คณะกรรมาธิการยุโรปส่งคำสั่งตามกฎหมาย Digital Services Act (DSA) ขอให้แพลตฟอร์มวิดีโอรายใหญ่ ได้แก่ YouTube, Snapchat, และ TikTok ส่งข้อมูลพารามิเตอร์ต่างๆ ในการแนะนำเนื้อหาให้กับผู้ใช้ เพื่อตรวจสอบว่ามีการป้องกันความเสี่ยงในประเด็นต่างๆ เช่น การโน้มน้าวผลการเลือกตั้ง, การทำให้แพลตฟอร์มเสพติด, หรือการป้องกันความเสี่ยงกับผู้เยาว์ว่าเพียงพอหรือไม่
Gavin Newsom ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียใช้สิทธิวีโต้กฎหมาย SB-1047 ที่ออกมาเพื่อควบคุมปัญญาประดิษฐ์ขนาดใหญ่ที่ฝึกด้วยต้นทุนเกิน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หลังจากนักวิชาการออกมาคัดค้าน เช่น Andrew Ng และ Fei Fei Li
Newsom ยอมรับว่ากฎหมายนี้ร่างขึ้นมาด้วยความตั้งใจดี แต่ให้เหตุผลที่วีโต้ว่ากฎหมายไม่ได้จำกัดที่การใช้งานว่าโมเดลปัญญาประดิษฐ์ถูกใช้งานในสภาพแวดล้อมเสี่ยงสูงหรือไม่จึงค่อยควบคุม แต่กลับควบคุมไปทั้งหมด
รัฐสภาสิงคโปร์ผ่านกฎหมาย Platform Workers Act วางแนวทางการคุ้มครองแรงงานที่ทำงานผ่านแพลตฟอร์ม ให้อยู่ในระดับใกล้เคียงลูกจ้างตามปกติมากขึ้น
กฎหมายบังคับให้นายจ้างต้องคุ้มครองและชดเชยการบาดเจ็บจากการทำงานเหมือนลูกจ้างปกติ และบังคับให้แพลตฟอร์มต้องหักเงินค่าประกันสังคม โดยอัตราการจ่ายจะค่อยๆ เพิ่มจนเท่าพนักงานปกติ และสุดท้ายคือพนักงานและแพลตฟอร์มต่างมีสิทธิตั้งสหภาพของตนเองเพื่อต่อรองกันเอง
กฎหมายนี้มีผลบังคับวันที่ 1 มกราคม 2025
ที่มา - Strait Times
การแบ่งขั้วแยกข้างในสหรัฐฯ นับวันก็ยิ่งร้าวลึก ไม่ใช่แค่มีเรื่องให้เห็นต่างกันมากขึ้นระหว่างเดโมแครตและรีพับบลิกัน แต่ดีกรีความเห็นต่างในแต่ละเรื่องก็ทวีความเข้มข้น แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ 2 ขั้วเห็นพ้องต้องกัน นั่นคือประเด็นเรื่องจีน
ถ้าใครได้ตามข่าวต่างประเทศอยู่บ่อย ๆ น่าจะผ่านตากันมาบ้างกับประเด็นที่สหรัฐฯ พยายามบีบให้ TikTok แยกกิจการจาก ByteDance (บริษัทแม่ในจีน) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาเกิน 80% เห็นด้วยในเรื่องนี้ แม้สองพรรคใหญ่จะแบ่งเก้าอี้กันครึ่งต่อครึ่งในสภาทั้งสอง ย้ำชัดถึงความกลมเกลียวกับในเรื่องจีน
Elon Musk ออกมาแสดงความเห็นด้วยกับร่างกฎหมายควบคุมปัญญาประดิษฐ์ของรัฐแคลิฟอร์เนีย หรือ SB 1047 พร้อมกับระบุว่าเขาสนับสนุนการกำกับปัญญาประดิษฐ์มานานแล้ว
เขาเป็นผู้บริหารบริษัทปัญญาประดิษฐ์รายใหญ่รายที่สองที่ออกมาแสดงความเห็นด้วย โดยสัปดาห์ที่แล้วมี Dario Amodei ซีอีโอ Anthropic ออกมาแสดงความเห็นด้วยแบบเดียวกัน
