เราเห็น "ประมาณการณ์ยอดขาย" สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตจากบริษัทวิจัยตลาดกันมาเยอะ คราวนี้มาดูตัวเลขจริงๆ จากบริษัทผู้ผลิตกันบ้างครับ

เนื่องจากคดีระหว่างแอปเปิลและซัมซุงในสหรัฐ ทำให้ทั้งสองบริษัทจำเป็นต้องเปิดเผย "ตัวเลขที่แท้จริง" ในเอกสารที่ยื่นต่อศาล โดยนับเฉพาะยอดขายในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น

ข่าวแรกเอาของแอปเปิลก่อนนะครับ ส่วนตัวเลขของซัมซุงดูในข่าวนี้

ยอดขายรวมทั้งหมดของผลิตภัณฑ์แอปเปิลแต่ละชนิด (นับตั้งแต่วันเปิดตัวจนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม 2012)

คนที่ใช้อินเทอร์เน็ตมานานแล้วคงจะรู้ว่าการอยู่บนโลกอินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัยได้ ต้องไม่โพสต์รูปบัตรเดบิตการ์ดของตัวเอง หรือตำแหน่งบ้านของตัวเอง แต่ล่าสุดเว็บ WeKnowYourHouse ได้เอาตำแหน่งบ้านของผู้ใช้งานทวิตเตอร์มาเปิดเผยแล้ว

WeKnowYourHouse ใช้วิธีแสกนข้อมูลทวีต ที่มีการเอ่ยถึงคำว่า "Home" และผูกข้อมูลดังกล่าวเข้ากับตำแหน่งละติจูดและลองติจูด และนำข้อมูลเหล่านั้นไปแปะบน Google Maps

สัญญาณจากค่ายคู่แข่งเริ่มชัดเจน ทางฝั่ง Amazon ก็มีความเคลื่อนไหวด้วยเหมือนกัน

ทีมงาน Outlook.com ของไมโครซอฟท์ตอบคำถามผู้ใช้งานบนเว็บไซต์ไอที Gizmodo มีข้อมูลที่น่าสนใจหลายอย่างดังนี้

Barnes & Noble ประกาศหั่นราคาแท็บเล็ตตระกูล Nook หลายรุ่นดังนี้

• Nook Color จาก 169 ดอลลาร์ เหลือ 149 ดอลลาร์
• Nook Tablet 8GB จาก 199 ดอลลาร์ เหลือ 179 ดอลลาร์
• Nook Tablet 16GB จาก 249 ดอลลาร์ เหลือ 199 ดอลลาร์

การลดราคาครั้งนี้น่าจะช่วยให้ Nook Tablet สามารถแข่งขันด้านราคากับ Nexus 7 รุ่น 8GB ที่ตั้งราคา 199 ดอลลาร์ได้ นอกจากนี้คงเป็นสัญญาณเตรียมรับ Nook Tablet รุ่นใหม่ในอนาคตอันใกล้นี้ด้วย (รวมถึงคู่แข่งอย่าง Kindle Fire รุ่นใหม่ด้วย)

ที่มา - CNET

เอชพีเปิดตัวกล่อง HP 3005pr สำหรับเพิ่มพอร์ตภายนอกผ่าน USB 3.0 โดยเพิ่มจอได้อีกสองจอ, พอร์ตแลน 1Gbps, ช่องหูฟังและไมโครโฟน, และพอร์ต USB ทั้ง 2.0 และ 3.0 อีกหกพอร์ต ราคาตั้ง 149 ดอลลาร์

แม้จะเป็นสินค้าเสริมสำหรับเอชพีเอง แต่กล่อง HP 3005pr จริงๆ แล้วก็เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ชิป DisplayLink ผู้ผลิตที่ทำการ์ดกราฟิกผ่านพอร์ต USB มานาน ดังนั้นการนำไปใช้กับยี่ห้ออื่นคงไม่มีปัญหาอะไร ตัว DisplayLink เองก็ประกาศว่าไดร์เวอร์สำหรับลินุกซ์นั้นจะมา "เร็วๆ นี้" (ตัวชิปเปิดตัวเมื่อต้นปีที่ผ่านมา)

ก่อนหน้านี้ Lenovo ก็ผลิตกล่องเพิ่มพอร์ตแบบเดียวกัน แต่ราคาแพงกว่านี้คือ 179 ดอลลาร์ทางเลือกสำหรับการใช้กล่องแบบนี้อาจจะน่าสนใจสำหรับเครื่องรุ่นใหม่ๆ ที่พอร์ตที่มากับเครื่องนับวันจะน้อยลงเรื่อยๆ

