Amazon เปลี่ยนแท็บเล็ต Amazon Fire ให้เป็น ลำโพงอัจฉริยะ Amazon Echo Show ได้ด้วยอุปกรณ์เสริม Show Mode Charging Dock สั่งงาน Alexa จากระยะไกลได้

ตัว Show Mode Charging Dock เป็นอุปกรณ์แยกแบบแท่นตั้งมีแม่เหล็ก และตัวเสียบ USB ที่สามารถใช้งานกับ Fire HD 8 และ Fire HD 10 เมื่อเสียบเข้ากันแล้วจะเปลี่ยนแท็บเล็ตให้กลายเป็นลำโพงอัจฉริยะ มีความสามารถใกล้เคียงกับ Amazon Echo Show เรียก Alexa ให้เปิดเพลง ดูหนัง ฟังข่าวได้ ตัวอุปกรณ์มาพร้อมแท่นตั้งให้สามารถตั้งแท็บเล็ตบนโต๊ะได้ แต่ไมโครโฟนจะไม่มีประสิทธิภาพสูงเท่า แต่ถ้าอยู่ในห้องเงียบก็สามารถใช้งานได้ดี

Show Mode Charging Dock ที่ใช้กับ Fire HD 8 ราคา 40 ดอลลาร์ และที่ใช้กับ Fire HD 10 ราคา 55 ดอลลาร์ ส่วนลด 5 ดอลลาร์ในช่วงพรีออเดอร์ ส่งมอบสินค้า 12 กรกฎาคมนี้

จักรวาล Amazon ใหญ่ขึ้นได้อีก ล่าสุด Amazon เข้าซื้อ PillPack ร้านขายยาออนไลน์ในสหรัฐฯที่จัดเรียงยาของผู้ป่วยให้เป็น แพ็กส่วนตัว ส่งยาให้ผู้ป่วยถึงบ้าน Amazon ไม่เปิดเผยจำนวนเงินในการดีลครั้งนี้

PillPack ก่อตั้งขึ้นในปี 2013 ลูกค้าสมัครสมาชิก PillPack บนออนไลน์ ทางบริษัทจะจัดยาตามใบสั่งยาของผู้ป่วย เหมาะสำหรับผู้ป่วยต้องกินยาตัวเดียวกันเป็นระยะเวลานาน ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า Walmart ก็สนใจบริษัท PillPack เช่นกัน แต่ผู้ชนะในคราวนี้เป็น Amazon

จากประเด็นหน่วยงานรัฐในออร์แลนโดใช้เทคโนโลยีตรวจจับใบหน้า Rekognition ของ Amazon จนภาคสังคมและผู้ถือหุ้นออกมากดดันให้ Amazon หยุดการขายเทคโนโลยีนี้แก่รัฐ ด้วยเหตุผลว่าอาจเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน ล่าสุดทางหน่วยงานตำรวจในออร์แลนโดออกมาประกาศว่าได้ยุติการทดลองใช้เทคโนโลยีดังกล่าวแล้ว

อย่างไรก็ตาม ทางหน่วยงานตำรวจก็ไม่ได้ปิดกั้นจะไม่ใช้เทคโนโลยีในอนาคต ในแถลงการณ์ระบุว่า ตำรวจกำลังมองหาแนวทางแก้ไขใหม่เพื่อเพิ่มความสามารถในการรักษาความปลอดภัย ด้วยการเป็นพันธมิตรกับบริษัทในการทดสอบเทคโนโลยีใหม่ๆ แต่ในขณะเดียวกันตำรวจก็ต้องรักษากฎหมายความเป็นส่วนตัวและไม่ละเมิดสิทธิของคนอื่นๆ

Amazon เป็นเจ้าแห่งอีคอมเมิร์ซระดับโลก ทุกอย่างหาซื้อได้บน Amazon และเช่นกันกับบริษัทเทคโนโลยีรายอื่นที่เจอกระแสต่อต้านการผูกขาด เพราะ Amazon ก็มีแบรนด์แยกขายสินค้าของตัวเองด้วยเหมือนกันถึง 76 แบรนด์

The New York Times เผยแพร่บทความวิเคราะห์ว่า "Amazon เป็นผู้ทำลายแบรนด์" แต่เดิมแพลตฟอร์มของ Amazon ได้รับการออกแบบมาเพื่อเป็นพื้นที่ค้าปลีกออนไลน์ ผู้จัดจำหน่ายหรือผู้ผลิตขนาดเล็กสามารถขายเตาอบกลางแจ้ง, กระเป๋าคอมพิวเตอร์และของเล่นเด็กในชื่อแบรนด์ของตัวเอง แต่ระยะหลัง Amazon ได้เปลี่ยนจากสื่อกลาง มาเป็นคู่แข่งของแบรนด์ต่างๆ เสียเอง

