By: hisoft 
on 26 December 2014 - 06:34
Tags:
หลังจากที่ YouTube Movies และ Google Play Movies ได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในบริการที่เปิดให้ชม The Interview ทางกูเกิลก็ได้ออกมาเปิดเผยเหตุผลในการตัดสินใจในครั้งนี้แล้วครับ
กูเกิลบอกว่าเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ทางโซนี่ได้เริ่มติดต่อบริษัทต่างๆ รวมถึงกูเกิลด้วย เพื่อถามว่าจะช่วยทำให้ภาพยนตร์เรื่อง The Interview ของพวกเขาขึ้นฉายบนอินเทอร์เน็ตได้หรือไม่ ทางกูเกิลก็มีความเห็นตรงกันและกระตือรือร้นที่จะช่วย แม้ว่าสิ่งแรกที่คิดคือผลกระทบด้านความปลอดภัย ที่เห็นได้จากสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้
ทางกูเกิลเองก็หวังว่าจะมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นเพื่อให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้เห็นแสงตะวัน (โดยไม่เกี่ยวกับกูเกิล) แต่หลังจากได้ถกกันในเรื่องต่างๆ โซนี่และกูเกิลก็ได้ตกลงกันว่าพวกเขาไม่สามารถนั่งดูอยู่ข้างสนาม และปล่อยให้คนเพียงหยิบมือมาจำกัดขอบเขตของการพูดอย่างเสรีในประเทศอื่นได้ แม้ว่าเนื้อหานั้นจะงี่เง่าแค่ไหนก็ตาม
ที่มา - Google Official Blog ผ่าน Business Insider
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
- สรุปของใหม่และสาระสำคัญจาก AWS re:Invent 2023 | Cloudnone Special EP
Comments
หล่อมั่กๆ
ดีใจด้วย ถ้าแม้แต่ผู้ประกอบการด้วยกันยังไม่ช่วยกัน ก็จะกลายเป็นบรรทัดฐานว่า สามารถblackmail ได้ด้วยคำขู่จะก่อการร้าย
อยากฟังฝั่งไมโครซอฟท์บ้างละจะพูอย่าางไร และแอปเปิลจะไม่ฉายจริงหรอ ถ้าไม่ใจพอไม่ก็สนแต่กำไร
ผมว่าสิ่ง ที่อัตรายกว่านั้นคือ ลูกค้า Apple อาจกลายเป็นเป้าหมายครับ
ฉาย มันก็ไม่ได้เงินเพิ่มมากมาย แต่ลูกค้า Apple ทั่วโลกเสี่ยงมีปัญหาไปด้วยครับ
Apple ค่อนข้างจะสนใจเนื้อหาของหนังที่จะเอาไปฉายครับ ซึ่ง The Interview ก็มีเนื้อหาเป็นลักษณะการลอบฆ่า
เตรียมเปลี่ยนพาสฯ บริการเครือกูเกิล #รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดอมนุษย์
บิดาอินเตอร์เน็ตทำงานอยู่ที่กูเกิลครับ ไม่ต้องห่วง ผมมีโอกาสพบวิศวกรกูเกิล 3-4 คนในงานสัมนา WebRTC แต่ละคนขั้นเทพ
และเป็นอีกหนึ่งในโอกาสที่กูเกิลจะทดสอบระบบป้องกันของตัวเองได้ด้วยนะเนี่ย #เตรียมรับมืออ
โดยที่ไม่ต้องจัดแข่งขันแฮกเพื่อชิงรางวัลเลยละครับ #คิดรหัสผ่านรอแปป
Mekokung's Story บล็อกส่วนตัวที่ย้ายไป Blogger แล้วนะ
จริง ๆ แทบไม่ต้องเดาเลยเพราะพี่กูเกิ้ลเน้นเรื่องนี้และโมเดลธุรกิจสอดคล้องได้ผลประโยชน์
ผ่านด่านไปได้ก็ชื่อเสียงจะตกอยู่กับระบบ eco sys ของกูเกิลทั้งหมดเลยละ
+100000000000000
อากู๋พูดได้ดี แล้วapple ละ ?? ว่าแต่ใช้ Google หลายตัวมีเสียว ๆเหมือนกัน ..
