ความร้อนแรงของหุ้น NVIDIA ยังคงมีต่อเนื่อง หลังจากบริษัทรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ผ่านมา และให้แนวโน้มการเติบโตสูง ทำให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 16% ในวันเดียว
ล่าสุดเมื่อคืนนี้ (23 กุมภาพันธ์) ราคาหุ้น NVIDIA ยังปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้บริษัทมีมูลค่ากิจการตามราคาหุ้นหรือ Market Cap. มากกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ เป็นครั้งแรก โดยเป็นมูลค่าที่เกิดขึ้นระหว่างช่วงการซื้อขาย ขณะที่ราคาเมื่อปิดตลาดหุ้นก็ลดลงมา ปรับเพิ่มขึ้น 0.36% ที่ 788.17 ดอลลาร์ต่อหุ้น มูลค่ากิจการเป็น 1.97 ล้านล้านดอลลาร์
มีรายงานว่า OpenAI ได้ทำดีลขายหุ้นปัจจุบันให้กับกองทุน Thrive Capital ที่ต้องการร่วมลงทุนในบริษัทเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว ตามรายงานข่าวก่อนหน้านี้ โดยมูลค่ากิจการของ OpenAI ที่ประเมินกันในดีลนี้คือ 80,000 ล้านดอลลาร์
ทั้งนี้หุ้นที่ขายไม่ได้เป็นการเพิ่มทุนของบริษัท แต่เปิดให้พนักงานของ OpenAI ที่มีหุ้นของบริษัทอยู่เช่นกัน สามารถร่วมขายหุ้นผ่านดีลนี้ได้ รูปแบบเหมือนกับดีลในปีที่แล้ว (ที่ Thrive Capital ก็เป็นผู้ซื้อหุ้นเช่นกัน) แต่ตอนนั้นมูลค่ากิจการประเมินคือ 29,000 ล้านดอลลาร์
Berkshire Hathaway บริษัทด้านการลงทุนของมหาเศรษฐีนักลงทุนชื่อดัง Warren Buffett รายงานการถือครองหลักทรัพย์ลงทุน ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2023 มีประเด็นน่าสนใจคือ Buffett ขายหุ้นแอปเปิลออกมาจำนวน 10 ล้านหุ้น ในช่วงไตรมาส 4 ปี 2023 ซึ่งคิดเป็นจำนวน 1.1% ของหุ้นแอปเปิลที่ Berkshire ถือครองอยู่ (ไม่ใช่จำนวนหุ้นแอปเปิลที่มีทั้งหมด) ทำให้ Buffett ยังมีหุ้นแอปเปิลอยู่ 905.56 ล้านหุ้น
Buffett เริ่มซื้อหุ้นแอปเปิลมาตั้งแต่ปี 2016 และทยอยสะสมมาโดยตลอด จนทำให้ Berkshire เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของแอปเปิล และแอปเปิลเองก็เป็นบริษัทมีมูลค่าในพอร์ตการลงทุนของ Berkshire มากถึง 1 ใน 5 โดยมูลค่าล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 1.6 แสนล้านดอลลาร์ จำนวนหุ้นที่ขายออกไป 10 ล้านหุ้นนี้ จึงอาจไม่มีนัยยะสำคัญในมุมมองของ Buffett ที่ชื่นชมแอปเปิลออกสื่อว่าเป็นบริษัทดีที่สุดที่เขาเคยลงทุนมา
ราคาหุ้นของ Arm ปรับเพิ่มขึ้นถึง 48% เมื่อคืนนี้ หลังจากบริษัทรายงานผลประกอบการไตรมาส และประเมินผลการดำเนินงานไตรมาสปัจจุบันดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้
มูลค่ากิจการของ Arm เพิ่มขึ้นถึง 38,000 ล้านดอลลาร์ จากที่ราคาหุ้นปรับเพิ่มสูง ซึ่งบริษัทที่ได้ประโยชน์ก็คือ SoftBank ที่ถือหุ้น Arm อยู่ 90%
