บริการ Microsoft 365 Copilot ที่รวมเอา ChatGPT เข้ากับโปรแกรมต่างๆ ในชุด Microsoft 365 นับเป็นบริการสำคัญที่หลายคนตั้งหน้าตั้งตารอให้ไมโครซอฟท์เปิดตัว แม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายถึง 30 ดอลลาร์ต่อคน ที่ผ่านมาไมโครซอฟท์ประกาศฟีเจอร์และราคาออกมาก่อน และตอนนี้ก็ประกาศวันเปิดตัวเป็นทางการแล้ว คือ 1 พฤศจิกายนนี้
ไมโครซอฟท์ประกาศข้อมูลในเว็บ Microsoft 365 roadmap ว่า OneDrive เวอร์ชันเว็บจะสามารถทำงานแบบออฟไลน์ได้ในเร็วๆ นี้ ผู้ใช้สามารถจัดการไฟล์ ลบไฟล์ เปลี่ยนชื่อ ย้ายไฟล์ได้ผ่านเบราว์เซอร์โดยไม่ต้องมีอินเทอร์เน็ต และการเปลี่ยนแปลงจะซิงก์กลับเมื่อต่อเน็ตในภายหลัง
หากไฟล์นั้นมีสำเนาในเครื่องอยู่แล้ว (“always available offline”) เราสามารถเปิดไฟล์ดูได้ตามปกติ
ฟีเจอร์นี้จะเริ่มใช้งานแบบพรีวิวในเดือนพฤศจิกายน และปล่อยทั่วไปในเดือนธันวาคม 2023
ทุกวันนี้รูปแบบการทำงานในหลายธุรกิจกลายเป็น Hybrid Work คือ การทำงานจากที่ไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน ที่ออฟฟิศ หรือนอกสถานที่อื่นๆ หลายคนเรียกว่า Work from Anywhere ซึ่งหมายถึงระบบการทำงาน ข้อมูลสำคัญต่างๆ ต้องสามารถเข้าถึงได้ ไม่เป็นข้อจำกัดในการทำงานนอกออฟฟิศ แต่ก็เป็นโจทย์สำคัญที่ทำให้องค์กรธุรกิจต้องให้ความสำคัญกับมาตรการความปลอดภัยที่เข้มข้นมากขึ้นด้วย เพราะความสะดวกสบายมักจะมาพร้อมกับภัยคุกคาม การเตรียมความพร้อมและบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยเพิ่มโอกาสและปิดจุดบกพร่องได้อย่างดี
เมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา คณะกรรมการยุโรปเข้าสอบสวน Microsoft หลัง Salesforce ที่เป็นเจ้าของ Slack ร้องเรียนว่าอาจเข้าข่ายผูกขาด เหตุ Microsoft พ่วง Teams เข้ามาในชุด Microsoft 365 ล่าสุด Microsoft ยอมขาย Microsoft 365 แบบไม่พ่วง Teams แล้ว
Microsoft ระบุว่าบริษัทจะขาย Microsoft 365 แบบไม่พ่วง Teams ในราคาที่ถูกลง รวมถึงจะพยายามทำให้ Microsoft 365 และ Office 365 ทำงานร่วมกับเครื่องมือของคู่แข่งได้ง่ายขึ้นด้วย
ไมโครซอฟท์ประกาศรองรับฟีเจอร์ใหม่ของ Excel รองรับการเขียน Python เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลใน Excel ได้แล้ว
วิธีการใช้งานไม่ต้องติดตั้งอะไรเพิ่มเลย เขียนโค้ดลงในช่องสูตรของ Excel โดยตรง โดยใส่โค้ดไว้ในฟังก์ชัน PY() อีกที นอกจากการเขียนโค้ดเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลจากตาราง Excel แล้ว ยังสามารถใช้ฟีเจอร์ connector ของ Excel เรียกข้อมูลภายนอกมาร่วมวิเคราะห์ได้ด้วย
