Walmart ประกาศเลิกสัญญากับ Bossa Nova Robotics บริษัทหุ่นยนต์ที่เป็นผู้จัดหาหุ่นยนต์ตรวจสอบสินค้าบนชั้นวางของ หลังจากเริ่มทดสอบมาเป็นระยะเวลากว่า 3 ปี
ประธานาธิบดี Donald Trump ให้สัมภาษณ์ว่าเขาอนุมัติ "ในหลักการ" ของข้อเสนอเรื่อง TikTok กับ Oracle ("I approved the deal in concept.")
ภายใต้ข้อเสนอนี้
Walmart เปิดตัวบริการสมาชิกพรีเมียมรายปี Walmart+ คู่แข่งโดยตรงของ Amazon Prime ตามข่าวลือก่อนหน้านี้
Walmart+ คือการจ่ายค่าสมาชิกปีละ 98 ดอลลาร์ หรือเดือนละ 12.95 ดอลลาร์ (เทียบกับ Prime ปีละ 119 ดอลลาร์) แลกกับการส่งสินค้าฟรีแบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง และถ้าอยู่ในพื้นที่บริการของห้าง Walmart จำนวน 2,700 สาขา (จากทั้งหมด 4,700 สาขา) จะได้ส่งฟรีภายในวันเดียวกับที่สั่งสินค้าด้วย
นอกจากเรื่องค่าส่งฟรีแล้ว สมาชิก Walmart+ ยังจะได้ฟีเจอร์ Scan & Go ในแอพ Walmart เพื่อสแกนสินค้าแล้วจ่ายเงินเองได้โดยไม่ต้องรอคิว และได้ส่วนลดค่าน้ำมันจากปั๊มของ Walmart และพันธมิตรอีก 5 เซนต์ต่อแกลลอน
Walmart ยืนยันกับ Financial Times ว่าได้เข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับ Microsoft ในกระบวนการพูดคุยเพื่อซื้อกิจการ TikTok ในสหรัฐ หลังจากก่อนหน้านี้ Microsoft ยืนยันสนใจซื้อกิจการเพียงรายเดียว
Walmart ระบุว่าการเป็นพาร์ทเนอร์กับ Microsoft ในการซื้อกิจการครั้งนี้จะช่วยเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย รวมถึงธุรกิจโฆษณาให้กับบริษัท ขณะเดียวกันที่เข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์กับ Microsoft ก็เพราะ Walmart ไม่ได้มีธุรกิจและความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเลย อย่างไรก็ตามยังไม่มีรายละเอียดว่าการเป็นพาร์ทเนอร์นี้จะอยู่ในรูปแบบไหน หากการซื้อกิจการสำเร็จ
บริการ Amazon Prime ที่จ่ายค่าสมาชิกรายปี แลกกับการส่งสินค้าเร็วพิเศษและสิทธิประโยชน์อื่นๆ ถือเป็นอาวุธสำคัญของ Amazon มาช้านาน
ล่าสุดมีข่าวลือว่า Walmart คู่แข่งรายใหญ่ในวงการค้าปลีก เตรียมออกบริการพรีเมียมแบบเดียวกันชื่อ Walmart+ ในเร็วๆ นี้ จากเดิมที่มีข่าวลือเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ แต่แผนต้องเลื่อนเพราะสถานการณ์ COVID-19
ข้อมูลของ Walmart+ ตอนนี้คือจ่ายปีละ 98 ดอลลาร์ (ตอนนี้ Prime ปีละ 119 ดอลลาร์) สิทธิประโยชน์ที่ได้คือการส่งเร็วแบบ same-day, การจองสล็อตส่งสินค้าด่วน, ส่วนลดค่าน้ำมันที่ปั๊มของ Walmart และดีลส่วนลดสินค้าอื่นๆ
Walmart ปรับตัวในช่วงโรคระบาดที่คนมาเดินซื้อของน้อยลง ร่วมมือกับผู้จัดเทศกาลหนัง Tribeca Film Festival เปลี่ยนลาดจอดรถร้านค้าปลีก 160 แห่งทั่วสหรัฐฯ ให้เป็นโรงหนังแบบ Drive-in เริ่มเดือนสิงหาคมนี้
