หลังจากแอปเปิลเปิดตัวที่ชาร์จถ่าน AA ที่มาพร้อมกับถ่านชาร์จ 6 ก้อน แถมบอกสเป็คแบบกั๊กๆ เลยทำให้หลายคนสงสัยว่าจริงๆ แล้วมันเป็นถ่าน OEM จากผู้ผลิตเจ้าใดแน่ บ้างก็นำไปเปรียบเทียบกับเจ้าตลาดอย่าง eneloop ของซันโยกัน

ล่าสุดเว็บไซต์สัญชาติเช็ก SuperApple เสียสละเสียงตายแงะถ่านชาร์จของแอปเปิลดู พบว่ามีความคล้ายคลึงกับ eneloop รุ่น HR-3UTG ถึงแม้ไม่มีหลักฐานชัดๆ ว่าเป็นรุ่นเดียวกัน แต่สเป็คของทั้งสองเรียกว่าแทบจะถอดแบบกันมาเลย

Mouse Computer เผย 4 Notebook สำหรับคอเกมตัวใหม่ โดย Notebook ทั้ง 4 รุ่นนั้นมีประสิทธิภาพสูง ทุกรุ่นนั้นจะใช้หน้าจอขนาด 17.3 นิ้ว รองรับการแสดงผลพิกเซลระดับ Full-HD (1920×1080) WiFi a/b/g/n พอร์ต USB 3.0 จำนวน 1 พอร์ต USB 2.0 3 พอร์ต

NEXTGEAR-NOTE i930BA1 จะมาพร้อมกับ CPU Intel Core i7-740QM processor แรมขนาด 4GB ฮาร์ดดิสขนาด 500GB และลิขสิทธิ์ Windows 7 Home Premium 64 bit. ราคาประมาณ 91,000 บาท

อินเทลโชว์ต้นแบบของการส่งข้อมูลด้วยแสงเลเซอร์ ซึ่งใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า Hybrid Silicon Laser มีอัตราการส่งข้อมูลสูงถึง 50Gbps (ในอนาคตจะพัฒนาได้สูงถึง 1Tbps ซึ่งเป็นตัวเลขตามทฤษฎี) สามารถส่งหนังแบบ HD ทั้งเรื่องได้ภายในเวลาน้อยกว่า 1 วินาที

อินเทลเริ่มพัฒนาเทคโนโลยีนี้มาตั้งแต่ปี 2004 และคาดว่าจะพัฒนามาเป็นผลิตภัณฑ์จริงได้ภายในปี 2015 โดยมันจะถูกใช้แทนการส่งข้อมูลผ่านสายทองแดงในปัจจุบันซึ่งมีขีดจำกัดทางกายภาพอยู่ที่ 10Gbps

ก่อนหน้านี้อินเทลเคยโชว์เทคโนโลยี Light Peak ซึ่งทำความเร็วได้ 10Gbps และคนของอินเทลระบุว่าอนาคตจะนำสองเทคโนโลยีนี้มารวมกัน

Blizzard (ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเกม Starcraft 2 Wings of Liberty) ได้ร่วมมือกับบริษัท Razer (หนึ่งในผู้ผลิตสินค้าระดับ High-End สำหรับชาวเกมเมอร์) ส่งอุปกรณ์มาให้เกมเมอร์ทั้งหลายได้ยลโฉม มีด้วยกันทั้งหมด 3 ชิ้น

1. Razer Spectre StarCraft 2 Gaming Mouse
น้ำหนักเบา มีปุ่มใช้งานถึง 5 ปุ่มเพื่อการควบคุม นอกจากนั้นยังมีไฟ LED หลากหลายสีสันที่จะปรับเปลี่ยนเวลาเล่นเกม ราคาประมาณ 2,600 บาท

Colorware ได้เปิดให้บริการแต่งสีให้กับ Xbox 360 S โดยให้ผู้ซื้อสามารถเลือกสี Xbox ของตัวเองได้ตามใจชอบ ในราคา 500 เหรียญสหรัฐ (เครื่องเปล่าปกติ 300 เหรียญ) แต่ถ้าใครมี Xbox อยู่แล้ว ก็ส่งเครื่องไปแต่งสีได้เช่นกัน (ลดราคาลงมาเหลือ 175 เหรียญ)

