บริการนี้ยังมีเฉพาะในสหรัฐ แต่ผมว่าน่าสนใจในไอเดีย
กูเกิลเปิดบริการตัวใหม่ชื่อ Google Advisor หน้าที่ของมันคือช่วยเปรียบเทียบว่าบริการทางการเงินแบบต่างๆ เช่น เปิดบัญชีธนาคาร สมัครเครดิตการ์ด ขอกู้ยืมซื้อบ้าน ฯลฯ ยี่ห้อไหนให้ผลตอบแทนสูงสุดหรือคิดดอกเบี้ยต่ำที่สุด
เมื่อเลือกบริการจากบริษัทที่ต้องการได้แล้ว เราสามารถกดสมัครได้จาก Google Advisor เลย ช่วยลดขั้นตอนการกรอกฟอร์มที่ซับซ้อน และลดปัญหาสแปมจากการให้ข้อมูลส่วนตัวไปได้ (เพราะทุกรายที่เข้าร่วม Google Advisor ต้องทำข้อตกลงกับกูเกิลด้วย)
ที่มา - Official Google Blog
หลังจากที่ปล่อยให้หลายคนรอคอยมานานแสนนาน ในที่สุดกูเกิลก็ได้เปิดตัวเว็บ Google Maps สำหรับ Android, iOS แล้ว
นอกจากจะมีฟีเจอร์ที่เหมือนกับแอพฯ อย่างการแบ่งปันตำแหน่งที่อยู่ปัจจุบัน การดูภาพถ่ายแต่ละพื้นที่จากดาวเทียม สภาพจราจร และการค้นหาเส้นทางแล้ว Google Maps เวอร์ชันบนเว็บบนมือถือยังมีฟีเจอร์เข้าถึง MyMaps ที่สร้างจากหน้าเว็บบนเดสก์ทอป รวมถึงตำแหน่งที่ตั้งที่ผู้ใช้ระบุตำแหน่งเอาไว้ได้ด้วย (หากผู้ใช้ล็อกอินเข้า account ของตน)
ที่มา: Electronista
ปัญหาช่องโหว่ด้านความปลอดภัยของ Android ที่เพิ่งค้นพบล่าสุด ดูจะแก้ได้ง่ายๆ ไปแล้ว เพราะกูเกิลออกมาประกาศแล้วว่า มันสามารถแก้ได้ที่ฝั่งเซิร์ฟเวอร์ของกูเกิลเอง และผู้ใช้ไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเลย
กูเกิลจะแก้โค้ดที่ฝั่งเซิร์ฟเวอร์เพื่อปิดช่องโหว่ของแอพ Calendar/Contacts ภายใน 2-3 วันนี้ ส่วน Picasa จะยังไม่ถูกแก้ไขในรอบนี้ แต่กูเกิลก็ระบุว่ากำลังทำงานเพื่อแก้ปัญหานี้อยู่
ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยได้ชมกูเกิลว่าตอบสนองปัญหาอย่างรวดเร็ว
นักวิจัยสามคนจากมหาวิทยาลัย Ulm ในเยอรมนี ได้แก่ Bastian Könings, Jens Nickels, Florian Schaub ได้ค้นพบช่องโหว่ของระบบล็อกอิน ที่แอพใช้เช็คข้อมูลการล็อกอินกับเซิร์ฟเวอร์กูเกิล ซึ่งอาจเป็นช่องทางให้แฮ็กเกอร์เข้าถึงบัญชีกูเกิลของเราได้
ซอฟต์แวร์ที่เป็นข่าวชื่อว่า ClientLogin ซึ่งเป็นบริการพื้นฐานตัวหนึ่งของ Android ที่แอพอื่นๆ (ทั้งแอพของกูเกิลเองอย่าง Gmail/Calendar และแอพที่ล็อกอินด้วยบัญชีกูเกิล) เรียกใช้ได้
กระบวนการทำงานของ ClientLogin เป็นดังนี้ (ดูภาพประกอบ)
Google Spreadsheet ได้ฟีเจอร์สำคัญที่ผู้ใช้ spreadsheet ระดับสูงมักต้องใช้กัน นั่นคือ Pivot Table หรือ "การหมุน" ตารางให้แสดงข้อมูลตามที่เราต้องการ
