เว็บไซต์ Neowin รายงานข่าววงในจากกูเกิลว่า โน้ตบุ๊ก Chrome OS น่าจะวางขายได้ช่วงปลายเดือนมิถุนายนหรือต้นเดือนกรกฎาคม

นอกจากนี้ยังมีข่าวว่ากูเกิลอาจจะใช้วิธีคิดราคาแบบ "จ่ายรายเดือน" เดือนละ 10-20 ดอลลาร์ โดยผูกกับบริการ Gmail และจะเปลี่ยนฮาร์ดแวร์ใหม่ให้ถ้าเครื่องเสียหรือฮาร์ดแวร์ออกรุ่นใหม่

ที่มา - Neowin

สั้นๆ ต่อจากข่าว Google Video จะปิดให้บริการสิ้นเดือนนี้ ล่าสุดกูเกิลได้ประกาศ 3 เรื่อง ดังนี้

กูเกิลเปิดตัว Google Earth Builder สำหรับการเก็บและประมวลผลข้อมูลพิกัด (spatial data) เปิดให้องค์กรสามารถอัพโหลดข้อมูลเข้าไปยังกูเกิลและประมวลผลในระบบของกูเกิลได้

ระบบฐานข้อมูลพิกัดเป็นอีกตลาดของตลาดระดับองค์กรที่มีมูลค่าสูง เนื่องจากการประมวลผลพิกัดนั้นต้องใช้ระบบฐานข้อมูลพิเศษ เช่น Oracle Spatial การที่กูเกิลลงมายังตลาดนี้ก็เป็นเรื่องไม่น่าแปลกใจนัก โดยก่อนหน้านี้บริการเช่น Google Maps นั้นก็เปิดให้บริการกับลูกค้าองค์กรอยู่ก่อนแล้ว แต่ลูกค้าต้องประมวลผลข้อมูลบนเซิร์ฟเวอร์ตัวเองแล้วเอาไปวางซ้อนกับแผนที่ของกูเกิลเท่านั้น แต่ด้วย Google Earth Builder ข้อมูลทุกอย่างสามารถประมวลผลที่กูเกิลเองได้เลย

Google Video จะปิดให้บริการในวันที่ 29 เมษายน 2011 ผู้อัพโหลดสามารถดาวน์โหลดวีดีโอเก่าที่เคยอัพโหลดได้ก่อนวันที่ 13 พฤษภาคม 2011

Google Video เปิดให้บริการครั้งแรกในปี 2006 ต่อมากูเกิ้ลก็ได้ซื้อ Youtube หลังจากนั้นในปี 2009 กูเกิ้ลหยุดรับวีดีโอเพิ่ม โดยที่หน้าเว็บมีการแจ้งเตือนผู้ใช้จะปิดให้บริการถาวร ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดวีดีโอเก่าในรูปแบบ FLV เพื่อนำไปอัพโหลดขึ้น Youtube ได้

Google สอบตกเรื่องผลกำไรในไตรมาสแรก แม้ว่ารายได้และกำไรจะเพิ่มขึ้น 27% และ 15% ตามลำดับ แต่ตัวเลขกำไรต่อหุ้นไม่เป็นดังที่นักลงทุนคาดหวัง และจากรายงานผลประกอบการจะพบตัวเลขที่น่าสนใจว่า อะไรเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ Google ขาดทุนกำไร เอาเงินไปใช้ทำอะไรนักหนา

ในสงคราม codec ระหว่าง WebM กับ H.264 ฝ่ายของ WebM ที่นำโดยกูเกิลได้เปรียบอย่างมากตรงที่เป็นเจ้าของเว็บวิดีโอที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง YouTube และสามารถใช้ทรัพย์สินนี้สนับสนุน WebM ได้เป็นอย่างดี

ล่าสุดกูเกิลออกมาประกาศแล้วว่า ต่อจากนี้ไป วิดีโอทุกคลิปที่อัพขึ้น YouTube จะถูกแปลงเป็น WebM ด้วยอีกฟอร์แมตหนึ่ง (ปกติจะแปลงเป็น H.264 อยู่แล้ว) และกูเกิลกำลังแปลงวิดีโอเก่าๆ ให้อยู่ในรูป WebM เช่นกัน โดยตอนนี้วิดีโอเก่า 30% ถูกแปลงเสร็จแล้ว และวิดีโอเหล่านี้เป็นวิดีโอยอดฮิตที่มีส่วนแบ่งทราฟฟิกรวมกัน 99% ของทราฟฟิก YouTube ทั้งหมด

