Tags:
Node Thumbnail

เว็บไซต์ Forbes รายงานว่า Facebook กำลังจะรุกเข้ามายังตลาดสื่อ โดยชักชวนสำนักข่าวและหนังสือพิมพ์ต่างๆ มาสร้างแอพของตัวเองบนแพลตฟอร์มของ Facebook

ตามข่าวระบุว่ามีสำนักข่าวประมาณ "สิบกว่าราย" เข้าร่วม ที่ระบุชื่อได้แก่ CNN, The Washington Post และ The Daily ส่วนหนังสือพิมพ์ชื่อดังอย่าง The New York Times ได้เจรจามาบ้างแต่ยังไม่สำเร็จ

แอพหนังสือพิมพ์เหล่านี้จะถูกเรียกว่า "Facebook editions" และจะคิดเงินค่าสมาชิก ซึ่งรายได้จะต้องแบ่งให้ Facebook ด้วย บริการนี้น่าจะเริ่มประมาณเดือนกันยายนนี้

ที่มา - Forbes

Tags:
Node Thumbnail

มีข่าวว่าผู้ถือหุ้น Hulu บริการดูรายการทีวีผ่านเน็ตที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในสหรัฐ เตรียมขายกิจการให้บริษัทสักแห่งที่ยังไม่ระบุนาม

Hulu เป็นบริการที่ร่วมลงขันกันโดยสื่อใหญ่ของสหรัฐอเมริกา 3 รายคือ Disney, NBC Universal และ Fox (ซึ่ง Fox มี News Corp เป็นเจ้าของอีกทีหนึ่ง) ตัวบริการได้รับความนิยมสูง แต่ก็มีปัญหาเรื่องรายได้ไม่เข้าเป้า, ปัญหาการขอสิทธินำเนื้อหามาฉายบน Hulu, สื่อสามเจ้าทะเลาะกันเองว่าควรดำเนินธุรกิจ Hulu อย่างไร และปัญหาเรื่องคนหนีไปดูรายการทีวีบน Hulu จนทีวีแบบปกติรายได้ตกลง

Tags:
Node Thumbnail

มีรายงานว่าถ้าใช้ Safari บน iPad เข้าเว็บของหนังสือพิมพ์ The New York Post จะไม่สามารถเข้าไปอ่านเนื้อหาในเว็บได้ และพบกับหน้า redirect ให้ดาวน์โหลดแอพของ The New York Post แทน (แอพโหลดฟรีแต่ต้องเสียค่าสมาชิก 6.99 ดอลลาร์ต่อเดือน)

นโยบายนี้ของหนังสือพิมพ์ The New York Post สร้างความไม่พอใจแก่ผู้อ่านพอสมควร อย่างไรก็ตาม ในวงการสิ่งพิมพ์เองก็กำลังพัฒนาระบบ paywall (จ่ายเงินเพื่ออ่านเนื้อหา) เพื่อชดเชยรายได้จากสื่อกระดาษที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง

การแก้ปัญหาทางเทคนิคอาจไม่ใช่เรื่องยาก (เช่น เปลี่ยนเบราว์เซอร์) แต่ก็น่าสนใจว่าในอนาคตจะมีเว็บไซต์หนังสือพิมพ์ไหนเดินรอยตาม The New York Post อีกหรือไม่

Tags:

เป็นอีกข่าวที่ต้องจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ แต่เราก็เห็นกันจนชินตา ก่อนหน้านี้ในร้านค้าออนไลน์ของ Amazon ก็เคยเกิดเหตุการณ์ทำนองนี้มาแล้ว (ข่าวเก่า) แต่ล่าสุดจากการสำรวจตลาดหนังสือทั้งหมดในสหรัฐฯ ก็ทำให้พบปรากฏการณ์เช่นนี้อีกครั้ง

