Google+ ยังเป็นประเด็นร้อนตามข่าวไอทีทุกสำนัก ช่วงนี้จึงมีข่าวเล็กๆ น้อยๆ ของ Google+ ออกมาเยอะไปหมด เพื่อไม่ให้เปลืองที่ก็ขอรวมเป็นโพสต์เดียวเลยนะครับ
Eric Schmidt อดีตซีอีโอของกูเกิล (ปัจจุบันเป็นประธานบริษัท) ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่าอยากเห็น Google+ ทำงานร่วมกับ Facebook และ Twitter ให้มากกว่านี้
อย่างไรก็ตาม เขาเปิดเผยรายละเอียดของข้อตกลงดึงข้อมูลจาก Twitter หลังสัญญาเก่าหมดลง ว่าเจรจากันมาเยอะแล้ว แต่ยังตกลงเรื่องเงื่อนไขกันไม่ได้ นอกจากนี้กูเกิลยังพยายามเจรจาให้ Google+ สามารถนำเพื่อนจาก Facebook มาได้ แต่ก็ยังไม่เป็นผลเช่นกัน
Schmidt บอกว่าตลาดของ social network ยังโตได้อีกมาก และมีที่ว่างสำหรับผู้เล่นอีกหลายราย
ผู้ที่ใช้ซอฟต์แวร์อีเมลอย่าง Outlook หรือ Thunderbird มาก่อน อาจจะขัดใจอยู่บ้างที่ Gmail นั้น "เรียงอีเมล" ตามลำดับที่เราต้องการไม่ได้ (ทำได้แต่กรองด้วย label)
วันนี้กูเกิลได้ประกาศเพิ่มฟีเจอร์การเรียงอีเมลให้อีก 3 แบบ ได้แก่ แสดงเมลสำคัญ (important) ขึ้นก่อน, แสดงเมลที่ติดดาว, แสดงเมลที่ยังไม่ได้อ่าน
เมื่อรวมกับการเรียงตามลำดับเวลาปกติ และ Priority Inbox (ซึ่งจัดเอาเมลสำคัญ+ติดดาว+ยังไม่ได้อ่าน รวมกันทั้ง 3 แบบ) ก็จะได้ว่า Gmail สามารถเรียงอีเมลได้ทั้งหมด 5 แบบแล้ว
ฟีเจอร์นี้จะทยอยเปิดให้ผู้ใช้ในอีกไม่กี่วันนี้
ที่มา - Gmail Blog
มีรายงานว่ากูเกิลนำเว็บไซต์ที่ใช้โดเมนลงท้ายด้วย .co.cc จำนวน 11 ล้านเว็บออกจากผลการค้นหาของกูเกิลเอง โดยให้เหตุผลว่าเกือบทั้งหมดเป็นเว็บสแปมหรือปล่อยมัลแวร์
โดเมน .co.cc ไม่ใช่โดเมนบริษัทแบบเดียวกับ .co.th แต่เป็นโดเมนบริษัทเกาหลีชื่อ co แล้วลงท้ายด้วย .cc (http://co.cc) จากนั้นมาขาย/แจกซับโดเมนอีกทอดหนึ่ง ตามข้อมูลของ co.cc บอกว่ามีซับโดเมนประมาณ 11 ล้านชื่อ และสมาชิก 5.7 ล้านราย
จากรายงานของ Anti-Phishing Working Group ในปี 2010 บอกว่าโดเมน .cc มีเว็บที่เป็น phishing เยอะกว่าโดเมนอื่นๆ สองเท่า
ในตอนนี้บริการ Google+ นั้นอนุญาตให้เราตั้งได้ว่าข้อมูลในหน้า Google Profiles ในใดจะให้คนกลุ่มไหนเห็นได้บ้าง เช่นข้อมูลการศึกษา, หรือที่อยู่ แต่ภายในสิ้นเดือนนี้กูเกิลจะบังคับให้ข้อมูลทุกอย่างต้องเปิดเป็นสาธารณะ สามารถเข้าดูจากเว็บได้เสมอ
กูเกิลให้เหตุผลการปรับเปลี่ยนนี้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลในหน้า Profiles นั้นก็มีไว้เพื่อให้เพื่อนๆ ของเรามาหาเราเพื่อจะได้เพิ่มเข้าไปใน "แวดวง" (Circle) ของตัวเองอยู่แล้วแต่การจำกัดข้อมูลในหน้า Profiles กลับทำให้คนทั่วไปไม่สามารถค้นหากันได้
