Apple, Inc.
เว็บไซต์ MacRumors อ้างแหล่งข่าววงในว่าแอปเปิลเตรียมเลิกขายซอฟต์แวร์เป็นกล่องกระดาษในร้านของตัวเอง โดยจะเปลี่ยนไปขายผ่าน Mac App Store แทนทั้งหมด ชั้นวางของที่เคยวางกล่องซอฟต์แวร์ก็จะเปลี่ยนไปวางฮาร์ดแวร์แทน
ตอนนี้ถ้าซื้อเครื่องแมคใหม่ในร้านของแอปเปิล พนักงานของแอปเปิลจะช่วยเซ็ตเครื่องให้ ซึ่งแอปเปิลได้เพิ่มขั้นตอนให้สอนการใช้ Mac App Store เข้ามาแล้ว
ยังไม่มีข้อมูลว่าแอปเปิลจะทำอย่างไรกับซอฟต์แวร์ดังๆ อย่าง Adobe Creative Suite หรือ Microsoft Office ที่ยังไม่อยู่ใน Mac App Store
ที่มา - MacRumors
ข่าวลือของ iPad 2 มากันเป็นระยะๆ รอบนี้เว็บไซต์ iLounge อ้าง "แหล่งข่าวที่เคยให้ข้อมูลถูก" ว่ามี "ข้อมูลใหม่" ของ iPad 2 ดังนี้
อีกข่าวลือหนึ่งก็คือ เว็บไซต์ MacStories รายงานว่าแอปเปิลจะออก iOS 4.3 ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้ และน่าจะเพิ่ม API สำหรับสมัครสมาชิกนิตยสาร ซึ่งจะใช้กับ The Daily ด้วย
ผู้ถือหุ้นกลุ่มหนึ่งของแอปเปิลได้ยื่นข้อเสนอให้บริษัทเปิดเผยแผนเป็นประจำทุกปี ว่าจะเสนอใครเป็นซีอีโอคนต่อไป
แผนการนี้ได้รับเสียงสนับสนุนจากบริษัทที่ปรึกษา Institutional Shareholder Services ซึ่งคอยให้คำแนะนำบรรดานักลงทุนในการโหวตออกเสียงกำหนดทิศทางของบริษัท นอกจากนี้แผนการสืบทอดตำแหน่งซีอีโอ ยังได้รับการสนับสนุนจากสหภาพแรงงานนานาชาติแห่งอเมริกาเหนืออีกด้วย
ตัวแทนจาก ISS บอกว่าแผนการสืบตำแหน่งซีอีโอจะเป็นหลักประกันให้ผู้ถือหุ้นมั่นใจได้ว่า อนาคตของแอปเปิลจะไม่มีความเสี่ยงในเรื่องนี้
จากกรณี แอปเปิลปรับนโยบายใหม่ ปฏิเสธแอพจาก Sony Reader ไม่ให้เข้า App Store โฆษกของแอปเปิลได้ชี้แจงกับเว็บไซต์ AllThingsD ว่า แอปเปิลไม่ได้เปลี่ยนเงื่อนไขของการนำแอพเข้า App Store แต่อย่างใด เพราะเงื่อนไขเขียนไว้แต่แรกแล้วว่า "ถ้าแอพเปิดให้ผู้ใช้ซื้อหนังสือจากแหล่งอื่นได้ จะต้องซื้อหนังสือผ่านระบบ In App Purchase API ของแอปเปิลได้ด้วย" ซึ่งแน่นอนว่าโดนแอปเปิลหัก 30%
เงื่อนไขการรับประกัน iPod/iPhone อันที่โด่งดังที่สุดคงไม่มีอะไรเกิน "จุดแดง" หรือตัววัดระดับความชื้น (ชื่ออย่างเป็นทางการของมันคือ Liquid Contact Indicator) ที่ใช้ตรวจว่าเราทำเครื่องตกน้ำหรือไม่
แต่เดิมนั้นแอปเปิลเข้มงวดมาก ถ้าพบจุดแดงจะถือว่าหมดประกันทันที ซึ่งก็มีปัญหากับผู้ใช้หลายคนที่ไม่ได้ทำเครื่องตกน้ำจริง แต่ด้วยสภาพความชื้นสูงทำให้เกิดจุดแดงได้เช่นกัน (ข่าวเก่า ฮ่องกงอากาศชื้นเกินไป ไม่เหมาะกับ iPhone?)
