เหลือเวลาอีกแค่ 2 วัน สัญญาที่ทำไว้กับ Fairfax Financial ก็จะเป็นผลแล้ว แต่ทว่าดูเหมือนจะส่อเค้าล่มแล้วเรียบร้อย หลังจากที่ธนาคารหลายๆ แห่งที่ Fairfax จะขอเงินทุนนั้นส่ายหน้าไม่เอาด้วยกับดีลนี้

โดย Reuters ระบุว่าธนาคารหลายๆ แห่งที่ Fairfax จะขอให้มาเป็นที่ปรึกษาเพื่อปิดดีลนี้ในวันที่ 4 พฤศจิกายนนั้น ตอบรับต่อดีลนี้ในทางลบพอสมควร ซึ่งบางแห่งเช่น Bank of America, Merrill Lynch และ BMO Capital Markets ถึงกับให้ความเห็นกลับว่า "มันเป็นไปไม่ได้หรอก ที่บริษัทที่มีปัญหาล้นตัวจนเข้าขั้นวิกฤตนั้น จะมีโอกาสกลับมาเติบโตได้"

โนเกียประกาศผ่านบล็อกอย่างเป็นทางการของโนเกีย (Nokia Conversations) ว่าตอนนี้ผู้ใช้โนเกียในประเทศมาเลเซีย, เวียดนาม และประเทศไทย (ข่าวเก่า) สามารถใช้บริการ Nokia Music ได้อย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยผู้ใช้สามารถใช้งานได้ตั้งแต่ซื้อเพลง, ฟัง Mix Radio รวมถึงสามารถสมัครบริการ Nokia Music+ ได้อีกด้วย (ค่าบริการในไทย 30 บาทต่อเดือน)

หลังจากที่มีคนไปพบว่ามีการจดเครื่องหมายการค้าชื่อ Moto G เมื่อสัปดาห์ก่อน มาขณะนี้ก็มีข้อมูลสเป็กและภาพเครื่องหลุดมาจากภาพถ่ายสิ่งพิมพ์เพื่อการโฆษณาของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้

Moto G จะมีหน้าจอขนาด 4.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ 1280*720 พิกเซล ใช้หน่วยประมวลผล Qualcomm แบบควอดคอร์ ความถี่สัญญาณนาฬิกา 1.2GHz และจะใช้ระบบปฏิบัติการ Android 4.3 Jelly Bean มาพร้อมพื้นที่เก็บข้อมูล 8GB มีกล้องหลังความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหน้า 1.3 ล้านพิกเซล สามารถใช้งาน Wi-Fi, HSPA+ และบลูทูธ 4.0

แถมลูกเล่นอีกอย่างตามแนวทาง "มือถือตามสั่ง" ของ Motorola คือ Moto G นี้จะเปิดให้ผู้ใช้สามารถเลือกสีด้านหน้าและหลังของตัวเครื่องได้

หลังจากมีข้อห้ามเรื่องการใช้งานอุปกรณ์ไอทีต่างๆ (ข่าวเก่า) ระหว่างเครื่องบินขึ้น-ลง ในที่สุด สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐฯ (FAA) ก็ประกาศข้อบังคับอนุญาตให้ผู้โดยสารสามารถใช้งานได้แล้ว ไม่ว่าขณะเครื่องจะขึ้นหรือลง แต่ยังจำกัดเฉพาะสายการบิน Delta และ JetBlue ในสหรัฐอเมริกา

อุปกรณ์ไอทีที่อนุญาตให้ใช้งานได้นั้นมีทั้ง มือถือ, แท็บเล็ต และ อีบุ๊ก รวมทั้งแกดเจ็ตอีกมากมาย แต่ก็ยังมีข้อจำกัด คือ ในขณะเครื่องบินขึ้น-ลง ให้เปลี่ยนเป็นโหมด airplane ในโทรศัพท์ก่อนหรือเปลี่ยนมาเชื่อมต่อกับสัญญาณ Wi-Fi ของสายการบินแทน ส่วนสายการบินอื่นๆ ยังไม่มีประกาศจากทาง FAA แต่อย่างใด

จุดเด่นของ Bing Search เหนือ Google Search คือไมโครซอฟท์สามารถเจรจากับทั้ง Facebook/Twitter ให้ดึงข้อมูลโพสต์ที่เป็นสาธารณะมาลงผลการค้นหาของ Bing ได้