เบื้องหลัง Python for Excel เป็นความร่วมมือของไมโครซอฟท์กับบริษัท Anaconda โดยใช้ Anaconda Distribution for Python ที่รันอยู่ใน Azure และรองรับไลบรารีคณิตศาสตร์ยอดฮิตอย่าง pandas หรือ Matplotlib ได้ด้วย
เราเห็นข่าว Microsoft Office เปลี่ยนฟอนต์หลักจากเดิม Calibri มาเป็น Aptos กันไปแล้ว แต่การเปลี่ยนแปลงไม่ได้มีแค่นั้น เพราะ Office เปลี่ยนชุดธีมสีและสไตล์ของเอกสารใหม่หมดด้วย หลังเปลี่ยนครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2013
ธีมสีใหม่ของ Office เปลี่ยนมาใช้โทนสีที่เข้มขึ้นกว่าเดิม ตัดบางโทนสีออกไป (เช่น เหลือง เทา) และเพิ่มสีม่วงกับเขียวเข้มเข้ามา น้ำหนักของเส้นขอบ (outline weight) ยังหนากว่าเดิม เพื่อให้ความคอนทราสต์ของวัตถุกับพื้นหลังเพิ่มขึ้น
สไตล์ข้อความดีฟอลต์ของ Word และ Outlook ยังเปลี่ยนไปเล็กน้อย เน้นความอ่านง่าย ดูเป็นมืออาชีพ ไล่สายตาในเอกสารยาวๆ ได้ง่ายกว่าเดิม
Microsoft Loop แอพตัวใหม่ของไมโครซอฟท์ ลักษณะเดียวกับ Notion แต่เชื่อมต่อบริการในชุด Office/Microsoft 365 ให้ทั้งหมดแต่แรก เปิดทดสอบทั่วไปตั้งแต่เดือนมีนาคม โดยการใช้งานบนเดสก์ท็อปต้องผ่านเว็บเบราว์เซอร์เท่านั้น
คราวนี้ ไมโครซอฟท์ออกแอพ Loop เวอร์ชันเดสก์ท็อป (ไส้ในจริงๆ ก็ยังเป็นเว็บแอพ) ขึ้นบน Microsoft Store ให้ดาวน์โหลดไปใช้งานได้สะดวกแล้ว
อังคารที่ผ่านมาหุ้นของ Microsoft สูงขึ้น 5.8% หลังจากที่บริษัทประกาศค่าบริการสมาชิก สำหรับผู้ใช้บัญชี Microsoft 365 Copilot แบบองค์กร มีราคาอยู่ที่ 30 ดอลลาร์ต่อเดือน สำหรับการใช้งาน AI ที่อยู่ในชุดซอฟต์แวร์ต่างๆ ของ Microsoft 365 ได้แก่ Word, Excel, PowerPoint, Outlook, และ Teams
ไมโครซอฟท์เตรียมเปิดบริการ Bing Chat Enterprise แชตสำหรับใช้งานภายในองค์กร และ Microsoft 365 Copilot ที่เปิดตัวมาก่อนหน้านี้
Bing Chat Enterprise เป็น Bing Chat เวอร์ชั่นพิเศษ ที่เปิดใช้กับผู้ใช้บัญชี Microsoft 365 แบบองค์กร ในระดับ Business Standard ขึ้นไป เมื่อผู้ใช้ล็อกอิน Bing ด้วยบัญชีองค์กรก็จะเห็นเมนู Bing Chat สำหรับองค์กร ความพิเศษคือ Bing Chat Enterprise จะป้องกันข้อมูลรั่วไหลเป็นหลัก ไม่มีการเก็บล็อกการใช้งานเสมอ และรับประกันว่าข้อมูลจะไม่ถูกนำไปฝึกปัญญาประดิษฐ์ใดๆ อีก แต่ฟีเจอร์ที่หายไปคือปลั๊กอินต่างๆ เพื่อลดความเสี่ยงข้อมูลรั่วไหลผ่านทางปลั๊กอิน
