รายงานล่าสุดเผยว่ากูเกิลให้โมโตโรล่ายื่นฟ้องแอปเปิลแก่คณะกรรมการการค้าสากลหรือ ITC ให้แบนสินค้าของแอปเปิลหลายชนิด ตั้งแต่ iPhone, iPad, iPod touch และคอมพิวเตอร์ของแอปเปิลหลายรุ่น โดยการฟ้องร้องครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่โมโตโรล่าได้ออกมาฟ้องร้องแอปเปิลโดยตรง หลังจากที่กูเกิลได้ซื้อกิจการของโมโตโรล่าไปแล้ว

ในรายงานนี้ ยังไม่ระบุว่ากูเกิลและโมโตโรล่าต้องการฟ้องแอปเปิลจากสาเหตุใด แต่คาดว่าเนื้อหาของคำร้องครั้งนี้น่าจะหนีไม่พ้นเทคโนโลยีที่แอปเปิลได้เลือกใช้ในสินค้าหลายชนิด ที่ได้ละเมิดสิทธิบัตรที่โมโตโรล่าถือครองอยู่

ข่าวนี้เป็นสัญญาณที่ดีของผู้ใช้ Sony Xperia S ทั้งหลายครับ เรื่องมีอยู่ว่า Jean-Baptiste Queru หัวหน้าโครงการ Android Open Source Project (AOSP หรือที่บางคนเรียก stock/vanilla) ประกาศเพิ่ม Xperia S เข้าเป็นส่วนหนึ่งของโครงการแล้ว

ตามปกติแล้วโค้ดในโครงการ AOSP จะมีเฉพาะมือถือตระกูล Nexus ของกูเกิลเท่านั้น (หรืออุปกรณ์ที่กูเกิลมีส่วนร่วมอย่าง G1/XOOM) ส่วนโค้ดเฉพาะกิจของมือถือรุ่นอื่นๆ เราต้องไปตามดาวน์โหลดกันเองจากเว็บไซต์ของผู้ผลิต

เป็นความเปลี่ยนแปลงเล็กๆ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา Google ได้ทำการเปลี่ยน Favicon จากตัวอักษร g บนพื้นหลังสีน้ำเงิน, เหลือง แดง และเขียว มาเป็นตัวอักษร g บนพื้นหลังสีน้ำเงินล้วน

Google มีการเปลี่ยน favicon มา 3 ครั้ง เมื่อปี 2008, 2009 (ได้ favicon มาจากการประกวด) และฉบับปัจจุบัน นอกจากนี้ยังเคยมีคนค้นพบว่า Google ทดลองทำ favicon เป็นรูปตัว g บนพื้นหลังสีน้ำเงินมาเกือบครึ่งปีแล้ว

ภาพความเปลี่ยนแปลงของ favicon ทั้ง 3 รูปแบบ ดูได้ท้ายข่าว

เดือนที่แล้วมีข่าวออกมาบอกว่าทั้งกูเกิล แอปเปิล ซัมซุง และ HTC ต่างก็สนใจที่จะเข้าประมูลสิทธิบัตรเกี่ยวกับการถ่ายภาพดิจิตอล แต่รายงานล่าสุดจาก The Wall Street Journal รายงานว่าบริษัทเหล่านี้อาจจะรวมตัวกันประมูลสิทธิบัตรของ Kodak เพื่อที่จะกดราคาสิทธิบัตรลงให้ต่ำกว่าราคาที่ Kodak หวังว่าจะได้ในตอนแรก

แนวทางการจ่ายเงินรางวัลเพื่อเรียกให้แฮกเกอร์มาช่วยกันหาบั๊กความปลอดภัยของ Chrome เป็นแนวทางที่กูเกิลใช้ในวงกว้างเป็นรายแรกๆ และประสบความสำเร็จอย่างสูง ในงาน Hack In The Box ที่มาเลเซียปีนี้กูเกิลจึงทำแนวเดิมอีกครั้งในการแข่ง Pwnium 2 โดยแบ่งการบุกรุกเป็นสามระดับ คือ บั๊กของ Chrome อย่างเดียวจ่าย 60,000 ดอลลาร์, บั๊กจาก Chrome ประกอบกับบั๊กของวินโดวส์จ่าย 50,000 ดอลลาร์, และบั๊กจากผู้ผลิตรายอื่นเช่น Flash จ่าย 40,000 ดออลาร์ แต่ทั้งหมดในงานจะจ่ายไม่เกินสองล้านดอลลาร์ ซึ่งคงไม่มีปัญหาอะไร เพราะงานเมื่อต้นปีที่ผ่านมา กูเกิลจ่ายไปเพียง 120,000 ดอลลาร์เท่านั้น

