Tags:
Node Thumbnail

เมื่อ 3 วันก่อน ศาลยุติธรรมของ EU ได้ตัดสินให้ Google ทำการลบผลการค้นหาตามคำร้องขอจากผู้ใช้ หากผลการค้นหานั้นเป็นลิงก์ที่นำไปสู่แหล่งข้อมูลซึ่งละเมิดสิทธิ์ส่วนบุคคลของผู้ใดก็ตาม เพราะประชาชน "มีสิทธิ์ที่จะถูกลืม" (right to be forgotten) โดยคำตัดสินนี้มีผลครอบคลุมการทำงานของผู้ให้บริการค้นหาข้อมูลรายอื่นนอกเหนือจาก Google ด้วยเช่นกัน

คำสั่งดังกล่าวระบุให้ Google ลบลิงก์จากหน้าผลการค้นหา (เมื่อมีการค้นหาด้วยคำสำคัญเป็นชื่อบุคคลใดก็ตาม) ตามคำร้องขอจากผู้ใช้ โดยลิงก์ที่ว่าอาจเป็นลิงก์ที่นำไปสู่หน้าข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งมีเรื่องราวในอดีตปรากฎอยู่ ทั้งนี้คำสั่งได้กำหนดให้ Google เพียงแต่ลบลิงก์ไปยังหน้าข้อมูลนั้นออกเท่านั้น กล่าวคือเว็บที่มีเนื้อหาส่วนบุคคลดังกล่าวจะยังคงอยู่บนอินเทอร์เน็ต เพียงแต่ไม่มีลิงก์ไปปรากฏในหน้าแสดงผลการค้นหาของ Google

และไม่นานหลังมีคำตัดสินออกมา ก็มีคำร้องขออย่างน้อยจากบุคคล 3 ราย ส่งไปยัง Google ให้ลบลิงก์ที่พาไปยังหน้าเว็บอันมีเนื้อหาเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัวของพวกเขาออกไป โดยรายแรกเป็นแพทย์ที่ต้องการให้ Google ลบลิงก์ที่นำไปสู่หน้าเว็บที่ผู้ป่วยรายหนึ่งได้ให้ความเห็นวิจารณ์ในเชิงลบเกี่ยวกับการทำงานของเขา ส่วนรายที่ 2 เป็นอดีตนักการเมืองที่ต้องการให้ Google ลบลิงก์ที่พาไปสู่เว็บซึ่งมีข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานของเขาในสมัยที่ยังมีตำแหน่งทางการเมือง ส่วนรายที่ 3 เป็นอดีตผู้ต้องหาฐานมีสื่อลามกอนาจารเกี่ยวกับเด็กที่ต้องการให้ Google ลบลิงก์ที่นำไปสู่หน้าเว็บซึ่งมีเรื่องราวในอดีตอันนี้ของเขาออกเสีย

แน่นอนว่า Google ไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินของ EU โดยยกตัวอย่างว่าการลบผลการค้นหาตามคำร้องของผู้ใช้นั้น แม้นจะดูเหมือนการพิทักษ์ "สิทธิ์ที่จะถูกลืม" ของผู้ร้องขอ แต่นั่นก็ดูจะเป็นการละเมิด "สิทธิ์ที่จะรับรู้" ของผู้อื่น โดยยกตัวอย่างเช่น ในวันข้างหน้าเราคงไม่สามารถค้นหาข้อมูลประวัติย้อนหลังเกี่ยวกับผู้ที่มาสมัครงานกับเราได้จากอินเทอร์เน็ตอีกต่อไป นอกจากนั้น Google ยังมองว่านี่คือการทำลาย "ความเป็นกลางทางอินเทอร์เน็ต" อีกด้วย เพราะ Google จะถูกขอให้เลือกลบลิงก์ไปยังบางเว็บตามคำร้องขอเท่านั้น (ประเด็นการถอดลิงก์สู่เว็บใดเว็บหนึ่งออกจากหน้าแสดงผลการค้นหาข้อมูลของ Google เคยถูกโจมตีในเรื่องการกีดกันการเข้าถึงสินค้าและบริการมาแล้ว)

อย่างไรก็ตาม ในเมื่อ EU มีคำสั่งออกมาแล้ว Google ก็รับปากว่าจะดำเนินการตามแนวทางดังกล่าว โดยขอเวลาในการดำเนินการ ซึ่งอาจต้องกินเวลาหลายสัปดาห์ โดย Google ให้เหตุผลว่าการปฏิบัติตามคำสั่งนี้เป็นเรื่องซับซ้อน เพราะต้องมีการวิเคราะห์ข้อมูลของลิงก์ปลายทางว่าเกี่ยวพันกับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ร้องขอให้ลบลิงก์หรือไม่ ซึ่งแน่นอนว่าการทำงานกับเว็บที่เป็นภาษาอื่นที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษก็ย่อมต้องใช้เวลาในการพิจารณาและพัฒนาอัลกอริทึมเพื่อใช้งานด้วย

