Flipboard บริการอ่านฟีดข่าวและคอนเทนต์ที่นำเสนอในรูปแบบนิตยสาร ประกาศว่าระบบได้ถูกแฮก และสามารถเข้าถึงข้อมูลบัญชีผู้ใช้งานได้ทั้ง ชื่อผู้ใช้งาน, รหัสผ่านที่มีการแฮชไว้ และอีเมล โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วง 2 มิถุนายน 2018 จนถึง 23 มีนาคม 2019 และเกิดขึ้นอีกครั้ง 21-22 เมษายน 2019 ซึ่งเบื้องต้น Flipboard ได้สั่งให้รีเซ็ตรหัสผ่านของบัญชีที่คาดว่ากระทบทั้งหมดแล้ว แต่ไม่ได้บอกว่ามีจำนวนเท่าใด

ส่วนบัญชีจาก 3rd Party ทาง Flipboard บอกว่าไม่พบการเข้าถึงที่ไม่ถูกต้อง แต่ก็ได้รีเซ็ตหรือลบโทเค็นทั้งหมดไปแล้ว

Flipboard ได้เปิดให้เจ้าของคอนเทนต์ทั่วไปสามารถใช้บริการ self-service site สำหรับการส่ง RSS feed เป็นแหล่งข่าวของ Flipboard Magazine ได้ทันที ซึ่งเมื่อคอนเทนต์เข้ามายังระบบของ Flipboard แล้ว ตัวคอนเทนต์จะได้รับการจัดหมวดหมู่, แท็ก และกระจายไปตามหัวข้อของ Flipboard

สำหรับคอนเทนต์บน Flipboard ที่อ่านได้ทันทีจากแพลตฟอร์ม (ไม่ใช่กดแล้วจะไปเข้าเว็บต่อ) จะมีรูปสายฟ้าเล็ก ๆ ปรากฏอยู่ (คล้ายกับ Instant Article ของ Facebook หรือ AMP ของ Google) เมื่อกดเข้าไปแล้วก็จะดาวน์โหลดได้ทันที ซึ่งตอนนี้มีผู้เข้าร่วมแล้วอย่างเช่น The New York Times, Axios และ The Verge

Flipboard แอพอ่านข่าวในสไตล์นิตยสารประกาศหยุดสนับสนุนแพลตฟอร์ม Windows Phone / Windows 10 Mobile และจะไม่สามารถดาวน์โหลดจาก Windows Store ได้อีกต่อไป

เรื่องนี้ได้รับการยืนยันจากทาง Flipboard เอง ในอีเมลตอบคำถามผู้ใช้งาน Windows 10 Mobile โดยผู้จัดการด้านงานสนับสนุนชุมชนของ Flipboard ได้ระบุไว้ว่า "พวกเขาไม่สนับสนุน Windows Phone อีกต่อไป และไม่คิดว่าจะกลับมาสนับสนุนอีกครั้งในเร็วๆ นี้"

อย่างไรก็ตามการถอด Flipboard ออกจาก Windows Store ในขณะนี้ส่งผลแค่เพียงการดาวน์โหลดเพื่อติดตั้งแอพบนสมาร์ทโฟนเท่านั้น สำหรับท่านที่เคยติดตั้งแอพไปแล้วตัวแอพบนมือถือก็ยังคงใช้งานได้อยู่ (ถ้ายังใช้อยู่ก็อย่าเผลอลบแอพล่ะครับ) ส่วนแอพบนพีซีนั้นยังสามารถดาวน์โหลดได้ตามปกติ

Flipboard ได้ออกอัพเดตใหม่ทั้งแอพและเว็บ เรียกว่า Flipboard 4.0 ซึ่งเป็นการปรับปรุงครั้งใหญ่ ตั้งแต่การออกแบบหน้าตาใหม่ ไปจนถึงการคิดใหม่ในด้านการนำเสนอนิตยสารให้กับผู้ใช้ โดยมีฟีเจอร์ชูโรงในการปรับปรุงครั้งนี้คือ Smart Magazine

Smart Magazine คือการที่ Flipboard จะสร้างนิตยสารรวมเรื่องราวที่เลือกมาโดยผู้เชี่ยวชาญ มาเป็นคอลเลคชั่นที่อัพเดตอย่างต่อเนื่อง และสร้างมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ

