Patch Tuesday หรือธรรมเนียมการออกแพตช์ความปลอดภัยรายเดือน ทุกวันอังคารที่ 2 ของเดือน มีอายุครบ 20 ปีแล้ว หลังออกแพตช์ครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายน 2003

ไมโครซอฟท์เริ่มแนวคิดการอัพเดตแพตช์ความปลอดภัยรายเดือนให้ระบบปฏิบัติการ จากบันทึกของบิล เกตส์ ชื่อ Trustworthy Computing ช่วงต้นปี 2002 ที่เขียนขึ้นเพื่อรับมือปัญหาช่องโหว่ความปลอดภัยระบาดบนวินโดวส์ (ในยุคนั้น)

ไมโครซอฟท์ชี้แจงประเด็นที่มีคนพบว่า OneDrive บน Windows เวอร์ชันที่อัพเดตล่าสุด แสดงหน้าต่างถามให้บอกเหตุผลหากปิดโปรแกรม ว่าทำไมถึงตัดสินใจปิดโปรแกรม ซึ่งดูเพิ่มความยุ่งยากกับผู้ใช้งาน

โดยตัวแทนของไมโครซอฟท์บอกว่า ตั้งแต่ 1-8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ลูกค้า OneDrive กลุ่มเล็ก ๆ จะพบการแสดงหน้าต่างขึ้นมาเมื่อปิดตัวซิงก์ไฟล์ของ OneDrive ซึ่งเป็นการสอบถามความเห็นถึงเหตุผลที่เลือกปิดโปรแกรม ความเห็นประเภทนี้ช่วยให้ไมโครซอฟท์นำมาปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์ให้ดีขึ้น

ก็สรุปได้ว่าการทดสอบนี้สิ้นสุดแล้ว ไม่น่าจะมีผู้ใช้งานเห็นข้อความสอบถามอีก

มีรายงานจากผู้ใช้จำนวนหนึ่ง พบว่าในโปรแกรม OneDrive บน Windows 11 เวอร์ชันล่าสุด จะขึ้นหน้าต่างสอบถามข้อมูลเมื่อสั่งปิดโปรแกรม โดยให้เลือกเหตุผลว่าทำไมจึงปิด OneDrive และต้องตอบก่อนจึงจะสามารถปิดโปรแกรมได้

ตัวเลือกที่มีได้แก่: ไม่ต้องการให้ OneDrive รันตลอดเวลา, ไม่รู้ว่า OneDrive คืออะไร, ไม่ได้ใช้ OneDrive, เป็นการแก้ปัญหาที่เกิดกับ OneDrive, ต้องการให้คอมพิวเตอร์เร็วขึ้น, แจ้งเตือนเยอะเกินไป และอื่น ๆ

การทำแบบสอบถามข้อมูลเพื่อนำไปปรับปรุงผลิตภัณฑ์นั้นอาจเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ แต่อาจจะดูจุกจิกหน่อยหากมาถามตอนต้องการปิดโปรแกรม ทั้งนี้ไม่พบว่าการถามข้อมูลเกิดกับผู้ใช้งานทุกคน

เว็บไซต์ Windows Central รายงานข่าวลือว่าไมโครซอฟท์จะขยายฟีเจอร์ Copilot ของ Windows 11 ไปยัง Windows 10 ด้วย เพื่อเพิ่มฐานผู้ใช้งาน Copilot ให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้

Windows 10 ไม่ได้อัพเดตฟีเจอร์ใหม่ๆ มานานแล้ว และจะหมดระยะซัพพอร์ตในปี 2025 (ครบ 10 ปีหลังออก Windows 10 เวอร์ชันแรก) แต่ก็ยังมีฐานผู้ใช้งานจำนวนมากถึง 1 พันล้านเครื่อง (เทียบกับ Windows 11 มีราว 400 ล้านเครื่อง) ด้วยเหตุผลสำคัญคือฮาร์ดแวร์เก่าไม่สามารถอัพเกรดไปเป็น Windows 11 ได้

ออราเคิลประกาศลงนามข้อตกลงเป็นระยะเวลาหลายปีกับไมโครซอฟท์ โดยไมโครซอฟท์จะใช้งาน Oracle Cloud Imfrastructure ที่เป็นบริการคลาวด์ของออราเคิล ควบคู่ไปกับ Azure ของไมโครซอฟท์ในการรันงานโมเดล AI ที่ใช้ในระบบค้นหาของ Bing