Tags:
Node Thumbnail

Youtube เพิ่งเปิดบริการใหม่ในชื่อ Youtube Live ที่เพิ่มคุณสมบัติให้สมาชิกสามารถถ่ายทอดสดด้วยตัวเองบน YouTube โดยในช่วงแรกจะเปิดให้ใช้งานได้เฉพาะกลุ่มสมาชิกที่มีศักยภาพพอที่จะทำรายการได้ดีในระดับหนึ่งก่อน ส่วนฟีเจอร์สำหรับผู้ชมในช่วงแรกมีเพียงการ subscribe รายการที่ชอบเพื่อให้แจ้งเตือนเมื่อจะมีการถ่ายทอดสด และเลือกเตือนทีละวิดีโอ โดยสามารถเพิ่มเข้าไปได้สามช่องทางคือ Google Calendar, MS Outlook และ iCal ซึ่งแน่นอนว่ารายการดังกล่าวสามารถดูย้อนหลังได้

Tags:
Node Thumbnail

หลายๆ คนอาจจะจำ Kno แท็บเล็ตจอคู่ที่มุ่งตลาดตำราเรียนดิจิทัล ซึ่งภายหลังไปไม่รอดในฝั่งฮาร์ดแวร์ และหันมาเน้นที่ซอฟต์แวร์แทน

ล่าสุดมีข่าววงในออกมาว่า Kno จะได้รับเงินลงทุนอีก 30 ล้านดอลลาร์จากแผนกลงทุนของอินเทล และคาดว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในสัปดาห์หน้า

Kno เคยได้เงินลงทุนมาแล้ว 65 ล้านดอลลาร์ การได้มาอีก 30 ล้านดอลลาร์จากอินเทลก็ถือว่าไม่ธรรมดาสำหรับบริษัทที่ยังไม่มีผลิตภัณฑ์เป็นชิ้นเป็นอันอย่างนี้

ที่มา - BusinessWeek

Tags:
Node Thumbnail

แนวทางของ YouTube ชัดเจนมาตลอดว่าจะรับเฉพาะวิดีโอที่สมาชิกส่งเข้ามา (ส่วนจะละเมิดลิขสิทธิ์หรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง) แต่จะไม่จ่ายเงิ่นซื้อรายการดังๆ มาขึ้นเว็บ ในลักษณะเดียวกับที่ Netflix/Hulu ทำอยู่

ผลก็คือคนเข้า YouTube เยอะตามจำนวนวิดีโอที่มีอยู่ แต่เวลาเฉลี่ยที่ดูวิดีโอบน YouTube สั้นมาก (2 ชม. 11 นาทีต่อเดือน) ในขณะที่คู่แข่งอย่าง Netflix แม้จะมีผู้ชมจำนวนน้อยกว่า แต่กลับดูวิดีโอนานถึง 9 ชม. 16 นาทีต่อเดือน ระยะเวลาที่ผู้ใช้ดูวิดีโอนั้นสะท้อนกับอัตราการลงโฆษณาซึ่งเป็นรายได้หลักของ YouTube ด้วย

ทางออกของ YouTube จึงเป็นการสร้าง "ช่องรายการ" ของตัวเองขึ้นมา ซึ่งกูเกิลคงประเมินแล้วว่ามีค่าใช้จ่ายถูกกว่าการซื้อสิทธิรายการมาฉายบนเว็บ

Tags:
Node Thumbnail

หลังจาก Warner Bros. นำร่อง "เช่าหนังบน Facebook" ด้วย The Dark Knight ไปแล้ว บริษัทก็เดินหน้าต่อโดยเพิ่มภาพยนตร์อีก 5 เรื่อง ได้แก่ "Harry Potter and the Sorcerer's Stone," "Harry Potter and the Chamber of Secrets," "Inception," "Life as We Know It" และ "Yogi Bear"

การเช่าหนังของ Warner Bros. ยังเปิดบริการเฉพาะในสหรัฐ ขั้นตอนการใช้งานคือกดเข้าไปที่ Page ของ Warner Bros. Entertainment จ่ายเงินเป็น Facebook Credit แล้วดูได้จากหน้าเว็บเลย ภาพยนตร์จะดูได้ไม่จำกัดภายใน 48 ชั่วโมงหลังจ่ายเงิน

Tags:

เรารู้กันมานานมากแล้วว่าสักวัน Android Market จะต้องขายหนัง เพลง หนังสือ ฯลฯ แบบเดียวกับ iTunes Store เพียงแต่ไม่รู้ว่าเมื่อไรเท่านั้น (กูเกิลเองก็เคยนำ Music Store มาโชว์ด้วยซ้ำ)

แต่ล่าสุดมีคนพบลิงก์บนหน้าเว็บของ Android Market ดังนี้

  • http://market.android.com/music
  • http://market.android.com/movies
  • http://market.android.com/books

Engadget รายงานว่าหน้า /books เข้าได้และมีรายการหนังสือให้เลือกแล้ว แต่พอข่าวออกไป กูเกิลก็นำลิงก์เหล่านี้ลงเช่นกัน นี่เป็นสัญญาณว่าจะเปิดตัวเร็วๆ นี้?

