หลังจากมีเสียงร่ำลือมานาน (1Up.com บอกว่าข่าวนี้เป็น "The worst-kept secret in the videogames industry") ไมโครซอฟท์ก็ออก Xbox 360 Elite มาแข่งกับ PS3

Xbox 360 Elite ไม่ได้มาแทน Xbox 360 รุ่น Core หรือ Premium แต่มาเป็นรุ่นที่สามไว้จับตลาดบนโดยเฉพาะ สิ่งหลักที่เพิ่มเข้ามาคือพอร์ต HDMI, เพิ่มขนาดฮาร์ดดิสก์จาก 20GB มาเป็น 120GB, ชุดหูฟัง, เปลี่ยนตัวเครื่องเป็นสีดำ ราคาที่ขายคือ 479.99 เหรียญ (เทียบกับรุ่น Premium 399.99 เหรียญ) การเพิ่มฮาร์ดดิสก์แบบมโหฬารรอบนี้แสดงให้เห็นว่าบริการ Xbox Live ประสบความสำเร็จพอตัวเลย

ไมโครซอฟท์ระบุถึงยอดขายในเดือนแรกของวิสต้าว่ามีจำนวนสูงถึง 20 ล้านชุดในเดือนแรก เทียบกับ XP ที่มียอดขาย 17 ล้านชุดในเวลาสองเดือน แน่นอนว่าการโอ่ตัวเลขเช่นนี้แม้จะดูดี แต่ค่อนข้างไม่น่าแปลกใจ เพราะการเปิดตัว XP นั้นทำในปี 2001 ซึ่งตลาดคอมพิวเตอร์เล็กกว่าตลาดทุกวันนี้มาก

วินโดวส์ยังคงเป็นสินค้าที่ทำเงินของไมโครซอฟท์จนทุกวันนี้ ด้วยตัวเลขกำไรถึงร้อยละ 75 ของราคาขาย และการครองตลาดถึงร้อยละ 95

ผลการทดลองใช้งานมาสองวันของผม บอกได้แต่ว่าวิสต้านั้น ช้า ทำงานร่วมกับอุปกรณ์บางอย่างไม่ได้ และไม่เสถียร

หลายๆ คนเคยให้ยินการอ้างว่าบิล เกตส์ เคยระบุว่าหน่วยความจำ 640k นั้นเพียงพอแล้วต่อการใช้งานคอมพิวเตอร์ แต่การอ้างอิงคำพูดนั้นขาดหลักฐานและกลายเป็นเพียงคำเล่าลือไปมา จนสุดท้ายบิล เกตส์ต้องออกมาปฎิเสธว่าไม่ได้พูดคำพูดดังกล่าว

หลังจากที่ไม่มีใครเคยพบต้นกำเนิดของคำพูดดังกล่าวมาเป็นเวลานาน ทางมหาวิทยาลัย Waterloo ก็ได้พบกับเทปบันทึกคำพูดของบิล เกตส์ ตั้งแต่ปี 1989 ซึ่งในเทปดังกล่าวบิล เกตส์ได้แสดงวิสัยทัศน์เอาไว้หลายๆ เรื่องนับแต่สถาปัตยกรรมคอมพิวเตอร์ แนวทาง OOP ตลอดจนการแก้ไขเอกสารแบบ WYSIWYG และเรื่องอื่นๆ อีกจำนวนมาก

ไมโครซอฟท์ได้แจ้งให้ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ทั่วไปทราบถึงการช่วยประหยัดพลังงานเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมนั้นไม่ควรใช้ screensaver ขณะที่เปิดเครื่องไว้โดยไม่ใช้งาน เนื่องจากกว่าคอมพิวเตอร์จะใช้พลังงานในขณะที่ screensaver ทำงานมากกว่าคอมพิวเตอร์ในสถานะ sleep mode หรือ hibernate mode ซึ่งการใช้พลังงานในช่วงที่ screensaver ทำงานใช้พลังงานเทียบเท่ากับการใช้หลอดไฟหนึ่งดวงขนาด 100 วัตต์เปิดเป็นเวลาต่อเนื่องกัน 1 ปีเทียบเท่ากับการที่โรงงานไฟฟ้าต้องปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ปริมาณ 1,350 ปอนด์อันเนื่องมาจากการผลิตไฟฟ้า

