หลังการค้นพบว่าโทรศัพท์ iOS เก็บพิกัดของผู้ใช้ไว้ตลอดเวลาอยู่ในเครื่องโดยไม่ได้ขอผู้ใช้ล่วงหน้า แอปเปิลก็ถูกสอบสวนและดำเนินคดีในหลายประเทศ แม้จะแก้ไขปัญหานี้แล้วใน iOS รุ่น 4.3.3 แต่ความผิดและคดีก็ไม่หายไปด้วย และศาลเกาหลีก็มีคำพิพากษาให้แอปเปิลจ่ายเงินแก่นาย Kim Hyung-suk เป็นเงิน 1 ล้านวอนหรือประมาณ 30,000 บาทไปตั้งแต่เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาแต่ไม่เป็นข่าวในวงกว้างนัก
เมื่อวานนี้ทาง VMware ได้เปิดตัว vSphere 5 ออกมาก็มีคนพบว่าทาง VMware ได้่ปรับโมเดลการขายไลเซนส์ไปพร้อมๆ กัน และดูจะเป็นปัญหาสำคัญสำหรับลูกค้าที่ต้องการอัพเกรด
โดยโมเดลราคาใหม่นั้นจะจำกัดแรมสำหรับแต่ละไลเซนส์ โดยรุ่น Standard จะจำกัดแรม "รวม" ของเครื่องเสมือนทุกเครื่องไว้ที่ 24GB, รุ่น Enterprise จะจำกัดไว้ที่ 32GB, และรุ่น Enterprise Plus จะจำกัดไว้ที่ 48GB
โมเดลราคาเดิมนั้นปล่อยให้ใช้แรมต่อไลเซนส์ได้ถึง 256GB สำหรับรุ่น Standard, Advanced, และ Enterprise ส่วนรุ่น Enterprise Plus นั้นไม่จำกัดแรมเลย แต่จำกัดจำนวนคอร์ต่อไลเซนส์ไว้ที่ 6 คอร์สำหรับรุ่น Standard และ 12 คอร์สำหรับรุ่น Enterprise Plus
คดีสิทธิบัตรระหว่างกูเกิลและออราเคิลคงไม่ได้จบลงนอกศาล เมื่อกูเกิลขอเพิ่มหลักฐานในคดีเป็นเอกสารแสดงหลักฐานเพื่อคัดค้านสิทธิบัตรที่เกี่ยวกับ virtual machine ของออราเคิล โดยตั้งทีมทนาย, นักวิจัย, ผู้เชี่ยวชาญด้านซอฟต์แวร์ มาตรวจสอบเอกสารจำนวนมากเพื่อยืนยันว่าข้ออ้างนวัตกรรมของออราเคิลในสิทธิบัตร (ที่ได้มาจากซัน) นั้นที่จริงมีการสร้างสรรค์ไว้ก่อนแล้ว ทำให้ไม่สามารถใช้สิทธิบัตรเหล่านั้นฟ้องร้องใครได้
กูเกิลไล่เอกสารนับแต่ช่วงที่มีการประดิษฐ์ virtual machine ขึ้นครั้งแรกๆ ในปีช่วงปี 1960 เอกสารจำนวนมากไม่มีอยู่ในรูปแบบอิเลกทรอนิกส์ต้องหาเป็นรูปเล่มหรือเป็นตำราเรียน ทีมงานจำนวน 15 คนตอนนี้ใช้เวลาตรวจสอบเอกสารทั้งหมดไปแล้วกว่า 1,500 ชั่วโมง
ใครคิดจะซื้อ SSD ใช้งานช่วงนี้อาจจะต้องระวังกันสักหน่อยเมื่อผู้ใช้จำนวนหนึ่งพบปัญหาว่าอยู่ดี Intel SSD ตระกูล 320 ไม่ว่าจะขนาดเท่าใหร่ก็ลดขนาดตัวเองเหลือ 8MB ได้ ปัญหานี้จะเกิดขึ้นหากปิดเครื่องอย่างผิดปรกติเช่นไฟดับ ทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถอ่านข้อมูลอื่นๆ ออกมาได้