วิธีใช้งานคือเลือกตารางที่ต้องการ แล้วเข้าไปที่เมนู Data > Pivot Table Report จากนั้นจะมีกล่อง Pivot Editor โผล่ขึ้นมาให้เลือกเงื่อนไข (ดูวิดีโอประกอบ)
ที่มา - Google Docs Blog
นับตั้งแต่กูเกิลเปิดตัว Chrome OS เป็นต้นมา ก็เกิดคำถามขึ้นมาตลอดว่ามันต่างจาก Android อย่างไรในแง่เป้าหมายทางการตลาด ซึ่งคำตอบจากกูเกิลเองก็คลุมเครือมาโดยตลอดเช่นกัน
แต่ในงาน Google I/O 2011 ครั้งล่าสุด สิ่งที่กูเกิลแถลงทั้งเรื่อง Android และ Chrome OS ก็เริ่มชัดเจนมากขึ้นว่าเป้าหมายจะเหมือน-ต่างอย่างไร
คำตอบนั้นอาจอธิบายสั้นๆ ว่า
จากการศึกษาของ Experian Hitwise พบว่า Bing ให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำกว่า Google โดย Bing มีอัตราการค้นพบผลลัพธ์ที่พึงพอใจอยู่ที่ 81.54% ในขณะที่ Google อยู่ที่ 66.58% เท่านั้น โดยวิธีการวัดความแม่นยำนั้นจะวัดจากอัตราที่ผู้ใช้ "คลิก" เข้าชมเว็บไซต์ผลลัพธ์ที่ได้จากการค้นหา ซึ่งสามารถบ่งบอกได้ถึงความแม่นยำที่ผลลัพธ์จะมีข้อมูลเกี่ยวข้องกับสิ่งที่ผู้ใช้ต้องการ
แน่นอนว่าการที่ Bing มีความแม่นยำสูงกว่า Google นั้น จะเป็นตัวเร่งส่วนแบ่งทางการตลาดให้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่น ข่าวนี้
Google Music ที่เพิ่งเปิดตัวในงาน Google I/O มีกระบวนการทำงานแบบเดียวกับ Amazon Cloud Player คือผู้ใช้ต้องอัพโหลดไฟล์ขึ้นไปเองเพื่อฟังแบบสตรีมมิ่ง ไม่สามารถซื้อเพลงออนไลน์เพื่อฟังออนไลน์ได้
ตามข่าวก่อนหน้านี้บอกว่ากูเกิลเองก็อยากขายเพลงออนไลน์อยู่แล้ว แต่เจรจาเงื่อนไขกับค่ายเพลงไม่สำเร็จ ส่วนค่ายเพลงก็มีข่าวว่าจะใช้บริการเพลงออนไลน์ของแอปเปิล มากดดันกูเกิลให้ยอมรับเงื่อนไขการเจรจา
ข่าวบริการบนกลุ่มเมฆล่มหรือให้บริการไม่ได้ยังตามมาอีกเป็นชุด รอบล่าสุดคนที่โดนคือ Blogger บริการบล็อกจากกูเกิล
ตามรายงานคือวันที่ 12 พ.ค. ตามเวลาสหรัฐ Blogger ก็ล่มจนใช้งานไม่ได้ ซึ่งทางทีม Blogger ได้ตัดสินใจแก้ปัญหาโดยการ roll back ระบบกลับไปอยู่ในสถานะของวันที่ 11 พ.ค. ช่วงเช้า ทำให้บล็อกและคอมเมนต์ที่ถูกโพสต์ระหว่างวันที่ 11-12 พ.ค. หายไปชั่วขณะหนึ่ง
หลังจากนั้น Blogger จะเข้าโหมดอ่านได้อย่างเดียว จนมาแก้ไขสำเร็จในวันที่ 13 พ.ค. ระบบกลับมาใช้ได้เหมือนเดิม และกูเกิลประกาศว่ากำลังนำข้อมูลโพสต์กลับคืนมาให้
Blogger อธิบายว่าสาเหตุเกิดจากการซ่อมบำรุงตอนกลางคืนของวันที่ 11 พ.ค. มีปัญหาข้อมูลเสีย (data corruption) บางส่วน จึงตัดสินใจแก้ปัญหาโดย rollback ระบบกลับมา