ที่มา - ZDNET NEWS

ไมโครซอฟท์เร่งทำตลาด Windows Live Search หลังจากมีส่วนแบ่งตลาดแค่ 6.76% (เทียบกับกูเกิล 60.9%) โดยจ่ายเงินให้องค์กรที่ใช้ Windows Live Search

กรรมวิธีเริ่มจากติดตั้งปลั๊กอินของ IE7 ชื่อ Browser Helper Object ซึ่งจะส่งสถิติการค้นหากลับไปให้ไมโครซอฟท์ นอกจากนั้นมีการสอนให้พนักงานค้นหาผลลัพธ์ที่ต้องการจาก Windows Live Search อย่างมีประสิทธิภาพ, สอนการเอาทูลบาร์ของเสิร์ชเอนจินรายอื่นออก, สอนการตั้ง Live.com เป็นโฮมเพจ ไปจนถึงสอน CEO ให้อีเมลหาพนักงานเกี่ยวกับการใช้ Windows Live Search

ส่วนเงินที่จะจ่ายนั้นอยู่ที่ 2-10 ดอลลาร์ต่อเครื่องพีซีหนึ่งเครื่องต่อปี และเงินพิเศษอีก 25,000 ดอลลาร์ ไมโครซอฟท์ประมาณให้ว่าบริษัทจะได้เงินระหว่าง 100,000-200,000 ดอลลาร์ต่อปี

เรื่องน่ารำคาญในวินโดวส์รุ่นหลังๆ คือการที่ผู้ใช้ต้อง Activate ตัววินโดวส์กับทางไมโครซอฟท์เพื่อที่จะใช้งานได้ต่อจากช่วงเวลา 30 วันแรกที่ทางไมโครซอฟท์ให้มา แต่ปรากฏว่าในเว็บซัพพอร์ตของทางไมโครซอฟท์เองมีการพูดถึงวิธีการต่ออายุเครื่องที่ต้องการต่ออายุการใช้งานก่อนที่จะ Activate เอาไว้สำหรับลูกค้าระดับองค์กร

งานนี้เริ่มสนุกเมื่อนาย Brian Livington ได้แกะขั้นตอนดังกล่าวแล้วพบว่าสามารถใช้ได้กับวิสต้าทุกรุ่น แม้แต่รุ่น Home Premium ก็ตาม ด้วยการตั้งค่ารีจิสเตอร์ที่ชื่อว่า SkipReArm แล้วรันโปรแกรมที่มากับวิสต้าเองเพียงเล็กน้อย เครื่องคอมพิวเตอร์นั้นก็สามารถใช้งานไปได้จนครบหนึ่งปี ซึ่งน่าจะนานพอสำหรับหลายๆ คนที่จะลงโปรแกรมทั้งหมดใหม่อีกครั้ง แล้วทำตามกระบวนการเดิมต่อไป

ขณะที่ข่าวลือเกี่ยวกับแนวคิดของไมโครซอฟท์ที่ต้องการครองทุกตลาดรวมถือตลาดสินค้าละเมิดลิขสิทธินั้นมีมานานแล้ว แต่ข่าวคราวทั้งหมดมักเป็นการพูดถึงบันทึกภายในที่ไม่มีใครเคยได้เห็นจริงๆ แต่ในงานสัมมนา Morgan Stanley Technology ปรากฏว่านาย Jeff Raikes ประธานฝ่ายธุรกิจของทางไมโครซอฟท์ ได้ออกมาระบุอย่างชัดเจนว่า ต้องการให้คนใช้ซอฟต์แวร์ของไมโครซอฟท์ แม้จะเป็นซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ก็ตามที