ผู้ใช้บางส่วนระบุว่าสามารถแก้ปัญหาได้ด้วยการใช้เครื่องมือของอินเทลเองในการล้างข้่อมูลทั้งหมดแต่ก็จะทำให้ข้อมูลหายไปทันที
ปัญหานี้น่าจะแก้ได้ด้วยการอัพเกรดเฟิร์มแวร์เพียงอย่างเดียว โดยเฟิร์มแวร์รุ่นที่แก้ปัญหาแล้วน่าจะส่งถึงลูกค้าภายในสิ้นเดือนนี้
ระหว่างนี้ถ้าใครใช้ก็อาจจะต้องเปิดปิดเครื่องอย่างระวัง และสำรองข้อมูลกันบ่อยๆ
เมื่อวันอังคารที่ 12 ที่ผ่านมาทางโตชิบาได้จัดงานเปิดตัวโน้ตบุ๊กในตระกูล Qosmio ซึ่งเป็นตระกูล "จัดเต็ม" สำหรับผู้ใช้ตามบ้านนับตั้งแต่ซีพียู, ระบบเสียง, จอภาพ, และการ์ดจอสองตัวคือ Qosmio F750 ที่มีจอภาพ 15 นิ้วแบบ Full HD และ Qosmio X770 จอภาพ 17 นิ้ว ฮาร์ดดิสก์สองตัว
ตัว Qosmio F750 นั้นมีให้เลือกทั้งแบบจอภาพสามมิติแบบไม่ต้องใส่แว่น และแบบจอสองมิติธรรมดา ราคาต่างกันประมาณหมื่นกว่าถึงสองหมื่นบาท (รุ่นจอสองมิติราคา 48,140 บาทรวมภาษี) ซึ่งก็ยังรับว่าสนใจสำหรับงานหลายๆ แบบเพราะสเปคที่เต็มที่โดยเฉพาะจอภาพแบบ Full HD, ฮาร์ดดิสก์แบบ 7200 รอบต่อนาที, Core i7-2630QM, และการ์ดจอ NVIDIA Geforce GT 540M
แม้จะเพิ่มเลขรุ่นแค่ 0.01 แต่ PuTTY รุ่นใหม่ก็ใช้เวลาถึง 4 ปีในการพัฒนา (ถ้าเป็น Chrome จะวิ่งไปแล้ว 32 รุ่น) จนกระทั่งหลายคนถามกันว่า PuTTY นั้นเลิกพัฒนากันไปหรือยัง และวันนี้รุ่นใหม่ก็ออกมายืนยันแล้วว่า "มันยังอยู่"
ความสามารถในรุ่นใหม่นี้มีดังนี้
แอปเปิลเปลี่ยนหัวหน้าทีมทนายสิทธิบัตรจาก Richard Chip Lutton เป็น BJ Wastrous ซึ่งเคยอยู่ฝ่ายทรัพย์สินทางปัญญาของเอชพี
นักวิเคราะห์ด้านสิทธิบัตร Florian Mueller เชื่อว่าการเปลี่ยนตัวกระทันหันเช่นนี้เป็นเพราะความล้มเหลวในการสกัด Android โดยแม้แอปเปิลจะมีคดีความกับผู้ผลิตโทรศัพท์ Android จำนวนมากแต่กลับไม่สามารถหยุดการขายที่กำลังกินส่วนแบ่งตลาดอย่างต่อเนื่องได้
หัวหน้าทีมกฏหมายใหม่ พร้อมกับอาวุธใหม่จาก Nortel ที่แอปเปิลร่วมประมูลมาได้ อาจจะทำให้คดีระหว่าง Android ที่ต้องสู้กับไมโครซอฟท์และแอปเปิลพร้อมๆ กันกลายเป็นคดีจำนวนมากในเร็วๆ นี้
ที่มา - PC Magazine