ก่อนหน้านี้ทั้งสองบริษัทเคยมีความร่วมมือกันด้านคลาวด์ โดย Azure เพิ่มบริการ Oracle Database

ความร่วมมือนี้อาจสะท้อนสถานการณ์ที่เกิดขึ้นของการประมวลผล AI บนคลาวด์ ที่ออราเคิลบอกว่าต้องใช้จีพียูระดับหลายหมื่นตัวในการประมวลผล จึงทำให้ไมโครซอฟท์ขยายความร่วมมือมาที่ออราเคิลซึ่งมีบริการจีพียูสำหรับงาน AI จำนวนมากนั่นเอง

ไมโครซอฟท์ประกาศจับมือกับสตาร์ตอัพชื่อ Inworld AI นำเครื่องมือด้านโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) มาใช้สร้างบทสนทนาของตัวละคร NPC ในเกม

เครื่องมือของ Inworld AI ใช้โมเดล LLM มาสร้างตัวละคร NPC ที่มีตรรกะ มีบุคลิกสมจริง สนทนาหรือเล่าเรื่องให้สอดคล้องกับตำนาน (lore) ของเกมนั้น ฟีเจอร์ของเครื่องมือยังครอบคลุมถึงการสนทนาด้วยเสียง แอนิเมชันตัวละคร และการแสดงอารมณ์ความรู้สึกด้วย ไม่ได้มีเฉพาะส่วนข้อความอย่างเดียว

ลูกค้าของ Inworld มีตั้งแต่บริษัทใหญ่แบบ Disney ที่นำไปใช้สร้างเดโม Droid Maker, NetEase ใช้กับเกม Cygnus Enterprise ส่วนตัวเครื่องมือใช้งานได้กับเอนจินชื่อดังทั้ง Unreal, Unity และเชื่อมต่อผ่านม็อดของเกมดังๆ อย่าง Minecraft และ Roblox ได้ด้วย

Xbox ประกาศร่วมมือกับ Inworld บริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการใช้ AI เพื่อใช้ AI สร้างเครื่องมือพัฒนาเกมใหม่ ๆ โดยคาดว่า AI จะช่วยสร้างบทสนทนา และเครื่องมือการเล่าเรื่องในเกม รวมถึงเรื่องราว และการออกแบบภารกิจต่าง ๆ ได้

Inworld AI กล่าวว่าการใช้ AI จะสามารถลดเวลา และทรัพยากรที่ต้องใช้ในระหว่างการผลิตได้ ซึ่งจะช่วยให้การพัฒนาเกมเร็วขึ้น โดยเครื่องมือ AI ของ Inworld จะแบ่งเป็น 2 ส่วนได้แก่

Mike Ybarra ประธานบริษัทและผู้บริหารสูงสุดของ Blizzard ให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg ว่าแนวทางของบริษัทจะเป็นอย่างไรในยุคที่ไมโครซอฟท์เป็นเจ้าของ

Ybarra เล่าว่าหลังจากซื้อกิจการเสร็จสิ้นไม่นาน Phil Spencer และคณะผู้บริหารก็เดินทางมาเยี่ยมสำนักงานใหญ่ของ Blizzard โดยไม่ได้มาคุยเรื่องแผนธุรกิจ แต่มาแสดงเจตจำนงว่าอยากให้ Blizzard มีสถานะเป็นเหมือนสตูดิโอเกมอิสระมากขึ้น ไม่ได้เป็นบริษัทในเครือ Activision ที่ต้องรับคำสั่งจาก Activision เหมือนเดิม ซึ่งแนวทางนี้ช่วยให้ Blizzard มีอิสระในการพัฒนาเกมตามที่ตัวเองต้องการมากขึ้น ไม่ถูกกดดันจากเป้าทางธุรกิจ

Andrew Wilson ซีอีโอของ EA ให้สัมภาษณ์กับ CNBC และได้รับคำถามว่ามีมุมมองอย่างไรต่อดีลไมโครซอฟท์ซื้อ Activision Blizzard ที่เป็นคู่แข่งระดับใกล้เคียงกัน