apple คงคำนึงถึงความปลอดภัยระบบตัวเอง ที่มีผลต่อลูกค้าของเขานั่นละ(ลูกค้าเองก็คงไม่อยากเสี่ยง เพราะพึ่งผ่านเรื่องเสียวกันมาเอง)
google มั่นใจตัวเองดี(อยู่ดีๆ ลูกค้าก็ได้เสียวกันบ้างละนะ) ถ้าโดนขึ้นมาคนโดนทับถมแน่ๆ
MS เองก็มั่นใจเหมือนกัน
เพิ่งลบบัญชี Microsoft ทิ้งเพราะโดนแฮกไปหลายรอบ มารอบนี้ Google... Dafuq!
โดนแฮกประมาณไหนหรอครับ(ใครแฮก แฮกทำไมอะไรหาย ประมาณนี้ครับ)ตั้งแต่ผมใช้มา 10กว่าปีไม่เคยโดนแฮกเลย อยากทราบเป็นความรู้นะครับ
ปล.ตัวผมเองใช้ยืนยันสองชั้นเลยค่อนข้างรู้สึกปลอดภัยอากู๋ก็ทำไว้เช่นกัน
ผมได้ฮอตเมลส่ง Spam มาบ่อยๆเลยก่อนนี้ ต้องเตือนเจ้าของเมลให้เปลี่ยน password อะฮะ อันนี้น่ะจะเป็นเคสเดียวกันมั้ง
ผมเคยสร้าง email ของ hotmail ให้พ่อใช้ ปรากฎว่า email นี้คงโดน microsoft รีไซต์เคิลมาเพราะผมสามารถเข้า fb ของเจ้าของเก่า ซ้อนไปถึงแอปเค้าที่ล็อคอินผ่าน app ได้ครบทุกตัว
เลยข้อความไปบอกเพื่อนเค้าใน fb ว่าเดี๋ยวจะส่ง password ไปให้ เจ้าตัวหาว่าเราไปแฮคเค้าบอกจะฟ้องตำรวจ ผมเลยไม่คุยต่อสั่งลบ fb นั้นทิ้งเลย...
/me แบบนี้ไม่รู้เรียกอะไร ?
ผมเคยสมัคร facebook แล้วได้ของคนอื่นมาด้วย ^_^'
อันนี้อาจเป็นความงี่เง่าของผู้ใช้ที่ลบเมลล์ไปแล้วแต่ดันไม่ทำให้เรียบร้อยหรือเปล่า เพราะผูกบัญชีกับ fb มันก็เป็นสิ่งที่เจ้าของเก่าทำเองบนระบบ fb ไมโครซอฟท์คงไม่ตามไปเช็ดแน่ๆ
ผมคิดว่าเค้าคงไม่ได้ใช้อีเมลนานจนโดน microsoft สั่งรีไซค์เคิลแล้วเจ้าตัวก็ไม่รู้
จะว่าไปตอน ม.2 ผมเคยโดน hack รหัสผ่าน hotmail แล้วเอาไปคุยกับเพื่อนผู้หญิงร่วมห้องคนหนึ่งของผมผ่านทาง msn แนว 18+ (และเหตุการณ์นั้นทำให้ผมรู้จักศัพท์ใหม่ในชีวิตคือคำว่า เงี่ย- 555) เป็นเรื่องเป็นราวถึงอาจารย์ประจำชั้นและเพื่อนในห้อง ทุกวันนี้ยังไม่รู้เลยว่าใครทำ คอมก็ใช้แต่คอมบ้าน รหัสก็ไม่ได้เอาสิ่งใกล้ตัวมาตั้งเลย
ของ MS แค่เอาอะไรไปสะกิดนิดหน่อยก็ร่ายยาวให้ยืนยันตัวแล้วครับ
MS แจ้งเตือนมาว่ามี ip แปลกๆจากต่างประเทศเข้ามาบ่อยๆ ผมเช็กเมลล์ทุกอาทิตย์
ส่วน Google เจอครั้งเดียว เครื่อง Note 4 ล็อกอินเข้ามาจากกรุงเทพ ทั้งที่ตั้งรหัสสองชั้น ผมล็อกอินมาจากภูเก็ตตลอด และไม่ได้ใช้รุ่นนี้
ปล.ผมเคยจ้างแฮกเกอร์จากเว็บหนึ่ง แต่ตอนนี้ไม่ได้จ้างแล้ว
รหัสสองชั้น จะช่วยอะไรได้ไหมอะ...