ปัญหาเรื่องการจ่ายเงินอิเล็กทรอนิกส์เป็นประเด็นสำคัญที่คนค้าขายออนไลน์ต้องใส่ใจ โดยทั่วไปแล้ววิธีการจ่ายเงินแบบมาตรฐานคือผ่านบัตรเครดิต แต่ก็มีจุดอ่อนตรงที่คนอีกมากยังไม่มีบัตรเครดิตใช้ด้วยเหตุผลต่างๆ กันออกไป (เช่น อายุไม่ถึง รายได้ไม่พอ ไม่อยากมี ฯลฯ)

ทางเลือกที่หลายๆ บริษัทใช้คือออก "บัตรของขวัญ" หรือ gift card ซึ่งใช้แนวคิดเดียวกับบัตรเติมเงินของโทรศัพท์มือถือ บริษัทไอทีที่ใช้ระบบนี้มานานแล้วคือแอปเปิล ซึ่งออก gift card สำหรับซื้อเนื้อหาบน iTunes Store สำหรับคนที่ไม่มีหรือไม่อยากจ่ายด้วยบัตรเครดิต

กูเกิลประกาศเรื่องนี้ไว้ตั้งแต่งาน Google I/O 2012 ซึ่งล่าสุดกูเกิลก็อัพเดตตัวแอพ Play Store เป็นเวอร์ชัน 3.8.15 ที่รองรับความสามารถนี้แล้ว

กูเกิลเรียกชื่อความสามารถนี้ว่า Smart App Update ซึ่งก็คือการส่งตัวอัพเดตเฉพาะส่วนที่เปลี่ยนแปลงจากไฟล์เดิม แทนการโหลดไฟล์ .apk ทั้งไฟล์แบบที่แล้วๆ มา ช่วยให้การอัพโหลดรวดเร็วขึ้น แถมประหยัดปริมาณข้อมูลสำหรับผู้ใช้ที่อัพเดตผ่านมือถืออีกด้วย จากสถิติของกูเกิลระบุว่าขนาดไฟล์เฉลี่ยจะลดลง 1/3 จากเดิมครับ

ที่มา - IntoMobile

ช่วงนี้ Google+ มีการปรับปรุงเกือบทุกวันเลยทีเดียว

ส่วนของแอพ Google+ ทั้งบน iOS/Android เพิ่งมีอัพเดตอีกครั้งในวันนี้ ของใหม่ที่สำคัญคือสามารถเข้าร่วม Hangouts on Air ได้จากอุปกรณ์พกพาโดยตรง, เปิดให้บัญชีเด็กอายุ 13 ปีขึ้นไปสามารถใช้งาน Hangouts ได้แล้ว, เพิ่มไอคอนสำหรับสร้างโพสต์ใหม่จากหน้าหลักของแอพ และเวอร์ชัน iOS ยังสามารถเปิดลิงก์ด้วย Chrome ได้ด้วยถ้าติดตั้งไว้ - The Next Web

ข่าวบริษัทเว็บใหญ่ๆ เริ่มสั่งเครื่องรุ่นพิเศษจากผู้ผลิต เช่น Gigabyte หรือ Asus นั้นเป็นเรื่องที่รู้กันมานานแล้ว แต่อินเทลก็ออกมาเปิดเผยว่าในบรรดาบริษัทเหล่านั้น กูเกิลเป็นบริษัทที่แปลกกว่าบริษัทอื่นเพราะสั่งชิปตรงจากอินเทล แล้วประกอบเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดด้วยตัวเอง

ข่าวที่ว่ากูเกิลซื้อชิปตรงจากอินเทลเป็นข่าวมานาน แต่ทั้งหมดไม่มีการยืนยันจากทั้งสองบริษัท และครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่อินเทลออกมายืนยันเอง