ปีก่อน Bill Hilf หัวหน้าแล็บโอเพนซอร์สของไมโครซอฟท์มาเมืองไทยไปรอบนึงแล้ว (สกู๊ปเก่า) ปีนี้มารอบใหม่ ทางไมโครซอฟท์ประเทศไทยได้เชิญคนอ่าน Blognone ไปฟังเช่นเคย (ประกาศ) และนี่เป็นรายงานแบบคร่าวๆ เท่าที่ผมจดมา

สงคราม HD DVD กับ Blu-ray กำลังครุกกรุ่น ไหนจะสงคราม OpenXML/OpenDocument อีก คราวนี้ถึงคราวมาตรฐานรูปภาพกันบ้าง

ไมโครซอฟท์เตรียมส่งฟอร์แมตรูปภาพของตัวเอง "Microsoft HD Photo" เข้าสู่กระบวนการขอ ISO

ต้องบอกกันก่อนว่าฟอร์แมตรูปภาพที่ครองตลาดในปัจจุบันก็คือ JPEG ครับ ใช้กันมาตั้งแต่ ค.ศ. 1994 โน่น (15 ปีมาแล้ว) ต่อมาในปี ค.ศ. 2000 ก็ได้ออกตัวปรับปรุงคือ JPEG 2000 ซึ่งก็ดีกว่าเก่า แต่ก็ไม่เป็นที่นิยม เนื่องจากปัญหาสิทธิบัตร ในปัจจุบันจะเห็นว่า อุปกรณ์แทบทุกชิ้นที่แสดงรูปภาพได้ก็จะต้องรองรับ JPEG กันหมด

ลูกผสมที่ว่าก็คือผสมระหว่างหน่วยความจำแบบ NAND (flash memory) กับฮาร์ดดิสก์แบบเดิมครับ

ฮาร์ดดิสก์ลูกผสมนี้ออกมาในซีรีส์ MH80 มีความจุ 80GB, 120GB และ 160GB พร้อมด้วยหน่วยความจำแฟลช 128MB หรือ 256MB ตัวฮาร์ดดิสก์ออกมาในขนาด 2.5 นิ้วครับ (ใช้กันในคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค)

Thomas Rubin ที่ปรึกษาของไมโครซอฟท์ได้กล่าวในงาน สมาคมผู้ผลิตสิ่งพิมพ์ที่นิวยอร์กเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า เครื่องมือค้นหาของไมโครซอฟท์นั้นให้ความสำคัญกับการปกป้องลิขสิทธิ์ให้กับเจ้าของ ซึ่งคู่แข่งอย่างกูเกิลไม่ได้ให้ความสำคัญในส่วนนี้ แม้ว่ากูเกิลจะบอกกับเจ้าของลิขสิทธิ์ทั้งหลายให้เชื่อในระบบของกูเกิล และการใช้งานระบบของกูเกิลช่วยประชาสัมพันธ์ให้กับเจ้าของผลงาน แต่กูเกิลกลับเก็บข้อมูลไว้ใช้ในธุรกิจด้านอื่น

เขายกตัวอย่างโฆษณาจากเว็บไซต์ที่เป็นเว็บดาว์นโหลดผิดกฎหมาย ทั้งหนังและเพลง กูเกิลรับเงินจากการค้นหาคำอย่างเช่น "bootleg movie download" และ "pirated"

ไมโครซอฟท์ออกแคมเปญ "It's Not Cheating" เป็นแคมเปญให้นักเรียนนักศึกษาในออสเตรเลียสามารถซื้อ Office 2007 Ultimate ได้ในราคาถูกพิเศษ​ (จาก $1150 เหลือ $75 เข้าใจว่าเป็นดอลลาร์ออสเตรเลียนะครับ) แถมมีของแจกของแถมมากมาย

แต่ที่เป็นข่าวคือเว็บไซต์นี้ถูก Windows Live OneCare มองว่าเป็น phishing และขึ้นเตือนให้ผู้ใช้เห็น โฆษกของไมโครซอฟท์แถลงเพียงสั้นๆ ว่าบริษัทเพิ่งรู้เรื่องปัญหานี้ และจะแก้ไขโดยเร็ว

