Apple, Inc.
หลังจากปล่อยให้ทาง Verizon เริ่มโฆษณา iPhone 4 ไปบ้างแล้วตอนแถลงเปิดตัว ตอนนี้ทางแอปเปิลเองก็ปล่อยโฆษณาชิ้นใหม่ของ iPhone 4 เพื่อโปรโมตบ้างแล้วครับ
โฆษณาดังกล่าว (ดูได้ท้ายข่าว) แสดงถึงการใช้งานของ iPhone ทั้งสองระบบในสหรัฐฯ (GSM ผ่าน AT&T และ CDMA ผ่าน Verizon) นั้นเหมือนกันทุกประการ และยังสามารถใช้ FaceTime ร่วมกันได้อีก โฆษณาจบลงด้วยคำว่า "Two is better than one" ครับ
ข่าวลือล่าสุดของ iPad 2 ครับ มีคนไปขุดไฟล์ใน iOS 4.3 แล้วพบข้อความว่า "Back Facing 1MP Photo" อยู่ในอุปกรณ์รหัส K94 และ K95
ยังไม่มีใครรู้ว่า 94/95 คืออุปกรณ์ตัวไหน แต่ในไฟล์เดียวกันมีเอ่ยถึง FaceTime, Camera และ PhotoBooth ที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้ด้วย จึงคาดว่า K94 คือ iPad 2 รุ่น Wi-Fi และ K95 คือรุ่น 3G
ที่มา - 9 to 5 Mac
แม้ว่าข่าวจากแหล่งข่าวหลาย ๆ แห่งได้ออกมาฟังธงกันใหญ่ว่า iPad 2 จะมาการเปลี่ยนความละเอียดหน้าจอเป็นมากกว่าเดิมถึง 4 เท่า แต่ล่าสุด หนึ่งในผู้ที่เคยออกมาให้ข่าวว่าจะมีการเปลี่ยนความละเอียดหน้าจอก่อนหน้านี้อย่าง Kevin Rose ได้ออกมาบอกว่า iPad 2 จะไม่มีการเปลี่ยนความละเอียดหน้าจอแล้ว
เช่นกัน เว็บ Daring Fireball ของ Gruber เองที่มักจะให้ข่าวเกี่ยวลือเกี่ยวกับแอปเปิลบ่อย ๆ ก็ออกมาบอกว่า iPad 2 จะใช้ความละเอียดหน้าจอเท่าเดิมที่ 1024x768
ใกล้จะถึงเวลาเปิดตัว iPad รุ่นใหม่ประกอบกับช่วงนี้แอปเปิลกำลังปล่อยเฟิร์มแวร์ตัวใหม่ของผลิตภัณฑ์ในสาย iOS เสียพอดี ล่าสุดใน iOS 4.3 beta 2 ที่เพิ่งปล่อยให้นักพัฒนาไปนั้นมีชุดไอคอนของแอพลิเคชันใหม่อีกสามแอพฯ นั่นก็คือ FaceTime, Camera และ PhotoBooth ซึ่งเป็นแอพฯ เกี่ยวกับรูปถ่ายทั้งสิ้น จึงแทบจะยืนยันได้แล้วว่า iPad รุ่นต่อไปจะมาพร้อมกับกล้องแน่นอน แม้ยังไม่รู้ว่าจะมาเป็นกล้องหน้าอย่างเดียว หรือมีกล้องหลังความละเอียดต่ำหน่อยแบบ iPod Touch หรือไม่
ตอนนี้ก็เรียกได้ว่ายุติข่าวลือเรื่องกล้องไปได้หนึ่งอย่าง ส่วนเรื่องอื่นๆ อย่างความละเอียดจอ คงต้องรอดูตอนเปิดตัวที่คาดว่าจะเป็นไตรมาสแรกของปีนี้นั่นเอง
สาวกเฮลั่นและผู้ถือหุ้นยิ้มอย่างยินดี เมื่อแอปเปิลประกาศว่าในไตรมาสสุดท้ายของปี 2010 บริษัทสามารถขาย iPad ได้จำนวน 7.3 ล้านเครื่อง
เมื่อนับรวมตั้งแต่เปิดตัวขายเมื่อต้นปีที่แล้ว สรุปยอดจำหน่าย 14.79 ล้านเครื่อง นับเป็นยอดขายแท็บเล็ตที่สูงมากที่สุดในตลาดในปัจจุบันก็ว่าได้