Diane Bryant ผู้จัดการฝ่ายกลุ่มธุรกิจศูนย์ข้อมูลของอินเทลระบุว่า กูเกิลเป็นผู้ให้บริการแบบกลุ่มเมฆรายเดียวที่สร้างโครงสร้างพื้นฐานทั้งเซิร์ฟเวอร์, สตอเรจ, และเครือข่ายด้วยตัวเอง โดย Mercury Research ประมาณว่ากูเกิลซื้อชิปสำหรับผลิตเซิร์ฟเวอร์ปีละ 1.6 ล้านตัวหรือ 10% ของตลาดรวม

หลังจากให้บริการข้อมูลขนส่งสาธารณะมาตั้งแต่ปี 2005 จนถึงตอนนี้กูเกิลบอกว่ามีข้อมูลจุดขนส่งสาธารณะมากกว่าหนึ่งล้านจุดแล้ว โดยครอบคลุมกว่า 500 เมืองทั่วโลก (ที่ไหนบ้างดูจากหน้านี้)

โอกาสนี้กูเกิลจึงอัพเดตแอพ Google Maps บนแอนดรอยด์เวอร์ชันใหม่ในเลขรุ่น 6.10 ที่เพิ่มฟีเจอร์สำหรับผู้ใช้ขนส่งสาธารณะโดยเฉพาะ

ฟีเจอร์แรกคือปรับปรุง Transit Layer ให้สามารถเลือกเจาะจงประเภทการเดินทางด้วยขนส่งชนิดนั้นๆ เช่นเฉพาะรถบัส หรือรถไฟฟ้า เป็นต้น

อีกอย่างที่เพิ่มเข้ามาคือ เมื่อเข้าไปในหน้าของสถานีผ่าน Google Maps จะแสดงผลข้อมูลมากขึ้น เช่นสายรถที่วิ่งผ่าน ระยะทางไปจนถึงสถานี

กูเกิลซื้อกิจการอีกราย ล่าสุดเป็นบริษัท Frommer's ซึ่งเป็นแบรนด์หนังสือคู่มือนำเที่ยวที่เก่าแก่อีกรายหนึ่ง (ก่อตั้งปี 1957) โดยซื้อจากเจ้าของปัจจุบันคือเครือสำนักพิมพ์ใหญ่ John Wiley & Sons (หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ Wiley)

การซื้อครั้งนี้ไม่เปิดเผยมูลค่า แต่ก็มีข้อมูลวงในหลุดออกมาว่าอยู่ราวๆ 23 ล้านดอลลาร์

แฟน ๆ PlayStation 3 ก็คงจะทราบกันดีว่าการดูวิดีโอบน YouTube มันช่างลำบากเสียเหลือเกิน แต่วันนี้ Google ประกาศบนบล็อกของ YouTube ว่า นับตั้งแต่นี้ YouTube for PlayStation 3 ได้มาถึงแล้ว โดยแอพนี้มีฟีเจอร์พิเศษที่น่าสนใจอย่างเช่น เปลี่ยนโทรศัพท์มือถือเป็นรีโมตบน YouTube, การค้นหาวีดีโอ หรือแม้แต่การสมัครรับข้อมูลบนช่องต่าง ๆ เป็นต้น

ส่วนตัวแอพนี้ยังคงให้ดาวน์โหลดแค่แถบทวีปอเมริกาเหนือเท่านั้น สำหรับใครที่มีบัญชี PlayStation ในสหรัฐอเมริกาล่ะก็ สามารถดาวน์โหลดได้ที่ PlayStation Store ครับ

ที่มา : Official YouTube Blog

วันนี้นอกจาก Google+ จะเริ่มเปิดให้ตั้งชื่อ URL ได้แล้ว การดูรูปเป็นอัลบั้มใน Google+ ก็ได้ฟีเจอร์ใหม่อีกสองฟีเจอร์ด้วย

อย่างแรกคือกูเกิลเพิ่มปุ่ม Slideshow สำหรับเล่นภาพอัตโนมัติแล้ว โดยปุ่มจะปรากฏเมื่อคลิกที่ภาพภาพ หรือหน้าอัลบั้ม และแสดงผลเต็มหน้าจอด้วย

