ผู้ใช้ไอโฟนบางคนอาจมีงานเข้าในวันแรกของปี 2011 เนื่องจากนาฬิกาปลุกบนไอโฟนไม่ทำงาน โดยบักนี้จะเกิดขึ้นเฉพาะผู้ที่ตั้งนาฬิกาปลุกแบบครั้งเดียว ส่วนผู้ที่ตั้งนาฬิกาปลุกแบบปลุกรายวัน จะไม่พบกับปัญหาแต่อย่างใด

นั่นหมายความว่าผู้ใช้ไอโฟนที่ตั้งนาฬิกาปลุกแค่สำหรับวันนี้ตอนเช้า จะไม่ถูกปลุก!

ก่อนหน้านี้ผู้ใช้ไอโฟนในยุโรปและออสเตรเลียเคยมีปัญหาเรื่องของนาฬิกาปลุกเช่นกัน เมื่อถึงเวลาต้องตั้งนาฬิกาให้เร็วขึ้นหรือช้าลงหนึ่งชั่วโมงเพื่อออมแสงอาทิตย์ (Daylight Saving Time) โดยนาฬิกาปลุกจะปลุกเร็วขึ้นหรือช้าลงไปหนึ่งชั่วโมง

ปัญหาเรื่องแอพบนมือถือเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้นเป็นข่าวอยู่เรื่อยๆ ล่าสุดแอปเปิลโดนนาย Jonathan Lalo ในลอสแองเจลิสฟ้องว่า iPhone และ iPad มีตัวเลข UDID เฉพาะของอุปกรณ์แต่ละชิ้น ช่วยให้บริษัทโฆษณาสามารถ "ตามรอย" พฤติกรรมของผู้ใช้แต่ละคนได้

ในคำฟ้องเอ่ยถึงแอพ 4 ตัวที่ดึงข้อมูลส่วนตัวไปใช้ ได้แก่ Pandora, Paper Toss, the Weather Channel และ Dictionary.com ซึ่งผู้พัฒนาแอพเหล่านี้ถือเป็นจำเลยร่วมกับแอปเปิลด้วย

ที่มา - BusinessWeek

ข่าวลือจาก Digitimes อีกแล้วครับ (คงไม่ต้องแนะนำแล้วมั้งว่าเว็บนี้คืออะไร) ล่าสุดบอกว่า iPad 2 จะแบ่งเป็น 3 รุ่นย่อยตามการเชื่อมต่อ ได้แก่ Wi-Fi, UMTS (ซึ่งหมายถึง GSM/3G แบบที่เราใช้กัน) และ CDMA โดยจะมีสัดส่วนของแต่ละรุ่นคือ 3:4:3

ตามสัดส่วนก็บอกชัดเจนว่ารุ่น 3G ทั้งสองแบบมีสัดส่วน 60-65% ซึ่งหมายความว่าลูกค้าต้องการต่อเน็ตตลอดเวลา มากกว่าจะซื้อรุ่น Wi-Fi

นอกจากนี้ยังมีข่าวว่าแอปเปิลจะปรับปรุงหน้าจอให้ลดแสงสะท้อนลง และเป็นรอยเปื้อนได้ยากขึ้น เพื่อแข่งกับอุปกรณ์พวก Kindle นั่นเอง

ที่มา - Digitimes

เว็บไซต์ DigiTimes รายงานข่าววงในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์จากไต้หวันว่า แอปเปิลสั่งเพิ่มจำนวน iPhone ในไตรมาสแรกของปี 2011 จากเดิมที่ 19 ล้านเครื่อง ขึ้นมาเป็น 20-21 ล้านเครื่อง

จำนวนนี้จะแบ่งเป็น iPhone แบบ WCDMA (หรือที่เราเรียกกันว่า GSM) ประมาณ 14-15 ล้านเครื่อง และ iPhone แบบ CDMA อีกราว 5-6 ล้านเครื่อง ผู้ผลิต iPhone แบบ WCDMA คือ Foxconn เพียงผู้เดียว ส่วนรุ่น CDMA จะแบ่งกันระหว่าง Foxconn กับ Pegatron

