จากข่าว Palm เตรียมหาคนมาซื้อบริษัทแล้ว ซึ่งแพลมออกมาว่าผู้สนใจซื้อคือ HTC กับ Lenovo
สำนักข่าวรอยเตอร์ได้รายงานข่าวจากวงในว่าหลังจาก HTC ได้ดูผลประกอบการและงบการเงินของ Palm ได้ตัดสินใจบอกปัดการเข้าซื้อกิจการเรียบร้อยแล้ว ทำให้ตอนนี้ Lenovo กลายเป็นตัวเต็งที่จะซื้อกิจการ Palm ราคาที่คาดหมายกันในตอนแรกคือ 1.2-1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
รายอื่นๆ ที่มีข่าวคือ Huawei ที่บอกปัดไปตั้งแต่ต้นเดือน และ ZTE นั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับกระบวนการทาบทามตามที่เป็นข่าวในช่วงแรก นักวิเคราะห์ทางการเงินรายหนึ่งมองว่า Palm เป็นบริษัทที่ไม่น่าสนใจนัก เพราะ "เป็นแบรนด์ที่พังไปแล้ว"
หลังจากเราเห็นข่าว Dell Mini 5 (หรือ "Streak") กันไปมากแล้ว ก็เริ่มมีข่าวของแท็บเล็ตขนาด 7 และ 10 นิ้วของ Dell ตามมา ตอนนี้มีข้อมูลเพิ่มเติมของรุ่น 7 นิ้วแล้วครับ
รหัสเรียกขานของมันคือ "Looking Glass" มีหน้าจอขนาด 7" ความละเอียด 800x480 (เท่ากับ Streak นับว่าน่าแปลกใจพอสมควร) ขุมพลังเป็น Tegra 2 จาก NVIDIA (ในขณะที่ Mini 5 เป็น Snapdragon) หน่วยความจำ 4GB, Flash ROM 4GB, มีช่องเสียบ SD, กล้อง 1.3MP, โมเด็ม 3G ในตัว นอกจากนี้ยังเลือกใส่การ์ดรับสัญญาณทีวีดิจิทัลได้ด้วย
ฟีเจอร์หนึ่งของ Windows 7 ที่ไมโครซอฟท์ชอบนำมาโฆษณาคือ Windows Touch ที่ใช้กับหน้าจอมัลติทัชของคอมพิวเตอร์บางรุ่น ข้อจำกัดของ Windows Touch คือมันเป็นแค่ "ระบบ" ที่รองรับการสัมผัส แต่ยังขาดแอพพลิเคชันที่แสดงความสามารถของมัลติทัชบน Windows 7 ได้อย่างเต็มที่ (จะเอา Windows Touch มาเล่น Minesweeper ก็กระไรอยู่)
Blognone เป็นเว็บเพจ ตั้งอยู่ที่ blognone.com และเรามี Facebook Page อยู่ที่ facebook.com/blognone (อย่าลืมเข้าไปกด Like เนื้อที่โฆษณา)
การที่ Blognone มี Facebook Page เป็นของตัวเองได้ เกิดจากผมเป็นคนเข้าไปใน Facebook แล้วกดสร้าง Page ด้วยตนเอง คือมันมีกระบวนการที่เป็น manual อยู่
ที่งานสัมมนา f8 ของ Facebook ได้ประกาศฟีเจอร์ใหม่หลายอย่าง ที่สำคัญคือการนำพลังของเครือข่ายที่เดิมอยู่เฉพาะใน Facebook ไปสู่เว็บไซต์อื่นๆ
ฟีเจอร์นี้มีชื่อเรียกว่า Social Plugins ประกอบด้วย widget หลายตัวให้เลือกใช้ตามสะดวก
หลังจากไมโครซอฟท์ชู Bing เป็นยุทธศาสตร์หลักของแผนออนไลน์มาได้ระยะหนึ่ง (และทำได้ดีพอสมควร) ไมโครซอฟท์ก็เริ่มกลับมามองผลิตภัณฑ์เดิมอย่าง Windows Live อีกครั้ง