Tags:
Node Thumbnail

ถ้ายังจำกันได้ เมื่อครั้งที่ Safari 5 ออกและมีฟีเจอร์ช่วยจัดหน้าข้อความชื่อ Safari Reader โค้ดส่วนนี้เอามาจากโปรแกรม Readability ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ส

ภายหลัง Readability ได้ปรับธุรกิจของตัวเอง โดยสร้างแอพบน iPad/iPhone แบบเก็บค่าสมาชิก และอาศัยจุดขายว่าผู้ใช้แอพตัวนี้ "ชอบอ่าน" เนื้อความที่เป็นข้อความ จูงใจให้สำนักพิมพ์และเจ้าของเนื้อหาส่งเนื้อหาเข้ามาเผยแพร่ โดยคิดค่าหัวคิว 30% จากค่าสมาชิก

Tags:
Node Thumbnail

จากข่าวก่อนหน้านี้ โซนี่อาจถอนตัวออกจาก iTunes Store เหตุเพราะเปิดบริการเพลง-เกมของตัวเอง ล่าสุดโซนี่ออกมาแก้ข่าวแล้ว

Brandon Layden ผู้บริหารของ Sony Network Entertainment ออกมาให้ข่าวสั้นๆ ว่า Sony Music ไม่มีแผนจะถอนตัวจาก iTunes ซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่บนโลกดิจิทัล ข่าวที่ออกมาน่าจะเป็นเพราะผู้ให้สัมภาษณ์พูดไม่ชัดเจนเอง หรือนักข่าวเอาคำพูดเฉพาะบางส่วนไปรายงานมากกว่า

ข่าวนี้มีหมายเหตุนิดนึงตรงที่ Brandon Layden ไม่ได้ทำงานกับ Sony Music โดยตรง แต่เป็นผู้ดูแลบริการ Sony Music Unlimited

ที่มา - Business Insider

Tags:
Node Thumbnail

ช่วงนี้วงการภาพยนตร์ทดลองอะไรแปลกๆ กับอุปกรณ์พกพาแบบใหม่ๆ กันเยอะ ก่อนหน้านี้เราเพิ่งมี Unstoppable ภาพยนตร์บลูเรย์เรื่องแรกที่ดูบน Android ได้ด้วย คราวนี้เป็นคิวของสตูดิโอ Warner Bros. กันบ้าง

บริษัทลูกของเครือ Warner Bros. ที่ชื่อ Warner Bros. Digital Distribution (WBDD) เริ่มทดลองขายภาพยนตร์ดังอย่าง Inception และ The Dark Knight ในรูปแอพบน iPhone/iPad/iPod โดยแอพจะใช้ชื่อว่า Inception: App Edition และ The Dark Knight: App Edition มีให้โหลดบน App Store แล้ว

Tags:
Node Thumbnail

ไม่รู้ว่าบังเอิญหรือจงใจกันแน่ แต่ขณะที่แอปเปิลกำลังถูกรุมจากกรณีหักค่าสมัครสมาชิก 30% กูเกิลก็ประกาศ One Pass ระบบแบบเดียวกันที่ไม่เสียค่าหัวคิว (แต่ผูกกับ Google Checkout ก็เสีย 2% ตรงนั้นตามปกติ) อัพเดต ในเว็บของกูเกิลไม่ได้ระบุไว้ แต่โฆษกของกูเกิลบอกว่าจะหักค่าหัวคิวประมาณ 10% ไม่รวมค่าธรรมเนียมของ Checkout (AdAge)