ยอดผลิต iPhone ในไตรมาสที่สี่ของปี 2010 อยู่ที่ 15.5 ล้านเครื่อง นับรวมตลอดปีได้ 47 ล้านเครื่อง

ที่มา - DigiTimes

ผู้ใช้ไอโฟนอายุ 13 ปีชาวเกาหลีเตรียมที่จะขึ้นศาลกับ Apple Korea ในเดือนหน้ากรณีที่แอปเปิลไม่ยอมซ่อม iPhone 3G ของเธอ โดยก่อนหน้านี้พ่อของเธอได้ออกมาขอให้แอปเปิลจ่ายเงินเป็นจำนวน 251 ดอลลาร์สหรัฐเป็นค่าชดเชย หลังจากที่แอปเปิลได้ปฏิเสธที่จะรับซ่อม iPhone 3G ของลูกสาวของเขา แม้ว่าจะอยู่ในช่วงรับประกัน 1 ปีก็ตาม

สาเหตุจากการปฏิเสธที่จะรับซ่อมที่แอปเปิลได้อ้างไว้คือตัวมือถือได้รับความเสียหาย จากการโดนน้ำ โดยตัวเซ็นเซอร์ตรวจเช็คว่าตัวเครื่องโดนน้ำได้เปลี่ยนเป็นสีแดง แต่ทางครอบครัวของผู้เสียหายได้ทำการปฏิเสธ โดยหลังจากนี้ทีมกฎหมายของแอปเปิลได้ทำการติดต่อครอบครัวนี้ในภายหลังเพื่อที่จะพยายามปกปิดเรื่องดังกล่าว

Walt Mossberg แห่ง The Wall Street Journal ได้ทำรายชื่อสินค้า/บริการไอทีที่ดีและแย่ที่สุดในปี 2010 ออกมาแล้ว โดยได้ยก iPad จากแอปเปิลให้เป็นสินค้าที่ดีที่สุดในปี 2010 ในขณะที่สินค้าไอทีที่ดีที่สุดอันดับสามเป็นการเสมอกันระหว่าง iPhone 4 และซัมซุง Galaxy S สำหรับอันดับที่สองนั้นเป็นเครือข่าย 4G ในสหรัฐอเมริกา

ในส่วนของสินค้าที่แย่ที่สุดในปี 2010 นั้น Walt ได้ยกให้ Dell Streak เป็นสินค้ายอดแย่ประจำปีนี้ โดยได้ให้นิยามอธิบายสินค้าอย่าง Dell Streak ว่า "Tweener" จะเป็น Tablet ก็ไม่ใช่เพราะเล็กไป จะเป็นมือถือก็ไม่ได้เพราะใหญ่เกินไป

ดูเหมือนแอปเปิลจะยังคงค้นหาวิธีการออกแบบเสาอากาศใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง หลังจากที่เคยลองเอาเสาสัญญาณไปไว้ที่ขอบอลูมิเนียมของเครื่อง iPhone 4 มาแล้ว ล่าสุดแอปเปิลได้จดสิทธิบัตรตัวใหม่ โดยการซ่อนเสาอากาศไว้ภายใต้โลโก้รูปแอปเปิลของบริษัท

ข้อดีของการออกแบบนี้คือจะทำให้เสาอากาศออกมาอยู่นอกเครื่องให้มากที่สุด ลดการรบกวนสัญญาณจากภายในตัวเครื่อง ซึ่งจริงๆ แล้วแอปเปิลได้ใช้วิธีนี้กับเสาสัญญาณ Wi-Fi บน iPad แต่กับสิทธิบัตรตัวล่าสุดจะครอบคลุมไปถึงเสาสัญญาณโทรศัพท์เพิ่มเติม

สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือภาพจากในสิทธิบัตร ที่ไม่ใช่แค่ไอโฟนเท่านั้นที่จะมีเสาอากาศโทรศัพท์ แต่รวมไปถึง Macbook ด้วย