แต่ในปีนี้ iPad 2 ต้องรับศึกหนักทีเดียวเพราะมีสารพัดคู่แข่งลงตลาดหลายเจ้ามาก แอปเปิลจะรักษายอดแบบนี้ในปีนี้ได้หรือไม่ นับว่าน่าติดตามไม่แพ้ภาคต่อหนังดังทั้งหลายเลยทีเดียว
ที่มา Goodereader.com
เนื่องในโอกาสยอดขายแอพบน App Store ของแอปเปิลใกล้ครบ 1 หมื่นล้านครั้ง แอปเปิลได้จัดทำหน้าเว็บบน iTunes Store เพื่อแสดงอันดับของแอพยอดนิยม "ตลอดกาล" นับตั้งแต่เปิดร้านขายแอพมา
รายชื่อแอพแบ่งเป็น 4 หมวดคือ iPhone/iPad และฟรี/เสียเงิน (ลักษณะเดียวกับ แอพยอดเยี่ยม-ขายดีประจำปี 2010 ของ iPhone และ iPad)
แอพแบบเสียเงินบน iPhone
ดูเหมือนจะมีข่าวออกมาอยู่ตลอดเกี่ยวกับ iPhone 4 สีขาว บางครั้งก็ออกมารายงานว่าแอปเปิลได้ทำการถอดรูป iPhone 4 สีขาวออกจากเว็บ บางครั้งก็บอกว่าร้าน Apple Store มีป้ายเขียนว่า iPhone 4 สีขาวจะวางขายในต้นปีนี้
เว็บ Engadget ได้ออกมารายงานว่าพวกเขาได้เห็นภาพจากฐานข้อมูลคลังสินค้าของ Vodafone ในเยอรมนีแล้วว่ามี iPhone 4 สีขาวจริง และเว็บ MacRumors เองก็ได้นำรูปภาพสกรีนช็อทจากฐานข้อมูล Best Buy ที่ยืนยันข้อมูลเดียวกัน แถมมีข้อมูลวันวางจำหน่ายวันที่ 27 กุมภาพันธ์นี้อีกด้วย
จากรายงานผลประกอบการไตรมาสเมื่อวานของแอปเปิล พบว่าแม้ว่าผู้ใช้แมคจะเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ แต่รายได้ทั้งหมดจากการขายคอมพิวเตอร์แมคอินทอชของแอปเปิลนั้นกลับอยู่ที่ 20% ของรายได้ทั้งหมดของแอปเปิล
ในส่วนของอุปกรณ์ที่เพิ่งวางขายได้ไม่กี่ปีอย่างอุปกรณ์ iOS ทั้งหลาย ในตอนนี้กลายเป็นรายได้หลักของแอปเปิลเสียแล้ว (สองในสามของรายได้ทั้งหมด) โดยรายได้จากการขายไอโฟนคิดเป็น 39% ของรายได้ทั้งหมด iPad ที่ 17% และ iPod ที่ 13% (รายได้ส่วนใหญ่ของ iPod มาจาก iPod touch ที่ใช้ iOS เช่นกัน)
ที่มา - 9 to 5 Mac
ถึงแม้ซีอีโอจะขอลาป่วยจนน่าจะเป็นข่าวลบต่อบริษัท แต่ผลการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ผ่านมาของแอปเปิล ช่วงเดือนตุลาคมถึงธันวาคม 2010 ซึ่งนับเป็นไตรมาสที่ 1 ปี 2011 ของบริษัทก็ออกมาให้เป็นข่าวดีอีกครั้ง (ดูผลประกอบการไตรมาสที่แล้ว)
ข่าวลือจากเว็บที่ไม่สามารถยืนยันความน่าเชื่อถือได้อย่าง Three Guys and a Podcast อ้างว่าแอปเปิลพยายามที่จะรวม iTunes เข้าเป็นส่วนหนึ่งของ Safari ภายในปีนี้ โดย Safari จะกลายเป็นเบราว์เซอร์ที่สามารถเปิดได้ทั้งเว็บ และเป็นโปรแกรมเล่นไฟล์มีเดียด้วย