ที่มา - PC World

Brian Jones program manager ของไมโครซอฟท์ออฟฟิศ ผู้ดูแลการพัฒนา OpenXML ของไมโครซอฟท์ ได้ประกาศในบล็อกของเขาว่า สงครามฟอร์แมตเอกสารระหว่าง OpenXML และ ODF ได้จบลงแล้ว หลังจากที่ทาง Novell ได้ออกตัวแปลง OpenXML สำหรับ OpenOffice.org มา

Microsoft เปิดโครงการสมทบทุนให้กับมูลนิธิต่างๆ ผ่านทางการใช้างาน Windows Live Messenger ให้กับองค์กรและมูลนิธิต่างๆ ตามนี้ครับ:

• stopglobarwarming.org
• the National AIDS Fund
• the National Multiple Sclerosis Society
• UNICEF
• ninemillion.org
• the American Red Cross
• Susan G. Komen for the Cure

โดยมีเงื่อนไขในการบริจาคก็คือ ทุกๆ ครั้งที่มีคนคุยผ่านทาง Windows Live Messenger แล้วมี Code ของมูลนิธิที่กำหนดแปะอยู่ Microsoft ก็จะบริจาคเงินจำนวนหนึ่งให้กับมูลนิธินั้นๆ ดูรายละเอียดได้ที่เว็บครับ นอกจากมูลนิธิของ Bill Gates แล้ว นานๆ ที MS จะมีโครงการแบบนี้ซักทีนะครับ

ถ้าเรียกตามตำแหน่ง Bill Hilf เป็น General Manager of Platform Strategy ของไมโครซอฟท์สำนักงานใหญ่ อันนี้ไม่มีอะไร แต่สิ่งที่ทำให้เขาน่าสนใจคือก่อนหน้านั้นเคยทำงานด้านลินุกซ์และโอเพนซอร์สให้กับ IBM มานานหลายปี ก่อนจะเข้ามาไมโครซอฟท์เพื่อ "สอนให้คนของไมโครซอฟท์รู้จักกับโอเพนซอร์ส" ปัจจุบันเขาเป็นหัวหน้า Open Source Software Lab ของไมโครซอฟท์ด้วย

Bill Hilf เคยมาเมืองไทยเมื่อปีที่แล้ว (ซึ่งผมก็ไปฟัง สนใจอ่านรายงานเก่าได้) วันที่ 11 มีนาคมนี้เขาจะมาอีกครั้ง และไมโครซอฟท์ประเทศไทยเชิญทุกคนที่สนใจไปคุยกับ Bill Hilf ใครอยากไปถามเรื่องสัญญากับ Novell หรือการสนับสนุน Mono นี่คงเป็นโอกาสทอง

หลังจากคุณแอนดรู แมคบีนลาออกไปอยู่ DTAC (ข่าวเก่า) ไมโครซอฟท์ประเทศไทยได้แต่งตั้ง นางสาวปฐมา จันทรักษ์ ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการคนใหม่ โดยย้ายมาจากสำนักงานใหญ่ที่เรดมอนด์ ซึ่งเธอเป็นผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดในส่วนพัฒนาตลาดที่กำลังเติบโต เอ็มดีคนใหม่จะเริ่มงานอย่างเป็นทางการในวันที่ 23 เมษายนนี้

อยากเห็นหน้าก็ดูรูปได้ตามลิงก์

ที่มา - ไทยรัฐ

ไมโครซอฟท์ได้ทำการเปิดเผยรายชื่อ 800 โปรแกรมที่ได้รับการรองรับว่าทำงานบน Vista แล้วที่นี่ครับ

จากในรายชื่อจะเห็นว่าชุดโปรแกรมออฟฟิศ 2007 นั้นผ่านทั้งหมด ส่วนโปรแกรมอื่นๆ หรือเกมส์ของไมโครซอฟท์เองก็ผ่านเช่นกันรวมไปถึงชุดป้องกันไวรัสของ Trend Micro ด้วย แต่ว่าไม่มีรายชื่อโปรแกรมจากบริษัทใหญ่ๆ อย่าง Adobe, IBM, Symantec ฯลฯ เลย