Zite คือบริการอ่านข่าวแบบเดียวกับ Flipboard ตอนนี้ได้ประกาศว่าบริการจะปิดตัวลงแล้วภายในวันที่ 7 ธันวาคมนี้ และเตือนให้ผู้ใช้ย้ายไปใช้บริการใกล้เคียงกันอย่าง Flipboard ก่อนที่จะถึงวันหยุดการให้บริการ ทั้งทางแอพ Zite และอีเมล

ข้อมูลจากบริการ Zite ที่สามารถนำไปสู่ Flipboard ได้มีทั้งคอนเทนต์และนิตยสาร ผู้ใช้สามารถลงชื่อเข้าใช้ Flipboard และกด Migrate to Flipboard จาก Zite ได้โดยตรง และข้อมูลทั้งหมดก็จะถูกโอนเข้าสู่ Flipboard

ที่มา - VentureBeat

Flipboard ผู้พัฒนาแอพอ่านข่าวสไตล์นิตยสารรายแรกๆ ที่ได้รับความนิยมอย่างมากตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2010 จนมีรายอื่นออกแอพคล้ายกันมาอย่างต่อเนื่อง และถูกคาดการณ์ว่าจะมีอนาคตอันสดใส ล่าสุดเริ่มไม่สู้ดีแล้วหลังจากธุรกิจเริ่มชะลอการเติบโต ประกอบการผู้บริหารทยอยลาออกอย่างต่อเนื่อง

Mike McCue ซีอีโอของ Flipboard ไปขึ้นเวทีงานของเว็บไซต์ VentureBeat และเผยสถิติว่าตอนนี้บริษัทมีผู้ใช้งานจริงต่อเดือน (monthly active users หรือ MAU) ที่ 70 ล้านคนต่อเดือนแล้ว เพิ่มขึ้นอย่างมากจากเดือนกุมภาพันธ์ที่มีผู้ใช้ 40 ล้านคน

เหตุผลที่ทำให้ Flipboard เติบโตอย่างรวดเร็วเกิดจากการเปิดตัวเวอร์ชันเว็บ เพราะก่อนหน้านี้มีแต่เวอร์ชันแอพเท่านั้น ส่วนยอดการติดตั้งแอพก็มีจำนวน 300 ล้านเครื่องแล้ว (บ่งบอกว่าผู้ใช้จำนวนมากมีแอพ Flipboard แต่ไม่ได้เปิดใช้บ่อยๆ)

Mike McCue ซีอีโอ Flipboard ให้สัมภาษณ์กับรายการวิทยุของ BBC โดยพูดถึงประเด็นแอพอ่านข่าว News ซึ่งแอปเปิลเพิ่งเปิดตัวไปพร้อมกับระบบปฏิบัติการ iOS 9 ว่า Flipboard ไม่กังวลกับเรื่องนี้นัก เพราะแอปเปิลแค่เปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่ Flipboard มีให้คนทั่วไปใช้ตั้งแต่ 5 ปีที่แล้ว

เขายังกล่าวต่อไปว่า แม้แอปเปิลจะมีผลิตภัณฑ์ที่ดูแข่งกับ Flipboard โดยตรง แต่ในโลกทุกวันนี้เราก็ไม่สามารถปฏิเสธคู่แข่งได้ เพียงแต่ต้องทำงานร่วมกันและแข่งขันในเวลาเดียว จากนั้นก็สร้างโอกาสต่อยอดที่เหนือกว่าขึ้นมา

Flipboard เปิดตัวในปี 2010 เริ่มด้วยการเป็นแอพอ่านข่าวเฉพาะบน iPad (ปีนั้น iPad เพิ่งเปิดตัว) ก่อตั้งโดย McCue และ Evan Doll อดีตวิศวกร iPhone

เว็บไซต์ Re/code อ้างแหล่งข่าววงในว่า Twitter เคยเจรจาซื้อแอพอ่านข่าว Flipboard เมื่อต้นปีนี้ แต่ยังคุยกันไม่จบ และการเจรจาอาจหยุดไปแล้ว

แหล่งข่าวของ Re/code บอกว่าผู้ที่ผลักดันการเสนอซื้อกิจการครั้งนี้คือ Anthony Noto ซีเอฟโอของ Twitter และการซื้อกิจการจะใช้วิธีแลกหุ้นทั้งหมด