ตอนนี้มีรายงานอย่างไม่เป็นทางการแล้วว่า แอปเปิลเพิ่มข้อยกเว้นไปในเงื่อนไขการรับประกันที่ส่งให้พนักงานทราบ ถ้ามีจุดแดงแต่เครื่องไม่พบอาการเป็นสนิม (corrosion) ก็อาจจะยังอยู่ในประกันได้
Patrick Lo ซีอีโอของบริษัท Netgear ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวออสเตรเลีย และวิจารณ์แอปเปิลกับไมโครซอฟท์ จนเกิดประเด็นถกเถียงตามมา ล่าสุดเขาออกแถลงการณ์ขอโทษสำหรับคำพูดของตัวเองแล้ว
Patrick Lo บอกว่าเขายังยืนยันแนวคิดเดิมว่าระบบเปิดดีกว่าระบบปิด เพียงแต่ขอโทษที่เลือกใช้คำไม่เหมาะสมนัก (หมายถึงคำว่า "Steve Jobs going away") เขาบอกว่าตอนพูดคำนี้ เขาไม่ได้หมายถึงสุขภาพของจ็อบส์แต่อย่างใด และขออวยพรให้จ็อบส์มีสุขภาพที่ดี
ที่มา - Macgasm
"ความเข้มงวด" ของแอปเปิลกลับมาเป็นข่าวอีกครั้งหลังเงียบหายไปนาน หนังสือพิมพ์ The New York Times ลงข่าวว่าแอปเปิลปฏิเสธไม่ให้แอพ Sony Reader (ข่าวเก่า) เข้าไปขายใน App Store ด้วยเหตุว่า Sony Reader ขายหนังสือผ่านระบบร้านค้าอื่นที่ไม่ใช่ของแอปเปิล
ก่อนหน้านี้แอปเปิลปล่อยให้แอพ Kindle ที่มีลักษณะการขายหนังสือแบบเดียวกัน ให้ขึ้น App Store แบบไม่มีปัญหาอะไร แต่เมื่อแอปเปิลปรับเปลี่ยนนโยบายภายในใหม่ บังคับว่าการขายเนื้อหาภายในแอพต้องผ่านระบบของแอปเปิลเท่านั้น และห้ามผู้ใช้ดาวน์โหลดเนื้อหาที่ซื้อจากที่อื่นผ่านแอพบน iPhone ด้วย ทำให้แอพ Sony Reader ไม่ผ่านเกณฑ์ดังกล่าว
Patrick Lo ซีอีโอของบริษัท Netgear ผู้ผลิตสินค้าเน็ตเวิร์คสำหรับผู้ใช้ตามบ้านรายใหญ่วิจารณ์ถึงการทำงานของแอปเปิลว่ามีระบบที่ปิดเกินไป ซึ่งระบบนี้ใช้งานได้ดีเมื่อแอปเปิลครองตลาดเบ็ดเสร็จเช่นตลาดเครื่องเล่น MP3
เขาทำนายว่าจ๊อปส์จะถอนตัวจากแอปเปิลในอนาคตข้างหน้าไม่นาน และแอปเปิลต้องตัดสินใจต่อไปว่าจะเปิดแพลตฟอร์มของตัวเองให้มากกว่านี้หรือไม่ เพราะระบบที่ปิดจะไปได้อีกไม่ไกลและแอนดรอยกำลังไล่เบียดตลาดอย่างหนัก
อีกประเด็นที่ Lo วิจารณ์คือตัวสตีฟ จ๊อปส์เองที่ไม่ยอมรับ Adobe Flash ใน iOS ว่า "ไม่มีเหตุผลอื่นนอกจากอีโก้ [ของจ๊อปส์]"
สินค้าช่วงหลังของโซนี่ที่ขายดีอย่างมากคือกล้องวีดีโอ Sony Bloggie ที่สามารถถ่ายภาพความละเอียดสูงเพื่อโพสลงเว็บแชร์วีดีโอต่างๆ ได้โดยง่าย โซนี่ระบุว่าคำถามหนึ่งที่ได้รับมากคือ Bloggie จะรองรับเครื่องแมคหรือไม่ และในตอนนี้โซนี่ก็ประกาศรองรับเครื่องแมคอย่างเป็นทางการแล้ว
ซอฟต์แวร์ใหม่รองรับเฉพาะรุ่น MHS-TS10, MHS-TS20, และ MHS-TS20K ส่วนรุ่นอื่นๆ จะมีอัพเดตเพิ่มเติมต่อไป
ถ้าใครจำได้ในยุครุ่งเรืองสุดๆ ของโซนี่ รอบตัวผมมีคนที่ใช้ทุกอย่างเป็นโซนี่มากมาย สินค้าเหล่านี้มักใช้ร่วมกับคนอื่นได้ลำบาก หรือร่วมกับคนอื่นไม่ได้เลย
คุ้นๆ ไหม?