คนเข้ามาดูหนังสามารถซื้อสิ่งของจำเป็นแบบ pick up ก่อนดูหนังได้ เช่นข้าวของเครื่องใช้ อาหารไว้กินระหว่างดู อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายละเอียดเรื่องราคา, รายชื่อหนัง และสถานที่ที่แน่นอนว่า 160 แห่งนั้นมีที่ไหนบ้าง
Jet.com เป็นเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซมาแรงที่ถูกจับตามองว่าจะมาเป็นคู่แข่ง Amazon และ Walmart ก็ซื้อ Jet เพื่อพัฒนาบริการอีคอมเมิร์ซของตัวเองเมื่อ 4 ปีที่แล้วด้วยมูลค่ากว่า 3 พันล้านดอลลาร์
พนักงาน Amazon, Whole Foods, Instacart, FedEx, Target, Walmart รวมตัวกันประท้วงในวันแรงงาน เรียกร้องให้บริษัทมีมาตรการป้องกันเชื้อสำหรับคนทำงานด่านหน้าให้ดีกว่านี้ และยังเรียกร้องให้คนทั่วไปร่วมกันบอยคอตสินค้าแบรนด์ดังกล่าวตลอดวันแรงงานด้วย
Amazon กินพื้นที่ช้อปปิ้งออนไลน์ของสหรัฐฯไป 40% (ตามรายงานของ eMarketer) และการมีอยู่ของ Amazon Prime หรือการจัดส่งด้วยดีลพิเศษสำหรับสมาชิก Amazon ก็ช่วยกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายออนไลน์
ล่าสุด recode รายงานว่า Walmart ร้านค้าปลีกเชนใหญ่ในสหรัฐฯก็กำลังซุ่มทำระบบสมาชิกของตัวเองหรือ Walmart+ เพื่อสู้ Amazon และจะเริ่มทดลองใช้งานภายในเดือนมีนาคมนี้ และคาดว่าตัว Walmart+ จะเป็นการรีแบรนด์ใหม่ของบริการ Delivery Unlimited ของ Walmart ทั้ง 1,600 สาขา ที่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มจากลูกค้า 98 ดอลลาร์ต่อปี เพื่อการจัดส่งสินค้าแบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง ผู้สมัครใช้บริการ Walmart+ ยังจะสามารถพิมพ์ข้อความเพื่อสั่งซื้อสินค้าด้วย ส่วนราคาค่าบริการมีหลายราคา
อินเดียถือเป็นตลาดหนึ่งที่ Amazon และ Walmart (โดยบริษัทลูก Flipkart) แข่งขันกันอยู่ในตลาดอีคอมเมิร์ซ และตอนนี้ทั้งสองบริษัทกำลังจะมีคู่แข่งรายใหม่คือ JioMart ในเครือของ Mukesh Ambani ผู้ที่รวยที่สุดในอินเดีย
ตอนนี้ Reliance Retail และ Reliance Jio สองบริษัทลูกของ Reliance Industries ซึ่งเป็นบริษัทของ Ambani ประกาศว่าตอนนี้ได้ soft launch บริษัทอีคอมเมิร์ซ JioMart แล้ว ซึ่งน่าจะกลายมาเป็นคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อของบริษัทต่างชาติทั้งสองได้ไม่ยาก
Reliance Retail ของ Ambani ก่อตั้งบริษัทขึ้นในปี 2006 เป็นบริษัทค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอินเดีย (วัดจากรายได้) ให้บริการลูกค้ากว่า 3.5 ล้านคนทุกสัปดาห์ผ่านร้านค้ากว่า 1 หมื่นแห่งในเมืองในประเทศอินเดียกว่า 6,500 เมือง