ไมโครซอฟท์ออกรายงานถึงกลุ่มแฮกเกอร์ Storm-0558 ที่โจมตีจากประเทศจีนโดยมีแนวทางมุ่งขโมยข้อมูล โดยคนร้ายสามารถขโมยกุญแจเซ็นโทเค็นของ Azure AD ออกไปจากไมโครซอฟท์ได้ ทำให้สามารถเซ็นโทเค็นปลอมตัวเป็นบัญชีผู้ใช้อะไรก็ได้ของเหยื่อ
หน่วยงานที่ถูกโจมตีคือฝ่ายบริหารฝั่งพลเรือนของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ (Federal Civilian Executive Branch - FCEB) โดยพบล็อกใน Microsoft 365 ว่ามีรายงาน MailItemsAccessed
ซึ่งเป็นการเข้าอ่านเมลจากไคลเอนต์ต่างๆ แต่ที่แปลกออกไปคือค่า AppID
นั้นไม่เคยพบ แปลว่าอยู่ๆ ก็มีคนใช้อีเมลไคลเอนต์ประหลาดเข้ามาอ่านอีเมล
ก่อนหน้านี้ไมโครซอฟท์ประกาศแผนเปลี่ยนฟอนต์ดีฟอลต์ใน Microsoft Office จาก Calibri ที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2007 โดยมีตัวเลือกจำนวนหนึ่ง ล่าสุดไมโครซอฟท์ได้ข้อสรุปแล้ว
โดยหลังจากสอบถามความเห็นจากลูกค้า ไมโครซอฟท์บอกว่า Aptos คือฟอนต์ที่ผู้ใช้งานชอบมากที่สุด (ในตอนให้สอบถามความเห็น ฟอนต์นี้คือ Bierstadt) เป็นฟอนต์ที่ไม่มีเชิง (sans-serif) ปรับใช้ได้ในหลายภาษา
Aptos จะมาเป็นฟอนต์ดีฟอลต์ในบริการทั้งหมดของ Microsoft 365 ไม่ว่าจะเป็น Word, Outlook, PowerPoint และ Excel เริ่มมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และอัพเดตกับผู้ใช้งานทั่วโลกในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
ไมโครซอฟท์ออกรายงานเหตุการณ์ที่บริการ Microsoft 365 ซึ่งรวมทั้ง Teams และ Outlook ไม่สามารถใช้งานได้หลายชั่วโมง เมื่อช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยบอกว่าระบบถูกโจมตี DDoS จากกลุ่มคนที่ไมโครซอฟท์ใช้รหัสเรียกแทนว่า Storm-1359 ตามแนวทางการเรียกชื่อที่เคยประกาศก่อนหน้านี้
ไมโครซอฟท์บอกว่าผู้โจมตีใช้การสร้างเซิร์ฟเวอร์เสมือนส่วนตัว (VPS) จำนวนมากบนคลาวด์ แล้วเปิดพร็อกซีจากนั้นจึงใช้เครื่องมือ DDoS ทำให้ทราฟิกที่เข้ามาใน Microsoft 365 เพิ่มสูงขึ้นมากกว่าปกติ กระทบกับผู้ใช้งานทั่วไป ทั้งนี้ไม่มีหลักฐานว่าข้อมูลลูกค้าถูกเข้าถึงหรือนำออกไปได้
บริการ Microsoft 365 พบปัญหาในการใช้งานหลายบริการ โดยเริ่มมีรายงานผู้ใช้งานที่พบปัญหาจาก Downdetector ตั้งแต่เวลาประมาณ 21.00น. ขณะที่ไมโครซอฟท์เริ่มยืนยันปัญหาที่ Outlook เวอร์ชันเว็บตั้งแต่ 21.57น. และระบุบริการที่ได้พบปัญหาเช่นกันคือ Microsoft Teams, SharePoint Online และ OneDrive for Business