Google One Pass ไม่ได้เจาะจงว่าใช้ได้เฉพาะ Android เท่านั้น สามารถใช้กับสิ่งพิมพ์บนเว็บได้ด้วย สำนักพิมพ์สามารถขายได้ทั้งเนื้อหาเป็นเล่ม หรือสมัครสมาชิกตามระยะเวลาที่กำหนดก็ได้ ที่สำคัญ One Pass ยังรองรับระบบสมาชิกแบบเก่าของสำนักพิมพ์ ดังนั้นถ้าสำนักพิมพ์อนุญาต สมาชิกเก่าก็สามารถล็อกอินผ่าน One Pass เพื่ออ่านเนื้อหาแบบดิจิทัลได้เลย

Tags:
Node Thumbnail

ทุกคนเก็งเรื่องนี้กันมานานและในที่สุดมันก็มา (จริงๆ มาก่อนแล้วใน The Daily)

แอปเปิลเปิดบริการสมัครสมาชิก (subscription) ของแอพใน iTunes Store แล้ว โดยเจ้าของแอพพวกนิตยสารหรือหนังสือพิมพ์สามารถเลือกระยะเวลาที่ต้องการ (เช่น รายวัน รายสัปดาห์ รายปักษ์) และเพิ่ม API ที่ผู้ใช้แอพสามารถจ่ายเงินเพื่อสมัครสมาชิกได้จากตัวแอพเลย วิธีการคิดเงินก็หักจากบัญชี iTunes ตามปกติ และแอปเปิลก็หักค่าหัวคิว 30% เหมือนกับการขายแอพ

แต่จุดที่เป็นประเด็นถกเถียงคือเงื่อนไขเพิ่มเติมของแอปเปิลบังคับว่า

Tags:
Node Thumbnail

โซนี่ส่งสัญญาณบอกใบ้ว่าอาจเลิกขายเพลงของ Sony Music บน iTunes Store และเราคงไม่ได้เห็นเกมจาก Sony Computer Entertainment บน iPhone

เหตุผลก็คือโซนี่เริ่มเปิดบริการขายเนื้อหาออนไลน์ของตัวเอง ในส่วนของเพลงคือ Music Unlimited powered by Qriocity ที่เริ่มบริการในยุโรปแล้ว และใช้ได้กับอุปกรณ์ของโซนี่ทุกชนิด ตั้งแต่ทีวี มือถือ PSP ไปจนถึงเครื่องเล่นบลูเรย์ ส่วนของเกมก็คือ PlayStation Suite ที่เพิ่งประกาศไปไม่นานนี้

Tags:
Node Thumbnail

ยาฮูร่วมกระแสแมกกาซีนดิจิทัลบนแท็บเล็ต โชว์โปรแกรม "Livestand from Yahoo!" สำหรับอ่านเนื้อหาจากสำนักพิมพ์หลายเจ้า รวมถึงเนื้อหาจากยาฮูเอง (ตามข่าวบอกว่า Yahoo! Sports, Yahoo! News, Yahoo! Finance, Flickr, omg!)

ยาฮูบอกว่า Livestand จะเลือกเนื้อหาให้เหมาะสมกับความสนใจของผู้อ่าน รวมถึงเวลาและสถานที่อ่าน มีอินเทอร์เฟซที่สวยงามเหมาะกับจอสัมผัส ตอนนี้ Livestand ยังมีแต่ภาพและคำโฆษณา (เข้าไปดูได้ที่ Livestand from Yahoo!) เท่าที่ดูจากภาพที่ออกมาก็คล้ายๆ แมกกาซีนบนแท็บเล็ตจากค่ายอื่น แต่มีหมวดหมู่ของเนื้อหาให้เลือกจำนวนหนึ่ง

Livestand จะออกบน iPad และ Android ภายในครึ่งแรกของปีนี้ รายละเอียดเพิ่มเติมจะแถลงใน Mobile World Congress ครับ

Tags:
Node Thumbnail

ผลสำรวจจากบริษัท Knowledge Networks ระบุว่าผู้ใช้ iPad จำนวน 86% ตอบว่ายินดีจะ "ดูโฆษณา" เพื่อแลกกับการเข้าถึงเนื้อหาต่างๆ แบบไม่ต้องเสียเงิน

ผู้ใช้ 13% ตอบว่ายินดีจะเสียเงินเพื่อดูรายการทีวีหรืออ่านนิตยสารที่ตัวเองมีอยู่แล้วบนสื่ออื่น และราคาที่ยินดีจ่ายอยู่ที่ 2.60 ดอลลาร์ต่อเนื้อหาหนึ่งชิ้น

