Scott Belsky หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์ออกมาให้สัมภาษณ์ชี้แจง ประเด็นที่มีการรายงานเมื่อต้นเดือนว่า Adobe ปรับปรุงเงื่อนไขการใช้งาน ระบุว่าจะนำข้อมูลที่เก็บไว้ใน Creative Cloud มาใช้เทรนอัลกอริธึมเพื่อปรับปรุงและพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยเป็นข้อตกลงแบบ opt-out ที่เปิดการยินยอมเป็นค่าเริ่มต้น ทำให้เกิดความกังวลว่า Adobe อาจใช้ข้อมูลนี้สำหรับใช้ในงานสร้างภาพจาก AI (Generative AI) ซึ่งเวลานั้น Adobe ก็ยืนยันว่าไม่ใช่
Adobe ส่งเอกสารชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับดีลซื้อกิจการ Figma หลังหน่วยงานกำกับดูแลเข้ามาตรวจสอบประเด็นผูกขาด ซึ่งมีข้อมูลใหม่ว่ามีอีกบริษัทได้พูดคุยเรื่องซื้อกิจการ Figma ด้วยตอนนั้น
ในเอกสารนั้น Adobe ระบุชื่อว่าบริษัท A แต่ CNBC อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้อง ยืนยันว่าบริษัทนั้นคือไมโครซอฟท์ โดยการพูดคุยเกิดขึ้นหลังจาก Adobe มาขอซื้อกิจการครั้งแรก ที่ปรึกษาทางการเงินของ Figma จึงแนะนำให้ลองคุยกับผู้สนใจรายอื่น ซึ่งไมโครซอฟท์มีการใช้งาน Figma ภายในบริษัทอยู่มาก แต่ก็จบที่ไมโครซอฟท์ปฏิเสธข้อเสนอนี้ไป
Adobe เปลี่ยนแปลงนโยบายการวิเคราะห์เนื้อหาใหม่โดยจะนำข้อมูลของผู้ใช้ที่เก็บไว้ในบริการ Creative Cloud ทั้งในรูปแบบภาพ เสียง วิดีโอ ตัวอักษรและเอกสารมาใช้ในการเทรนอัลกอริธึมเพื่อปรับปรุงบริการและผลิตภัณฑ์ของบริษัทโดยอัติโนมัติหากผู้ใช้ไม่กด opt-out ออก ส่วนข้อมูลที่อยู่บนอุปกรณ์ของผู้ใช้ไม่ได้ถูกนำมาวิเคราะห์ร่วมด้วย
นโยบายนี้ได้รับการอัปเดตในช่วงเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ทางฝั่ง Adobe เผยว่าบริษัทให้ผู้ใช้มีสิทธิ์ในการตัดสินใจอยู่แล้วเพราะหากไม่ต้องการให้ทาง Adobe นำข้อมูลไปใช้ก็สามารถกด opt-out ได้ นอกจากนี้ Adobe ไม่ได้นำข้อมูลผู้ใช้ไปเทรน Generative AI ด้วย
Adobe รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 4 ตามปีการเงินบริษัท 2022 สิ้นสุดวันที่ 2 ธันวาคม 2022 รายได้รวม 4,525 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิตามบัญชี GAAP ที่ 465 ล้านดอลลาร์
กลุ่มธุรกิจ Digital Media มีรายได้ 3.30 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 10% แบ่งเป็นกลุ่ม Creative มีรายได้ 2.68 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 8% ส่วน Document Cloud รายได้ 619 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 16% ขณะที่กลุ่มธุรกิจ Digital Experience มีรายได้ 1.15 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 14% เป็นรายได้จาก subscription 1.01 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 14%
