กูเกิลประกาศหยุดขาย Google Glass Enterprise Edition 2 มีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และจะหยุดการสนับสนุนตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน 2023 มีผลให้ผู้ที่มี Glass Enterprise Edition 2 อยู่ ยังสามารถใช้อุปกรณ์ได้ต่อไป แต่กูเกิลจะไม่ออกซอฟต์แวร์อัพเดตออกมาอีก
Google Glass โครงการแว่นตาอัจฉริยะของกูเกิลมีการปรับทิศทางในช่วงหลายปีก่อนหน้านี้ โดยปิดส่วนพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับลูกค้าทั่วไป เปลี่ยนมาโฟกัสตลาดลูกค้าองค์กรแทนในชื่อ Google Glass Enterprise Edition
หลายคนอาจลืมชื่อ Google Glass ไปแล้ว แต่มันยังไม่ตาย กูเกิลยังมี Google Glass Enterprise Edition 2 ทำตลาดลูกค้าองค์กรที่อยากได้อุปกรณ์เฉพาะทางแบบนี้อยู่
ล่าสุดกูเกิลประกาศนำ Google Meet มาลง Glass Enterprise Edition 2 ให้เราสามารถใส่แว่น Google Glass เพื่อให้พนักงานผู้สวมใส่สามารถวิดีโอคอลล์คุยขณะทำงานหน้างาน (เช่น ซ่อมบำรุงเครื่องจักร ตรวจสอบเซิร์ฟเวอร์ในศูนย์ข้อมูล) โดยไม่ต้องใช้มือจับอุปกรณ์สื่อสารเลย
รูปแบบการใช้งานของ Meet for Glass จะคล้ายกับที่ไมโครซอฟท์เดโม HoloLens ที่ใช้ทำวิดีโอคอลล์แบบ handfree ลักษณะเดียวกัน
กูเกิลประกาศแผนการหยุดสนับสนุน Google Glass Explorer แล้ว หลังจากประกาศปิดโครงการไปเมื่อปี 2015 โดยออกเฟิร์มแวร์เวอร์ชันสุดท้าย ซึ่งต้องลงแบบ manual
ในอัพเดตนี้ Glass จะไม่สามารถเชื่อมต่อกับบริการของกูเกิลได้ตั้งแต่วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2020 แต่ยังเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนโดยตรงเพื่อเก็บภาพถ่าย, วิดีโอ หรือเชื่อมต่อกับทำงานกับแอปผ่านบลูทูธ
ทั้งนี้อัพเดตเฟิร์มแวร์มีผลเฉพาะ Google Glass Explorer เท่านั้น ไม่มีผลกับ Google Glass Enterprise Edition
ที่มา: Android Police
กูเกิลเปิดตัว Google Glass Enterprise Edition 2 ซึ่งเป็นไปตามข่าวหลุดก่อนหน้านี้ โดยมาพร้อมหน่วยประมวลผลที่เร็วขึ้น กล้องที่ดีขึ้น ขายเฉพาะลูกค้าระดับองค์กรเท่านั้น ในราคาที่ลดลงเหลือ 999 ดอลลาร์
ข้อมูลสเป็กเพิ่มเติม ชิปประมวลผลเป็น Snapdragon XR1 1.7GHz 4 คอร์ พร้อมหน่วยการทำงาน AI ทำให้ใช้พลังงานน้อยลง ส่วนแบตเตอรี่ความจุ 820mAh ใช้งานได้นาน 8 ชั่วโมง ความละเอียดกล้อง 8MP รองรับการถ่ายวิดีโอ 720p ส่วนหน้าจอแสดงผลเท่าเดิมคือ 640x360