ที่มา: gizmodo

โดยเดสก์ทอปซีรีย์นี้ออกแบบมาโดยคอนเซปต์ "Efficient in form and function" ซึ่งบ่งบอกถึงความสามารถและรูปร่างที่พอเหมาะพอดี คือขนาดเล็กแต่ก็ไม่ได้เล็กจนเกินไปและมาพร้อมสเปคระดับพอประมาณ สามารถเลือกได้โดย

• CPU - Athlon II, Phenom II, Core i3 or Pentium E6600
• GPU - ATI HD 5450, NVIDIA GeForce 9200 หรือ integrated Intel graphics
• RAM - 4 GB
• HDD - เลือกได้ถึง 640 GB สำหรับรุ่น M3 และ ได้ถึง 1 TB สำหรับรุ่น X3
• Port - พอร์ต USB เพิ่มได้ถึง 11 พอร์ต

วางจำหน่ายแล้วตามผู้จัดจำหน่ายทั่วไป เริ่มต้นที่ $449.99 (ประมาณ 15300 บาท)

หลังจากได้รับการยืนยันแล้วว่า กระจกหน้าของ iPhone 4 แตกได้ แต่ประเด็นเรื่อง "การเป็นรอย" นั้นก็ยังคลุมเคลืออยู่ จนกระทั่งตอนนี้ก็ได้รับการยืนยันจากทาง Engadget แล้ว ว่ากระจกด้านหลังของ iPhone 4 สามารถเป็นรอยได้

โดยรอยขนแมวที่เกิดขึ้นนี้ จะมองเห็นได้ยากในสภาวะทั่วไป แต่ถ้านำไปส่องกับแหล่งกำเนิดแสงแล้วก็จะสามารถเห็นได้ชัดเจนเลยครับ

ที่มา: Engadget

ท่าทางจะต้องพึ่ง invisibleSHIELD กันต่อไปแล้วหละสิ ^^"

หลังจากการอัพเกรดอย่างเงียบๆ ของ Mac Mini เมื่อไม่กี่วันก่อน ตอนนี้ทาง iFixit ก็ได้ทำการชำแหละ Mac Mini เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ภาพบางส่วนดูได้หลังเบรก ขั้นตอนการชำแหละดูจากลิงก์ iFixit ครับ

ที่มา: iFixit ผ่าน Engadget

แอปเปิลโฆษณาว่ากระจกอันใหม่ของ iPhone 4 แข็งกว่าพลาสติกถึง 30 เท่า แต่นั่นอาจปกป้องได้เฉพาะรอยขีดข่วนเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น เพราะเว็บไซต์ iFixYouri ทดสอบแล้ว มันยังแตกได้อยู่ดี

iFixYouri บอกว่าตอนแอปเปิลออก iPhone 3GS ก็พูดเรื่องกระจกหน้าจอแข็งแรงขึ้นเช่นกัน (ผลคือมีคนทำแตกไปไม่น้อย) และแอปเปิลออกวิดีโอ "งอ" หน้าจอของ iPhone 4 ก็ไม่มีประโยชน์เท่าไรนัก เพราะในสถานการณ์จริงเรามักเจอการกระแทกแบบแรงๆ เร็วๆ มากกว่า ซึ่ง iFixYouri บอกว่า 95% ของกระจกที่แตกมักมาจากสาเหตุนี้

ที่งาน Computex ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของโลกที่ไม่ใช่สาย x86 อันประกอบด้วย ARM, Freescale, IBM, Samsung, ST-Ericsson และ Texas Instruments ได้ร่วมกันแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ Linaro ซึ่งเป็นการผลักดันให้ลินุกซ์ทำงานบนอุปกรณ์ชนิดใหม่ๆ (ที่ไม่ใช่ x86) ได้ดีขึ้น

