หลายปีที่ผ่านมารอบการเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ของแอปเปิลแต่ละปีจะเหมือนเดิมตลอด นั่นคือ iPhone รุ่นใหม่เปิดตัวช่วงเดือนกันยายน ปีไหนที่มี iPhone รุ่นราคาถูกหรือออกสีพิเศษ จะออกในช่วงมีนาคมของปีถัดมา อย่างไรก็ตามแอปเปิลอาจเปลี่ยนช่วงเวลาเปิดตัว iPhone ใหม่ มีผลตั้งแต่ปี 2026 ใน iPhone 18
รายงานจาก The Information อ้างแหล่งข่าวว่าเนื่องจาก iPhone ช่วงหลังมียอดขายเติบโตไม่มาก คนอัปเกรดซื้อรุ่นใหม่น้อยลง จึงต้องการปรับช่วงเวลาเปิดตัวเพื่อกระตุ้นยอดขายมากขึ้น โดยเริ่มที่การออก iPhone 17 Air รุ่นเครื่องบางในปีนี้ จากนั้นแอปเปิลจะเปลี่ยนแผนเปิดตัวสินค้าตระกูล iPhone 18 ในปี 2026 ใหม่
ข้อมูลนี้มาจาก Mark Gurman แห่ง Bloomberg คนเดิม เขาอ้างแหล่งข่าวในแอปเปิลว่าบริษัทได้ร่วมมือกับ Anthropic เพื่อนำโมเดลปัญญาประดิษฐ์ Claude มาเสริมการทำงานใน Xcode ในการช่วยเขียนโค้ด ซึ่งความร่วมมือนี้ไม่มีการประกาศเป็นทางการ
อย่างไรก็ตามแอปเปิลนำ Claude มาใช้กับ Xcode เฉพาะภายในบริษัทเท่านั้น และยังไม่มีแผนนำความสามารถนี้มาให้นักพัฒนาทั่วไปใช้งาน ข้อมูลจึงอาจสรุปไม่ได้ว่าแอปเปิลมองหาพันธมิตรใหม่สำหรับโมเดล AI นอกจาก OpenAI หรือ Google แต่บอกได้ว่าแอปเปิลก็นำ AI มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการพัฒนาซอฟต์แวร์เช่นกัน
แอปเปิลเปิดตัว Xcode ที่มีผู้ช่วย AI ตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ฟีเจอร์ Swift Assist ก็ยังไม่มีให้ใช้งาน
มีรายงานจาก The Information อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องสามราย บอกว่า NVIDIA ได้แจ้งลูกค้ารายใหญ่ในประเทศจีน ว่าบริษัทกำลังปรับแต่งแก้ไขชิป AI ที่ส่งขายในประเทศใหม่ ให้สามารถส่งออกได้ตามเงื่อนไขการส่งออกสินค้าใหม่ที่สหรัฐอเมริกากำหนด
รายชื่อลูกค้าที่ถูกระบุถึงได้แก่ Alibaba, ByteDance บริษัทแม่ของ TikTok และ Tencent
มีรายงานจาก Mark Gurman แห่ง Bloomberg คนเดิมอีกครั้งเกี่ยวกับการปรับตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงในแอปเปิล ซึ่งคราวนี้ไม่เกี่ยวกับ Siri แต่เป็นแผนกอื่น
เริ่มที่ Apple Music โดยให้สองผู้บริหารคือ Rachel Newman ซึ่งทำงานในแอปเปิลอยู่แล้ว และ Ole Obermann ที่ดูแลธุรกิจเพลงใน TikTok มารับผิดชอบส่วนบริการฟังเพลงสตรีมมิ่ง ทั้งคู่จะรายงานตรงกับ Oliver Schusser ที่เดิมรับผิดชอบ Apple Music โดยตรง แต่ปัจจุบันมีความรับผิดชอบมากขึ้นทั้ง Beats, Apple TV+, Apple Sports
ก่อนหน้านี้ The Wall Street Journal รายงานข่าวว่าธนาคารหลายแห่งที่ปล่อยกู้ให้ Elon Musk เพื่อนำเงินไปซื้อกิจการ Twitter ในปี 2022 ได้เจรจากับนักลงทุนเสนอขายหนี้แบบมีส่วนลด เพื่อลดภาระต้นทุนทางการเงินและความเสี่ยงของธนาคาร
