ความคืบหน้าต่อจากคดีศาลสหรัฐตัดสิน Google มีพฤติกรรมผูกขาดบริการ Search Engine เมื่อเดือนสิงหาคม 2024
กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ (Department of Justice หรือ DoJ) ในฐานะผู้ยื่นฟ้อง ได้ยื่นแนวทางบรรเทา (remedies proposal) พฤติกรรมการผูกขาดต่อศาล ทั้งหมด 4 ข้อ
กูเกิลออกแถลงการณ์หลังศาลแคลิฟอร์เนียออกคำตัดสินสุดท้าย ให้กูเกิลต้องเปิดระบบ Play Store รองรับสโตร์ภายนอก หลังแพ้คดีที่ Epic Games ฟ้องเรื่องการผูกขาดแอปสโตร์ โดยกูเกิลยืนยันว่าจะอุทธรณ์ผลการตัดสินนี้ เพื่อขอให้ศาลระงับการบังคับใช้ที่ต้องการให้มีผลใน 1 พฤศจิกายนนี้ไปก่อน
กูเกิลให้เหตุผลว่าคำสั่งศาลที่กำหนดมานั้น จะทำให้ผู้ใช้งานมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยมากขึ้น นักพัฒนาก็โปรโมตแอปยากขึ้น การแข่งขันลดลง แม้คำตัดสินนี้อาจเป็นประโยชน์ต่อ Epic แต่ภาพรวมแล้วจะไม่เป็นประโยชน์กับผู้ใช้งาน
กูเกิลชี้แจง 3 เหตุผลที่ต้องการให้ศาลพิจารณาคำตัดสินใหม่ โดยเบื้องต้นขอให้ระงับการบังคับใช้คำสั่งนี้ไปก่อน ได้แก่
ผู้พิพากษา James Donato แห่งศาลรัฐแคลิฟอร์เนีย ออกคำตัดสินสุดท้ายในคดีที่ Epic Games ชนะการฟ้องกูเกิลเรื่องผูกขาดแอปสโตร์ ซึ่งก่อนหน้านี้ศาลให้ Epic Games ระบุข้อเรียกร้อง แล้วให้กูเกิลคำนวณค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นหากทำตามข้อเรียกร้องนั้น ซึ่งท่าทีของศาลก่อนหน้านี้บอกว่าต้องการทลายกำแพงการผูกขาด
คำตัดสินของศาลกำหนดให้กูเกิลต้องเปิดให้สโตร์ Google Play รองรับแอปสโตร์ของคู่แข่ง (3rd Party) เป็นเวลา 3 ปี มีผลตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2024 ถึงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2027, สโตร์นี้สามารถทำงานบนระบบ Google Play ได้ และสโตร์สามารถเข้าถึงแคตาลอกของแอปใน Google Play ได้
Mishaal Rahman บล็อกเกอร์สาย Android ชื่อดัง ให้ข้อมูลว่ากูเกิลเริ่มปล่อยอัพเดตฟีเจอร์ป้องกันขโมยของ Android ที่ประกาศไว้ในเดือนพฤษภาคม ให้กับผู้ใช้บางส่วนแล้ว
ฟีเจอร์กลุ่มนี้เรียกว่า Android Theft Protection ประกอบด้วยฟีเจอร์ย่อย 3 อย่าง ได้แก่
กูเกิลถอด Kaspersky เวอร์ชัน Android ออกจาก Google Play Store ทั่วโลก โดยโฆษกของกูเกิลชี้แจงว่าทำตามคำสั่งแบน Kaspersky ของรัฐบาลสหรัฐ
ฝั่ง Kaspersky แนะนำให้ผู้ใช้ Android ติดตั้งซอฟต์แวร์ของตัวเองผ่านช่องทางอื่น เช่น Galaxy Store, Huawei AppGallery, Xiaomi GetApps รวมถึงการดาวน์โหลดไฟล์ APK จากเว็บไซต์ Kaspersky โดยตรง
ตอนนี้สโตร์อื่นๆ รวมถึง Apple App Store ที่เป็นบริษัทอเมริกันด้วยกัน ยังไม่ปิดกั้น Kaspersky แต่อย่างใด
ที่มา - Bleeping Computer
Google Search ทดลองเพิ่มเครื่องหมายติ๊กถูกสีฟ้า ท้ายเว็บไซต์ที่แสดงในหน้าผลการค้นหา เพื่อให้ผู้ใช้งานมั่นใจว่าเว็บไซต์นี้เป็นเว็บของจริง ไม่ใช่เว็บหลอก โดยเบื้องต้นมีรายงานพบในเว็บไซต์ของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ เช่น Meta และ Apple