Linaro จะมีสภาพทางกฎหมายเป็นบริษัทแบบไม่หวังผลกำไร จดทะเบียนในอังกฤษ มีพนักงานเริ่มต้น 25 คน และมีเงินสนับสนุนหลักหลายสิบล้านดอลลาร์ โดยจะลงทุนในโครงการโอเพนซอร์สต่างๆ ที่เป็นประโยชน์กับอุปกรณ์จำพวก SoC และจะออกดิสโทรรวมความคืบหน้าทุก 6 เดือน โดยชุดแรกจะออกเดือนพฤศจิกายน 2010 โดยเน้นซีพียูตระกูล ARM Cortex-A

หลังจาก Cisco ซื้อบริษัท Pure Digital ผู้ผลิตกล้องวิดีโอพกพา Flip ซึ่งมีชื่อเสียงเรื่องใช้ง่าย เวลาผ่านมาหนึ่งปี เราเริ่มเห็นผลงานของทีม Flip เมื่อยามต้องอยู่ใต้ยักษ์ใหญ่อย่าง Cisco แล้ว

ทีมงาน Flip นำความถนัดเรื่องการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้ใช้ง่าย มาผสมกับความเข้มแข็งของ Cisco ในตลาดอุปกรณ์เครือข่าย ออกมาเป็น Valet เราเตอร์สำหรับผู้ใช้ตามบ้าน ที่มีจุดขายคือตัดปัญหาการเซ็ตระบบเครือข่ายออกไป

หลังพลาดท่า ปล่อยให้คู่แข่งอย่าง ATI ออก Radeon HD 5870 เป็นการ์ดจอ DirectX 11 ตัวแรกไปเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ทางยักษ์เขียว NVIDIA ก็ประสบปัญหาในการผลิต "Fermi" หน่วยประมวลผลกราฟิกสถาปัตยกรรมใหม่ จนต้องเลื่อนวันวางขายมาเป็นปี 2010 ส่งผลให้ ATI ครองความเป็นเจ้าแห่งการ์ดจอมาได้ยาวกว่าปกติถึง 6 เดือน (นานๆ จะทำได้สักที)

ถ้าเครื่องของคุณไม่แรงพอที่จะเปิดกราฟิกให้สุดๆ เท่าที่หวังจริงๆ เมนบอร์ด W555 จาก EVGA อาจจะทำให้หลายๆ คนกลับไปใช้เครื่องเดสก์ทอปอีกครั้งได้ เพราะเมนบอร์ดตัวนี้รองรับการ์ด PCIe ถึง 7 ช่อง

เมนบอร์ดตัวนี้รองรับซ็อกเก็ต LGA1366 ถึงสองซ็อกเก็ต แต่เพราะเหตุนี้ถ้าจะใส่ซีพียูทั้งสองช่องจะต้องใช้ชิป Xeon ราคาแพงเท่านั้นเพราะ Core i7 นั้นมี QPI เพียงหนึ่งชุดไว้ต่อกับเมนบอร์ด ขณะที่ Xeon มีสองชุดเพื่อต่อกันเองระหว่างซีพียู

PCIe x16 ทั้ง 7 ช่องไม่สามารถทำงานเต็มที่ได้พร้อมกันโดยมีให้เลือกสองแบบคือ x16 รองรับได้ 5 ช่องคือ 1, 3, 5, 7 หรือจะใส่การ์ด x8 จำนวน 6 ใบและการ์ด x16 ในช่องที่ 7 และเนื่องจากเป็นชิป nForce ทำให้เลือกใช้การต่อขนานแบบ SLI หรือ CrossFire ก็ได้

โครงการ Open-PC ภายใต้สโลแกน "From the community, for the community" ประกาศเปิดตัว PC รุ่นแรก ปลายเดือนกุมภาพันธ์ ส่วนราคานั้นอยู่ที่ 359 เหรียญ หรือประมาณ 12,000 บาท ภายใต้รหัส mini-ITX คุณสมบัติ ประหยัดพลังงาน, ใช้ง่าย, อัพเกรดง่าย และที่สำคัญ ฮาร์ดแวร์ที่นำมาใช้นั้นไดร์เวอร์จะต้องเป็น free software