งานเข้าซ้ำสองอีกครั้ง หลังจากที่เมื่อวานเพิ่งจะโดน Apple ฟ้องเนื่องจาก Galaxy S, Galaxy Ace (Cooper) และ Galaxy Tab ไปลอกเลียนแบบ iPhone และ iPad มานั้น เมื่อสอง - สามชั่วโมงก่อนก็ยังโดน Google สั่งระงับการอัพเดท Android 2.3 ของ Galaxy S ในฝั่งยุโรปผ่านโปรแกรม Samsung Kies ลงอีก โดย Vodafone ได้แจ้งว่า Google ได้ทำการตรวจสอบรอมที่ปล่อยให้อัพเดทกันไปนั้น พบว่ารอมดังกล่าวมีปัญหาเรื่องประสิทธิ์ภาพของตัวเครื่องที่ไม่ผ่านมาตรฐานของ Google จึงทำให้ถูกสั่งเพิกถอนสิทธิ์ในการอัพเดท Gingerbread ออกไป

ข่าวนี้เป็นภาคต่อครับ ต้องอ่านย้อนก่อน 3 ตอน กูเกิลประกาศสงครามกับ content farm, กูเกิลปรับอัลกอริทึมใหม่ ลดอันดับ content farm, กูเกิลเอื้อประโยชน์ให้ Demand Media เป็นพิเศษ?

ถึงแม้เว็บไซต์ eHow.com ในเครือ Demand Media ซึ่งถือเป็น content farm รายใหญ่สามารถเอาตัวรอดมาจากการปรับอัลกอริทึมของกูเกิลรอบก่อนได้จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ แต่ชัยชนะก็อยู่กับ eHow ได้ไม่นานอย่างที่คิด เพราะการปรับอัลกอริทึมของกูเกิลรอบล่าสุดที่เรียกกันว่า "Panda" อันดับของ eHow ตกฮวบทีเดียว

มาจนถึงตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลว่า Chrome OS จะออกรุ่นจริงเมื่อใด แต่มีคนเอาซอร์สโค้ดของ Chrome OS รุ่นล่าสุดไปคอมไพล์และพบว่าในหน้าจอตั้งค่า เพิ่ม Stable Channel และเลือกเป็น default มาให้แล้ว (แต่บนโน้ตบุ๊ก Cr-48 ยังไม่มี Stable Channel ให้เลือก)

นี่อาจเป็นสัญญาณว่า Chrome OS ใกล้ความจริงขึ้นมาเรื่อยๆ และในงาน Google I/O เดือนพฤษภาคม เราคงจะรู้ข้อมูลกันเพิ่มขึ้นสักที

ที่มา - thechromesource

ในสงครามแย่งชิงพื้นที่สื่อออนไลน์ โดยเฉพาะสื่อที่เป็นวิดีโอและภาพเคลื่อนไหว ที่ดุเดือดมากขึ้นเรื่อยๆ วันนี้ YouTube หนึ่งผู้ให้บริการที่ทุกคนรู้จักดี ได้ออกมาเผยบริการ YouTube Live ที่จะถ่ายทอดสดรายการจากผู้เข้าร่วมรายต่างๆ ที่ได้รับคัดเลือก

จากแถลงการณ์อย่างเป็นทางการของกูเกิล ได้กล่าวไว้ว่า "เป้าหมายคือการจัดหาผู้เข้าร่วมที่เหมาะสมนับพัน ให้พร้อมสำหรับการเผยแพร่รายการสดผ่านทางช่องของตนภายในเดือนหน้า" สำหรับเอกสารฉบับเต็มเชิญรับชมที่นี่

ประธานของกูเกิลฝั่งเอเชียแปซิฟิค นาย Daniel Alegre ได้ออกมาพูดว่า "เมื่อไอโฟนประสบความสำเร็จ กูเกิลก็จะประสบความสำเร็จไปด้วย" แม้ว่าทั้งสองบริษัทนี้จะมีความสัมพันธ์กันที่ไม่ค่อยดีนักในระยะหลัง ๆ