ใครสนใจจะใช้ Vista ก็เข้าไปตรวจสอบรายชื่อเทียบกับโปรแกรมปัจจุบันที่ใช้อยู่ได้ครับ

ที่มา - OSNews

นิตยสาร PC World รวบรวมฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาใน Vista แล้วทำให้รำคาญมากกว่าจะเป็นผลดี

ทั้งบิล เกตส์ และสตีฟ จ็อบส์ต่างยืนยันว่าจะขึ้นไปถกเรื่องอนาคตของวงการไอทีบนเวทีเดียวกัน ในงาน D: All Things Digital ที่จัดโดย Wall Street Journal

รูปแบบของงาน D (ปีนี้ครั้งที่ห้าเรียก D5) จะเป็นการสัมภาษณ์สดล้วนๆ นอกจากจะได้สองคนนี้มาเป็นไฮไลต์แล้ว บรรดา CEO ดังๆ ของวงการก็มากันพร้อมหน้า ไม่ว่าจะเป็น John Chambers (Cisco), Steve Case (AOL ใครจำกันได้บ้าง), Steve Ballmer, Eric Schmidt (Google), Jeff Hawkins (คนคิด Palm) หรือแม้แต่ George Lucas

งานยักษ์แบบนี้บัตรขายหมดตั้งนานแล้ว ใครอยากดูคงต้องรอหลังวันที่ 30 พฤษภาคม น่าจะมีวิดีโอ ผมแอบหวังให้เริ่มต้นมาแบบนี้คงเยี่ยม

"Hi, I'm Steve" "Hi, I'm Bill"

ในการนำเสนอให้กับนักวิเคราะห์ด้านการเงินเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สตีฟ บอลเมอร์ให้ความเห็นซึ่งสร้างความหวาดกลัวในการใช้งานซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ส (FUD) ด้วยการเน้นย้ำ ว่าโลกโอเพนซอร์สต้องเคารพทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัทอื่นๆ โดยไม่มีการระบุถึงส่วนของลินุกซ์และสิทธิบัตรที่ลินุกซ์ไปละเมิดแต่อย่างใด

บอลเมอร์ระบุว่าแม้สินค้าของไมโครซอฟท์จะมีราคาสูงกว่า แต่สินค้าเหล่านั้นสร้างมูลค่าได้ดีกว่า ไมโครซอฟท์กำลังทำได้ดีในตลาดเดสก์ทอปและเซิร์ฟเวอร์ ในตอนนี้ไมโครซอฟท์กำลังพุ่งเป้าไปที่เว็บเซิร์ฟเวอร์และตลาดคลัสเตอร์ต่อไป

หลังจากที่ จิม เกรย์ หายตัวไปเมื่อต้นเดือน และหลายฝ่ายได้ช่วยกันตามหา ถึงตอนนี้ทางครอบครัว และเพื่อนๆของ จิม เกรย์ ได้ออกมาประกาศว่า พวกเขาตัดสินใจแล้ว ที่จะให้หน่วยงาน ที่ช่วยตามหา ยุติการค้นหาไว้ก่อน เพราะคิดว่าการค้นหาได้ทำครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด ที่เรือของ จิม เกรย์ สามารถลอยไปได้แล้ว และจากข้อมูลที่มีอยู่ พวกเขาไม่คิดว่าเรือของ จิม เกรย์ จะออกไปนอกพื้นที่การค้นหาได้ การค้นหาต่อไป จึงไม่น่าจะเกิดประโยชน์ แต่อย่างไรก็ตาม ทางครอบครัวของ จิม เกรย์ จะยังคงค้นหาต่อไปด้วยตัวเอง เพราะเชื่อว่า จิม เกรย์ น่าจะยังมีชีวิตอยู่ พวกเขาบอกว่า จิม เกรย์ ยังหายตัวไปไม่ถึง 3 สัปดาห์เลย จึงเร็วไปที่จะบอกว่าเขาตายแล้ว