และแน่นอนที่สุด ระบบปฏิบัติการต้องเป็น Linux ใช้ desktop แบบ KDE (อ่านว่า"เคเด้") (บังคับบริจาค 10 เหรียญเข้าโครงการ KDE) เรื่องการออกแบบกับเรื่องราคานั้นใช้การโหวตจากคอมมูนิตี้ เพื่อให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้มากที่สุด

สเปคคร่าวๆก็คือ CPU 1.6 GHz dual-core, RAM 3 GB, HDD 160 GB, Graphic Card Intel 950 graphics

ครบสิบปีหลังจากเข้าสหัสวรรษใหม่ ช่วงนี้เลยได้อ่านเหล่า 10 อันดับกันมากหน่อย ทาง X-bit labs ก็ไม่ยอมตกกระแส รวบรวมเหล่าเทคโนโลยีต่างๆ ที่ล้มเหลวในช่วง 10 ปีที่ผ่านให้ดูกันครับ

เว็บไซต์ IBTimes ของอังกฤษได้เปิดเผยสเปกของเน็ตบุ๊กที่กูเกิลจะวางขายโดยใช้ Chrome OS เป็นระบบปฏิบัติการ

• ซีพียูจะเป็น ARM
• ใช้ชิปเซ็ต NVIDIA Tegra
• จอ 10.1" แบบ TFT เป็น HD-ready และมีมัลติทัช
• 64GB SSD
• Ram 2GB
• อุปกรณ์เสริมอื่นๆ ครบครัน เช่น Wi-Fi, 3G, Bluetooth, Ethernet, USB, webcam, 3.5mm audio jack, multi-card reader
• พรีโหลดโปรแกรมของกูเกิลทุกตัว เช่น Gmail, Google Maps, Google Docs ฯลฯ

กำหนดวางขายปลายปี 2010 ราคาจะขายต่ำกว่าทุนโดยคิดรวมกับค่าเครือข่ายรายเดือน (ราคาทุนน่าจะอยู่ต่ำกว่า 300 ดอลลาร์) แต่กูเกิลจะเป็นคนขายเอง โดยรวมแล้วด้วยสเปกและวิธีการขายจะชนกับ Nokia Booklet 3G แน่นอน

ไม่ว่าฮาร์ดดิสก์ในจะราคาถูกลงเร็วแค่ไหน แต่เราคงเห็นกันว่าอนาคตนั้น SSD จะเข้ามาแทนที่อย่างแน่นอน ด้วยความเร็วที่ทิ้งห่างไปเรื่อยๆ และราคาที่ลงมาจับต้องได้ วันนี้สัญญาณที่ชัดเจนอีกอย่างหนึ่งก็มาถึงเมื่อ Seagate ผู้ผลิตฮาร์ดดิสก์รายใหญ่ได้ประกาศสายการผลิต Pulsar SSD ออกมาแล้ว

Pulsar จะออกมาพร้อมกันสามขนาดคือ 50GB, 100GB และ 200GB ทั้งหมดเป็นแบบ 2.5" แต่เน้นการใช้งานในระดับองค์กรเป็นหลัก เนื่องจากใช้เทคโนโลยี SLC ที่มีต้นทุนแพงกว่าแบบ MLC ที่ใช้งานใน SSD ของ Intel

อินเทลปล่อยให้เราใช้ซีพียู Atom รหัส Diamondville กันมาเกือบสองปี (Diamondville ออกวางขายช่วงต้นปี 2008) แม้ว่ามีข่าวของซีพียูรหัส Pineview ออกมาเรื่อยๆ แต่ก็ไม่ขายจริงเสียที ตอนนี้ได้ฤกษ์แล้วครับ