แม้ Android จะรองรับทั้ง ARM และ x86 ควบคู่กันมาเสมอ แต่จุดต่างสำคัญคือ Android NDK ซึ่งเป็นชุดพัฒนาสำหรับการคอมไพล์โค้ดแบบ native นั้นยังจำกัดอยู่เฉพาะสถาปัตยกรรม ARM เท่านั้นมาตลอด ทำให้อุปกรณ์ที่เป็น x86 นั้นไม่สามารถใช้แอพพลิเคชั่นที่ต้องการโค้ดแบบ native ได้ แต่ใน Android NDK, Revision 6 ที่เพิ่งปล่อยออกมาก็รองรับ x86 อย่างเป็นทางการแล้ว
การรองรับ x86 ให้เป็นประชากรชั้นหนึ่งเช่นเดียวกับ ARM ทำให้ NDK ตอนนี้รองรับสามสถาปัตยกรมคือ ARM, ARMv7 (ตระกูล Cortex), และ x86
W3C ซึ่งเป็นหน่วยงานดูแลมาตรฐานเว็บ (รวมถึง HTML5 ที่ก่อนหน้านี้ WHATWG เป็นผู้พัฒนามาตรฐาน) ได้ออกประกาศขอข้อมูลการใช้ประดิษฐ์ที่มีการก่อน (prior art) ของสิทธิบัตรและใบขอสิทธิบัตรของแอปเปิล เพื่อให้มาตรฐานการขอสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลของ Widget สามารถประกาศใช้ได้
แอปเปิลมีสิทธิบัตรหมายเลข 7,743,336 และคำขอสิทธิบัตรหมายเลข 11/432,295 โดยระหว่างการพัฒนามาตรฐาน
กลุ่ม Anonymous ประกาศความสำเร็จในการแฮกเซิร์ฟเวอร์ของบริษัท Booz Allen Hamilton ได้ข้อมูลอีกเมล, และรหัสผ่านแบบผ่านฟังก์ชั่นแฮชแล้วจำนวนกว่า 90,000 รายชื่อ โดยมาจากระบบฐานข้อมูลการฝึกและการทดสอบของกองทัพ
บริษัท Booz Allen Hamilton รับงานจากกองทัพสหรัฐฯ มูลค่ากว่า 3.7 พันล้านดอลลาร์ในปี 2010 แต่ทางกลุ่ม Anonymous ก็อ้างว่าสามารถเจาะฐานข้อมูลนี้ได้ภายในเวลาสี่ชั่วโมงเท่านั้น พร้อมกับส่งใบเสร็จล้อเลียนบริษัทโดยขอเก็บค่าตรวจสอบความปลอดภัยเป็นเงิน 310 ดอลลาร์
Booz Allen Hamilton เป็นบริษัทที่บริหารงานโดยอดีตผู้บริหารหน่วยงานด้านความมั่นคงสหรัฐฯ จำนวนมากเช่น อดีตผู้อำนวยการ NSA, อดีตผู้อำนวยการ CIA, หรือบางคนก็นั่งควบทั้งตำแหน่งบริหารหน่วยงานและตำแหน่งผู้บริหารบริษัท
แม้ว่าเครื่องเมนเฟรมจะเสื่อมความนิยมไปจากตลาดหลักแล้วก็ตาม แต่บริษัทอย่างไอบีเอ็มก็ยังทำรายได้จากเมนเฟรมอย่างเป็นกอบเป็นกำ และวันนี้ไอบีเอ็มก็เปิดตัวเครือง zEnterprise 114 ซึ่งเป็นเมนเฟรมที่มาราคาเริ่มต้น 75,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 2,200,000 บาทเทียบกับรุ่นปีที่แล้วคือ zEnterprise 196 ที่ราคาเริ่มต้น 100,000 ดอลลาร์หรือประมาณ 3,000,000 บาท