ความนิยมในการใช้บริการบนกลุ่มเมฆซึ่งคิดค่าใช้งานตามการใช้งานจริงกำลังทำให้ตลาดในสหรัฐฯ เปลี่ยนแปลงไปอย่างหนัก หนึ่งในความเปลี่ยนแปลงนั้นคือบริษัทที่ไม่ค่อยมีประวัติในตลาดนี้มาก่อนอย่างกูเกิลกำลังเข้ามาบุกตลาดภาครัฐฯ อย่างเต็มกำลัง และสามารถชิงลูกค้ารายใหญ่ๆ ไปได้หลายราย การบุกนี้เป็นไปไม่ง่ายนัก เมื่อตลาดองค์กรนั้นบริการหลักๆ เช่นระบบเมลและงานเอกสารถูกครองอยู่โดยไมโครซอฟท์มาก่อน สงครามครั้งนี้กำลังย้ายจากสงครามน้ำลาย และสงครามการตลาดไปเป็นการต่อสู้ในชั้นศาลอย่างเต็มตัว

เข้าสู่เทศกาลรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสอีกครั้ง ปีนี้กูเกิลขอเป็นผู้แจ้งผลประกอบการก่อนคนอื่นโดยเผยตัวเลขรายได้สุทธิ 6.54 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นถึง 29% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน โดยคิดเป็นกำไรสุทธิ 2.3 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 17% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน

แม้จะฟังดูเติบโตดีแต่นักวิเคราะห์ต่างตั้งคำถามกับค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของไตรมาสนี้ โดยเพิ่มขึ้นมาเป็น 2.84 พันล้านดอลลาร์หรือ 55% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน ตัวเลขดังกล่าวมาจากค่าใช้จ่ายด้านวิจัยและพัฒนา (R&D) ตลอดจนถึงเงินเดือนพนักงาน สอดรับกับความเชื่อของนักวิเคราะห์ว่ากูเกิลภายใต้ซีอีโอคนใหม่ Larry Page น่าจะเกิดการใช้จ่ายต่างๆ เพื่อลงทุนในสินค้าตัวใหม่ซึ่งไม่รู้ว่าจะออกหัวหรือออกก้อยหนักมากขึ้น

โดยปรกตินั้น Gmail มีธีมมากมายให้ผู้ใช้งานได้เลือกอยู่แล้ว และสามารถแก้ไขสีของตัวอักษรกับสีพื้นหลังได้ แต่วันนี้ Gmail ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ซึ่งยอมให้ผู้ใช้กำหนดรูปภาพพื้นหลังด้วยตนเองได้ โดยสามารถเลือกรูปภาพได้จากอัลบั้มใน Picasa หรืออัพโหลดจากเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้เอง

ผู้ใช้สามารถเข้าไปกำหนดค่าต่าง ๆ เหล่านี้ได้ที่หน้า Settings และเลือกแท็บ Themes แล้วเลือก "Create your own theme" ก็จะปรากฎหน้าต่างใหม่เพื่อให้ผู้ใช้เลือกพื้นหลังของ Gmail ในแบบของตนเองได้ตามต้องการครับ

ที่มา - Gmail Blog

Gmail เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่เอาจริงก็ไม่ใหม่สักเท่าไร เพราะเป็นฟีเจอร์ที่มีอยู่ใน Gmail Labs มานานพอสมควรแล้ว และหลายคนแถวนี้ก็ใช้กันมานานแล้ว

ฟีเจอร์ 2 ตัวนี้ได้แก่

• Don’t forget Bob - เมื่อเราใส่ชื่อผู้รับอีเมลในช่อง To: ก็จะมีชื่อคนที่ "น่าจะเกี่ยวข้อง" ขึ้นมาแนะนำด้วย โดยอิงจากประวัติการส่งเมลในอดีตของเราว่าเราเคยส่งเมลหาใครบ้าง
• Got the wrong Bob? - อันนี้จะใช้เยอะในกรณีของฝรั่งที่ชื่อคล้ายๆ กัน นั่นคือ Gmail จะเตือนเราถ้าหากว่ามีชื่อคล้ายๆ กันอยู่ใน Contact ช่วยป้องกันการเมลหาผิดคน