ตัวแทนของกูเกิลยืนยันการทดลองนี้ โดยบอกว่าเพื่อให้คนที่ค้นหาข้อมูลสินค้า ได้ผลลัพธ์ไปยังเว็บไซต์ที่เชื่อถือได้ โดยตอนนี้ทดสอบกับผู้ใช้งานกลุ่มเล็ก และกับเว็บธุรกิจจำนวนหนึ่งเท่านั้น
กูเกิลประเทศญี่ปุ่นเปิดตัวคีย์บอร์ดต้นแบบใหม่ เพื่อแก้ไขปัญหาใหญ่ (ของใครไม่รู้) ว่าคีย์บอร์ดมีปุ่มให้ใช้งานแค่ด้านเดียว แต่จะทำคีย์บอร์ดแบบเดิมให้มีปุ่มสองด้านก็ดูแปลก จึงได้รื้อออกแบบใหม่ด้วยแนวทางของแถบเมอบิอุส ทำให้ออกมาเป็นคีย์บอร์ดที่วางใช้งานแล้วมีด้านเดียว แต่กดปุ่มได้ทั้งหน้าและหลัง
กูเกิลเริ่มทดสอบฟีเจอร์ Generative AI ช่วยสรุปคำตอบใน Search มาตั้งแต่ปี 2023 ภายหลังเปลี่ยนชื่อมาเป็น AI Overviews และทยอยเปิดใช้งานในบางประเทศ (ยังไม่มีไทย)
ตอนที่เปิดตัว กูเกิลได้รับคำถามมากมายว่า หากใช้ AI สรุปคำตอบ เราก็ไม่ต้องกดลิงก์เข้าเว็บกันแล้ว จะมีผลกระทบกับทราฟฟิกของเว็บไซต์ต่างๆ รวมถึงรายได้จากโฆษณาบนเว็บของกูเกิลหรือไม่ คำตอบที่ผ่านมาของกูเกิลก็อ้อมๆ แอ้มๆ คือบอกว่ารายการลิงก์และพื้นที่แสดงโฆษณายังมีอยู่เหมือนเดิม (แม้อยู่ในตำแหน่งต่ำลงไปจากเดิม เพราะ AI Overviews ถูกแสดงขึ้นมาก่อน)
วันนี้กูเกิลมีคำตอบเรื่องโฆษณาให้แล้ว เพราะ AI Overviews เริ่มแสดงโฆษณาแล้ว
Mishaal Rahman บล็อกเกอร์สาย Android ชื่อดัง โพสต์ข้อมูลว่าโซนี่เริ่มปล่อยอัพเดตเฟิร์มแวร์ให้หูฟังไร้สายของตัวเองบางรุ่น ให้รองรับเครือข่ายตามหาอุปกรณ์ Find My Device ของกูเกิลแล้ว หูฟังโซนี่รุ่นที่เข้าข่ายได้อัพเดต คือ WF-1000XM5, WH-1000XM5, LinkBuds S
ก่อนหน้านี้ กูเกิลได้รองรับหูฟังไร้สายยี่ห้อ JBL ไปก่อนแล้ว และเครือข่าย Find My Device ยังรองรับการหาอุปกรณ์ smart tag จากหลายยี่ห้อด้วย
ข้อจำกัดของ Find My Device ของกูเกิลคือยังไม่รองรับอุปกรณ์เสริมค่ายซัมซุง ซึ่งใช้ระบบ SmartThings Find ของตัวเองแยกกัน
ถ้ายังจำกันได้ เมื่อต้นปีนี้ OpenAI เปิดตัวโมเดลสร้างวิดีโอจากข้อความ Sora สร้างเสียงฮือฮามากมาย แต่หลังจากเวลาผ่านมาหลายเดือน สถานะของ Sora ยังเป็นแค่การทดสอบภายใน ยังไม่เปิดให้ใช้งานทั่วไป
เท่านั้นยังไม่พอ ล่าสุด Tim Brooks หนึ่งในสองหัวหน้าทีมวิจัย Sora (เครดิตบนหน้าเว็บ OpenAI) ประกาศ "ย้ายวิก" ข้ามมาทำงานกับ Google DeepMind เรียบร้อยแล้ว เขาระบุว่าจะมาทำงานด้านสร้างวิดีโอตามที่ตัวเองถนัด รวมถึงทำเรื่องการจำลองโลก (world simulator) ด้วย
กูเกิลประกาศเพิ่มฟีเจอร์สำคัญให้ Google Lens สองอย่าง ได้แก่
กูเกิลเปิดให้ใช้งาน Gemini 1.5 Flash-8B โมเดลรุ่นเล็กสุดของ Gemini Flash ที่เปิดทดลองใช้ฟรีก่อนหน้านี้
Gemini 1.5 Flash-8B เป็นโมเดลที่ปรับขนาดให้เล็กลงเหลือ 8 พันล้านพารามิเตอร์ ในแง่ความฉลาดอาจลดลงบ้างเมื่อเทียบกับ Gemini 1.5 Flash รุ่นปกติ แลกกับข้อดีที่ได้มาคือ ราคาถูกลง 50%, ตอบสนองเร็วขึ้น, และมีอัตรา rate limit เพิ่มขึ้น 2 เท่า (สูงสุด 4,000 รีเควสต์ต่อนาที ของเดิม 2,000 รีเควสต์ต่อนาที)
ราคาของ Gemini 1.5 Flash-8B ถือว่าถูกที่สุดในการรันโมเดล Gemini ทุกตัว ได้แก่