Twitter ถูกวิจารณ์พอสมควรในช่วงหลังว่ามีอัตราการเติบโตต่ำ มีฟีเจอร์ใหม่น้อย ซีอีโอ Dick Costolo ก็ถูกกดดันให้ลงจากตำแหน่งอยู่ตลอด ส่วน Flipboard ถึงแม้จะถูกยกย่องในแง่ผลิตภัณฑ์ที่สวยงาม ใช้ง่าย แต่ช่วงหลังก็มีปัญหาเรื่องฐานผู้ใช้งานไม่ค่อยโตเช่นกัน (โดยเฉพาะช่วงหลังที่หมดสัญญาพรีโหลดกับอุปกรณ์ของซัมซุงแล้ว)

หลังจากอยู่กับแอพมานาน วันนี้ Flipboard แอพอ่านข่าวสไตล์นิตยสารก็เปิดตัวเวอร์ชันเว็บไซต์อย่างเป็นทางการแล้วที่ Flipboard.com

ในการเปิดตัว Flipboard เวอร์ชันเว็บไซต์ครั้งนี้ Mike McCue ซีอีโอของบริษัทออกมาพูดถึง Flipboard เวอร์ชันเว็บไซต์ว่าเป็นจุดหมายเดิมที่ตั้งใจจะไป แต่เทคโนโลยีของเบราว์เซอร์ในตอนนั้นยังไม่พร้อมสำหรับอินเทอร์เฟซของ Flipboard ประกอบกับข่าวลือของแท็บเล็ตในช่วงนั้นทำให้ Flipboard เปิดตัวมาบน iPad เสียก่อนในปี 2010 ล่วงเลยมาสี่ปีเศษ ในที่สุด Flipboard ก็พร้อมสำหรับการใช้งานบนเว็บไซต์เสียที

Flipboard แอพอ่านข่าวสไตล์นิตยสารออกอัพเดตเป็นเวอร์ชัน 3 แล้ว โดยครั้งนี้ Flipboard ได้ยกเครื่องหน้าตาใหม่ทั้งหมดเปลี่ยนเป็น Sticker Interface

หน้าตาใหม่จะทำให้ Flipboard ดูเป็นนิตยสารมากยิ่งขึ้น ส่วนนอกนั้นก็มีฟีเจอร์หลายอย่างที่เกี่ยวกับการสร้างนิตยสารของตนเอง, การอ่านข่าวที่สะดวกสบายขึ้นด้วย The Daily Edition ที่คัดเลือกข่าวพร้อมให้คุณอ่านใน 7 โมงเช้าของทุกวัน ตอนนี้เปิดให้บริการในประเทศสหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร, ประเทศแถบละตินอเมริกา, บราซิล และอินเดีย และตอนนี้ Flipboard มีหัวข้อให้เลือกชมได้กว่า 30,000 หัวข้อ สามารถค้นหา, เพิ่ม หรือลบออกจาก Flipboard ของคุณได้ตามต้องการ

Flipboard แอพอ่านข่าวและเนื้อหาสังคมออนไลน์ที่โดดเด่นด้วยส่วนติดต่อผู้ใช้งานเลียนแบบการเปิดหน้าหนังสือ ได้เพิ่มแอพเวอร์ชันสำหรับ Windows Phone แล้ว

หลังประกาศข่าวว่าจะเข็นแอพลงแพลตฟอร์ม Windows Phone มาตั้งแต่ปีที่แล้ว ตอนนี้ Flipboard ก็ได้ทำตามสัญญาในที่สุด โดย Flipboard เวอร์ชันนี้มีจุดแตกต่างจากเวอร์ชันสำหรับแพลตฟอร์มอื่นก็คือ จะไม่มีอนิเมชั่นการเปลี่ยนหน้าบทความหรือเนื้อหาในลักษณะที่คล้ายการเปิดหน้าหนังสือ (เปิดจากขวาไปซ้าย สำหรับแท็บเล็ต, และเปิดจากบนลงล่างสำหรับใช้ในสมาร์ทโฟน) หากแต่จะแสดงผลแบบสไดล์แทน (คล้ายกับการเลื่อนดูรูปในแกลลอรี่ที่จัดเก็บภาพบนอุปกรณ์)

