9to5google แจ้งข่าวว่า กูเกิลเริ่มปล่อยอัพเดตฟีเจอร์ Home Panel ควบคุมอุปกรณ์สมาร์ทโฮมในบ้าน ให้กับ Chromecast with Google TV และสมาร์ททีวี Google TV แล้ว
ฟีเจอร์นี้มีมาก่อนใน Google TV Streamer อุปกรณ์ที่มาแทน Chromecast ในปี 2024 และตอนนี้เริ่มทยอยปล่อยให้ฮาร์ดแวร์อื่นบนแพลตฟอร์ม Google TV นั่นคือ สมาร์ททีวี และ Chromecast with Google TV
ฟีเจอร์ Home Panel ช่วยให้เราสั่งงานอุปกรณ์สมาร์ทโฮมในบ้านที่เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์ม Google Home ได้จากทีวีโดยตรง เช่น เปิด-ปิดไฟ, ปรับอุณหภูมิแอร์, ดูภาพจากกล้องวงจรปิด เป็นต้น
วันเดียวกับที่ Duolingo เปิดตัวหลักสูตรสอนภาษาที่สร้างด้วย AI กูเกิลก็เปิดตัว Little Language Lessons เว็บแอพสำหรับสอนภาษาแบบง่ายๆ เร็วๆ (สไตล์ Duolingo นั่นแหละ) ที่สร้างด้วย Gemini ทั้งหมด
Little Language Lessons เป็นชุดเว็บแอพสอนภาษาแบบง่ายๆ เร็วๆ (bite-sized learning experiments) จำนวน 3 ตัว ได้แก่
กูเกิลเพิ่มความสามารถให้แชทบอต Gemini สามารถแก้ไขรูปภาพได้ตาม prompt ที่กำหนด รองรับทั้งรูปภาพที่สร้างขึ้นจาก AI และรูปภาพที่ผู้ใช้งานอัปโหลดเข้ามา ซึ่งฟีเจอร์นี้กูเกิลทดสอบไปก่อนหน้าแล้วในแพลตฟอร์ม AI Studio สำหรับนักพัฒนา
กูเกิลบอกว่าผู้ใช้งานสามารถป้อนคำสั่ง เช่น ลบหรือเปลี่ยนฉากหลัง, เพิ่มวัตถุในรูป หรือองค์ประกอบอื่นที่ต้องการ โดยฟีเจอร์นี้เริ่มทยอยอัปเดตให้ผู้ใช้ Gemini ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป รองรังมากกว่า 45 ภาษา และในหลายประเทศทั่วโลกภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
กูเกิลบอกว่าความสามารถแก้ไขรูปภาพนี้สามารถทำงานแบบทีละขั้น ทำให้ลงรายละเอียดปลีกย่อยในการแก้ไขได้ดี รูปภาพทั้งหมดที่สร้างขึ้นจะถูกฝังลายน้ำ SynthID ตามมาตรฐานรูปที่ถูกสร้างจาก AI
ผลการทดสอบโดย Google ในสหราชอาณาจักร พบว่า AI สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้อย่างมาก จากการทดลองให้พนักงานลองใช้ AI และฝึกอบรมเพียงไม่กี่ชั่วโมง ก็สามารถเพิ่มอัตราการนำ AI มาใช้เป็นสองเท่า
นอกจากนี้ Google บอกว่า พนักงานส่วนใหญ่ไม่เคยใช้ AI มาก่อน โดยเฉพาะผู้หญิงสูงวัยจากกลุ่มรายได้ต่ำ บางคนไม่แน่ใจว่าใช้แล้วจะ "ถูกต้อง" หรือ "ยุติธรรม" หรือเปล่า
แต่เมื่อได้รับการอนุมัติ และฝึกสอนเล็กน้อย พวกเขาก็เริ่มใช้งาน AI มากขึ้น และสามารถประหยัดเวลาในการทำงานเอกสารไปได้เฉลี่ยปีละ 122 ชั่วโมง
กูเกิลประกาศว่าฟีเจอร์ Audio Overview ใน NotebookLM ที่สร้างไฟล์เสียงแบบรายการพอดคาสต์ที่มีผู้จัดรายการสองคนสนทนากัน รองรับเพิ่มเติมมากกว่า 50 ภาษา รวมทั้งภาษาไทยด้วย