DigiTimes รายงานว่า อินเทลอาจผลักดันเทคโนโลยีการชาร์จไฟแบบไร้สายที่บริษัทคิดค้นขึ้นเองลงอัลตร้าบุ๊กและสมาร์ทโฟนบนแพลตฟอร์มของบริษัทในครึ่งปีหลังของปีหน้า

แหล่งข่าวระบุว่า เทคโนโลยีการชาร์จไฟแบบไร้สายของอินเทลนั้นจะใช้อัลตร้าบุ๊กที่ติดตั้งซอฟต์แวร์ที่บริษัทพัฒนาขึ้นเพื่อการชาร์จไฟแบบไร้สายโดยเฉพาะเป็นแหล่งจ่ายพลังงาน และตัวส่ง (transmitter) เพื่อชาร์จไฟแบบไร้สายให้สมาร์ทโฟน นอกจากนั้นเทคโนโลยีนี้จะมีฟีเจอร์ลดการใช้พลังงานและสมาร์ทโฟนที่จะชาร์จไฟก็ไม่จำเป็นต้องวางอยู่ในตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งโดยเฉพาะเพื่อทำการชาร์จไฟ

จากข่าวเมื่อต้นปี ออราเคิลยืดอายุ Java SE 6 ไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน 2012 ล่าสุดทางออราเคิลก็ตัดสินใจยืดอายุขัยของ Java 6 ไปอีกรอบเป็นเดือนกุมภาพันธ์ 2013

ใกล้เปิดยุคของ Windows 8 เข้าไปเรื่อยๆ หลังจากเอเซอร์ เปิดราคา ultrabook ที่โชว์ในงาน Computex อย่าง S7 แล้ว

ย้อนสเปคกันก่อน S7 เป็น ultrabook จอสัมผัสตัวแรกของ Acer ใช้หน้าจอความละเอียด 1080p (มีสองขนาดหน้าจอ 13" และ 11.6") เปิดราคาในอังกฤษแล้วที่ 1,149 ปอนด์ (ประมาณ 56,000 บาท) ด้วยสเปคเริ่มต้นซีพียู Core i5 พร้อม SSD 128 GB และแรม 4GB

รุ่นที่เปิดราคามานั้นเป็นรุ่น 13" จะเริ่มวางขายปลายเดือนกันยายนนี้ครับ

ที่มา - SlashGear

ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวลือ Retina MacBook Pro (rMBP) รุ่น 13" ว่าจะขายช่วงเดือนตุลาคมมาแล้ว โดยอ้างข้อมูลจากทั้ง Kuo และ Digitimes (ซึ่งเป็นเจ้าที่ปล่อยข่าวลือบ่อยๆ ทั้งคู่)

ล่าสุดมีข้อมูลมายืนยันการมีตัวตนอยู่ของ rMBP 13" แล้ว หลังจากมีผลสำรวจเครื่องปริศนาในรหัส "MacBook10,2" ปรากฏขึ้นใน Geekbench ซึ่งน่าจะหมายถึง rMBP รุ่นใหม่แน่นอน เนื่องจากรหัสต่อจาก rMBP รุ่น 15" ที่ใช้ MacBook10,1 (ส่วนรุ่นที่ไม่ใช่ Retina จะเป็น MacBook9,x)

สเปคที่หลุดออกมาใช้ i7-3520 ความถี่ 2.9GHz เป็นตัวเดียวกับรุ่นท็อปของ MBP รุ่นปกติในปัจจุบัน แรม 8GB มาพร้อมกับ Mountain Lion อีกด้วย

จากที่เมื่อเช้านี้ผมได้มีโอกาสเห็นทวีตของคุณ @buumoon ว่าเว็บไซต์ Gmember ใหม่ใช้วิธีการฝังวีดีโอจาก YouTube มาอีกต่อหนึ่ง ผมจึงลองตรวจสอบข้อมูลดูเพิ่มเติมครับ

เริ่มต้นจากผมได้ลองเข้าไปดูในหน้าดู MV ใหม่ที่เว็บ Gmember (โดยผมได้ทดสอบกับเพลงเหตุผลข้อเดียว) ซึ่งในระบบใหม่นี้ จะมีโฆษณาของทางแกรมมี่เปิดแทรกก่อนในตอนต้น (แต่สามารถกดข้ามได้) ก่อนที่จะสามารถชมวีดีโอได้ โดยวีดีโอถูกสตรีมโดยใช้ Flash และมีอินเตอร์เฟซคล้ายกับของ YouTube แต่ไม่ใช่ของ YouTube หรือมีการอ้างอิงถึง YouTube แต่อย่างใด

