เมื่อวานนี้ Twitter เริ่มเข้าขายหุ้น IPO ในตลาดหลักทรัพย์ โดยตั้งราคาเริ่มต้นที่หุ้นละ 26 ดอลลาร์ การขายหุ้นวันแรกเป็นไปด้วยดี ราคาตอนปิดตลาดอยู่ที่หุ้นละ 45.10 ดอลลาร์ หรือสูงกว่าราคาเริ่มต้นถึง 73%

ถ้าเอาราคา 45.10 ดอลลาร์มาคูณกับหุ้นทั้งหมดของบริษัท จะได้ว่า Twitter มีมูลค่าบริษัทตามราคาหุ้นที่ 31.34 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 9.8 แสนล้านบาท

กระบวนการขายหุ้นของ Twitter ถือว่าประสบความสำเร็จ ซึ่งกลับกันกับการขายหุ้นของ Facebook เมื่อปีที่แล้ว ที่เต็มไปด้วยปัญหาและคดีฟ้องร้องในภายหลัง อย่างไรก็ตาม Twitter ก็ต้องพิสูจน์ตัวเองในระยะยาวว่าเป็นบริษัทที่ทำกำไรคืนให้ผู้ถือหุ้นได้ ซึ่งยังเป็นจุดอ่อนของ Twitter อยู่ในปัจจุบัน

ไม่บ่อยนักสำหรับวงการกล้องที่ผู้ผลิตจะมีข้อเสนอให้ผู้ใช้สามารถอัพเกรดฮาร์ดแวร์ได้ (แค่อัพเดตซอฟต์แวร์ก็นานๆ ทีแล้ว) แต่ดูเหมือนว่าเทคโนโลยี Dual Pixel CMOS AF ที่เปิดตัวไปพร้อมกับ EOS 70D นั้นคงเป็นจุดเปลี่ยนสำหรับวงการวิดีโอไม่ใช่น้อย ล่าสุด Canon เปิดให้ผู้ใช้กล้องวิดีโอรุ่นเล็กสุดในซีรีส์ EOS C อย่าง EOS C100 สามารถเปลี่ยนเซนเซอร์เป็นรุ่นใหม่ได้ด้วย

ตัวเซนเซอร์ Dual Pixel CMOS AF นั้นแต่ละพิกเซลจะแบ่งครึ่งเป็นสองส่วนซึ่งสามารถทำ Phase detection ได้พร้อมกัน และเทียบสัญญาณจากทั้งสองฝั่งเพื่อให้โฟกัสอัตโนมัติได้ไว และนุ่มนวลขึ้น

ไมโครซอฟท์เคยมีประสบการณ์ทำโฆษณาเป็นอนิเมะมาไม่ใช่น้อย ที่หลายคนคุ้นตาน่าจะเป็น Windows Nana ที่ทำมาโฆษณา Windows 7 โดยเฉพาะ และคราวนี้ก็ถึงคิวของ Internet Explorer ที่จะได้เป็นตัวการ์ตูนกับเขาบ้างครับ

วิดีโอโฆษณาตัวนี้เป็นผลงานของไมโครซอฟท์สาขาสิงคโปร์ที่ทำไปออกในงาน Anime Festival Asia 2013 ตัวเนื้อเรื่องพูดถึงโลกอินเทอร์เน็ตที่มีภัยอันตรายจากหุ่นยนต์ชั่วร้าย (มัลแวร์) โดยมี Inori Aizawa มาสคอตแทนตัว Internet Explorer 11 ที่เปิดเรื่องด้วยการถูกหุ่นยนต์ไล่ล่าก่อนจะแปลงร่าง! ปราบหุ่นร้ายจนเหี้ยน และปิดตอนด้วยภาพของบอสในเงามืด (นี่ยังมีตอนต่อไปอีกเหรอ)

หน้าจอความละเอียด 2560x1440 พิกเซลนั้นถูกคาดการณ์ว่าจะเริ่มใช้กับสมาร์ทโฟนเร็วๆ นี้ หลังจากมีผู้ผลิตหน้าจอหลายเจ้าเคลมว่าสามารถผลิตหน้าจอนี้ได้แล้ว และดูเหมือนจะไม่ต้องรอกันถึงปีหน้า เพราะว่าตอนนี้มีสมาร์ทโฟนที่ใช้หน้าจอที่ว่านี้มาแล้ว