ผู้ใช้งานสามารถอัปโหลดเนื้อหาเพื่อให้ NotebookLM สร้างไฟล์เสียงออกมาตามภาษาที่กำหนดไว้ของบัญชีกูเกิล หรือเลือกภาษาอื่นที่ต้องการเองได้ (Settings > Output Language) ทั้งหมดรองรับเนื้อหาเริ่มต้นจากภาษาอื่นด้วยเช่นกัน เพราะตัว NotebookLM ที่สรุปเนื้อหาจากเอกสารรองรับอยู่แล้วมากกว่า 200 ภาษา
สามารถใช้งาน Audio Overview ได้แล้วที่ notebook.google
หลังจาก Google I/O 2024 ปีที่แล้ว เทเวลาทั้งหมดให้กับข่าวสาร AI จนไม่มีประกาศใดๆ ของ Android บนเวทีหลักเลย ล่วงเลยมาจนมาถึงปีนี้ กูเกิลแก้ปัญหานี้ด้วยการจัดงานแยกมันซะเลย
งาน Android ของปีนี้จะใช้ชื่อว่า The Android Show: I/O Edition จัดวันที่ 13 พฤษภาคม 2025 หรือ 1 สัปดาห์ก่อนงานใหญ่ Google I/O 2025 วันที่ 20 พฤษภาคม โดยผู้นำเสนอหลักในงานคือ Sameer Samat ประธานฝ่าย Android Ecosystem ที่ขึ้นเวทีนำเสนอเรื่อง Android ในงาน Google I/O ปีหลังๆ
กูเกิลมีเครือข่ายตามหาของ Find My Device เริ่มเปิดในปี 2024 แต่ผลการทดสอบในช่วงแรกๆ ออกมาแย่มาก แพ้เครือข่าย AirTag ของแอปเปิลแบบขาดลอย
เนื่องในโอกาสครบปีแรกของเครือข่าย Find My Device เว็บไซต์ The Verge จึงทดสอบด้วยการส่งแท็ก 3 ยี่ห้อที่ใช้เครือข่ายของกูเกิลคือ Pebblebee, Chipolo, Motorola ร่วมกับสินค้าค่ายอื่นได้แก่ AirTag ของแอปเปิล และ Tile ของ Life360 เพื่อดูว่าแท็กตามรอยยี่ห้อไหนใช้งานดีที่สุด
Parisa Tabriz ผู้จัดการธุรกิจ Chrome ของกูเกิล ให้การในชั้นศาลในคดีกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ ฟ้องกูเกิลผูกขาด Search และเสนอให้แยก Chrome เป็นบริษัทใหม่ ซึ่งมีผู้สนใจซื้อหลายราย
ข้อโต้แย้งของ Tabriz คือ Chrome ไม่ได้มีแต่ตัวเบราว์เซอร์ แต่ยังผูกกับบริการอื่นของกูเกิล เช่น Safe Browsing, ระบบแจ้งเตือนหากพบว่ารหัสผ่านถูกเจาะ ฯลฯ ซึ่ง Tabriz บอกว่ามีแต่กูเกิลเท่านั้นที่สามารถสร้างบริการในระดับนี้ได้
กูเกิลประกาศหยุดซัพพอร์ต Nest Learning Thermostat ที่เป็น Gen 1 (ขายปี 2011) และ Gen 2 (ขายปี 2012) มีผลวันที่ 25 ตุลาคม 2025
หลังการหยุดซัพพอร์ตแล้ว Nest Thermostat จะไม่ได้อัพเดตใดๆ อีก ไม่สามารถควบคุมผ่านแอพ Nest ในสมาร์ทโฟนหรือผ่าน Google Assistant ได้ แต่ยังใช้งานได้ต่อไปด้วยการควบคุมที่ตัวเครื่องโดยตรง
สินค้ากลุ่ม Nest Thermostat ยังวางขายอยู่ รุ่นล่าสุดคือ Gen 4 เพิ่งเปิดตัวในปี 2024 โดยกูเกิลออกคูปองส่วนลด 130 ดอลลาร์ให้ลูกค้าเก่าสามารถซื้อ Gen 4 มาใช้ทดแทนได้ถ้าต้องการ
ประเด็นน่าสนใจจากห้องไต่สวนคดี Google Search ผูกขาดตลาด ที่กระทรวงยุติธรรมเสนอให้แยก Chrome เป็นบริษัทใหม่
ก่อนหน้านี้เราเห็นข่าวว่าคู่แข่งทั้ง OpenAI และ Perplexity บอกว่าถ้าแยกจริงก็ยินดีเสนอซื้อ แต่ไม่บอกว่าราคาเท่าไร
มีประเด็นเพิ่มเติมจากผลประกอบการ Alphabet บริษัทของกูเกิลในไตรมาสล่าสุด ซึ่งรายได้รวมเพิ่มขึ้น 12% เป็น 90,234 ล้านดอลลาร์ แต่กำไรสุทธินั้นเพิ่มสูงขึ้นมากถึง 46% เนื่องจากมีการบันทึกกำไรพิเศษเข้ามา