แม้จะมีนักวิจัยและบริษัทต่างๆ ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยกับกฎหมายนี้อย่างหนักในช่วงต้น แต่ร่างกฎหมายก็มีการปรับแก้ไปหลายส่วน โดยเฉพาะการตั้งกรรมการควบคุมการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ที่ถูกวิจารณ์หนักและถอนออกไปในร่างหลังๆ
Dario Amodei ซีอีโอ Anthropic ผู้พัฒนาโมเดลภาษาขนาดใหญ่ Claude ออกจดหมายแสดงความเห็นด้วยร่างกฎหมายควบคุมการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ SB 1047 ร่างล่าสุด หลังจากที่ก่อนหน้านี้กฎหมายฉบับนี้ถูกคัดค้านอย่างหนัก เช่น Andrew Ng, OpenAI
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส. หรือ PDPC) มีคำสั่งปรับทางปกครองต่อบริษัทเอกชนรายหนึ่ง (ไม่ระบุชื่อ) ที่ทำธุรกิจด้านซื้อขายสินค้าออนไลน์ เป็นเงิน 7 ล้านบาท หลังปล่อยให้ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้ารั่วไหล ซึ่งผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (PDPA)
บริษัทรายนี้ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้ามากกว่า 1 แสนราย แต่กลับไม่ปฏิบัติตามกฎหมายดังนี้
Kathy Hochul ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ลงนามรับรองกฎหมายด้านโซเชียลมีเดียกับเยาวชน 2 ฉบับ หลังจากสภาของรัฐนิวยอร์กโหวตผ่านกฎหมาย เมื่อต้นเดือนนี้
สภาของรัฐนิวยอร์กผ่านกฎหมายฉบับใหม่ Stop Addictive Feeds Exploitation (SAFE) for Kids Act กำหนดให้บริษัทโซเชียลมีเดียต้องจำกัดอัลกอริทึมแนะนำเนื้อหาของ feed ที่ทำให้ผู้ใช้ "เสพติด" สำหรับผู้ใช้ที่อายุต่ำกว่า 18 ปี และห้ามส่งการแจ้งเตือนไปยังผู้ใช้เหล่านี้ระหว่าง 0.00-6.00 น. โดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ปกครอง
กฎหมายฉบับนี้ยังให้อำนาจกับสำนักงานอัยการของรัฐนิวยอร์ก เอาผิดกับบริษัทได้ด้วยโทษปรับสูงสุด 5,000 ดอลลาร์ต่อการทำผิดหนึ่งครั้ง
ขั้นถัดไปคือผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก Kathy Hochul ต้องลงนามเพื่อให้กฎหมายมีผลบังคับใช้ ซึ่งเธอออกมาประกาศชัดเจนว่า นิวยอร์กจะเป็นรัฐต้นแบบในการปกป้องเด็กๆ จากโซเชียลที่ทำให้เสพติด จนเกิดเป็นปัญหาสุขภาพจิตตามมา
คณะกรรมการกำกับดูแลวิทยุและโทรทัศน์ของแคนาดา (CRTC) ออกคำสั่งให้แพลตฟอร์มออนไลน์สตรีมมิ่งรายใหญ่ ต้องจ่ายเงิน 5% ของรายได้ในแคนาดาให้กับรัฐบาล ซึ่งเบื้องต้นประเมินว่าจะได้เงินประมาณ 200 ล้านดอลลาร์ต่อปี โดยเงินดังกล่าวจะนำมาใช้สนับสนุนรายการข่าวท้องถิ่น ตลอดจนผู้ผลิตคอนเทนต์ในประเทศ
คำสั่งดังกล่าวมีผลบังคับใช้กับบริการสตรีมมิ่งทั้งวิดีโอและเพลง ที่มีรายได้มากกว่า 25 ล้านดอลลาร์ต่อปีในแคนาดา โดยก่อนหน้านี้ทั้ง Amazon, Apple, Disney, Google, Netflix, Paramount และ Spotify ได้ออกมาคัดค้านในช่วงการทำประชาพิจารณ์