โดยเป็น Vivo Xplay 3S จากจีนที่จะเริ่มขายเดือนธันวาคมนี้ ตัวสเปคนอกจากหน้าจอขนาด 5.7" ความละเอียด 2560x1440 พิกเซล (515 PPI) สเปคอื่นๆ ก็แรงใช่ย่อย ใช้ Snapdragon 800 หน่วยความจำภายใน 32GB-64GB แรม 3GB รองรับ LTE อีกด้วย และยังมาพร้อมกับชิป Hi-Fi อีกด้วย

ภาพที่ออกมาชุดแรกไม่โชว์หน้าจอว่าคุณภาพดีแค่ไหน แต่วัสดุตัวเครื่องนั้นไม่เลวเลยด้วยกระจก Gorilla Glass 3 ทั้งด้านหน้า-หลัง และขอบเครื่องโลหะ

เปิดตัวในประเทศอย่างเป็นทางการแล้วกับ phablet ที่มาพร้อมกับกล้องหมุนได้ OPPO N1 พร้อมเปิดราคาที่ 19,990 บาท และเริ่มวางขายทันทีขายเดือนธันวาคมครับ

สเปคเด่นๆ ของ OPPO N1 อยู่ที่หน้าจอขนาดใหญ่ถึง 5.9" แบตเตอรี่มหาศาล 3,610 mAh ซีพียูรุ่นเกือบท็อปอย่าง Snapdragon 600 ควอดคอร์ความถี่ 1.7GHz ส่วนสเปคเต็มๆ อ่านได้จากข่าวเก่าครับ

เพิ่งปล่อยรอมรุ่น Snapshot M1 ของ CM10.2 ไปได้ไม่กี่วัน ทีม CyanogenMod ก็ประกาศเดินเครื่อง CM11 อันเป็นอัพเดตใหญ่โดยใช้ฐานจาก Android 4.4 KitKat แล้ว

ตอนนี้ทีมพัฒนาเริ่มส่งโค้ดชุดแรกขึ้นไปบนโปรเจคใหม่นี้แล้ว โดยไม่ระบุว่าจะมีฟีเจอร์ใหม่อะไรบ้าง บอกเพียงแค่ว่าฟีเจอร์เดิมหลายตัวนั้นใช้งานได้กับ CM11 ได้อย่างไม่มีปัญหา และมีบางฟีเจอร์ที่ใช้งานไม่ได้

กลุ่มฟีเจอร์ที่ยังใช้งานไม่ได้ในตอนนี้มีตัวโฮมสกรีน Trabuchet (น่าจะมาจากสาเหตุนี้) หน้าล็อกสกรีน และแอพโทรศัพท์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับฟีเจอร์ใหม่ของ Android 4.4 KitKat ทั้งสิ้น

Extra Life เป็นองค์กรการกุศลก่อตั้งเมื่อปี 2008 เป็นตัวกลางเชิญชวนนักเล่นเกมมาช่วยกัน นัดวันเล่นเกมแบบมาราธอน 25 ชัวโมง เพื่อระดุมทุนบริจาคให้กับ Children's Miracle Network Hospitals (โรงพยาบาลเพื่อเด็กในอเมริกา)

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมานี้ (2 พฤศจิกายน 2013) ก็ได้มีการนัดกันเล่นไป และสามารถระดมทุนได้มากกว่า 3.8 ล้านดอลลาห์ จากนักเล่นเกมที่ลงทะเบียนไว้กว่า 38,000 คน

ทว่า ช่วงเย็นวันเสาร์นั้น ก็ได้มีการโจมตีแบบ DDoS เข้าไปที่เว็ปไซต์ของ Extra Life ทำให้เว็ปล่ม และ การบริจาคเงินเป็นไปอย่างยากลำบาก

ข่าวดีก็คือ นักเล่นเกมบางส่วน เมื่อทราบข่าวการโจมตีก็ได้เตรียมเล่นกันอีกรอบ ในวันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2013 นี้ เพื่อระดมทุนต่อไปครับ

Lenovo รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ประจำปีการเงิน 2013/14 ของบริษัท สิ้นสุดเดือนกันยายน มีรายได้รวม 9.8 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีที่แล้ว ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 219 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นถึง 36%