แม้ในตลาดผู้ใช้ทั่วไป Google Glass จะไม่ได้รับความนิยม และพับโครงการไปเมื่อปี 2015 ก่อนที่จะเปิดตัวใหม่อีกครั้งในปี 2017 เน้นจับตลาดองค์กรแทน ล่าสุดก็มีภาพที่ "อ้างว่า" เป็น Google Glass Enterprise รุ่นใหม่ พร้อมกับสเปค ถูกปล่อยออกมาจากเว็บไซต์ 9to5Google เว็บข่าวสาย Google
ห่างหายไปนานกับ Google Glass หลังกูเกิลพับโครงการไปตอนต้นปี 2015 แล้วหันไปทำ Google Glass Enterprise Edition ในวงปิดแทน
เวลาผ่านไปเกือบสองปี ตอนนี้กูเกิลดูจะพร้อมกับการนำ Google Glass Enterprise Edition ออกมาสู่ตลาดในวงกว้างอีกครั้ง
ตัวอย่างพาร์ทเนอร์ของกูเกิลที่นำ Glass มาใช้ในงานภาคอุตสาหกรรมคือ GE Aviation ที่นำมาช่วยงานซ่อมเครื่องบิน นอกจากนี้ยังมีบริษัทชื่อดังอีกกว่า 50 บริษัท เช่น Boeing, DHL และ Volkswagen รูปแบบจะเป็นการใช้งานในเชิงอุตสาหกรรม หรือโกดังเก็บสินค้า โดยใช้ประโยชน์จากแว่นช่วยเหลืองานที่มือไม่ว่าง ต้องหยิบจับอุปกรณ์อยู่ตลอดเวลา
Google Glass ผลิตภัณฑ์ที่กูเกิลยุติโครงการออกจาก Google X และเหมือนจะเงียบไป ได้ออกอัพเดตเฟิร์มแวร์และแอพบน Android เวอร์ชัน XE23 ซึ่งถือเป็นอัพเดตแรกในรอบ 3 ปีเลยทีเดียว
รายละเอียดของอัพเดตนี้เป็นการแก้ไขบั๊กทั่วไป และเพิ่มความสามารถให้ Glass สามารถเชื่อมต่อด้วยบลูทูธกับอุปกรณ์ป้อนข้อมูลอื่น อาทิ คีย์บอร์ด หรือเมาส์ ได้
อย่างน้อยก็ยืนยันว่ากูเกิลยังไม่ลืมผลิตภัณฑ์ตัวนี้
ถึงแม้ Google Glass รุ่นแรกดูจะไม่ประสบความสำเร็จในภาพรวมมากนัก แต่ก็ใช่ว่าจะไม่สามารถใช้งานได้และไม่มีใครใช้เลย เมื่อพนักงานของโบอิ้ง บริษัทผลิตเครื่องบินระดับโลกออกมาเปิดเผยว่า ใช้ Google Glass ในขั้นตอนการวางสายไฟและเคเบิลบนเครื่องบิน
เนื่องจากการวางสายไฟและเคเบิลนั้นทั้งซับซ้อนและยุ่งยาก พนักงานจึงจำเป็นต้องเปิดคู่มือไฟล์ PDF บนแล็บท็อปทุกๆ ครั้งที่วางสายไฟและเคเบิล ซึ่ง Google Glass ได้เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในขั้นตอนนี้ ซึ่งช่วยลดระยะเวลาในการทำงานลงไปได้ถึง 25% และลดความผิดพลาดลงไปได้ถึง 50%
มีข่าวมาอย่างต่อเนื่องว่ากูเกิลยังคงเดินหน้าพัฒนา Google Glass ต่อไป โดยขยับไปจับตลาดองค์กรในรุ่นใหม่ Enterprise Edition แทน แม้ยังไม่มีกำหนดเปิดตัว แต่ตอนนี้เจ้าแว่นตาไฮเทคดังกล่าวก็ไปเผยโฉมที่ FCC เป็นครั้งแรกแล้ว