ตามที่บอกไว้ตั้งแต่เดือนที่แล้ว Flipboard เริ่มแสดงวิดีโอโฆษณาในแอพของตัวเองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยข้อดีของวิดีโอโฆษณาในแอพ Flipboard ก็คือ จะกวนผู้ใช้งานน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ นั่นก็คือ จะไม่เล่นวิดีโออัตโนมัติ และจะปิดเสียงเป็นค่าเริ่มต้นอัตโนมัติ จนกว่าเราจะกดเล่นเพื่อเปิดแบบเต็มจอและเล่นเสียง

ทั้งนี้มีผู้ลงโฆษณาชุดแรกรวมแล้วทั้งหมด 8 รายด้วยกัน ประกอบด้วย ค่ายหนังชื่อดัง Sony Pictures, แบรนด์กระเป๋าสตรีหรู Gucci, สายการบิน Lufthansa, Jack Daniels, Principal Financial Group, Woodford Reserve, Conrad Hotels & Resorts และรถยนต์ยี่ห้อ Chrysler

Mike McCue ซีอีโอของ Flipboard ได้กล่าวแถลงในงานที่ชื่อ ReadWriteMix (เป็นงานอีเวนท์ที่จัดขึ้นเป็นประจำของเว็บบล็อกด้านเทคโนโลยีที่ชื่อ ReadWrite) ว่าจะมีการเพิ่มบริการโฆษณาด้วยคลิปวิดีโอใน Flipboard ตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไป โดยผู้ที่จะมาประเดิมเป็นลูกค้ารายแรกที่จะใช้บริการโฆษณาของ Flipboard ก็คือ Chanel แบรนด์แฟชั่นสุดหรูที่เป็นที่รู้จักกันดี

ก่อนหน้านี้เครือข่ายสังคมออนไลน์ขนาดใหญ่หลายรายก็หันมาให้เปิดบริการโฆษณาด้วยคลิปวิดีโอกันมากขึ้น โดยรายล่าสุดที่เพิ่งเป็นข่าวก็คือ Twitter นั่นเอง

ที่มา - The Next Web

วันนี้ Flipboard ผู้ทำแอพอ่านข่าวแนวนิตยสารชื่อดัง ได้เปิดตัวเกมใหม่ พร้อมนิตยสารหมวดใหม่สำหรับติดตามข่าวเกี่ยวกับ Flappy Bird โดยเฉพาะ เรียกว่า Flappy Board

สำหรับใครที่สนใจสามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดพร้อมเล่นผ่านเบราว์เซอร์ได้ที่นี่ครับ

ที่มา - Inside Flipboard

Flipboard โชว์อินเทอร์เฟซใหม่ของหน้า "รวมข่าวเด่น" หรือ Cover Stories จากของเดิมที่แสดงภาพข่าวเป็น thumbnail ปกติ ก็เพิ่ม "หมวดข่าว" พร้อมหัวข่าวเด่นในหมวดนั้นๆ เข้ามาในฝั่งขวามือของหน้าจอ (ดูภาพประกอบท้ายข่าว)

หมวดข่าวของ Flipboard สามารถแยกได้ตามแหล่งข่าว เครือข่ายสังคม และประเด็นข่าว ซึ่งจุดเด่นของมันคือการจัดกลุ่มข่าวแยกตามประเด็นโดยอัตโนมัติ ที่ Flipboard สามารถเรียนรู้ได้เองว่าผู้อ่านแต่ละคนชอบข่าวในหัวข้อใดบ้าง (Flipboard ใช้เทคโนโลยีจากบริษัท Ellerdale ที่ซื้อมาเมื่อหลายปีก่อน)

Flipboard ประกาศว่าจะนำเทคโนโลยีด้านการแยกแยะและจัดหมวดข่าวไปใช้กับเซคชั่นอื่นๆ เช่น นิตยสาร The Weekend ของบริษัทเอง ก็จะจัดกลุ่มเนื้อหาอัตโนมัติในลักษณะนี้มากขึ้น

เว็บไซต์ Re/code (ทีมงาน AllThingsD เดิม) อ้างแหล่งข่าววงในของ Facebook ว่าบริษัทเตรียมเปิดตัวแอพหรือบริการด้านอ่านข่าวในรหัส "Paper" ในเร็วๆ นี้