ตัวเลขส่งมอบพีซีในไตรมาสของ Lenovo ก็ยังคงเพิ่มขึ้นสวนทางกับอุตสาหกรรม เป็นจำนวน 14.1 ล้านเครื่อง และยังรักษาส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 ที่ 17.7% ซึ่งสูงที่สุดในประวัติศาสตร์บริษัท โดยในรายละเอียดของพีซีนั้นยอดขาย 51% เป็นสินค้าประเภทแล็ปท็อป ซึ่งเติบโตถึง 8% ขณะที่กลุ่มเดสก์ท็อปเติบโตเพียง 1% (ซึ่งก็ดีกว่าภาพรวมอุตสาหกรรมที่ยังคงลดลง)

ที่มา: Lenovo

Pebble ประกาศการอัปเดตซอฟต์แวร์ใหม่ที่จะสามารถทำงานร่วมกับระบบการแจ้งเตือนของ iOS 7 โดยสมบูรณ์ จากที่แต่เดิมจะสามารถทำงานได้อย่างราบรื่นเฉพาะการแจ้งเตือนจากบางแอพพลิเคชั่นอย่าง Phone, Messages หรือ Mail เท่านั้น โดยซอฟต์แวร์ใหม่นี้จะมาพร้อมกับแอพพลิเคชั่น Pebble เวอร์ชันใหม่ที่จะเปิดให้ดาวน์โหลดจาก App Store ในอีกไม่กี่วันนี้

หลังจากเมื่อช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมาแอปเปิลได้ยกเครื่องแอพพลิเคชั่นชุด iWork ใหม่ยกชุดทั้งบน OS X และ iOS พร้อมกับปรับราคาใหม่เป็นแจกฟรี ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ เกิดขึ้นเมื่อผู้ใช้ค้นพบว่า iWork ชุดใหม่นี้มีฟีเจอร์ที่ขาดหายไปจาก iWork '09 อยู่พอสมควร

ล่าสุดในเอกสารการสนับสนุนของแอปเปิลได้ระบุว่าฟีเจอร์หลายๆ อย่างที่หายไปทางแอปเปิลจะเร่งนำกลับมาใน iWork สำหรับ OS X ภายในระยะเวลา 6 เดือนนับจากนี้ โดยแอปเปิลได้ให้เหตุผลที่ฟีเจอร์ขาดหายไปนั้นเนื่องจาก iWork ชุดใหม่นี้ถูกพัฒนาขึ้นมาใหม่ทั้งหมดให้เป็นแอพพลิเคชั่น 64 บิตโดยสมบูรณ์ และมีวัตถุประสงค์ที่จะให้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่นระหว่าง OS X, iOS และไปจนถึงบน iCloud

Paul Allen ผู้ร่วมก่อตั้งไมโครซอฟท์กับบิล เกตส์ (และยังมีหุ้นอยู่ในบริษัทอีกเยอะ) ให้มุมมองผ่านผู้จัดการการลงทุนส่วนตัวของเขาว่า ไมโครซอฟท์ควรแยกออกเป็น 2 บริษัทคือบริษัทด้านองค์กร และบริษัทด้านคอนซูเมอร์

ตัวแทนของ Allen ระบุว่า Allen คิดว่าไมโครซอฟท์ควรแยกส่วนธุรกิจค้นหา (Bing) และเกม (Xbox) ออกมาเป็นบริษัทใหม่ เพราะถึงแม้ว่าสองหน่วยธุรกิจนี้ยังไปได้ดี แต่รายได้หลักของไมโครซอฟท์ก็ยังมาจากการขายซอฟต์แวร์และบริการให้ตลาดองค์กร ทำให้ Bing/Xbox ดูไม่ค่อยเข้าพวกกับยุทธศาสตร์หลักขององค์กรมากนัก

ที่มา - Forbes

ฟีเจอร์อย่างหนึ่งของ Android 4.4 คือแอพโทรศัพท์ตัวใหม่ smart caller ID (ข่าวเก่า) ซึ่งจะไปดึงข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์ของร้านค้าหรือสำนักงานต่างๆ ในระบบของ Google Maps หรือ Google Apps มาแสดงให้เราเห็นด้วยเมื่อมีสายเข้าจากหมายเลขโทรศัพท์เหล่านี้