ที่มา - Sony Style
Steve Wozniak ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทแอปเปิล ให้สัมภาษณ์กับรายการ The Engadget Show ว่าเขาได้สั่งซื้อ iPhone 4 สีขาว จากเด็กอายุ 17 ที่อ้างว่าได้สินค้ามาจาก Foxconn (ข่าวเก่า) ปรากฎว่ามีปัญหาเรื่องภาพถ่ายสีเพี้ยนถ้าเปิดแฟลช ซึ่งสอดคล้องกับรายงานก่อนหน้านี้ว่า กรอบสีขาวทำให้ "แสงรั่ว" ถ้าเปิดแฟลช
Wozniak ยังเสริมว่า iPhone 4 สีขาวมีปัญหาเรื่อง proximity sensor แต่เขาก็ยืนยันว่าแอปเปิลแก้ปัญหาเหล่านี้แล้ว และเราจะได้เห็นมันวางขายในเร็วๆ นี้
Wozniak ได้พูดถึง Android ว่ามีฟีเจอร์หลายอย่างที่ iPhone ไม่มี เช่น การรับคำสั่งด้วยเสียง หรือคีย์บอร์ดแบบ Swype
บริษัทโฆษณา M&C Saatchi ออกรายงาน Brand Desire ผลสำรวจแบรนด์ที่ผู้บริโภคนิยม โดยใช้ผลสำรวจจากผู้บริโภคกว่า 17,000 ทั่วโลก
ถ้าคิดคะแนนเฉลี่ยของทั้งโลก อันดับหนึ่งเป็นของ "แอปเปิล" (ตามคาด) ตามด้วย "กูเกิล" และ "BMW" (อยากรู้อันดับที่เหลือต้องซื้อรายงานฉบับเต็มกันเองครับ)
แต่บางประเทศแอปเปิลก็ไม่ได้ที่หนึ่งเสมอไป ในประเทศจีน "BMW" เป็นอันดับหนึ่ง, ในสิงคโปร์คือ "Singapore Airlines", ในเยอรมนีคือ "WWF" องค์กรพิทักษ์สัตว์ป่าที่เราคุ้นกับโลโก้รูปแพนด้านั่นเอง
ที่มา - Fortune
แอปเปิลปรับเว็บไซต์ apple.com เสียใหม่ หน้าตาส่วนมากยังเหมือนเดิม แต่ข้างใต้เปลี่ยนมาใช้ HTML5 แทน HTML 4.01 Transitional ของเดิม
การเปลี่ยนมาใช้ HTML5 ทำให้แอปเปิลเพิ่มฟีเจอร์เล็กๆ น้อยๆ ลงมาในเว็บไซต์หลายจุด (เช่น กล่องค้นหาที่ปรับขนาดได้) และปรับสไตล์ของเว็บไซต์ไปบางส่วน (แถบนำทางสีเข้มขึ้น เปลี่ยนวิธีแสดงแถบเลื่อนสำหรับผลิตภัณฑ์ของตัวเอง)
ผมไม่แน่ใจว่าเบราว์เซอร์ที่ไม่รองรับ HTML5 เปิดแล้วจะเห็นเว็บไซต์หน้าตาเป็นอย่างไร ใครมีช่วยทดสอบด้วยก็ดีครับ
ที่มา - AppleInsider
กระแสการจ่ายเงินด้วย NFC กำลังมาแรงในสหรัฐและประเทศตะวันตก หลังจาก Android บุกตลาดไปก่อนด้วย Nexus S และตามด้วยข่าวว่า BlackBerry รุ่นหน้าจะมี NFC ล่าสุดก็มีข่าววงในแว่วมาว่าแอปเปิลจะเป็นค่ายที่สามที่สนับสนุนเรื่องนี้ และฝัง NFC เข้ามาใน iPad 2 และ iPhone 5 ด้วย