ข้อมูลที่กูเกิลบังคับให้เปิดเผยในหน้า Profiles คือ ชื่อและเพศ โดยหลังจากวันที่ 31 หากใครยังตั้งข้อมูลส่วนไหนจำกัดผู้เข้าชมอยู่ ข้อมูลส่วนนั้นก็จะถูกลบออกจากหน้า Profiles ไปเอง
สิ่งแรกๆ ที่ผู้ใช้ Google+ มักทดสอบคือ Hangouts หรือฟีเจอร์การคุยวิดีโอแบบกลุ่ม ซึ่งกูเกิลก็ออกมาชี้แจงแล้วว่าเตรียมเปิดสเปกของ Hangouts ให้นักพัฒนาภายนอกเขียนโปรแกรมเชื่อมเข้ามาในเร็วๆ นี้
Justin Uberti หัวหน้าทีม Real-time Communications เขียนเล่าในบล็อกส่วนตัวของเขาว่า กูเกิลจะเปิดสเปกของโพรโทคอลที่ใช้ใน Hangouts ในเร็วๆ นี้ โดยเบื้องต้นบอกได้ว่ามันอิงมาจาก XMPP MUC (XEP-0045) และ Jingle (XEP-0166/167) แต่ก็เพิ่มเทคโนโลยีของกูเกิลเองเข้ามาด้วย
นอกจากนี้เขายังตอบคำถามเรื่อง Hangouts บนมือถือว่า ขอให้ฝ่าย PR เป็นคนตอบคำถามนี้ แต่บอกได้ว่า Google+ ให้ความสำคัญกับมือถืออย่างมาก เพราะต้องการให้ผู้ใช้แชร์ข้อมูลได้จากทุกที่ ไม่ว่าจะอยู่บนเว็บ แท็บเล็ต หรือมือถือ
เว็บไซต์ Mashable รายงานข่าววงในว่า กูเกิลจะยกเลิกแบรนด์ Blogger และ Picasa เพราะต้องการเน้นชื่อ "Google" ให้มากขึ้น หลังการเปิดตัว Google+
ตัวบริการ Blogger กับ Picasa จะยังอยู่เหมือนเดิม แต่จะเปลี่ยนชื่อเป็น Google Blogs และ Google Photos ตามลำดับ
ในอดีตกูเกิลเคยซื้อผลิตภัณฑ์หลายตัวและเปลี่ยนชื่อมาแล้ว เช่น JotSpot เป็น Google Sites และ GrandCentral มาเป็น Google Voice
ตามข่าวบอกว่ากูเกิลจะประกาศเรื่องเปลี่ยนชื่อภายใน 1-1.5 เดือนข้างหน้านี้ และมีโอกาสที่ผลิตภัณฑ์ตัวอื่นจะถูกเปลี่ยนชื่อด้วย (แต่ YouTube จะไม่เปลี่ยนชื่อแน่นอน)
ที่มา - Mashable
มีรายงานว่ากูเกิลหยุดให้บริการ Realtime Search อย่างเงียบๆ ซึ่งตัวแทนของกูเกิลออกมาอธิบายทีหลังว่า สัญญาการดึงข้อมูลทวีตจาก Twitter ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2009 หมดอายุลงในวันที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมา
ในความเป็นจริงแล้ว บริการ Realtime Search ของกูเกิลดึงข้อมูลจากหลายแห่ง เช่น FriendFeed, MySpace, Buzz, Gowalla ฯลฯ (แต่ข้อมูลที่มีจำนวนมากที่สุดคือ Twitter) จึงน่าแปลกใจว่าทำไมข้อมูลจาก Twitter หายไปแล้ว กูเกิลถึงปิด Realtime Search ทั้งหมด