โครงการ Paper เป็นไอเดียของ Chris Cox ผู้บริการด้านผลิตภัณฑ์ของ Facebook และมันเป็นส่วนหนึ่งของ "Project Reader" โครงการปรับปรุงระบบ News Feed ที่ดำเนินต่อเนื่องมาหลายปีแล้ว (บางส่วนภายใต้โครงการ Reader ก็ถูกนำไปใช้กับ News Feed รุ่นใหม่แล้ว ส่วนไอเดียที่เหลือก็ถูกย้ายมาอยู่ใน Paper)

รูปแบบของ Paper จะคล้ายกับแอพอ่านข่าว Flipboard แต่แหล่งข่าวบอกว่าตอนนี้ยังไม่ชัดเจนว่า Paper จะเป็นแอพแยกเฉพาะหรือเป็นอินเทอร์เฟซผ่านเว็บที่เข้าถึงได้จากอุปกรณ์พกพา คาดว่ามันจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการภายในเดือนมกราคมนี้

ภายหลังจากที่ไมโครซอฟท์เปิดเผยว่า Flipboard จะมาบน Windows 8 ล่าสุด Flipboard ประกาศปล่อยแอพนี้สำหรับ Windows 8 อย่างเป็นทางการแล้ว โดยคุณสมบัติของแอพนี้บน Windows 8.1 นั้นแทบไม่แตกต่างจากบน iOS และ Android เพียงแต่ว่าสามารถปักหมุดเนื้อหาที่น่าสนใจบน Start Screen ได้ด้วย

สำหรับผู้ใช้ Windows 8.1 สามารถดาวน์โหลดแอพ Flipboard for Windows 8.1 ได้แล้วที่ Windows Store ส่วนรุ่น Windows Phone จะตามมาเร็ว ๆ นี้ครับ

อัพเดตใหม่ของ Flipboard แอพอ่านข่าวบนอุปกรณ์พกพาได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่อย่างแคตตาล็อกขายของ ให้ผู้ใช้สามารถสามารถซื้อขายสินค้าได้จากตัวแอพแล้ว

สินค้าที่ขายใน Flipboard จะมีป้ายราคาสีแดงติดอยู่ เมื่อกดซื้อตัวแอพจะพาไปหาหน้าเว็บขายสินค้าชิ้นนั้น (ซื้อตรงๆ จาก Flipboard ไม่ได้นั่นเอง) วิธีการเพิ่มสินค้าเข้าไปในแคตตาล็อกทำได้จาก bookmarklet ตัวใหม่

อัพเดตนี้มาพร้อมกันทั้ง iOS และ Android กดอัพเดตกันได้จากลิงก์เลยครับ

Flipboard แอพอ่านข่าวยอดนิยมแอพหนึ่ง ได้ออกอัพเดตเวอร์ชัน 2.2 บน iOS โดยมีสิ่งที่เปลี่ยนแปลง ดังนี้

• ปรับปรุงประสิทธิภาพของตัวแอพ ทุกส่วนของแอพจะใช้งานได้เร็วขึ้น
• ปรับหน้าตาให้เข้ากับ iOS 7 (ก่อนหน้าได้เพิ่ม Parallax ไปแล้ว)
• ปรับเปลี่ยนขนาดตัวอักษรได้ในเมนูตั้งค่าของแอพ
• เพิ่ม tile ในหน้าแรกสำหรับ iPhone 5/5c/5s
• เพิ่มการแจ้งเตือนบนหน้าจอเมื่อมีสิ่งใหม่ใน feed

ดาวน์โหลดแอพได้ที่ App Store

ที่มา - 9to5Mac

Flipboard แอพสำหรับอ่านข่าวในมือถือ เปิดตัวเวอร์ชันเว็บบราวเซอร์แล้ว โดยในเวอร์ชันนี้รองรับ HTML5 สามารถเปิดอ่านข่าวได้โดยการพลิกหน้าหนังสือเหมือนในเวอร์ชันของ iOS หรือ Android โดยหลังจากการเปิดตัว Flipboard เวอร์ชัน 2 ไปเมื่อเดือนมีนาคม ปัจจุบันมีผู้ใช้งานสร้างแมกกาซีนของตัวเองไว้อ่านมากถึง 2 ล้านคนแล้ว