หลายคนอาจยังจำอาการแปลกๆ ของ Alexa ได้ที่อยู่ๆ ก็หัวเราะออกมา ล่าสุดมีอาการแปลกอีกแล้ว โดย Shawn Kinnear หนึ่งในผู้ใช้งานบอกว่าจู่ก็ๆ Alexa ก็พูดประโยคที่ดูน่าขนลุกออกมาว่า "Every time I close my eyes, all I see is people dying." (ทุกครั้งที่ฉันหลับตา ฉันเห็นผู้คนกำลังจะตาย)

Kinnear เล่าว่า เขาใช้งาน Amazon Prime บนทีวี และกดหยุดชั่วคราว หลังจากนั้นก็เดินออกจากห้องนั่งเล่นไป พอเขากลับเข้ามาในห้องก็ได้ยิน Alexa พูดประโยคดังกล่าวออกมา และตามมาด้วยความเงียบชวนขนลุก เมื่อเขาบอกให้ Alexa พูดประโยคเมื่อครู่อีกรอบ Alexa บอกว่าเธอไม่เข้าใจคำสั่ง

ทาง Amazon ยังไม่ได้ตอบอะไรสำหรับอาการแปลกๆ ของ Alexa

Universal Brand Development ร่วมกับ Earplay ผู้พัฒนา audio แบบ interactive ทำ Jurassic World Revealed เกมท่องโลกไดโนเสาร์ที่ใช้เสียงตัวเองการเล่นผ่าน Amazon Alexa โดยผู้ใช้งานต้องพูด "Alexa, visit Jurassic World" ก็จะเข้าสู่เกมได้ทันที เกมจะไม่มีภาพเคลื่อนไหวและปุ่มกดให้ควบคุมใดๆ เป็นการเล่นผ่านเสียงเท่านั้น

ในการเล่นเกมจะเหมือนผู้เล่นฟังพอดคาสต์ที่มีคนเล่าเรื่องคือ Janet Best เป็นนักข่าวที่เข้าไปยังแดนไดโนเสาร์ โดยผู้เล่นจะเล่นเป็น Jesse โคโปรดิวเซอร์ ในการเล่นผู้เล่นจะใช้เสียงตัวเองในการกำหนดทิศทางเกม ตั้งแต่ระบุตัวไดโนเสาร์ ทำตัวเป็นสปาย และใช้เสียงตัดสินใจนาทีเป็นตายภายในระยะเวลาอันสั้น

ผู้เล่นสามารถเล่นได้ผ่าน Amazon Echo และอุปกรณ์อื่นที่มีผู้ช่วย Alexa ฝังอยู่ เกมบทแรกเล่นฟรี แต่หลังจากนั้นต้องซื้อในราคา 4-5 ดอลลาร์ เกมแบบนี้ดูเป็นประสบการณ์ใหม่มากๆ เพราะมันผสมผสานระหว่างการเล่นเกมและฟังพอดคาสต์เข้าด้วยกัน

Amazon เปิดตัว Hub by Amazon โซลูชันสำหรับการจัดส่งสินค้าพัสดุสำหรับผู้พักอาศัยในอพาร์ทเม้นท์ โดย Amazon จะติดตั้งตู้เก็บของเหมือนกับ Amazon Locker ในพื้นที่ของอพาร์ทเม้นท์ และผู้รับสินค้าก็สามารถมาใส่รหัสเปิดตู้ได้ตลอดเวลาที่ต้องการ ไฮไลท์ก็คือ Amazon บอกว่าบริการ Hub นี้ ไม่ได้จำกัดแค่การส่งสินค้าจาก Amazon เท่านั้น แต่รองรับการส่งพัสดุจากใครก็ได้ เปรียบเสมือนเป็น ตู้ ปณ. ประจำอพาร์ทเม้นท์