รายงานล่าสุดบอกว่าธนาคารทั้งหมด 7 แห่ง นำโดย Morgan Stanley และ Bank of America ที่ปล่อยสินเชื่อให้ Musk ได้ขายหนี้ 13,000 ล้านดอลลาร์ ให้กับนักลงทุนครบทั้งหมดแล้ว โดยเป็นการขายแบบมีส่วนลด เช่น 0.98 ดอลลาร์ ต่อหนี้ 1 ดอลลาร์ ซึ่งสำหรับธนาคารอาจขาดทุนเล็กน้อย แต่ยังได้ผลตอบแทนจากค่าธรรมเนียมธุรกรรม และดอกเบี้ยจ่ายก่อนหน้านี้ โดยหนี้ชุดสุดท้ายที่ขายออกไปมีมูลค่า 1,200 ล้านดอลลาร์
Tom Dotan อดีตนักข่าวสายไมโครซอฟท์ของ Wall Street Journal รายงานในจดหมายข่าว Newcomer ว่าตัวเลขผู้ใช้งาน Microsoft Copilot อยู่ที่ประมาณสัปดาห์ละ 20 ล้านคน (weekly active user) ซึ่งถือว่าห่างไกลจาก OpenAI สัปดาห์ละ 400 ล้านคน หรือแม้แต่ Gemini ที่เดือนละ 350 ล้านคน (หน่วยวัดอาจไม่เท่ากันเป๊ะๆ)
Dotan อ้างว่าข้อมูลนี้มาจากสไลด์ของ Amy Hood ซีเอฟโอของไมโครซอฟท์ที่เปิดโชว์ในงานภายในของบริษัท เพื่อเปรียบเทียบให้พนักงานเห็นว่าการเติบโตของ Copilot สู้กับ ChatGPT ของ OpenAI ไม่ได้เลย
รายงานข่าวลือสินค้าใหม่แอปเปิลประจำสัปดาห์โดย Mark Gurman แห่ง Bloomberg คนเดิม คราวนี้ว่าด้วยแว่นตาอัจฉริยะ
Gurman บอกว่าแอปเปิลกลับมาเดินหน้าโครงการพัฒนาแว่นตาอัจฉริยะต่อ โค้ดเนมภายใน N50 (ซึ่งก่อนหน้านี้คนที่บอกแอปเปิลยกเลิกแล้วก็ Gurman นี่แหละ) เป้าหมายเป็นผู้นำตลาดแว่นตาประเภทนี้ ซึ่งตอนนี้มี Ray-Ban Meta Smart Glass เป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมในตลาด
สเป็กและการทำงานเบื้องต้น Gurman บอกว่าเป็นแว่นตาผู้ช่วย อธิบายสิ่งต่าง ๆ รอบตัว และมีฟีเจอร์ AR อย่างไรก็ตามสินค้ายังอยู่ในขั้นตอนพัฒนา แผนจึงอาจเปลี่ยนแปลงได้
Bloomberg รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่า xAI Holdings บริษัทแม่ของ xAI และ X กำลังเจรจารับเงินจากนักลงทุนรอบใหม่ 20,000 ล้านดอลลาร์ ทำให้มูลค่ากิจการเพิ่มเป็น 120,000 ล้านดอลลาร์ โดยบอกว่าตอนนี้การเจรจาอยู่ในขั้นเริ่มต้น จึงอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้
หากดีลนี้เกิดขึ้นจริง จะเป็นการรับเงินเพิ่มทุนของบริษัทสตาร์ทอัปขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจาก OpenAI ที่รับเงินลงทุน 40,000 ล้านดอลลาร์ เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
คาดว่ากลุ่มนักลงทุนหลักในรอบนี้เป็นกลุ่มเดียวกับที่ลงทุนใน Tesla และ SpaceX อยู่แล้ว
มีรายงานว่าแอปเปิลสั่งปรับแผนการผลิต iPhone เพื่อรองรับสถานการณ์ภาษีนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ โดยต้องการให้ iPhone ที่ขายในสหรัฐอเมริกาทั้งหมด ผลิตจากโรงงานในประเทศอินเดียภายในสิ้นปี 2026