Jet.com เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซภายใต้ Walmart ประกาศเลิกกิจการดิลิเวอรี่สินค้าสด (fresh groceries) ในนิวยอร์ก
สำหรับบริการดิลิเวอรี่สินค้าสดของ Jet.com นั้น เริ่มต้นที่เมืองนิวยอร์กซิตี้ ซึ่งในตอนแรกมีแผนขยายไปบอสตัน, ฟิลาเดเฟีย และวอชิงตันดีซีด้วย แต่หลังจากเปิดให้บริการได้เพียง 1 ปี Walmart ก็ประกาศยกเลิกบริการ และจะให้ Jet.com หันไปโฟกัสการขายสินค้าอีคอมเมิร์ซประเภทสินค้าแห้งแทน
คาดกันได้ไม่ยากว่า Walmart ตั้งใจจะเปิดบริการดิลิเวอรี่สินค้าสดของผ่าน Jet.com เพื่อแข่งกับ Amazon แต่สุดท้าย Walmart ก็ต้องยอมแพ้ ซึ่ง CNBC เผยข้อมูลจากผู้เกี่ยวข้องว่า บริการส่งสินค้าสดนี้เป็นส่วนที่เล็กที่สุดเมื่อเทียบกับปริมาณธุรกรรมทั้งหมดของ Jet.com
Walmart ได้ยื่นฟ้อง Tesla ข้อหาละเมิดสัญญาและประมาทจนทำให้แผงโซลาร์บนหลังคาของร้าน Walmart ไฟไหม้
Walmart ระบุไว้ในคำร้องต่อศาลรัฐนิวยอร์กว่า Tesla ประมาทและล้มเหลวในการออกแบบ, ติดตั้ง และดำเนินการพร้อมทั้งดูแลรักษาความปลอดภัยแผงโซลาร์ที่ติดตั้งไว้บนหลังคาของร้าน Walmart โดยคำฟ้องนี้เน้นที่แผนก Tesla Energy Operations หรือที่รู้จักกันก่อนควบกิจการกับ Tesla ในชื่อ SolarCity
ทั้งนี้ Walmart ได้ขอให้ Tesla ถอดแผงโซลาร์ที่ติดตั้งไปแล้วกว่า 240 แห่ง รวมถึงชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดจากไฟไหม้แผงโซลาร์ด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ Walmart ได้ขอให้ Tesla ถอดระบบโซลาร์ออกแล้ว แต่ก็ยังเกิดเพลิงไหม้หลังจากนั้นอยู่ดี
Vice รายงานว่าพนักงาน Walmart ได้รับบันทึกข้อความจากบริษัทให้นำป้ายโฆษณา ป้ายโปรโมทเกมที่มีลักษณะของความรุนแรง เช่น มีการถือปืนยิงใส่กันออก คาดว่าเป็นเพราะเหตุกราดยิงซึ่งเกิดขึ้นที่ Walmart 2 ครั้งแล้วในระยะเวลาไล่เลี่ยกัน
Walmart เครือร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ของอเมริกา ซึ่งถือเป็นต้นแบบค้าปลีกยุคโมเดิร์นเทรด แต่ก็ถูกท้าทายอย่างหนักจากการเข้ามาของอีคอมเมิร์ซที่นำโดย Amazon เรื่องนี้เราได้เห็นการปรับตัวของ Walmart มาโดยตลอด ตั้งแต่การซื้อกิจการ Jet.com กว่า 3,000 ล้านดอลลาร์ เมื่อปี 2016 การปรับตัวนี้สะท้อนความเชื่อมั่นจากการที่ราคาหุ้น Walmart ปรับเพิ่มขึ้นถึง 53% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
Jet.com ผู้เล่นอีกรายที่สำคัญในตลาดอีคอมเมิร์ซที่ทำธุรกิจตั้งแต่ปี 2015 ด้วยการหวังโค่น Amazon ต่อมาถูก Walmart ยักษ์ใหญ่ค้าปลีกซื้อกิจการไปเมื่อปี 2016 ด้วยราคาถึง 3 พันล้านดอลลาร์ หวังเจาะตลาดนักช็อปยุคมิลเลนเนียล