อย่างไรก็ตาม Attila Bodis หนึ่งในทีมงาน Android ก็ประกาศข้อมูลเพิ่มเติมในภายหลังว่า ฟีเจอร์นี้จะครอบคลุมถึงเบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวด้วย โดยกูเกิลจะดึงภาพอวตารหรือภาพแทนตนของเจ้าของเบอร์จาก Google+ มาแสดง ไม่ว่าจะเป็นสายโทรเข้าหรือโทรออกก็ตาม (สรุปง่ายๆ ว่าโทรหาคนไม่รู้จักหรือคนไม่รู้จักโทรมา ถ้าเบอร์นั้นตรงกับโพรไฟล์ใน Google+ เราจะเห็นภาพที่ใช้แทนตัวด้วยเลย)

เราทราบกันดีว่าไมโครซอฟท์มีรายได้จากการเซ็นสัญญาสิทธิบัตรกับเหล่าผู้ผลิตฮาร์ดแวร์แอนดรอยด์อยู่มากพอสมควร เพียงแต่บริษัทก็ไม่เคยเปิดเผยตัวเลขว่าเท่าไรกันแน่

ล่าสุดนักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ Nomura ออกมาประเมินตัวเลขรายได้จากสิทธิบัตรว่าอยู่ที่ 2 พันล้านดอลลาร์ต่อปี อัตรากำไรประมาณ 95% (แทบไม่มีต้นทุนเลย)

ที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือ ไมโครซอฟท์จัดกลุ่มรายได้จากสิทธิบัตรอยู่ในฝ่าย Entertainment and Devices ซึ่งเป็นฝ่ายเดียวกับ Windows Phone และ Xbox ซึ่งทำให้ตัวเลขผลประกอบการของฝ่ายนี้ดูเยอะกว่าที่ควรจะเป็น และถ้าหักตัวเลขรายได้จากแอนดรอยด์ออกไปแล้ว Xbox อาจขาดทุนมากถึง 2 พันล้านดอลลาร์ต่อปี

ย้ำอีกรอบว่านี่เป็นตัวเลขประเมินจากนักวิเคราะห์นอกบริษัทครับ

ไมโครซอฟท์ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้กับ Office Web Apps (Microsoft Office ภาคเว็บ) อีกหลายอย่างเพื่อให้มีฟีเจอร์ทันกับ Office รุ่นปกติมากขึ้น

ซัมซุงจัดงานพบปะนักวิเคราะห์ทางการเงิน มีประเด็นที่น่าสนใจดังต่อไปนี้ครับ เริ่มจากภาพรวมของบริษัทก่อน

รายงานส่วนแบ่งทางการตลาดไตรมาสล่าสุดของ Canalys รายงานว่า Windows Phone สามารถชิงส่วนแบ่งทางการตลาดไปมากกว่า 4% โตขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว 44% รวมถึงมียอดการส่งเครื่องมากขึ้น 185% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่ระบบปฏิบัติการอื่นบนสมาร์ทโฟนอย่าง iOS และ Android นั้นมีสัดส่วนคงที่

นอกจากนี้ Canalys ระบุว่า Windows Phone สามารถขึ้นเป็นที่สองใน 19 ประเทศทั่วโลกอย่างเช่น ฟินแลนด์ 39%, เวียดนาม 16%, อิตาลี 15%, ประเทศไทย 11%, ตุรกี 11% และรัสเซีย 8% โดย Canalys ระบุว่าทั้งหมดนี้ส่วนใหญ่เป็นผลงานของโนเกียที่สามารถเข็นสมาร์ทโฟน Lumia ไปขายได้มากขึ้นนั่นเอง

วันนี้ธนาคารหลายแห่งกำลังแจ้งลูกค้าที่ใช้ตู้เอทีเอ็มในอาคาร ออลซีซั่น โรเล็กซ์ และ อพอลโล่ ว่ามีตู้จำนวนหนึ่งมีปัญหาความปลอดภัย ทำให้เงินถูกโอนออกไปจากบัญชีลูกค้าไปยังบัญชีปลายทางในประเทศยูเครน เบื้องต้นธนาคารที่ได้รับผลกระทบอายัดบัตรเอทีเอ็มของลูกค้าแล้วให้ไปติดต่อธนาคาร

ยังไม่มีความชัดเจนว่าปัญหาเกิดจากอะไรบ้าง แต่โดยทั่วไปแล้วความเสี่ยงของเอทีเอ็มคือการถูกเครื่อง skimmer หรือเครื่องทำสำเนาบัตรแม่เหล็กไปติดไว้ที่ตู้เอทีเอ็มและติดกล้องเพื่อบันทึกรหัสผ่าน