ช่วงนี้ยังมีข่าว Google+ ออกมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเป็นประเด็นเรื่อง "page" แบบเดียวกับของ Facebook ให้ธุรกิจต่างๆ มาสร้างตัวตนของตัวเองในโลก Google+
Jeff Huber ผู้บริหารฝ่าย Local and Commerce ของกูเกิลให้สัมภาษณ์ว่า "เราจะมี business profile page อย่างแน่นอน ถึงแม้จะบอกไม่ได้ว่าเมื่อไร แต่เราสัญญาว่ามันจะเจ๋ง และเราจะโค้ดมันให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้"
ที่มา - Blumenthals
Hulu กลายเป็นบริษัทเนื้อหอมที่สุดในขณะนี้ หลังจากมีข่าวยาฮูและไมโครซอฟท์สนใจซื้อ ในที่สุดก็มีข่าวของ "กูเกิล" ออกมาอย่างที่ทุกคนคาดไว้
หนังสือพิมพ์ LA Times รายงานข้อมูลจากวงในว่า กูเกิลกำลังเจรจาซื้อ Hulu อยู่เช่นกัน โดย LA Times ประเมินว่ากูเกิลต้องการ Hulu มาเสริมทัพวิดีโอออนไลน์ที่รายการมาจากบริษัทสื่อใหญ่ๆ ซึ่งตรงนี้ยังเป็นจุดอ่อนของกูเกิลอยู่ (เพราะ YouTube เลือกแนวทางวิดีโอจากผู้ผลิตอิสระ)
หลังจากถูกบ่นว่าทุกโพสใน Google+ สามารถถูกแชร์เป็นสาธารณะได้ (เว้นแต่จะตั้งค่าหลังโพส ซึ่งลำบากและลืมได้ง่ายมาก) ทางวิศวกรของกูเกิลก็ออกมาตอบรับแล้วว่าจะแก้ปัญหานี้ให้ โดยโพสที่เป็นวงจำกัดจะไม่สามารถถูกแชร์แบบสาธารณะได้อีกต่อไป
ไม่แน่ชัดนักว่าผลสุดท้ายที่ออกมาจะเป็นอย่างไร โดยกูเกิลอาจจะเปิดให้เพื่อนๆ สามารถแชร์โพสของเราต่อๆ ไปได้เช่นเดิม แต่ห้ามเพิ่มกลุ่ม Public เข้าไปในการแชร์เท่านั้น ซึ่งก็น่าจะช่วยลดปัญหาไปได้มากแล้ว
แต่ถ้าให้ดี มีระบบการเลือกค่าเริ่มต้นสำหรับการแชร์ด้วยน่าจะดีกว่านี้
ที่มา - C|Net
ถ้ายังจำกันได้ เมื่อครั้งที่กูเกิลขายหุ้นต่อสาธารณะชนครั้งแรก กูเกิลได้ยื่นจดทะเบียนต่อคณะกรรมการหลักทรัพย์ของสหรัฐว่าต้องการระดมทุนจำนวน 2,718,281,828 ดอลลาร์จากการขายหุ้น ตัวเลขนี้มีที่มาไม่ธรรมดาเพราะเป็นค่า e คูณด้วย 1 พันล้าน (อ้างอิง)
ข้ามเวลามาอีกหลายปี ในการประมูลสิทธิบัตร Nortel ซึ่งกูเกิลแพ้ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานข้อมูลจากผู้ที่เกี่ยวข้องในการประมูลว่า กูเกิลได้เสนอราคาประมูลเป็นตัวเลขแปลกๆ หลายตัว เช่น
ข่าวนี้ออกจะงงๆ หน่อยเพราะสิทธิการเข้าถึงเนื้อหาใน Google+ จะต่างเครือข่ายสังคมอื่นๆ คือทุกครั้งที่เราโพสเราจะต้องเลือกว่าใครบ้างที่จะสามารถเห็นโพสนั้นๆ ได้บ้าง (เลือกเป็นกลุ่มเรียกว่า Circle) แต่ปรากฏว่าหากเราไม่ปรับอะไรเพิ่ม คนที่มีสิทธิเข้าถึงโพสนั้นๆ สามารถจะแชร์โพสนั้นไปยังคนกลุ่มใดๆ ของเขาก็ได้ รวมถึงการเปิดโพสนั้นต่อสาธารณะ