จากภาพที่เผยแพร่ใน FCC เจ้า Google Glass Enterprise Edition โดยรวมยังคงหน้าตาเหมือนกับ Google Glass รุ่นต้นแบบที่วางขายไปตั้งแต่ปีก่อน แต่เพิ่มฟีเจอร์ใหม่เข้ามา เช่นขาแว่นด้านขวาสามารถพับเก็บได้ และมีขนาดเล็กลง ในขณะที่กระจกปริซึมด้านหน้ามีขนาดใหญ่ขึ้น ย้ายปุ่มเปิดเครื่องไปไว้ด้านหลัง และมีไฟแจ้งเตือนเมื่อเปิดใช้งานกล้องเพิ่มเข้ามา
ถ้าจำกันได้ เมื่อกลางเดือนมีข่าวออกมาว่ากูเกิลกำลังซุ่มพัฒนา Google Glass โฉมใหม่ถึงสามแบบด้วยกัน ล่าสุดมีรายละเอียดของอุปกรณ์ที่คาดว่าจะเป็นหนึ่งใน Google Glass ที่กำลังพัฒนาอยู่มาแล้ว
รายละเอียดดังกล่าวออกมาจากสิทธิบัตรใหม่ของกูเกิลที่ระบุถึงอุปกรณ์คล้ายแว่นตาไอทีสำหรับสวมหัวเหมือนกับ Google Glass แต่จุดต่างอยู่ในรายละเอียดภายใน ซึ่งตัวแว่นตาในครั้งนี้จะออกมาราวกับเป็นที่คาดผมซึ่งสามารถบิดงอได้ ท้ายที่สุดแล้วจะคล้ายกับแว่นขาเดียว (monocle) มากกว่า Google Glass รุ่นแรกที่แม้มีหน้าจอฝั่งเดียว แต่ก็ใช้ขาแว่นหนีบศีรษะทั้งสองข้าง
แม้จะเรียกเสียงฮือฮาได้ แต่ท้ายที่สุดแล้ว Google Glass ก็ดูจะไม่ประสบความสำเร็จนัก ล่าสุด Project Aura ทีมเบื้องหลังการพัฒนา Google Glass กำลังทำอุปกรณ์ไอทีสวมใส่ได้ในรูปแบบใหม่แทนแว่นตาแล้ว
รายงานชิ้นนี้มาจาก The Information ระบุว่า Project Aura กำลังซุ่มพัฒนาอุปกรณ์ไอทีในรูปแบบใหม่ถึงสามชิ้นรวด โดยทั้งหมดจะยังเป็นอุปกรณ์แบบสวมศีรษะ แต่เน้นใช้งานในรูปแบบต่างๆ กันไป ตัวหนึ่งออกแบบมาเพื่องานองค์กร อีกตัวออกแบบมาเพื่อใช้กับนักกีฬา และตัวสุดท้ายจะเป็นเหมือนกับหูฟังที่สวมครอบไปทั้งศีรษะแทน
เงียบหายไปนาน และมีแต่ข่าวลือสำหรับ Google Glass ที่จะเบนไปจับตลาดองค์กรแทน วันนี้มีรายงานชิ้นใหม่เกี่ยวกับตัวโครงการ และทีมพัฒนาที่ตอนนี้ปรับทิศทางใหม่ พร้อมกับชื่อใหม่อย่าง Project Aura แล้ว
ข้อมูลของ Project Aura มาจากแหล่งข่าวของ Business Insider โดยระบุว่าตั้งทีมมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน ด้วยเป้าหมายใหญ่คือการคืนชีพ Google Glass พร้อมกับเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีเกี่ยวกับอุปกรณ์ไอทีสวมใส่ได้ต่อไป โดยจะยังเป็นทีมที่อยู่ภายใต้กูเกิล ต่างกับบริการอื่นๆ ที่แยกออกเป็นบริษัทหลังแผน Alphabet แน่นอนว่ายังคุมโดย Tony Fadell ซีอีโอของ Nest ดังเดิม
ยังเดินหน้าพัฒนาอุปกรณ์ไอทีสวมใส่ได้อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดกูเกิลจดสิทธิบัตรใหม่สำหรับ Google Glass (และแว่นตาอื่นๆ) ให้สามารถใช้งานได้อย่างไร้กังวลมากขึ้น