คำตอบของ Wilson คือการซื้อกิจการนี้เป็นผลดีต่ออุตสาหกรรมเกม ที่คาดว่ามูลค่าจะใหญ่ขึ้นเป็นระดับ 3 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2030 มีผู้เล่นรวมเกือบ 4 พันล้านคน การที่ไมโครซอฟท์ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลกพร้อมลงทุนในธุรกิจเกมต่อไปอีกนาน ย่อมส่งผลให้อุตสาหกรรมเกมเติบโตขึ้น และ EA ได้รับประโยชน์จากอุตสาหกรรมที่เติบโตตามไปด้วย

Wilson บอกว่าตอนนี้ EA อยู่ในสถานะที่ดีมาก (well positioned) เพราะมีทีมงานคุณภาพจำนวนมาก มีแฟรนไชส์เกมดังอยู่แล้ว มีเทคโนโลยีพร้อม และมีฐานผู้เล่น 700 ล้านคนที่กำลังเติบโตสู่เป้าหมาย 1 พันล้านคน

จากข่าว พนักงาน Microsoft ไม่พอใจที่กำลังจะโดนตัดสิทธิ์ Xbox Game Pass Ultimate ฟรี

ความคืบหน้าล่าสุดคือนโยบายนี้ถูกยกเลิกแล้ว พนักงานยังได้สิทธิใช้งาน Xbox Game Pass Ultimate ฟรีต่อไป โดยคนที่เข้ามาช่วยเหลือคือ Phil Spencer ซีอีโอของ Microsoft Gaming ที่โพสต์ข้อความถึงพนักงานผ่านแพลตฟอร์มสื่อสารภายในองค์กร Microsoft Viva ว่าสิทธิประโยชน์นี้จะยังคงอยู่ต่อไปเหมือนเดิม และขอโทษด้วยที่สร้างความสับสนให้พนักงาน

ไมโครซอฟท์ยืดอายุ Surface รุ่นเก่าที่ขายตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นมา จากเดิมซัพพอร์ตเฟิร์มแวร์และไดรเวอร์ให้ 4 ปี ขยายเป็น 6 ปี

ไมโครซอฟท์เพิ่งประกาศนโยบายอัพเดตเฟิร์มแวร์และไดรเวอร์ให้นาน 6 ปีเมื่อเดือนกันยายน 2023 พร้อมการเปิดตัว Surface Laptop Go 3 และ Surface Laptop Studio 2 (ไม่เกี่ยวกับระยะเวลาซัพพอร์ตของ OS)

ก่อนหน้านี้ Microsoft มีสิทธิประโยชน์พิเศษแจก Xbox Game Pass Ultimate ให้กับพนักงานราว 238,000 คนฟรี ๆ แต่ล่าสุด Microsoft กำลังจะเอาสิทธิประโยชน์นี้ออกไป ซึ่งมีพนักงานบางคนรู้สึกไม่พอใจกับการตัดสิทธิประโยชน์ครั้งนี้ โดยแหล่งข่าวของ The Verge บอกว่าในสัปดาห์นี้ Microsoft เริ่มแจ้งให้พนักงานทราบว่าสิทธิประโยชน์ Xbox Game Pass Ultimate ฟรีสำหรับพนักงานประจำจะไม่สามารถใช้ได้อีกต่อไปในเดือนมกราคม 2024

ซึ่งคาดว่าพนักงานที่ทำงานในแผนก Xbox หรือ Microsoft Gaming จะยังคงได้รับสิทธิประโยชน์นี้ต่อไป ส่วนพนักงานที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของแผนกดังกล่าวจะสามารถซื้อ Xbox Game Pass Ultimate แบบ 12 เดือนแบบมีส่วนลดพิเศษได้ภายในร้านค้าของบริษัท

ไมโครซอฟท์เริ่มส่งสัญญาณ "ถอด" แอพบางตัวออกจาก Windows 11 โดยในรุ่นทดสอบล่าสุด Build 25987 (Canary Channel) จะไม่ติดตั้งแอพสองตัวคือ แอพแผนที่ Windows Maps และแอพดูวิดีโอ Movies and TV ให้แล้วหากติดตั้งแบบ clean install โดยผู้ใช้ยังสามารถติดตั้งผ่าน Microsoft Store เองได้ถ้าต้องการ