นักวิเคราะห์ประเมินว่าบริการจ่ายเงินของแอปเปิลจะดึงข้อมูลทางการเงินของลูกค้าที่มีอยู่แล้ว เช่น บัตรเครดิตที่เชื่อมกับ iTunes, บัญชี iTunes Gift Card และอาจรวมไปถึงการหักบัญชีธนาคารโดยตรง นอกจากการนำ NFC มาทำระบบจ่ายเงินโดยตรงแล้ว แอปเปิลอาจพัฒนาวิธีการโฆษณาบน iAd ที่เชื่อมกับข้อมูลใน NFC ของเราด้วย
ข่าวนี้ต้องย้อนถึงข่าวเมื่อต้นปีที่แล้ว ITC จะเข้าสอบสวนแอปเปิลและ RIM ตามคำขอของ Kodak ว่าละเมิดสิทธิบัตรของตัวเองหรือไม่ ทางผู้พิพากษาของ ITC หรือคณะกรรมการพาณิชย์ของสหรัฐ ได้ตัดสินแล้วว่าแอปเปิลและ RIM ไม่ได้ละเมิดสิทธิบัตรของโกดักแต่อย่างใด
ผู้พิพากษา Paul Luckern ให้เหตุผลว่าสิทธิบัตรของโกดักเป็นการต่อยอดจากสิทธิบัตรอื่นๆ ที่มีอยู่แล้ว ทำให้สิทธิบัตรชิ้นนี้ไม่สมบูรณ์ในตัวเอง แอปเปิลและ RIM จึงไม่มีความผิดแต่อย่างใด ผลการตัดสินนี้จะต้องให้คณะกรรมการ ITC รับรองอีกครั้งหนึ่งจึงจะมีผลอย่างเป็นทางการ
มีผู้อ้างแหล่งข่าวที่เป็นต้นฉบับภาษาจีนของ Commercial Times ว่า iPad รุ่นที่สองจะเริ่มดำเนินการผลิตนำร่อง "ในจำนวนเล็กน้อย" เดือนกุมภาพันธ์นี้ และจะเริ่มผลิตในจำนวนที่เพิ่มมากขึ้นในไตรมาสที่สอง ข้อมูลดังกล่าวทำให้คาดได้ว่า iPad รุ่นที่สองน่าจะเปิดตัวในช่วงไตรมาสหนึ่งนี้แน่นอน ขณะเดียวกันก็มีข้อมูลว่า iPhone รุ่นที่ห้าจะเริ่มดำเนินการผลิตพฤษภาคมนี้ ซึ่งถ้าเป็นจริงก็จะทำให้เชื่อได้ว่า iPhone รุ่นหน้าก็จะยังคงเปิดตัวกลางปีตามรอบเหมือนเดิม
Foxconn จะยังคงเป็นบริษัทหลักในการประกอบทั้ง iPad และ iPhone รุ่นถัดไปนี้
ที่มา: Electronista
ก่อนหน้านี้แอปเปิลได้มีการเปิดเผยว่าจะให้รางวัล iTunes Gift Card 10,000 ดอลลาร์สหรัฐแก่ผู้ที่ดาวน์โหลด App จาก App Store เป็นครั้งที่ 1 หมื่นล้าน วันนี้ก็ได้ผู้โชคดีแล้วครับ
ผู้โชคดีรายนี้มีนามว่าคุณ Gail Davis ซึ่งเป็นคุณแม่จากมณฑลเคนต์ในสหราชอาณาจักร เธอยอมรับว่าคนที่ดาวน์โหลดจริงๆ นั้นไม่ใช่ตัวเธอเอง แต่เป็นลูกสาวของเธอ และ App ที่ทำการดาวน์โหลดในครั้งนี้คือเกม Paper Glider ซึ่งเป็นเกมร่อนจรวดกระดาษที่ดาวน์โหลดได้ฟรีจาก App Store โดยตอนรับโทรศัพท์เธอก็ยังนึกว่าเป็นเรื่องล้อเล่นด้วย
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สตีฟ จ็อบส์ ประกาศการลาป่วยรอบที่สาม หลังจากพบว่าเป็นมะเร็งในรอบแรก และต้องเปลี่ยนตับในรอบที่สอง