มีข่าวแว่วว่าไมโครซอฟท์กำลังจะเปิดตัวโอเอส Windows สำหรับทำงานบนซีพียูของ ARM เป็นครั้งแรกในงาน Consumer Electronics Show (CES 2011) ที่จะจัดในวันที่ 6-9 มกราคม 2554 ที่ Las Vegas โดยมุ่งเป้าไปที่อุปกรณ์ tablet หรือ smartphone เป็นหลัก

ผมมองว่าโอเอสตัวใหม่นี้ จะเปิดโอกาสให้ไมโครซอฟท์สร้าง tablet ของตัวเองเข้าแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดแท็บเล็ตและโทรศัพท์ของค่าย Apple (iOS) และ Google (Android) ได้มากขึ้นครับ โดยชิป ARM ที่ผลิตโดยบริษัท Qualcomm, Texas Instrument และ Samsung ปัจจุบันถูกติดตั้งอยู่ในสมาร์ทโฟนหลายรุ่นรวมถึงเครื่อง iPad ที่หลายท่านๆ ได้เป็นเจ้าของแล้ว

ประเด็น WikiLeaks บุกมาถึงอาณาจักรของแอปเปิลจนได้ ล่าสุดมีรายงานว่าแอปเปิลได้ถอดแอพที่เกี่ยวข้องกับ WikiLeaks ออกจาก App Store ของตัวเองแล้ว

แอพตัวนี้ขายในราคา 1.99 ดอลลาร์ มีไว้อ่านเนื้อหาใน WikiLeaks (ซึ่งเปิดให้อ่านฟรี) ด้านนักพัฒนาแอพตัวนี้คือ Igor Barinov ได้รับอีเมลแจ้งจากแอปเปิลว่าแอพของเขาเปลี่ยนสถานะมาเป็น Removed From Sale แต่ไม่ได้ระบุเหตุผลกำกับเอาไว้

ที่มา - TechCrunch

แม้ตัว iAd จะยังไม่ประสบความสำเร็จนัก แต่ด้วยมูลค่าของอุตสาหกรรมที่มหาศาลแอปเปิลก็ยังลงทุนในเครื่องมือสำหรับ iAd ต่อไปด้วย iAd Producer ที่แม้จะเป็นเครื่องมือสำหรับสร้างโฆษณาสำหรับ iAd เป็นหลัก แต่ก็เหมือนเป็นเครื่องมือคู่แข่งกับ Adobe Flash อยู่ในที

ตัวเครื่องมือจริงๆ แล้วมันคือ IDE สำหรับ HTML5 ที่มีคอมโปเนนต์พร้อมใช้จำนวนหนึ่งเช่นการวางเสียง, ภาพ, วีดีโอ, และเนื้อหาอื่นๆ ได้ง่ายขึ้น โดยมีรูปแบบที่เราเห็นกันบ่อยๆ เช่นการวางภาพแบบ Cover Flow มาให้ในตัว

จนตอนนี้ยังจำกัดการใช้งานเฉพาะลูกค้า iAd เท่านั้น

ที่มา - Apple

ผลการสำรวจตลาดเพลงออนไลน์ในไตรมาสที่สามของปี 2010 จากบริษัท NPD พบว่าแอปเปิลยังเป็นเจ้าตลาดด้วยส่วนแบ่ง 66.2% เพิ่มจากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้วที่ 63.2%

อันดับสองคือ Amazon MP3 ซึ่งเข้าตลาดช้ากว่า iTunes เป็นเวลา 4 ปี อยู่ที่ 13.3% เพิ่มจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่ 11% ส่วนที่เหลือๆ ก็เป็นพวกรายเล็กต่างๆ

ช่วงหลัง Amazon หันมาใช้กลยุทธด้านราคาที่ถูกกว่า iTunes พอสมควร แต่ถ้านับจำนวนเพลงแล้ว iTunes ยังมีเยอะกว่ามาก อย่างไรก็ตาม ตลาดเพลงออนไลน์เริ่มอิ่มตัวและโตช้ามากคือ 0.3% จากปีก่อน

ที่มา - WSJ

แม้ว่าแอปเปิลจะยังไม่ประสบความสำเร็จกับ iAd มากนัก แต่แนวทางโฆษณามัลติมีเดียเต็มรูปแบบของ iAd ก็น่าสนใจ และล่าสุด iAd ชิ้นแรกบน iPad จะถูกปล่อยออกมาแล้ว