ไมโครซอฟท์ไม่ได้อธิบายเหตุผลว่าทำไมถึงไม่ติดตั้งแอพสองตัวนี้ กรณีของแอพ Movies and TV น่าจะเป็นเพราะแอพ Media Player ตัวใหม่ของ Windows 11 (คนละตัวกับ Windows Media Player คนดีคนเดิม) มาทดแทนให้ ส่วนกรณีของ Windows Maps น่าจะเป็นเพราะมีคนใช้น้อย และผู้ใช้สามารถเข้าถึง Bing Maps ผ่านเบราว์เซอร์ได้อยู่แล้ว

ไมโครซอฟท์ประกาศเปิดให้นักพัฒนาแอพบน Xbox ใช้งานเอนจินเบราว์เซอร์ Microsoft Edge WebView2 ที่อิงอยู่บน Chromium แบบเดียวกับบนวินโดวส์ แทนเอนจิน EdgeHTML WebView ของเดิม (ตัวเบราว์เซอร์บน Xbox เปลี่ยนนานแล้ว แต่ตัวเอนจินสำหรับนักพัฒนาเพิ่งเปลี่ยน)

การเปลี่ยนมาใช้ WebView2 จะทำให้แอพบน Xbox (ซึ่งสร้างโดยเทคโนโลยี UWP) แสดงผลหน้าเว็บได้ดีขึ้น ใช้งาน API เว็บรุ่นใหม่ๆ ได้ดีกว่าเดิม ประสิทธิภาพดีขึ้น และการพอร์ตแอพจากวินโดวส์มาลง Xbox ทำได้ง่ายขึ้นด้วย

การเปลี่ยนผ่านครั้งนี้ยังส่งผลให้ Xbox เป็นแพลตฟอร์มท้ายๆ ของไมโครซอฟท์ที่เปลี่ยนจาก EdgeHTML (เอนจินเดิมที่ตกทอดมาตั้งแต่ยุค IE) มาสู่เอนจินสมัยใหม่ที่เป็น Chromium ได้สำเร็จ

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของประเทศไทยโพสต์ใน X ว่าได้เข้าร่วมหารือกับบริษัทเทคโนโลยีชื่อดังอย่าง Google และ Microsoft เพื่อเตรียมความพร้อมในการลงนาม MOU (แต่ไม่บอกว่าเป็น MOU อะไร) และการประชุม APEC ที่กำลังจะจัดในเมืองซาน ฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา

จากการพูดคุย Google มีความตั้งใจที่จะเดินหน้าให้การสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านประเทศไทยสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัล และความต้องการใช้ AI ที่เกิดขึ้นในหลายภาคส่วน จะทำให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยนายเศรษฐา ทวีสิน เชื่อว่าประเทศไทยมีความพร้อมที่จะรองรับการลงทุนจาก Google

แนวทางของไมโครซอฟท์ที่ประกาศไว้เมื่อปี 2021 คือเลิกใช้ OneNote for Windows 10 (UWP) หันมาใช้ OneNote for Windows (Win32 ตัวที่มากับ Office ดั้งเดิม) โดยทยอยเพิ่มฟีเจอร์ให้ OneNote Win32 ทัดเทียมกับของเวอร์ชัน UWP

ล่าสุดไมโครซอฟท์ออกอัพเดตรอบเดือนตุลาคม 2023 ให้ OneNote Win32 มีของใหม่ดังนี้

ไมโครซอฟท์ประกาศปล่อย Windows 11 อัพเดต 23H2 โดยที่ไม่มีฟีเจอร์อะไรใหม่มากนัก

เหตุผลเป็นเพราะไมโครซอฟท์เปลี่ยนมาใช้วิธีออกฟีเจอร์แยกจากตัว OS ผ่านอัพเดตรายเดือนมาได้สักพักแล้ว ฟีเจอร์ใหม่ส่วนใหญ่ เช่น Windows Copilot เพิ่งออกผ่านอัพเดตรอบเดือนกันยายน (ที่อยู่บน 22H2) ทำให้ตัว 23H2 มีสถานะเป็นเพียงแกนระบบปฏิบัติการ (baseline OS) ลักษณะเดียวกับ Android เวอร์ชันหลังๆ ที่ตัวแกน OS แทบไม่มีอะไรใหม่ที่ผู้ใช้มองเห็น เป็นการเปลี่ยนเทคโนโลยีฐานเท่านั้น