ไมโครซอฟท์จะปรับผลิตภัณฑ์ในตระกูล Windows Live ใหม่ให้เป็น 3 ส่วนคือ Hotmail, Messenger และที่เหลือทั้งหมด (รวมเป็นชุด Essentials) ทางผู้บริหารของไมโครซอฟท์คือ Chris Jones ให้สัมภาษณ์ว่าทุกอย่างที่เกี่ยวกับข้อมูลสาธารณะจะอยู่ใต้แบรนด์ Bing ส่วน Windows Live จะเป็นแบรนด์สำหรับข้อมูลที่ใช้ส่วนตัว
ยุทธศาสตร์ใหม่ของไมโครซอฟท์จะกลับมาเน้นที่จุดแข็งคือ Hotmail และ Messenger ซึ่งมีผู้ใช้ 350 ล้านและ 320 ล้านคนตามลำดับ โดยจะพยายามต่อเชื่อมมันเข้ากับ social network อื่นๆ แทนการสร้าง social network ของตัวเอง
ช่วงหลังสตีฟ จ็อบส์ ตอบอีเมลเยอะมาก และเป็นข่าวอยู่เรื่อยๆ ล่าสุดมีคนเขียนไปถามถึงนโยบายการอนุมัติโปรแกรมใน App Store โดยเขาถามถึงโปรแกรมการ์ตูนของ Mark Fiore ซึ่งถูกแบนด้วยเหตุผลว่าเป็นการ์ตูนการเมือง (แต่ภายหลังแอปเปิลยอมรับว่าแบนผิดพลาด) และไม่เห็นด้วยกับนโยบายของแอปเปิลที่ทำตัวเป็น "ตำรวจศีลธรรม" (ใช้คำว่า moral police) ซึ่งคำตอบของจ็อบส์ออกมาเป็นดังนี้
Fiore’s app will be in the store shortly. That was a mistake. However, we do believe we have a moral responsibility to keep porn off the iPhone. Folks who want porn can buy and Android phone.
กูเกิลประกาศเปลี่ยนชื่อ Local Business Center เป็น Google Places พร้อมเพิ่มฟีเจอร์อีกจำนวนมากสำหรับธุรกิจที่ต้องการโฆษณาร้านของตัวเอง เช่น
สรุปว่าตอนนี้กูเกิลกำลังทำสมุดหน้าเหลืองออนไลน์ แบบมีแผนที่ประกอบครบวงจรนั่นเอง วิดีโอด้านใน
หลังจากเปิด Facebook Lite เวอร์ชันหน้าสะอาดเมื่อเดือนกันยายนปีก่อน ล่าสุด Facebook Lite ได้ปิดตัวลงอย่างเงียบๆ โดย Facebook ได้อัพเดตสถานะบนหน้าของตัวเองดังนี้
Thanks to everyone who tried out Facebook Lite. We're no longer supporting it, but learned a lot from the test of a slimmed-down site. If you used Lite, you'll now be taken to the main Facebook.com site.
ที่มา - Facebook Profile, ReadWriteWeb
ก่อนหน้านี้เคยลงข่าว หรือนี่คือภาพของ BlackBerry OS 6.0? ไปแล้ว ตอนนี้มี "ข้อมูลใหม่" ของ BlackBerry OS 6.0 ออกมาจากเว็บไซต์ Boy Genius Report ครับ
ตามข่าว BlackBerry OS 6.0 จะออกประมาณเดือนมิถุนายน-กรกฎาคมนี้ ฟีเจอร์คร่าวๆ มีดังนี้
Eric Schmidt ซีอีโอของกูเกิลให้รายละเอียดเพิ่มเติมของ Chrome OS
เลอโนโวเปิดตัว ThinkPad ตระกูลใหม่ L Series ซึ่งเตรียมจะมาแทน R Series ในอีกไม่ช้า
สองรุ่นแรกที่จะเปิดตัวได้แก่ L412 (จอ 14") และ L512 (จอ 15") สเปกแบบรวมๆ ของ L Series ทุกตัว ได้แก่