เห็นหลายเม้นท์ตื่นตระหนกถึงบัญชีจะโดนแฮก
เอิ่ม...
คิดว่าไกลตัว แต่กลัวโดนแฮกเหมือนกัน แงงงง. ไม่ได้นะ อย่าทำไรกับบัญชี googleผมเลย ฝากงานฝากอะไรไว้นั่นหมดเลย
เนื้อหาในภาพยนต์ไม่ต้องพูดถึง ตอนนี้มันกลายเป็นสัญลักษณืการต่อต้านCyber Hacker
เหมือนหนังสือ 1984 ที่ถูกห้ามอ่าน เพราะถูกเอาไปเป็นสัญลักษณ์Anti Coup เสียดายเนื้อหาภายในจริงๆ
ถ้าเว็บอากู๋ล่มอีกผมคงไม่แปลกใจครับ
ถ้าทำเวป google ล่มได้นี่ผมแปลกใจมากเลยครับ
กูเกิลเดี้ยงแค่ 2 นาที ส่งผลให้ทราฟฟิกทั่วโลกหายไป 40%
Dream high, work hard.
ครับผม ผมไม่ได้บอกว่า google ล่มไม่ได้นะครับ แต่ผมบอกว่า ถ้าใครจงใจทำให้ google ล่มได้(อ้างอิงจากด้านบนครับ) นี่ผมแปลกใจจริงๆครับ
ว้าว การต่อสู้ระหว่าง Google กับ Anonymous กำลังจะเกิดขึ้นแล้ว
ไม่เกี่ยวอะไรกับ Anonymous ครับ
คิดว่า Anonymous คราวนี้ช่วย GG กับ ไมโครซอฟท์ เล่นกับ GOP มากกว่าครับ
Anonymous นี่เป็นเจ้าแรกๆที่เสนอจะช่วยฉายบน internet เลยนะ
ผมหน้าแตกหมอไม่รับเย็บเลยอ่ะ T-T
อย่าเพิ่งยอมแพ้ครับ เรายังแถต่อไปได้
บอกไปเลยว่า Anonymous ที่เราพูดถึงเราไม่ได้หมายถึงชื่อกลุ่มแฮกเกอร์ แต่เราหมายถึงกลุ่มแฮกเกอร์นิรนาม (anonymous) อะไรแบบนี้ครับ
/เผ่นนนน
สวดยวดเลย
ประกาศสงคราม
งานนี้กูเกิลได้ใจแฮกเกอร์ค่ายเสรีมาช่วยตรึม ไม่เหมือนกรณีล่อเป้าอย่างโซนี่นะ
หนังเรื่องนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ในการพูดอย่างเสรีไปเลย
ก่อนหน้านี้เคยดูช่องนึงนำเสนอหนังที่เคยถูกคุกคามจากผู้นำประเทศอื่นจนต้องปรับเนื้อหาเหมือนกัน เป็นหนังที่ฉายช่วงที่ฮิตเลอร์ยังมีอำนาจและหนังก็พาดพิงถึงเยอรมันเลยทำให้ฮิตเลอร์ต้องออกมา
จากนั้นวงการฮอลิวู้ดก็เลยมีคำถามว่ามันเป็นหนังที่พวกเค้าสร้างทำไมคนจากประเทศอื่นถึงมีอำนาจมาสั่งโน่นสั่งนี่ได้ หลังจากคราวนี้ก็มีเรื่อง The Interview นี่แหล่ะ แต่คราวนี้ดูท่าจะไม่ยอมแล้ว
ไม่รู้สึกกลัวซักนิดเลยครับ ผมวางใจในกูเกิล