เจ้าของโฆษณาชิ้นนี้คือดิสนีย์ ซึ่งต้องการโปรโมทภาพยนตร์เรื่อง Tron: Legacy ที่จะเข้าโรงเร็วๆ นี้ โฆษณาชิ้นนี้จะมีทั้งภาพยนตร์ตัวอย่างยาว 10 นาที, ภาพจากภาพยนตร์, โปรแกรมช่วยหาโรงใกล้บ้านพร้อมรอบฉาย, ตัวอย่างเพลงประกอบภาพยนตร์พร้อมลิงก์เพื่อซื้อเพลงจาก iTunes Store

ในอนาคตโฆษณา iAd บน iPad จะใช้ฟอร์แมตลักษณะนี้ และเริ่มขยายไปยังผลิตภัณฑ์อื่นๆ ช่วงต้นปีหน้า

ที่มา - AdAge

หลังจากเมื่อสัปดาห์ก่อน Google Latitude App โผล่บน iPhone App Store ก่อนถูกถอดอย่างรวดเร็ว ซึ่งคาดว่าเป็นการปล่อยขึ้นบน App Store โดยอุบัติเหตุก่อนเวลาที่ App Store ประเทศญี่ปุ่น ตอนนี้ Google Latitude ปรากฎบน App Store ทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว โดยตัวแอพพลิเคชั่นมีความสามารถในการแบ่งปันและติดตามตำแหน่งปัจจุบันของเรากับเพื่อน และสามารถทำงานเบื้องหลังแม้ออกจากแอพพลิเคชั่นไปแล้ว สามารถดาวน์โหลดได้ฟรีที่ App Store

ที่มา: Engadget

ใน iOS 4.0 แอปเปิลได้เพิ่ม API สำหรับดักจับว่าเครื่องทำ jailbreak หรือไม่ โดย API ชุดนี้ออกแบบมาสำหรับการใช้งานในองค์กรเป็นหลัก เพราะเป็นช่องทางให้ซอฟต์แวร์จัดการระบบ (มีชื่อเรียกว่า mobile device management หรือ MDM) ใช้ตรวจว่า iPhone ของบริษัทยังปลอดภัยอยู่หรือเปล่า

แต่ใน iOS 4.2 ปรากฎว่า API ตัวนี้ถูกถอดออกไปอย่างเงียบๆ โดยที่แอปเปิลไม่ระบุเหตุผลว่าทำไม

API ตัวนี้ถูกใช้โดยซอฟต์แวร์ MDM บางตัว เช่น AirWatch หรือ Sybase Afaria อย่างไรก็ตามซอฟต์แวร์เหล่านี้ได้พัฒนาวิธีการตรวจสอบ jailbreak ของตัวเองอยู่ก่อนแล้ว การปิด API ของแอปเปิลจึงไม่ส่งผลกระทบมากนัก

ที่งานสัมมนาแห่งหนึ่งในกรุงลอนดอน คุณ Kieron Connell ซึ่งทำงานที่ Microsoft Game Studios ได้พูดถึงบริษัทคู่แข่งอย่างแอปเปิลไว้ว่า

ในแง่ของการขายสินค้าให้ไปถึงทุกหัวระแหงแล้ว ผมคิดว่ามีการลงทุนกำลังคนและกำลังทรัพย์มากเกินไปเพื่อให้แอปเปิลเป็นผู้ชนะ

พวกคุณคงเชื่อแล้วว่าไมโครซอฟท์จริงจังอย่างมากกับ Windows Phone 7 และ [ขณะเดียวกัน] ก็พยายามป้องกันธุรกิจของพวกเขาด้วย เป็นที่แน่นอนว่ามันกำลังจะถึงช่วงเวลาที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง

ใกล้หมดสิ้นปี แอปเปิลได้ประกาศ "แอพยอดเยี่ยม" (App of the Year) จำนวน 4 ตัว และ "10 อันดับแอพยอดนิยม" ดังนี้ครับ