อย่างไรก็ตาม ดาวดวงนี้ดูท่าจะไม่สดใสเหมือนช่วงแรกๆ เสียแล้ว โดยแหล่งข่าวระบุว่า Jet.com ไม่สามารถเร่งยอดขายออนไลน์ให้กับ Walmart ได้ อีกทั้งยังล้มเหลวในการทำยอดขายให้ได้ตามเป้าที่ Walmart ตั้งไว้
Walmart เปิดตัวบริการส่งสินค้ารูปแบบใหม่ ซึ่งเป็นการพัฒนาเพิ่มจากบริการส่งของสด-ของชำ ที่เดิมมีทั้งแบบจอดรับสินค้าหน้าร้าน และจัดส่งสินค้าในวันเดียว มาสู่รูปแบบใหม่เรียกว่า InHome
InHome เป็นรูปแบบการส่งสินค้าตามชื่อ โดยจะมีพนักงานส่งของสดเข้าไปจัดเก็บสินค้าให้ในบ้าน ซึ่งผู้สั่งไม่ต้องอยู่ที่บ้านรอรับของก็ได้ แต่เหตุผลที่ต้องเข้าไปในบ้านเพราะสินค้าบางอย่างต้องเก็บไว้ในตู้เย็นนั่นเอง
Walmart เชนร้านค้าปลีกรายใหญ่ของอเมริกา เปิดตัวร้านค้ารูปแบบใหม่ที่บอกว่าเป็นรูปแบบในอนาคต เรียกคอนเซปต์นี้ว่า Intelligent Retail Lab (IRL) เริ่มทดลองที่สาขาใน Levittown เมืองนิวยอร์ก
แนวทางของ Walmart คือการนำเทคโนโลยีมาลองใช้งานจริง บนพื้นที่ร้านค้ากว่า 50,000 ตารางฟุต สินค้ามากกว่า 30,000 รายการ และสาขาใน Levittown นี้ก็เป็นสาขาที่มีลูกค้าจำนวนมากอยู่แล้ว เทคโนโลยีมีการเก็บข้อมูลในร้านเซ็นเซอร์ กล้อง และหน่วยประมวลผล
Walmart เชนร้านค้าปลีกรายใหญ่ของอเมริกา ประกาศเข้าซื้อกิจการ Polymorph Labs สตาร์ทอัพพัฒนาเทคโนโลยีด้านโฆษณา (Adtech) ด้วยมูลค่าที่ไม่เปิดเผย
Polymorph มีแพลตฟอร์มสำหรับบริการจัดการโฆษณาออนไลน์ ซึ่ง Walmart มองว่าจะช่วยต่อยอดการจัดการโฆษณาแบบเจาะจงกลุ่มเป้าหมาย (Target Ad) ได้ดีมากขึ้น โดยจะผสานการทำงานร่วมกับสื่อโฆษณาแบบภายในร้าน (In-Store) และแบบออนไลน์ รวมทั้งใช้ข้อมูลการซื้อของลูกค้าในการพิจารณาโฆษณาที่เหมาะสม
Walmart ประกาศเป็นพาร์ทเนอร์กับ Google พัฒนาระบบ Walmart Voice Order ที่สามารถสั่งสินค้าของ Walmart ได้จาก Google Assistant บนทุกแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็นลำโพง, สมาร์ทโฟน, สมาร์ทวอช หรืออื่น ๆ เพื่อแข่งกับระบบสั่งสินค้าของ Amazon ที่ใช้ผ่าน Alexa
การร่วมมือครั้งนี้ จะคล้ายกับดีล Walmart-Google Express คือเมื่อลูกค้าสั่งสินค้าไปแล้ว ระบบจะเลือกสินค้าให้ลูกค้าเอง เช่น ถ้าสั่งซื้อนม ระบบจะตรวจสอบว่าก่อนหน้านี้สั่งนมอะไรไป ก็จะสั่งสินค้านั้นให้ซ้ำ โดยวิธีการเข้าใช้ระบบคือสั่ง OK Google, talk to Walmart
Sam’s Club ร้านค้าปลีกระบบสมาชิกในเครือ Walmart ประกาศผลงานจากศูนย์ทดสอบ Sam’s Club Now ที่ได้รับการจดสิทธิบัตรแล้ว โดยจะนำมาใช้ต่อยอดในระบบตรวจสอบและชำระค่าสินค้า
วิธีการก็คือลูกค้าสามารถใช้กล้องในแอปสแกนตัวสินค้า แล้วระบบจะเรียกข้อมูลราคาสินค้าขึ้นมาได้เลย โดยไม่ต้องพยายามสแกนบาร์โค้ดแบบในวิธีการปัจจุบัน ซึ่งเทคโนโลยีที่ใช้มีทั้ง Computer Vision และ Machine Learning