Adobe ประกาศนโยบายว่าบริการซื้อขายภาพสต๊อก Adobe Stock จะยอมรับภาพที่สร้างด้วย AI (generative AI) เข้ามาขายบนแพลตฟอร์ม ภายใต้เงื่อนไขว่าต้องแปะป้ายว่าสร้างด้วย AI เสมอ
ส่วนนโยบายการคัดกรองเนื้อหาของภาพในระบบ จะถูกปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกันกับภาพสต๊อกประเภทอื่นๆ และห้ามเป็นภาพที่ละเมิดลิขสิทธิ์ของภาพ บุคคล สถานที่ หรือสไตล์ของนักวาดคนอื่นด้วย
นโยบายเรื่องการยอมรับภาพจาก AI ของเว็บไซต์ขายรูปสต๊อกแต่ละแห่งแตกต่างกันมาก เช่น Shutterstock ยอมรับ แถมยังไปจับมือร่วมกับ OpenAI ในขณะที่ Getty Images ไม่ยอมรับทุกกรณี
Adobe ประกาศในงานของ Qualcomm ว่าจะออกแอพในตระกูล Creative Cloud ที่รองรับ Windows on Arm แบบเนทีฟอีกสองตัวคือ Adobe Fresco และ Adobe Acrobat แต่ยังไม่บอกช่วงเวลาที่แน่ชัด
ที่ผ่านมา Adobe มีแอพที่รองรับ Windows on Arm อยู่ก่อนแล้วคือ Lightroom และ Photoshop (แม้ถูกวิจารณ์ว่าประสิทธิภาพไม่ดีเท่าไรนัก)
นอกจากนี้ Adobe ยังประกาศจะออก Adobe Aero เครื่องมือสร้างโมเดล AR เวอร์ชัน Android ด้วย
ที่มา - Qualcomm
แหล่งข่าวของ POLITICO และเอกสารระบุว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (Department of Justice - DOJ) กำลังเตรียมสอบสวนเชิงลึกกรณีที่ Adobe ซื้อ Figma ด้วยมูลค่า 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ว่าเป็นการผูกขาดการค้าของฝั่งบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ออกแบบหรือไม่
Adobe ประกาศหยุดซัพพอร์ตระบบสี Pantone Color ในแอพกลุ่ม Creative Cloud ทั้งหมด (เช่น Photoshop, Illustrator, InDesign) ด้วยเหตุผลเรื่องไลเซนส์การใช้งานสีระหว่าง Adobe กับ Pantone
หลังเดือนพฤศจิกายน 2022 แอพของ Adobe จะรองรับสีของ Pantone เหลือแค่ 3 ชุดเท่านั้นคือ Pantone + CMYK Coated, Pantone + CMYK Uncoated, Pantone + Metallic Coated
หากผู้ใช้งานยังจำเป็นต้องใช้ระบบสีของ Pantone อยู่ สามารถติดตั้งปลั๊กอิน Pantone Connect เพิ่มได้ โดยต้องเสียค่าสมาชิกรายเดือน 14.99 ดอลลาร์ให้ Pantone
Adobe ประกาศอัพเดตฟีเจอร์ของ Adobe Creative Cloud เน้นฟีเจอร์ด้านปัญญาประดิษฐ์ที่ช่วยในการปรับแต่งภาพและวิดีโอ ไปจนถึงการใช้ปัญญาประดิษฐ์เติมภาพหรือวัตถุในลงภาพได้แล้ว
Photoshop ปรับตัวเครื่องมือ Selection ช่วยเลือกวัตถุในภาพอย่างฉลาด โดยเวอร์ชั่นนี้จะเลือกได้แม่นยำแม้เป็นส่วนเส้นผมที่ปกติเลือกได้ยาก
ฟีเจอร์ซ่อมภาพอัตโนมัติ Photo Restoration Neural Filter แก้ไขภาพเก่าให้เหมือนภาพใหม่ได้ในฟิลเตอร์เดียว ทั้งการลดรอยเปื้อนในภาพ, ปรับแต่งภาพขาวดำให้เป็นภาพสี, พร้อมกับเติมภาพในกรณีที่ภาพเดิมขาดหาย