BitTorrent Inc. ประกาศว่าโปรแกรมบิตยอดนิยมอย่าง uTorrent จะเริ่มมีโฆษณาแล้ว โดยโฆษณาไม่ได้เป็นแบนเนอร์ แต่จะอยู่ในรูป "featured torrent" ที่แสดงอยู่ด้านบนของรายการไฟล์ที่เรากำลังโหลดอยู่

uTorrent จะคัดเลือกไฟล์ torrent ที่เหมาะกับผู้ใช้ทั้งในแง่ความสนใจและภูมิภาคที่อาศัยอยู่ ไฟล์ที่นำมาโฆษณาอาจเป็นภาพยนตร์ เพลง เกม หรือซอฟต์แวร์ก็ได้ ตัวโฆษณาไม่สามารถปิดทิ้งเป็นการถาวรได้ (แต่มีปุ่ม x เพื่อปิดไม่แสดงโฆษณาชิ้นนั้นๆ แต่จะเลื่อนเป็นโฆษณาชิ้นอื่นแทน) ส่วนคนที่ใช้ uTorrent Plus เวอร์ชันจ่ายเงินจะไม่เห็นโฆษณาลักษณะนี้

เหตุผลที่ uTorrent เริ่มมีโฆษณาคือเรื่องรายได้ของบริษัท ซึ่งเดิมทีหารายได้จากการแถมทูลบาร์ไปกับโปรแกรมเพียงอย่างเดียว (คาดว่าทำเงินได้ปีละ 15-20 ล้านดอลลาร์)

หลังจากซีอีโอของเอเซอร์ JT Wang ได้ออกมาเตือนไมโครซอฟท์ว่าคิดให้ดีก่อนทำ Surface ทาง DigiTimes รายงานว่าเนื่องด้วยมีหลายคนคาดว่าเอเซอร์จะยกเลิกการผลิตแท็บเล็ตบนแพลตฟอร์ม Windows ซีอีโอเอเซอร์จึงได้ออกมาชี้แจงคำเตือนข้างต้น โดยกล่าวว่าเอเซอร์ไม่ได้มีความตั้งใจที่จะออกจากตลาดแท็บเล็ตบนแพลตฟอร์ม Windows แต่อย่างไร และขณะนี้บริษัทก็กำลังพัฒนาแท็บเล็ตบนแพลตฟอร์ม Windows อยู่

เมื่อพูดถึง "แมคอินทอชรุ่นแรก" ทุกคนคงนึกถึงโฆษณาชุด 1984 ที่กลายเป็นตำนานไปแล้ว อย่างไรก็ตาม แท้จริงแล้วแอปเปิลยังมีโฆษณาอีกชุดหนึ่งที่ทำไว้แล้วแต่ไม่ได้ออกอากาศ

Andy Hertzfeld วิศวกรซอฟต์แวร์คนสำคัญของทีมแมคอินทอชรุ่นแรก (ปัจจุบันทำงานกับกูเกิล) เพิ่งนำวิดีโอโฆษณาชุดนี้ (ที่ถ่ายไว้ตั้งแต่ช่วงปลายปี 1983) มาโพสต์ไว้บนอินเทอร์เน็ต โฆษณาชุดนี้เรียบง่ายมากเมื่อเทียบกับชุด 1984 เพราะเป็นการสัมภาษณ์ทีมผู้สร้างแมคอินทอชว่ามีความเห็นอย่างไรต่อผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาสร้างขึ้น

Hertzfeld บอกว่าแอปเปิลตัดสินใจไม่ฉายโฆษณาชุดนี้เพราะรู้สึกว่าชมตัวเองมากเกินไป แต่ก็นำไปใช้บ้างในวิดีโอที่ส่งไปให้ดีลเลอร์ขายแมคบางราย

เนื้อหาตามหัวข่าวจริงๆ ครับ มีคนเอามือถือยอดฮิตแห่งยุคสมัยอย่าง Galaxy S III และ iPhone 4S ไปทดสอบด้วยการลากไปบนผิวถนนลาดยางที่เต็มไปด้วยกรวดหิน เพื่อดูว่ามือถือตัวไหนอึดกว่ากัน

ผู้ทดสอบครั้งนี้คือเว็บไซต์ชื่อ A Perfect Galaxy ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจอะไรที่ผลจะออกมาเข้าข้าง Galaxy S III ที่อึดกว่าเพราะใช้กระจก Gorilla Glass ด้วย (แต่ก็ยังมีรอยอยู่ดี)