อีกฟีเจอร์ที่เปิดมาพร้อมกันคือสามารถดาวน์โหลดภาพทั้งอัลบั้มทีเดียวได้แล้วในสกุล .zip ซึ่งถ้าใครไม่อยากให้ดาวน์โหลดก็สามารถไปตั้งค่าได้ที่ Settings ครับ

ที่มา - +Andrew Lee

ช่วงหลังกูเกิลเริ่มจริงจังกับปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ในผลการค้นหามากขึ้น หลังจากที่ถูกกดดันจากบรรดาค่ายเพลง และผู้ผลิตต่างๆ และในวันนี้กูเกิลออกมาประกาศว่าได้อัพเดตอัลกอริทึมสำหรับแสดงผลการค้นหาใหม่แล้ว

อัพเดตครั้งนี้จะทำให้ผลการค้นหาที่ถูกแจ้งว่าละเมิดลิขสิทธิ์มีน้อยลง โดยกูเกิลบอกว่าจะทำให้สามารถเข้าถึงคอนเทนต์ลิขสิทธิ์ง่ายขึ้น เช่นพรีวิวเพลงในเว็บไซต์สถานีวิทยุสาธารณะของสหรัฐ, Spotify หรือรายการทีวีบน Hulu เป็นต้น

ทั้งนี้กูเกิลยังบอกว่าจะจริงจังกับปัญหาละเมิดลิขสิทธิ์ให้มากขึ้น โดยระบุข้อมูลมาว่าในรอบเดือนที่ผ่านมา มีความต้องการให้ลบลิงก์ที่มีคอนเทนต์ละเมิดลิขสิทธิ์ไปมากถึงสี่ล้าน URL

กูเกิลเปิดให้ผู้ใช้ Google+ สามารถปรับแต่ง URL สำหรับเข้าถึงหน้าโปรไฟล์ของทั้งคน และเพจแล้ว โดยสามารถตั้งเป็นตัวอักษรแทนแบบก่อนหน้านี้ใช้เป็นตัวเลข (น่าจะเป็น unique ID) 21 หลัก โดยหน้าตาของลิงก์จะเป็น google.com/+ ตามด้วยชื่อที่ตั้งไว้

ยกตัวอย่างจากเดิมเวลาจะเข้าไปหน้าเพจของ TOYOTA ใน Google+ จะต้องเข้าผ่านลิงก์ https://plus.google.com/110937137992985950150 (ซึ่งคงไม่มีใครจำ) แต่หลังจากนี้ไปจะสามารถเข้าผ่าน google.com/+toyota ได้แล้ว

ในที่สุดกูเกิลก็เริ่มขยับตัวทำอะไรสักอย่างกับโมโตโรลาแล้ว เพียงแต่พนักงานของโมโตโรลาอาจไม่ชอบใจเท่าไรนัก เพราะเป็นการปลดพนักงานลง 20% (ประมาณ 4,000 คนจากพนักงานทั้งหมด 20,000 คน) และปิดสำนักงานจำนวน 1/3 ของสำนักงาน 94 แห่งทั่วโลก

นอกจากนี้โมโตโรลาโฉมใหม่จะหยุดขายผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทำกำไร หยุดออกมือถือตลาดล่าง และลดจำนวนรุ่นมือถือที่ออกขายในแต่ละปีลง หันมาเน้นมือถือจำนวนรุ่นน้อยลงแทน

เชื่อว่าใครหลายๆ คนในที่นี้ อยากได้หุ่น Android แบบของจริงไปสะสมไว้ที่บ้าน แต่แน่นอนว่าไม่ได้หากันได้ง่ายๆ เพราะเหตุนี้ จึงมีคนหัวใส ทดลองประกอบหุ่น Android ขึ้นโดยใช้ชุดตัวต่อของเลโก้ และจัดการเสนอไอเดียนี้ขึ้นไปบนโครงการ Lego Cuusoo ครับ