ตอนนี้สมาคมธนาคารไทยออกมาระบุว่าความเสียหายทั้งหมดธนาคารจะรับผิดชอบเอง และแนะนำให้เอามือบังขณะกดรหัสผ่านทุกครั้ง

กูเกิลประกาศเพิ่มฟีเจอร์ใหม่หลายอย่างให้กับ Google Maps เวอร์ชันเดสก์ท็อป

อย่างแรกคือคนที่ใช้ Google Maps เวอร์ชันเก่าคงจำไอคอนมนุษย์ตัวเหลือง Pegman ที่ลากไปวางบนแผนที่เพื่อเข้าโหมด Street View ได้ แต่หลังจากกูเกิลเปิดตัว Google Maps โฉมใหม่ที่ฟีเจอร์หลายอย่างหายไป เจ้า Pegman ก็เป็นหนึ่งในฟีเจอร์ที่ถูกตัดออกไปด้วย (แม้จะยังเข้าโหมด Street View ได้อยู่เหมือนเดิม)

วันนี้กูเกิลเอาเจ้า Pegman กลับคืนมาแล้ว แต่ตำแหน่งจะเปลี่ยนไปจากเดิมที่อยู่มุมซ้ายบน ก็มาอยู่มุมล่างขวา (ข้างคำว่า Explore) แทน ซึ่งเมื่อเรากดปุ่ม Pegman ก็จะเห็นจุดสีเหลืองบนแผนที่เพื่อระบุตำแหน่งที่มีภาพ Street View เหมือนกับของเดิม

Larry Hryb (หรือที่รู้จักกันในนาม Major Nelson)โพสต์วิดีโอลงใน Vine เกี่ยวกับวิธีการ redeem รหัสบน gift card (หรือบัตรเติมวันของบริการ Xbox LIVE หรือ Xbox Music Pass) ใน Xbox One โดยวิธีการง่าย ๆ คือ พูดคำสั่ง "Xbox, Use a Code" หลังจากนั้นก็ใช้กล้องบน Kinect ส่องรหัส QR Code บนบัตร เพียงแค่นี้ก็สามารถใช้ได้แล้ว

ส่วนตัวผมมองว่าไมโครซอฟท์นำความสามารถเด็ดจาก Bing Vision ที่สามารถจับ QR Code ได้อย่างแม่นยำ และระบบสั่งการด้วยเสียงซึ่งมีแต่เดิมบน Xbox 360 + Kinect มาประยุกต์ใช้ให้กลายเป็นเอกลักษณ์ที่ระบบอื่นยังไม่เคยทำมาก่อน ส่วนวิธีการใช้เป็นอย่างไร สามารถดูวิดีโอท้ายข่าวครับ

อธิบายสั้นๆ มันคือคู่แข่งของ Apache Hive ที่พัฒนาโดย Facebook ครับ

อธิบายแบบยาวๆ คือบริษัทแบบ Facebook ที่ต้องยุ่งเกี่ยวกับข้อมูลจำนวนมหาศาลระดับ petabyte มีงานเบื้องหลังที่ต้องดึงข้อมูลเก่าที่เก็บใน data warehouse (ที่เก็บด้วย Hadoop/HFS) มาวิเคราะห์อยู่บ่อยๆ ปัญหาคือระบบคิวรีข้อมูลอย่าง Hive ที่พัฒนาอยู่บนแนวคิด MapReduce นั้นออกแบบโดยเน้นสมรรถภาพโดยรวม (overall throughput) เป็นสำคัญ แต่สิ่งที่ Facebook ต้องการคือระบบคิวรีข้อมูลที่มีการตอบสนองรวดเร็ว (low query latency)

YouTube เพิ่งเปิดตัวระบบคอมเมนต์แบบใหม่ที่ผูกกับ Google+ ไปได้ไม่กี่เดือน ล่าสุดก็ประกาศว่าจะเริ่มใช้ระบบคอมเมนต์แบบใหม่นี้แล้ว

จุดเด่นของระบบคอมเมนต์แบบใหม่คือสามารถคอมเมนต์แบบ private ได้ (ตาม circle ของ Google+) และระบบก็จะนำคอมเมนต์ของคนที่เรารู้จักใน Google+ (หรือคนสำคัญอย่างผู้สร้างวิดีโอนั้น หรือคนดังในโลกออนไลน์) มาแสดงข้างบนให้เห็นกันง่ายๆ