ตอนนี้ฟีเจอร์ทั้งสองตัวถูกรวมเข้ามาใน Gmail รุ่นปกติแล้ว ใครที่ยังไม่เคยลองก็ไปทดสอบกันได้ครับ

จากข่าวเก่าโดยคุณ
arjin และคุณ
khajochi ที่มีการกล่าวถึงหนังสือเล่มนี้ วันนี้มีข้อมูลเพิ่มเติม เป็นไฮไลต์ของหนังสือซึ่งคัดมาเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของจ็อบส์และกูเกิล บางอย่างก็ได้ทราบกันไปแล้ว แต่ผมเห็นว่ามีข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมเข้ามา และบางอย่างก็น่าสนใจ จึงเลือกมานำเสนออีกครั้งหนึ่ง ซึ่งแยกเป็นประเด็นได้ดังนี้ครับ

แม้ว่าเราจะได้เห็นหุ่นยนต์ที่ถูกสร้างขึ้นออกมาให้เลียนแบบมนุษย์ในหลาย ๆ ด้านแล้วก็ตาม แต่การที่จะสอนคอมพิวเตอร์ให้เข้าใจความน่าเสียดายนั้นดูเหมือนจะเป็นเรื่องใหม่ที่ยังไม่มีใครได้พบเห็นมาก่อน

นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Tel Aviv ของประเทศอิสราเอลได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากกูเกิล ให้พยายามค้นคว้าอัลกอริธึมที่สามารถที่จะสอนให้คอมพิวเตอร์เรียนรู้จากประสบการณ์ของตัวเองในกรณีต่าง ๆ เช่น การบริหาร ทราฟฟิกของเครือข่ายหรืออินเทอร์เน็ตให้มีประสิทธิภาพ

หนึ่งในฟีเจอร์ที่ผู้ใช้ Google Docs ต้องการมากที่สุดคือการแสดงเอกสารแบ่งเป็นหน้า (pagination) แบบเดียวกับ word processor และวันนี้มันมาให้เราใช้แล้ว

ฟีเจอร์ pagination ใช้ระบบแก้ไขข้อความตัวใหม่ของ Google Docs เป็นฐาน นอกจากแบ่งหน้าได้แล้ว มันยังแสดง header และ footnote ในเอกสารแต่ละหน้าได้โดยตรง จากเดิมที่แสดงเฉพาะด้านบนสุด (กรณีของ header) หรือด้านข้าง (กรณีของ footnote)

คนที่ชอบการแสดงผลแบบเก่าก็สามารถเปลี่ยนกลับได้จากเมนู View > Document view > Compact

หลังจากที่มอบหมายให้ Samsung ทำ Nexus Two หรือ Nexus S ที่เป็นตัวแทนของ Gingerbread ในแบบฉบับ Pure Google ไปนั้น ล่าสุดเว็บไซต์ Android and Me ก็ได้คาดการณ์ถึงการทำ Nexus Three ออกมา โดยคาดแบบแตกประเด็นไปถึงสามประเด็นจนสรุปได้ว่าคนรับบททำ Nexus Three น่าจะเป็น LG แน่ๆ โดยสามประเด็นที่ Android and Me กล่าวถึงคือ

กูเกิลมีของเล่นใหม่อีกแล้วโดยคราวนี้เป็น A Google a Day ซึ่งมีแนวคิดมาจากเกมตอบปัญหาแบบ Trivia คือโจทย์จะให้ข้อมูลต่างๆ แล้วเราต้องหาคำตอบที่ตรงกับข้อมูลเหล่านั้น โดยกูเกิลเปิดโอกาสให้เราโกงได้เต็มที่ด้วยการใช้เสิร์ชของกูเกิลนี่แหละช่วยหาคำตอบ

Google Street View เป็นบริการตัวหนึ่งของกูเกิลที่มีข้อขัดแย้งกับหน่วยงานในหลายๆ ประเทศ โดยเฉพาะที่เยอรมนี และแม้ว่าศาลเยอรมนีจะตัดสินเข้าข้างกูเกิลว่าการถ่ายภาพ Street View ไม่ผิดกฎหมาย แต่ล่าสุดกูเกิลก็ประกาศว่าจะหยุดถ่ายภาพเพิ่มเติมสำหรับ Street View ในเยอรมนีแล้ว