หุ่น Android ที่เจ้าของไอเดียได้ประกอบขึ้นนั้น ใช้เฉพาะตัวต่อสีเขียวตามแบบหุ่น Android จำนวน 205 ชิ้น โดยสามารถขยับส่วนหู (ตามแบบแอพ Androidify) อีกทั้งยังสามารถหมุนส่วนหัวและแขนได้ด้วย แต่เพราะด้วยความลำบากในการหาชิ้นส่วนนั่นแหละครับ เขาถึงจัดการส่งไอเดียขึ้นไปบนโครงการ จนในตอนนี้เลโก้ได้เปิดให้เข้าร่วมโหวตไอเดียแล้ว โดยมีเงื่อนไขว่าถ้ามีคนโหวตไอเดียนี้เกิน 10,000 คน เลโก้จึงจะพิจารณาทำชุดตัวต่อออกวางขายต่อไปครับ

ข่าวค่อนข้างเก่าแล้ว แต่เห็นว่าน่าสนใจดีครับ

Google เปิดนิทรรศการ Chrome Web Lab ที่ London Science Museum โดยนิทรรศการนี้มีทั้งหมด 5 โซน และสามารถเข้าชมได้ผ่าน Google Chrome แต่ที่น่าสนใจคือบางนิทรรศการมีการปฏิสัมพันธ์กับสิ่งของจริงๆ ด้วยการสั่งงานผ่านหน้าเว็บ!

โซนทั้ง 5 โซนของนิทรรศการได้แก่

กูเกิลประกาศว่าตั้งแต่สัปดาห์หน้าจะมีการปรับปรุงอัลกอริทึมการค้นหาเพิ่มอีกหนึ่งคุณสมบัติ โดยจะลดอันดับผลการค้นหาในเว็บที่ถูกแจ้งละเมิดลิขสิทธิ์บ่อยครั้ง ซึ่งกูเกิลอ้างว่าการทำแบบนี้จะช่วยให้ผู้ใช้งานได้ผลลัพธ์เป็นเนื้อหาจากต้นฉบับที่มีคุณภาพง่ายมากขึ้น

ปัจจุบันกูเกิลได้รับการร้องเรียนเว็บที่ละเมิดลิขสิทธิ์ถึง 4.3 ล้านเว็บในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ซึ่งข้อมูลนี้ก็มากพอที่จะช่วยให้กูเกิลนำมาพิจารณาปรับจัดอันดับผลการค้นหาบนเงื่อนไขดังกล่าวได้ดีขึ้นนั่นเอง

นางสาวเอมี่ กุลโรจน์ปัญญา หัวหน้าฝ่ายการสื่อสารและมวลชนสัมพันธ์ กูเกิล ประเทศไทย ให้ข้อมูลกับกรุงเทพธุรกิจว่าในเร็วๆ นี้กูเกิลจะส่งทีมวิศวกรจากสำนักงานใหญ่เข้ามาทำ Google Voice Search ภาษาไทยที่กรุงเทพ

ตอนนี้เรื่องระยะเวลายังไม่มีกำหนดแน่นอน แต่นี่ถือเป็นครั้งแรกที่มีทีมงานจากกูเกิลสำนักงานใหญ่เข้ามาพัฒนาผลิตภัณฑ์ในประเทศไทย โดยกูเกิลอาจต้องหาสำนักงานถาวรเพื่อรองรับทีมงานที่เพิ่มจำนวนขึ้น (ปัจจุบันเช่าพื้นที่อาคาร The Office at Central World)

เอมี่ยังพูดถึงผลิตภัณฑ์ใหม่อีกตัวคือ Knowledge Graph ว่ายังใช้งานในไทยไม่ได้ เพราะต้องพัฒนาให้มีข้อมูลเชิงลึกของประเทศไทยอีกระยะหนึ่ง

ข่าวภาคต่อของ กูเกิลอาจโดน FTC ปรับ โทษฐานละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ Safari ครับ สรุปคือกูเกิลยอมรับผิด จ่ายค่าปรับ 22.5 ล้านดอลลาร์ให้กับคณะกรรมการด้านการค้าของสหรัฐ (FTC) เป็นที่เรียบร้อย