Google+ เปิดให้ผู้โพสสามารถปรับนโยบายหลังจากโพสแล้วว่าไม่อนุญาตให้ใครแชร์ข้อความต่อได้ แต่ต้องปรับหลังจากโพสแล้วเท่านั้น และไม่สามารถปรับค่าเริ่มต้นเป็นอย่างอื่นได้ ทำให้ค่อนข้างขัดกับภาพปรกติของ Google+ ที่ปรับความเป็นส่วนตัวได้ง่าย
ต่อเนื่องจากการเปิดตัวบริการอย่าง Google+ พร้อมกับความสามารถ Instant Upload ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือแอนดรอยสามารถกดแชร์รูปทันทีที่ถ่ายโดยไม่ต้องเสียเวลาอัพโหลด (เนื่องจากมันแอบอัพล่วงหน้าให้แล้ว) ได้มีหลายคนเป็นห่วงว่าระบบดังกล่าวจะไปกินพื้นที่บริการ Picasa ของกูเกิล แต่วันนี้ได้มีการปรับปรุงหน้ารายละเอียดการคิดพื้นที่ของบริการ Picasa แล้วครับ
โดยสำหรับผู้ที่ใช้บริการ Google+ จะสามารถอัพโหลดรูปภาพที่มีขนาดต่ำกว่า 2048x2048 พิกเซล และวีดีโอความยาวไม่เกิน 15 นาที เข้ามาเก็บได้ฟรีไม่จำกัดจำนวนโดยไม่นับพื้นที่ใช้งาน และรูปทั้งหมดที่อัพโหลดผ่าน Google+ จะถูกย่อให้ขนาดด้านที่กว้างที่สุดไม่เกิน 2048 พิกเซล และไม่นับพื้นที่ใช้งานอีกเช่นกัน
เปิดตัวได้เพียง 2-3 วันแต่ Google+ ก็มาแรงมาก และตอนนี้เริ่มมีคนถามหาช่องทางการพัฒนาซอฟต์แวร์บน Google+ กันแล้ว
คนที่ตอบเรื่องนี้ได้ดีที่สุดคือ Vic Gundotra ผู้บริหารฝ่าย social ของกูเกิล ซึ่งเป็นผู้นำโครงการ Google+ ได้ตอบคำถามนักข่าว CNET สั้นๆ แต่หนักแน่นว่า
"I'm a developer guy at the core. It is inconceivable I would build something without a platform.
Vic บอกว่าตอนนี้ Google+ เพิ่งเริ่มต้น และยังไม่พร้อมรับนักพัฒนาภายนอก เพราะฟีเจอร์ต่างๆ จะเปลี่ยนอีกเยอะในระยะเวลาอันใกล้นี้ รวมถึงการผสานเข้ากับบริการอื่นๆ ของกูเกิลด้วย
เมื่อสองวันก่อน Google เปิดตัว Google+ ให้ชาวโลกได้รับรู้ แล้วก็ได้แจกของใหม่ให้กับผู้ใช้บางกลุ่มซึ่งเป็นกลุ่มเล็กๆ ได้ทดลองกัน ส่วนคนนอกที่ยังไม่ได้สิทธิ์ ก็ทำเอาอยากลองของใหม่ๆ ตามๆ กันไป จนเมื่อวาน Google ก็ได้เปิดให้คนที่ได้สิทธิ์จาก Google สามารถ Invite ต่อๆ กันได้ ก็มีทั้งแจกให้เพื่อนหรือคนรู้จัก หรือแม้กระทั่งขายสิทธิ์ในราคาตั้งแต่ 0.99 เหรียญไปจนถึง 200 เหรียญสหรัฐเลยทีเดียว (ใน eBay เมื่อวาน) แต่เพราะว่าเปิดไปๆ มาๆ คนกลับเข้ามามาเยอะมากเกินที่ระบบจะรับไหว
จากที่กูเกิลปรับโฉม sandbar แบบใหม่เป็นสีดำ และบอกว่าเป็นเพียงระลอกแรกของการปรับหน้าตาบริการต่างๆ อีกชุดใหญ่
วันนี้กูเกิลได้โชว์หน้าตาใหม่ของ Gmail แล้ว โดยใช้สไตล์แบบใหม่ที่สะอาดตากว่าเดิม ปุ่มดูแบนกว่าเดิม ใช้เส้นน้อยลง