คำสั่งดังกล่าวได้ยกเว้นการเก็บเงินจากกลุ่มหนังสือเสียง, พอดคาสต์, วิดีโอเกม และคอนเทนต์ที่ผู้ใช้งานสร้างขึ้น (UGC) จึงทำให้ YouTube ไม่เข้าเงื่อนไขที่ต้องจ่ายเงิน
รัฐบาลประเทศสเปนออกร่างกฎหมาย ที่กำหนดให้สมาร์ทโฟนต้องเปิดฟังก์ชันการควบคุมโดยผู้ปกครอง (Perental Control) สำหรับผู้ใช้งานที่เป็นเด็กเป็นค่าเริ่มต้น เพื่อให้ผู้ปกครองมีส่วนร่วมและดูแลการใช้สมาร์ทโฟนของเด็ก
กฎหมายดังกล่าวต้องเข้าสู่การลงมติรับรองจากรัฐสภาพก่อนมีผลบังคับใช้ต่อไป
ในร่างกฎหมายฉบับนี้ยังมีอีกหลายประเด็นเพื่อควบคุมเนื้อหาดิจิทัล โดยระบุว่าภาพปลอมที่สร้างจาก AI ซึ่งมีเนื้อหาทางเพศและภาพเปลือยของเด็ก จะมีความผิดอาญาเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ร่างกฎหมายยังกำหนดเพิ่มอายุขั้นต่ำของเยาวชนที่ใช้โซเชียลมีเดียซึ่งต้องมีการกำกับดูแล เช่น ห้ามคนทั่วไปติดต่อ จากเดิม 14 ปี เพิ่มเป็น 16 ปี
Axon ผู้ผลิตอุปกรณ์สำหรับตำรวจ เช่น ปืนช็อตไฟฟ้า, กล้องติดตัวเจ้าหน้าที่, หรือระบบจัดเก็บหลักฐานคดี ออกซอฟต์แวร์ใหม่ Draft One ที่ใช้ generative AI ช่วยตำรวจเขียนเอกสารแจ้งความโดยอัตโนมัติ
Draft One ดึงเสียงจากกล้องติดตัวตำรวจ Axon Body มาแปลงเสียงเป็นข้อความ จากนั้นแปลงคำถามตอบของตำรวจกับผู้เสียหายกลายเป็นเอกสารแจ้งความ
ทาง Axon ระบุว่ามีแนวทางป้องกันความเสี่ยงที่เจ้าหน้าที่จะอาศัย AI มากเกินไป ได้แก่
รัฐสภายุโรปลงมติให้รับรองแนวทางสิทธิของลูกค้าในการซ่อมสินค้าหรือ right to repair ด้วยคะแนน 584-3-14 โดยมีประเด็นสำคัญคือ ผู้ผลิตสินค้าต้องมีแผนรองรับการซ่อมแซม และผลักดันให้ลูกค้าเลือกแนวทางซ่อมมากกว่าเปลี่ยนสินค้า
กฎระเบียบใหม่นี้กำหนดกรอบกว้าง ๆ สำหรับผู้ผลิตสินค้า ว่าต้องรองรับการซ่อมแซมภายในระยะเวลาที่เหมาะสม มีค่าใช้จ่ายที่สมเหตุสมผล และสินค้าที่ผ่านการซ่อมแซมแล้ว ต้องได้ขยายเวลารับประกันออกไป 1 ปีตามกฎหมาย ทั้งหมดเพื่อให้ลูกค้าเลือกซ่อมมากกว่าเปลี่ยนสินค้าใหม่
กฎระเบียบนี้ครอบคลุมถึงระดับที่ว่า หากสินค้าหมดระยะรับประกันแล้ว ผู้ผลิตต้องมีช่องทางให้ซ่อมแซมได้ มีผลกับสินค้าใช้งานทั่วไป เช่น เครื่องซักผ้า เครื่องดูดฝุ่น จนถึงสมาร์ทโฟน
แคนาดาเตรียมเก็บภาษีบริษัทเทคโนโลยีข้ามชาติขนาดใหญ่ (ซึ่งก็คือเพื่อนบ้านจากสหรัฐอเมริกาทั้งนั้น) ด้วยอัตรา 3% จากรายได้ของบริษัทนั้นๆ ที่ได้จากผู้ใช้บริการในแคนาดา และมีผลเฉพาะกับบริษัทที่มีรายได้มากกว่าปีละ 1.1 พันล้านดอลลาร์แคนาดาขึ้นไป
กฎหมาย digital service tax ของแคนาดา คล้ายกับกฎหมายภาษีบริการดิจิทัลของยุโรปที่เริ่มใช้ในปี 2020 โดยกฎหมายของแคนาดาจะมีผลบังคับใช้ภายในปี 2024 แต่จะย้อนคิดรายได้กลับไปถึงปี 2022