ความเห็นคัดค้านคำตัดสินของ EU นั้นมีมาจากหลายฝ่าย ตัวอย่างหนึ่งในนั้นคือ Jimmy Wales ผู้ก่อตั้ง Wikipedia โดยเขาให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่านี่คือ "หนึ่งในระเบียบที่ทำการกวาดล้างปิดกั้นข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตอย่างหนักที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา"

ที่มา - CNET: 1, 2, BBC

Get latest news from Blognone

Comments

By: narok119
ContributoriPhone
on 16 May 2014 - 03:13 #704074

แบบนี้เว็บข่าวไม่เจ๊งกันหมดหรอครับ

สมมุติวันนี้คุณสุเทพ สนธิ อภิสิทธิ์ ทักษิณ อยากถูกลืมบ้างจะทำยังไง

By: BLiNDiNG
AndroidUbuntuWindowsIn Love
on 16 May 2014 - 03:25 #704077 Reply to:704074
BLiNDiNG's picture

Second paragraph

"ทั้งนี้คำสั่งได้กำหนดให้ Google เพียงแต่ลบลิงก์ไปยังหน้าข้อมูลนั้นออกเท่านั้น กล่าวคือเว็บที่มีเนื้อหาส่วนบุคคลดังกล่าวจะยังคงอยู่บนอินเทอร์เน็ต เพียงแต่ไม่มีลิงก์ไปปรากฏในหน้าแสดงผลการค้นหาของ Google"

By: iToffy
iPhoneWindows PhoneAndroidWindows
on 16 May 2014 - 17:18 #704324 Reply to:704077
iToffy's picture

ก็ถ้ามันหายไปจากผลการค้นหาก็แทบไม่ต่างอะไรกับงมเข็มในมหาเครือข่ายเลยครับ ใครมันจะไปรู้ได้ว่าสิ่งที่เราอยากเห็น อยากอ่านและเราไม่รู้ว่าต้องหามันจากที่ไหน เราควรต้องพิมพ์ลิ้งค์ว่าอะไรถึงจะเจอ

By: zyzzyva
Blackberry
on 16 May 2014 - 03:22 #704075

ควรเอา NSA ไปปะทะ EU

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 16 May 2014 - 03:44 #704079
hisoft's picture

สามคนนี่ กูเกิลจัดหามารึเปล่าครับ - -" เอามาเป็นตัวอย่างได้ดีมาก

ถ้าคดีจบโดยศาลยกเลิกคำสั่งนี้ ต้องดูว่าผลการค้นหาสามคนนี้หายไปด้วยรึเปล่า :p

By: put4558350
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 16 May 2014 - 06:14 #704088 Reply to:704079
put4558350's picture

ถ้าเป็นเรื่องดีๆ ไม่มีใครอยากลบหรอกครับ

แต่เรื่องไม่ดี มันก็อีกเรื่อง


samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo

By: PaPaSEK
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 16 May 2014 - 07:23 #704094 Reply to:704088
PaPaSEK's picture

มันอาจจะดีสำหรับฝั่งนึง แล้วแย่สำหรับอีกฝั่งครับ เช่น ประวัติศาสตร์ระหว่างประเทศ

ถ้าขี้ใจน้อยกันทั้งคู่มีหวังลบเหี้ยนไม่เหลือหลอ

By: plawanja
Android
on 16 May 2014 - 07:11 #704092
plawanja's picture

อยากรู้ว่าเกี่ยวกับเว็บที่พูดถึงบุคคลด้วยหรือเปล่า สมมติว่ามีคนอยากจะรู้ว่าคนๆ หนึ่งถูกคนในโลกออนไลน์ดราม่าขนาดไหนเลยไปค้นใน google แต่ google จะขึ้นข้อความบอกว่า คนๆ นี้มีสิทธิ์จะถูกลืมหรือเปล่า ?