Arm อธิบายในรายงานผลประกอบการว่าตอนนี้มีความต้องการเทคโนโลยีของ Arm กับงาน AI ในทุกจุด ตั้งแต่ระดับคลาวด์ จนถึง Edge ที่ระดับอุปกรณ์ของผู้ใช้งาน
ที่มา: CNBC
Yandex บริษัทผู้ให้บริการออนไลน์รายใหญ่ในรัสเซีย ที่ได้ฉายาว่า Google ของรัสเซีย ประกาศบรรลุข้อตกลงเพื่อขายสินทรัพย์ทั้งหมดของบริษัทให้กับกลุ่มนักลงทุนในรัสเซีย มูลค่าดีลอยู่ที่ 4.75 แสนล้านรูเบิล (ประมาณ 1.8 แสนล้านบาท)
ที่มาที่ไปของดีลนี้เป็นผลจากสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน เนื่องจากแม้ Yandex จะมีธุรกิจอยู่ในรัสเซีย แต่บริษัทแม่นั้นจดทะเบียนอยู่ในเนเธอร์แลนด์ และหุ้นของบริษัทมีการซื้อขายในตลาด Nasdaq ของสหรัฐฯ ด้วย ทำให้บริษัทมีผู้ถือหุ้นบริษัทนอกรัสเซีย ผลจากการคว่ำบาตรการค้าทำให้กระบวนการต่าง ๆ ถูกระงับ ซึ่ง Yandex ประกาศแผนแก้ไขปัญหานี้ตั้งแต่พฤศจิกายน 2022 เพื่อรักษาผลประโยชน์กับผู้ถือหุ้นมากที่สุด
ราคาหุ้น NVIDIA ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลังบริษัทคาดการณ์ว่าผลประกอบการไตรมาสถัดไปไว้สูงถึง 11,000 ล้านดอลลาร์ และในงาน Computex สัปดาห์นี้ก็ยังเปิดตัวสินค้าด้านปัญญาประดิษฐ์จำนวนมาก
ราคาหุ้นล่าสุดอยู่ที่ 409 ดอลลาร์ สูงกว่าจุดสูงสุดเมื่อปี 2021 ที่เคยขึ้นไปถึง 330 ดอลลาร์
คณะลูกขุนของศาลซานฟรานซิสโก มีคำตัดสินแบบเป็นเอกฉันท์ ให้ยกคำร้องจากคดีที่กลุ่มนักลงทุน Tesla ยื่นฟ้อง Elon Musk ซีอีโอ จากทวีตที่เขาบอกว่ากำลังพิจารณาซื้อหุ้นบริษัทคืน เพื่อนำบริษัทออกจากตลาดหุ้นที่ราคา 420 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งมีเงินทุนรองรับแล้ว เมื่อปี 2018 และดีลดังกล่าวไม่เกิดขึ้นจริง ระบุว่าเป็นการฉ้อโกงนักลงทุน
Elon Musk ทวีตแสดงความพอใจกับคำตัดสิน ขณะที่ตัวแทนฝั่งโจทก์และอัยการบอกว่ารู้สึกผิดหวังกับผลลัพธ์ที่ออกมา และจะดำเนินการในขั้นตอนต่อไป
Twitter ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ใหม่สำหรับทวีตที่เกี่ยวกับหุ้นและคริปโต โดยเมื่อผู้ใช้เสิร์ชชื่อหุ้นหรือคริปโตด้วย Cashtag (นำหน้าด้วย $ ) ผลการค้นหานอกจากแสดงทวีตที่เกี่ยวข้อง ยังแสดงราคาหุ้นพร้อมกราฟราคาล่าสุดด้วย
โดยข้อมูลราคาและกราฟนั้น Twitter จะนำมาจาก TradingView แพลตฟอร์มแสดงกราฟราคาหุ้นยอดนิยม นอกจากนี้ยังเพิ่มลิงก์เพื่อไปยัง Robinhood แอปเทรดหุ้นยอดนิยมในอเมริกาด้วย
ที่ผ่านมา Twitter มีฟีเจอร์เพื่อรองรับด้านคริปโตหลายอย่าง เช่น การให้ทิปด้วยคริปโต และรองรับการทำงานร่วมกับคริปโตหลายอย่าง ฟีเจอร์แสดงผลค้นหาดังกล่าวจะเริ่มมีผลในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