โดยจากรายงานดังกล่าว สาเหตุที่แอปเปิลต้องการรวมสองโปรแกรมเข้าด้วยกันก็เพื่อที่จะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดของ Safari โดยทุกวันนี้แอปเปิลยังมีส่วนแบ่งตลาดเบราว์เซอร์ไม่ถึง 5% โดยการผูก iTunes เข้ากับ Safari แอปเปิลหวังว่าจะสามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาดเบราว์เซอร์ของ Safari ได้
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เว็บ MacRumors เองยังไม่เชื่อว่าข่าวลือนี้จะเป็นจริงแต่อย่างใด โดยทั้งหมดนี้ดูเหมือนว่ามาจากการคาดเดาทั้งสิ้น
ข่าวลือจากเว็บที่ไม่สามารถยืนยันความน่าเชื่อถือได้อย่าง Three Guys and a Podcast อ้างว่าแอปเปิลพยายามที่จะรวม iTunes เข้าเป็นส่วนหนึ่งของ Safari ภายในปีนี้ โดย Safari จะกลายเป็นเบราว์เซอร์ที่สามารถเปิดได้ทั้งเว็บ และเป็นโปรแกรมเล่นไฟล์มีเดียด้วย
โดยจากรายงานดังกล่าว สาเหตุที่แอปเปิลต้องการรวมสองโปรแกรมเข้าด้วยกันก็เพื่อที่จะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดของ Safari โดยทุกวันนี้แอปเปิลยังมีส่วนแบ่งตลาดเบราว์เซอร์ไม่ถึง 5% โดยการผูก iTunes เข้ากับ Safari แอปเปิลหวังว่าจะสามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาดเบราว์เซอร์ของ Safari ได้
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เว็บ MacRumors เองยังไม่เชื่อว่าข่าวลือนี้จะเป็นจริงแต่อย่างใด โดยทั้งหมดนี้ดูเหมือนว่ามาจากการคาดเดาทั้งสิ้น
แอปเปิลแถลงข่าวว่าสตีฟ จ็อบส์ ได้หยุดพักงานเพื่อรักษาสุขภาพ (a medical leave of absence) โดยจะยังดำรงตำแหน่งซีอีโอต่อไป และมีบทบาทในการตัดสินใจระดับยุทธศาสตร์ แต่การดูแลบริษัทจะเป็นหน้าที่ของ Tim Cook (COO ของแอปเปิล) และผู้บริหารคนอื่นๆ
ไม่มีรายละเอียดเรื่องอาการป่วยของจ็อบส์ และทางจ็อบส์เองก็ขอ "ความเป็นส่วนตัว" ในช่วงนี้ด้วย
ไม่นานมานี้ จ็อบส์เพิ่งหายป่วยจากอาการมะเร็งกำเริบ ระหว่างนั้นก็ได้ Tim Cook และทีมบริหารช่วยดูแลบริษัทไปได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร
ที่มา - Apple
หลังจากที่เริ่มมีกระแสข่าวลือเกี่ยวกับ iPad 2 ออกมาแล้ว ล่าสุด มีผู้พบภาพไอคอนในแอพ iBook เวอร์ชั่น 1.1 และ 1.2 สำหรับ iPad โดยไอคอนและรูปภาพแต่ละภาพนั้น มีขนาดใหญ่กว่าถึงสองเท่าหากนับจากความกว้างและความสูงของภาพ
