Sundar Pichai ผู้บริหารระดับสูงของกูเกิลที่คุมโครงการ Chrome ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ CNET ที่งาน Google I/O ซึ่งมีข้อมูลที่น่าสนใจหลายประการ

ไฮไลท์อย่างหนึ่งของงาน Google I/O เมื่อวันก่อนคือ การกระโดดร่มเหนือเมืองซานฟรานซิสโกเพื่อเปิดตัว Google Glass โดยถ่ายทอดสดให้ผู้ชมทั่วโลกดูผ่าน Google Hangouts

ล่าสุดกูเกิลออกมาเผยเบื้องหลังของการเปิดตัวครั้งนี้ว่า ไอเดียนี้เริ่มขึ้น 6 สัปดาห์ก่อนงาน Google I/O โดยตอนแรกทุกคนคิดว่าเป็นแค่เรื่องตลกเท่านั้น แต่พอโครงการเดินหน้า พนักงานระดับปริญญาเอกของกูเกิลก็เริ่มวางแผนนี้อย่างจริงจัง

กูเกิลต้องเดินเรื่องเอกสารกับทางการเป็นจำนวนมากเพื่อขออนุมัติการกระโดดร่มกลางเมือง ไม่ว่าจะเป็นเทศบาลของนครซานฟรานซิสโก ตำรวจ พนักงานดับเพลิง องค์กรการบิน (FAA) เพื่อขออนุญาตบินผ่านเมือง และรวมไปถึงความช่วยเหลือจากห้องแล็บของ NASA ด้วย

รวมสถิติบางอย่างที่กูเกิลนำมาโชว์ในงาน Google I/O ครับ

เริ่มจาก Gmail มีผู้ใช้จำนวน 425 ล้านรายแล้ว ส่วน Google Apps มีองค์กรธุรกิจใช้กว่า 5 ล้านแห่ง และในสหรัฐเอง มหาวิทยาลัยชั้นนำ 66 แห่งจาก 100 อันดับแรกเปลี่ยนมาใช้ระบบอีเมลของกูเกิลเป็นที่เรียบร้อย - TechCrunch

ถัดมาคือ Chrome มีผู้ใช้เพิ่มจากปีก่อนเท่าตัว (160 ล้านขึ้นมาเป็น 310 ล้านราย นับ active users) และในโอกาสนี้กูเกิลก็ทำวิดีโอย้อนอดีตของ Chrome ตั้งแต่เริ่มต้นมาให้ดูกันว่า มีพัฒนาการอะไรบ้าง

ทีมงาน Google+ Hangouts ตอบคำถามในงาน Google I/O ว่าตอนนี้กูเกิลกำลังรวมผลิตภัณฑ์ด้านการสื่อสารหลายๆ ตัวเข้าด้วยกัน ซึ่งในที่นี้ได้แก่ Google Talk, Google+ Hangouts และ Google+ Messenger

Nikhyl Singhal ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ของกูเกิลบอกว่าตอนนี้ยังไม่บอกรายละเอียดเพิ่มเติม แต่เราจะได้เห็นมันอย่างแน่นอน

กูเกิลยังเผยข้อมูลว่าใช้ Hangouts สำหรับการประชุมภายในทั้งหมดของบริษัทแล้ว โดยหนึ่งวันมีการประชุมผ่าน Hangouts กว่า 10,000 ครั้ง

ที่มา - GigaOm

ผู้ก่อตั้งกูเกิล Sergey Brin ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่าจะวางขาย Google Glass ให้ได้ในปี 2014

Brin กล่าวว่าที่ต้องรอถึงปี 2014 เพราะกูเกิลอยากได้ข้อมูลป้อนกลับ (feedback) จากนักพัฒนาก่อน เขายังเสริมว่ากูเกิลได้รับไอเดียที่แปลกใหม่และข้อมูลป้อนกลับจำนวนมากหลังการเผย Google Glass สู่สาธารณะเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา บริษัทจึงตัดสินใจเข้าสู่ขั้นถัดไปโดยเปิดให้นักพัฒนามาทดสอบและป้อนกลับข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาที่กูเกิล ซึ่งจะมีผลต่อการปรับปรุงการออกแบบและซอฟต์แวร์ในอนาคตต่อไป