Generative AI เป็นฟีเจอร์สร้างภาพตามคำบรรยาย แต่อาศัยภาพเติมเป็นตัวตั้งต้น โดยผู้ใช้สามารถเลือกพื้นที่ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงภาพแล้วพิมพ์คำสั่งลงไป เช่นการสร้างภาพเมืองบาดาล
Adobe ประกาศออกเวอร์ชันอัพเดต Photoshop Elements 2023 และ Premiere Elements 2023 ซอฟต์แวร์แบบขายขาด ที่จับกลุ่มผู้ใช้งานมือใหม่ หรือต้องการเครื่องมือแต่งภาพและวิดีโอที่ไม่ซับซ้อน
ในอัพเดตของ Elements 2023 ได้เพิ่มเครื่องแต่งรูปและวิดีโอด้วย AI ที่ใช้งานง่าย เช่น Moving Elements สามารถใส่การเคลื่อนไหวให้กับภาพนิ่ง เพื่อทำเป็น MP4 หรือ GIF สำหรับแชร์ลงโซเชียล, Artistic Effects ใส่เอฟเฟกต์สไตล์งานศิลปะ, เครื่องมือเพิ่มความลึกของภาพอัตโนมัติ
โปรแกรมยังปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน เปิดเร็วขึ้น 50% จากเวอร์ชันก่อน ขนาดไฟล์เล็กลง 48% และรองรับซีพียู M1 ให้ทำงานเร็วขึ้นถึง 70% รวมทั้งเพิ่มการทำงานร่วมกับแอปในมือถือและผ่านเว็บเบราว์เซอร์
Scott Belsky หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ Adobe ให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg ถึงทิศทางของ Figma หลังจาก Adobe ประกาศเข้าซื้อกิจการ ทำให้ผู้ใช้งาน Figma น่าจะกังวลว่าตัวแอปและบริการจะเปลี่ยนแปลงไปเมื่ออยู่กับ Adobe
Belsky บอกว่า Figma จะยังใช้โมเดลแบบฟรีเมียมที่เป็นอยู่ในปัจจุบันต่อไป นั่นคือการใช้งานพื้นฐานจะฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย เขาบอกว่าไม่ต้องการไปเปลี่ยนอะไรหากมันดีอยู่แล้ว ส่วน XD นั้น Adobe จะปรับรื้อทีมงานและโฟกัสหลังดีล Figma เสร็จสิ้น
Dana Rao หัวหน้าฝ่ายกฎหมายของ Adobe ให้สัมภาษณ์กับเว็บข่าว Axios ถึงเหตุผลที่ต้องทุ่มทุนซื้อ Figma ในราคาสูงถึง 2 หมื่นล้านดอลลาร์ จนเป็นเหตุให้ราคาหุ้นของบริษัทตกลงอย่างหนัก เพราะนักลงทุนมองว่าซื้อแพงเกินไป
Adobe รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ตามปีการเงินบริษัท 2022 สิ้นสุดวันที่ 2 กันยายน 2022 มีรายได้รวม 4,433 ล้านดอลลาร์ เป็นสถิติสูงสุดต่ออีกไตรมาส เพิ่มขึ้น 13% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน มีกำไรสุทธิตามบัญชี GAAP ที่ 1,136 ล้านดอลลาร์
กลุ่มธุรกิจ Digital Media มีรายได้ 3.23 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 13% โดยกลุ่ม Creative 2.63 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 11% กลุ่ม Document Cloud 607 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 23% ส่วนกลุ่ม Digital Experience รายได้ 1.12 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 14%