Instagram เริ่มทดสอบโฆษณามาได้ไม่นาน ล่าสุดบริษัทปิดระยะทดสอบ และเริ่มปล่อยโฆษณาจริงๆ ตัวแรกแล้ว

โฆษณาชิ้นแรกของ Instagram คือนาฬิกาหรูยี่ห้อ Michael Kors โดยผู้ใช้งานในสหรัฐจะได้เห็นโฆษณาตัวนี้ในแบบสุ่ม แม้ว่าจะไม่ได้ติดตามแบรนด์นี้ก็ตาม ตัวโฆษณาจะมีข้อความเขียนชัดว่า "sponsored" และผู้ใช้สามารถซ่อนโฆษณาหรือส่งความคิดเห็นกลับไปยังบริษัทได้ว่าชอบไม่ชอบอย่างไร

แบรนด์อื่นๆ ที่ร่วมลงโฆษณากับ Instagram ได้แก่ Adidas, Ben & Jerry's, Burberry, General Electric, Levi's, Lexus, Macy's, PayPal, Starwood แต่ทางบริษัทยังไม่ระบุว่าจะเริ่มปล่อยโฆษณาเหล่านี้เมื่อไร

Google และคู่ธุรกิจผู้ผลิตสมาร์ทโฟน Android หลายราย ต่างโดนฟ้องด้วยเรื่องสิทธิบัตรโดยกลุ่ม Rockstar ผู้ถือครองสิทธิบัตรเดิมของ Nortel หลายรายการ

ก่อนหน้านี้กลุ่ม Rockstar ซึ่งประกอบไปด้วย Apple, Microsoft, Ericsson และ Sony ได้ร่วมกันลงขันเป็นเงินราว 4.5 พันล้านดอลลาร์ แย่งซื้อสิทธิบัตรของ Nortel หลายพันรายการ และประสบความสำเร็จโดยสามารถเอาชนะข้อเสนอมูลค่า 4.4 พันล้านดอลลาร์ของ Google ไปได้ (ทำให้ Google ผู้อกหักหันไปซื้อกิจการ Motorola แทน) และตอนนี้กลุ่ม Rockstar ก็ใช้สิทธิบัตรดังกล่าวฟ้องร้อง Google, Samsung, HTC, Huawei และบริษัทอื่นอีก 4 แห่ง ในฐานความผิดละเมิดการใช้งานสิทธิบัตรเหล่านั้น

บิล เกตส์ โปรโมทโครงการ Big History Project (BHP) รวบรวมประวัติศาสตร์จักรวาลย้อนหลังไป 13.7 พันล้านปีตั้งแต่การเกิดขึ้นของบิ๊กแบง ทำเป็น timeline ให้เรียนรู้กันแบบง่ายๆ และอินเทอร์แอคทีฟ

แกนหลักของโครงการ Big History คือเว็บไซต์ที่รวบรวม timeline ของจักรวาล ตั้งแต่บิ๊กแบง ไล่มายังการเกิดขึ้นของดวงดาว การก่อตัวของธาตุต่างๆ โลกและสุริยจักรวาล ชีวิตที่เกิดขึ้นบนโลก และพัฒนาการของมนุษย์ในปัจจุบันไปจนถึงอนาคต (แต่นอกจากนี้โครงการก็ยังทำสื่อแขนงอื่นๆ เช่น ทำวิดีโอสารคดีร่วมกับช่อง History Channel เป็นต้น)

เป้าหมายของโครงการนี้คือสร้างสื่อการเรียนรู้ที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์กับนักเรียนระดับมัธยมให้ใช้งานได้ฟรี เนื้อหาของโครงการร่วมพัฒนาโดยครูอาจารย์จากหลายสถาบันการศึกษาในอเมริกาและออสเตรเลีย และได้รับเงินทุนสนับสนุนจากบิล เกตส์

เดือนตุลาคมที่ผ่านมาเป็นเดือนสำคัญของระบบปฏิบัติการเดสก์ท็อป เพราะทั้ง Windows/OS X/Ubuntu ต่างก็ออกรุ่นใหม่ ทำให้ส่วนแบ่งตลาดระบบปฏิบัติการมีความเคลื่อนไหวพอสมควร

สถิติล่าสุดของ Net Applications ระบุว่า Windows 8.1 มีส่วนแบ่งตลาด 1.72% แล้ว โดยกินตลาดของ Windows 8 มาบางส่วน (Windows 8 ลดลงเหลือ 7.53%) แต่ส่วนแบ่งตลาดของ Windows 8.x ก็ขยับเพิ่มเป็น 9.25% แล้ว