ที่มา: Bloomberg Television

บริการที่ถูกร้องขอกันมากที่สุดอย่างหนึ่งตั้งแต่สมัย Google Docs คือการแก้ไขเอกสารออฟไลน์ และวันนี้กูเกิลก็เปิดให้แก้เอกสารแบบออฟไลน์ได้แล้ว โดยต้องใช้ Chrome หรือ ChromeOS จากนั้นจึงเลือกเปิดความสามารถนี้

อีกส่วนหนึ่งคือ Google Drive for iOS ทำให้สามารถแก้เอกสารบน iOS ได้เหมือนกับแอนดรอยด์ ส่วนที่เพิ่มเติมเข้ามาคือการค้นหาใน Google Drive นั้นสามารถค้นหาจากรูปภาพได้แล้ว โดย Google Drive จะแปลงตัวอักษรในภาพให้เป็นข้อความที่ค้นหาได้ หรือแม้แต่ถ้าพบวัตถุที่กูเกิลรู้จัก ก็จะสามารถค้นหาได้เหมือนกัน

ที่มา - Google Docs Blog

ตามความคาดหมายคือในงาน Google I/O ปีนี้น่าจะมีการเปิดตัว IaaS ของกูเกิล และกูเกิลก็เปิดตัวในชื่อ Google Compute Engine (GCE) ล้อเลียนกับ App Engine เช่นเดียวกับ AWS ตัว GCE สามารถสร้างไฟล์อิมเมจของลินุกซ์ที่เราชอบไปใช้งานได้เอง

กูเกิลขายเครื่องเป็นชุด โดย 1 ชุดจะประกอบไปด้วยคอร์เสมือน เท่ากับหนึ่งคอร์ของ Sandy Bridge ที่เปิด HyperThreading กับแรมอีก 3.75GB แล้วแปลงเป็นหน่วยที่เรียกว่า Google Compute Engine Units (GCEUs) แต่ละยูนิตจะมีราคาใช้งาน 0.053 ดอลลาร์ คาดว่าที่ไม่อิงกับ SandyBridge ไปตรงๆ เพราะอนาคตหากอัพเกรดซีพียู กูเกิลก็จะโฆษณาว่ายังขายราคาเท่าเดิมได้อยู่

ถือเป็นเรื่องช็อกประจำวันเลยล่ะครับ เพราะในงาน Google I/O 2012 ที่ผ่านมา Google ได้ประกาศเปิดตัว Chrome for iOS เรียบร้อยแล้ว ถือเป็นการประกาศชน Safari และ Opera อย่างจริงจัง โดยลูกเล่นการใช้งานต่างๆ ทั้งบน iPhone และ iPad จะไม่ต่างจากเวอร์ชั่น Android เลยแม้แต่น้อยครับ ทั้งการสลับไปเปิดโหมดไม่ระบุตัวตน หน้าแท็บใหม่ และการซิงค์ข้อมูลระหว่างเวอร์ชั่นเดสก์ท็อป/Chromebooks/Android และ iOS

โดย Google ระบุว่า จะเปิดให้โหลด Chrome for iOS ภายในวันนี้ และสามารถใช้ได้กับ iOS 4.3 ขึ้นไปครับ (ถ้าไม่โดน Apple ปฏิเสธแอพฯ ก่อนนะ :P)

ที่มา - Engadget

บริการค้นหาของกูเกิลนั้นนับว่าทรงพลังมากสำหรับคนที่ใช้งานได้อย่างคล่องแคล่ว แต่ทว่ากูเกิลเองก็รู้เช่นกันว่าคนที่ใช้งานการค้นหาของกูเกิลได้ไม่เต็มประสิทธิภาพยังมีอีกมากมาย จึงได้เปิดคอร์สออนไลน์สำหรับพัฒนาการค้นหากับกูเกิลที่ชื่อว่า "Power Searching with Google"

Power Searching with Google เป็นคอร์สออนไลน์หกตอน แต่ละตอนมีความยาว 50 นาที โดยจะไล่สอนตั้งแต่เทคนิค/วิธีการค้นหาที่มีประสิทธิภาพ การเชื่อมการใช้งานเข้ากับบริการอื่นๆ ของกูเกิล เป็นต้น ซึ่งผู้ที่จบหลักสูตรนี้จะได้รับใบประกาศส่งมาให้ทางอีเมลอีกด้วย