Adobe ประกาศซื้อกิจการ Figma ซอฟต์แวร์ออกแบบ UI ชื่อดัง ในราคา 2 หมื่นล้านดอลลาร์ จ่ายเป็นเงินสดผสมหุ้นอย่างละครึ่ง
Figma ก่อตั้งในปี 2012 โดย Dylan Field และ Evan Wallace มีจุดเริ่มต้นเป็นซอฟต์แวร์ออกแบบผ่านเว็บเบราว์เซอร์ และเน้นการทำงานร่วมกันระหว่างคนในทีม
Adobe บอกว่าซื้อ Figma เพราะมีภารกิจตรงกันในแง่การยกระดับด้านงานสร้างสรรค์ และจะเข้ามาช่วยเติมเต็มซอฟต์แวร์สายสร้างสรรค์ของ Adobe ที่มีอยู่แล้วให้ครบถ้วนขึ้น (ยกเว้น Adobe XD เพราะอยู่ในจักรวาลคู่ขนาน) หลังซื้อกิจการแล้ว Figma จะถูกรวมอยู่ในชุด Creative Cloud แต่ยังไม่เผยรายละเอียด
Dylan Field ซีอีโอของ Figma จะยังดำรงตำแหน่งต่อไป โดย Adobe คาดว่ากระบวนการซื้อกิจการจะเสร็จสิ้นในปี 2023
Adobe ประกาศซื้อกิจการ Figma เครื่องมือสำหรับออกแบบ UI/UX ชื่อดัง มูลค่าดีลราว 20,000 ล้านดอลลาร์ โดยจ่ายเป็นเงินสดและหุ้นของ Adobe อย่างละครึ่ง
Shantanu Narayen ซีอีโอ Adobe กล่าวว่าทั้ง Adobe และ Figma ต่างมีเป้าหมายพัฒนาเครื่องมือสำหรับโลกดิจิทัลในยุคถัดไป ทั้งงานออกแบบ งานสร้างสรรค์ ตลอดจนงานสำหรับนักพัฒนา การรวมกิจการเข้าด้วยกัน จะช่วยเสริมการเติบโตทั้งด้านนวัตกรรมและฐานผู้ใช้งาน
Figma ก่อตั้งในปี 2012 มีผลิตภัณฑ์หลักคือ Figma แพลตฟอร์มออกแบบครบทุกด้าน และ FigJam กระดานบันทึกสำหรับงานออกแบบร่วมกันในทีม หลังดีลนี้เสร็จสิ้น Dylan Field ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Figma จะรับผิดชอบ Figma ต่อไป โดยขึ้นตรงกับฝ่าย Digital Media ของ Adobe และยังแยกผลิตภัณฑ์กันต่อไป
Adobe รายงานผลสำรวจ Adobe’s Future of Creativity: 2022 U.S. Emoji Trend Report ซึ่งสำรวจการใช้อิโมจิจากผู้ใช้ 5,000 คนในสหรัฐอเมริกา โดยสำรวจว่าผู้ใช้ใช้อิโมจิเมื่อไรและใช้อย่างไร รวมถึงสาเหตุที่เลือกใช้อิโมจิด้วย
อิโมจิที่ได้รับความนิยมมากที่สุด 5 อันดับได้แก่ 😂, 👍, ❤️, 🤣, 😢 73% จากกลุ่มผู้ใช้มองว่าคนที่ใช้อิโมจิถูกมองว่าเป็นมิตรและตลกขึ้นกว่าคนที่ไม่ได้ใช้ ส่วนอีก 91% รู้สึกว่าอิโมจิทำให้พวกเขาแสดงความรู้สึกง่ายขึ้น
Adobe รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 2 ตามปีการเงินบริษัท 2022 สิ้นสุดวันที่ 3 มิถุนายน 2022 รายได้รวมยังคงเติบโตทำสถิติใหม่สูงสุดที่ 4,386 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 14% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน มีกำไรสุทธิตามบัญชี GAAP ที่ 1,178 ล้านดอลลาร์
กลุ่มธุรกิจ Digital Media มีรายได้เพิ่มขึ้น 15% เป็น 3.20 พันล้านดอลลาร์ โดยรายได้จาก Creative เพิ่มขึ้น 12% เป็น 2.61 พันล้านดอลลาร์ Document Cloud เพิ่มขึ้น 27% เป็น 595 ล้านดอลลาร์