สำหรับวินโดวส์รุ่นเก่าๆ Windows 7 มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มเล็กน้อยเป็น 46.42%, Vista เหลือ 3.63%, XP ลดลงเล็กน้อยเหลือ 31.24% (ใกล้หลุดระดับ 30% ทุกที)

ฝั่งของแมค OS X 10.9 Mavericks มีส่วนแบ่งในตลาด 0.84% แล้ว ตลาดรวมของแมคอยู่ที่ 7.73% ส่วนลินุกซ์มีส่วนแบ่งตลาด 1.61%

Wall Street Journal รายงานข่าววงในว่ายักษ์ใหญ่แห่งวงการชิปมือถือ Qualcomm อาจสนใจมีเอี่ยวซื้อกิจการ BlackBerry กับเขาด้วย โดย Qualcomm กำลังเจรจาเพื่อร่วมทีมกับคณะผู้ก่อตั้งบริษัท Mike Lazaridis/Doug Fregin และบริษัทลงทุน Cerberus Capital Management LP

ตอนนี้มีกลุ่มทุนหลายแห่งสนใจซื้อ BlackBerry ซึ่งที่ชัดเจนที่สุดคือ Fairfax Financial Holdings กลุ่มทุนประกันภัยของแคนาดาที่ยื่นข้อเสนอซื้ออย่างเป็นทางการแล้ว นอกจากนี้ก็ยังมี Lenovo ที่ WSJ ระบุว่ายังสนใจซื้ออยู่

เว็บไซต์ Ars Technica เผยข้อมูลว่าโฮมสกรีนของ Android 4.4 ที่ทุกคนคุ้นเคยกันดี (เพราะหน้าตาเหมือนโฮมของ Android รุ่นก่อนๆ) กลับไม่ได้มาจากแอพ GoogleHome.apk เหมือนแต่ก่อน แต่มันกลับกลายเป็นหน้าที่ของแอพ GoogleSearch.apk แทน

ใน Android 4.4 ยังมีไฟล์ GoogleHome.apk แต่มันเป็นไฟล์ว่างๆ ที่ทำอะไรไม่ได้มากนัก และถ้าติดตั้งเฉพาะ GoogleHome.apk โดยไม่มี GoogleSearch.apk ก็จะพบแต่ข้อความแจ้งเตือนว่าต้องการ Google Search จึงจะทำงานได้

จากการแกะไฟล์ GoogleSearch.apk พบว่าไฟล์ต่างๆ ของหน้าโฮมใน Android 4.3 ถูกย้ายมาอยู่ในแอพ Google Search แทนหมดแล้ว

Motorola เป็นบริษัทมือถือรายล่าสุดที่ออกมาประกาศแผนการอัพเดต Android 4.4 KitKat ครับ โดยดูแล้ว Motorola จะข้ามจากรอม Android 4.2 มาเป็น 4.4 รวดเดียวเลย

ตอนนี้มือถือที่ได้อัพแน่นอนคือ Moto X ทุกรุ่นย่อย และ Verizon Droid ของปี 2013 อันได้แก่ Droid Ultra, Droid Maxx และ Droid Mini

ส่วนคนที่ใช้ Droid/RAZR ของปี 2012 คือ RAZR HD, RAZR Maxx HD และ RAZR M นั้นยังไม่ชัดเจนว่าตกลงจะได้หรือเปล่า เพราะตอนนี้ Motorola ระบุว่ามีเพียง RAZR Maxx HD รุ่นสำหรับนักพัฒนาเท่านั้นที่จะได้อัพเป็น 4.4

จากข่าวลือก่อนหน้านี้ที่รายงานว่ากูเกิลจะออก launcher สำหรับสมาร์ทโฟน Android รุ่นอื่น ๆ (ที่อาจไม่ได้ไปต่อ) ให้สามารถใช้ประสบการณ์ที่ใกล้เคียงกับสมาร์ทโฟนตระกูล Nexus ในชื่อ Google Experience ซึ่งในช่วงที่กูเกิลเปิดตัว Nexus 5 และ Android 4.4 KitKat นั้นกลับไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับ launcher ตัวนี้เลยแม้แต่น้อย