ผู้ผลิตเน็ตบุ๊กหลายรายอันประกอบด้วย ASUS, MSI, Acer และ Lenovo เตรียมวางขายเน็ตบุ๊กที่ใช้ Atom N450 "Pineview" ซึ่งอยู่บนแพลตฟอร์ม "Pine Trail" ในวันที่ 11 มกราคม 2010 ซึ่งถือเป็นวันที่อินเทลอนุญาตให้ขาย Pineview ได้แล้ว

ในเดือนมีนาคม อินเทลยังจะปล่อย Atom N470 ซึ่งเป็นซีพียูระดับสูงของสาย Pineview ด้วยเช่นกัน ส่วนระบบปฏิบัติการจะมีให้เลือกทั้ง XP, Linux และ Windows 7 Starter ซึ่งอย่างหลังน่าจะได้รับความนิยมจากผู้ผลิตมากที่สุด

ขณะที่ความเร็วของฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนนั้นทำความเร็วตามหลังบัสที่ใช้เชื่อมต่อมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ฟาก SSD นั้นกลับทำความเร็วนำหน้ามาได้ระยะหนึ่งแล้ว เช่น Intel X-25M นั้นสามารถทำความเร็วเต็มเส้น SATA-II ได้ ทำให้เกิดคอขวดใหม่ แต่ Micron RealSSD ที่เปิดตัวออกมาก็เป็นการเปิดตัว ครั้งแรกของ SSD ที่รองรับ SATA 6Gb/s

ความเร็วที่ทาง Micron อ้างนั้นคือ 355MB/s สำหรับการอ่าน และ 215MB/s สำหรับการเขียน และได้คะแนน 45,000 คะแนนจาก HDD Suite จะออกมาสองรุ่นคือ 128GB และ 256GB

ราคาไม่แจ้ง แต่ออกต้นปีหน้า ระวังค่าการ์ด SATA 6Gb/s ที่ต้องซื้อใหม่กันด้วย

ที่มา - Hot Hardware

คุณ Linus Upson ผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรมของเบราว์เซอร์ Chrome และระบบปฏิบัติการ Chrome OS ได้กล่าวกับทาง C|Net ว่า ปัญหาการสนับสนุนฮาร์ดแวร์ถือเป็นเรื่องที่สร้างความน่าปวดหัวให้กับหลายระบบปฏิบัติการในปัจจุบัน ดังนั้นทีมพัฒนาจึงได้ให้ความสนใจเป็นพิเศษในประเด็นดังกล่าว เพื่อให้มั่นใจว่า Chrome OS จะทำงานกับฮาร์ดแวร์ของผู้ใช้ได้อย่างดี

แม้จะเงียบไปนานให้วิตกเล็กน้อย แต่ VIA ก็กลับมาอีกครั้งด้วยการเปิดตัวแพลตฟอร์ม Mobile-ITX ที่มาขนาดเพียง 6x6 เซนติเมตร

ตัวบอร์ดมีเพียงซีพียู, หน่วยความจำ, และชิปเซ็ตต่างๆ เท่านั้น ไม่มีพอร์ด I/O อยู่เลยนอกจากสล็อตเฉพาะที่ไว้ต่อเข้ากับบอร์ด I/O ที่ขายแยกต่างหาก หรือง่ายๆ ว่ามันคือการรวมเอาหน่วยความจำและชิปเซ็ตไปวางบนบอร์ดพีซีบี แล้วให้มาตรฐานในการวางพอร์ตต่างๆ นั่นเอง

ที่น่าสนใจคือตัวบอร์ดต้องการไฟ 5V เพียงเส้นเดียวเท่านั้น

ปรกติแล้วอินเทลเป็นบริษัทหนึ่งที่หวงผลทดสอบชิปที่ยังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการมาก เช่น งาน Blogger Day ปีที่แล้วทำอะไรกับเครื่องไม่ได้เลยแม้แต่เอาไฟล์หนังไปลองเล่น แต่อยู่ดีๆ เว็บ PCLab.pl ก็ตีพิมพ์ผลการทดสอบชิป Gulftown ที่น่าจะเปิดตัวในชื่อ Core i9 ออกมาแบบเต็มๆ