โครงการ General Fund Enterprise Business System (GFEBS) เป็นโครงการใช้ ERP ในกองทัพบกสหรัฐฯ ด้วยงบประมาณโครงการ 2,400 ล้านดอลลาร์ มีผู้ใช้ 80,000 คนและต้องบริหารงบประมาณปีละ 140,000 ล้านดอลลาร์ มาถึงวันนี้โครงการกำลังอยู่ในภาวะเสี่ยงที่จะล้มเหลว
เป้าหมายโครงการนั้นตั้งไว้ให้เริ่มใช้งานได้ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2007 และทำงานได้เต็มรูปแบบในธันวาคม 2009 แต่การเริ่มใช้งานเพิ่งเริ่มได้เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา และการทำงานเต็มรูปแบบถูกปรับไปอยู่ปลายปีนี้ ส่วนงบประมาณในการวางระบบครั้งแรกนั้นก็เกินกว่าที่ตั้งไว้ไป 53 ล้านดอลลาร์แล้ว
อดีตอันรุ่งโรจน์ของโซนี่กำลังกลายเป็นประวัติศาสตร์ไปอีกหนึ่งหน้าเมื่อทางโซนี่ประกาศจะหยุดสายการผลิตเครื่องเล่น MD Walkman ภายในเดือนกันยายนนี้หลังจากเลิกผลิตเครื่องเล่นเทป Walkman ไปเมื่อปีที่แล้ว
เครื่องเล่น MD (MiniDisk) นับว่าเป็นความผิดพลาดที่น่าเจ็บปวดของโซนี่ จากความมั่นใจใน "อารยธรรม" ของตัวเองที่กำลังขึ้นถึงขีดสุด โซนี่ปฎิเสธที่จะผลิตเครื่องเล่น MP3 ที่กำลังได้รับความนิยมในช่วงแรกแต่ดึงดันที่จะใช้แผ่น MD และรองรับไฟล์ ATRAC3 ของตัวเองเท่านั้นเป็นเวลานาน จนกระทั่งผู้ผลิตรายอื่นๆ กินส่วนแบ่งเครื่องเล่นเพลงพกพาอย่างหนัก และเป็นช่องทางให้แอปเปิลผงาดขึ้นมาในตลาดนี้ได้
HDMI.org ออกมายอมรับว่ามีคำสั่งให้ผู้ผลิตต้องถอนสายเคเบิลที่ปลายสองข้างเป็น Mini DisplayPort และ HDMI ออกจากตลาดทั้งหมด เนืองจากผิดสัญญาอนุญาตของทาง HDMI.org ที่กำหนดให้สายเคเบิลต้องมีหัวเป็น HDMI ทั้งสองข้าง
สัญญาอนุญาตของ HDMI.org นั้นต้องทำตามเอกสารที่ชื่อว่า Compliance Testing Specification (CTS) แต่เนื่องจากเอกสารฉบับนี้ไม่มีระบุการทดสอบสายเคเบิลที่มีหัวข้างใดข้างหนึ่งเป็นแบบอื่นนอกจาก HDMI เอาไว้ ทำให้ไม่สามารถให้อนุญาตกับสายเหล่านั้นได้
ทางออกในเรื่องนี้คือผู้ผลิตต้องทำ "ตัวแปลง" แทน "สายแปลง" กันต่อไป ส่วนตอนนี้ถ้าใครชอบพกสายมากกว่าตัวแปลงอาจจะต้องรีบไปซื้อมาเก็บไว้
ในตอนนี้บริการ Google+ นั้นอนุญาตให้เราตั้งได้ว่าข้อมูลในหน้า Google Profiles ในใดจะให้คนกลุ่มไหนเห็นได้บ้าง เช่นข้อมูลการศึกษา, หรือที่อยู่ แต่ภายในสิ้นเดือนนี้กูเกิลจะบังคับให้ข้อมูลทุกอย่างต้องเปิดเป็นสาธารณะ สามารถเข้าดูจากเว็บได้เสมอ