แคนาดาบอกว่าจริงๆ ตั้งใจรอข้อตกลงภาษีนานาชาติที่เก็บผ่านองค์กร OECD แต่สหรัฐอเมริกาไม่ยอมลงนามสักที จึงตัดสินใจไม่รอแล้ว และเลือกออกกฎหมายภาษีของตัวเองแทน
รัฐเทนเนสซีผ่านกฎหมายห้ามสร้างเพลงด้วย AI ที่เรียนรู้และลอกเลียนศิลปิน ซึ่งเป็นรัฐแรกในสหรัฐอเมริกาที่ออกกฎหมายนี้ ซึ่งเป็นการปรับปรุงกฎหมายคุ้มครองงานเพลงเดิม ที่ห้ามลอกเลียนไปถึง ชื่อศิลปิน รูปภาพ โดยเพิ่มเติมการเลียนแบบด้วย AI มาอีกหัวข้อ กฎหมายนี้จะมีผลตั้งแต่ 1 กรกฎาคม เป็นต้นไป
กฎหมายฉบับนี้มีลูกเล่นเล็ก ๆ ในการตั้งชื่อ โดยมีชื่อเต็มว่ากฎหมายคุ้มครองการเลียนแบบเสียงและภาพ มีชื่อย่อว่า ELVIS Act (Ensuring Likeness Voice and Image Security Act) เนื่องจากศิลปิน Elvis Presley มีประวัติมาฝึกฝนและพัฒนางานเพลงที่เมืองแนชวิลล์ เมืองหลวงของรัฐเทนเนสซี ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นดินแดนของเพลงคันทรี มีศิลปินชื่อดังหลายคนที่เคยมาฝึกฝนและบันทึกเสียงที่เมืองนี้ รวมทั้ง Taylor Swift
รัฐสภาพยุโรปอนุมัติกฎหมายควบคุม AI ซึ่งถือเป็นที่แรกในโลก เพื่อกำกับดูแลการใช้งาน AI ตามระดับความเสี่ยง ต่ำ กลาง สูง และไม่สามารถรับได้ (unacceptable) ด้วยคะแนนโหวต รับรอง 523 เสียง, ไม่รับรอง 46 เสียง และงดออกเสียง 49 เสียง
กฎหมายดังกล่าวคาดว่าจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในปี 2025
ในบางประเทศที่ลงคะแนนเสียงคัดค้านกฎหมายดังกล่าว ซึ่งรวมทั้งเยอรมนีและฝรั่งเศส ให้ความเห็นว่าการควบคุมควรเป็นการกำกับดูแลกันเองมากกว่าให้องค์กรรัฐเข้ามามีส่วนร่วม เพราะอาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขัน โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาบริษัทที่มีความก้าวหน้าด้าน AI ตอนนี้มาจากสหรัฐอเมริกาและจีน
Antoine Monin ผู้บริหาร Spotify ในฝรั่งเศสประกาศว่า บริษัทจะหยุดให้การสนับสนุนสองงานเทศกาลดนตรีใหญ่ของฝรั่งเศสคือ Francofolies de La Rochelle และ Printemps de Bourges ตั้งแต่ปี 2024 เป็นต้นไป เพื่อประท้วงกฎหมายภาษีใหม่ที่ออกมา
Emmanuel Macron ประธานาธิบดีฝรั่งเศสประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่าฝรั่งเศสจะเริ่มเก็บภาษีผู้ให้บริการสตรีมเพลงเพิ่มเติม คิดจากรายได้เฉพาะในประเทศด้วยอัตราที่ต่ำคือ 1.2% และยกเว้นสำหรับแพลตฟอร์มที่รายได้น้อยกว่า 20 ล้านยูโร เพื่อนำเงินส่วนนี้มาใช้สนับสนุนศิลปินในฝรั่งเศส
สำนักงานสื่อและสิ่งพิมพ์แห่งชาติของจีน (NPPA) ซึ่งมีหน้าที่กำกับดูแลเนื้อหาเกมด้วย เปิดเผยร่างแนวทางกำกับดูแลใหม่ เพื่อควบคุมการใช้จ่ายตลอดจนเนื้อหาในเกม