โฆษกของกูเกิลให้เหตุผลสั้นๆ ว่าเป้าหมายของบริษัทในเยอรมนีเปลี่ยนไปแล้ว โดยจะเน้นการใช้รถถ่ายภาพมาเก็บข้อมูลชื่อถนนและป้ายต่างๆ เพื่อยืนยันข้อมูลใน Google Maps แทนการถ่ายภาพสำหรับ Street View

Street View จะยังให้บริการต่อไปในเยอรมนี แต่จะไม่มีภาพถ่ายเพิ่มจากเดิมแล้ว

ฝ่ายคู่แข่งอย่างไมโครซอฟท์เพิ่งประกาศทำ Streetside ในเยอรมนีเช่นกัน และก็โดนทางการเยอรมนีคัดค้านทันที

ขออภัยครับ ข่าวซ้ำ สตีฟ จ็อบส์เคยเป็นพี่เลี้ยงให้คำปรึกษากับสองผู้ก่อตั้งกูเกิล

กูเกิลเข้าซื้อบริษัท PushLife ที่สร้างซอฟต์แวร์สำหรับการจัดการ, เล่น, และแชร์เพลงข้ามระบบ โดยที่ผ่านมาสามารถทำให้ Android และ Blackberry สามารถเข้าถึงข้อมูลใน iTunes และ Windows Media Player ได้

ข่าวลือเกี่ยวกับการเปิดร้านเพลงสำหรับอุปกรณ์ Android นั้นมีมาตลอด แต่การเข้าซื้อ PushLife ก็อาจจะแสดงให้เห็นว่ากูเกิลเตรียมจะบุกตลาดเพลงอย่างจริงจัง และกำลังเตรียมใช้วิธีการ "ดึง" ฐานข้อมูลเพลงเดิมของผู้ใช้ที่ใช้ระบบอื่นให้สามารถย้ายข้อมูลมายัง Android ได้

ที่มา - TechCrunch

กูเกิลเปิดโครงการ Google Exacycle for Visiting Faculty Grant Program เพื่อเปิดให้นักวิจัยที่ต้องการทำงานวิจัยที่ต้องการการประมวลผลสูง สามารถเข้าไปใช้งานศูนย์ข้อมูลของกูเกิลได้ โดยจำนวนชั่วโมงของซีพียูคอร์ในโครงการนี้จะถูกบริจาคไม่น้อยกว่า 1 พันล้านชั่วโมง

ผู้สมัครต้องส่งข้อเสนอโครงการความยาวสองหน้ากระดาษพร้อมประวัติเข้าไปยังกูเกิลตั้งแต่วันนี้จนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม หลังจากนั้นกูเกิลจะเลือก 10 โครงการแล้วให้ผู้ชนะเข้าไปทำงานวิจัยที่สำนักงานของกูเกิลแห่งใดแห่งหนึ่ง โดยผู้เสนอโครงการจะต้องเป็นผู้ทำงานวิจัยเต็มเวลา และทางกูเกิลไม่ได้ออกค่าใช้จ่ายระหว่างการทำวิจัยให้

In The Plex: How Google Thinks, Works, and Shapes Our Lives คือหนังสือเล่มใหม่โดย Steven Levy ซึ่งเปิดเผยแง่มุมใหม่ๆ เชิงลึกของกูเกิลที่เขาศึกษาในช่วงสองปีที่ผ่านมา

หนังสือเปิดเผยว่าในสมัยที่สองผู้ก่อตั้ง Sergey Brin และ Larry Page กำลังหาคนมาเป็นซีอีโอนั้น สตีฟ จ็อบส์ คือตัวเลือกที่พวกเขาต้องการมากที่สุด แน่นอนว่าจ็อบส์ปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าว แต่เพราะจ็อบส์มองเห็นอนาคตของเสิร์ชที่กูเกิลทำอยู่ เขาจึงตกลงเป็นพี่เลี้ยง (mentor) ให้กับสองผู้ก่อตั้ง ซึ่งที่นั่นเองทำให้พวกเขาได้พบกับ Eric Schmidt ซึ่งเป็นกรรมการบอร์ดของแอปเปิล ผู้กลายมาเป็นซีอีโอของกูเกิลช่วงที่ผ่านมา