ปล. ชื่นชมการตัดสินใจของกูเกิล และก็ทำให้คนทั่วไปได้เห็นธาตุแท้ของอีกบริษัท (ที่ผมมั่นใจว่าผมเห็นมานานแล้ว)
+1 เห็นด้วยมากๆ ครับ ผมมั่นใจ GG เหมือนกันว่า เขามีทีมงานและวางระบบแข่งแกร่งพอ
ผมว่าเราเองก็รู้ว่าอีกบริษัทเค้าเพิ่งผ่านปัญหาภาพในระบบหลุดไป มันก็กระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้ใช้อยู่บ้างละครับ ก็พอเข้าใจได้นะ
..ถึงอยากโชว์หล่อก็คงทำไม่ได้ มันมีภาพเก่าติดอยู่(ผมว่าผู้ใช้เองก็อาจพอใจกว่านะ ถ้าไม่ต้องเสี่ยงไปกับการโชว์พาว์ท)
ถ้าหมายถึงแอปเปิ้ล ผมว่านี่ก็แสดงถึงธาตุแท้ของคนไทยบางส่วนด้วยครับ ถ้ามีพวกก็คิดว่ามันควรต้องเป็นอย่างที่ตัวเองคิด โดยไม่สน รึ ยังไม่ทันเห็นเหตุผลของอีกฝ่ายด้วยซ้ำ
เหมือนคนกินเหล้าเก่งไปรุมด่าคนไม่กินว่า อ่อน ไรงิน่ะครับ แม้ว่าอันที่จิงคนนั้นกินแล้วอาจจะตายเลยก็ได้เพราะแพ้รึอะไรก็ตาม
มุมมองปัญหาของคนอื่นไม่ใช่ปัญหาใหญ่ไงครับ ถ้าปัญหาของตัวเองใหญ่เสมอ มันเป็นเรื่องปกติ
สิ่งที่ google ทำไม่ผิดครับ apple ทำก็ไม่ได้ผิด เพราะไม่ได้ไปเริ่มเบียดเบียนใครก่อน มันอยู่แค่ว่าการกระทำนันมันถูกใจคนคนนั้นหรือไม่ก็เท่านั้น
แล้วจะมาดิ้นเพื่อ apple ทำไมล่ะครับเนี่ย
ส่วนไหนที่แสดงชัดเจนว่าผมดิ้นเพื่อแอปเปิ้ลรึครับ? ผมขี้เกียจพิมพ์ว่า บอกก่อนว่าผมไม่ใช่สาวก ผมใช้... บลาๆๆ ก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะต้องมาดิ้นให้ใครนี่ครับ
ทั้งข้อความครับ
และการพิมว่า 'บอกก่อนนะว่าผมไม่ใช่สาวก..... ผมใช้......'
ไม่ได้ทำให้คุณกลายเป็นสาวกหรือไม่เป็นสาวกครับ
งั้นผมก็ขอพูดบ้างครับ การเข้าข้างแอปเปิล และสนับสนุนการกระทำแอปเปิล หรือการต่อต้านความไร้เหตุผลของ anti-apple ก็ไม่ได้ทำให้เป็นสาวกแอปเปิลแต่อย่างใดครับ
ก่อนจะประกาศสงคราม แม่ทัพระดับสูงของ Google น่าจะประเมิณแล้วว่างานนี้น่าจะเอาอยู่นะ
งานนี้ผมก็เชียร์ Google (เหมือนเดิม 555)
..: เรื่อยไป
Google แสดงจุดยืนชัดเจนดี ส่วนตัวคิดว่าทีมวิศวกรของ Google เอาอยู่เหมือนกันครับ