Alphabet บอกว่าบริษัทมีกำไร-ค่าใช้จ่ายอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมหลักของบริษัท (Other income & expense) ในไตรมาสที่ผ่านมาสุทธิ 11,183 ล้านดอลลาร์ โดยมีกำไรที่ยังไม่รับรู้จากการลงทุนในบริษัทนอกตลาดหุ้นแห่งหนึ่ง 8.0 พันล้านดอลลาร์
Alphabet บริษัทแม่ของกูเกิล รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 ปี 2025 รายได้รวมเพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อนเป็น 90,234 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 34,540 ล้านดอลลาร์ โดยบริษัทบอกว่าการเติบโตมาจากทั้ง Google Search, โฆษณา YouTube, รายได้ส่วน Subscription กับฮาร์ดแวร์ และ Google Cloud
รายได้เฉพาะส่วนบริการของ Google (โฆษณา, ฮาร์ดแวร์ และ Subscription) เพิ่มขึ้น 10% เป็น 77,264 ล้านดอลลาร์ กำไรจากการดำเนินงานเฉพาะส่วนนี้ 32,682 ล้านดอลลาร์, Google Cloud รายได้เพิ่มขึ้น 28% เป็น 12,260 ล้านดอลลาร์ มีกำไรจากการดำเนินงาน 2,177 ล้านดอลลาร์
Google ออกมาตรการให้พนักงานที่ Work From Home กลับเข้าออฟฟิศอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ไม่งั้นอาจเสี่ยงถูกเลิกจ้าง บางทีมถึงขั้นให้ทางเลือกระหว่างเปลี่ยนมาทำงานแบบไฮบริด (พร้อมเงินช่วยเหลือสำหรับย้ายที่อยู่ ถ้าอาศัยอยู่ไม่เกิน 50 ไมล์จากออฟฟิศ) หรือรับแพ็กเกจลาออกโดยสมัครใจ
การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นท่ามกลางแนวโน้มที่บริษัทต่าง ๆ เริ่มลดการทำงานทางไกล โดยเฉพาะในวงการเทคโนโลยี ซึ่งให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกันแบบเจอหน้ามากขึ้น
Google กำลังปรับตัวด้วยการลดต้นทุน และลงทุนหนักขึ้นใน AI เหมือนที่ Sergey Brin ผู้ร่วมก่อตั้ง Google เคยบอกทีม Gemini ให้ทำงานสัปดาห์ละ 60 ชั่วโมงในออฟฟิศ เพิ่มให้ประสิทธิภาพสูงสุด
Perplexity เป็นอีกบริษัทที่เข้าร่วมการไต่สวนเรื่องมาตรการเยียวยา ที่กูเกิลแพ้คดีผูกขาดธุรกิจ Search ซึ่งกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ โจทก์ยื่นฟ้อง และได้เสนอให้ศาลสั่งกูเกิลแยกธุรกิจ Chrome ออกมา
Dmitry Shevelenko บอกว่ามีความเสี่ยงหากมีคำสั่งให้แยก Chrome ออกจากกูเกิล โดยมองว่าอาจส่งผลกระทบต่อโครงการโอเพนซอร์ส Chromium ที่เจ้าของใหม่อาจหารายได้จากตรงนี้ ส่งผลเสียต่อวงการพัฒนาเว็บเบราว์เซอร์ โดย Perplexity ต้องการให้ศาลห้ามกูเกิลทำข้อตกลงผูกขาดบริการค้นหาข้อมูลกับผู้ผลิตสมาร์ทโฟนมากกว่า
เรารู้กันดีว่า ChatGPT ได้รับความนิยมมากกว่า Gemini อยู่มากพอสมควร (เหตุผลข้อหนึ่งเพราะมาก่อนใคร) แต่ไม่มีใครรู้ตัวเลขว่ามากแค่ไหน
ข้อมูลล่าสุดจาก ห้องไต่สวนคดีผูกขาด Search (อันเดียวกับ กูเกิลจ่ายเงินเยอะมากให้ซัมซุงพรีโหลด Gemini) กูเกิลเปิดเผยสถิติผู้ใช้ Gemini ต่อศาลดังนี้