เริ่มจาก App of the Year 4 ตัว

• iPad App of the Year ได้แก่ Flipboard
• iPad Game of the Year ได้แก่ Osmos
• iPhone App of the Year ได้แก่ Hipstamatic
• iPhone Game of the Year ได้แก่ Plants Vs. Zombies

ที่มา - Business Insider

ที่เหลือเป็น "แอพยอดนิยม" ทั้งแบบฟรีและเสียเงิน จำนวน 6 หมวด อย่างละ 10 อันดับ ผมคัดมาเฉพาะอันดับแรกของแต่ละหมวดนะครับ รายการแบบเต็มๆ อ่านเองในลิงก์ที่มา

เป็นข่าวอีกสายที่ออกมาขัดกับข่าว Mac App Store จะเปิดบริการวันที่ 13 ธ.ค. นี้? โดยเว็บไซต์ The Loop อ้างแหล่งข่าววงในว่า แอปเปิลจะเปิด Mac App Store ในเดือนมกราคม 2011 แทน

The Loop ยังคำนวณให้แล้วเสร็จว่า ถ้าแอปเปิลเปิด Mac App Store ภายในสัปดาห์ที่สามของเดือนมกราคม ก็จะยังอยู่ในกรอบเวลา 90 วันหลังแถลงข่าว Back to Mac ที่เคยสัญญาเอาไว้

ที่มา - The Loop

ดูท่าศึกระหว่าง Apple กับ Google จะไม่จบลงง่ายๆ หลังจากที่แอพพลิเคชั่นของ Google อย่าง Google Voice ถูกถอดออกจาก iPhone App Store เมื่อปีก่อน ล่าสุด Google Latitude ซึ่งปรากฏตัวอย่างเงียบๆ ใน App Store ของญี่ปุ่น ก็ถูกถอดออกอย่างรวดเร็วเช่นกัน

Digitimes อ้างว่าได้รับการแจ้งข่าวจาก supplier ที่ผลิตชิ้นส่วนของไอแพดตัวใหม่ ให้โรงงานฟอซ์กคอนน์ (Foxconn) ว่าจะต้องทำการส่งชิ้นส่วนเพื่อผลิตและจัดส่งไอแพดรุ่นที่สองให้แอปเปิลภายใน 100 วันหรือภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า

Digitimes ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า แอปเปิลได้เริ่มมีการทดสอบเฟิร์มแวร์ใหม่ พร้อมวางแผนโปรโมตสินค้าชิ้นใหม่นี้ในเดือนมกราคมปีหน้า อย่างไรก็ตามแอปเปิลต้องใช้เวลาทยอยรับสินค้าที่ผลิตเข้าสต็อค เพื่อให้พอแก่การจัดจำหน่ายอย่างน้อยหนึ่งเดือน จึงคาดว่าช่วงเปิดตัวน่าจะเป็นเดือนมีนาคมปีหน้ามากกว่า

ที่มา : Engadget

สำหรับ Mac App Store หนึ่งในบริการใหม่ที่แอปเปิลได้เปิดตัวไปพร้อมกับ Mac OS X "Lion" เมื่อกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมาและประกาศว่าจะเปิดให้ใช้งานกัน ภายใน 90 วันหลังเปิดตัว ตอนนี้ก็เริ่มมีข้อมูลออกมาแล้วครับ

เว็บ 9 to 5 Mac รายงานว่าแอปเปิลได้ทำการเปลี่ยนป้ายใหม่ภายในร้าน Apple Store สาขาต่าง ๆ ทั่วสหรัฐว่า iPhone 4 สีขาวจะมีวางจำหน่ายในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2011 ซึ่งก็หมายความว่าข่าวลือก่อนหน้านี้ที่ออกมาบอกว่าแอปเปิลเลิกแผนจำหน่าย iPhone 4 สีขาวนั้นไม่เป็นเรื่องจริง (ณ​ เวลานี้..​ ใครจะรู้แอปเปิลอาจจะเปลี่ยนใจอีกก็ได้)