มีรายงานหลังจาก SoftBank รายงานผลประกอบการไตรมาสล่าสุด ซึ่งขาดทุนเป็นสถิติสูงสุดของบริษัท ว่าบริษัทได้ขายหุ้น Alibaba ออกมาส่วนหนึ่ง เพื่อให้มีเงินสดเข้ามาชดเชยส่วนที่ขาดทุนไป โดยคาดว่าจะได้เงินราว 22,000 ล้านดอลลาร์
การขายหุ้น Alibaba ของ SoftBank นั้น ใช้วิธีการทำสัญญา Forward ที่คู่สัญญาต้องจ่ายเงินล่วงหน้าก่อน ทำให้ SoftBank ได้รับเงินทันที โดยยังไม่ต้องส่งมอบหุ้นที่ตกลงกัน จนกว่าจะครบกำหนดสัญญา และ SoftBank มีสิทธิจ่ายเงินเพื่อซื้อหุ้นเหล่านั้นคืนก่อนหมดสัญญาได้ด้วย ซึ่งคู่สัญญาคือสถาบันการเงินหลายแห่ง เช่น Goldman Sachs, Mizuho และ UBS ทั้งนี้ SoftBank จะมีหุ้น Alibaba ลดลงจาก 23.7% เป็น 14.6% หากดีลนี้เสร็จสิ้น
เรียกได้ว่าเป็นเกมที่ถูกคาดหวังมากที่สุดและไฮป์ที่สุด รวมถึงพังที่สุดเกมหนึ่งในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมากับ Cyberpunk 2077 จากค่าย CD Projekt RED ส่วนหนึ่งเพราะความสำเร็จอย่างสูงจาก The Witcher 3 ที่ออกมาเมื่อปี 2015
ความพังของเกมก็อย่างที่เราทราบไปแล้วว่าส่วนใหญ่เกิดจากบั๊ค และการถูกเร่งพัฒนาให้วางขายตามกำหนด จนส่งผลต่อยอดขายเกม และชื่อเสียงของสตูดิโอและบริษัทอีกต่อ ซึ่งล่าสุดก็ออกมาเป็นตัวเลขที่จับต้องได้ เมื่อมูลค่าบริษัทของ CD Project SA บริษัทแม่ลดลงเหลือเพียง 25% หรือหายไปราวๆ 75% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนวางขายเกม
หลัง Facebook เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Meta Platforms, Inc. สิ่งที่ยังคงอยู่จากยุค Facebook คือตัวย่อหุ้น (Ticker Symbol) ที่ยังใช้ "FB" เหมือนเดิม
แต่ล่าสุด Meta ประกาศว่ายื่นขอเปลี่ยนตัวย่อหุ้นจาก FB เป็น META แล้ว การเปลี่ยนแปลงจะมีผลในวันที่ 9 มิถุนายน 2022
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มีผลเฉพาะตัวย่อหุ้นเท่านั้น โครงสร้างผู้ถือหุ้นยังเหมือนเดิมทั้งหมด
ที่มา - Meta
SoftBank Group รายงานผลประกอบการไตรมาส 1/2022 ซึ่งเป็นการปิดปีงบประมาณ FY 21 ด้วยพอดี ถึงแม้รายได้เพิ่มเป็น 6.2 ล้านล้านเยน (ประมาณ 1.67 ล้านล้านบาท) แต่กลับขาดทุนเป็นประวัติการณ์ 1.46 ล้านล้านเยน (ราว 4 แสนล้านบาท)
เหตุผลสำคัญมาจากกองทุน SoftBank Vision Fund ที่ขาดทุนยับเยิน 3.73 ล้านล้านเยน (ราว 1 ล้านล้านบาท) จากสภาพตลาดหุ้นทั่วโลกที่ตกหนักตั้งแต่ปีใหม่เป็นต้นมา เลยลากให้ธุรกิจทั้งเครือ (ที่ส่วนอื่นมีกำไรขั้นต้น 3.26 ล้านล้านเยน ราว 8.8 แสนล้านบาท) ขาดทุนตามไปด้วย