หลังจาก AIS ได้ทดลองบริการชำระเงินด้วย AIS mPAY rabbit ในกลุ่มปิดมาได้เกือบปี ก็ถึงคราวเปิดตัวเป็นอย่างทางการให้ทุกคนสามารถใช้งานได้ซะที โดยรองรับมือถือซัมซุงที่มี NFC ทั้งหมด 6 รุ่น สามารถชำระเงินค่าบริการต่างๆ เช่น BTS และ BRT ได้จากมือถือทันที

มือถือซัมซุงที่รองรับบริการ AIS mPAY rabbit นั้นมี 6 รุ่นได้แก่ Galaxy S3, S3 mini, S4, Galaxy Fame (สเปคต่ำสุด), Note 2 และ Note 3 โดยติดต่อขอซิมใหม่ได้ที่ศูนย์บริการของ AIS ทั่วกรุงเทพฯ ส่วนมือถือยี่ห้ออื่นๆ ที่มี NFC และใช้บริการของ AIS ก็ยังไม่มีการยืนยันมาว่าจะสามารถใช้บริการ AIS mPAY rabbit ได้หรือไม่ครับ

ระบบจาวาในแอนดรอยด์นั้นสร้างขึ้นใหม่จากคอมไพล์เลอร์รันไทม์ที่ชื่อว่า Dalvik แต่ใน Android 4.4 ก็มีคนพบคอมไพล์เลอร์ตัวใหม่วางไว้คู่กันในชื่อว่า ART โดยสามารถเลือกใช้งานจากตัวเลือกได้ แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถทำงานได้จริง

กระบวนการรันแอพพลิเคชั่นด้วย ART จะต้องแปลงไฟล์ dex เป็น art เสียก่อน

ยังไม่มีความชัดเจนว่า ART จะช่วยพัฒนาแอนดรอยด์ในส่วนใด แต่มีความเป็นไปได้ว่าโครงการนี้มาจากการเข้าซื้อบริษัท Flexycore ก่อนหน้านี้

ที่มา - XDA Developers

ผู้ใช้ Android คงคุ้นเคยกับชื่อ Project Butter ที่เริ่มใน Android 4.1 โดยมีจุดหมายคือการปรับปรุงให้ Android นั้นลื่นและตอบสนองได้ดีขึ้น

สำหรับ Android 4.4 ที่เปิดตัวไปเมื่อคืนนี้ ก็มีโครงการคล้ายๆ กันแต่เน้นเรื่องการจัดการประสิทธิภาพของระบบให้ดีขึ้นแทน ชื่อของมันคือ Project Svelte (ชื่อตามคำแปลก็ "ผอมเพรียว")

เป้าหมายของ Project Svelte คือปรับปรุงให้ Android ใช้งานกับฮาร์ดแวร์สเปกต่ำๆ ได้ โดยกูเกิลตั้งเป้าไว้ที่เครื่องที่มีแรม 512MB ส่วนการปรับปรุงภายใต้ Project Svelte ก็มีหลายอย่าง

Facebook พยายามทำระบบแท็กรูปให้ผู้ใช้สามารถแท็กรูปได้ง่ายกว่าเดิม โดยมีผู้พบว่า เมื่อโพสต์รูปไปแล้ว ระบบจะทำการถามขึ้นมาว่าจะแท็กคนในภาพหรือไม่ โดยผู้ใช้สามารถกดภาพเข้าไปแก้ไขหรือลบแท็กได้ตามสะดวก (ดูภาพประกอบได้ท้ายข่าว)

ยังไม่รู้ว่าระบบที่ว่าจะเร็วกว่าระบบถามเพื่อแท็กของเดิมแค่ไหน ใครได้ลองใช้แล้วก็มาบอกกันได้นะ

ที่มา - Inside Facebook

มีผู้ใช้บางส่วนพบว่า หากทำการกดไลค์เพจ David Beckham จะได้รับการแจ้งเตือนแบบใหม่ คือเชิญให้ไปตอบคำถามบน Facebook

ไม่แน่ใจว่าเรื่องนี้จะเกี่ยวกับระบบที่ Facebook เตรียมทำแอพที่ใช้ได้เฉพาะผู้มีชื่อเสียง หรือเปล่า แต่ก็มีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูงว่ามีการเตรียมทำฟีเจอร์ที่ผู้มีชื่อเสียงจะใช้ได้เท่านั้น เช่น เปิดโอกาสให้แฟนๆ เข้าไปตอบคำถามแบบสดๆ ประมาณนี้