นอกจากที่วุฒิสมาชิกจะเรียกผู้บริหารแอปเปิลและกูเกิลมาชี้แจงต่อคณะกรรมการของวุฒิสภาในเรื่องการเก็บข้อมูลพิกัดผู้ใช้แล้ว คุณ Charles Schumer วุฒิสมาชิกยังได้ถามทั้งสองบริษัทว่าทำไมถึงยอมปล่อยให้มีแอพพลิเคชันที่สามารถแจ้งผู้ขับถึงที่ตั้งจุดตรวจคนเมาและขับได้ ทางกูเกิลได้ตอบว่า ในเวลานี้แอพพลิเคชันที่แชร์ข้อมูลจุดตรวจคนเมาและขับนั้นไม่ได้ละเมิดนโยบายด้านข้อมูลสารสนเทศของบริษัทแต่อย่างไร ส่วนแอปเปิลตอบว่าบริษัทมีนโยบายที่จะไม่ยอมให้มีแอพพลิเคชันที่กระตุ้นให้เกิดกิจกรรมที่ผิดกฎหมายอย่างเด็ดขาด
บริษัท Burson-Marsteller ซึ่งเป็นบริษัทประชาสัมพันธ์อันดับต้นๆ ได้พยายาม "กระซิบ" ข่าวเกี่ยวกับบริการด้านเครือข่ายสังคมใหม่ของกูเกิลว่ามันกำลังจะสร้างปัญหาในเรื่องของความเป็นส่วนตัว โดยที่ผ่านมาบริษัทนี้ได้ยอมรับว่าได้รับการว่าจ้างจากลูกค้าเพื่อปล่อยข่าวนี้ และวันนี้หนังสือพิมพ์ The Daily Beast ก็ออกมาแฉว่าลูกค้าดังกล่าวก็คือ Facebook นั่นเอง
Facebook ระบุว่าการจ้างนี้ทำขึ้นเพื่อเหตุผลสองข้อคือ Facebook เชื่อว่าระบบเครือข่ายสังคมของกูเกิลจะสร้างประเด็นความเป็นส่วนตัวใหม่, และ Facebook เชื่อว่ากูเกิลพยายามใช้ข้อมูลของ Facebook เพื่อบริการใหม่นี้
งาน Google I/O 2011 กลายเป็น "งานแจกของ" ให้กับผู้เข้าร่วมงานไปเสียแล้ว
หลังจากที่ keynote วันแรกประกาศแจก Galaxy Tab 10.1" Limited Edition และวันที่สองแจกโน้ตบุ๊ก Chromebook ให้กับผู้ร่วมงานทุกคน ก็มีการแจกของเพิ่มเติมให้กับนักพัฒนาบางกลุ่ม
โดยนักพัฒนาที่เข้าฟังหัวข้อ C++/Game Developer ซึ่งพูดเรื่องการสร้างเกมบน Android ด้วยชุดพัฒนา NDK จะได้รับ Xperia Play อีกคนละเครื่อง จุดประสงค์ของการแจกก็ชัดเจนว่า Sony Ericsson อยากให้นักพัฒนาเกมได้เครื่องที่มีปุ่มควบคุมเกมไปทดสอบนั่นเอง
นอกจากนี้นักพัฒนาบางส่วนยังจะได้บอร์ด Arduino ไปทดสอบ Android Open Accessory Development Kit (ADK) อีกด้วย
ก่อนที่ Andy Rubin จะมาสร้างระบบปฏิบัติการ Android เขาเคยทำบริษัทออกแบบมือถือชื่อ Danger ซึ่งมีผลงานเด่นคือมือถือตระกูล T-Mobile SideKick ซึ่งภายหลังบริษัท Danger ถูกไมโครซอฟท์ซื้อไป
สามสหายที่ก่อตั้งบริษัท Danger นอกจาก Rubin แล้วยังมีอีกสองคนคือ Matt Hershenson กับ Joe Britt ซึ่งยังทำงานอยู่กับ Danger ในฐานะพนักงานของไมโครซอฟท์ต่อไปอย่างเงียบๆ
แต่บนเวที keynote วันแรกของงาน Google I/O 2011 ผู้ก่อตั้งทั้งสองคนก็ร่วมขึ้นเวทีแถลงฟีเจอร์ของ Android รุ่นใหม่ๆ ในฐานะพนักงานของกูเกิลด้วย!