นั่นหมายความว่าแอปเปิลอาจจะใช้วิธีเดียวกันกับการเพิ่มความละเอียดหน้าจอบน iPhone 4 ก่อนหน้านี้ โดยไอโฟนรุ่นก่อน ๆ จะมีความละเอียดของหน้าจอที่ 480x320 พิกเซลส่วน iPhone 4 อยู่ที่ 960x640 พิกเซล นั่นก็หมายความว่าความละเอียดหน้าจอของ iPad 2 ควรจะอยู่ที่ 2048x1536 พิกเซลเมื่อเทียบกับรุ่นแรกที่ 1024x768 พิกเซล
เว็บไซต์ Engadget อ้างแหล่งข่าววงในที่เคยมีผลงานให้ข่าวเกี่ยวกับแอปเปิลถูกต้องแม่นยำ ถึง "ข้อมูลใหม่" ของ iPad 2
ชิปสำหรับเชื่อมต่อเครือข่ายมือถือ จะเปลี่ยนจากแยกรุ่น GSM/CDMA มาเป็นชิปของ Qualcomm ที่ตัวเดียวใช้ได้ทั้งสองระบบ
นอกจากนี้ยังมีข่าวของ iPhone 5 ว่า
"ออกแบบใหม่หมด"
ข่าวลือสั้นๆ ต่อจาก iOS 4.3 สำหรับนักพัฒนา และ iPad รุ่นถัดไปจะไม่มีปุ่ม Home ก็มีคนขุดไปเจอฟีเจอร์ใหม่อีกอย่างที่เรียกว่า "Find My Friends" คาดว่าจะเป็นบริการ location-based เพื่อค้นหาเพื่อนที่อยู่ใกล้คล้ายกับ Google Latitude และ Loopt โดยเชื่อมต่อกับบริการ MobileMe
จากที่มาอ้างถึงอีเมลของสตีฟ จ็อบส์ที่พูดถึงบริการ MobileMe ว่า "a lot better in 2011" หลังจากปล่อยให้เจ้าอื่นมีบริการคล้ายกันนี้ไป Apple จะมีตามบ้างก็คงไม่แปลก
ที่มา: macrumors
หลังจากปล่อย iOS 4.3 สำหรับนักพัฒนาออกมา ทาง BGR ก็รายงานต่อเนื่องว่ามีข้อมูลมาว่า iPad รุ่นถัดไปจะไม่มีปุ่ม Home อีกแล้วโดยผู้ใช้งานจะใช้วิธีการสัมผัสแบบ Gesture พร้อมกัน 4-5 นิ้วเพื่อกลับไปสู่หน้า Home (คาดเดาว่าให้ใช้วิธีขยุ้มนิ้วเข้าหาตรงกลาง) โดยรายงานยังเพิ่มเติมอีกว่าตอนนี้การทดสอบการใช้งานแบบไร้ปุ่ม Home นี้มีทั้งทดสอบบน iPad และ iPhone ที่สำนักงานของแอปเปิล
เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา แอปเปิลได้ปล่อย iOS 4.3 รุ่นเบต้าให้กับนักพัฒนาแล้ว
โดยในเวอร์ชั่นนี้ แอปเปิลได้เพิ่มการใช้งานมัลติทัชใหม่ ๆ สำหรับ iPad เช่นการใช้งาน Gesture แบบ 4-5 นิ้วพร้อม ๆ กัน เช่นการใช้หลาย ๆ นิ้วปัดขึ้นบนหน้าจอเพื่อเรียก Multitask Tray ขึ้นมา หรือการใช้สี่นิ้วปัดไปทางซ้ายขวาเพื่อสลับไปใช้ App ก่อนหน้าหรือถัดไปที่กำลังรันอยู่
นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มความสามารถให้กับ AirPlay โดย App อื่น ๆ ที่ไม่ใช่ของแอปเปิลที่สามารถเล่นไฟล์วีดีโอได้จะสามารถใช้งาน AirPlay ได้แล้ว มีฟังก์ชั่น Personal Hotspot เพิ่มตามคาด และอาจมีการเปลี่ยนแปลงไอคอนของ FaceTime บนหน้า Home Screen อีกด้วย