นอกจากนี้ยังมีข้อมูลว่าจำนวนแอพเฉลี่ยที่ผู้ใช้ดาวน์โหลดมาคือ 24 ตัว ซึ่งเป็นแอพแบบเสียเงิน 6 ตัว

ที่มา - Mobile Marketing Watch

Tags:
Node Thumbnail

หนังสือพิมพ์ Wall Street Journal รายงานข่าววงในว่ากูเกิลกำลังเจรจากับสำนักพิมพ์หลายแห่ง เพื่อชวนมาขายนิตยสารดิจิทัลบน Android

แพลตฟอร์มสื่อดิจิทัลลักษณะนี้มีชื่อเรียกว่า "Digital Newsstand" ซึ่งกูเกิลจะจูงใจสำนักพิมพ์โดยหักค่าหัวคิวน้อยกว่าแอปเปิลที่หัก 30% นอกจากนี้ยังจะเปิดเผยข้อมูลผู้ซื้อนิตยสารแก่สำนักพิมพ์เจ้าของเนื้อหา ซึ่งเป็นสิ่งที่แอปเปิลไม่ยอมให้สำนักพิมพ์รู้

ส่วนแอปเปิลเองก็มีข่าวว่าจะยอมให้ผู้อ่านสมัครสมาชิก (subscribe) นิตยสารดิจิทัลได้แล้ว จากเดิมที่ต้องซื้อแยกเป็นฉบับๆ ไป ตลาดนี้ยังมีผู้เล่นรายอื่นอย่าง Amazon และ Barnes & Noble อีกด้วย

Tags:
Node Thumbnail

อุปกรณ์ใหม่ๆ อย่าง iPad เป็นความหวังของสำนักพิมพ์ว่าจะมาช่วยชี้ทางรอดให้กับอุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์ได้ และเมื่อครั้งที่นิตยสาร Wired เปิดตัวเวอร์ชัน iPad สามารถทำยอดขายได้สูงถึง 100,000 เล่ม แต่ตอนนี้สถิติกลับระบุว่านิตยสารที่เปิดตัวเวอร์ชัน iPad ในช่วงกลางๆ ปี เริ่มมียอดขายต่อเล่มลดลง

ตัวเลขยอดขายของนิตยสารต่างๆ ได้แก่

Tags:
Node Thumbnail

จากข่าว Richard Branson จะทำนิตยสารบน iPad เหมือนกัน วันนี้มันมาแล้วครับ

นิตยสารดิจิทัลฉบับนี้มีชื่อว่า "Project" (ลิงก์ใน iTunes Store) ออกเป็นรายเดือน คิดราคาฉบับละ 2.99 ดอลลาร์ หัวข้อที่สนใจคือ Design, Entertainment, Technology Entrepreneurs เว็บไซต์ paidContent วิจารณ์ว่ายังใช้ยาก และออกแบบมาสำหรับกระดาษมากกว่า iPad

Branson พูดถึงการแข่งขันกับ The Daily นิตยสารของ News Corp ว่าจริงๆ แล้วไม่ได้แข่งกันโดยตรง แต่เป็นการบุกไปยังโลกอนาคตของสิ่งพิมพ์ด้วยกัน ถ้าจะแข่งคงเป็นเรื่องคุณภาพมากกว่า

Tags:
Node Thumbnail

นิตยสาร Playboy ร่วมกับบริษัท Bondi Digital Publishing นำ Playboy ทุกเล่มตั้งแต่เล่มแรก ฉบับเดือนธันวาคม 1953 จนถึงฉบับเดือนธันวาคม 2009 นับเป็นเวลา 56 ปี 650 ฉบับ และนับเป็นหน้าได้มากกว่า 100,000 หน้า ทำเป็นไฟล์ดิจิทัลและขายในรูปฮาร์ดดิสก์ต่อภายนอก

ฮาร์ดดิสก์มีขนาด 250GB แต่ตัวไฟล์มีแค่ 50GB ทั้งหมดขายราคา 299.99 ดอลลาร์ (ประมาณ 9,000 บาท) ผู้ที่สนใจสั่งเข้าไปดูได้ที่ Playboy Cover to Cover