Amazon มีผลิตภัณฑ์หนึ่งชื่อว่า Rekognition เป็นเทคโนโลยีสแกนตรวจจับใบหน้าเรียลไทม์ มีรายงานจาก The Washington Post ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจในเมืองออร์แลนโด และโอเรกอนได้ใช้ Rekognition นี้ด้วย โดยใช้ข้อตกลงเพื่อไม่เปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะ ส่งผลให้เกิดความกัลวลเรื่องสิทธิมนุษยชน เพราะเจ้าหน้าที่สามารถเรียกใช้เทคโนโลยีการจดจำใบหน้าแบบ real-time บนเครือข่ายกล้องทั่วเมืองได้

ล่าสุดผู้ถือหุ้น Amazon ออกมากดดันให้ Amazon ล้มเลิกการขายเทคโนโลยี Rekognition แก่หน่วยงานรัฐ ในจดหมายที่ผู้ถือหุ้นรวมตัวกันสื่อสารไปยัง Amazon ระบุว่า "เรากังวลว่าเทคโนโลยีนี้จะใช้เพื่อกำหนดเป้าหมายและสำรวจผู้อพยพและองค์กรภาคประชาสังคมอย่างไม่เป็นธรรม และยังกังวลว่ายอดขายอาจเพิ่มขึ้นสำหรับรัฐบาลในระบอบเผด็จการ"

Amazon ประกาศยุติการให้บริการ Mayday มีผลในเดือนมิถุนายนนี้ โดยให้ลูกค้าติดต่อกับฝ่ายสนับสนุนผ่านช่องทางอื่น ได้แก่ โทรศัพท์, อีเมล หรือแชท

Mayday เปิดตัวในปี 2013 โดยเป็นฟีเจอร์หนึ่งของแท็บเล็ตตระกูล Fire ที่ผู้ใช้งานสามารถกดขอความช่วยเหลือ ปรึกษาปัญหาจากพนักงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง มีจุดเด่นคือสามารถแชร์หน้าจอเพื่อให้พนักงาน Amazon ช่วยแก้ปัญหาได้สะดวกมากขึ้นด้วย (ขอให้เล่น Angry Birds ให้ก็ยังมี)

หลังจาก Amazon เสร็จสิ้นกระบวนการเข้าซื้อ Ring บริษัทผู้ผลิตกริ่งประตูอัจฉริยะเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ล่าสุด Ring ได้เปิดตัว Ring Alarm ชุดอุปกรณ์เตือนภัยภายในบ้าน ที่สามารถควบคุมอุปกรณ์ทั้งหมดจากทุกที่ด้วยปลายนิ้ว

Amazon ใช้หุ่นยนต์ช่วยทำงานมานาน ตัวอย่างที่เห็นชัดคือหุ่นยนต์ยกของในโกดัง แต่การทำงานของหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติของ Amazon ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในโกดังเท่านั้น ในสายตาคนนอกอาจมองไม่เห็นแต่งานหลายๆ อย่างในออฟฟิศของ Amazon เทคโนโลยีทำแทนคนมาระยะหนึ่งแล้ว

Bloomberg เผยแพร่บทความบอกว่า เทคโนโลยีอันชาญฉลาดของ Amazon ได้เพิ่มขอบเขตจากทำงานในโกดังมาที่สำนักงานใหญ่แล้ว และแน่นอนว่ากระทบพนักงานเงินเดือน งานประเภทหนึ่งที่เทคโนโลยีทำแทนมาสักพักแล้วคือ การต่อรองเจรจาให้แบรนด์มาขายของบนแพลตฟอร์ม Amazon อดีตและปัจจุบันพนักงานกล่าวว่า จากเดิมที่บริษัทอาศัยคอนเนคชั่นให้แบรนด์มาขายของบน Amazon ตอนนี้กลายเป็นหน้าที่ของ marketplace แพลตฟอร์มอัตโนมัติที่ให้ทุกคนเข้ามาเชื่อมต่อ และขายของของตัวเองได้โดยไม่ต้องโต้ตอบหรือคุยกับใครเลย

ในงาน E3 เมื่อวานนี้ Bethesda ไม่เพียงประกาศเกมใหม่ The Elder Scrolls VI และ The Elder Scroll: Blades เท่านั้น แต่ยังจับมือกับ Amazon เปิดตัวเกม Skyrim: Very Special Edition บน Alexa รองรับทั้งผ่านลำโพงอัจฉริยะหรือแอปบนสมาร์ทโฟน

