ซีอีโอใหม่อย่าง Larry Page มีแผนการมากมายสำหรับกูเกิล เป้าหมายแรกของเขาคือความรวดเร็วในการตัดสินใจและความคล่องตัวขององค์กร ซึ่งหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรใหม่นั่นเอง

หลังจาก Page ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งซีอีโอไม่กี่วัน ผู้บริหารใหญ่ของกูเกิลอย่าง Jonathan Rosenberg ก็ประกาศลาออก ล่าสุดมีข่าวว่า Page ได้แต่งตั้งผู้บริหารใหม่ 7 ตำแหน่ง เพื่อควบคุมดูแลผลิตภัณฑ์สำคัญๆ ของกูเกิลแล้ว

ตำแหน่งใหม่ที่ Page แต่งตั้งคือ Senior Vice President (SVP) ซึ่งดูแลผลิตภัณฑ์ 7 สาย ทุกคนจะรายงานตรงต่อ Page และมีอิสระในการบริหารงานเพิ่มขึ้นจากเดิมมาก

ผู้ที่ได้รับการโปรโมทในรอบนี้ได้แก่

Dennis Crowley ซีอีโอแห่ง Foursquare บอกว่าเมื่อเขาเห็นข่าวพนักงานกูเกิลไปสัมภาษณ์งานที่ Twitter แล้วได้ข้อเสนอก้อนโตดึงให้อยู่ต่อ เขาเลยรู้สึกว่าเขาควรมีส่วนร่วมในการนี้ด้วยโดย Crowley อีเมล์ไปหา TechCrunch ว่า

"พนักงานกูเกิลนั้นต้องหมั่นไปสัมภาษณ์งานที่ Facebook, Twitter หรือ Zynga บ้าง" อ้าว! แล้ว Foursquare หายไปไหนครับ? ที่จริงเราตัดสินใจจ้างพวกคุณเร็วกว่าโต๊ะทำงานจะสั่งเข้ามาเสียอีกนะ

บริษัทโฆษณา AdMob ซึ่งเป็นบริษัทลูกของกูเกิล ได้สำรวจพฤติกรรมของผู้ใช้งานแท็บเล็ตในสหรัฐอเมริกาจำนวน 1,400 คน ว่านำแท็บเล็ตไปใช้กันในลักษณะใดบ้าง พบว่างานที่ทำบนแท็บเล็ตมากที่สุดคือ เล่นเกม 84% ตามด้วยค้นหาข้อมูล 78% และอีเมล 74%

AdMob ไม่ได้ระบุว่าแท็บเล็ตที่ทำการสำรวจมียี่ห้อใดบ้าง แต่ด้วยสภาพตลาดก็น่าจะถือได้ว่าเน้น iPad เป็นหลัก

Google Hotpot บริการรีวิวสถานที่ของกูเกิล (ออกมาชนกับ Yelp มากกว่าจะชนกับพวก Foursquare) เหลือแค่ตำนานแล้ว เมื่อกูเกิลตัดสินใจรวมมันเข้ากับบริการใกล้เคียงกันอย่าง Google Places

ยุทธศาสตร์ด้าน location-based service ของกูเกิลนั้นค่อนข้างสับสนเนื่องจากมีบริการหลายตัว (ทั้ง Places, Hotpot, Latitude) การรวม Hotpot เข้ากับ Places ก็ถือว่าสมเหตุสมผล แถมก่อนหน้านี้ไม่นาน กูเกิลก็เพิ่งออก Google Places for iPhone ที่รวมฟีเจอร์ Hotpot เข้ามาให้เลย

ข่าวนี้ต่อจาก กูเกิลซื้อบริษัทซอฟต์แวร์ขายตั๋วเครื่องบินออนไลน์ ITA Software ซึ่งสร้างประเด็นให้เว็บไซต์จองตั๋วเครื่องบินหลายแห่งที่ใช้ซอฟต์แวร์ของ ITA รวมตัวกันประท้วง เพราะกลัวโดนกูเกิลกีดกันไม่ให้ใช้ซอฟต์แวร์ ITA อีกต่อไป