แต่ไม่ว่าผู้ชนะจะเป็นใคร ผมคิดว่าทุกคนที่ดูวิดีโอการทดสอบนี้จบคงคิดเหมือนกันว่า "เสียดายของ"

ที่ผ่านมา HTC ทยอยอัพเดต Android 4.0 ICS ให้กับมือถือไปแล้วหลายรุ่น แต่ก็ยังมีมือถืออีกหลายรุ่นที่สัญญาว่าจะได้ ICS แต่อัพเดตยังเงียบหาย

ล่าสุด HTC ตอบคำถามลูกค้าผ่าน Facebook ว่าอัพเดต ICS สำหรับมือถือที่เหลือจะออกภายในสิ้นเดือนสิงหาคมนี้ โดยมือถือที่สัญญาว่าจะได้ ICS แต่ยังต้องรออยู่ได้แก่ Droid Incredible 2, Desire S, Rhyme และ Thunderbolt

นักวิจัยของ NASA ออกมาเปิดเผยว่าภาพถ่ายจากยานสำรวจบนดาวอังคารในภารกิจ Mars Exploration Rover และ Mars Science Laboratory ถูกนำมาประมวลผลผ่านบริการกลุ่มเมฆ Amazon Web Services

เหตุผลก็เพราะศูนย์ข้อมูลของห้องปฏิบัติการวิจัย Jet Propulsion Laboratory (JPL) ที่รับผิดชอบภารกิจเหล่านี้ถูกใช้งานเต็มศักยภาพแล้ว และ NASA ก็ไม่ต้องการสร้างศูนย์ข้อมูลขึ้นมาใหม่ ทางออกคือเช่าใช้บริการคอมพิวเตอร์จากกลุ่มเมฆแทน ผลคือ NASA สามารถทำระบบรองรับภาพถ่ายจำนวนมหาศาลจากดาวอังคารได้ในเวลา 2-3 สัปดาห์ แทนที่จะเป็นหลักเดือนถ้าเลือกสร้างศูนย์ข้อมูลเองทั้งระบบ

ในระยะสองวันที่ผ่านมา เว็บ 9to5Mac และ Nowherelse.fr ได้เผยภาพชิ้นส่วนหลาย ๆ ชิ้นที่เชื่อว่าน่าจะเป็นชิ้นส่วนภายในของ iPhone ตัวต่อไปที่จะวางขายเร็ว ๆ นี้ โดยชิ้นส่วนที่น่าสนใจเป็นพิเศษได้แก่แบตเตอรี่และ dock connector แบบใหม่ที่มีขนาดเล็กกว่าเดิม

สำหรับแบตเตอรี่ในครั้งนี้จากภาพ ดูเหมือนว่าแอปเปิลเลือกที่จะเพิ่มความจุของแบตเตอรี่จาก iPhone 4S เพียงเล็กน้อยเท่านั้น จากเดิม 1430mAh มาเป็น 1440mAh และได้มีการเปลี่ยนค่า watt-s-per-hour (wHr) มาอยู่ที่ 5.45 จากเดิมบน iPhone 4S ที่ 5.3

การซัพพอร์ตแก้บั๊กและอัพเกรดรอมของแอนดรอยด์รุ่นต่างๆ นั้นอาจจะต่างออกไปตามผู้ผลิต แม้แนวโน้มช่วงหลังจะดีขึ้นเรื่อยๆ แต่คนจำนวนมากก็ยังต้องพึ่งรอมอิสระอย่าง CyanogenMod หรือรอมค่ายอื่นๆ อยู่ ปัญหาคือรอมเหล่านี้มีกระบวนการอัพเกรดที่ค่อนข้างยุ่งยากสำหรับผู้ใช้ทั่วไป แม้จะหาคนมาติดตั้งให้ได้ แต่เมื่อมีการอัพเกรดก็มักไม่ได้อัพเกรดตามไปด้วย บริการ OTA Update Center จึงเข้ามาอุดช่องว่างส่วนนี้ด้วยการทำแอพลิเคชั่นบนเครื่องและเซิร์ฟเวอร์สำหรับแจกจ่ายรอมให้กับนักพัฒนาฟรี

เว็บไซต์ Microsoft Kitchen (เว็บไซต์ที่เผยแพร่ข่าวสารที่เกี่ยวกับไมโครซอฟท์ อาทิ ข่าวลือ ข่าวสารเป็นทางการ รีวิว เป็นต้น) เปิดเผยว่าได้ค้นพบโปรไฟล์บน LinkedIn ของพนักงานไมโครซอฟท์หลายคนที่ระบุถึงการมีส่วนร่วมกับ Windows รุ่นถัดไป ซึ่งมีชื่อที่ได้รับการกล่าวถึงอย่างหลากหลาย อาทิ Windows 9, Windows.next , Windows Next หรือกระทั่ง Windows vNext