ค่ายเกมดัง Capcom ช่วงหลังหันมาออกภาคต่อของเกมดังในอดีตมากมาย ก่อนหน้านี้มีทั้ง Street Fighter IV และ Rockman 9 ตอนนี้ถึงคิวของเกมต่อสู้ชื่อดังอีกตระกูลคือ Marvel vs Capcom ภาค 3 (แต่ถ้านับลำดับเกมทั้งหมดในตระกูลนี้ ต้องถือว่าเป็นภาค 5)
ภาค 3 นี้มีชื่อเต็มๆ ว่า Marvel vs Capcom 3: Fate of Two Worlds ห่างจากภาคก่อนหน้านี้ถึงสิบปีเต็ม จะลงเครื่อง PS3 และ Xbox 360 ในปี 2011
วิดีโอตัวอย่างดูได้ด้านในเช่นเคย
ที่มา - Ars Technica
ใกล้ถึงงานสัมมนา f8 ของ Facebook ก็เตรียมพบกับฟีเจอร์ใหม่ๆ ของ Facebook อีกชุดใหญ่ได้เช่นเคยครับ ล่าสุดออกมาแล้วสองอย่าง
อย่างแรกคือ Community Pages คล้ายกับ Page แบบปกติ แต่ไม่สัมพันธ์กับแบรนด์หรือสินค้า ตัวอย่างเช่น หน้า Cooking เป็นต้น เป้าหมายของ Facebook คือสร้างฐานข้อมูลของวิชาความรู้แต่ละหัวข้อ คล้ายกับ Wikipedia (ใน Community Page แต่ละอันก็ดึงข้อความจาก Wikipedia มาด้วย) แต่จะเพิ่ม "คน" ที่สนใจและเชี่ยวชาญในเรื่องนั้นๆ มาด้วย ช่วงเริ่มต้นจะมี Community Pages ประมาณ 6.5 ล้านหน้า - TechCrunch
ไมโครซอฟท์เปิดตัวเครื่องมือใหม่สำหรับฝ่ายไอทีองค์กร มันคือ Windows Intune ระบบซ่อมบำรุงคอมผ่านกลุ่มเมฆของไมโครซอฟท์ ผู้ดูแลระบบสามารถเฝ้าดูสถานะ จัดการ แก้ไข ปรับแต่งคอมทั้งหมดในองค์กรได้จากเว็บ
เครื่องลูกข่ายจำเป็นต้องติดตั้งโปรแกรม Windows Intune เพื่อส่งสถานะและเปิดช่องทางในการดูแลรักษาให้กับเซิร์ฟเวอร์ของไมโครซอฟท์ แล้วผู้ดูแลระบบค่อยจัดการผ่านเว็บของ Windows Intune อีกต่อหนึ่ง บริการนี้ไมโครซอฟท์คิดเงินครับ ตอนนี้ยังเป็นแค่รุ่นเบต้าและยังไม่เปิดเผยราคา แต่ในรุ่นจริง องค์กรที่ใช้ Windows Intune จะได้รับสิทธิ์อัพเกรดเครื่องลูกข่ายเป็น Windows 7 Enterprise ได้ฟรี (แปลว่าค่าสมาชิกน่าจะแพง)
อาการของ Palm ยิ่งแย่หนัก หลังจากผลประกอบการไตรมาสล่าสุดออกมาตกต่ำ จนมีข่าวว่าเตรียมขายบริษัท ล่าสุดก็โดนซ้ำเติมอีกรอบ โดยร้าน Radio Shack ร้านขายปลีกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในสหรัฐ ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายมือถือของ Sprint ด้วย ได้เตรียมเอา Palm Pre และ Palm Pixi ออกจากชั้นวางแล้ว
การเปลี่ยนรุ่นมือถือที่วางขายเป็นเรื่องปกติของ Radio Shack และ Sprint เพียงแต่กรณีของ Palm มันแสดงให้เห็นชัดว่าขายไม่ออกนั่นเอง ที่ว่างของ Pre จะถูกแทนด้วย BlackBerry (ไม่ระบุว่ารุ่นไหน?) และที่ว่างของ Pixi จะถูกแทนด้วย "a message-centric device" (?)