สถานการณ์ล่าสุดคือกระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้ทำข้อตกลงกับกูเกิล โดยอนุมัติให้กูเกิลซื้อกิจการ ITA ได้ แต่มีเงื่อนไขว่าลูกค้าเดิมของ ITA จะต้องได้ใช้ซอฟต์แวร์ต่อไป ซึ่งกูเกิลก็ได้ตอบสนองเงื่อนไขนี้โดยการันตีว่าลูกค้าเดิมของ ITA จะได้ใช้ซอฟต์แวร์ไปถึงปี 2016

ในโอกาสเดียวกัน กูเกิลก็ประกาศชัดเจนว่าจะรวมทีมของ ITA เข้ามาเพื่อสร้าง "exciting new flight search tools" ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

TechCrunch รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวภายในว่าพนักงานของกูเกิลสองคนคือ Sundar Pichai และ Neal Mohan ซึ่งทำงานอยู่ฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ ได้รับข้อเสนอเป็นหุ้นของบริษัทซึ่งมีมูลค่ารวมถึง 150 ล้านดอลลาร์ (Pichai 50 ล้าน ส่วน Mohan 100 ล้าน) เพื่อแลกกับการอยู่ทำงานที่กูเกิลต่อไป ซึ่งทั้งสองก็ตอบรับข้อเสนอนี้

มีข่าวฝากประชาสัมพันธ์สำหรับชาวโปรแกรมเมอร์ที่ชอบความท้าทายในการเขียนโปรแกรมเพื่อแก้ปัญหายากๆ ว่ากิจกรรม Google Code Jam ซึ่งมีมาทุกปีๆ ตอนนี้ได้เปิดรับสมัครผู้เข้าร่วมแข่งขันสำหรับปี 2011 แล้วครับ

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้ที่นี่

โดยส่วนตัว ผมอยากให้โปรแกรมเมอร์ชาวไทยเข้าร่วมเยอะๆ ครับ เพื่อที่จะได้ประกาศให้โลกรู้ว่าประเทศเราก็มีโปรแกรมเมอร์ที่เจ๋งๆ เหมือนกัน โดยเฉพาะนิสิตนักศึกษาที่เพิ่งจบใหม่ เพื่อที่จะได้ฝึกปรือฝีมือและความสามารถในการแก้ปัญหาครับ

แล้วเจอกันในรอบคัดเลือก วันที่ 6-7 พฤษภาคม 2554 ครับ

ข่าวนี้ต่อจาก กูเกิลยังไม่ยอมเปิดซอร์ส Honeycomb เหตุเพราะกลัวคนเอาไปใช้กับโทรศัพท์ และ กูเกิลกำลังจัดระเบียบโลก Android ใหม่ กำหนดเงื่อนไขเข้มขึ้นทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ทั้งสองข่าวสร้างกระแสวิจารณ์ต่อกูเกิลอย่างมากว่า "ไม่เปิดจริง"

Andy Rubin ผู้ให้กำเนิด Android ได้ออกมาสยบข่าวเหล่านี้ทาง Android Developers Blog โดยบอกว่ายุทธศาสตร์ของ Android ยัง "เปิด" เหมือนเดิม

ประเด็นของ Rubin มีดังนี้

จากรายงานล่าสุดของสองบริษัทด้านซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสและระบบรักษาความปลอดภัยคอมพิวเตอร์ เปิดเผยว่า เหล่าบรรดาแฮ็กเกอร์จอมพลังทั้งหลาย กำลังมองหาเหยื่อชิ้นใหม่ที่ท้าทายความสามารถกว่าเดิม ซึ่งปัจจุบันกําลังเล็งเป้าหมายไปที่ โทรศัพท์สมาร์ตโฟนและเครือข่ายโซเซี่ยลเน็ตเวิร์ค (Social Network)