ข้อมูลนี้นับถึงเดือนมีนาคม 2025 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากข้อมูลเดิมที่กูเกิลเคยเปิดเผยต่อศาลในเดือนตุลาคม 2024 ว่ามี 9 ล้าน DAU และ 90 ล้าน MAU
หลังจาก กูเกิลประกาศรองรับโปรโตคอล Model Context Protocol (MCP) ซึ่งเป็นโปรโตคอลที่เชื่อมต่อแหล่งข้อมูลภายนอกกับโมเดล LLM ที่เริ่มพัฒนาโดย Anthropic แต่ก็ถูกยอมรับกันแพร่หลายในวงการ
ล่าสุดกูเกิลทยอยปล่อยของที่เกี่ยวกับ MCP อย่างรวดเร็ว คือ MCP Toolbox for Databases หรือเรียกสั้นๆ ว่า Toolbox เป็นเซิร์ฟเวอร์ MCP ที่อยู่ตรงกลางระหว่างโมเดล LLM กับฐานข้อมูลประเภทต่างๆ ทั้งฐานข้อมูล on-premise แบบดั้งเดิม MySQL, PostgreSQL, Neo4j, Dgraph และฐานข้อมูลบนคลาวด์ เช่น Cloud SQL, Spanner, AlloyDB
ข้อมูลเพิ่มเติมจากห้องไต่สวน คดีกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฟ้องกูเกิลผูกขาด Search และเสนอให้แยก Chrome เป็นอีกบริษัท
Peter Fitzgerald ผู้บริหารฝ่ายพาร์ทเนอร์ของแพลตฟอร์มและอุปกรณ์ ให้การต่อศาลยอมรับว่า กูเกิลจ่ายเงินให้ซัมซุง "เยอะมาก" เพื่อให้ซัมซุงใช้ Gemini เป็นผู้ช่วย AI บนฮาร์ดแวร์ของซัมซุง ถึงแม้เขาไม่ได้เปิดเผยตัวเลข แต่ก็ใช้คำว่า enormous sum of money ในคำให้การ และบอกว่าสัญญากับซัมซุงมีระยะเวลา 2 ปี กูเกิลต้องจ่ายเงินให้ซัมซุงนับตามจำนวนฮาร์ดแวร์ที่พรีโหลด Gemini และแบ่งเปอร์เซนต์จากรายได้โฆษณาให้ซัมซุงอีกส่วน
กูเกิลประกาศยอมแพ้กับ Privacy Sandbox ที่หวังมาใช้แทน Third Party Cookies โดย Chrome จะยังคงใช้ Third Party Cookies เหมือนเดิม
กูเกิลเปิดตัว Privacy Sandbox ครั้งแรกในปี 2019 เพื่อหวังเป็นโซลูชันสำหรับการยิงโฆษณาบนเว็บตามความสนใจของผู้ชม ที่เคารพความเป็นส่วนตัวมากกว่าคุกกี้ (หลักการคือยิงโฆษณาตามความสนใจแบบกลุ่ม ไม่ถึงกับเจาะรายตัว)
การไต่สวนพิจารณามาตรการเยียวยาที่เริ่มต้นสัปดาห์นี้ จากคดีกูเกิลผูกขาดธุรกิจ Search ที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เป็นโจทก์ฟ้อง และกูเกิลถูกตัดสินแพ้ไปตั้งแต่สิงหาคมปีที่แล้ว มีประเด็นน่าสนใจเมื่อตัวแทนของ OpenAI ได้ให้การต่อศาล
Nick Turley หัวหน้าฝ่าย ChatGPT ของ OpenAI บอกว่าบริษัทไม่ได้ต้องการสร้างแชทบอตอย่าง ChatGPT แต่ต้องการสร้างผู้ช่วยความสามารถสูงที่ทำงานได้หลากหลายและซับซ้อน เพื่อเสริมส่วนนี้บริษัทจึงต้องมีเทคโนโลยีระบบค้นหาหรือ Search ที่ทำให้ AI ได้ข้อมูลปัจจุบันที่สุด
เมื่อต้นเดือนนี้ ทีมวิจัย Google Research เปิดตัว Geospatial Reasoning โครงการนำ generative AI มาใช้กับวงการแผนที่-ค้นหาพิกัด
ปัญหาเกิดจากการค้นหาข้อมูลเชิงพิกัดเป็นงานที่ซับซ้อน ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญสูง ต้องทำงานด้วยมือเสียเยอะ (เช่น หาบ้านทุกหลังที่มีหลังคาโซลาร์เซลล์ในตารางแผนที่บริเวณที่ต้องการ) การนำ AI เข้ามาใช้งานย่อมช่วยลดขั้นตอนลงได้มาก