หากเป็นตามนั้นจริง โรงงานผลิต iPhone ในอินเดียจะต้องผลิต iPhone เพิ่มเติมมากกว่า 60 ล้านเครื่อง สำหรับส่วนที่ขายในอเมริกา เมื่อรวมกับตัวเลขกำลังการผลิตปัจจุบัน โรงงานในอินเดียจะต้องเพิ่มการผลิตเท่าตัวเป็น 80 ล้านเครื่องต่อปี
แอปเปิลเริ่มขยายการผลิตในโรงงานที่อินเดียมาแล้วหลายปี เพื่อลดการพึ่งพาโรงงานในจีนแห่งเดียว ปัจจุบัน iPhone ที่ผลิตในอินเดียคิดเป็น 1 ใน 5 ของ iPhone ทั้งหมด
มีประเด็นเพิ่มเติมจากผลประกอบการ Alphabet บริษัทของกูเกิลในไตรมาสล่าสุด ซึ่งรายได้รวมเพิ่มขึ้น 12% เป็น 90,234 ล้านดอลลาร์ แต่กำไรสุทธินั้นเพิ่มสูงขึ้นมากถึง 46% เนื่องจากมีการบันทึกกำไรพิเศษเข้ามา
Alphabet บอกว่าบริษัทมีกำไร-ค่าใช้จ่ายอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมหลักของบริษัท (Other income & expense) ในไตรมาสที่ผ่านมาสุทธิ 11,183 ล้านดอลลาร์ โดยมีกำไรที่ยังไม่รับรู้จากการลงทุนในบริษัทนอกตลาดหุ้นแห่งหนึ่ง 8.0 พันล้านดอลลาร์
Mark Gurman แห่ง Bloomberg คนเดิม รายงานข้อมูลล่าสุดของทีมพัฒนา Siri ในแอปเปิล หลังให้ Mike Rockwell อดีตหัวหน้าทีม Vision Pro มาดูแล โดยขึ้นตรงกับ Craig Federighi หัวหน้าฝ่ายซอฟต์แวร์ และย้าย John Giannandrea ไปดูแลฝ่ายวิจัย AI
รายงานบอกว่า Rockwell ได้เปลี่ยนแปลงตำแหน่งผู้บริหารภายใน Siri หลายคน โดยส่วนใหญ่ดึงตัวมาจากทีมพัฒนาซอฟต์แวร์ของ Vision Pro ที่เขาเคยรับผิดชอบ นอกจากนี้ Rockwell ยังปรับโครงสร้างทีมย่อยแบ่งเป็นส่วนที่ดูแลตามการทำงานได้แก่ ระบบรู้จำเสียง (Speech), ระบบเข้าใจเนื้อหา (Understanding), พัฒนาประสิทธิภาพการทำงาน (Performance) และส่วนประสบการณ์ผู้ใช้งาน (UX)
Bloomberg อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่าอินเทลเตรียมประกาศปลดพนักงานประมาณ 20% ของจำนวนพนักงานทั่วโลก คิดเป็นจำนวนประมาณ 21,000 คน
รายงานบอกว่า Lip-Bu Tan ซีอีโอคนใหม่ของอินเทล ต้องการปรับโครงสร้างการบริหารจัดการ และใช้วิศวกรรมนำหน้าในการพัฒนาสินค้า เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเขาได้ประกาศปรับให้ผู้บริหารฝ่ายเทคนิคหลายคนขึ้นรายงานกับเขา และลดลำดับขั้นฝ่ายบริหาร
อินเทลรายงานจำนวนพนักงานเมื่อสิ้นปี 2024 ที่ประมาณ 108,900 คน หลังจากปลดพนักงาน 15% เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว
ข้อมูลนี้มาจากนักวิเคราะห์ของธนาคาร Wells Fargo อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่า Amazon ได้แจ้งระงับโครงการสร้างศูนย์ข้อมูล AWS ใหม่ที่เคยมีแผนไว้ชั่วคราวบางแห่ง โดยเป็นการแจ้งเปลี่ยนข้อตกลงสัญญาเช่าพื้นที่ซึ่งมีทั้งในอเมริกาและต่างประเทศ