ในการทดสอบสถานการณ์จำลองเมื่อสินค้าอยู่ใต้รถเข็น แบบบาร์โค้ดเดิมนั้นใช้เวลาราว 9 วินาที ขณะที่วิธีการสแกนแบบใหม่ใช้เวลาเพียง 3 วินาที เท่านั้น ช่วยให้ทุกขั้นตอนรวดเร็วขึ้นและดีกับทุกฝ่าย (ดูตัวอย่างจากที่มา)
Walmart ร้านค้าปลีกรายใหญ่ในอเมริกา ประกาศเข้าซื้อกิจการ Aspectiva สตาร์ทอัพจากอิสราเอล ที่มีเทคโนโลยี Machine Learning และ Natural Language Processing ในการวิเคราะห์เนื้อหาที่ผู้ใช้งานสร้างขึ้นมา (UGC - User-generated content) เช่น การรีวิวสินค้า แล้วนำมารวมกับข้อมูลพฤติกรรมการค้นหาสินค้า เพื่อสร้างระบบแนะนำสินค้าที่เหมาะสม ทั้งบนออนไลน์และภายในร้านค้า
Aspectiva จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Store No. 8 ที่ Walmart จะลงทุนในบริษัทซึ่งมีเทคโนโลยีที่สามารถใช้กับธุรกิจค้าปลีกได้
เมื่อปลายปีที่ผ่านมา อินเดียได้ออกกฎหมายห้ามอีคอมเมิร์ซขายสินค้าที่ตัวเองมีส่วนได้ส่วนเสีย ซึ่งส่งผลกระทบเต็ม ๆ กับ Amazon และ Flipkart (ซึ่งมีผู้ถือหุ้นใหญ่คือ Walmart) จึงทำให้ทั้งสองบริษัทต้องนำสินค้าจากบริษัทที่ตัวเองมีส่วนในการลงทุนออกจากร้านค้าออนไลน์ทันที
รัฐบาลอินเดียผ่านกฎหมายห้ามอีคอมเมิร์ซขายสินค้าในแบรนด์ตัวเอง และสินค้าที่ตัวเองมีส่วนได้ส่วนเสีย โดยแถลงการณ์ของกระทรวงพาณิชย์อินเดียระบุว่า "หน่วยงานที่มีส่วนร่วมกับอีคอมเมิร์ซ หรือมีการควบคุมสินค้าคงคลังโดยหน่วยงานอีคอมเมิร์ซ จะไม่ได้รับอนุญาตให้ขายผลิตภัณฑ์ของตนบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซดังกล่าว ขายได้เฉพาะสินค้าจากบริษัทภายนอกเท่านั้น
Walmart เชนร้านค้าปลีกในสหรัฐฯ เปิดตัวฟีเจอร์ AR บนแอพ iPhone โดยใช้กล้องสแกนสินค้าบนชั้นวางก็จะให้ข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับสินค้านั้นทันที
ฟีเจอร์ AR บนแอพ Walmart นี้พัฒนาขึ้นมาครั้งแรกโดยทีมนักพัฒนาภายในบริษัท Walmart ในตอนจัดงาน hackathon ของบริษัท โดยใช้เทคโนโลยี ARKit ของ Apple เป็นการปรับปรุงจากฟีเจอร์เดิมที่แค่สแกนบาร์โค้ดเพื่อเช็คราคา
PayPal ประกาศความร่วมมือกับ Walmart เครือซูเปอร์มาร์เก็ตรายใหญ่ของโลก ให้ผู้ใช้ PayPal สามารถเติมเงิน-ถอนเงินได้ที่ Walmart ทุกสาขา ถือเป็นครั้งแรกที่ PayPal ก้าวเข้าสู่โลกออฟไลน์อย่างเต็มตัว
ตอนนี้ฟีเจอร์เติมเงิน (cash in) สามารถใช้งานได้แล้ว ขั้นตอนคือเปิดแอพ PayPal เลือกปุ่ม Add Cash และเลือกช่องทางเป็น Walmart จากนั้นแอพจะสร้างรหัสให้เราแจ้งกับแคชเชียร์ของ Walmart เพื่อใช้คู่กับการเติมเงิน
ส่วนฟีเจอร์ถอนเงิน (cash out) จะใช้งานได้ในเดือนพฤศจิกายน 2018 ขั้นตอนคือกดปุ่ม Get Cash ในแอพ เลือก Walmart แอพจะสร้างบาร์โค้ดให้เราสแกนกับแคชเชียร์เพื่อถอนเงินออกมา