Flipboard เวอร์ชันเว็บนี้รองรับเบราว์เซอร์ชั้นนำเช่น IE9 ขึ้นไป, Safari, Chrome และ Firefox รองรับภาษาต่างๆ 11 ภาษา เช่น ภาษาอังกฤษ, ญี่ปุ่น, จีน, ฝรั่งเศสและเยอรมัน และเช่นเดิมครับ "ไม่มีภาษาไทย"

ที่งานแถลงข่าว Lumia 1020 โนเกียได้เปิดตัวแอพพลิเคชันภายนอกชุดใหญ่ เพื่อมาเป็นส่วนเติมเต็มให้กับ Windows Phone 8 และ Nokia Lumia โดยแอพพลิเคชันชุดนี้ ทั้งหมดล้วนเป็นฝีมือการเจรจาของโนเกียครับ

โดยแอพพลิเคชันที่จะมาเปิดตัวบน Windows Phone 8 ในเร็วๆ นี้ จะประกอบไปด้วย

ในงานเปิดตัว Lumia 1020 นั้น โนเกียได้เปิดตัว Imaging SDK สำหรับการพัฒนาแอพที่เกี่ยวข้องกับรูปภาพบน Windows Phone 8 โดยเฉพาะ โดยเว็บไซต์ Nokia Developer ระบุความสามารถของ SDK นี้ไว้ว่า ในเวอร์ชันเบต้านั้นจะรองรับ JPEG decoding บางส่วน (เข้าถึงข้อมูลของรูปภาพได้โดยไม่ต้อง decode ภาพทั้งหมด) ซึ่งทำให้แอพที่เรียกใช้สามารถแสดงผลภาพได้เร็วขึ้น, มีฟีลเตอร์และชุดสร้างเอฟเฟคภาพให้เลือกใช้ถึง 50 รายการ, รองรับการตัดภาพบางส่วน รวมถึงการย่อ/ขยาย หมุนภาพ, รองรับการยกเลิกการดำเนินการปรับแต่งภาพก่อนหน้า (undo) ได้ไม่จำกัด

ที่งาน BUILD 2013 สตีฟ บัลเมอร์ได้เผยว่าแอพ Facebook และ Flipboard แบบ Metro อยู่ในระหว่างการพัฒนา แต่ยังบอกไม่ได้ว่าเมื่อใดผู้ใช้จะได้เห็นสองแอพนี้

ทาง Flipboard ก็ได้เผยในเว็บบล็อกของตนว่ากำลังพัฒนาแอพดังกล่าวอยู่ และแอพจะได้รับการปรับแต่งเพื่อแพลตฟอร์ม Windows โดยเฉพาะ ทางบริษัทยังได้โพสต์คลิปวิดีโอหน้าตาแอพดังกล่าว (ดูได้ที่ท้ายข่าว) ซึ่งจากคลิปแสดงให้เห็นว่าเวอร์ชันบน Windows 8 นั้นมีกลิ่นอายของ Metro และต่างจากเวอร์ชันบน iPad อย่างชัดเจน

ที่มา: Flipboard ผ่าน The Verge

สำนักข่าว The Wall Street Journal เผยข้อมูลวงในของ Facebook ว่ากำลังพัฒนาระบบอ่านข่าวตัวใหม่ที่ตอนนี้เรียกกันภายในว่า Reader อยู่ โดยเน้นไปที่ผู้ใช้บนอุปกรณ์พกพาโดยเฉพาะ

ตัวบริการ Reader ดังกล่าวถูกพัฒนามาได้ราวปีแล้ว โดยในเวอร์ชันล่าสุดหน้าตา และการใช้งานใกล้เคียงกับแอพ Flipboard โดยจะดึงเนื้อหาจากเพื่อนมาแสดงผล มีฟีเจอร์รวมเนื้อหาใกล้เคียงกันจากหลายแหล่ง และรองรับการปัดนิ้วเพื่ออ่านเนื้อหาถัดไป

จากข้อมูลตอนนี้คาดว่า Reader จะเป็นแอพแยกจาก Facebook ออกมา และยังไม่มีข้อมูลว่าจะใช้ได้บนเว็บไซต์หรือไม่ครับ

ที่มา - WSJ