ภายหลังการเปิดตัว Nexus 7 หลายคนคงสังเกตเห็นแอพตัวนึงที่เป็นวงกลมสีฟ้าๆ บนโฮมสกรีนว่ามันเป็นแอพอะไรกันแน่ ตอนนี้ได้คำตอบแล้วว่ามันคือ Google Currents รุ่นใหม่ที่เพิ่งอัพเดตมานั่นเอง

Currents รุ่นนี้มีการปรับอินเทอร์เฟซให้เข้ากับแอนดรอยด์มากขึ้นด้วยการเพิ่มปุ่ม action bar ไว้ด้านบนเหมือนกับแอพอื่นๆ

อีกฟีเจอร์ที่เพิ่มขึ้นมาคือสามารถแปลเนื้อข่าวใน Currents จากภาษาอังกฤษไปเป็นภาษาอื่นได้แล้ว โดยใช้เอนจินจาก Google Translate ช่วย

ปิดท้ายด้วยการเปลี่ยนโลโก้จากเดิมที่ใช้สีฐานของกูเกิลมารวมกันเป็นวงกลม กลายเป็นวงกลมสีฟ้าแทน (ซึ่งไม่รู้ว่าจะสื่อถึงอะไรเหมือนกันแฮะ)

Google Trader บริการให้ประกาศซื้อ-ขายสินค้า หรือรับสมัครงานผ่านพื้นที่ของกูเกิล พูดง่ายๆ มันคือกระดานออนไลน์สำหรับให้คนอยากซื้อ และคนอยากขายเข้ามาเจอกันง่ายขึ้น ได้เปิดให้ใช้งานในประเทศไทยได้แล้ว

สินค้าที่ขายใน Google Trader ได้มีตั้งแต่ของเล็กๆ ไปจนถึงใหญ่ๆ อย่างรถยนต์ หรืออสังหาริมทรัพย์ ซึ่งสามารถแนบรูปไปได้สูงสุด 8 รูปฟรี (ต่างกับ eBay ที่แนบรูปเกินสามรูปแล้วต้องเสียเงิน) สามารถอ่านคำแนะนำ และสินค้าที่ห้ามขายใน Google Trader ได้ที่นี่

หลังจาก Chrome for Android พ้นสถานะ beta ไปแล้ว กูเกิลก็เปิดตัว Chrome Experiments รุ่นมือถือ สำหรับทดสอบ HTML5 หนักๆ จาก Chrome for Android แล้ว หลังจากก่อนหน้านี้มีแต่รุ่นเดสก์ท็อปมานาน

ใครที่ใช้ ICS และโหลด Chrome มาเรียบร้อยแล้ว ไปลองกันได้ที่ Chrome Experiments กันได้เลยครับ

...อย่าลืมว่าเครื่องต้องแรงระดับนึงด้วยนะ เดี๋ยวจะค้างเอา

ที่มา - The Next Web

Google Now เป็นฟีเจอร์หนึ่งที่มาพร้อมกับ Android Jelly Bean และน่าจับตาไม่น้อย เพราะมันแสดงให้เห็นว่า "การค้นข้อมูล" บนมือถือเริ่มมีวิวัฒนาการมากขึ้น

ที่ผ่านมา การค้นข้อมูลบนมือถือยังใช้หลักการแสดงลิงก์ผลการค้นหา 10 อันดับแรกเหมือนกับบนเดสก์ท็อป ซึ่งในการใช้งานจริงมันก็ไม่ค่อยเหมาะสำหรับมือถือเท่าไรนัก เพราะการคลิกลิงก์ไปมาเพื่อหาข้อมูลที่ต้องการบนจอภาพขนาดเล็ก (ที่อาจมีความเร็วเน็ตจำกัดด้วย) ทำได้ยากกว่าบนเดสก์ท็อปมาก

ในระยะหลังเราจึงเห็นรูปแบบการค้นหาชนิดใหม่ๆ มากขึ้น ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ Siri ของแอปเปิลที่พยายามนำเสนอ "คำตอบ" สำเร็จรูปแทนที่จะเป็นลิงก์ไปยังเว็บไซต์ต่างๆ อีกทีหนึ่ง