หลังจากมีข่าววงในของ Google Glass Enterprise Edition ออกมาเรื่อยๆ ความเคลื่อนไหวรอบล่าสุดคือ Wall Street Journal รายงานข่าววงในว่ากูเกิลเริ่มแจก Google Glass รุ่นใหม่ให้บริษัทพันธมิตรทดสอบแล้ว
อย่างไรก็ตาม กูเกิลไม่มีแผนเปิดตัว Google Glass รุ่นนี้ต่อสาธารณะ โดยมุ่งเป้าใช้งานในธุรกิจบางประเภท เช่น สาธารณสุข พลังงาน การผลิต เท่านั้น ส่วนแผนการเปิดตัวแว่นรุ่นคอนซูเมอร์อาจต้องรอกัน "หนึ่งปีเป็นอย่างน้อย"
ตอนนี้เริ่มมีข้อมูลของ Google Glass ที่กำลังจะกลับมาอีกครั้งด้วย Enterprise Edition ที่จะมีฮาร์ดแวร์แตกต่างจาก Explorer Edition พอสมควร
Google Glass แบบใหม่จะใช้งานกับแว่นตาปกติได้อย่างราบรื่น บานพับแบบใหม่จะมีทั้งคอมพิวเตอร์และแบตเตอรี่อยู่ทางขวา คงทนต่อการหล่นหรือกระแทกมากขึ้น และอาจกันน้ำได้ด้วย ส่วนเรื่องดีไซน์จะทำเพื่อเน้นใช้ในสถานที่ทำงานมากกว่าเน้นแฟชั่น
ส่วนสเปคนั้น คาดว่าน่าจะมีหน้าจอใหญ่ขึ้น, ชิพใหม่ที่แรงกว่าเดิม (คาดว่าน่าจะเป็น Intel Atom ตามข่าวเก่า) และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานขึ้น
เพิ่งมีข่าวลือของ Google Glass โฉมใหม่ที่ออกมาเพื่อจับตลาดองค์กรโดยเฉพาะเพียงไม่กี่วัน ตอนนี้มีรายละเอียดเพิ่มเติมของ Google Glass ตัวนี้ออกมาแล้ว
จากรายข้อมูลชุดใหม่ และภาพที่ออกมา Google Glass Enterprise Edition จะยังคงรูปทรงไม่ต่างจากรุ่นปกตินัก การปรับปรุงภายนอกคือการขยายกระจกปริซึมให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อเพิ่มพื้นที่การแสดงผล สามารถมองไปตรงๆ โดยที่ไม่ต้องจดจ่อทางมุมขวาของหน้าจอเหมือนรุ่นแรก ซึ่งมีรายงานว่าเมื่อใช้งานนานๆ จะเกิดอาการล้าที่ดวงตาได้
เว็บไซต์ 9to5google เผยข่าวล่าสุดของแว่น Google Glass ว่ากำลังจะกลับมาอีกครั้งในชื่อ Enterprise Edition หรือ EE ที่เน้นกลุ่มลูกค้าองค์กรโดยเฉพาะ (แตกต่างจากรุ่นก่อนที่เน้นคอนซูเมอร์-แฟชั่น และล้มเหลว) คาดว่าแว่นตัวนี้จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการช่วงปลายเดือนธันวาคม
ก่อนหน้านี้เคยมีอุปกรณ์รหัส GG1 โผล่มาในฐานข้อมูลของ FCC และคนเดากันว่ามันคือ Google Glass รุ่นใหม่ แต่ก็ยังไม่มีข้อมูลยืนยันชัดเจนว่า GG1 กับ Google Glass EE เป็นอุปกรณ์ตัวเดียวกันหรือไม่
หลังจากกูเกิลยุติโครงการ Google Glass Explorer Edition และโอนงานให้ทีมของ Tony Fadell ดูแลต่อ ข่าวคราวของ Glass ก็เงียบหายไปพักใหญ่