ก่อนหน้านี้มีรายงานว่าไมโครซอฟท์ได้เลื่อนหรือยกเลิกโครงการสร้างศูนย์ข้อมูล Azure ไปหลายแห่งเช่นกัน แต่ทั้งหมดไมโครซอฟท์ไม่ได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการ
Reuters อ้างแหล่งข่าวว่า Tesla ต้องเลื่อนการวางขายรถยนต์ Model Y ตัวใหม่เวอร์ชันราคาถูก จากเดิมที่ตั้งเป้าจะขายภายในครึ่งแรกของปี 2025
รถรุ่นที่ว่านี้คือ Model Y โฉมใหม่ที่เราเรียกกันว่า Juniper ส่วนรถรุ่นที่ต้องเลื่อนออกไป เป็นรุ่นถูกลงโดยตัดฟีเจอร์หลายส่วนออกไป มีขนาดเล็กลง ใช้วัสดุราคาถูกลง ต้นทุนการผลิตลดลง 20% จากเดิม มีโค้ดเนมภายในบริษัทว่า E41 แต่เหตุผลในการเลื่อนยังไม่แน่ชัดว่าเกิดจากอะไร
แหล่งข่าวของ Reuters บอกว่า Tesla ตั้งเป้าผลิตรถยนต์รุ่นนี้ในสหรัฐจำนวน 250,000 คันในปี 2026 รวมถึงจะขยายไปผลิตในยุโรปและจีนต่อด้วยในระยะถัดไป
Bloomberg รายงานข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการว่า ตอนนี้แอปเปิลมีสัดส่วน iPhone ที่ผลิตในอินเดียราว 20% หรือทุก 1 ใน 5 เครื่องแล้ว (ประเมินตามมูลค่า iPhone ที่ผลิตได้ ไม่ใช่ราคาขาย)
ข้อมูลนี้แสดงให้เห็นว่า แอปเปิลเริ่มย้ายฐานการผลิต iPhone ออกจากจีนอย่างจริงจัง และเราเห็นการส่งออก iPhone จากอินเดียออกไปขายยังประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะช่วงสหรัฐอเมริกาเพิ่มกำแพงภาษีนำเข้า
แอปเปิลเลือกใช้โรงงานของ Foxconn และ Tata (Wistron, Pegatron) ในอินเดีย และตอนนี้สามารถผลิต iPhone ได้ครบทั้งไลน์ รวมถึงรุ่น Pro ด้วย
The Washington Post มีรายงานเกี่ยวกับประกาศยกเว้นภาษีนำเข้าของสหรัฐ ในสินค้ากลุ่มสมาร์ทโฟนและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นประกาศเพิ่มเติมหลังมีคำสั่งให้ชะลอแผนการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าเพิ่มเติมจากประเทศต่าง ๆ ออกไป 90 วัน ว่าแอปเปิลอาจมีบทบาทสำคัญต่อการตัดสินใจนี้
รายงานบอกว่า Tim Cook ซีอีโอแอปเปิล ได้เข้าพบกับ Howard Lutnick รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เกี่ยวกับผลกระทบของราคา iPhone จากคำสั่งเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มเติม นอกจากนี้ Cook ยังเข้าพบกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงในทำเนียบขาวอีกหลายคน
มีรายงานว่า OpenAI กำลังพูดคุยเพื่อซื้อกิจการ Windsurf ผู้พัฒนาโปรแกรม IDE สำหรับเขียนโค้ดที่มี AI เป็นผู้ช่วย โดยมูลค่าที่เสนอซื้อคือ 3,000 ล้านดอลลาร์