กูเกิลให้เหตุผลการปรับเปลี่ยนนี้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลในหน้า Profiles นั้นก็มีไว้เพื่อให้เพื่อนๆ ของเรามาหาเราเพื่อจะได้เพิ่มเข้าไปใน "แวดวง" (Circle) ของตัวเองอยู่แล้วแต่การจำกัดข้อมูลในหน้า Profiles กลับทำให้คนทั่วไปไม่สามารถค้นหากันได้
ข้อมูลที่กูเกิลบังคับให้เปิดเผยในหน้า Profiles คือ ชื่อและเพศ โดยหลังจากวันที่ 31 หากใครยังตั้งข้อมูลส่วนไหนจำกัดผู้เข้าชมอยู่ ข้อมูลส่วนนั้นก็จะถูกลบออกจากหน้า Profiles ไปเอง
ThinkPad x120e นั้นเป็น ThinkPad ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่องาน CES ต้นปีที่ผ่านมา แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างมันถูกหยุดขายไปอย่างรวดเร็ว และวันนี้มันก็กลับมาใหม่ในชื่อ x121e แล้ว
ThinkPad x121e ถูกออกแบบตัวถังใหม่ให้ "โค้ง" มากขึ้นกว่าเดิม และเพิ่มตัวเลือกซีพียูจากเดิมที่มีเพียง AMD Fusion E-350 กลายเป็น Intel Core-i3, AMD Fusion E-350, และ AMD Fusion C-50 ทำให้เราน่าจะได้เห็น x121e ในช่วงราคาที่กว้างกว่าเดิมมาก
น้ำหนักอยู่ที่ 1.4 กิโลกรัมเมื่อใส่แบตเตอรี่ 3 เซลล์ และ 1.55 กิโลกรัมเมื่อใส่แบตเตอรี่ 6 เซลล์ สามารถใส่แรมได้ 8GB
ราคาไม่แจ้ง แต่เหมือน x120e จะเน้นตลาดญี่ปุ่น, ยุโรป, และสหรัฐฯ มากกว่า แฟนๆ บ้านเราอาจจะต้องรอ ThinkPad E125 กันแทน
WebCL เป็นมาตรฐาน API สำหรับการเข้าใช้ GPU ประมวลผลผ่านทางจาวาสคริปต์ หลังจากที่ Khronos ได้ประกาศมาตรฐานไปตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา วันนี้เราก็เริ่มเห็นตัวอย่างที่สามารถใช้งานจริงได้แล้ว โดยฝั่ง WebKit นั้นซัมซุงเป็นผู้พัฒนา ส่วนทาง Firefox 4 นั้นทางโนเกียเป็นผู้พัฒนา
มาตรฐาน WebCL ยังถูกตั้งคำถามในเรื่องของความปลอดภัยอยู่อีกมาก เพราะมันเป็นเพียงการพอร์ต API ของ OpenCL ซึ่งเป็น API ระดับล่างขึ้นมาอยู่บนเว็บโดยตรง จึงน่าสงสัยว่ามันจะปลอดภัยจากการโจมตีเพียงไร อย่างไรก็ดี มาตรฐาน WebCL นั้นยังไม่นิ่งเหมือน WebGL ที่ล้อมาจาก OpenGL
Blognone รายงานการแข่งขันเขียนโปรแกรมของบริษัทระดับโลกมาหลายครั้ง วันนี้บริษัท หัวลำโพง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์บนโทรศัพท์ของคนไทยก็จัดแข่งบ้างแล้วครับ โดยผู้เข้าแข่งขันจะต้องแก้โจทย์ให้ได้ภายในสามชั่วโมง ตั้งแต่สามทุ่มถึงเที่ยงคืน