หลังจากเว็บไซต์ Gizmodo ได้รับ iPhone รุ่นใหม่ที่อ้างว่าทำหายโดยคนของแอปเปิล (อ่าน เรื่องราวการทำหาย สรุปว่าเกิดจากการเมาของพนักงานแอปเปิล) ทำให้เกิดการถกเถียงกันอย่างมากว่า ตกลงมันเป็นของจริงหรือไม่
ล่าสุดคำเฉลยมาแล้วครับ เพราะบรรณาธิการของ Gizmodo ได้รับการติดต่อจากฝ่ายกฎหมายของแอปเปิลว่าต้องการ "อุปกรณ์ที่เป็นของเรา" (ใช้คำว่า a device that belongs to Apple) คืน โดยขอนัดวันและสถานที่เพื่อรับอุปกรณ์คืน (ดูภาพจดหมายได้ตามลิงก์)
David Pogue คอลัมนิสต์ของหนังสือพิมพ์ The New York Times ระบุว่ามีนักพัฒนาโปรแกรมบน iPhone คนหนึ่ง (เจ้าของโปรแกรม Texts From Last Night) ได้เขียนเมลมาเล่าว่า เขาได้รับการติดต่อจากกูเกิล
คนของกูเกิลที่ว่าบอกว่าอยู่ในทีม Android Advocacy Group และต้องการคุยกับนักพัฒนาคนนี้ เพื่อชักชวนให้เขาพอร์ตโปรแกรมไปลง Android และยินดีมอบ Nexus One ให้ฟรีหนึ่งเครื่องเพื่อทดสอบโปรแกรม
นักพัฒนาคนนี้ยังได้เปรียบเทียบวิธีการของกูเกิลกับแอปเปิลว่า ในขณะที่กูเกิลใช้คนมาติดต่อเป็นการเฉพาะ และมอบมือถือให้ฟรี แต่แอปเปิลกลับไม่ได้ทำอะไร ทั้งที่โปรแกรมของเขาขึ้นอันดับ 7 ในกลุ่ม paid app แถมยังพิจารณาโปรแกรมของเขาถึงสามเดือน
"บริษัทขี้เกียจ" เริ่มออกมาพูดถึงอาวุธลับสำคัญที่จะใช้ตอบโต้ "ผู้กล่าวหา" มันคือ Flash 10.1 ซึ่งปรับปรุงเรื่องประสิทธิภาพที่โดนโจมตีมาโดยตลอด โดย Shantanu Narayen ซีอีโอให้สัมภาษณ์ทางทีวีว่า Flash 10.1 บนมือถือ 3 แพลตฟอร์มคือ Android, BlackBerry และ webOS จะออกตัวจริงภายในครึ่งหลังของปีนี้
Shantanu ยังบอกว่าการตัดสินใจไม่ใช้ Flash ของแอปเปิล เป็นเหตุผลด้านธุรกิจ ไม่ใช่ด้านเทคนิค และมันมีผลเสียต่อผู้บริโภคในภาพรวม
Lee Brimelow ทีมงานด้าน Flash ที่เคยออกมาซัดกับแอปเปิล ได้เขียนลงบล็อกว่า Flash 10.1 และ AIR 2.0 บน Android ออกรุ่น private beta แล้ว ผู้สนใจสามารถลงชื่อขอดาวน์โหลดได้
นอกจากไมโครซอฟท์กับแอปเปิลจะแข่งกันในสงคราม OS (ทั้งเดสก์ท็อปและมือถือ) แล้ว สองบริษัทนี้ยังผลิตคีย์บอร์ดขายเหมือนกันอีกด้วย ล่าสุดเว็บไซต์ CrunchGear ได้เอาคีย์บอร์ดของทั้งคู่มารีวิวเปรียบเทียบกันแล้ว คีย์บอร์ดฝั่งไมโครซอฟท์คือ Microsoft Arc Keyboard ส่วนของแอปเปิลเป็น Apple Wireless Keyboard ครับ
การรีวิวแบ่งเป็นส่วน ๆ ดังนี้
บริษัท EditShare เจ้าของโปรแกรมด้านวิดีโอและการเก็บข้อมูลหลายตัว ได้ประกาศโอเพนซอร์สโปรแกรมตัดต่อภาพยนตร์ระดับสูง Lightworks เรียบร้อยแล้ว
จากข้อมูลบนเว็บไซต์ของ EditShare ระบุว่า Lightworks ใช้ตัดต่อภาพยนตร์ชื่อดังหลายเรื่อง เช่น The Departed, Braveheart, 28 Days Later และ Notting Hill
Lightworks รุ่นโอเพนซอร์สจะเปิดให้ดาวน์โหลดภายในไตรมาสที่สามของปีนี้ เท่าที่เช็คข้อมูลจาก Wikipedia มันทำงานได้บนสามแพลตฟอร์มหลักครับ