ตอนนี้ธีมใหม่เปิดให้ลองใช้แล้ว โดยต้องเข้าไปกดเลือกกันเองจากหน้า Settings > Themes เลือกธีม Preview หรือ Preview (Dense) ครับ
นอกจาก Gmail แล้ว กูเกิลก็โชว์หน้าตาใหม่ของ Google Calendar ด้วย (ดูกระทู้ Google Calendar เปลี่ยนไป!! โดยคุณ xenogew ประกอบ) กรณีของ Calendar จะเปลี่ยนธีมให้อัตโนมัติ แต่ถ้าไม่ชอบก็เปลี่ยนกลับเองได้
หลังจากที่มีคนตาดีไปเห็น กูเกิลรับสมัครงานในตำแหน่ง Product Manager แผนก Games เมื่ออาทิตย์ก่อน ล่าสุด Engadget เปิดเผยว่ามีคนไปพบโค้ดใน Google+ ที่กล่าวถึง Google+ Games จากข้อความว่า "have sent you Game invites and more from Google+ Games" นี่เป็นสิ่งที่ยืนยันว่างานนี้ Google ไม่ได้แค่รุกตลาด social network เพื่อแข่งกับ Facebook อย่างเดียว แต่งานนี้ Zynga เจ้าของเกมดังบน social network อย่าง FarmVille และ Mafia Wars ก็คงดูเหมือนจะไม่รอดเช่นกัน
หลังจากกูเกิลเปิดตัวบริการ Google+ ซึ่งเป็นบริการ Social Network ตัวใหม่มาชนกับ Facebook เมื่อ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา ตอนนี้กูเกิลกำลังทดสอบภาคสนามโดยการจำกัดจำนวนผู้ใช้งานในระบบ แต่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้งาน Google+ สามารถ invite เพื่อนเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ได้ ทว่าล่าสุด กูเกิลได้ประกาศปิดระบบ invitation เนื่องจากมีผู้ใช้งานสมัครเข้ามาในระบบมากเกินไป
ภายหลังจาก Google Dashboard เกือบสองปี ล่าสุดกูเกิลเปิดตัว Google Takeout เครื่องมือสำหรับส่งออกข้อมูลของผู้ใช้งานบริการต่างๆ ของกูเกิล โดยข้อมูลที่ดาวน์โหลดมาจะอยู่ในรูปแบบของมาตรฐานเปิดภายในไฟล์ zip
ในตอนนี้รองรับเพียง 5 บริการ ได้แก่ Buzz, Contact and Circles, Picasa Web Albums, Profile และ Stream (Circles และ Stream มาพร้อมกับ Google+)
วิดีโอแนะนำจากทีม Data Liberation Front หลังเบรกครับ
ที่มา - Data Liberation Blog
ข่าวสั้นครับ เว็บกูเกิลภาคภาษาอังกฤษ (google.com) ได้เปลี่ยนสีของแถบด้านบนของเว็บเพจ (แถบนี้มีชื่อเรียกว่า sandbar) ให้เป็นสีดำ เพื่อต้อนรับ Google+ ที่เปิดตัวในวันนี้
ในบล็อกของกูเกิลอธิบายว่า การเปลี่ยนมาใช้สีเข้มจะช่วยให้เราโฟกัสกับเว็บเพจส่วนที่เหลือได้ดีขึ้น และทำให้หน้าตาของกูเกิลดูเหมือนๆ กันในทุกแพลตฟอร์ม
การเปลี่ยนโฉม sandbar นี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการปรับหน้าตาของผลิตภัณฑ์กูเกิลหลายๆ ตัวที่จะตามมาในไม่ช้า