ในภาพรวมนั้น NPPA บอกว่าต้องการลดเทคนิคที่ผู้ให้บริการเกมทำเพื่อให้คนจ่ายเงินในเกมมากขึ้น และใช้เวลาในเกมมากขึ้น เช่น ห้ามการให้รางวัลตอบแทนหากมีการล็อกอินเข้ามาในเกมบ่อยขึ้น การห้ามบังคับผู้เล่นเข้าโหมดแข่งขันระหว่างกัน ในร่างยังเสนอแนวทางควบคุมเพิ่มเติม เช่น กำหนดเพดานที่ผู้เล่นจ่ายเงินในเกมได้สูงสุดด้วย ไปจนถึงการระบุว่าบริษัทเกมของจีน ต้องนำเสนอเนื้อหาเกมที่ไม่ขัดต่อกฎหมายของจีน แม้เกมนั้นจะขายในต่างประเทศก็ตาม
สหภาพยุโรปเตรียมออกกฎหมายควบคุมปัญญาประดิษฐ์หลังรัฐสภายุโรป (European Parliament) บรรลุข้อตกลงกับคณะมนตรียุโรป (European Council) ว่าจะผ่านกฎหมายควบคุมปัญญาประดิษฐ์ โดยกฎหมายนี้ควบคุมการใช้งานตามระดับความเสี่ยง โดยแบ่งเป็น 3 ระดับ ได้แก่
ศาลรัฐมอนแทนาออกคำตัดสิน ไม่ให้กฎหมายแบน TikTok ภายในรัฐมีผลบังคับใช้ ตามกำหนดที่วางไว้ในวันที่ 1 มกราคมปีหน้า ส่งผลให้ TikTok ยังสามารถใช้งานได้ต่อไปในพื้นที่ดังกล่าว
ก่อนหน้านี้สภารัฐมอนแทนาได้ลงนามกฎหมายแบน TikTok มีผลเฉพาะพื้นที่ในรัฐ ซึ่งถือเป็นการออกกฎหมายห้ามใช้ TikTok ในวงกว้างครั้งแรกที่ระดับรัฐ ในสหรัฐอเมริกา จากที่ผ่านมามีเฉพาะคำสั่งห้ามเจ้าหน้าที่รัฐใช้งาน โดยรัฐมอนแทนาให้เหตุผลเรื่องการจัดเก็บข้อมูลผู้ใช้งาน ที่อาจถูกส่งต่อให้รัฐบาลจีน ซึ่ง TikTok ได้ฟ้องศาลว่าคำสั่งนี้ขัดต่อเสรีภาพการแสดงออก และรัฐมอนแทนาก็ไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนพอสำหรับข้อกล่าวหา
กรรมาธิการยุโรปประกาศ 6 บริษัทที่เข้าข่ายสถานะ gatekeeper ได้แก่ Alphabet, Amazon, Apple, ByteDance, Meta, และ Microsoft โดยหลังจากนี้ทั้ง 6 บริษัทมีเวลา 6 เดือนปรับการทำธุรกิจให้เป็นเป็นตามข้อบังคับที่เพิ่มขึ้น
สถานะ gatekeeper ตามกฎหมาย Digital Markets Act ระบุให้เป็นบริษัทขนาดใหญ่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม, มีผู้ใช้เป็นคนหรือธุรกิจจำนวนมาก, และมีความสามารถในการป้องกันสถานะตัวเองได้อย่างแข็งแกร่ง บริษัทที่ถูกจัดเข้าหมวดจะถูกบังคับให้เปิดแพลตฟอร์มให้บริการอื่นเข้ามาแข่งขันได้ และต้องไม่สร้างความได้เปรียบบริการของตัวเองเหนือบริการของผู้ให้บริการภายนอก เช่นการบังคับติดตั้งแอปบางตัวโดยไม่ให้ถอนออก
มีรายงานจาก Financial Times เกี่ยวกับกฎหมายดูแลการแข่งขันในตลาดดิจิทัล ของคณะกรรมาธิการยุโรป ที่เรียกย่อว่ากฎหมาย DMA ซึ่งเริ่มมีผลตั้งแต่ปลายเดือนที่แล้ว รายละเอียดหนึ่งคือการประกาศรายชื่อบริการ ที่เข้าข่ายต้องปฏิบัติตาม DMA เนื่องจากมีผู้ใช้งานจำนวนมาก และสามารถกีดกันคู่แข่งได้ (gatekeeper)