ผู้ที่ใช้ Google Play Store/Android Market คงทราบกันดีว่ามันสามารถสั่งติดตั้งโปรแกรมผ่าน Play Store เวอร์ชันเว็บ แล้วให้แอพถูกส่งไปยังตัวมือถือ-แท็บเล็ตได้อัตโนมัติ (ถ้าผมจำไม่ผิด รายแรกที่มีฟีเจอร์นี้คือ Windows Marketplace นะครับ)

ล่าสุดในงาน Google I/O กูเกิลก็ประกาศอัพเดตความสามารถนี้ให้ครอบคลุมการอัพเดตเวอร์ชันของแอพ และการลบแอพออกจากเครื่องด้วย โดยจะแสดงรายการแอพของเราแยกตามอุปกรณ์แต่ละชิ้นอย่างละเอียด (ลองเล่นกันเองที่ https://play.google.com/apps)

แอพที่สามารถจัดการได้คือแอพที่ลงผ่าน Play Store เท่านั้น สำหรับแอพที่ฝังมากับรอมนั้นไม่สามารถทำได้ครับ

ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์อย่าง ASUS ออกมาเล่าเบื้องหลัง Nexus 7 ไปแล้ว คราวนี้ผู้ผลิตชิปอย่าง NVIDIA ขอพูดบ้าง

Mike Rayfield ผู้บริหารฝ่าย Tegra ของ NVIDIA ให้สัมภาษณ์ว่าต้นทุนของ Nexus 7 ที่ถูกลงมาก เป็นเพราะโครงการ Kai ที่มีองค์ประกอบหลายส่วน ตั้งแต่การใช้แรม DDR3L ที่ราคาถูก, เทคโนโลยีการผลิตที่ก้าวหน้าขึ้น, ต้นทุนชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกลงอยู่แล้ว และการเจรจาต่อรองของ NVIDIA กับผู้ผลิตชิ้นส่วนด้วย

เขายังเผยว่ามีแท็บเล็ตอีกหลายตัวที่สร้างบนแพลตฟอร์ม Kai เช่น Acer A110 และแท็บเล็ตสำหรับเด็ก Nabi 2

Jonney Shih ประธานของ ASUS ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวหลังการเปิดตัวแท็บเล็ต Nexus 7 ว่าใช้เวลาพัฒนาทั้งหมดแค่ 4 เดือนเท่านั้น แต่ก็เป็น 4 เดือนที่วิศวกรลูกน้องของเขาบ่นว่า "เหมือนถูกทรมาน" เนื่องจากกูเกิลจู้จี้จุกจิกมาก

โครงการนี้ถูกเรียกเป็นการภายในว่า Project A-Team ซึ่งพนักงานของ ASUS ต้องกระจายตัวไปทำงานตามสถานที่ต่างๆ ในโลก (รวมถึงไปนั่งทำงานที่ซิลิคอนวัลเลย์ร่วมกับพนักงานของกูเกิลด้วย) กระบวนการพัฒนาดำเนินไปตลอด 24 ชั่วโมง แต่คนก็ยังไม่พอจน Shih ต้องเพิ่มพนักงานเข้าไปอีก 20 คนถึงสองครั้ง

ส่วน Andy Rubin หัวหน้าทีม Android ที่นั่งแถลงข่าวด้วยกันก็โปรยคำหวานโดยบอกว่า คงไม่มีพาร์ทเนอร์รายไหนทำงานได้เร็วไปกว่า ASUS อีกแล้ว เพราะ 4 เดือนก่อนหน้ายังไม่มีอะไรเลย

กูเกิลไม่ได้พูดเรื่องนี้ใน Google I/O แต่ก็ออกอัพเดตให้กับ Google Earth for Android เป็นเวอร์ชัน 7.0

ของใหม่ที่สำคัญคือแผนที่เมืองแบบ 3D ที่เคยเอามาโชว์เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ซึ่งตอนนี้ยังมีเฉพาะบางเมืองในสหรัฐเท่านั้น แต่กูเกิลสัญญาว่าจะทยอยเพิ่มภาพ 3D ของเมืองใหญ่ทั่วโลกไปเรื่อยๆ และตั้งเป้าว่าปลายปีนี้จะครอบคลุมประชากร 300 ล้านคนทั่วโลก (ไม่บอกว่าจะมีเมืองใดบ้าง)