เว็บไซต์ Win8China ก็รายงานว่า งานด้านการพัฒนา Windows รุ่นใหม่ภายใต้ชื่อ Windows vNext ได้เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 9 ส.ค. ที่ผ่านมา

ต้องมีคนแซวแน่ว่า Windows 8 เป็นตัวเบต้าของ Windows 9

การละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์เป็นปัญหาที่ไม่ว่านักพัฒนาคนไหนก็คงไม่อยากเจอ สำหรับคนที่พัฒนาแอพบน Windows Phone คงจะได้ใจชื้นขึ้นมาบ้าง เมื่อ Microsoft พยายามแก้ปัญหานี้ด้วยการเข้ารหัสแอพทั้งหมดบน Windows Phone Dev Center

เรื่องนี้ถูกเปิดเผยจากโพสต์ใน Windows Phone Developer Blog โดย Todd Brix กล่าวว่าแอพทั้งหมด (รวมไปถึงแอพที่ถูกส่งขึ้นไปแล้ว) จะได้รับการเข้ารหัสโดยอัตโนมัติ นักพัฒนาไม่จำเป็นต้องทำอะไรเพิ่มเติม

ข่าวค่อนข้างเก่าแล้ว แต่เห็นว่าน่าสนใจดีครับ

Google เปิดนิทรรศการ Chrome Web Lab ที่ London Science Museum โดยนิทรรศการนี้มีทั้งหมด 5 โซน และสามารถเข้าชมได้ผ่าน Google Chrome แต่ที่น่าสนใจคือบางนิทรรศการมีการปฏิสัมพันธ์กับสิ่งของจริงๆ ด้วยการสั่งงานผ่านหน้าเว็บ!

โซนทั้ง 5 โซนของนิทรรศการได้แก่

หลังจากอโดบีปล่อย Flex SDK เป็นโอเพนซอร์สเมื่อปลายปีก่อน ตอนนี้โครงการ Apache Flex ก็ออก Flex 4.8 เป็นรุ่นแรกภายใต้โครงการ Apache Incubator แล้ว ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นที่โครงการโอเพนซอร์สที่ได้รับบริจาคซอร์สโค้ดมาต้องทำเพื่อสร้างชุมชน และแก้ไขซอร์สโค้ด เพื่อขอเป็นโครงการตัวจริงใน Apache ต่อไป

ในเอกสารล่าสุดที่ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะจากคดีความที่ยังต่อสู้กันในชั้นศาลระหว่างแอปเปิลกับซัมซุง พบว่าในปี 2010 แอปเปิลเคยเสนอให้ซัมซุงจ่ายค่าสิทธิบัตรให้กับแอปเปิลเป็นจำนวนเงิน $30 ต่อเครื่องสำหรับโทรศัพท์ และ $40 สำหรับแท็บเล็ต โดยรวมถึงอุปกรณ์ที่ใช้แพลตฟอร์มอื่นๆ อย่าง Windows Phone, Symbian และ Bada ด้วย โดยหากคำนวณแล้วจะมีมูลค่ารวมในปี 2010 ประมาณ 250 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

นอกจากนี้แอปเปิลยังเสนอส่วนลดให้อีก 20% หากซัมซุงยอมที่จะอนุญาตให้แอปเปิลใช้สิทธิบัตรของซัมซุงด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งแน่นอนว่าข้อเสนอดังกล่าวนั้นไม่เป็นผล จนนำมาสู่คดีความปัจจุบันในที่สุด

ไมโครซอฟท์ซื้อหุ้นส่วนหนึ่งของ Facebook ไว้ตั้งแต่ปี 2007 โดยจ่ายเงินซื้อด้วยราคา 240 ล้านดอลลาร์ ปัจจุบันหุ้นที่ไมโครซอฟท์ถือไว้คิดเป็น 1.7% ของหุ้นทั้งหมดของ Facebook หลัง IPO (ถ้าคิดตามราคาตลาดในปัจจุบัน หุ้นมีมูลค่า 571.9 ล้านดอลลาร์)

ตามกฎของตลาดหลักทรัพย์สหรัฐนั้นมีช่วง "ห้ามนักลงทุนเดิมขายหุ้น" หลังบริษัทเข้าขายหุ้น IPO อยู่ระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 16 สิงหาคมนี้ แปลว่าไมโครซอฟท์และนักลงทุนอื่นๆ สามารถขายหุ้นของ Facebook เป็นเงินสดเข้าบริษัทตัวเองได้