จากรายงานฉบับล่าสุด (Internet Security Threat Report) ของไซแมนเทค (Symantec) ได้เปิดเผยพบการโจมตีบนเว็บไซต์ขององค์กรรัฐบาล โดยมีความถี่ของพฤติกรรมอาชญากรรมที่เพิ่มสูงขึ้น

นอกจากนี้ ไซแมนเทคยังเพิ่มเติมว่า ปีที่ผ่านมาภัยคุกคามทางอินเทอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้นกว่า 286 รูปเเบบ พร้อมกล่าวยํ้าว่า ความนิยมของโทรศัพท์สมาร์ทโพน ณ ปัจจุบัน กําลังเป็นที่ดึงดูดความสนใจของเหล่าจอมพลังแฮ็กเกอร์ในปีนี้

คนที่ใช้ Firefox/Chrome/Safari อาจเคยเข้าเว็บไซต์บางแห่ง และพบคำเตือนจากเบราว์เซอร์ว่า "เว็บนี้เป็นอันตราย" ขึ้นเป็นจอสีแดงๆ กระบวนการตรวจสอบเว็บไซต์เหล่านี้ทำผ่าน Google Safe Browsing API ซึ่งเปิดให้นักพัฒนาภายนอกเรียกใช้ได้ด้วย

ล่าสุดกูเกิลกำลังขยาย Safe Browsing API ให้ครอบคลุมไปถึง "ไฟล์" ที่ดาวน์โหลดผ่านอินเทอร์เน็ตด้วย โดยเบื้องต้นจะเริ่มจากไฟล์ .exe ของวินโดวส์ และแน่นอนว่าเบราว์เซอร์ตัวแรกที่รองรับฟีเจอร์นี้ย่อมหนีไม่พ้น Chrome ซึ่งตอนนี้เข้ามาใน Dev Channel แล้ว

ฟีเจอร์นี้มีครั้งแรกใน IE9 เพียงแต่ไมโครซอฟท์ใช้ระบบตรวจจับของตัวเอง

บริษัทอินเทอร์เน็ตยักษ์ใหญ่อย่างกูเกิล แพ้คดีในศาลประเทศอิตาลีอีกครั้งหนึ่ง โดยคราวนี้เป็นคดีหมิ่นประมาท จากข้อความในระบบเติมข้อความอัตโนมัติ (autocomplete)

Google Maps ถือเป็นแอพชูโรงตัวหนึ่งของ Android และกูเกิลเองก็เพิ่มฟีเจอร์ให้อย่างสม่ำเสมอ ล่าสุดถึงเวอร์ชัน 5.3 แล้ว ของใหม่มี 3 อย่างได้แก่

• Location History ประวัติการเช็คอินสถานที่ต่างๆ แสดงเป็นกราฟสวยงาม (ภาพประกอบตามลิงก์) ผู้ใช้ต้องสั่งเปิดใช้ก่อน กูเกิลจึงจะเริ่มเก็บข้อมูลให้
• Check in at home บอกเพื่อนๆ ใน Latitude ว่าตอนนี้เรา "อยู่บ้าน" แล้ว
• เพิ่มความเห็นแบบสั้นๆ ต่อสถานที่ใน Google Hotpot

ผู้ใช้ Android 1.6 ขึ้นไปก็สามารถดาวน์โหลดกันจาก Market ตามสะดวกครับ

ในวันนี้กูเกิลมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญคือ Larry Page หนึ่งในสองผู้ก่อตั้งเริ่มทำหน้าที่ในตำแหน่งซีอีโอ (ข่าวเก่า) แต่เมื่อเปลี่ยนหัวแล้วก็เกิดการขยับในลำดับถัดมาเช่นกัน โดยกูเกิลประกาศวันนี้ว่า Jonathan Rosenberg รองประธานอาวุโสฝ่ายผลิตภัณฑ์ได้ขอลาออกแล้ว แน่นอนว่าสองเรื่องนี้คงไม่ใช่บังเอิญเกิดขึ้นพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย จึงมีการคาดเดาเหตุผลในการลาออกครั้งนี้