Greg Sandoval แห่ง CNET รายงานว่าค่ายเพลงทั้งหลายได้ตัดสินใจทำข้อตกลงกับแอปเปิลเพื่อให้บริการ Cloud Music โดยคาดว่าบริการดังกล่าวจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน WWDC '11 ในวันที่ 6 มิถุนายนที่จะถึงนี้ โดยค่ายเพลงเหล่านี้ต้องการที่จะเปิดบริการนี้ "อย่างถูกต้อง" และใช้ข้อตกลงกับแอปเปิลในครั้งนี้เป็นเครื่องมือในการบีบ Amazon และกูเกิลที่ก่อนหน้านี้ได้เปิดบริการ Cloud Music Locker หรือ "ล็อกเกอร์เก็บเพลงบนกลุ่มเมฆ" โดยที่ไม่ได้ปรึกษากับค่ายเพลงก่อน
นอกจาก Chromebook และ Chrome OS กูเกิลก็ยังแถลงข่าวถึงส่วนประกอบที่เหลือในโลกของ Chrome อันได้แก่ตัวเบราว์เซอร์ Chrome เอง และ Chrome Web Store
Chrome
ส่วนตัวเบราว์เซอร์ Chrome ไม่มีอะไรใหม่มากนัก (เพราะเราเห็นการข่าวพัฒนาในรุ่น Dev/Canary กันมาตลอด) ที่กูเกิลสาธิตในงานคือประสิทธิภาพของ JavaScript และ WebGL ที่ดีขึ้นเรื่อยๆ โดยกูเกิลโชว์การรันเดโม FishTank ระดับปลา 10,000 ตัวที่ไม่กระตุกให้ดู
นอกจากนี้กูเกิลก็เผยสถิติว่า Chrome มีคนใช้ 160 ล้านคนในปีนี้ เพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัวจาก 70 ล้านคนที่งาน Google I/O ปีที่แล้ว
นอกจาก Chromebook แล้ว กูเกิลยังโชว์ Chrome OS รุ่นปรับปรุงใหม่ที่แก้ปัญหาจากรุ่นที่ใช้ใน Cr-48 และเปิดเผยแผนธุรกิจของ Chrome OS/Chromebook ที่จับตลาดพีซีองค์กรโดยตรง
Chrome OS ปรับปรุงใหม่
โดยรวม Chrome OS ยังหน้าตาเหมือนเดิมทุกประการ แต่แก้ปัญหาเรื่องการจัดการไฟล์ โดยเพิ่ม file manager ขึ้นมาเป็นแท็บใหม่อีกอันหนึ่ง (สมมติว่าเราเสียบ SD หรือ thumbdrive จะเปิดแท็บ file manager ให้อัตโนมัติ)
งาน Google I/O 2011 วันที่สอง เป็นคิวของ Chrome และ Chrome OS
การประกาศที่สำคัญที่สุดบนเวทีคือโน้ตบุ๊ก Chrome OS ที่รอกันมานานเป็นปี ในที่สุดก็เป็นตัวเป็นตนในชื่อ Chromebook ซึ่งมีด้วยกัน 2 รุ่นย่อย ผลิตโดย Acer และ Samsung
ตัวของ Acer ใช้หน้าจอขนาด 11.6" 1366x768, หน่วยประมวลผล Atom แบบดูอัลคอร์ 1.66GHz, แรม 2GB, การ์ดจอ Intel GMA 3150, SSD 16GB, USB 2 พอร์ต, HDMI, แบตอยู่ได้นาน 6 ชั่วโมง, น้ำหนัก 1.34 กิโลกรัม ราคาเริ่มต้นที่ 349 ดอลลาร์สำหรับรุ่น Wi-Fi
แม้จะไม่ได้แสดงตัวในส่วน keynote แต่ App Engine ก็เปิดฟีเจอร์ชุดใหม่ทันทีต่อจาก Android โดยการเพิ่มฟีเจอร์ส่วนมากเป็นการเพิ่มเอาใจลูกค้าองค์กร (ที่เป็นลูกค้าสำคัญของ App Engine)