Shantanu Narayen ซีอีโอ Adobe กล่าวว่าบริษัทยังไม่มีแผนซื้อกิจการใดเพิ่มเติมในพอร์ตโฟลิโอผลิตภัณฑ์ แต่ก็จะพิจารณาบางบริษัทที่อาจประสบปัญหาการเงินตอนนี้ เนื่องจากราคาที่ใช้ซื้อกิจการเริ่มปรับลดลงจนเหมาะสมมากกว่าแต่ก่อน
Adobe ออกอัพเดตให้ Lightroom และ Lightroom Classic เพิ่มฟีเจอร์หลายอย่าง แต่จุดที่เห็นชัดที่สุดคงเป็นการตัดคลิปวิดีโอได้ในตัว โดยสามารถตัดหน้าหลัง (trim) คลิปเพื่อเลือกเฉพาะช่วงเวลาที่ต้องการ และสามารถโยกค่า settings ต่างๆ จากภาพถ่ายมาใช้กับวิดีโอได้ด้วย
ฟีเจอร์เล็กๆ อีกตัวหนึ่งที่ Adobe ระบุว่ามีคนร้องขอมานาน คือการลบตาแดง ใน Lightroom ใหม่สามารถใช้ AI หาดวงตาทั้งหมดและลบตาแดงได้ทั้งภาพในคลิกเดียว
ฟีเจอร์ Presets ยังเพิ่ม Adaptive Preset ที่สามารถเลือกใช้ preset กับส่วนต่างๆ ของภาพเช่นท้องฟ้าหรือคนในภาพ พร้อมกับเพิ่ม Premium Presets จากช่างภาพชื่อดังอีก 5 รายการ
Adobe เปิดตัว Photoshop บนเว็บมาตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว แต่เวอร์ชั่นเว็บนั้นทำได้เพียงดูภาพที่ตกแต่งจากผู้ใช้ Photoshop เดิมเท่านั้น ตอนนี้อัพเดตใหม่ทำให้ผู้ใช้ Photoshop สามารถกดสร้างภาพใหม่จากในเบราว์เซอร์ได้โดยตรง
Photoshop บนเว็บตอนนี้เพิ่มฟีเจอร์ เช่น Curves, Refine Edge, Dodge and Burn, และ Smart Object พร้อมกับรองรับการใช้งานจากเบราว์เซอร์บนโทรศัพท์และแท็บเล็ต
ตอนนี้ Adobe ทดสอบบัญชี Adobe ฟรีเฉพาะในแคนาดา โดยผู้ใช้สามารถสมัครบัญชีได้ฟรี และใช้งาน Photoshop จากบนเว็บได้เลย ทำให้รูปแบบคล้ายกับ Microsoft Office ที่มีบัญชีใช้งานเวอร์ชั่นเว็บได้ฟรี แต่ต้องสมัครแบบเสียเงินเพื่อใช้แอปเดสก์ทอป
Adobe รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 ตามปีการเงินบริษัท 2022 สิ้นสุดวันที่ 4 มีนาคม 2022 รายได้รวมยังเติบโตทำสถิติใหม่ที่ 4,262 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 9% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิตามบัญชี GAAP 1,266 ล้านดอลลาร์
กลุ่มธุรกิจ Digital Media รายได้ส่วนนี้ 3.11 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 9% แบ่งเป็น Creative เพิ่มขึ้น 7% เป็น 2.55 พันล้านดอลลาร์ Document Cloud เพิ่มขึ้น 17% เป็น 562 ล้านดอลลาร์ ส่วนรายได้ทั้งกลุ่มต่อเนื่องใน 1 ปี (ARR) เพิ่มขึ้นเป็น 12.57 พันล้านดอลลาร์
Adobe ออกอัพเดต Premiere Pro เวอร์ชันใหม่ โดยฟีเจอร์ที่น่าสนใจของอัพเดตครั้งนี้คือฟีเจอร์ Remix ที่ใช้ Adobe Sensei ระบบ AI เพื่อปรับเพลงให้เหมาะกับวิดีโอ กับ Speech to Text ใหม่ที่เร็วกว่าเดิม 3 เท่า