เงื่อนไขของบริการที่เข้าเกณฑ์ DMA คือบริการนั้นต้องมีผู้ใช้งานในประเทศกลุ่ม EU มากกว่า 45 ล้านคนต่อเดือน หากไม่สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดได้ จะมีค่าปรับปีละ 7.5 พันล้านยูโร ซึ่งข้อกำหนดหนึ่งคือการออกแบบระบบ ให้รองรับการใช้งานหรือเชื่อมต่อบริการของผู้พัฒนารายอื่นได้
iFixit เว็บแนะนำการซ่อมอุปกรณ์ต่าง ๆ ซึ่งที่ผ่านมาผลักดันแนวทาง Right to Repair หรือสิทธิที่ลูกค้าต้องสามารถเลือกซ่อมแซมอุปกรณ์ได้เอง เปิดเผยว่าแอปเปิลได้ส่งจดหมายเปิดผนึก เพื่อสนับสนุนวุฒิสมาชิก Susan Talamantes Eggman ของรัฐแคลิฟอร์เนีย ให้ผลักดันการออกกฎหมาย SB 244 Right to Repair Act ซึ่ง iFixit มองว่าเป็นก้าวสำคัญ เพราะบริษัทที่มีท่าทีไม่เห็นด้วยกับกฎหมายนี้ในช่วงที่ผ่านมาอย่างแอปเปิล ก็ลงมาร่วมสนับสนุนแล้ว
ร่างกฎหมายนี้มีข้อกำหนดหลายอย่าง เช่น สินค้าที่ราคามากกว่า 99.99 ดอลลาร์ ผู้ผลิตต้องมีอะไหล่ขายอย่างน้อย 7 ปี แม้หมดระยะประกันไปแล้ว รวมทั้งศูนย์ซ่อมแซมที่ไม่ใช่ของผู้ผลิต ต้องเปิดเผยข้อมูลกับลูกค้าว่าใช้อะไหล่จากผู้ผลิตหรือเป็นอะไหล่ 3rd Party
สหราชอาณาจักรมีแผนปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับอำนาจในการสอบสวน โดยการเปลี่ยนแปลงหนึ่งคือ หากมีอัพเดตในบริการรับส่งข้อความออนไลน์ ต้องผ่านการตรวจสอบและอนุมัติจากหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องก่อน ตลอดจนต้องมีช่องทางให้เจ้าหน้าที่รัฐตรวจสอบข้อความที่เข้ารหัส end-to-end หากมีการร้องขอ
อย่างไรก็ตามในระหว่างการเปิดรับความคิดเห็นจากฝั่งผู้ให้บริการ แอปเปิลเป็นหนึ่งในบริษัทที่คัดค้านร่างกฎหมายนี้ โดยบอกว่าหากต้องทำฟีเจอร์นี้ตามที่สหราชอาณาจักรร้องขอ จะทำให้เกิดช่องโหว่ที่กระทบกับผู้ใช้งานประเทศอื่นทั่วโลก การอัพเดตซอฟต์แวร์เป็นเรื่องเปิดเผย ไม่สามารถทำเป็นความลับได้ จึงไม่เห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าว และหากกฎหมายนี้มีผลจริง แอปเปิลอาจเลือกปิดบริการ iMessage และ FaceTime ในประเทศไปเลย
Le Monde สื่อฝรั่งเศสรายงานว่า ฝ่ายนิติบัญญัติฝรั่งเศส ผ่านร่างกฎหมายที่อนุญาตให้ตำรวจสอดแนมผู้ต้องสงสัยในอาชญากรรมร้ายแรง ผ่านกล้อง ไมโครโฟน และตำแหน่ง GPS บนโทรศัพท์และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง (แต่ยังไม่แน่ชัดว่าวิธีการไหน รูปแบบไหน)
อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าตำรวจจะสามารถใช้อำนาจนี้ได้ตามชอบ แต่ต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้พิพากษาก่อน รวมถึงกฎหมายก็ห้ามบังคับใช้กับอาชีพนักข่าว, ทนาย และอาชีพอื่นๆ ที่มีความละเอียดอ่อน โดยจุดประสงค์ของกฎหมาย ตั้งใจจะจำกัดการใช้งานเฉพาะคดีที่ร้ายแรงเท่านั้น รวมถึงการเข้าถึงตำแหน่ง จะทำได้เฉพาะกรณีที่ความผิด มีโทษจำคุก 5 ปีขึ้นไปเท่านั้น