ก่อนหน้านี้ Bondi Digital Publishing เคยรวมนิตยสาร New Yorker และ Rolling Stone ขายแบบฮาร์ดดิสก์มาก่อนแล้วเช่นกัน

Tags:
Node Thumbnail

ไม่เพียงแต่ News Corp กำลังทำ "หนังสือพิมพ์บน iPad" ชื่อว่า Daily เพียงเจ้าเดียวเท่านั้น แต่ Richard Branson ซีอีโอสุดซ่าของเครือ Virgin Group ก็จะทำสื่อดิจิทัลเช่นกัน

สื่อของ Branson มีชื่อเรียกว่า "Project" ตอนนี้เรายังไม่มีรายละเอียดมากนัก รู้แค่เพียงว่าจะมีเนื้อหาด้านบันเทิง ท่องเที่ยว ธุรกิจ การออกแบบ และวัฒนธรรมนานาชาติ กำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการวันอังคารหน้า

ที่มา - AFP

Tags:
Node Thumbnail

ข่าวเก่าที่ The Beatles เตรียมขายเพลงใน iTunes Store ซึ่งผลจากการวางขายผ่าน iTunes ได้ผลการตอบรับที่ดีเกินคาดครับ เพราะเมื่ออัลบัมของ The Beatles ถูกวางขายได้เพียง 1 สัปดาห์ก็มียอดซื้อ (ผ่านการดาวน์โหลด) มากกว่า 2 ล้านครั้งแล้ว โดยอัลบัมที่ขายดีที่สุดคืออัลบัม "Abbey Road" และเพลงที่มียอดขายมากที่สุดก็คือเพลง "Here Comes the Sun"

ที่มา - Mashable

Tags:
Node Thumbnail

มีข่าวลือว่าเครือสื่อยักษ์ใหญ่ของโลกอย่าง News Corporation กำลังซุ่มทำ "หนังสือพิมพ์" ฉบับแรกบน iPad โดยตรง ไม่มีฉบับกระดาษหรือฉบับเว็บมาก่อนหน้า

หนังสือพิมพ์ฉบับนี้จะใช้ชื่อว่า Daily ยังไม่มีใครรู้แน่ชัดว่ารูปแบบที่แน่ชัดจะเป็นอย่างไร คาดว่าเป็นแอพฯ ตัวหนึ่งบน iPad, ราคาที่มีข่าวรั่วออกมาคือ 99 เซนต์ต่อสัปดาห์, และจะมีเนื้อหาเป็นลูกผสมระหว่างหนังสือพิมพ์ฉบับปกติ (broadsheet) ที่เข้มข้นจริงจัง กับหนังสือพิมพ์แท็บลอยด์ที่เน้นสีสัน

ตามข่าวบอกว่า Daily จะมีบน iPad เท่านั้น และน่าจะเปิดตัววันที่ 9 ธันวาคมนี้ โดยงานเปิดตัวจะมีทั้ง Rupert Murdoch เจ้าของ News Corp. และสตีฟ จ็อบส์ เข้าร่วม

Tags:
Node Thumbnail

ร้านหนังสือจากแดนปลาดิบอย่างคิโนะคุนิยะ ประกาศให้บริการจำหน่ายอีบุ๊กออนไลน์ (ที่มีอยู่เดิมเป็นแบบส่งหนังสือเป็นเล่ม ๆ) ในชื่อ Kinokuniya Shoten BookWebPlus พร้อมรายชื่อหนังสือกว่า 1,200 รายการ ส่วนใหญ่จะเป็นหนังสือจากสำนักพิมพ์ Kobunsha กับ Kodansha ซึ่งเป็นเจ้าของตลาดหนังสือการ์ตูนและนวนิยายญี่ปุ่นชื่อดังมากมาย

คิโนะคุนิยะคาดการณ์ว่าจะเพิ่มจำนวนอีบุ๊กขึ้นเป็น 30,000 รายการในปีถัดมา และต้องการจำหน่ายให้ได้มากกว่า 800,000 รายการ ในแต่ละปี ในขั้นต้นจะรองรับเฉพาะ iPhone กับ iPad ก่อนและจะเปิดตัวสำหรับแพลตฟอร์มอื่น ๆ ตามมาในภายหลัง

ที่มา - Japan Today

Pages