ล่าสุดโครงการ Google Glass คืนชีพกลับมาอีกครั้งแล้ว โดย Massimo Vian ซีอีโอของบริษัทแว่นตา Luxottica (เจ้าของแบรนด์ Rayband/Oakley) ที่จับมือเป็นพันธมิตรกับกูเกิลในปีที่แล้ว ออกมาให้ข่าวว่าเราจะได้เห็น Google Glass เวอร์ชันใหม่ในเร็วๆ นี้
เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา กูเกิลยุติโครงการ Google Glass Explorer และย้ายทีม Google Glass ออกจากร่ม Google X มาอยู่กับ Tony Fadell ซีอีโอของ Nest จนทำให้หลายคนประเมินว่าเป็นจุดสิ้นสุดของ Google Glass เสียแล้ว
ล่าสุดท่านประธาน Eric Schmidt ออกมาอธิบายด้วยตัวเองว่า Google Glass ยังไม่ตาย กูเกิลแค่ยุติโครงการ Explorer แต่ตัวโครงการหลักยังอยู่เหมือนเดิม กูเกิลมองว่า Glass เป็นโครงการระยะยาวเหมือนกับโครงการรถยนต์ไร้คนขับ ดังนั้นถ้าจะมองว่า Glass ล้มเหลวก็ต้องบอกว่าโครงการรถยนต์ของกูเกิลก็ล้มเหลวด้วย เพราะยังไม่สามารถใช้งานได้จริงในตอนนี้
หลังจากเมื่อเดือนก่อนที่กูเกิลประกาศให้ Google Glass สำเร็จจากขั้นทดสอบใน Google X ไปสู่ความดูแลของ Tony Fadell บิดาแห่ง iPod และผู้ก่อตั้ง Nest ตอนนี้ก็มีรายงานเพิ่มเติมของเจ้าแว่นตาสุดล้ำนี้ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไปแล้ว
ในบทความล่าสุดของ The New York Times ระบุว่า Google Glass แบบที่เราเคยได้เห็น ได้รู้จักนั้นได้ตายลงไปแล้ว และกำลังจะเกิดขึ้นมาใหม่ด้วยฝีมือของ Tony Fadell โดยในครั้งนี้จะต่างกับเมื่อครั้งที่ Sergey Brin นำทีมตรงที่จะไม่มีการเร่งเปิดตัวก่อนที่ผลิตภัณฑ์จะสมบูรณ์ และจะแก้ปัญหาเรื่องความเป็นส่วนตัวที่ถูกติงอย่างมากแม้ว่า Google Glass จะยังไม่ได้ขายจริงก็ตาม
หลังจากที่พักหลัง Google Glass เริ่มซบเซาและมีข่าวลือมาตลอดว่า Google อาจจะถอดใจ ล่าสุดเว็บไซต์อย่าง The Verge และสำนักข่าว BBC ของอังกฤษ รายงานว่า Google ประกาศว่าโครงการ Google Glass ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของทีม Google X ที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ นั้น ได้เดินมาอยู่ในจุดที่ "สำเร็จ" (graduating) แล้ว โดยเตรียมที่จะดำเนินการแยกออกมาเป็นแผนกพิเศษต่างหากของ Google เอง
อินเทลยังคงพยายามเข้าตลาดอุปกรณ์ไอทีแบบสวมใส่ได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งการเปิดตัว MICA กำไลข้อมูลไอทีสำหรับสาวๆ ตอนนี้ก้าวไปอีกขั้นด้วยการจับมือกับผู้ผลิตแว่นตาอีกเจ้าแล้ว
