาประกาศแล้วว่า Analytics สามารถแสดงข้อมูลแบบเรียลไทม์ได้แล้ว โดยจะแสดงใน Analytics เวอร์ชันใหม่เท่านั้น (ถ้ายังใช้รุ่นเก่าอยู่ก็เปลี่ยนกันเอง จะมีลิงก์ New Version ที่มุมขวาบน) เท่าที่ดูจากภาพ มันจะแสดงข้อมูลแบบเรียลไทม์จริงๆ (เช่น "ขณะนั้น" "15 วินาทีที่แล้ว")