ฟีเจอร์ Remix ของ Adobe Premiere Pro เริ่มทดสอบมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว โดยฟีเจอร์นี้จะใช้พลัง AI ของ Adobe Sensei วิเคราะห์และมิกซ์เพลงใหม่ให้เหมาะสมกับความยาวที่ต้องการ ไม่ว่าจะปรับให้ยาวหรือสั้นกว่าต้นฉบับ ซึ่ง Remix จะโปรเซสเสร็จภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่วินาที จากที่โปรเซสเดิมที่ต้องใช้เวลานับชั่วโมง
สำหรับมือใหม่ที่พึ่งหัดตัดต่อวิดีโอ มักพบเจอปัญหาไม่รู้ใช้โปรแกรมตัดต่อวิดีโออะไรดี ครั้นจะไปใช้โปรแกรมตระกูล Adobe อย่าง Premiere Pro ก็ต้องเสียเงินใช้เป็นรายเดือน เดือนละหลายบาท จะใช้ของก็อปก็ผิดกฎหมาย เสี่ยงโดนค่าปรับที่ไม่คุ้มกันอีก วันนี้เราเลยจะมาแนะนำโปรแกรมตัดต่อเบื้องต้นแบบที่ใช้ง่าย ฟังก์ชั่นหลากหลาย ได้ภาพสวยคมชัด และที่สำคัญคือ ใช้ฟรี! จนไม่ต้องง้อ Premiere Pro ก็ได้ ถ้าอยากรู้แล้วว่ามีโปรแกรมอะไรบ้างมาเริ่มที่โปรแกรมแรกกันเลย
สำหรับมือใหม่ที่พึ่งหัดตัดต่อวิดีโอ มักพบเจอปัญหาไม่รู้ใช้โปรแกรมตัดต่อวิดีโออะไรดี ครั้นจะไปใช้โปรแกรมตระกูล Adobe อย่าง Premiere Pro ก็ต้องเสียเงินใช้เป็นรายเดือน เดือนละหลายบาท จะใช้ของก็อปก็ผิดกฎหมาย เสี่ยงโดนค่าปรับที่ไม่คุ้มกันอีก วันนี้เราเลยจะมาแนะนำโปรแกรมตัดต่อเบื้องต้นแบบที่ใช้ง่าย ฟังก์ชั่นหลากหลาย ได้ภาพสวยคมชัด และที่สำคัญคือ ใช้ฟรี! จนไม่ต้องง้อ Premiere Pro ก็ได้ ถ้าอยากรู้แล้วว่ามีโปรแกรมอะไรบ้างมาเริ่มที่โปรแกรมแรกกันเลย
Adobe รายงานผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 4 ตามปีการเงินบริษัท 2021 สิ้นสุดวันที่ 3 ธันวาคม รายได้รวมยังเพิ่มขึ้นทำสถิติต่ออีกไตรมาสเป็น 4,110 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 20% จากช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิตามบัญชี GAAP 1,233 ล้านดอลลาร์
รายได้จากกลุ่มธุรกิจ Digital Media เพิ่มขึ้น 21% เป็น 3.01 พันล้านดอลลาร์ โดย Creative เพิ่มขึ้น 19% เป็น 2.48 พันล้านดอลลาร์ และ Document Cloud เพิ่มขึ้น 29% เป็น 532 ล้านดอลลาร์ และมีรายได้ทั้งกลุ่มต่อเนื่องใน 1 ปี (ARR) เพิ่มขึ้นเป็น 12,240 ล้านดอลลาร์ ส่วนใหญ่มาจากกลุ่ม Creative ส่วนอีกกลุ่มธุรกิจ Digital Experience รายได้เพิ่มขึ้น 23% เป็น 1.01 พันล้านดอลลาร์
Adobe ประกาศยุติแอพวาดรูปบนอุปกรณ์พกพา 2 ตัวคือ Photoshop Sketch และ Illustrator Draw ที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2014 (บางครั้งเรียก Adobe Sketch และ Adobe Draw) โดยจะใช้งานไม่ได้ในวันที่ 10 มกราคม 2022
เหตุผลคือ Adobe มีแอพวาดรูปตัวใหม่ Adobe Fresco ที่เปิดตัวในปี 2019 (รีวิวของ Blognone) ใช้งานได้ทั้งบน iOS และ Windows อย่างไรก็ตาม Fresco ยังไม่มีบน Android ทำให้ผู้ใช้ Sketch/Draw บน Android คงต้องเปลี่ยนไปใช้แอพตัวอื่นกันแทน