รอบนี้แอปเปิลแทบไม่ได้ให้ข้อมูลอะไรเกี่ยวกับอาการป่วยของจ็อบส์เลย บอกเพียงแค่ "ลาป่วย" โดยไม่ระบุระยะเวลา น้อยกว่าคราวก่อนที่บอกว่าลาป่วย 6 เดือนด้วยซ้ำ
ทุกคนย่อมอยากรู้ว่าจ็อบส์ป่วยเป็นอะไร อาการหนักเบาแค่ไหน มีโอกาสหายหรือไม่ ฯลฯ แต่นั่นคงไม่ใช่เรื่องที่สำคัญเท่ากับคำถามที่ว่า "แอปเปิลจะเป็นอย่างไรถ้าไม่มีสตีฟ จ็อบส์"
หลังจากปล่อยให้ทาง Verizon เริ่มโฆษณา iPhone 4 ไปบ้างแล้วตอนแถลงเปิดตัว ตอนนี้ทางแอปเปิลเองก็ปล่อยโฆษณาชิ้นใหม่ของ iPhone 4 เพื่อโปรโมตบ้างแล้วครับ
โฆษณาดังกล่าว (ดูได้ท้ายข่าว) แสดงถึงการใช้งานของ iPhone ทั้งสองระบบในสหรัฐฯ (GSM ผ่าน AT&T และ CDMA ผ่าน Verizon) นั้นเหมือนกันทุกประการ และยังสามารถใช้ FaceTime ร่วมกันได้อีก โฆษณาจบลงด้วยคำว่า "Two is better than one" ครับ
ข่าวลือล่าสุดของ iPad 2 ครับ มีคนไปขุดไฟล์ใน iOS 4.3 แล้วพบข้อความว่า "Back Facing 1MP Photo" อยู่ในอุปกรณ์รหัส K94 และ K95
ยังไม่มีใครรู้ว่า 94/95 คืออุปกรณ์ตัวไหน แต่ในไฟล์เดียวกันมีเอ่ยถึง FaceTime, Camera และ PhotoBooth ที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้ด้วย จึงคาดว่า K94 คือ iPad 2 รุ่น Wi-Fi และ K95 คือรุ่น 3G
ที่มา - 9 to 5 Mac
แม้ว่าข่าวจากแหล่งข่าวหลาย ๆ แห่งได้ออกมาฟังธงกันใหญ่ว่า iPad 2 จะมาการเปลี่ยนความละเอียดหน้าจอเป็นมากกว่าเดิมถึง 4 เท่า แต่ล่าสุด หนึ่งในผู้ที่เคยออกมาให้ข่าวว่าจะมีการเปลี่ยนความละเอียดหน้าจอก่อนหน้านี้อย่าง Kevin Rose ได้ออกมาบอกว่า iPad 2 จะไม่มีการเปลี่ยนความละเอียดหน้าจอแล้ว
เช่นกัน เว็บ Daring Fireball ของ Gruber เองที่มักจะให้ข่าวเกี่ยวลือเกี่ยวกับแอปเปิลบ่อย ๆ ก็ออกมาบอกว่า iPad 2 จะใช้ความละเอียดหน้าจอเท่าเดิมที่ 1024x768
ใกล้จะถึงเวลาเปิดตัว iPad รุ่นใหม่ประกอบกับช่วงนี้แอปเปิลกำลังปล่อยเฟิร์มแวร์ตัวใหม่ของผลิตภัณฑ์ในสาย iOS เสียพอดี ล่าสุดใน iOS 4.3 beta 2 ที่เพิ่งปล่อยให้นักพัฒนาไปนั้นมีชุดไอคอนของแอพลิเคชันใหม่อีกสามแอพฯ นั่นก็คือ FaceTime, Camera และ PhotoBooth ซึ่งเป็นแอพฯ เกี่ยวกับรูปถ่ายทั้งสิ้น จึงแทบจะยืนยันได้แล้วว่า iPad รุ่นต่อไปจะมาพร้อมกับกล้องแน่นอน แม้ยังไม่รู้ว่าจะมาเป็นกล้องหน้าอย่างเดียว หรือมีกล้องหลังความละเอียดต่ำหน่อยแบบ iPod Touch หรือไม่