ฟีเจอร์ใหม่อีกอย่างในรุ่นนี้คือ Tour Guide หรือไกด์นำเที่ยว ซึ่งจะแสดงภาพ thumbnail ของสถานที่ต่างๆ ในเมืองนั้น เมื่อกดแล้วจะพาไปยังบริเวณนั้นในแผนที่ พร้อมข้อมูลประกอบจาก Wikipedia ครับ

สำหรับผู้ใช้ iOS จะได้ฟีเจอร์นี้ตามมาในอีกไม่ช้าเช่นกัน

อีกหนึ่งแอพบน Android ที่กูเกิลได้อัพเดตหลังจากงาน Google I/O 2012 ก็คือ YouTube โดยในเวอร์ชัน 4.0 นี้จะสามารถติดตั้งได้บนอุปกรณ์ Android ได้ แต่ความสามารถหลายๆ อย่างที่เพิ่มเข้ามาจะสามารถใช้ได้หากมี Android เวอร์ชัน 3.2 ขึ้นไปเท่านั้น

ความสามารถใหม่เหล่านี้ได้แก่ UI ใหม่ที่คล้ายกับบนหน้าเว็บ YouTube ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงช่องและฟีตต่างๆ ได้ง่ายกว่าเดิม อีกอย่างที่เพิ่มขึ้นมาคือการ pre-cache วีดีโอจากช่องที่เรา subscribe ไว้หรือเมื่อเราแท็กวีดีโอนั้นไว้ใน Watch Later โดยทั้งหมดนี้จะทำเมื่อเราอยู่บนเครือข่าย Wi-Fi ไม่ว่าอย่างไรก็ตามคุณสมบัตินี้ไม่ได้มีไว้เพื่อให้ผู้ใช้สามารถดูวีดีโอ offline ได้ แต่เพื่อผู้ใช่ไม่ต้องรอ buffer อีกต่อไป

ในที่สุดกูเกิลก็ได้ปล่อย Google Maps ที่รองรับแผนที่แบบออฟไลน์อย่างเป็นทางการ (หลังจากเป็นฟีเจอร์ทดสอบอยู่ในหมวด Lab นาน) โดยผู้ใช้เพียงเลือกพื้นที่ที่ต้องการแผนที่แบบออฟไลน์แล้วกดปุ่ม "Make available offline" นอกจากนั้นหากอุปกรณ์ที่ผู้ใช้ถืออยู่รองรับ GPS แผนที่ก็จะสามารถแสดงตำแหน่งที่ตั้งปัจจุบันได้ถึงแม้จะไม่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตก็ตาม

ข้อจำกัดของแผนที่แบบออฟไลน์ คือ เป็นแผนที่เพียงอย่างเดียว ไม่สามารถหาเส้นทาง รวมถึงค้นหาสถานที่ หรือนำทางแบบ turn-by-turn ได้

ที่งาน Google I/O 2012 กูเกิลประกาศว่า Chrome for Android หลุดจากสถานะ Beta เข้าสู่สถานะ Stable เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เลขเวอร์ชันเป็น 18.0.1025123 ดาวน์โหลดกันได้จาก Google Play สำหรับคนใช้ ICS

ของใหม่ในรุ่นนี้เน้นการแก้บั๊กและปัญหาเสถียรภาพ และปรับแต่ง UI เล็กน้อยให้ทำงานกับแท็บเล็ตได้ดีขึ้น

ในแท็บเล็ต Nexus 7 ใช้ Chrome เป็นเบราว์เซอร์หลักแล้ว อีกไม่นานเราคงเห็น Chrome เข้ามาแทน Android Browser กันทั้งหมดครับ

ที่มา - Chrome Release

หลังกูเกิลอัพเดต Play Store ให้มีคอนเทนต์มากพอจะเริ่มบุกตลาดห้องนั่งเล่นได้แล้ว ก็จัดการส่งสาสน์รบด้วยการเปิดตัว Nexus Q เครื่องเล่นมัลติมีเดียรันแอนดรอยด์ สำหรับเล่นคอนเทนต์จาก Play Store ส่งตรงสู่ห้องนั่งเล่นแล้ว