By: pepporony
ContributorAndroid
on 16 May 2014 - 07:45 #704096

เฮียแกยกตัวอย่างได้เข้าทางจริงๆ น่าค้านคำตัดสินมากๆ OTL

By: alph501
iPhoneWindowsIn Love
on 16 May 2014 - 09:59 #704125
alph501's picture

อืมมม ด้วยเหตุผลที่ google ให้ มันก็น่าคิดนะ

"อย่างไรก็ตาม ในเมื่อ EU มีคำสั่งออกมาแล้ว Google ก็รับปากว่าจะดำเนินการตามแนวทางดังกล่าว"

แสดงว่าศาลตัดสินให้ google แพ้สินะ

By: Bigta
ContributoriPhoneAndroidUbuntu
on 16 May 2014 - 09:59 #704126
Bigta's picture

อย่าลืมฉัน

By: errin on 16 May 2014 - 12:32 #704192 Reply to:704126

อย่าลิ้งค์ฉัน

By: Kittichok
Contributor
on 16 May 2014 - 15:17 #704263 Reply to:704192

อย่าหาฉัน

By: sunback
Contributor
on 16 May 2014 - 21:20 #704383 Reply to:704126
sunback's picture

อย่ามาเสียว (SEO) กับฉัน

By: figgaro
ContributorAndroidWindows
on 16 May 2014 - 10:24 #704135
figgaro's picture

ผมเห็นด้วยนะครับ ที่ควรจะลบออก ถ้ามีการร้องขอ อย่างผมเนี่ยประกาศขายบ้านไป ขายไป 3 ปีกว่า ทุกวันนี้ค้นหายังเจออยู่เลย ทั้งๆที่เราลบออกไปจากระบบเว็บไซด์ฝากขายบ้านแล้วนะ แถมยังมีคนโทรมาอีก -*- ลบๆไปบ้างก็ดีนะอย่างน้อยถ้ามันนานไปก็ไม่น่าจะอยู่


Texion Business Solutions

By: ตะโร่งโต้ง
WriterAndroidWindows
on 16 May 2014 - 10:52 #704146 Reply to:704135
ตะโร่งโต้ง's picture

โอ นี่ก็ถือเป็นกรณีที่น่าสนใจนะครับ


ช่างไฟสมัครเล่น (- -")

By: lancaster
Contributor
on 18 May 2014 - 02:28 #704677 Reply to:704135

ถ้าลบจากเว็บไปแล้วจริงๆ สักพักในกูเกิลก็จะลบตามด้วยครับ

ถ้ายังไม่ลบตามสามารถแจ้งลบได้ในนี้ครับ

แต่เคสคุณผมว่าเจ้าของเว็บแอบปล่อย google เข้ามาอ่านได้อันที่ลบแล้วเพราะจะปั่น seo มากกว่า

By: errin on 16 May 2014 - 12:36 #704193

ถ้า Google เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ผมจะเชียร์เหตุผลของแกเต็มที่เลยครับ (อย่างน้อยๆขอประมาณ wikipedia)

แต่ด้วยการที่ Google เป็นองค์กรแสวงหาผลกำไร ผมเห็นด้วยกับเหตุผลของผู้ร้องครับ

By: zipper
ContributorAndroid
on 16 May 2014 - 15:04 #704257

งั้นหาทาง Bing แทนก็ได้

By: ตะโร่งโต้ง
WriterAndroidWindows
on 16 May 2014 - 15:34 #704274 Reply to:704257
ตะโร่งโต้ง's picture

โดยคำตัดสินนี้มีผลครอบคลุมการทำงานของผู้ให้บริการค้นหาข้อมูลรายอื่นนอกเหนือจาก Google ด้วยเช่นกัน


ช่างไฟสมัครเล่น (- -")

By: cartier
iPhoneAndroid
on 16 May 2014 - 15:21 #704265
cartier's picture

แต่เรื่องกรณีแพทย์มันก็น่าคิดนะ ถ้าเกิดผมจะไปรักษากับเค้าแต่ไม่มีความเห็นในแง่ลบมาบ้างมีแต่แง่ดีหมด แบบนี้คนอื่นก็ถูกปิดกั้นความจริงสิ ถ้าหากรักษาดีจริงๆความเห็นในแง่ลบกับแง่ดีมันต้องปะปนกันไปให้วิเคราะห์ได้ด้วย ไม่ใช่ว่าจะมีแต่ร้ายอย่างเดียว

By: langisser
In Love
on 16 May 2014 - 16:01 #704288

ผมเห็นด้วยนะ เพราะว่าทุกๆคนน่าจะมีสิทธิ์ปกป้องข้อมูลตัวเอง และเค้าก็ไม่ได้ตัดสินให้ลบข้อูลนี่ครับ เค้าให้ search ไม่เจอเฉยๆ แต่ถ้าเข้าตรงไปยังเวบนั้นๆ ข้อมูลนั้นๆ ก็จะยังมีอยู่นะครับ ไม่น่าจะถือว่าเป็นการปิดกั้น "สิทธิ์ที่จะรับรู้" เพราะยังรับรู้จากแหล่งข้อมูลได้อยู่ดี