ความสำคัญของข่าวนี้คือตัวเลข 22.5 ล้านดอลลาร์ถือเป็นค่าปรับสูงสุดเท่าที่ FTC เคยสั่งปรับมา ซึ่ง Jon Leibowitz ประธานของ FTC ก็ให้สัมภาษณ์ว่านี่เป็นสัญญาณที่ชัดเจนต่ออุตสาหกรรมออนไลน์ว่า ไม่ว่าจะเป็นบริษัทใหญ่แค่ไหนก็ต้องปฏิบัติตามระเบียบของ FTC เรื่องการรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ ถ้ายอมปฏิบัติตามแต่โดยดีจะได้ไม่ต้องโดนปรับเยอะขนาดนี้และอาจต้องโดนปรับบ่อยๆ ถ้าผิดซ้ำอีก

พวกเรารู้กันดีว่าสวัสดิการสำหรับพนักงานกูเกิลนั้นสุดยอดมากแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็นอาหารฟรี ตัดผมฟรี เชิญหมอมารักษาถึงบ้านได้ฟรี แต่ Laszlo Bock หัวหน้าฝ่ายบุคคลของกูเกิล ได้เปิดเผยสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจไปกว่านั้น นั่นคือเมื่อพนักงานของกูเกิลเสียชีวิต คู่สมรสหรือญาติที่สนิทที่สุดของพนักงานคนนั้น จะได้รับเงินเดือน 50% แทนพนักงานไปตลอด เป็นเวลา 10 ปี !

สวัสดิการนี้ไม่มีข้อยกเว้น หมายความว่าพนักงานของกูเกิลกว่า 34,000 คนทั่วโลกจะได้รับสิทธิ์นี้เท่าเทียมกัน และลูกทุกคนของพนักงานกูเกิลที่เสียชีวิต จะได้รับเงิน $1,000 (30,000 บาท) ต่อเดือน เป็นค่าเล่าเรียนไปตลอดจนอายุ 19 ปี (หรือมากถึง 23 ปีถ้าเป็นนักเรียนเต็มเวลา)

ก่อนหน้านี้ Google Search สามารถแสดง "คำตอบ" สำหรับคำค้นพื้นฐานบางอย่าง เช่น การบวกเลข การแปลงหน่วย หรือสภาพอากาศของสถานที่ โดยจะแสดงเป็นข้อความอยู่เหนือผลการค้นหาที่เป็นลิงก์อีกทีหนึ่ง

แต่ทิศทางในช่วงหลังของกูเกิลเริ่มเปลี่ยนไป เราเริ่มเห็นฟีเจอร์แบบ Google Now บนมือถือที่แสดง "ข้อมูล" ในรูปแบบการ์ด หรือเครื่องคิดเลขบนหน้าเว็บ เมื่อค้นหาด้วยสมการคณิตศาสตร์

กระแส mobile payment ที่มาแรงแต่ต่างคนต่างทำอาจจะเริ่มหมดไป เพราะโอเปอเรเตอร์และผู้ให้บริการด้านการจ่ายเงินอิเล็กทรอนิกส์หลายรายในสหรัฐ ประกาศจับมือกันเป็น Mobile Payments Committee ซึ่งเป็นเวทีกลางสำหรับหามาตรฐานร่วมกันแล้ว

แกนหลักของ Mobile Payments Committee คือโอเปอเรเตอร์รายใหญ่ของสหรัฐอเมริกาทั้ง 4 ราย ได้แก่ Verizon, AT&T, Sprint, T-Mobile โดยผู้ผลักดันรายสำคัญคือ Verizon

กูเกิลปรับปรุงแอพ Google Translate เวอร์ชันบน Android ให้สามารถถ่ายภาพข้อความเพื่อแปลข้อความนั้นให้อยู่ในภาษาที่เราต้องการได้แล้ว

ฟีเจอร์นี้ใช้เทคนิคด้าน OCR เพื่อแยกแยะตัวอักษรในภาพ เพียงแต่เมื่อนำมารวมกับเอนจินของ Google Translate ที่รองรับภาษาเป็นจำนวนมาก ก็ช่วยให้คนที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศหรือเจอข้อความภาษาต่างประเทศสะดวกมากขึ้นมาก

ในเบื้องต้นภาษาที่รองรับในการอ่านค่าจาก OCR ได้แก่เช็ก ดัทช์ อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาลี โปแลนด์ โปรตุเกส รัสเซีย สเปน และตุรกี