การแข่งขันรอบคัดเลือกมีสองรอบคือวันที่ 7 และวันที่ 9 โดยสามารถเข้าร่วมได้ทั้งสองรอบ หลังจากนั้นจะมีรอบจริงจัดงานที่ CS-LOXINFO อีกสามชั่วโมง ในรอบสุดท้ายทางหัวลำโพงระบุว่าจะมีการขัดขวางการเขียนโปรแกรมไปเรื่อยๆ จนกว่าจะจบการแข่งขัน
หลังจากถูกบ่นว่าทุกโพสใน Google+ สามารถถูกแชร์เป็นสาธารณะได้ (เว้นแต่จะตั้งค่าหลังโพส ซึ่งลำบากและลืมได้ง่ายมาก) ทางวิศวกรของกูเกิลก็ออกมาตอบรับแล้วว่าจะแก้ปัญหานี้ให้ โดยโพสที่เป็นวงจำกัดจะไม่สามารถถูกแชร์แบบสาธารณะได้อีกต่อไป
ไม่แน่ชัดนักว่าผลสุดท้ายที่ออกมาจะเป็นอย่างไร โดยกูเกิลอาจจะเปิดให้เพื่อนๆ สามารถแชร์โพสของเราต่อๆ ไปได้เช่นเดิม แต่ห้ามเพิ่มกลุ่ม Public เข้าไปในการแชร์เท่านั้น ซึ่งก็น่าจะช่วยลดปัญหาไปได้มากแล้ว
แต่ถ้าให้ดี มีระบบการเลือกค่าเริ่มต้นสำหรับการแชร์ด้วยน่าจะดีกว่านี้
ที่มา - C|Net
เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2001 Bram Cohen ได้ประกาศซอฟต์แวร์ตัวใหม่ในเว็บบอร์ดของ Yahoo! ถือเป็นอีกก้าวหนึ่งของเทคโนโลยี Peer-to-Peer จนกระทั่งวันนี้ BitTorrent กลายเป็นโปรโตคอล P2P ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดตัวหนึ่งของโลก
ทุกวันนี้มีข้อมูลที่ส่งด้วยโปรโตคอล BitTorrent ในระดับเพตราไบต์ และยังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ
Bram Cohen ระบุว่า "โดยพื้นฐานแล้วเขาคิดว่าเราควรใช้ความเร็วฝั่งอัพโหลดของทุกคนมาช่วยให้การส่งไฟล์ขนาดใหญ่ทำได้เร็วขึ้น"
วันนี้ทางอินเทลจัดงาน Blogger Day สำหรับบล็อกเกอร์ในไทย (จริงๆ ต้องเรียกว่าในกรุงเทพฯ) กันอีกครั้ง หลักๆ คือการพูดคุยสอบถามกับผู้บริหารของอินเทลว่าจะมีความเปลี่ยนแปลงอะไรกันบ้างในปีนี้ หัวข้อที่คุยกันมีตั้งแต่อุตสาหกรรมโดยรวม ไล่ไปจนถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ของอินเทล
แต่ข่าวที่ทุกคนคงสนใจมากที่สุดคือ การทำตลาดร่วมกับ Girls' Generation ของอินเทลนั้นเป็นโครงการที่เซ็นสัญญาไว้ครึ่งปี และสัญญาจะหมดลงภายในวันที่ 15 โดยไม่มีแนวโน้มว่าจะต่อสัญญา นี้ทำให้เราจะไม่น่าจะเห็นสาวๆ ทั้ง 9 มาโปรโมทให้กับอินเทลอีกแล้ว
จบข่าวสำคัญ หากยังมีแรงอ่านหัวข้ออื่นๆ ต่อได้