ผมว่ากรณีตัวอย่างที่ยกมานั้น google ก็ไม่มีสิทธิ์ไปตัดสินว่าควรจะถูกลืมหรือให้คงอยุ่ต่อไป หรือตัดสินว่าเป็นสิ่งต้องเปิดเผยเพื่อผลประโยชน์คนอื่นหรือไม่ควรเปิดเผย เพราะ google ก็ไม่รู้ความจริง รวมถึง EU ด้วยเช่นกัน แต่ EU เค้าตัดสินจากที่ว่าถ้าเจ้าตัวไม่อยากให้ search เจอข้อมูลที่เป็นส่วนตัวก็ควรจะให้ทำได้ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าดีหรือไม่ดี เพราะตัวข้อมูลหรือเนื้อหาจริงๆไม่ได้ถูกลบไปไหน

ไม่งั้นถ้าเกิดเหตุการณ์ที่คุณไม่ได้ผิดอะไรแต่โดยถูกกระทำจนเป็นข่าวและคุณรู้สึกไม่ดีกับข่าวนั้น คุณก็จะไปข่าวตลอดไป และมันจะอยู่กับคุณไปตลอดดด

By: ohms
Android
on 16 May 2014 - 19:43 #704365 Reply to:704288

google ไม่ได้ตัดสินอะไรนี่ครับ แต่คนอ่านข้อมูลต่างหากจะเป็นคนตัดสิน การตัดลิงค์ในแง่ลบของทั้งสามตัวอย่างไปจะทำให้คนค้นหาข้อมูลเจอแต่เรื่องดีๆของเขา มันก็ไม่ต่างอะไรกับโฆษณาชวนเชื่อเลยล่ะซิ

มันคือการปิดกัน "สิทธิที่จะรับรู้" อย่างชัดเจนครับ เพราะ google เป็นช่องทางใหญ่ช่องทางหนึ่งในการรับรู้ข่าวสารในโลกปัจจุบัน การปิดกั้นไม่ให้สามารถเข้าถึงข้อมูลได้จาก google ทำให้มีคนเข้าถึงข้อมูลดังกล่าวได้น้อยลงแน่ๆต่อให้เนื้อหาเวปจริงๆมันจะยังอยู่ก็เถอะ มันก็ไม่ต่างกับเวลามีคดีความอะไรสำคัญๆแล้วทีวีไม่เสนอข่าวเลย "คดี" ที่ว่ามันก็ยังอยู่ แต่คนทั่วไปพลาดโอกาสที่จะรับรู้มันเพราะทีวีไม่เสนอข่าว

By: pepporony
ContributorAndroid
on 16 May 2014 - 20:57 #704376 Reply to:704288

มันก็มีสองแง่ครับ

ถึงเวบจะยังอยู่ แต่ผมก็คงไม่รู้ เพราะค้นหาแล้วไม่เจอ? เราจะรู้ได้อย่างไรว่าต้องเข้าเวบไหน

By: varshard
AndroidWindows
on 16 May 2014 - 17:56 #704340

ใน the verge มีพูดถึงนักการเมืองที่ร้องเรื่องนี้ เพราะ search google แล้วเจอเรื่องเกี่ยวกับการทำอนาจารเด็กด้วยล่ะ

ยกประเด็นเรื่องที่บุคคลสาธารณะไม่ควรจะลบประวัติตัวเองได้

จริงๆให้ลบ link ออก แต่ content ก็ยังอยู่นี่นา

By: folkeza
iPhoneWindows PhoneBlackberrySymbian
on 17 May 2014 - 12:41 #704523 Reply to:704340
folkeza's picture

ปัญหาคือ คุณจะรู้ได้ยังไงว่าเนื้อหานั้นอยู่ที่เว็บไหน ลิงค์ไหน

By: iStyle
ContributoriPhoneAndroidSymbian
on 17 May 2014 - 21:01 #704602
iStyle's picture

สงสัยว่ามันจะออกมาเป็นรูปแบบไหนกัน?

ก. ใส่ชื่อ นามสกุลของผม ลงใน google แล้วเจอหน้าบอกว่า คุณไม่สามารถค้นหาด้วยคำนี้ได้

ข. ทุกหน้าเว็บที่มีชื่อผมจะไม่อยู่ในระบบของกูเกิลอีกต่อไป เช่น เสริชว่า "พอลล่า กิ๊ก" ก็จะเจอแต่ข่าวที่ไม่มีชื่อผมในเว็บ (สมมติ)


May the Force Close be with you. || @nuttyi

By: McKay
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 17 May 2014 - 21:19 #704605
McKay's picture

นาธานจะส่งคำร้องไหม ขอให้ EU เจอคนอย่างนาธานเยอะๆนะครับ


Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)