บทสรุปง่ายๆ สำหรับการทดสอบคือเมื่อทำงานที่ 2.8GHz เท่าๆ กับ Core i7 นั้น Gulftown สามารถทำคะแนนได้ดีกว่าแทบทุกๆ ด้าน ขณะที่การกินพลังงานอยู่ในระดับเดียวกัน

Cell ที่เป็นซีพียูพลังสูงที่ถูกนำไปใช้ในเครื่องเล่นเกมอย่าง PS3 อาจจะกำลังหายไปจากตลาดเร็วกว่าที่คิด เมื่อ IBM ออกมายอมรับว่ามีการยกเลิกแผนการอัพเกรดสายการผลิตของ Cell

การยกเลิกแผนการอัพเกรดไม่ได้หมายความว่า IBM จะเลิกผลิต Cell ไปทีเดียว อย่างไรก็ตามข่าวนี้ทำให้ซีพียู Cell ตกอยู่ในความไม่แน่นอนอีกครั้ง และความเป็นไปได้ว่า Cell จะหายไปจากตลาดก็มีสูงขึ้น

Cell รุ่นต่อไปที่กำลังอยู่ในการพัฒนานั้นจะมีคอร์หลักเป็น Power เป็นสองคอร์ และมีหน่วยประมวลผล SPE อยู่ถึง 32 ชุด เทียบกับ Cell ใน PS3 ที่มี Power คอร์เดียว และ SPE อีก 8 ชุด (ใช้เลเซอร์ปิดการทำงานไปหนึ่งชุดเหลือ 7)

ใครเป็นคอคอมพิวเตอร์มากกว่า 3-4 ปีน่าจะเคยได้ยินชื่อการ์ดจอยี่ห้อ Elsa มากันบ้างนะครับ แต่หลังจากนี้เราคงจะพบชื่อ Elsa บนหลอดไฟ LED แทน หลังมีรายงานข่าวว่าบริษัทจะเปลี่ยนสายการผลิตไปเป็นการผลิตหลอดไฟ LED ซะแล้ว

DIGITIMES อ้างจากแหล่งข่าวว่า Elsa ได้เพิ่มสายการผลิตหลอดไฟ LED มาระยะหนึ่งแล้วโดยเน้นทำตลาดประเทศจีนเป็นหลัก ซึ่งก็สอดคล้องกับข้อมูลบนหน้าเว็บไซต์ของบริษัทเอง อย่างไรก็ตาม Elsa ยังจะคงผลิตการ์ดจอต่อไปซึ่งจะเน้นตลาดประเทศจีนเช่นกัน และยังมีการผลิต netbook (Elsa Pal Book II) ที่มุ่งตลาดผู้ใช้ทั่วไปอีกด้วย

NVIDIA ประกาศหยุดพักการผลิตชิปเซ็ตแบรนด์ nForce เป็นการชั่วคราว เหตุผลที่ NVIDIA อ้างไม่ใช่เรื่องยอดขาย แต่เป็นประเด็นด้านกฎหมายที่ขัดแย้งกับอินเทล

NVIDIA นั้นเซ็นสัญญาเพื่อขอใช้สิทธิบัตรต่างๆ ของอินเทล แต่อินเทลบอกว่าข้อตกลงนี้ไม่ครอบคลุมถึงฮาร์ดแวร์ในสถาปัตยกรรม Nehalem ซึ่ง NVIDIA ก็มีมุมมองตรงกันข้ามว่าข้อตกลงเดิมยังใช้ได้ สองบริษัทนี้คงต้องสู้กันในเรื่องนี้กันอีกนาน แต่ระหว่างนั้นเพื่อป้องกันอินเทลฟ้อง ทาง NVIDIA เลยยกเลิกการผลิต nForce รุ่นใหม่ๆ ไปชั่วคราว สิทธิบัตรตัวเจ้าปัญหาคือ DMI (Direct Media Interface) ซึ่งเป็นบัสที่อินเทลใช้เชื่อมข้อมูลระหว่างนอร์ธบริดจ์กับเซาธ์บริดจ์ในชิปเซ็ต