ที่มา - Inside Facebook

หลายคนอาจจะทราบถึงโครงการ Humble Bundle โครงการซื้อเกมในราคาพิเศษพร้อมบริจาคให้การกุศลต่าง ๆ โดยในรอบนี้ถึงคราวของเกมจากค่ายเกม Team17 ผู้สร้างเกมระดับตำนานอย่างเกมตระกูล Worms ตั้งแต่ Worms World Party (ผมทันยุคนี้!) จนถึงภาคล่าสุดอย่างเกม Worms Clan Wars

สำหรับรายชื่อเกมที่นำมาร่วมโครงการ Humble Bundle ประกอบด้วยเกม Worms Armageddon, Worms Blast, Worms Ultimate Mayhem, Worms Pinball, Worms Crazy Golf และ Superfrog HD โดยเกมในรายชื่อเหล่านี้สามารถซื้อได้ตั้งแต่ 1 ดอลลาร์สหรัฐขึ้นไป (รวมถึงได้ซาวน์แทรกแทบทุกเกมยกเว้นเกม Worms Revolution Gold และ Alien Breed: Trilogy)

เมื่อวานนี้ WD ได้ส่งอีเมลถึงลูกค้าที่ใช้ external drive บนแมค เพื่อเตือนว่าอาจเกิดปัญหาข้อมูลสูญหายได้หากอัพเกรดโอเอสเป็น Mavericks โดย WD ได้บอกทางแก้เอาไว้ชั่วคราวคือ ให้ทำการลบโปรแกรม WD Drive Manager, WD Raid Manager และ WD SmartWare ออกจากเครื่องก่อนการอัพเกรด แต่ถ้าหากอัพเกรดไปแล้วก็ให้ทำการลบโปรแกรมเหล่านี้ออกทันทีและรีสตาร์ทเครื่อง หรือแนะนำให้เลื่อนการอัพเกรดโอเอสเป็น Mavericks ออกไป และระหว่างนี้ WD จะทำการแก้ไขโปรแกรมและออกอัพเดทใหม่ต่อไป

ที่มา - Mac Rumors

ข่าวร้ายที่มาพร้อมกับ Android 4.4 KitKat คือ Galaxy Nexus ได้รับการยืนยันแล้วว่าจะไม่ได้ไปต่อ (เพจ Google Support) โดยกูเกิลให้เหตุผลว่าเป็นเพราะวางขายมานานเกินกรอบเวลา 18 เดือนตามนโยบายของกูเกิลแล้ว (Google Support)

นอกจาก Android 4.4 KitKat กูเกิลก็ออก "ฝาแฝดเงา" Google Play Services รุ่นใหม่ด้วยเช่นกัน นับเวอร์ชันเป็น 4.0 แล้ว

คนที่ติดตามงาน Keynote ของแอปเปิลคงเห็นแอปเปิลอ้างผลสำรวจความพึงพอใจของผู้บริโภคในสหรัฐ จากบริษัท J.D. Power (ซึ่งผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลมักได้คะแนนสูงสุด) อยู่เรื่อยๆ

แต่ผลสำรวจล่าสุดของ J.D. Power ในส่วนของแท็บเล็ต ปรากฏว่าแชมป์กลายเป็นซัมซุงที่พลิกมาเอาชนะแอปเปิลด้วยคะแนนแบบเฉียดฉิว (835 ต่อ 833 คะแนน) ส่วนอันดับสามคืออเมซอน 826 คะแนน โดยคะแนนความพึงพอใจเฉลี่ยของผู้บริโภคคือ 821 คะแนน

ข้อมูลอื่นๆ ที่น่าสนใจคือ ลูกค้าในสหรัฐนิยมซื้อแท็บเล็ตที่ร้านค้ามากกว่าสั่งซื้อออนไลน์ (59:41) และลูกค้า 50% ตัดสินใจซื้อสินค้าโดยอาศัยคำแนะนำจากเพื่อนหรือครอบครัว

Strategy Analytics เผยสถิติยอดขายสมาร์ทโฟนไตรมาส 3 ของปี 2013 ยอดขายรวม 251.4 ล้านเครื่อง โตขึ้น 45% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน

เว็บไซต์ ZDNet รายงานว่าในการปรับโครงสร้างองค์การครั้งใหญ่ของไมโครซอฟท์นั้นมีการเปลี่ยนแปลงงานในหลายทีม ดังนี้