ที่มา - 9 to 5 Mac

แอปเปิลประกาศให้นักพัฒนาทราบว่า Mac App Store ที่จะมาพร้อมกับ Mac OS X 10.7 Lion จะรับเฉพาะซอฟต์แวร์ตัวเต็มเท่านั้น ไม่รับรุ่นเดโม, เบต้า, หรือรุ่นทดลองใช้ ซึ่งตรงนี้จะต่างจาก iPhone App Store ที่อนุญาตให้มีรุ่นทดสอบ-ทดลองได้

ในประกาศของแอปเปิลระบุว่าถ้าอยากให้ลูกค้าทดลองใช้ซอฟต์แวร์ก่อน นักพัฒนาก็ควรโพสต์ไว้บนเว็บไซต์ของตัวเองจะดีกว่า

ที่มา - AppleInsider

iPad เริ่มเปิดขายในไทยอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ โดยราคาที่เปิดขายนั้นเป็นที่ฮือฮากันอย่างมาก เพราะราคาต่ำกว่าเครื่องหิ้วหรือที่ขายกันในมาบุญครองเสียอีก โดยรุ่นถูกที่สุดคือ iPad Wi-Fi 16 GB ราคาอยู่ที่ 15,900 บาท

แน่นอนว่าราคาที่ขายในไทย ย่อมจะแพงกว่าที่ขายในอเมริกาเพราะด้วยค่าขนส่ง แต่ถ้าหากเราลองเทียบราคาสินค้าของแอปเปิลตัวอื่นๆ ที่วางขายอยู่ในไทยกับราคาที่ขายในอเมริกาดูแล้ว จะพบว่าราคาของ iPad นั้นใกล้เคียงกับราคาในอเมริกามากที่สุดในบรรดาสินค้าแอปเปิลทุกรายการ ตามตารางข้างล่าง

จากรายงานล่าสุดของ Nielson พบว่าแอปเปิลมีส่วนแบ่งโทรศัพท์สมาร์ทโฟนใหญ่ที่สุดในประเทศสหรัฐอเมริกาแล้ว โดยรายงานนี้เป็นตัวเลขจากเดือนตุลาคมที่่ผ่านมา แอปเปิลมีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า RIM แล้วที่ 27.9% มากกว่า RIM ที่ 27.4% ในขณะเดียวกัน Android เองก็ตามมาติด ๆ ที่ 22.7%

ในรายงานเดียวกันพบว่า ระบบปฏิบัติการจากแอปเปิลและ Android เป็นระบบปฏิบัติการบนสมาร์ทโฟนที่ผู้ใช้ต้องการใช้งานที่สุดหากสามารถที่จะเลือกได้ นอกจากนี้ยังพบว่าผู้หญิงมีความต้องการซื้อไอโฟนมาใช้เป็นมือถือเครื่องต่อไปมากกว่ามือถือยี่ห้ออื่น ๆ ในขณะที่ผู้ชายเริ่มที่จะสนใจซื้อมือถือที่รัน Android มาใช้เป็นมือถือเครื่องต่อไป

สำหรับรายละเอียดอื่น ๆ ที่น่าสนใจ แนะนำให้เข้าไปอ่านตามที่มาครับ

ทวิตเตอร์ได้เริ่มระบบโฆษณาแบบ "Promoted Tweet" มาได้พักนึงแล้วโดยโฆษณาประเภทนี้จะไปปรากฏตาม trending topics หรือ ผลการค้นหาตามคีย์เวิร์ดคำนั้นๆ

ในช่วงวัน Black Friday ถึงวัน Cyber Monday ซึ่งเป็นเทศกาลช้อปปิ้งของฝรั่ง เอชพีได้ซื้อโฆษณา Promoted Tweet เพื่อโปรโมทสินค้าของตนเอง แต่ที่เป็นข่าวก็คือทางเอชพีได้ซื้อโฆษณาในแท็ก #Apple หมายความว่าเวลาใครกดเข้าไปติดตามแท็กนี้ก็จะเจอโฆษณาสินค้าของเอชพี (ดูรูปหลังเบรก)

และนอกเหนือจากแท็ก #Apple แล้วยังมีคนไปพบโฆษณาของเอชพี ในแท็ก #mac และ #macbook อีกด้วย