หน้าตาของ Nexus Q เป็นลูกบอลสีดำกลมๆ ด้านในรันแอนดรอยด์ ICS ใช้ซีพียูดูอัลคอร์จาก OMAP แรม 1GB พื้นที่ความจุ 16GB ใกล้เคียงกับคอมจิ๋วที่หลายเจ้าออกมาก่อนหน้านี้

เคยมีข่าวลือตั้งแต่เมื่อครั้งกูเกิลยกเครื่อง Android Market เป็น Play Store ว่ากูเกิลจะขายแมกกาซีน เพราะในตอนแรกนั้น Play Store มีขายแค่แอพ หนังสือ และเพลงเท่านั้น

ตอนนี้ข่าวดังกล่าวเป็นจริงแล้ว หลังจากกูเกิลประกาศเพิ่มคอนเทนต์ที่ขายใน Play Store เข้ามาแล้ว และนั่นก็คือแมกกาซีน ภาพยนตร์ และซีรีส์ทีวีนั่นเอง โดยจับมือกับผู้ผลิตหลายค่ายอย่าง Disney, ABC, NBC, Universal, Sony Pictures และ Paramount สำหรับเอาภาพยนตร์จากค่ายที่ว่ามาไว้ใน Play Store

ส่วนแมกกาซีนนั้นก็มาด้วยกันตามคาด และรองรับการสมัครสมาชิกเช่นกัน

แน่นอนว่าอยู่นอกสหรัฐฯ ซื้อไม่ได้ครับ

ที่งาน Google I/O กูเกิลเปิดตัวฟีเจอร์ Google+ Events ที่เป็นตั้งแต่การนัดหมาย ไปจนถึงการเชื่อมต่อระหว่างอีเวนต์, และการแสดงภาพและเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับอีเวนต์ที่เกิดขึ้น

หน้า Google+ Events จะเหมือนหน้าโปรไฟล์แยกออกไปต่างหาก ให้เราสามารถเชิญคนเข้ามาร่วมงานได้ และเชื่อมต่อกับ Google Calendar อัตโนมัติ

เมื่ออยู่ในงานแล้วยังสามารถเปิดแอพพลิเคชั่นเข้า Party Mode ที่ตัวแอพพลิเคชั่น Google+ จะเตือนเราทุกเหตุอย่างที่มีคนโพสในหน้าอีเวนต์ ตัวหน้าเว็บสามารถทำ slideshow สำหรับงานเพื่อแสดงภาพในงานไปเรื่อยๆ

Google Glass เป็นโครงการที่มีข่าวมานาน กูเกิลเองก็เปิดเผยว่ากำลังพัฒนามันอยู่ แต่ในงาน Google IO ปีนี้กูเกิลก็เปิดตัวมันอีกครั้งอย่างเป็นทางการด้วยการกระโดดลงมาจากท้องฟ้าแล้วถ่ายทอดผ่านทาง Google Hangout

ไม่มีการเปิดเผยสเปคภายใน แต่กูเกิลเริ่มรับคำสั่งซื้อจาก "ผู้ร่วมงาน" ในราคา 1,500 ดอลลาร์หรือประมาณ 48,000 บาท เริ่มส่งของต้นปีหน้า

กูเกิลย้ำอย่างมากว่า Google Glass ยังเหมาะกับนักพัฒนาเท่านั้น คาดว่าซอฟต์แวร์ภายในคงยังจำกัดมากอยู่

วิดีโอซ้อมงานเปิดตัวดูได้ท้ายข่าว

ที่มา - +Project Glass

นอกจากระบบปฏิบัติการใหม่อย่าง Jelly Bean แล้ว กูเกิลได้เปิดตัว Nexus รุ่นใหม่ และแน่นอนว่ามันคือ Nexus 7 แท็บเล็ตตัวแรกที่จะได้ใช้ Jelly Bean นั่นเอง สำหรับผู้ผลิตที่ทำเครื่องนี้ให้กูเกิลก็คือ ASUS ตามข่าวที่ออกมาก่อนหน้า

สเปคของ Nexus 7 ไม่ได้หวือหวากว่าคู่แข่ง แต่ก็ไม่ได้แตกต่างจากคู่แข่งเท่าไรนัก