เว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์ ได้รายงานปัญหาเกี่ยวกับระบบอินเทอร์เน็ตภายในกระทรวงไอซีที ที่ศูนย์ราชการ ถ. แจ้งวัฒนะ ว่ามีปัญหาล่มบ่อย และต่อ Wi-Fi ยาก ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาในการทำงานของบุคคลากรเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้กระทรวงไอซีทียังมีปัญหากับ TOT ผู้วางเครือข่าย เพราะระบบแรกเริ่มของ TOT เป็น IP Phone ที่จำกัดให้เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ได้ 1 เครื่องและโทรศัพท์ 1 เครื่องเท่านั้น ภายหลังกระทรวงไอซีทีมีบุคคลากรเพิ่มขึ้น ต้องใช้วิธีต่อพ่วงผ่านฮับ ทำให้ TOT ส่งหนังสือเรียกเก็บเงินเพิ่มในจุดที่ต่อพ่วงเข้ามา แต่กระทรวงไอซีทีไม่มีงบประมาณในจุดนี้ และกำลังอยู่ระหว่างการเจรจากับ TOT
จากที่ร่วมกับ RIM เปิดตัว official client บน BlackBerry และซื้อ Tweetie แล้วเปลี่ยนเป็น Twitter for iPhone ก็มีข่าวของเวอร์ชัน Android บ้างแล้ว
Evan Williams ผู้ก่อตั้งบริษัทได้ประกาศในงานสัมมนาประจำปี Chirp ว่าจะมี Twitter client บน Android แน่นอน เพียงแต่เขายังไม่ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าจะซื้อหรือพัฒนาเอง
โปรแกรมยอดนิยมบน Android ตอนนี้หนีไม่พ้น Seesmic กับ Twidroid ถ้าเลือกซื้อ Twidroid หรือพัฒนาเอง Seesmic ซึ่งเป็นคู่แข่งรายใหญ่มีหนาวแน่นอน
ว่าแต่ผู้ใช้ Android แถวนี้ เลือกใช้ client อะไรกันบ้างครับ? ผมชอบ Twidroid มากกว่านะ
กูเกิลประกาศเพิ่มฟีเจอร์ "เล็กๆ แต่สำคัญ" อย่างการแนบไฟล์ด้วยวิธีลากไฟล์มาใส่อีเมลแล้ว
คนที่เคยใช้โปรแกรมอีเมลอาจคุ้นกับฟีเจอร์นี้ ซึ่งกลับเป็นข้อจำกัดของบริการเว็บเมลทั้งหลาย แต่ล่าสุดด้วยมนต์วิเศษของกูเกิล มันก็เกิดขึ้นแล้ว หลักการทำงานไม่มีอะไรมาก ดูภาพประกอบเข้าใจง่ายกว่า
ตอนนี้ใช้ได้กับ Chrome และ Firefox 3.6 เบราว์เซอร์อื่นๆ ต้องอดใจรอกันหน่อย
ที่มา - Gmail Blog
หลายคนอาจรู้จักและเคยใช้ Ning บริการสร้าง social network สำหรับคนอยากมีใช้เป็นของตัวเอง (อาจจะใช้สำหรับองค์กร หรือกลุ่มความสนใจ) ช่วงหลัง Ning แผ่วไปมาก อาจเป็นเพราะคนหนีไปใช้ group ใน Facebook กันหมด
ในด้านการบริหาร Ning เพิ่งเปลี่ยนตัวซีอีโอจากเดิม Gina Bianchini เป็น Jason Rosenthal ผู้บริหารอีกคนหนึ่ง ซึ่งทาง Rosenthal ได้ประกาศปรับทิศทางใหม่ของบริษัท ไปเน้นที่ social network รุ่นเสียเงิน ซึ่งถือเป็น 75% ของทราฟฟิกทั้งหมดของ Ning แทน และตัดรุ่นฟรีออกไป โดยคนที่เคยใช้รุ่นฟรีอยู่จะได้รับการเตือนให้อัพเกรดไปใช้รุ่นเสียเงิน หรือไม่งั้นก็ถ่ายโอนข้อมูลออกจาก Ning ไป
นอกจากนี้ Ning ยังลดพนักงานลง จากเดิม 167 คน เหลือเพียง 98 คน (ลดลงไป 40%)