งาน Google I/O 2011 ที่เพิ่งผ่านไปนอกจากการเปิด Android รุ่นใหม่และบริการใหม่ๆ แล้ว การเปิดตัวที่ยิ่งใหญ่อีกอย่างหนึ่งคือ Acessory Development Kit (ADK) ที่เปิดโอกาสให้นักพัมนาฮาร์ดแวร์สามารถพัฒนาฮาร์ดแวร์เพื่อเชื่อมต่อกับ Android ได้อย่างอิสระนี่เป็นครั้งแรกๆ ที่โทรศัพท์มือถือที่มักถูกจำกัดความสามารถไว้อย่างหนักเมื่อเทียบกับคอมพิวเตอร์ทั่วไป โดยเฉพาะการเชื่อมต่อกับฮาร์ดแวร์ จะสามารถเชื่อมต่อกับฮาร์ดแวร์ได้อย่างเต็มรูปแบบ
วันแรกของงาน Google I/O 2011 ในช่วง keynote เปิดงาน กูเกิลก็แถลงข่าวเกี่ยวกับ Android ตามคาด ส่วนประเด็นที่แถลงก็เรียกได้ว่า "มากมาย" จนต้องแบ่งกันเขียนเป็นหลายๆ ข่าว
กูเกิลเปิดงานด้วยภาพหุ่นเขียวนั่งกินแอปเปิล ก่อนจะเริ่มยิงสถิติชุดใหญ่
กระแส NFC เริ่มมาแรงขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุด Foursquare เริ่มทดลองการ "เช็คอิน" ผ่านระบบ NFC โดยใช้มือถือที่มีชิป NFC แตะกับโปสเตอร์ที่ฝัง NFC มาด้วย
การทดลองของ Foursquare ถือว่าน่าสนใจมาก เพราะทดลองในสถานที่ที่ "น่าจะ" มีปริมาณมือถือ NFC หนาแน่นที่สุดในช่วงนี้ นั่นคืองาน Google I/O 2011 นั่นเอง โดยผู้ที่เช็คอินในงานจะได้ badge พิเศษเฉพาะของงานด้วย ส่วนผู้ที่มือถือไม่มีระบบ NFC ก็ใช้วิธีอ่าน QR Code แทนได้
ที่มา - Foursquare Blog, TechCrunch
ใกล้ Google I/O เข้ามาทุกที กูเกิลก็ทยอยเปิดตัวผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ๆ ที่ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์หลัก (ซึ่งจะไปแถลงข่าวในงาน)
Google Goggles แอพสำหรับแปลความจากรูปภาพบน Android ก็อัพเกรดเป็นเวอร์ชัน 1.4 โดยของใหม่ได้แก่
ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป YouTube จะเริ่มทำการ "ฉาย" ภาพยนตร์เต็ม ๆ ให้ทุก ๆ คนได้ดูแล้วภายใต้บริการชื่อ YouTube Movie โดยกูเกิลได้ทำการตกลงรายละเอียดกับค่ายภาพยนตร์ต่าง ๆ ไว้เป็นที่เรียบร้อย โดยภาพยนตร์ที่จะฉายบน YouTube Movie จะมีตั้งแต่ภาพยนตร์เข้าโรงชื่อดังที่ทุกคนคุ้นเคย ไปจนถึงภาพยนตร์อินดี้ที่เข้าร่วมโครงการกับ YouTube คาดว่าการเปิดตัวอย่างเป็นทางการคงจะมีขึ้นที่งาน Google I/O ที่จะจัดขึ้นเที่ยงคืนนี้ (ตามเวลาประเทศไทย)
จากที่ Apple จะปล่อยบริการ cloud สำหรับเก็บเพลงก่อนหน้า กูเกิล ถ้าเป็นจริงดูเหมือนว่างานนี้จะโดน กูเกิล ตัดหน้าก่อนแน่ๆ เพราะ The Wall Street Journal ได้อ้างแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ว่า กูเกิล จะเปิดตัวบริการเพลงออนไลน์ในวันอังคารนี้อย่างเร็วที่สุด ซึ่งสวนทางกับสื่อหลายเจ้าที่บอกว่า โอกาสการเปิดบริการนี้ใน Google I/O 2011 จะค่อนข้างริบหรี่ก็ตาม