Skyrim: Very Special Edition ไม่จำเป็นต้องลง Alexa Skill หรืออัพเดตใดๆ ทั้งสิ้น ผู้ใช้เพียงแค่พูดกับ Alexa ว่า "Open Skyrim" โดยผู้ใช้จะเล่นเป็น Dovahkiin - the Dragon Born ก่อนที่ Alexa จะพูดบรรยายเป็นสถานการณ์ต่างๆ จากเกม Skyrim ให้ผู้ใช้พูดตอบโต้เพื่อเลือกตอบคำถามหรือวิธีการเดินทางต่างๆ อาทิ เช่น "Cast Spell" หรือ "Flee" เป็นต้น หรือจะ Fus Ro Dah ใส่ Alexa ก็น่าจะได้

Amazon เปิดตัวสินค้าใหม่ในตระกูล Fire TV คือ Fire TV Cube มันเป็นกล่องเซ็ตท็อปสำหรับเชื่อมต่อทีวี สามารถสตรีมวิดีโอ 4K HDR จากแอพที่หลากหลาย ทั้ง Amazon Prime Video ของบริษัทเอง ไปจนถึง Netflix, Hulu, ESPN, PlayStation Vue และช่องทีวีอื่นๆ ในสหรัฐ

ความพิเศษของ Fire TV Cube เหนือกล่องสตรีมมิ่งคู่แข่งคือ มันมีไมโครโฟนดักเสียงจากระยะไกล และแน่นอนว่ารองรับ Alexa ด้วยในตัว สามารถสั่ง "Alexa, launch Netflix" ได้โดยไม่ต้องใช้รีโมทคอนโทรล

Fire TV Cube ราคาตัวละ 119.99 ดอลลาร์ เริ่มวางขาย 21 มิถุนายน ถ้าเป็นสมาชิก Amazon Prime จะได้สิทธิซื้อในราคา 89.99 ดอลลาร์ ถูกกว่าราคาปกติอีก 30 ดอลลาร์

Amazon ประกาศซื้อสิทธิการถ่ายทอดฟุตบอล Premier League อังกฤษนา 3 ปี โดยได้สิทธิถ่ายทอดสดฤดูกาลละ 20 นัด (เริ่มจากฤดูกาล 2019/2020) ทาง Amazon Prime Video ในสหราชอาณาจักร

ด้วยสไตล์ของ Amazon ที่พยายามสร้างคุณค่าให้กับการเป็นสมาชิก Amazon Prime ทำให้สมาชิกที่จ่ายเงิน Prime UK ในสหราชอาณาจักร ได้สิทธิดูฟรีไปด้วย (ค่าสมาชิกปีละ 79 ปอนด์ ราว 3,400 บาท)

ก่อนหน้านี้ Amazon ซื้อสิทธิกีฬาชื่อดังหลายรายการ เช่น US Open Tennis, ATP World Tour Tennis, NFL มาฉายออนไลน์บน Prime แล้ว แต่การซื้อสิทธิ Premier League น่าจะเป็นรายการใหญ่ที่สุดที่ Amazon เคยซื้อมา

AWS เปิดบริการตัวใหม่ Elastic Container Service for Kubernetes หรือตัวย่อ EKS มันคือการนำ Kubernetes มารันบนคลาวด์ AWS และเชื่อมกับบริการตัวอื่นๆ ในเครือ

Amazon บอกว่าจุดขายของ EKS คือการรัน Kubernetes ข้าม AWS Availability Zones เพื่อป้องกันโซนใดโซนหนึ่งล่ม และมีระบบจัดการให้อัตโนมัติ ผู้ใช้ไม่ต้องลงมายุ่งกับเรื่องนี้เอง, เข้ารหัสข้อมูลทั้งหมดเป็นค่าดีฟอลต์, รัน Kubernetes รุ่นมาตรฐานและได้รับการรับรองด้วย มั่นใจได้ว่าแอพสามารถรันบน EKS ได้อย่างไม่มีปัญหา

วันนี้ทางอเมซอนก็ออกอัปเดตซอฟต์แวร์รุ่น 5.9.6 สำหรับเครื่องรุ่นใหม่ โดยอัปเดตรอบนี้สำหรับอุปกรณ์ในรุ่นที่หกขึ้นไป อันได้แก่ Kindle Oasis (2016, 2017), Voyage, Kindle (2014, 2016) และ Paperwhite (2013, 2015) ครับ

ส่วนตัวอัปเดตใหม่มีการปรับปรุงฟีเจอร์ 2 เรื่องดังนี้ครับ

เพิ่มฟอนต์ได้เอง: รองรับทั้ง OpenType (OTF) และ TrueType (TTF) เพียงแค่ก็อปปี้ลงโฟลเดอร์ fonts ในเครื่อง ก็ใช้ได้แล้ว