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผู้ถือหุ้นของ Razer บริษัทอุปกรณ์เสริมและฮาร์ดแวร์ด้านเกมมิ่ง โหวตอนุมัติแผนการถอนตัวออกจากตลาดหลักทรัพย์ ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น 94.74%
Razer เป็นบริษัทสัญชาติสิงคโปร์-อเมริกัน แต่เข้าขายหุ้น IPO ในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงเมื่อปี 2017
เมื่อปลายปี 2021 กลุ่มผู้บริหารของบริษัทที่นำโดยซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Min-Liang Tan (ครองหุ้นรวม 57%) ได้เสนอซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นรายย่อยในมูลค่าบริษัท 3.15 พันล้านดอลลาร์ เพื่อนำบริษัทออกจากตลาดหลักทรัพย์
บริษัท Berkshire Hathaway ของ Warren Buffett เปิดเผยการลงทุนในรอบปีที่ผ่านมา ฝั่งหุ้นเทคโนโลยีเข้าไปไล่เก็บ Activision Blizzard เพิ่มจากเดิมมี 2% เป็นมีหุ้นในมือ 9.5% แล้ว
Buffett บอกว่าผู้จัดการลงทุนของ Berkshire เริ่มไล่เก็บหุ้น Activision Blizzard มาสักพักแล้วก่อนไมโครซอฟท์ประกาศซื้อกิจการ แต่ตัวเขามาซื้อเพิ่มอีกจนถึง 9.5% เพราะมองว่าหุ้นของ Activision Blizzard มีราคาถูกต่ำกว่าที่ควร (จากข่าวฉาวต่างๆ)
สถานะตอนนี้คือ Buffett เก็งว่าดีลจะได้รับอนุมัติ และจะทำกำไรจากการขายหุ้นให้ไมโครซอฟท์ได้
Tesla ยื่นเอกสารต่อ กลต. สหรัฐ ระบุว่าบริษัทจะขอมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี เพื่อเพิ่มจำนวนหุ้นสามัญของบริษัท ด้วยวิธีการแตกหุ้นอีกหนึ่งครั้ง (Stock Split)
ทั้งนี้ Tesla บอกว่ามติที่ประชุมบอร์ดบริหารได้อนุมัติข้อเสนอดังกล่าวแล้ว แต่ไม่ระบุว่าจะแตกหุ้นด้วยอัตราส่วนเท่าใด ก่อนหน้านี้ Tesla เคยแตกหุ้นด้วยอัตราส่วน 5 ต่อ 1 ในปี 2020
ตามทฤษฎีนั้น การแตกหุ้นไม่ได้ทำให้มูลค่าของบริษัทเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด แต่การแตกหุ้นมีผลทำให้ราคาต่อหุ้นลดลง ทำให้นักลงทุนรายย่อยสามารถเข้าซื้อหุ้นได้ด้วยเงินที่น้อยลง
Yandex Group ยักษ์ใหญ่ของวงการอินเทอร์เน็ตรัสเซีย กำลังประสบปัญหารุมเร้าจากสถานการณ์สงครามรัสเซียหลายด้าน
ปัญหาของ Yandex มีตั้งแต่ราคาหุ้นที่ตกลงมาเรื่อยๆ มูลค่าบริษัทหายไปแล้ว 75% ในรอบ 6 เดือนล่าสุด (Yandex ขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์มอสโก MOEX และตลาด Nasdaq ในสหรัฐ) โดยตกหนักในช่วงครึ่งหลังของเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ช่วงที่สถานการณ์สงครามกำลังจะเริ่มต้น
Elon Musk ซีอีโอ Tesla ได้ยื่นเอกสารไฟลิ่งต่อกรรมการกำกับดูแลหลักทรัพย์อเมริกา หรือ SEC เผยว่าเขาได้บริจาคหุ้น Tesla ที่ถือครองอยู่ 5,044,000 หุ้น ในช่วงวันที่ 19-29 พฤศจิกายน ปีที่แล้ว โดยไม่ได้ระบุว่าบริจาคให้กับองค์กรการกุศลหรือหน่วยงานใด แต่คาดกันว่าเป็น World Food Program หรือโครงการอาหารโลก ขององค์การสหประชาชาติ ที่หัวหน้าโครงการเคยออกมาเรียกร้องก่อนหน้านี้ให้ Elon ขายหุ้น Tesla มาช่วยเหลือโครงการนี้