หลังจาก Nortel ล้มละลายไปในปี 2009 สิทธิบัตรจำนวนมหาศาลก็เป็นทรัพยสินที่คาดกันว่าหลายบริษัทจะเข้ามาแย่งชิงกันอย่างหนัก และวันนี้กูเกิลก็ประกาศตัวเข้าร่วมประมูลสิทธิบัตรอย่างเป็นทางการแล้ว โดยเสนอราคาแรกที่ 900 ล้านดอลลาร์

เป็นประจำทุกปีที่กูเกิลจะมีมุขมากมายออกมาอำผู้ใช้งานในวัน April Fools และระยะหลังก็มีจำนวนเยอะขึ้นตามผลิตภัณฑ์ที่กูเกิลมีอยู่ในมือ โดยในปี 2011 นี้กูเกิลขออำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ดังนี้ครับ

• Autocompleter กูเกิลเปิดรับสมัครตำแหน่งงาน Autocompleter มีหน้าที่คือคอยเดาใจคีย์เวิร์ดที่ผู้ใช้งานทั่วโลกกำลังพิมพ์อยู่โดยพิมพ์ดักล่วงหน้า จากนั้นจะไปโผล่ที่ Suggestion ของผู้ใช้งานคนนั้น ทักษะที่จำเป็นคือมีความสามารถในการคาดเดาใจผู้อื่น และความเร็วในการพิมพ์ที่เหนือกว่าคนทั่วไป

เป็นสองข่าวที่ใกล้เคียงกันผมรวบเป็นข่าวเดียวเลยละกันครับ

ข่าวแรกมาจาก DigiTimes อ้างผู้ผลิตฮาร์ดแวร์โน้ตบุ๊กว่า กูเกิลกำลังกำหนดมาตรฐานฮาร์ดแวร์สำหรับ Android 3.0 เสียใหม่ โดยระบุสถาปัตยกรรมของ ARM ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อที่กระบวนการอัพเกรดจะทำได้ง่ายกว่าเดิม

เทคโนโลยีการพิมพ์ผ่านอินเทอร์เน็ตโดยไม่ต้องใช้ไดร์เวอร์นั้นในตอนนี้มีสองค่ายคือ HP ePrint และ Google Cloud Print โดยทางเอชพีนั้นวางแผนจะให้เครื่องพิมพ์ของเอชพีซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดสูงที่สุดรองรับแทบทุกตัว ขณะที่ Cloud Print นั้นเปิดให้เครื่องพิมพ์ทุกแบรนด์เข้ามาตรฐานนี้ได้ รวมถึงการใช้พรินต์เตอร์ที่ไม่รองรับทำงานผ่านคอมพิวเตอร์ได้ด้วย และวันนี้ทั้งสองค่ายก็ประกาศความร่วมมือกันอย่างเป็นทางการ โดยผู้ใช้สามารถใส่อีเมลเฉพาะของเครื่องพิมพ์ในระบบ ePrint ใน Google Account เพื่อให้เครื่องพิมพ์ทำงานผ่าน Google Cloud Print ได้แล้ว

ก่อนหน้านี้ทั้งกูเกิลและเอชพีเคยสาธิตการทำงานร่วมกันของทั้งสองระบบมาแล้ว แต่เป็นความร่วมมืออย่างไม่เป็นทางการ และแน่ใจว่าจะทำงานร่วมกันได้ทุกรุ่นหรือไม่

อันนี้เปนข่าววงในจากกูเกิลครับ ว่า ทางกูเกิลกำลังซุ่มทำ DALVIK Virtual Machine ลงบน PC ซึ่งตั้งใจจะมาแข่งขันกับทั้ง .NET และ Java