ตอนนี้กูเกิลโดนคดีที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฟ้องข้อหาผูกขาดอยู่ 2 คดี ซึ่งศาลชั้นต้นตัดสินใจให้กูเกิลแพ้ทั้งคู่ ได้แก่ คดีผูกขาด search ที่ตัดสินในเดือนสิงหาคม 2024 และ คดีผูกขาดในธุรกิจเทคโนโลยีโฆษณาออนไลน์ ศาลเพิ่งตัดสินเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ประกาศสำคัญอย่างหนึ่งในงาน Google Cloud Next '25 ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาคือการเปิดตัว โปรโตคอล Agent2Agent ที่ออกแบบมาให้ AI agent คุยกันเองได้
โปรโตคอล Agent2Agent (ตัวย่อ A2A) เป็นความพยายามของกูเกิลในการวางมาตรฐานของยุค AI agent หลังจากที่กูเกิลเป็นผู้ตามมาตลอดในยุค generative AI ตัวอย่างคือ API ของโมเดล LLM ต้องอิงตาม API ของ OpenAI หรือ โปรโตคอลที่ใช้เชื่อมโมเดล LLM กับแหล่งข้อมูลภายนอก ใช้ MCP ของ Anthropic
กูเกิลเผยสถิติการปราบปรามโฆษณาผิดกฎหมาย-ประสงค์ร้ายตลอดทั้งปี 2024 สามารถลบโฆษณาออกไปได้ 5.1 พันล้านชิ้น, จำกัดการมองเห็นอีก 9.1 พันล้านชิ้น และปิดบัญชีโฆษณาที่ละเมิดกฎไปได้ 39.2 ล้านบัญชี
เทคนิคที่กูเกิลใช้งานคือนำ LLM มาช่วยตรวจโฆษณา ถึงแม้ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดมากนัก แต่กูเกิลบอกว่าเพิ่มฟีเจอร์ให้โมเดล LLM กว่า 50 อย่างในปี 2024 ช่วยให้ตรวจสอบโฆษณาที่ซับซ้อนได้ดีขึ้น สามารถดักจับผู้ประสงค์ร้ายได้ตั้งแต่ตอนเริ่มเปิดบัญชี
ฝั่งของโฆษณาแบบ scam ก็ปรับนโยบายใหม่ให้เข้มงวดกว่าเดิม สามารถปิดบัญชีโฆษณา scam ลงได้ 700,000 บัญชี และลดโฆษณาแบบ scam ลงได้ 90%
ที่มา - Google
กูเกิลประกาศแจก Google One AI Premium ให้นักเรียนนักศึกษาทุกคนในสหรัฐอเมริกาฟรีเป็นเวลา 1 ปี
สิ่งที่ได้คือพื้นที่สตอเรจของ Google Account ขนาด 2TB, บริการ Gemini Advanced แบบพรีเมียม ได้ใช้ฟีเจอร์และโมเดลตัวใหม่ล่าสุด, บริการ NotebookLM Plus, Google Workspace แบบพรีเมียมพลัง Gemini ซึ่งปกติแล้วขายในราคา 19.99 ดอลลาร์ต่อเดือน (ราคาไทยขาย 750 บาท)
กูเกิลปล่อยโมเดลปัญญาประดิษฐ์ Gemma 3 รุ่นย่อแบบ Quantization Aware Training (QAT) เป็นโมเดลที่ถูกฝึกระหว่างการย่อโมเดลเหลือ Q4_O เล็กพอที่จะรัน Gemma 3 27B ในการ์ดจอแรม 14.1GB
โมเดล QAT อาศัยโมเดลเต็มแบบ BF16 เป็นต้นแบบแล้วฝึกโมเดลที่กำลังย่อให้จำลองตัวเองว่าถูกย่อไปแล้ว แต่ให้หาทางสร้างคำตอบให้ใกล้เคียงโมเดลเต็มให้ได้ การฝึกนี้ทำซ้ำประมาณ 5,000 รอบ กระบวนการนี้ทำให้เมื่อได้โมเดลสุดท้ายและย่อฟอร์แมตพารามิเตอร์ออกมาแล้วคุณภาพตกลงไปจากโมเดลต้นแบบไม่มาก
Gemma 3 QAT รองรับทั้ง Ollama, LM Studio, MLX, Gemma.cpp, และ llama.cpp โมเดลมี 4 รุ่นเท่ากับ Gemma 3 ตัวเต็ม ทำให้รุ่นเล็กที่สุดขนาดเพียง 0.5GB รันในโทรศัพท์มือถือได้