เมื่อต้นปี Amazon ประกาศยุทธศาสตร์ Alexa for PC และเริ่มมีผู้ผลิตพีซีบางราย (เช่น Acer, HP) เปิดตัวพีซีที่ฝัง Alexa กันบ้างแล้ว

ล่าสุด Amazon อำนวยความสะดวกเพิ่มเติมให้บรรดาผู้ผลิตพีซี โดยจับมือกับโรงงานรับจ้างผลิตพีซี (Original Design Manufacturers หรือ ODM) ชื่อดัง 3 รายคือ Wistron, Compal, Quanta เปิดตัวพีซีต้นแบบพร้อมผลิต เพื่อให้แบรนด์ต่างๆ นำไปปรับแต่งพร้อมวางขายจริงในระยะเวลาอันรวดเร็ว

ช่วงหลังเราเห็นการเก็บข้อมูลประเภทกราฟที่แสดง "ความเชื่อมโยง" ของสิ่งต่างๆ กันมากขึ้น ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ Facebook Graph API ที่เก็บข้อมูลความสัมพันธ์ในโลกโซเชียล หรือ Microsoft Graph ที่ไมโครซอฟท์เริ่มนำมาใช้กับ Office และ Windows

ความนิยมในฐานข้อมูลประเภทกราฟ ทำให้ AWS เปิดตัวบริการใหม่ชื่อว่า Amazon Neptune มันคือฐานข้อมูลกราฟที่รันอยู่บนคลาวด์ของ AWS เช่นเดียวกับฐานข้อมูลประเภทอื่นๆ อย่าง RDS, DynamoDB, Aurora

Amazon Neptune รองรับข้อมูลกราฟในฟอร์แมตยอดนิยม 2 แบบคือ

ACLU (American Civil Liberties Union) of Northern California ได้เปิดเผยเอกสารว่า ตอนนี้ ตำรวจใน Orlando และ Oregon ที่ Washington County ได้เริ่มใช้งาน Rekognition ระบบฟีเจอร์ตรวจจับใบหน้าของ Amazon แล้ว

Rekognition ของ Amazon นั้นเป็นระบบตรวจจับใบหน้าแบบเรียลไทม์ เปิดใช้งานกับ AWS มาตั้งแต่ปี 2016 ปัจจุบันมีผู้ใช้งานอย่างเช่น Pinterest และ C-SPAN ส่วนตำรวจจะใช้ระบบนี้กับกล้องติดตัวและกล้องวงจรปิดในเมือง เพื่อทำการสแกนใบหน้าคนที่เดินตามถนนว่ามีใครตรงกับคนร้ายที่ตำรวจกำลังตามจับอยู่หรือไม่

Amazon Elastic Compute Cloud (EC2) เพิ่มเครื่องแบบ "เหล็กล้วน" (bare metal) สำหรับแอพพลิเคชันที่ต้องการเข้าถึงฮาร์ดแวร์โดยตรง (เช่น จำเป็นต้องเรียกชุดคำสั่ง Intel VT-x หรือไม่ต้องการรันในสภาพแวดล้อมแบบ virtualization)

AWS เปิดตัวเครื่องแบบ bare metal ในงานสัมมนาประจำปี re:Invent 2017 และตอนนี้เครื่องแบบ bare metal ก็ให้บริการเป็นการทั่วไป (General Availability) โดยเริ่มจาก instance ประเภท i3 (ใช้ชื่อว่า i3.metal) และยังเริ่มให้บริการเฉพาะในภูมิภาคสหรัฐกับยุโรปก่อน

เครื่องที่ให้บริการเป็น Xeon 2.3GHz (36 คอร์ 72 เธร็ด), แรม 512GiB, สตอเรจ NVMe SSD 15.2TB

ก่อนหน้านี้มีกรณีที่ทรัมป์กล่าวหา Amazon ว่าทำวงการค้าปลีกล่มสลาย และโทษว่า Amazon ทำให้ USPS ขาดทุน จนนำมาสู่การสั่งตรวจสอบ USPS โดยล่าสุดมีรายงานว่าทรัมป์เคยคุยกับหัวหน้าไปรษณีย์สหรัฐฯ ให้ขึ้นค่าส่งสินค้าหลายครั้ง

Amazon เปิดตัวเครื่องแบบใหม่บน EC2 คือ C5d ซึ่งเป็นเครื่อง C5 พร้อมพื้นที่เก็บข้อมูลแบบ local NVMe ที่ให้ประสิทธิภาพดีกว่า SSD ธรรมดา