เปนการย้อนรอย .NET ที่เริ่มจาก Windows PC แล้วลงไปที่ Windows Mobile ตัว DALVIK ก็กำลังจะสวนกลับมาจากที่ใช้ใน Android ให้ครอบคลุมไปยังตลาด PC

และนี่คือสาเหตุหนึ่ง ที่ Google ดึงตัว James Gosling เข้ามาร่วมงาน และแผนหนึ่งที่ Gosling ได้เสนอในทันทีที่เข้าร่วม คือการพัฒนาระบบ Compiler as a Service เทียบเท่า .NET 4.0 และออกแบบภาษาที่ Programmer สามารถกำหนด Syntax เพิ่มได้เอง

ที่มา : Google Code Blog

ไมโครซอฟท์ยื่นคำร้องอย่างเป็นทางการต่อคณะกรรมการยุโรป (European Commission) ระบุว่ากูเกิลผูกขาดตลาดค้นหาในยุโรปและกีดกันคู่แข่งไม่ให้แข่งขันได้ โดยไมโครซอฟท์ขอให้คณะกรรมการยุโรปสั่งกูเกิลให้หยุดการกระทำเหล่านี้

ในบล็อกของไมโครซอฟท์ระบุว่ากูเกิลครองส่วนแบ่งตลาดในยุโรป 95% (ส่วนในอเมริกาครองประมาณ 75%) ส่วนประเด็นที่ไมโครซอฟท์กล่าวหาว่ากูเกิลกีดกันคู่แข่ง ที่ยกตัวอย่างมาในบล็อกของไมโครซอฟท์มี 5 อย่าง (ในคำร้องมีมากกว่านั้น)

Google Buzz ถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่น่าสงสารมากตัวหนึ่งของกูเกิล เพราะนอกจากจุดกระแสไม่ติดแล้ว ยังโดนฟ้องและร้องเรียนว่าละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน Gmail ด้วย

กูเกิลแก้ปัญหาคดีฟ้องร้องด้วยการจ่ายเงินชดเชย ส่วนการถูกร้องเรียนที่เป็นเหตุให้คณะกรรมการด้านการค้าของสหรัฐหรือ FTC เข้ามาสอบสวน ล่าสุดได้ข้อยุติแล้วเช่นกัน โดยกูเกิลจะยอมให้ FTC เข้ามาตรวจสอบว่ากูเกิลละเมิดความเป็นส่วนตัวหรือไม่ทุกๆ สองปี และกูเกิลจะต้องได้รับการยินยอมจากผู้ใช้ก่อนเสมอเมื่อแชร์ข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ ทั้งหมดเพื่อแลกกับ FTC ยุติการดำเนินคดีกูเกิล

ว่าแต่ยังมีใครใช้ Buzz กันอยู่หรือเปล่า?

และแล้ว ข่าวลือ Google +1 ก็เป็นความจริง (มีใครคิดว่ามันเป็นข่าวลือด้วยหรือ?)

อธิบายให้ง่ายที่สุด มันคือ "ปุ่ม Like ของกูเกิล" นั่นล่ะครับ แทนที่จะเขียนว่า Like ก็เขียนว่า +1 แทน (ผู้อ่าน Blognone คงเข้าใจความหมายของ +1 กันดีอยู่แล้ว) ปุ่มนี้จะไปปรากฏตัวในทุกๆ ที่ ไม่ว่าจะเป็นผลการค้นหาของกูเกิล, ลิงก์โฆษณาของกูเกิล หรือเว็บไซต์อื่นๆ ที่ไม่ใช่ของกูเกิล (ทำนองเดียวกับ Facebook Like)