หากผู้ใช้กดอัพเดตรอบเดือนกันยายนไปแล้ว จะแทบไม่เห็นอะไรใหม่ใน 23H2 แต่ถ้ายังไม่อัพเดตรอบเดือนกันยายน มากดรอบพฤศจิกายน (23H2) ทีเดียว ก็จะได้ของใหม่ทั้งหมด

ไมโครซอฟท์ปล่อยแพตช์ KB5031455 รวมฟีเจอร์จำนวนมากที่ประกาศไว้ในงาน Microsoft Build โดยฟีเจอร์สำคัญที่หลายคนอาจจะรอกันอยู่คือฟีเจอร์เปิดไฟล์ rar, tar, gz, และ 7-zip โดยอาศัยไลบรารี libarchive

อัพเดตนี้ยังมีฟีเจอร์อีกหลายอย่าง เช่น Copilot in Windows, ปิดการแสดงนาฬิกาออกจากมุมจอ, แยกไอคอนแต่ละหน้าต่างบน Task Bar ไปจนถึงการรองรับ Unicode Emoji 15 นอกจากการเพิ่มฟีเจอร์แล้ว แพตช์นี้ยังแก้บั๊กหลายอย่าง เช่น หน่วยความจำรั่วไฟล์ โปรแกรมฟรีซ ตลอดจนบั๊กปัญหาพรินเตอร์

แพตช์นี้ยังเป็นแบบ optional หากต้องการใช้งานทันทีต้องเปิดรับแพตช์ optional ก่อน แต่คาดว่าจะกลายเป็นแพตช์ปกติเดือนหน้า

ผู้ใช้คอนโซล Xbox ในบางประเทศ เริ่มเจอข้อความแจ้งเตือน error code 0x82d60002 หรือ A connected accessory is not authorized เมื่อนำอุปกรณ์เสริมที่ไม่ใช่ของแท้ไปเสียบเข้ากับคอนโซล (เช่น จอย Xbox รุ่นเลียนแบบต่างๆ หรือพวกจอยพวงมาลัย-คันโยกขับเครื่องบิน)

การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นจากการอัพเดตซอฟต์แวร์ Xbox ช่วงปลายเดือนกันยายน 2023 และจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2023

ประกาศแบบเต็มๆ บนหน้าจอจะเขียนว่า

"A connected accessory is not authorized. Using unauthorized accessories compromises your gaming experience. For this reason, the unauthorized accessory will be blocked from use on 11/12/2023.

ไมโครซอฟท์ปรับปรุงแอพ Xbox บนวินโดวส์ เพิ่ม compact mode รองรับการใช้งานบนอุปกรณ์พกพาและอุปกรณ์หน้าจอเล็ก ลักษณะเดียวกับ ASUS ROG Ally หรือเครื่องเล่นเกมพกพาอื่นๆ ที่กำลังออกสู่ตลาดในช่วงหลัง

การปรับ OS และแอพให้รองรับเครื่องเกมพกพาที่รันวินโดวส์ เป็นความสนใจของคนในไมโครซอฟท์มาระยะหนึ่งแล้ว ถึงขั้นเคยมีเอกสาร Windows Handheld Mode ที่เป็นโครงการ hackathon ภายในบริษัทหลุดออกมาสู่สาธารณะ

การที่แอพ Xbox บนวินโดวส์เพิ่ม compact mode ถึงแม้ยังไม่ถึงขั้นการปรับหน้าตาของวินโดวส์ทั้งตัว แต่ก็เป็นสัญญาณอันดีว่าไมโครซอฟท์รองรับเครื่องเล่นเกมพกพาลักษณะนี้มากขึ้นเรื่อยๆ

ไมโครซอฟท์ประกาศขึ้นราคาคอนโซลรุ่นล่าง Xbox Series S ในประเทศบราซิล โดยขึ้นพรวดเดียวถึงราว 8,000 บาท

เดิมที Xbox Series S มีราคาขายในบราซิลที่ 2,499 รีล (ราว 18,000 บาท) ส่วนราคาใหม่ที่ประกาศคือ 3,599 รีล (ราว 26,000 บาท) ทำให้ราคาขึ้นมาใกล้เคียงกับ PS5 Digital Edition ที่ขายราคา 3,899 รีลแล้ว