น่าเสียดาย ที่ผู้ใช้ iPhone 3G และ iPod touch 2G จะไม่สามารถติดตั้ง iOS 4.3 ได้
คำว่า App Store ถูกจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าโดยแอปเปิลไว้ตั้งแต่ปี 2008 โดยให้รายละเอียดไว้ว่าใช้สำหรับการให้บริการจัดจำหน่ายซอฟต์แวร์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต โดย App Store เปิดให้บริการครั้งแรกพร้อมๆกับการจำหน่าย iPhone 3G ซึ่งก็เป็นที่รับทราบกันดีว่าประสบความสำเร็จและสร้างรายได้ให้แอปเปิลมากแค่ไหน
ล่าสุดไมโครซอฟท์ยื่นข้อเรียกร้องต่อสำนักงานสิทธิบัตรแห่งสหรัฐอเมริกา เพื่อขอให้ยกเลิกการให้สิทธิ์เครื่องหมายการค้า "App Store" กับแอปเปิล โดยมีรายละเอียดในเอกสารยื่นฟ้อง (อ่านฉบับเต็ม) ว่า App เป็นคำที่ระบุถึงลักษณะสินค้าที่ขาย ส่วนคำว่า Store ก็เป็นคำสามัญของร้านค้าอยู่แล้ว
แม้การเปิดตัว iPhone 4 บนเครือข่าย Verizon ในสหรัฐอเมริกาจะไม่ใช่เรื่องผิดคาด แต่ iPhone 4 สำหรับ Verizon ก็มีสิ่งเล็กๆที่เพิ่มเติมเข้ามานั่นคือคุณสมบัติ Personal Hotspots
TechCrunch รายงานว่าใน iPhone 4 ของ Verizon นี้ผู้ใช้งานสามารถปิดเปิดคุณสมบัติ Personal Hotspot ได้ใน Setting และสามารถแบ่งการเชื่อมต่อได้สูงสุด 5 อุปกรณ์ (ดูภาพประกอบที่นี่) คุณสมบัติดังกล่าวจะมาพร้อมกับ iOS เวอร์ชัน 4.2.5
ข่าวนี้ไม่สำคัญกับเมืองไทยเท่าไรนัก แต่ในสหรัฐสำคัญมาก เพราะเครือข่ายอันดับหนึ่งของสหรัฐอย่าง Verizon จะได้ขาย iPhone 4 กับเขาบ้างเสียที
ตัวฮาร์ดแวร์คงเหมือนกับ iPhone 4 เดิมแทบทุกประการ (ยกเว้นรองรับระบบ CDMA ของ Verizon) จุดที่ต่างคือแพกเกจรายเดือนที่ Verizon ต้องออกมาแข่งกับ AT&T (ดูตารางเปรียบเทียบจาก Engadget) โดย Verizon จะเริ่มขาย iPhone 4 ในวันที่ 10 ก.พ. นี้
Tim Cook ผู้บริหารของแอปเปิลตอบคำถามว่าตอนนี้ iPhone 4 ยังไม่รองรับเครือข่าย 4G LTE เพราะชิปเซ็ต LTE ในปัจจุบันยังไม่เหมาะกับการออกแบบ iPhone รุ่นปัจจุบัน
ถ้ายังจำกันได้ เมื่อวันที่ 1-3 มกราคมที่ผ่านมา ทั่วทั้งโลกต้องเจอกับปัญหา นาฬิกาปลุกของ iPhone 4 ไม่ทำงาน (ข่าวเก่า 1, 2, 3) หลายคนอาจจะไม่ค่อยซีเรียสเท่าไหร่ เพราะขาดงานแค่สองวัน หรืออาจจะใช้นาฬิกาปลุกตัวอื่นแทน แต่สำหรับ Lindsay Garvey สาววัย 28 ปีจาก Boston ไม่ได้เป็นอย่างที่เราๆ คิดครับ เธอต้องถูกสังเวยให้ออกจากงาน (ตรงๆ ตัวก็คือไล่ออก) เหตุเพราะว่าเธอมาทำงานสายในวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา โดยให้เหตุผลว่าเนื่องจากนาฬิกาปลุกบน iPhone 4 ของเธอไม่ยอมทำงาน และเธอเองก็ยอมรับผิดส่วนหนึ่งว่า เธอก็ขาดความรับผิดชอบเหม
อินเทลประกาศเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาที่งาน CES ว่า Light Peak พร้อมแล้ว แต่สิ่งเดียวที่ควรทราบคือในช่วงแรก ๆ จะใช้ทองแดงแทนที่การใช้สายไฟเบอร์ใยแก้วนำแสง โดย Perlmutter ตัวแทนจากอินเทลได้อ้างว่าไฟเบอร์ใยแก้วมีปัญหาเรื่องราคา
นอกจากนี้แล้ว Perlmutter ก็ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับวันเวลาที่เราอาจจะได้เห็น Light Peak ถูกนำมาใช้กันทั่ว ๆ ไป แม้ว่าก่อนหน้านี้อินเทลได้บอกไว้ว่า Light Peak จะเข้าสู่ตลาดทั่วไปในช่วงท้าย ๆ ของปี 2010 หรือช่วงต้นปีนี้
หลังจากการประชุมพนักงาน Apple Retail Store เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แอปเปิลได้ตัดสินใจยกเลิกค่า Restocking Fee หรือค่าธรรมเนียมนำสินค้ากลับเข้าคลังที่ร้าน Apple Retail Store ทุกร้านตั้งแต่วันอังคารนี้เป็นต้นไป
โดยทุกวันนี้หากซื้อสินค้าจากร้านแอปเปิลไป แต่ต้องการที่จะคืนเครื่องเนื่องจากสาเหตุอื่นที่ไม่เกี่ยวกับการทำงานของเครื่อง สามารถทำได้ แต่แอปเปิลจะหักเงิน 10% ของราคาเต็มเพื่อนำสินค้ากลับเข้าสต็อก
หากท่านคิดว่า MacBook Air รุ่นแรก ๆ* ยังสามารถใช้งานได้ดีอยู่และยังไม่เห็นความจำเป็นต้องเปลี่ยนเครื่องใหม่ เพียงแต่ฮาร์ดดิสก์จานหมุน 4200 รอบที่มีความจุน้อยนิดเริ่มช้าไม่ทันใจ ล่าสุด Other World Computing (OWC) บริษัทผลิต SSD และรับแต่งเครื่องแมค เช่นรับเจาะรู eSATA หลัง iMac หรือรับเปลี่ยนฮาร์ดดิสก์ภายในเป็น 3TB ได้ประกาศ SSD สำหรับ MacBook Air รุ่นดังกล่าวแล้วโดยใช้ชื่อว่า OWC Mercury Aura Pro นอกจากความเร็ว Read/Write ที่สูงสุดถึง 285/275MB/s แล้ว ยังมีความจุสูงสุดถึง 480GB อีกด้วย !
หลังจากที่โครงการ VideoLAN ได้ยื่นหนังสือต่อแอปเปิลให้ถอด VLC for iPad/iPhone ออกจาก App Store เนื่องจากผิดเงื่อนไข GPL เมื่อราวสองเดือนที่แล้ว (ข่าวเก่า) วันนี้ข้อเรียกร้องก็เป็นผลเมื่อ VLC ได้หายไปจาก App Store เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตามการการถอด VLC ออกนี้ไม่มีผลต่อผู้ที่ดาวน์โหลดไปแล้วก่อนหน้า ส่วนผู้ที่ยังไม่ได้ดาวน์โหลดในจุดนี้ก็คงต้องพึ่งบริการจาก Cydia ด้วยความจำยอมต่อไป
ที่มา: macstories