กูเกิลเปิดบริการใหม่ Google Talk Guru ให้เราสามารถสอบถามข้อมูลอย่างง่าย โดยการคุยกับบอทผ่าน Google Chat ซึ่งข้อมูลที่เราจะสามารถสอบถามได้ก็อย่างเช่น ผลฟุตบอลเมื่อคืนนี้ สภาพอากาศ อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงิน แปลภาษา หรือแม้แต่เครื่องคิดเลข

วิธีการใช้งานก็ง่ายมาก เพียง invite chat ไปที่ guru@googlelabs.com ก็สามารถคุยกับ Google Talk Guru ได้เลย บริการนี้ยังอยู่ในช่วงทดลองใช้ (labs) เท่าที่ทดลองใช้ดูก็ได้ผลกลับมาเร็วกว่าการค้นหาผ่านเว็บพอสมควร แต่ยังขาดความสมบูรณ์หลายอย่างและข้อมูลก็ยังไม่ครบถ้วนมากนัก

ตัวอย่างประโยคที่คุยกับ Google Talk Guru ได้

James Gosling บิดาแห่งจาวาประกาศเข้าทำงานกับกูเกิลแล้ว โดยเริ่มทำงานวันแรกวันนี้ (28 มี.ค.)

Gosling บอกว่าเขายังไม่แน่ใจว่าจะไปทำงานด้านไหนเหมือนกัน การร่วมงานกับกูเกิลครั้งนี้จะยิ่งทำให้คดีที่ออราเคิลฟ้องกูเกิล (ละเมิดสิทธิบัตร, ก็อปปี้โค้ด) ร้อนแรงขึ้นไปอีก เพราะตอนนี้ผู้สร้าง (และสัญลักษณ์) จาวาย้ายมาอยู่องค์กรเป็นขั้วตรงข้ามกับเจ้าของจาวาในปัจจุบัน

ก่อนหน้านี้ Tim Bray ผู้บริหารระดับสูงของซันและหนึ่งในผู้สร้าง XML ก็ทำงานกับกูเกิล โดยอยู่ในทีม Android

Gmail เพิ่มจำนวนโดเมนให้สมาชิกทั้งเก่าและใหม่ สามารถย้าย email, contact จากฟรีอีเมลค่ายอื่นๆมายัง Gmail ได้เพิ่มเติมอีก 14 โดเมนจากเดิม 67 โดเมน

นับเป็นความพยายามอีกครั้งของ Gmail ที่จะขยายให้ครอบคลุมผู้ใช้บริการให้มากที่สุด ฟรีอีเมลที่โดนหนักที่สุดน่าจะเป็น Hotmail และ Yahoo ที่โดนแทบจะเกือบทุกโดเมนที่มี

แถวนี้ยังมีใครไม่มีบัญชี Gmail อยู่อีกบ้างครับ

รายชื่อโดเมนใหม่ที่เพิ่มเข้ามา

Wall Street Journal รายงานข่าว "วงใน" ว่ากูเกิลกำลังร่วมมือกับ MasterCard และ Citigroup พัฒนาให้เจ้าของบัตรเดบิตและบัตรเครดิตในเครือ Citigroup (บ้านเราก็คือบัตร Citibank เป็นหลัก แต่ Citigroup มีธนาคารแบรนด์อื่นๆ ด้วยในบางประเทศ) สามารถใช้มือถือ Android แตะสัมผัสเพื่อจ่ายเงินแทนการรูดบัตรได้

ตามข่าวบอกว่ากูเกิลจะไม่หักค่าใช้จ่ายสำหรับการจ่ายเงินด้วยมือถือ แต่กูเกิลจะได้ประโยชน์จากการโฆษณา โปรโมชัน และส่วนลดต่างๆ ของร้านค้าแทน อีกบริษัทที่ร่วมโครงการนี้คือ VeriFone ซึ่งพัฒนาเครื่องจ่ายเงินที่รองรับ NFC และขายไปตามร้านค้าปลีกต่างๆ ระบบจ่ายเงินผ่านมือถือจะเปิดตัวภายในปีนี้