ในส่วนของเจ้าของวิดีโอก็ยังได้ฟีเจอร์เรื่องการบริหารจัดการคอมเมนต์ที่ดีขึ้น เช่น การบล็อคคีย์เวิร์ด หรือกำหนดว่าสำหรับแฟนคลับบางคนสามารถคอมเมนต์แล้วขึ้นหน้าแรกโดยอัตโนมัติ (whitelist) เป็นต้น

ข่าวเว็บ Adobe ถูกแฮ็กเมื่อเดือนที่แล้วมีปัญหามากกว่าที่รายงานออกมาในตอนแรก เพราะฐานข้อมูลรหัสผ่านที่รั่วออกมากลับมีกระบวนการเข้ารหัสที่ไม่ได้มาตรฐาน โดยฐานข้อมูลรหัสผ่านนั้นไม่ได้เป็นค่าแฮชของรหัสผ่านเอาไว้ แต่กลับเข้ารหัสแบบกุญแจสมมาตร และใช้กระบวนการเข้ารหัสแบบ Electronic Code Book (ECB) ทำให้นักวิจัยสามารถเข้าหารหัสผ่านที่ซ้ำกัน และวิเคราะห์ย้อนกลับหารหัสผ่านที่แท้จริงได้

Twitter จะเริ่มขายหุ้น IPO ในวันนี้ (7 พ.ย. ตามเวลาสหรัฐ) โดยบริษัทประกาศแล้วว่าจะขายหุ้นออกมาทั้งหมด 70 ล้านหุ้นในราคาหุ้นละ 26 ดอลลาร์ ระดมเงินทั้งหมด 1.8 พันล้านดอลลาร์

ถ้านำราคาหุ้นนี้ไปคูณกลับกับจำนวนหุ้นทั้งหมดของบริษัท จะได้มูลค่าของกิจการตามราคาหุ้นที่ประมาณ 14 พันล้านดอลลาร์

หุ้นของ Twitter จะขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) โดยใช้สัญลักษณ์หุ้นว่า TWTR ครับ

ที่มา - @twitter, Guardian

เว็บไซต์ WPDang เปิดเผยว่า วันนี้ไมโครซอฟท์จะประกาศรวมบัญชีนักพัฒนาแอพ Windows Store กับ Windows Phone Store เข้าด้วยกัน และมีชื่อสำหรับบัญชีนักพัฒนาใหม่ว่า Microsoft Developer

ค่าสมาชิกรายปีของนักพัฒนาแบบรายบุคคลจะอยู่ที่ 19 ดอลลาร์ ส่วนค่าสมาชิกแบบทีมพัฒนาจะอยู่ที่ 99 ดอลลาร์ นักพัฒนาจะสามารถประกาศแอพขึ้นสโตร์ได้ทั้ง Windows และ Windows Phone

นอกจากการรวมบัญชีนักพัฒนาเข้าด้วยกันแล้ว ไมโครซอฟท์จะรวมเว็บคอมมูนิตี้ของทั้งสองเข้าด้วยกันด้วย - WPDang ผ่าน WMPoweruser

Facebook เปิดตัวปุ่มไลค์รุ่นใหม่ โดยรูปยกนิ้วโป้งถูกแทนที่ด้วยโลโก้ของ Facebook และเปลี่ยนมาใช้สีน้ำเงินมากขึ้น (ดูรูปในข่าว)

หลังจากเปิดตัวครั้งแรกในปี ค.ศ. 2010 ปุ่มไลค์ในปัจจุบันปรากฏใน 7.5 ล้านเว็บทั่วโลก ถูกเห็นในแต่ละวันไม่ต่ำกว่า 22 พันล้านครั้ง การเปลี่ยนครั้งนี้จึงเป็นครั้งแรกและผ่านการกลั่นกรองจากทุกระดับ ตั้งแต่ดีไซน์เนอร์ของบริษัทเอง ฝ่ายกฎหมาย รองประธานบริษัท ไปจนถึงตัว Mark Zuckerberg เอง

นอกจากนี้ Facebook ยังทำการจับคู่ปุ่มไลค์เข้ากับปุ่มแชร์ หวังให้เว็บไซต์ต่างๆ ใส่ทั้งคู่ลงไปได้ง่ายขึ้นจากแต่เดิมที่ต้องใส่แยกกัน