Windsurf เดิมชื่อ Codeium เป็น IDE ที่มีจุดขายเรื่องผู้ช่วยเขียนโค้ด AI แนวเดียวกับ Cursor หรือ Replit ซึ่งปัจจุบันผู้พัฒนา AI รายใหญ่ ต่างก็ลงมาเล่นตลาดนี้กันทั้ง Microsoft ที่มี Visual Studio Code ในโหมด Agent รวมทั้ง Anthropic หรือแม้แต่ OpenAI ก็พยายามนำเสนอจุดขายนี้
หากดีลนี้เกิดขึ้นจริง จะเป็นการซื้อกิจการขนาดใหญ่ที่สุดของ OpenAI
ที่มา: CNBC
The Verge อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องหลายรายระบุว่า OpenAI มีโครงการสร้างแพลตฟอร์มโซเชียลเน็ตเวิร์ก โดยเน้นส่งเสริมการใช้เครื่องมือสร้างรูปภาพด้วย AI ของ ChatGPT ซึ่งต้นแบบแรกนั้นลักษณะคล้ายกับ X หรือ Twitter เดิม
รายงานบอกว่า Sam Altman ซีอีโอ OpenAI ได้นำเสนอต้นแบบโซเชียลเน็ตเวิร์กอันนี้กับบุคคลภายนอกบริษัท เพื่อสอบถามความคิดเห็นไปบ้างแล้ว อย่างไรก็ตามต้นแบบดังกล่าวอาจเปลี่ยนแปลงได้ รวมทั้งแผนการสร้างโซเชียลเน็ตเวิร์กนี้ก็อาจเป็นเพียงไอเดียเท่านั้น
วันอาทิตย์พบกับข่าวลือสินค้าใหม่แอปเปิลโดย Mark Gurman แห่ง Bloomberg คนเดิม คราวนี้ว่าด้วยเฮดเซต Apple Vision Pro และ iPadOS 19
เริ่มที่ Vision Pro ก่อน ข้อมูลของ Gurman บอกว่าแอปเปิลกำลังพัฒนา Vision Pro ใหม่อย่างน้อยสองรุ่น โดยมีสองแนวทางที่ต่างกัน รุ่นแรกจะมีน้ำหนักเบาลง ราคาถูกลง เพื่อให้เข้าถึงผู้ใช้งานมากขึ้น ส่วนอีกรุ่นเน้นขายตลาดลูกค้าองค์กร ที่ไม่ต้องการดีเลย์ จึงเชื่อมต่อผ่านสายกับ Mac สำหรับงานเช่น การผ่าตัด หรือ จำลองการบิน (Flight Simulation) เป็นต้น
เว็บไซต์ The Information รายงานว่ากูเกิลปลดพนักงานออกเป็นหลักร้อยคน (hundreds) ในทีม Android และ Pixel ซึ่งเป็นความต่อเนื่องจากข่าว กูเกิลเปิดโครงการพนักงานสมัครใจลาออก หลังรวมทีม Pixel, Android, Chrome เข้าด้วยกัน เมื่อเดือนมกราคม 2025
ทีมที่เป็นข่าวปลดพนักงาน เกิดจากการปรับโครงสร้างในปี 2024 ที่รวมทีม Pixel, Android, Chrome เข้าด้วยกันในชื่อ Platforms and Devices หลังจากรวมทีมมีพนักงานที่ซ้ำซ้อนกัน จึงเปิดให้สมัครใจลาออก และนำมาสู่การปลดออกในที่สุด
ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าพนักงานที่ถูกปลดออกมีทั้งหมดกี่คน และมีทีมย่อยไหนที่ได้รับผลกระทบบ้าง
มีรายงานว่า Safe Superintelligence หรือ SSI บริษัทปัญญาประดิษฐ์ที่ก่อตั้งโดย Ilya Sutskever อดีตหัวหน้านักวิทยาศาสตร์และผู้ร่วมก่อตั้ง OpenAI ได้รับเงินเพิ่มทุนรอบใหม่ 2 พันล้านดอลลาร์ จากนักลงทุนนำโดย Greenoaks ที่มูลค่ากิจการ 3.2 หมื่นล้านดอลลาร์ ตามที่มีข่าวก่อนหน้านี้
มูลค่ากิจการที่เพิ่มเป็น 3.2 หมื่นล้านดอลลาร์ ทำให้ SSI เป็นสตาร์ทอัปที่มาแรงมากรายหนึ่ง เพราะย้อนไปในกันยายนปีที่แล้ว บริษัทยังมีมูลค่ากิจการที่ 5 พันล้านดอลลาร์ จากเงินลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์ เวลานั้น