หลังจากที่ Open XML ของไมโครซอฟท์ผ่านการพิจารณาจาก ECMA แล้วเป้าหมายต่อไปของไมโครซอฟท์คือการพยายามนำ Open XML เข้าเป็นหนึ่งในมาตรฐาน ISO เพื่อให้ได้รับการยอมรับในวงกว้างมากขึ้น เนื่องจากหน่วยงานรัฐบาลต่างๆ เริ่มแสดงถึงความต้องการที่จะใช้งานมาตรฐานเปิดที่ได้รับการยอมรับกันเป็นวงกว้าง เมื่อการต่อสู้ถึงจุดที่เข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ ไมโครซอฟท์ก็ออกมาแสดงความไม่พอใจไอบีเอ็มในจดหมายเปิดผนึกจากทางไมโครซอฟท์

หลังจากที่ได้เปิดตัวไปในงาน CES 2007 และได้ทำการทดสอบเป็นการภายในไปแล้ว ตอนนี้ Windows Home Server ได้ออก beta 2 มาให้คนทั่วไป ได้ร่วมทดสอบการใช้งาน โดยผู้ที่สนใจ และต้องการเข้าร่วมการทดสอบครั้งนี้ สามารถสมัครได้ที่นี่ โดยผู้เข้าร่วมการทดสอบจะต้อง มีคอมพิวเตอร์มากกว่า 1 เครื่อง มีอินเทอร์เน็ตบรอดแบรนด์ และเราเตอร์ มีคอมพิวเตอร์สำหรับลง Windows Home Server ส่วนรายละเอียดอื่น ดูเพิ่มเติมได้ที่ Windows Home Server Forum

หลายคนอาจรู้แล้วว่า หลังเขียนข่าว Vista วันวางจำหน่าย โดยทิ้งท้ายให้ไมโครซอฟท์ประเทศไทยส่ง Vista มาให้รีวิว ผมก็ได้รับการติดต่อจากคุณ Derek Brown ผู้จัดการฝ่ายการตลาดในวันเดียวกัน ซึ่งคุณ Derek บอกกับผมทางโทรศัพท์ว่ามีคอร์สอบรมทางเทคนิคเกี่ยวกับ Vista ที่ Microsoft China Technology Center กรุงปักกิ่ง สนใจจะไปรึเปล่า

ไปฟรีแบบนี้จะพลาดได้ยังไง และนี่คือรายงานว่าไปเห็นอะไรมาบ้าง

ในงาน RSA Conference 2007 ที่ผ่านมารองประธานพัฒนาของไมโครซอฟท์ Ben Fathi ได้ออกมาแย้มถึงแผนการวางตลาดวินโดวส์ตัวต่อไปว่าจะมีกำหนดการอยู่ในช่วงปลายปี 2009 โดยวินโดวส์ตัวต่อไปนั้นจะไม่ได้เว้นช่วงการวางตลาดยาวนานเหมือนสมัย XP เพราะในช่วง XP นั้นมีการเลื่อนแผนการครั้งใหญ่จากการออก XP SP2 เพื่อยกมาตรฐานความปลอดภัย

Fathi ระบุว่ามีอีกหลายอย่างมากที่ไมโครซอฟท์ยังไม่ได้ทำในวิสต้าเนื่องจากกำหนดการที่กระชั้นชิด รุ่นต่อไปฟีเจอร์ต่างๆ ที่หวังไว้จึงน่าจะมีครบถ้วนมากขึ้น ที่เดาๆ กันได้คงเป็น WinFS ที่ถูกถอดออกไปในนาทีสุดท้าย

ออกตัวใหม่เมื่อใหร่ยังไม่สน แต่ผมกำลังหาข้อมูลอยู่ว่าไมโครซอฟท์จะซัพพอร์ตวิสต้าไปอย่างน้อยอีกกี่ปี... จะได้ตัดสินใจซื้อ