ผู้ผลิตแว่นตารายที่อินเทลเข้าไปจับมือด้วยครั้งนี้คือ Luxottica ที่หลายคนอาจไม่คุ้นชื่อ แต่เป็นผู้ผลิตกรอบแว่นให้กับแบรนด์ดังหลายราย (รวมถึงเรย์แบนด้วย) โดยความร่วมมือครั้งนี้กับ Luxottica เป็นการร่วมกันพัฒนาระยะยาว เมื่อรวมกับรายงานชิ้นก่อนหน้าที่ว่าอินเทลอาจมีส่วนร่วมกับการทำ Google Glass รุ่นต่อไป ก็เป็นไปได้ว่าดีลนี้อาจมีผลกับอนาคตของ Google Glass ด้วย
แม้จะมีข่าวว่านักพัฒนาเริ่มหมดความสนใจใน Google Glass แว่นอัจฉริยะที่เปิดตัวมาอย่างน่าตื่นเต้นทั้งฟีเจอร์ (และราคาในภายหลัง) แต่ดูเหมือนว่ากูเกิลจะยังมีแผนทำเจ้าแว่นตาตัวนี้ต่อไป โดยรายงานล่าสุดระบุว่า Google Glass รุ่นใหม่จะใช้ชิปจากอินเทลอีกด้วย
การมาของอินเทลจะเข้ามาแทนที่ Texas Instruments ที่อยู่ใน Google Glass มาตั้งแต่ปี 2012 โดยนอกจากอินเทลจะมาเป็นซัพพลายเออร์ให้กูเกิลแล้ว ยังมาช่วยดัน Google Glass ให้ถูกใช้งานในสายงานเฉพาะทางเช่น การแพทย์ งานก่อสร้าง และงานผลิต หรืองานอื่นๆ ที่ต้องการข้อมูลในระหว่างทำงานด้วยมืออยู่ด้วย
สำนักข่าว Reuters รายงานข่าววงในว่า Google Glass ดูท่าจะไปไม่รอดแล้ว หลังผลิตภัณฑ์ไม่ได้รับเสียงตอบรับจากตลาดกระแสหลักมากนัก นักพัฒนาแอพภายนอกบริษัทเริ่มหันไปทำอย่างอื่น (หรือทำแอพ Glass สำหรับภาคธุรกิจแทนที่จะเป็นคอนซูเมอร์)
ในฝั่งของกูเกิลเองก็มีสัญญาณไม่ค่อยดีเช่นกัน โดยแกนหลักของทีม Google Glass ลาออกจากบริษัทไปหลายคน หรือแม้แต่ Sergey Brin ผู้ร่วมก่อตั้งกูเกิลและผู้นำทีม Google X ที่เราเห็นเขาใส่แว่น Glass อยู่บ่อยๆ ก็เริ่ม "วางแว่นทิ้งไว้ในรถ" แล้ว
เมืองดูไบมีแผนจะนำแว่นตาอัจฉริยะ Google Glass มาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้งาน เพื่อต่อสู้กับความไม่สงบด้วยเทคโนโลยีตรวจจับใบหน้าผู้ต้องสงสัย
แผนการใช้ Google Glass นี้ถูกยืนยันโดยโฆษกของสำนักงานตำรวจประจำดูไบผ่านหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น โดยการใช้งานระบบตรวจจับใบหน้านั้น จะเชื่อมเข้ากับฐานข้อมูลผู้ต้องสงสัยของสำนักงานตำรวจดูไบนั่นเอง แต่ในขั้นแรกจะถูกใช้กับการตรวจสอบผู้กระทำความผิดบนท้องถนนเสียก่อน
จากแผนที่ออกมานี้ เป็นอีกครั้งที่เมืองดูไบจ่ายหนักเพื่อเสริมประสิทธิภาพของอุปกรณ์ของตำรวจ ก่อนหน้านี้ก็เคยสั่งซื้อรถสปอร์ตยี่ห้อแลมบอร์กินีราคากว่า 400,000 เหรียญเพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้กับสำนักงาน และใช้ตามแหล่งท่องเที่ยวโดยเฉพาะ