ตอนนี้ก็เรียกได้ว่ายุติข่าวลือเรื่องกล้องไปได้หนึ่งอย่าง ส่วนเรื่องอื่นๆ อย่างความละเอียดจอ คงต้องรอดูตอนเปิดตัวที่คาดว่าจะเป็นไตรมาสแรกของปีนี้นั่นเอง
สาวกเฮลั่นและผู้ถือหุ้นยิ้มอย่างยินดี เมื่อแอปเปิลประกาศว่าในไตรมาสสุดท้ายของปี 2010 บริษัทสามารถขาย iPad ได้จำนวน 7.3 ล้านเครื่อง
เมื่อนับรวมตั้งแต่เปิดตัวขายเมื่อต้นปีที่แล้ว สรุปยอดจำหน่าย 14.79 ล้านเครื่อง นับเป็นยอดขายแท็บเล็ตที่สูงมากที่สุดในตลาดในปัจจุบันก็ว่าได้
แต่ในปีนี้ iPad 2 ต้องรับศึกหนักทีเดียวเพราะมีสารพัดคู่แข่งลงตลาดหลายเจ้ามาก แอปเปิลจะรักษายอดแบบนี้ในปีนี้ได้หรือไม่ นับว่าน่าติดตามไม่แพ้ภาคต่อหนังดังทั้งหลายเลยทีเดียว
ที่มา Goodereader.com
เนื่องในโอกาสยอดขายแอพบน App Store ของแอปเปิลใกล้ครบ 1 หมื่นล้านครั้ง แอปเปิลได้จัดทำหน้าเว็บบน iTunes Store เพื่อแสดงอันดับของแอพยอดนิยม "ตลอดกาล" นับตั้งแต่เปิดร้านขายแอพมา
รายชื่อแอพแบ่งเป็น 4 หมวดคือ iPhone/iPad และฟรี/เสียเงิน (ลักษณะเดียวกับ แอพยอดเยี่ยม-ขายดีประจำปี 2010 ของ iPhone และ iPad)
แอพแบบเสียเงินบน iPhone
ดูเหมือนจะมีข่าวออกมาอยู่ตลอดเกี่ยวกับ iPhone 4 สีขาว บางครั้งก็ออกมารายงานว่าแอปเปิลได้ทำการถอดรูป iPhone 4 สีขาวออกจากเว็บ บางครั้งก็บอกว่าร้าน Apple Store มีป้ายเขียนว่า iPhone 4 สีขาวจะวางขายในต้นปีนี้
เว็บ Engadget ได้ออกมารายงานว่าพวกเขาได้เห็นภาพจากฐานข้อมูลคลังสินค้าของ Vodafone ในเยอรมนีแล้วว่ามี iPhone 4 สีขาวจริง และเว็บ MacRumors เองก็ได้นำรูปภาพสกรีนช็อทจากฐานข้อมูล Best Buy ที่ยืนยันข้อมูลเดียวกัน แถมมีข้อมูลวันวางจำหน่ายวันที่ 27 กุมภาพันธ์นี้อีกด้วย
จากรายงานผลประกอบการไตรมาสเมื่อวานของแอปเปิล พบว่าแม้ว่าผู้ใช้แมคจะเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ แต่รายได้ทั้งหมดจากการขายคอมพิวเตอร์แมคอินทอชของแอปเปิลนั้นกลับอยู่ที่ 20% ของรายได้ทั้งหมดของแอปเปิล
ในส่วนของอุปกรณ์ที่เพิ่งวางขายได้ไม่กี่ปีอย่างอุปกรณ์ iOS ทั้งหลาย ในตอนนี้กลายเป็นรายได้หลักของแอปเปิลเสียแล้ว (สองในสามของรายได้ทั้งหมด) โดยรายได้จากการขายไอโฟนคิดเป็น 39% ของรายได้ทั้งหมด iPad ที่ 17% และ iPod ที่ 13% (รายได้ส่วนใหญ่ของ iPod มาจาก iPod touch ที่ใช้ iOS เช่นกัน)
ที่มา - 9 to 5 Mac