อย่างไรก็ตาม ตัวแทนของ World Food Program ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลผู้บริจาคเงินจากข่าวดังกล่าว
รัฐบาลอินเดียออกคำสั่งแบนแอพที่เชื่อมโยงกับประเทศจีนรอบที่ 5 อีก 54 ตัว ด้วยเหตุผลด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย ในจำนวนนี้มีแอพหลายตัวจาก Alibaba, Tencent, NetEase เป็นต้น รวมแล้วตอนนี้อินเดียแบนแอพจีนไปแล้วกว่า 300 ตัว
แอพตัวที่น่าสนใจคือ Garena Free Fire อยู่ในนี้ด้วย (แม้ Sea/Garena เป็นบริษัทสัญชาติสิงคโปร์ แต่ก็มี Tencent ถือหุ้นอยู่ 18.7%) โดยรัฐบาลอินเดียให้เหตุผลว่า แอพจีนหลายตัวที่ถูกแบนไปรอบก่อนๆ ใช้วิธีหลบเลี่ยง เปลี่ยนบริษัทที่ให้บริการเป็นสัญชาติฮ่องกงหรือสิงคโปร์แทน จึงไล่แบนรอบใหม่ และ Free Fire ก็เข้าข่ายด้วย
เมื่อคืนนี้ราคาหุ้นของ Amazon ปรับเพิ่มขึ้นถึง 13.5% หลังจากรายงานผลประกอบการ และให้ตัวเลขคาดการณ์ไตรมาสปัจจุบันออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์
ผลจากราคาหุ้นที่ปรับเพิ่มขึ้นสูง ทำให้มูลค่ากิจการของ Amazon เพิ่มขึ้นภายในวันเดียวราว 1.9 แสนล้านดอลลาร์ เป็นสถิติการปรับราคาเพิ่มสูงสุดของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นอเมริกา แซงหน้าแอปเปิลที่ทำไว้ที่ 1.81 แสนล้านดอลลาร์ หลังรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ผ่านมา (ส่วน Meta เป็นสถิติตรงกันข้ามเมื่อวันก่อน)
ราคาหุ้นของ Meta บริษัทแม่ของ Facebook เมื่อคืนนี้ปรับลดลงกว่า 26% หลังจากบริษัทรายงานผลประกอบการ โดยให้แนวโน้มไตรมาสปัจจุบันต่ำกว่าที่นักลงทุนคาดหวัง ซึ่งราคาหุ้นที่ปรับลดลงนี้ส่งผลให้มูลค่ากิจการบริษัทลดลงมากกว่า 2.3 แสนล้านดอลลาร์ เป็นมูลค่ากิจการที่ลดลงสูงที่สุดในวันเดียวที่เคยมีมาของบริษัทในตลาดหุ้นสหรัฐ
ก่อนหน้านี้ Facebook เคยเจอสถานการณ์ราคาหุ้นปรับลดลงแรงในวันเดียวเมื่อปี 2018 ลดลงถึง 19% มูลค่ากิจการหายไปประมาณ 1.2 แสนล้านดอลลาร์ เนื่องจากอัตราการเพิ่มขึ้นของผู้ใช้งานลดลง ซึ่งตอนนั้นก็เป็นการลดลงของมูลค่าที่เป็นสถิติเช่นกัน
Alphabet บริษัทแม่ของกูเกิล รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ปี 2021 รายได้รวมเพิ่มขึ้น 32% เทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2020 ที่ 75,325 ล้านดอลลาร์ มีกำไรสุทธิ 20,642 ล้านดอลลาร์
Ruth Porat ซีเอฟโอ Alphabet กล่าวว่ารายได้ที่เพิ่มขึ้น มาจากธุรกิจโฆษณาที่แข็งแกร่ง ตลอดจนฐานผู้ใช้งานที่มากขึ้น รวมถึงบริการจาก Google Cloud