ไมโครซอฟท์อัพเดตต่อมาที่เวลา 00.26 ว่าบริการทั้งหมดกลับมาใช้งานได้ตามปกติ
อย่างไรก็ตามเมื่อเวลา 03.15น. ไมโครซอฟท์แจ้งว่าพบปัญหาเดิมอีกครั้ง และกำลังตรวจสอบอยู่
ไมโครซอฟท์ขยายฟีเจอร์ Copilot ให้แอพในชุด Microsoft 365 เพิ่มฟีเจอร์ที่ชาว PowerPoint รอคอย คือการใช้ Dall-E โมเดลสร้างภาพด้วย AI ตามคำสั่ง เพื่อให้มีภาพประกอบในสไลด์โดยไม่ต้องไปตามหาภาพเองแล้ว
ในแง่เอนจินสร้างภาพด้วย Dall-E คงไม่ต่างจากแอพไมโครซอฟท์ตัวอื่นๆ ที่ใช้อยู่ก่อนแล้ว (เช่น Bing, Microsoft Designer) แต่การที่มันเข้ามาอยู่ใน PowerPoint โดยตรง ย่อมช่วยลดความจำเป็นต้องใช้งานภาพ ClipArt แบบดั้งเดิมลงได้เยอะ
ไมโครซอฟท์เปิดตัว Windows 365 Frontline เป็นบริการสตรีมเดสก์ท็อปผ่านเบราว์เซอร์ Cloud PC สำหรับองค์กรที่มีพนักงานแบบพาร์ทไทม์หรือพนักงานแบบเข้ากะ (shift worker) ที่สลับกันมาใช้พีซีเครื่องเดียวกัน เช่น พยาบาล พนักงานในโกดังสินค้า ฯลฯ แต่ยังต้องการเดสก์ท็อปและพื้นที่เก็บข้อมูลแยกของแต่ละคน
ความแตกต่างสำคัญของ Windows 365 Frontline กับไลเซนส์ของไมโครซอฟท์แบบอื่นๆ (เช่น Windows 365 Enterprise) คือวิธีคิดค่าไลเซนส์ที่ถูกกว่ากันมาก ซื้อไลเซนส์เดียวสามารถใช้กับพนักงานได้ 3 คน เท่ากับว่าหากองค์กรมีพนักงานแบบพาร์ทไทม์ 300 คน ก็ซื้อเพียง 100 ไลเซนส์เท่านั้น (สูตรคำนวณแบบง่ายๆ คือหนึ่งวันมี 3 กะ สลับกันใช้งานพีซีเครื่องเดียวกัน)
ไมโครซอฟท์เพิ่งเปิดตัว Microsoft 365 Copilot เพิ่มฟีเจอร์ AI ให้กับแอพตระกูล Word, Excel, PowerPoint, Outlook, Teams แต่มีแอพตัวหนึ่งที่ถูกมองข้ามไปในตอนนั้นคือ OneNote
ล่าสุด OneNote ได้ฟีเจอร์ Copilot กับเขาบ้างแล้ว รูปแบบการใช้งานคล้ายกับ Word คือสามารถใช้โมเดลภาษา LLM ช่วยร่างแผน สรุปโน้ต สร้างรายการลิสต์ จัดฟอร์แมตในโน้ตของเราได้
ตัวอย่างการใช้งานที่ไมโครซอฟท์นำมาโชว์คือ ให้ร่างแผนการจัดปาร์ตี้ฉลองวันจบการศึกษา จากนั้นสั่งให้สรุปแผนที่ร่างขึ้นมาเป็น to-do list
ไมโครซอฟท์เปิดทดสอบแอปใหม่ในชื่อ Microsoft Loop เป็นระบบจดโน้ตที่สามารถใส่ตาราง กำหนดประเภทข้อมูลในแต่ละฟิลด์, และอ้างถึงข้อมูลจากเอกสารหน้าอื่นๆ ได้ง่าย ซึ่งเป็นรูปแบบคล้าย Notion ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในช่วงหลัง โดย Loop นั้นทดสอบวงปิดมาตั้งแต่ปี 2021 และตอนนี้ก็เปิดให้คนทั่วไปใช้งานแล้ว
ส่วนย่อยๆ ในเอกสารสามารถทำเป็น component เพื่อไปใช้งานที่อื่น เช่นวางใน Microsoft Teams และส่วนต่างๆ ของเอกสารใน Loop ยังสามารถเขียนคอมเมนต์, กดอีโมจิ, หรือเมนชั่นชื่อผู้ใช้คนอื่นๆ กันได้
ไมโครซอฟท์เปิดตัวฟีเจอร์ Microsoft 365 Copilot ฟีเจอร์ที่ฝังเอาปัญญาประดิษฐ์เข้าไปในซอฟต์แวร์ชุดออฟฟิศทั้งหมด ได้แก่ Word, Excel, PowerPoint, Outlook, Teams โดยไมโครซอฟท์โชว์ฟีเจอร์นี้โปรแกรมต่างๆ ได้แก่
บริการจำนวนมากของไมโครซอฟท์มีปัญหาพร้อมๆ กันโดยไม่ได้ดับไปทั้งหมด แต่มีผู้ใช้เจอปัญหาใช้งานบางอย่างไม่ได้เป็นระยะ
เว็บ Down Detector รายงานว่าบริการของไมโครซอฟท์หลายตัวมีปัญหาใกล้ๆ กัน รวมถึงขณะนี้เองก็เข้าหน้า Status ของไมโครซอฟท์ไม่ได้ทั้ง Azure Status และ Office 365 Status
อัพเดต: ไมโครซอฟท์รายงานว่าบริการทั้งหมดกลับมาเป็นปกติ ตั้งแต่ 21:47น.
ไมโครซอฟท์ออกแพ็กเกจ Microsoft 365 Basic รุ่นราคาถูก 1.99 ดอลลาร์ต่อเดือน หรือ 19.99 ดอลลาร์ต่อปี โดยได้พื้นที่ OneDrive 100GB, Outlook แบบไม่มีโฆษณา และฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยเพิ่มเติม
แพ็กเกจนี้ไม่ใช่ของใหม่ เพราะไมโครซอฟท์มีแพ็กเกจ OneDrive Standalone 100GB ราคา 1.99 ดอลลาร์ต่อเดือนอยู่แล้ว สิ่งที่เปลี่ยนคือชื่อแพ็กเกจมาใช้แบรนด์ Microsoft 365 และเพิ่มของที่ได้อีกหน่อย เริ่มขายวันที่ 30 มกราคม 2023 เป็นต้นไป (ผู้ใช้แพ็กเกจ OneDrive 100GB เดิมจะย้ายมาเป็นแพ็กเกจใหม่ให้อัตโนมัติ)
ไมโครซอฟท์ประกาศเปิดตัวโครงการ Skills for Jobs เพื่อเสริมสร้างทักษะดิจิทัลที่จำเป็นต่อตำแหน่งงานยอดนิยม พร้อมทักษะพื้นฐาน ได้แก่ Digital Literacy & Productivity, Soft Skills และ Entrepreneurship โดยเปิดให้เรียนรู้หลักสูตรออนไลน์เพิ่มเติมอีกกว่า 350 คอร์สผ่าน LinkedIn Learning ได้ฟรีจนถึงปี 2568 พร้อมประกาศนียบัตร Career Essentials เพิ่มโอกาสในการได้รับจ้างงาน
โดยนับเป็นการต่อยอดจากโครงการ Global Skills Initiative (GSI) ที่ได้ให้การสนับสนุนกับผู้คนกว่า 80 ล้านคนทั่วโลกตั้งแต่ปี 2563 (มีผู้เรียนชาวไทยรวมกว่า 534,000 ราย)
ไมโครซอฟท์ประกาศฟีเจอร์ใหม่ให้กับ Excel ประจำเดือนธันวาคม 2022 มีของใหม่ที่น่าสนใจสองอย่างคือ Formula Suggestions และ Formula by Example ซึ่งมีผลกับผู้ใช้งาน Excel เวอร์ชันบนเว็บ
ฟีเจอร์แรก Formula Suggestions เป็นการแนะนำสูตรคำนวณ โดยเมื่อผู้ใช้งานพิมพ์ = ในเซลล์ Excel ก็จะแนะนำสูตรที่น่าจะต้องการใช้ขึ้นมา ในตอนนี้รองรับเฉพาะ SUM, AVERAGE, COUNT, COUNTA, MIN และ MAX รองรับเฉพาะเนื้อหาภาษาอังกฤษในตอนนี้ (ดูตัวอย่างท้ายข่าว)
อีกฟีเจอร์คือ Formula by Example โดยเมื่อผู้ใช้งานเริ่มใส่ข้อมูลแบบ manual แต่มีแพทเทิร์น ติดต่อกันหลายเซลล์ Excel จะแนะนำผลลัพธ์ที่เหลือให้ พร้อมกับแนะนำสูตรที่ใช้งานมาให้เพื่อยืนยัน คล้ายกับฟีเจอร์ Flash Fill
ปี 2022กำลังผ่านไปพร้อมกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจหลายอย่างที่สร้างความผันผวนให้กับธุรกิจอย่างหนัก ทำให้องค์กรจำนวนมากมองหาหนทางประหยัดค่าใช้จ่ายในปี 2023 ที่จะถึงนี้ การนำพาธุรกิจให้เดินต่อ สร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน ก็หนีไม่พ้นเรื่องของโดยการนำเทคโนโลยีมาช่วยขับเคลื่อน แล้วจะทำอย่างไรให้การลงทุนนั้นคุ้มค่า ไม่ต้องจ่ายซ้ำซ้อน ในขณะเดียวกันก็ต้องคงความปลอดภัยให้ได้มาตรฐานสูงสุดไปพร้อมกัน การมองหาโซลูชั่นที่ปกป้ององค์กรตั้งแต่เซิร์ฟเวอร์ภายในไปจนถึงอุปกรณ์ต่างๆ ของพนักงานจำนวนมากที่ต้องได้รับการปกป้องอย่างครบถ้วน ตามแนวทาง จ่ายน้อยกว่าแต่ได้มากกว่า (do more with less) จึงเป็นเทรนด์สำคัญสำหรับปี 2023 นี้
ไมโครซอฟท์ประกาศเป็นพันธมิตรกับกลุ่มตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน (London Stock Exchange Group - LSEG) โดยไมโครซอฟท์จะเข้าซื้อหุ้นของ LSEG จากผู้ถือหุ้นเดิม คือ Blackstone/Thomson Reuters Consortium สัดส่วนรวม 4% ขณะที่ LSEG ก็จะหันมาใช้บริการของไมโครซอฟท์ทั้ง Microsoft 365 และ Azure
LSEG สัญญาว่าช่วงสิบปีข้างหน้าจะใช้บริการคลาวด์และซัพพอร์ตจากไมโครซอฟท์ รวมอย่างน้อย 2.8 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่มีโอกาสอื่นๆ รวมด้วย เช่น การเชื่อม LSEG Workspace เข้ากับ Microsoft 365 ก็น่าจะทำให้รายได้ของไมโครซอฟท์จากดีลนี้รวมสูงกว่า 5 พันล้านดอลลาร์
จากข่าว ไมโครซอฟท์จะเลิกใช้ชื่อ Office เปลี่ยนเป็น Microsoft 365 ล่าสุดไมโครซอฟท์โชว์คลิปของแอพ Microsoft 365 ตัวใหม่บนวินโดวส์แล้ว
แอพ Microsoft 365 ตัวใหม่มาแทนแอพ Office Hub ของเดิม หน้าที่หลักของมันคือเป็นจุดรวมเอกสารต่างๆ ในระบบ Microsoft 365 ที่เราใช้งาน แต่ก็รองรับการแสดงไฟล์ชนิดอื่นๆ ที่ไม่ได้อยู่ในชุด Office ด้วย (ในคลิปโชว์ตัวอย่างไฟล์ PDF และ Figma)
ฟีเจอร์อื่นๆ ของแอพ Microsoft 365 คือการแสดงแอพขององค์กรเอง และแอพจากบริษัทอื่นๆ (third party) ที่เข้ามาเชื่อมต่อกับระบบ Microsoft 365, หน้าแสดง Feed บอกสิ่งที่เราควรรู้ประจำวัน เช่น นัดหมายประชุมถัดไป หรือ เนื้อหาที่โพสต์-ส่งทางเมลจากคนที่เราติดตาม