ที่มา - Official Google Blog
Google+ (อ่านว่า "กูเกิลพลัส") คือบริการ social network ของกูเกิลที่เป็นข่าวกันมานาน แต่มันไม่ใช่ social network ในรูปแบบ Facebook/Twitter ซะทีเดียว มันเป็นบริการกึ่งๆ ระหว่าง "เว็บแยกเว็บใหม่" กับ "การแทรกตัวเข้าไปในบริการเดิมๆ ของกูเกิล" มากกว่า
ก่อนจะเข้าเรื่องว่า Google+ คืออะไร หน้าตาเป็นอย่างไร ต้องแจ้งก่อนว่าตอนนี้ Google+ ยังเปิดบริการแบบ invitation-only อยู่ ดังนั้นเรามีข้อมูลเฉพาะเท่าที่กูเกิลประกาศ และสื่อต่างประเทศที่ได้ลองใช้แล้วเท่านั้น
ผมอ่านข่าว Google+ ซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบกว่าจะเขียนข่าวนี้ได้ สรุปว่า Google+ คือ
สดๆ ร้อนๆ จาก Google labs กูเกิลได้เปิดตัว Swiffy เครื่องมือที่ช่วยแปลงแฟลชไปสู่ HTML5 โดยการทำงานหลักๆ แล้วก็จะคล้ายคลึงกับ Wallaby ของ Adobe
ผลจากการทดลองใช้งานสามารถแปลงได้อย่างสมบูรณ์เฉพาะแฟลชที่เป็น ActionScript เวอร์ชั่น 2.0 เท่านั้น
และยังสามารถแปลง ActionScript ที่ใช้ในการสร้างการเคลื่อนไหวต่างๆ ไปเป็นการเคลื่อนไหวแบบเดียวกันใน HTML5 ได้ด้วย เช่นการให้วัตถุวิ่งตามเมาส์ แต่ที่ยังไม่สามารถทำได้ก็คือโค้ดที่เกียวกับการตอบโต้กับผู้ใช้ เช่น การคลิก
หลังจากที่ยอดผู้ที่เปิดการใช้งานแอนดรอยด์แตะหลัก 300,000 เครื่องต่อวันไปเมื่อเดือนธันวาคมนั้น ล่าสุด Andy Rubin ก็ได้เปิดเผยบนทวิตเตอร์ของเขาเองว่า ตอนนี้ยอดผู้ใช้แตะหลัก 500,000 เครื่องต่อวันแล้ว โดยโตขึ้นจากเดิม 4.4% และอัตราการเติบโตขึ้นนั้นสูงถึง 60% ในระยะเวลาเพียงแค่ 7 เดือนเท่านั้น
ที่มา - ทวิตเตอร์ของ Andy Rubin ผ่าน Engadget
เงื่อนไข "คืนเงินภายใน 15 นาที" ของ Android Market มีปัญหากับกฎหมายประเทศต่างๆ เข้าเสียแล้ว เมื่อเทศบาลเมืองไทเป (เมืองหลวงของไต้หวัน) สั่งปรับเงินกูเกิลเป็นจำนวน 1 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (ประมาณ 1 ล้านบาท ค่าเงินใกล้เคียงกัน) โทษฐานทำผิดกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค ที่กำหนดให้คืนเงินภายใน 7 วัน
กูเกิลออกแถลงการณ์ว่าระยะเวลา 15 นาทีนั้นเหมาะสมแล้ว แต่ก็หยุดขายแอพใน Android Market ชั่วคราว พร้อมทั้งส่งตัวแทนมาเจรจากับเทศบาลไต้หวัน ซึ่งทางฝ่ายเทศบาลก็ไม่ยอมอ่อนข้อ ยื่นเงื่อนไขให้กูเกิลต้องยืดระยะเวลาเป็น 7 วันตามกฎหมาย
เทศบาลไต้หวันได้ยื่นเงื่อนไขนี้ไปยังแอปเปิลด้วย ซึ่งแอปเปิลยอมทำตามแต่โดยดี