การประมูลสิทธิบัตรของบริ๋ษัท Nortel จำนวนถึง 6,000 ใบสิ้นสุดลงแล้วเมื่อวานนี้ โดยจบลงด้วยราคา 4,500 ล้านดอลลาร์เป็นเงินสดทั้งหมด ผู้ชนะคือกลุ่มบริษัท ไมโครซอฟท์, แอปเปิล, RIM, EMC, Ericsson, และโซนี่
พูดง่ายๆ คือคู่แข่งกูเกิลหลักๆ เป็นผู้ชนะ โดยอาศัยการร่วมทุนร่วมกัน ทำให้บริษัท 6 บริษัทสามารถจ่ายเงินในหลักร้อยล้านดอลลาร์เพื่อให้ราคารวมสูงถึง 4,500 ล้าน ขณะที่กูเกิลเตรียมเงินไว้ประมาณ 900 ล้านดอลลาร์เท่านั้น
เชื่อว่าผู้อ่าน Blognone จำนวนมากคงเล่นทวิตเตอร์ด้วย ข่าวนี้อาจจะต้องระวังตัวกันสักหน่อยคือตั้งแต่เย็นวันนี้เวลา 6 โมงเป็นต้นไป จนถึงเที่ยงคืนของวันพรุ่งนี้ เป็นช่วงเวลาห้ามหาเสียง และกกต. ได้ประกาศแล้วว่าการโพสข้อความลงในเครือข่ายสังคมเช่นทวิตเตอร์และเฟชบุ๊กก็เป็นการโฆษณาแบบหนึ่ง
แม้จะยังขาดความชัดเจนในระเอียดอยู่มาก เช่น Protected Timeline ในทวิตเตอร์จะถือเป็นการโฆษณาหรือไม่ หรือกระทั่งการจัดกลุ่มแปลกๆ อย่าง Circle ใน Google+
Robert Morris เป็นนักวิทยาการเข้ารหัส (cryptographer) ยุคบุกเบิกของช่วงการสร้าง Unix เขาทำงานกับ Bell Labs ตั้งแต่ปี 1960 ถึงปี 1986 ก่อนจะย้ายไปทำงานที่ NSA (National Security Agency) จนถึงปี 1994 ช่วยงาน FBI ในการถอดรหัสในคดีสำคัญ แต่ในวันที่ 26 ที่ผ่านมาเขาก็เสียชีวิตลงจากภาวะสมองเสื่อม (complication of dementia) ด้วยอายุ 78 ปี
ผลงานของเขาที่สำคัญและยังใช้งานอยู่จนทุกวันนี้คือระบบการเข้ารหัสในไฟล์ /etc/passwd
ของระบบ Unix จำนวนมาก
ปีนี้แม้อินเทลจะเปิดตัวไม่สวยนักจากปัญหา Sandy Bridge ที่สร้างความเสียหายมหาศาล แต่ผลสำรวจยอดขายจาก iSuppli กลับแสดงว่าปัญหานี้ไม่กระทบในระยะยาวมากนัก โดยไตรมาสแรกที่ผ่านมา อินเทลก็ยังเดินหน้ากินส่วนแบ่งตลาดจากเอเอ็มดี จนส่วนแบ่งขึ้นมาอยู่ที่ 82.6% แล้ว เพิ่มขึ้น 1.6% จากไตรมาสก่อนหน้า และ 2% จากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว
ทางฝั่งเอเอ็มดีนั่น ดูเหมือน Fusion จะฉุดส่วนแบ่งเอาไว้ไม่ได้ เพราะส่วนแบ่งตลาดเหลือเพียง 10.1% ลดลง 0.8% จากไตรมาสที่แล้ว และ 1.7% จากไตรมาสเดียวกันของปีที่แ้ลว
ข่าวดีสำหรับทั้งสองบริษัทคือมูลค่าตลาดรวมนั้นเพิ่มขึ้น 20% น่าจะทำให้รายได้ของทั้งสองบริษัทเพิ่มขึ้นตามๆ กันไป