เครื่อง C5 นั้นจะเน้นที่การประมวลผลประสิทธิภาพสูง เช่น การวิเคราะห์แบบเรียลไทม์, เกมแบบผู้เล่นหลายคน, การ encode วิดีโอ ซึ่ง C5d จะตอบโจทย์ผู้ใช้กลุ่มนี้ที่ยังต้องการประสิทธิภาพด้านสตอเรจที่สูงขึ้น โดยส่วนอื่น ๆ ของ C5 และ C5d นอกจากพื้นที่เก็บข้อมูลแล้วก็เหมือนกันทุกประการ

AWS เปิดตัว Amazon Sumerian เครื่องมือสร้างโมเดล 3D สำหรับงาน VR/AR เมื่อปลายปีที่แล้ว ล่าสุดมันเข้าสถานะ GA (generally available) เปิดบริการแก่ผู้ใช้ทั่วไป

จุดเด่นของ Amazon Sumerian คือมันทำงานผ่านเบราว์เซอร์ได้ทั้งหมด ไม่ต้องลงโปรแกรมใดๆ แถมยังสามารถเชื่อมต่อกับบริการอื่นๆ ของ AWS ไม่ว่าจะเป็น Amazon Lex, Polly, AWS Lambda, AWS IoT, Amazon DynamoDB ช่วยให้การสร้างโปรแกรม VR/AR ยุคใหม่บนคลาวด์ทำได้รวดเร็วขึ้นด้วย

ผลงานที่ได้จาก Sumerian สามารถแปลงได้ทั้งเป็นเว็บ (ผ่าน WebGL/WebVR) หรือจะเป็นแอพ VR ใช้บนแว่นยี่ห้อดังๆ ทั้ง Oculus/HTC Vive รวมถึงเป็นแอพ AR บน Android/iOS ได้ด้วย

มีรายงานข่าวก่อนหน้านี้ว่าร้านค้า Amazon Go จะเปิดอีก 6 แห่งภายในปีนี้ ล่าสุดมีการยืนยันออกมาว่าจะเปิดเพิ่มที่ซานฟรานซิสโก และชิคาโก หลังเปิดสาขาแรกแล้วที่ซีแอตเทิลซึ่งเป็นสำนักงานของ Amazon เอง

เทคโนโลยีของ Amazon Go อยู่ในความสนใจของสังคม เพราะแทบไม่ต้องมีเจ้าหน้าที่แคชเชียร์ ซึ่งเป็นตลาดงานที่มีคนทำสูงมากในตอนนี้ แต่ในร้านค้า Amazon Go ยังมีคนจัดสินค้า คนเช็กสินค้าแอลกอฮอล์เพื่อให้แน่ใจว่าคนซื้อจะมีอายุตามกฎหมายกำหนด

อ่านข่าวย้อนหลังได้ที่ พาชม Amazon Go: ร้านสะดวกซื้อไร้แคชเชียร์ ด้วยพลังปัญญาประดิษฐ์

ชื่อ Alexa ปัญญาประดิษฐ์ผู้ช่วยของ Amazon ได้รับการเปิดเผยในปี 2015 หลังจากนั้น พ่อแม่ที่ตั้งชื่อลูกว่า Alexa ก็ลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ (ดูกราฟได้ที่แหล่งข่าวต้นทาง)

ข้อมูลจาก Social Security data หน่วยงานข้อมูลในสหรัฐฯ เผยกราฟว่าเด็กเกิดใหม่ได้รับการตั้งชื่อว่า Alexa สูงมากก่อนปี 2015 แต่หลังจากนั้นกราฟก็ตกฮวบ โดย Philip Cohen นักวิชาการด้านสังคมเป็นคนตั้งข้อสังเกตคนแรก เขาบอกว่าให้ลองนึกภาพว่าคนที่ชื่อ Alexa อยู่แล้วจะรู้สึกอย่างไร เมื่อ Amazon ใช้ชื่อนี้เรียกปัญญาประดิษฐ์ของตัวเอง (และยังใช้เป็นชื่อเรียกให้อุปกรณ์ทำงานต่างๆ ให้อีก)

Business Insider ลองไปหาชื่ออื่นที่คล้ายกับ Alexa เช่น Alexandra, Alexis, Alexia ทั้งหมดมีกราฟลดลง แต่ไม่ลดฮวบเหมือนชื่อ Alexa