รายได้จากกลุ่มธุรกิจที่น่าสนใจมีดังนี้ โฆษณา YouTube 8,633 ล้านดอลลาร์ (+25%) Google Cloud 5,541 ล้านดอลลาร์ (+45%) และกลุ่มธุรกิจอื่น ๆ ของกูเกิล ซึ่งรวมธุรกิจฮาร์ดแวร์ด้วย 8,161 ล้านดอลลาร์ (+22%)
จากการที่ อีลอน มัสก์ สร้างโพลล์บนทวิตเตอร์ให้ร่วมโหวตว่าเขาควรขายหุ้นเทสลา เพื่อจะได้เสียภาษีหรือไม่ และผลโหวตเสียงข้างมากเคาะว่าควรขาย ล่าสุด มัสก์ ทำตามสัญญาที่ให้ไว้ ตามรายงานทางการเงินที่ยื่นต่อ SEC (สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ) ระบุว่า มัสก์ กำลังขายหุ้นจำนวน 934,091 หุ้น มูลค่ากว่า 1.1 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 36,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เขายังคงถือหุ้นในบริษัทมากกว่า 170 ล้านหุ้น
จากการที่ Elon Musk ซีอีโอ Tesla ตั้งโพลล์ใน Twitter ผ่านบัญชีส่วนตัวของเขา ถามว่าเขาควรขายหุ้น Tesla ที่ถืออยู่ออกมา 10% หรือไม่ เพื่อให้เกิดการเสียภาษี ล่าสุดผลโหวตจากผู้ใช้งานใน Twitter ร่วม 3.5 ล้านโหวตออกมาแล้ว อยู่ที่ควรขาย 57.9% และไม่ควรขาย 42.1%
ซึ่งถ้า Musk ทำตามที่สัญญาไว้จริงๆ เขาก็จะต้องขายหุ้นใน Tesla เกือบ 2 หมื่น 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
Elon Musk ซีอีโอ Tesla ได้ตั้งโพลล์ใน Twitter ผ่านบัญชีส่วนตัวของเขา ถามว่าเขาควรขายหุ้น Tesla ที่ถืออยู่ออกมา 10% หรือไม่ เพื่อให้เกิดการเสียภาษี หลังจากถูกวิจารณ์ว่าที่ผ่านมาเขาแทบไม่เสียภาษีเลย เนื่องจากไม่มีเงินเดือนและโบนัส การขายหุ้นและมีกำไรจากการขายจะทำให้เขาต้องเสียภาษีนั่นเอง
Musk มีหุ้น Tesla 170.5 ล้านหุ้น จากราคาหุ้น Tesla ที่ปรับเพิ่มสูงขึ้นมากในช่วงที่ผ่านมา ทำให้มูลค่าสินทรัพย์ที่เขาถือครองปรับเพิ่มสูงและล่าสุดเป็นมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลก
ยังอยู่ที่ข่าว Facebook เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Meta เพื่อสะท้อนวิสัยทัศน์ว่าบริษัทต้องการไปไกลกว่าการเป็นโซเชียลมีเดีย มุ่งสู่โลกเสมือนหรือ Metaverse โดยตัวย่อในการซื้อขายหุ้นของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แนสแดค จะเปลี่ยนจาก FB เป็น MVRS มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2021 เป็นต้นไป ส่วนโครงสร้างการเงินยังคงเหมือนเดิม
กรณีนี้อาจเทียบได้ว่าคล้ายกับกรณีของกูเกิล ที่ปรับโครงสร้างบริษัทโดยตั้งโฮลดิ้ง Alphabet ขึ้นมา และให้กูเกิลเป็นบริษัทย่อยในนั้น แต่ตัวย่อหุ้นของกูเกิลยังใช้ GOOG เหมือนเดิม และจำนวนหุ้นก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลง