มีข่าวการซื้อกิจการของกูเกิลออกมาไล่เลี่ยกัน 2 ข่าว ยุบรวมกันเพื่อไม่ให้เปลืองที่นะครับ

บริษัทแรกคือ Katango ซึ่งสร้างซอฟต์แวร์บน iPhone ที่ช่วยจัดรายการเพื่อนบน Facebook ให้อัตโนมัติ (ทำนองเดียวกับ Smart List ที่ Facebook เพิ่งเปิดตัวออกมา) ทีมงาน Katango จะถูกรวมเข้ากับทีมของ Google+ และเราคงได้เห็นฟีเจอร์ช่วยจัดการ circle ในไม่ช้า - ReadWriteWeb

หลังจากกูเกิลโดนวิจารณ์มาเยอะว่าไม่ยอมช่วยเหลือผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ Android ที่ได้รับผลกระทบจากคดีสิทธิบัตรทั่วโลก ล่าสุดกูเกิลเริ่มขยับตัวแล้ว

กูเกิลยังเดินหน้าตามยุทธศาสตร์ +1 ต่อไปเรื่อยๆ จากตอนแรกที่ +1 ผลการค้นหา ตามมาด้วย +1 เว็บทั่วไป,

เว็บไซต์ Digitimes ของไต้หวันรายงานข่าวว่า ASUS จะเลื่อนกำหนดการวางขาย Eee Pad Transformer Prime จากเดิมที่จะเปิดตัวช่วงนี้ ไปเป็นเดือนธันวาคม

เหตุผลของการเลื่อนเป็นเพราะกูเกิลเข้ามาช่วยเหลือ ASUS ในการปรับปรุง Eee Pad Transformer Prime ให้รองรับ Android 4.0 อย่างเต็มที่ เลยต้องใช้เวลาปรับปรุงอีกสักหน่อย

Digitimes ยังเผยข้อมูลว่า เดิมทีบริษัทฮาร์ดแวร์ไต้หวันไม่ค่อยพอใจที่กูเกิลไม่สนใจช่วยเหลือเรื่องการอัพเกรด Android 3.x เป็น 4.0 ทำให้บริษัทหลายแห่งหันไปโฟกัสกับ Windows 8 แทน ดังนั้นการที่กูเกิลเข้ามาช่วย ASUS อาจเป็นสัญญาณว่าบริษัทเริ่มกลัว Windows 8 และต้องรีบปรับปรุงความสัมพันธ์กับผู้ผลิตฮาร์ดแวร์โดยด่วน

กูเกิลประกาศหยุดพัฒนาและหยุดสนับสนุน Gmail App รุ่นบน BlackBerry แล้ว

ผู้ใช้ BlackBerry ที่ติดตั้ง Gmail App ไว้แล้วจะยังสามารถใช้งานได้ต่อไป แต่หลังวันที่ 22 พ.ย. แอพจะไม่มีให้ดาวน์โหลดแล้ว และกูเกิลจะเลิกสนับสนุนการใช้งานทั้งหมด โดยแนะนำให้เปลี่ยนไปใช้ Gmail แบบเว็บผ่านเบราว์เซอร์ของ BlackBerry แทน

ผู้ใช้ Google Apps ที่ใช้แอพตัวนี้จะได้รับผลกระทบเช่นกัน แต่ยังสามารถใช้งานอีเมลผ่าน Google Apps Connector for BlackBerry Enterprise Server (ผ่านระบบอีเมลมาตรฐานของ BlackBerry) ได้ตามปกติ

หลังจากปล่อยให้รอกันมาสามเดือน (ข่าวเก่า) ล่าสุดกูเกิลก็ได้ปล่อยความสามารถ Google+ Pages หรือหน้าโพรไฟล์สำหรับธุรกิจ (แบบเดียวกับเฟซบุ๊คเพจ) เพิ่มเติมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ความคืบหน้าของกรณี คณะกรรมาธิการด้านผูกขาดของวุฒิสภาสหรัฐสอบสวนกูเกิล ซึ่งก่อนหน้านี้

คุณ Randall Sarafa โฆษกของ Google ได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการแล้วครับว่า Google จะเปิดซอร์ส Android 4.0 หรือที่มีโคดเนมว่า Ice Cream Sandwich ในไม่กี่อาทิตย์ที่จะถึง (ต้นฉบับใช้คำว่า "Coming Weeks")

นอกจากนี้ยังบอกอีกด้วยว่าจะไม่ทำการเปิดซอร์สของ Honeycomb ให้กับสาธารณะชน ผมเองก็มองว่าคงไม่มีความจำเป็นต้องเปิดแล้ว ในเมื่อ Ice Cream Sandwich สามารถรันบน Tablet ได้

ผมลง Custom Recovery Image ไว้พร้อมแล้วครับ CyanogenMod ออกเมื่อไหร่คงรีบหามาลงทันที

ที่มา - ZDNet

กูเกิลออก Chrome 16.0.912.21 ใน Beta Channel โดยมีฟีเจอร์ใหม่ที่สำคัญคือการล็อกอิน Google Profile ในตัวเบราว์เซอร์ (สำหรับซิงก์ข้อมูล) ได้หลายบัญชีพร้อมกัน

ผู้ใช้ Chrome 16 Beta จะเห็นไอคอน avatar ของเราโผล่มาที่มุมซ้ายบนของหน้าต่าง (ก่อนแท็บอันแรก - ดูภาพประกอบ) เมื่อกดแล้วสามารถล็อกอินบัญชีใหม่ หรือจะสลับไปยังบัญชีอื่นๆ ที่เคยล็อกอินไว้แล้วได้

ฟีเจอร์นี้เหมาะสำหรับคนที่แชร์คอมพิวเตอร์ร่วมกับคนอื่น ก็ช่วยให้ใช้งาน Chrome สะดวกมากขึ้น แต่ก็ต้องแลกด้วยความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวที่อาจจะลดลงมาหน่อยครับ

ที่มา - Google Chrome Blog

กูเกิลประกาศข่าวสำคัญที่จะส่งผลกระทบต่ออันดับของผลการค้นหา (ตัวเลขของกูเกิลบอกว่ากระทบ 35% ของผลการค้นหาทั้งหมด) นั่นคือเพิ่มปัจจัยเรื่อง "ความสดใหม่" ของเพจเข้ามาพิจารณาให้มากขึ้น

จากบทความที่แล้วที่ลงไว้ที่เว็บ Thailand GTUG ผมได้พาทุกคนไปรู้จักกับงาน Google Developer Day กันแล้ว สำหรับบทความนี้ เราจะมาต่อกันที่บรรยากาศภายในงาน Google Developer Day 2011 Tokyo ที่ผมได้มีโอกาสไปเข้าร่วมมาในฐานะตัวแทนจาก Thailand GTUG ครับ ในบทความนี้จะไม่เน้นลงรายละเอียดเกี่ยวกับเทคโนโลยีต่างๆ ที่ Google นำมาเสนอ เพราะสามารถหาอ่านได้ตามข่าวเก่าๆ และเว็บไซต์อื่นๆ ทั่วไป ไม่มีอะไรแปลกใหม่มากนัก แต่จะเน้นในส่วนของบรรยากาศภายในงาน เพื่อเป็นการแบ่งปัน

ถึงแม้ว่าไตรมาสที่ผ่านมาจะฟันกำไรได้ถึง 11% จากยอดขาย แต่ตัวเลขโดยรวมของ Motorola ยังคงติดลบอยู่ที่ 32 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ซึ่งลดลงจากเดิมที่ 34 ล้านดอลล่าร์สหรัฐในปีที่แล้ว ดังนั้น Motorola จึงวางแผนที่จะทำการปลดพนักงานถึง 800 ตำแหน่งลง เพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย ซึ่งการปลดพนักงานในครั้งนี้จะทำให้ Motorola มีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นถึง 31 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ซึ่งประกอบไปด้วยค่าชดเชยพนักงาน 27 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ และค่าปิดโรงงานหนึ่งแห่ง 4 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ

สงครามการชิงตลาดบริการระดับองค์กรระหว่างกูเกิลกับไมโครซอฟท์มาถึงจุดเปลี่ยนครั้งใหม่ เมื่อการสเปคการจัดซื้อของกระทรวงมหาดไทยของสหรัฐฯ ที่ต้องการเปลี่ยนมาใช้บริการอีเมลในกลุ่มเมฆแทนการตั้งเซิร์ฟเวอร์ด้วยตัวเองเมื่อปีที่แล้ว จนตอนนี้แต่ระบุในสเปคว่าต้องใช้ระบบของไมโครซอฟท์เท่านั้นจนกระทั่งกูเกิลฟ้องร้อง และเพิ่งได้ข้อสรุปเมื่อไม่นานมานี้ เมื่อวันที่ 28 ที่ผ่านสเปคใหม่ก็ออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว

รายได้หลักของกูเกิลนั้นมาจาก "โฆษณา" ตระกูล AdWords ที่แสดงโฆษณาได้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ ในสมัยแรกๆ กูเกิลจะนำคำค้นหรือ keyword มาคำนวณหาโฆษณาที่เหมาะสมให้ แต่ภายหลังก็นำปัจจัยอื่นๆ อีกสารพัดมาคำนวณ เพื่อให้ได้ผลโฆษณาที่แม่นยำกว่าเดิม

เทคนิคนี้เป็นดาบสองคม เพราะผู้ใช้จำนวนหนึ่งมองว่า "ละเมิดความเป็นส่วนตัว" และส่งผลให้กูเกิลถูกสอบสวนจากองค์กรภาครัฐหลายแห่งในหลายประเทศ

กูเกิลจึงต้องพยายามผ่อนคลายความกดดันนี้ และความพยายามครั้งล่าสุดคือเพิ่มลิงก์ "why these ads?" อยู่ข้างๆ โฆษณาใน Google Search และ Gmail เพื่อบอกที่มาที่ไปว่า ทำไมเราถึงเห็นโฆษณาชิ้นนี้

หลังจากเปิดให้ผู้ใช้ทดสอบการใช้งานและเผลอโพสวิดีโอเปิดตัวไปก่อนหน้านี้ วันนี้กูเกิลก็ประกาศเปิดตัว Gmail รูปแบบใหม่อย่างเป็นทางการแล้ว

หน้าจอใหม่นี้มีชื่อว่า The Pony Project มีฟีเจอร์สำคัญอยู่ห้าอย่างคือ ปรับปรุงการแสดงการสนทนา, ปรับความหนาแน่นการแสดงผลได้, ธีมความละเอียดสูง, ปรับหน้าจอได้อิสระขึ้น, และกล่องค้นหาที่ปรับแต่งได้ง่ายขึ้น

ผู้ใช้จะค่อยๆ ถูกปรับไปใช้งานหน้าจอใหม่ทั้งหมดในไม่กี่วันข้างหน้า ก่อนหน้านั้นจะมีปุ่มกดขอเปลี่ยนหน้าจอมาให้กันก่อน (ตอนที่เขียนนี้ผมเองก็ยังไม่ได้ปุ่มขอเปลี่ยน)

ผู้อ่าน Blognone คงคุ้นเคยกับบริการ "ฝากดูแลคอมเมนต์" อย่าง Disqus, Intense Debate ซึ่งภายหลังก็มี Facebook Comments เข้ามาแจมในตลาดนี้

ระบบคอมเมนต์แบบนี้มักใช้เทคนิค <iframe> ฝังคอมเมนต์ลงบนหน้าเว็บ ซึ่งมีผลให้บอท crawler ไม่สามารถดูดเนื้อหาไปใส่ฐานข้อมูลของตัวเองได้ และทำให้เราไม่สามารถค้นหาคอมเมนต์เหล่านี้ได้จากเว็บไซต์ค้นหาต่างๆ

หลังจากที่พรีวิว Google Reader โฉมใหม่ เมื่อสัปดาห์ก่อน วันนี้กูเกิลทยอยแจกให้ผู้ใช้แล้ว

แม้ YouTube จะมีช่องมากมายที่ผลิตรายการอย่างต่อเนื่อง แต่หนึ่งจุดด้อยคือช่องเหล่านั้นส่วนใหญ่ยังด้อยคุณภาพ กล่าวคือผลิตโดยผู้ผลิตสื่อสมัครเล่นและใช้อุปกรณ์ผลิตสื่อคุณภาพต่ำเป็นต้น

แต่ล่าสุด YouTube ประกาศเตรียมเปิดช่องใหม่อีก 100 รายการที่ออกอากาศเฉพาะบน YouTube ซึ่งผลิตโดยผู้ผลิตสื่อมืออาชีพในทุกหมวดความสนใจ เช่น หมวดกีฬา, หมวดดนตรี, หมวดขำขัน, หมวดข่าวและหมวดการศึกษาเป็นต้น ซึ่งมีรายชื่อหลักๆ ของผู้ผลิตสื่อ เช่น Jay-Z, eHow, Madonna, Red Bull และ WWE ฯลฯ รายละเอียดเชิญด้านใน

Google TV อาจถือได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์สุดแป๊กของกูเกิลในรอบปีหลังนี้ (ถึงขนาด Logitech มียอดขายติดลบ และ

แนวทางการเก็บเงินจากบริการ Google Maps API ของกูเกิลนั้นค่อนข้างชัดเจนจากการเปิดตัว Maps API Premier ไปก่อนหน้านี้สำหรับองค์กรที่ต้องการใช้ Google Maps สำหรับแอพพลิเคชั่นภายใน และตอนนี้ราคาสำหรับการใช้งาน Google Maps API ก็ออกมาเป็นทางการแล้ว

ราคาของ Maps API นั้นจะต่างกันออกไปตามประเภทการใช้งาน โดยทั่วไปจะอยู่ที่ 25,000 ครั้งต่อวันสำหรับแผนที่ที่ไม่ได้มีการปรับแต่งสไตล์ แต่หากเกินจะคิด 4 ดอลลาร์ต่อการใช้งาน 1,000 ครั้ง หรือหากมีการปรับแต่งก็จะฟรี 2,500 ครั้งต่อวัน

ต่อเนื่องจากฟีเจอร์ใหม่ใน Google+ ก็ตามมาด้วยการรองรับ Google+ สำหรับ Google Apps โดยจะเปิดให้แอดมินสามารถเปิดได้เอง

ฟีเจอร์พิเศษสำหรับผู้ใช้ Google Apps คือจะมีแวดวงสำหรับคนในองค์กรมาให้เป็นชื่อโดเมนของ Google Apps ทำให้เราสามารถแชร์กันในองค์กรได้ทันที

หลังจากกูเกิลพยายามเข้าซื้อ Groupon และไม่สำเร็จจนกระทั่งสร้าง Google Offers เองแต่ยังทำยอดขายได้น้อยมากเมื่อเทียบกับ Groupon และกลยุทธ์ล่าสุดของกูเกิลก็คือการจับกลุ่มผู้ค้าดีลอื่นๆ เข้ามาร่วมกับ Google Offers

สองบริษัทที่ยืนยันแล้วว่าจะเข้าร่วมกับกูเกิลคือ Gilt City และ kgbdeals น่าสนใจว่าเว็บดีลแต่ละเว็บนั้นมีแนวทางการการให้บริการต่างๆ กันไป เช่น Gilt City นั้นเน้นสินค้าพรีเมี่ยมราคาสูง โดยจะมีการรับประกันกับร้านค้าว่าจะขายดีลอย่างน้อยกี่วัน ขณะที่ Groupon นั้นไม่ยืนยันว่าจะขายดีลวันไหนและขายนานเท่าใหร่ ส่วน kgbdeals นั้นจะเหมือน ensogo ของบ้านเราที่มีสินค้าหลากหลายมาขายอย่างหลากหลาย