ยังอยู่กับประเด็นปัญหาของ Siri ผู้ช่วยอัจฉริยะในอุปกรณ์ของแอปเปิล ซึ่งฟีเจอร์ปรับปรุงครั้งใหญ่ถูกเลื่อนออกไปจากกำหนดเดิม พร้อมกับข่าวการปรับตำแหน่งผู้บริหารภายในแอปเปิล
ข้อมูลนี้มาจาก New York Times บอกว่าแอปเปิลยังเดินหน้าพัฒนา Siri ใหม่อยู่ ไม่ได้คิดยกเลิกโครงการ คาดว่าอัปเดตแรกจะออกช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีนี้หรือปลายปี แต่ความสามารถอาจไม่ครบถ้วนเท่าที่แอปเปิลเคยประกาศในงาน WWDC 2024 ซึ่งที่มีรายงานคือการสั่งแก้ไขและแชร์รูปถ่ายให้เพื่อนได้
ก่อนหน้านี้แอปเปิลออกมายืนยันการเลื่อนออกฟีเจอร์ใหม่ Siri พลัง Apple Intelligence ที่จะล่าช้ากว่ากำหนด ซึ่งมีข้อมูลไม่ทางการว่าแอปเปิลอาจต้องรื้อทำทั้งหมด กว่าจะเปิดตัวได้อีกทีก็ปีหน้า กระทบต่อแผนเปิดตัวสินค้าใหม่เช่นอุปกรณ์สมาร์ทโฮม นอกจากนี้แอปเปิลยังปรับตำแหน่งผู้บริหารที่เกี่ยวข้องอีกด้วย
The Information มีข้อมูลเพิ่มเติมว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้นบ้างกับการพัฒนา Siri ในช่วงที่ผ่านมา และแอปเปิลวางแผนแก้ปัญหานี้อย่างไรบ้าง ซึ่งสรุปเป็นประเด็นได้ดังนี้
Reuters มีข้อมูลใหม่ หลังจากทางการของอินเดียเปิดเผยว่าแอปเปิลเร่งขนส่ง iPhone ไปอเมริกา ก่อนที่สหรัฐจะออกคำสั่งขึ้นภาษีนำเข้าสินค้า โดยข้อมูลก่อนหน้านี้บอกว่ามีเครื่องบิน 5 ลำ ขนส่งสินค้าออกไปภายใน 3 วัน
แหล่งข่าวของ Reuters บอกว่าหลังจากสหรัฐออกคำสั่งเลื่อนการเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มเติมไป 90 วัน ทำให้แอปเปิลเร่งใช้โอกาสนี้ให้คุ้มที่สุด โดยคลังสินค้าที่สนามบิน Chennai ในอินเดียซึ่งเป็นจุดขนส่งหลักสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ของบริษัทต่าง ๆ แอปเปิลได้เร่งเจรจาให้กระบวนศุลกากรจบเร็วขึ้น จากปกติ 30 ชั่วโมง เหลือ 6 ชั่วโมง เพื่อหวังนำ iPhone ออกไปอเมริกาในช่วงเวลานี้ให้มากที่สุด
The Wall Street Journal อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องเผยว่า แอปเปิลได้สั่งเร่งนำเข้า iPhone จากอินเดียมาสหรัฐอเมริกาจำนวนมาก เพื่อหวังชดเชยความเสี่ยงจากคำสั่งขึ้นภาษีนำเข้าสินค้า ซึ่งอินเดียมีอัตราภาษีใหม่ 26% ส่วนจีนซึ่งเป็นฐานการผลิตหลักของ iPhone อัตราภาษีอาจสูงถึง 54%
ในปีที่ผ่านมาแอปเปิลผลิต iPhone ในอินเดียประมาณ 25 ล้านเครื่อง โดย 10 ล้านเครื่องทำเพื่อขายในอินเดีย แต่แผนล่าสุดนั้นแอปเปิลต้องการให้ iPhone ในอินเดียเกือบทั้งหมดส่งไปที่อเมริกา ซึ่งจะรองรับประมาณ 50% ของ iPhone ที่ขายได้ในอเมริกา นอกจากนี้แอปเปิลยังสั่งเพิ่มการผลิต iPhone ในอินเดียอีกด้วย