ไมโครซอฟท์ไม่ได้ให้เหตุผลว่าทำไมถึงขึ้นราคา (เดากันว่าน่าจะเป็นเพราะค่าเงิน) และขึ้นทีเดียวเยอะขนาดนี้ การขึ้นราคาครั้งนี้ยังมีผลเฉพาะ Xbox Series S รุ่นสีขาว 500GB ไม่รวมรุ่นสีดำ 1TB ที่เพิ่งเปิดตัว และไม่รวม Xbox Series X รุ่นใหญ่ด้วย

ไมโครซอฟท์ประกาศปรับตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง โดยมีสองส่วนของการเปลี่ยน อย่างแรกคือ Chris Capossela ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด (CMO) ที่ทำงานกับไมโครซอฟท์มานาน 32 ปี จะลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งซีอีโอ Satya Nadella บอกเรื่องนี้มีการพูดคุยมาระยะหนึ่งและเตรียมแผนส่งต่องานแล้ว

Takeshi Numoto ผู้บริหารระดับสูงที่ดูส่วนการตลาดของคลาวด์ จะเป็น CMO คนใหม่ และ Yusuf Mehdi ผู้บริหารส่วนการตลาดที่ดูแลหลายผลิตภัณฑ์ รวมทั้ง Copilot, Search และอื่น ๆ จะเป็นหัวหน้าฝ่ายการตลาดสินค้า Consumer

Microsoft Word มีอายุครบ 40 ปีแล้วเมื่อวานนี้ (25 ตุลาคม) โดย Word เวอร์ชันแรกออกสู่ตลาดเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 1983 บนแพลตฟอร์ม Xenix (ยูนิกซ์ของไมโครซอฟท์) และ MS-DOS

ในยุคแรกนั้น Word ใช้ชื่อว่า Multi-Tool Word พัฒนาโดยทีมของ Charles Simonyi ที่เคยอยู่กับ Xerox PARC และพัฒนาแอพประมวลผลคำชื่อ Bravo มาก่อน ภายหลัง Simonyi ถูกดึงตัวเข้ามารับผิดชอบการพัฒนาแอพพลิเคชันธุรกิจของไมโครซอฟท์ ซึ่งให้กำเนิด Excel ด้วยเช่นกัน

ในช่วงแรก Microsoft Word ไม่ประสบความสำเร็จมากนัก เพราะสู้เจ้าตลาดในยุคนั้นอย่าง WordStar และ WordPerfect ไม่ได้

Windows Phone และ Windows 10 Mobile ถือเป็น 1 ในความล้มเหลวที่ล้มดังที่สุดของ Microsoft ล่าสุด Satya Nadella ซีอีโอของ Microsoft ให้สัมภาษณ์กับ Business Insider พร้อมกล่าวถึง Windows Phone ว่าเสียใจที่ยอมแพ้ และถอนตัวออกจากตลาดโทรศัพท์มือถือ

Satya ได้พูดคุยเกี่ยวกับหัวข้อต่าง ๆ มากมาย แต่มี 1 คำถามที่ถามถึงข้อผิดพลาดเชิงกลยุทธ์ หรือการตัดสินใจผิดในฐานะซีอีโอของ Microsoft ซึ่ง Satya กล่าวถึงการที่บริษัทถอนตัวออกจากตลาดโทรศัพท์มือถือในตอนนั้นอาจจะไม่ใช่การตัดสินใจที่ดีที่สุด และมองว่าอาจมีวิธีปรับปรุงเพื่อให้ระบบ Windows Phone ไปอยู่ตรงกลางระหว่างซีพี, แท็ปแล็ต และโทรศัพท์ได้

ไมโครซอฟท์รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 ตามปีการเงินบริษัท 2024 สิ้นสุดเดือนกันยายน มีรายได้รวม 56,517 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 13% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิตามบัญชี GAAP 22,291 ล้านดอลลาร์

รายได้แยกตามกลุ่มธุรกิจเป็นดังนี้

• Productivity and Business Processes 18,592 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 13% โดย Office 365 Commercial โต 18%, LinkedIn โต 8%
• Intelligent Cloud 24,259 ล้านดอลลาร์ กลุ่มเซิร์ฟเวอร์และบริการคลาวด์ รายได้เพิ่มขึ้น 21% เฉพาะ Azure เพิ่มขึ้น 29%
• More Personal Computing 13,666 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 3% กลุ่ม Windows เพิ่มขึ้น 5%, ฮาร์ดแวร์ลดลง 22% และธุรกิจเสิร์ชเพิ่มขึ้น 10%