แนวทางของ Google+ กับ Facebook จะมีความคล้ายกันอย่างหนึ่งคือการค่อยๆ ปล่อยฟีเจอร์ใหม่ๆ ทีละนิดเข้ามา ที่ผ่านมาบริการ Google+ ก็มีการปรับปรุงเล็กๆ น้อยๆ จนวันนี้ก็มาถึงรอบการใส่ 3 ฟีเจอร์ใหญ่และอีก 1 ฟีเจอร์ย่อย

What's Hot on Google+ เป็นบริการเพื่อแนะนำโพสที่ได้รับความนิยมสูงๆ ใน Google+ มันจะแนะนำบทความที่เราน่าจะสนใจขึ้นมา โดยมันจะแทรกอยู่ในสตรีมปรกติเพียงแต่วางอยู่ด้านล่าง เอาไว้ให้เราหาอย่างอื่นอ่านหนังจากโพสจากคนใน "แวดวง" ของเราไปแล้ว นอกจากด้านล่างของสตรีมแล้วยังมีหน้าเฉพาะของ What's Hot ให้เข้าไปอ่านกันต่างหาก

คดีมหากาพย์ระหว่างออราเคิลกับกูเกิลมีอันต้องเลื่อนออกไปอีก โดยผู้พิพากษา William Alsup เสนอให้เลื่อนการพิจารณาคดีออกไปอีก

เดิมทีศาลนัดพิจารณาคดีในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ แต่ศาลมีปัญหาเรื่องคิวพิจารณาคดี เพราะมีคดีอาชญากรรมคดีใหญ่เข้ามาแทรก ผู้พิพากษา Alsup จึงเสนอให้เลื่อนการพิจารณาคดีออกไป โดยมีกำหนดคร่าวๆ คือปี 2012 เลย (แต่ยังไม่ระบุช่วงเวลาแน่ชัด)

การพิจารณาคดีจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนที่เกี่ยวข้องกับลิขสิทธิ์, ส่วนที่เกี่ยวข้องกับสิทธิบัตร, และส่วนอื่นๆ ที่เหลือ โดยออราเคิลและกูเกิลมีเวลาถึงวันที่ 18 พฤศจิกายน เพื่อตอบผู้พิพากษาว่าเห็นด้วยกับแผนการนี้หรือไม่

กระแสยังแรงไม่หายสำหรับ Galaxy Nexus จากกูเกิลและซัมซุง เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเราได้อธิบายไปว่าหน้าจอของ Galaxy Nexus ไม่ใช่หน้าจอ Super AMOLED Plus เหมือนกับ Galaxy S II แต่เป็นหน้าจอ PenTile ที่อาจจะส่งผลให้ความละเอียดของภาพไม่ HD สมบูรณ์แบบเท่าที่อ้างไว้ ล่าสุด Android and Me ได้รายงานว่า Galaxy Nexus จะไม่ใช่กระจกหน้าจอ Gorilla Glass อีกต่อไปแล้ว แต่จะหันมาใช้กระจกแข็ง (fortified glass) ทั่วไปแทน

แต่กระจกแข็งที่ว่านี้ อาจจะสามารถกันรอยขูดขีดได้ดีไม่ต่างกับ Gorilla Glass สิ่งเดียวที่อาจจะต่างกันก็คือกระจกนี้ไม่มียี่ห้อ แต่ในตอนนี้ยังไม่มีใครสามารถยืนยันความแข็งแกร่งของกระจกที่ซัมซุงได้เลือกใช้นี้ได้ จนกว่าจะมีใครได้รีวิวตัวเครื่องที่จะนำมาวางขายจริง