กูเกิลเปิดให้นักพัฒนาแอพบน Android เรียกใช้งานโมเดล Gemini Nano เป็นการทั่วไป หลังจากทดสอบแบบจำกัดวงมาตั้งแต่ Google I/O 2024 โดยตอนนี้ใช้โมเดล Gemini Nano 2 ที่มีประสิทธิภาพดีขึ้นด้วย
การใช้งาน Gemini Nano ต้องเรียกผ่าน AICore โดยมี AI Edge SDK อีกที ตอนนี้การใช้งานยังจำกัดเฉพาะบนฮาร์ดแวร์ Pixel 9 series เท่านั้น และสถานะการเปิดใช้ยังเป็นการทดลองใช้งาน (experimental)
การเปิดให้แอพภายนอกใช้ Gemini Nano แบบ on device ทำให้แอพมีฟีเจอร์ด้าน AI จัดการข้อความได้ทันที เช่น rephrasing (ปรับแก้ไขข้อความ), smart reply, proofreading, summarization
กูเกิลออก Android Studio Ladybug เวอร์ชัน 2024.2.1 ตามระบบการออกรุ่นแบบใหม่ ที่เวอร์ชันลงท้ายด้วย .1 จะอัพเดตเฉพาะตัวแกน IntelliJ เท่านั้น
Android Studio รุ่นแรกที่ใช้นโยบายนี้คือ Koala (รหัส K) ที่ออกรุ่น 2024.1.1 (อัพเดตแกน) ในเดือนมิถุนายน และออก 2024.1.2 (Feature Drop) ในเดือนสิงหาคม
Android Studio Ladybug (รหัส L) เป็นรุ่นที่สองที่เดินตามนโยบายนี้ ข่าวนี้คือการออกรุ่น 2024.2.1 ที่อัพเดตเฉพาะแกน และยังไม่มีฟีเจอร์ใหม่อย่างอื่นนั่นเอง
หลังจากกูเกิลเริ่มปล่อย Gemini Live ให้กับผู้ใช้ Android ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกันยายน ตอนนี้ผู้ใช้ Android ที่ตั้งค่าระบบปฏิบัติการเป็นภาษาอังกฤษ สามารถใช้งาน Gemini Live ได้ทั้งหมดแล้วผ่านแอพ Gemini (ลองเปิดจากบัญชีตัวเองก็พบว่าใช้งานได้แล้ว)
Gemini Live เป็นการสนทนาโต้ตอบกับ Gemini ด้วยเสียงแบบต่อเนื่อง เป็นการโชว์ศักยภาพโมเดลภาษาของกูเกิลที่สนทนาได้อย่างลื่นไหลและเป็นธรรมชาติ แต่ Gemini Live ยังขาดฟีเจอร์บางอย่างที่เคยมีในผู้ช่วยอัจฉริยะตัวก่อนๆ เช่น การสั่งงานแอพภายนอกแบบที่เคยทำได้ใน Google Assistant เป็นต้น
กูเกิลจับมือซัมซุงเปิดตัว Samsung Galaxy Chromebook Plus ซึ่งเป็นโน้ตบุ๊กพรีเมียมใต้แบรนด์ Chromebook Plus ที่เปิดตัวครั้งแรกปี 2023
Samsung Galaxy Chromebook Plus มีจุดเด่นที่หน้าจอ 15.6" OLED แต่ใช้ดีไซน์เครื่องบาง 11.8 มิลลิเมตร หนัก 1.17 กิโลกรัม ถือเป็นโน้ตบุ๊กกลุ่ม Chromebook Plus ที่บางและเบาที่สุด
สเปกของ Samsung Galaxy Chromebook Plus ใช้ซีพียู Intel Core 3 100U (Raptor Lake-R), แรม 8GB, สตอเรจ 256GB, แบตเตอรี่สูงสุด 13 ชั่วโมง, เริ่มวางขายเดือนตุลาคมนี้ ในราคา 699 ดอลลาร์
Epic Games ยื่นฟ้องกูเกิลและซัมซุง เนื่องจากพยายามบล็อคการติดตั้งแอพนอกสโตร์ จากฟีเจอร์ Auto Blocker ในรอม One UI ของซัมซุง ซึ่ง Epic มองว่ายิ่งช่วยทำให้กูเกิลผูกขาด Google Play Store บนฮาร์ดแวร์ของซัมซุงยิ่งกว่าเดิม
Mishaal Rahman บล็อกเกอร์สาย Android ชื่อดัง ตั้งข้อสังเกตว่ากูเกิลจะออก Android 16 รุ่นของปี 2025 ให้เร็วกว่าเดิม เพื่อให้สอดคล้องกับรอบการเปิดตัว Pixel ที่เร็วขึ้นกว่าเดิม (สิงหาคม จากเดิมตุลาคม) ทำให้เกิดปัญหาว่าไม่ทัน Android รุ่นเสถียรของปีนั้นๆ
หลักฐานของเรื่องนี้มาจากเอกสาร Compatibility Definition Document (CDD) ของ Android 15 ที่มีคำว่า "25Q2" ปรากฎอยู่ เพราะปกติแล้ว Android รุ่นเสถียรจะออกในช่วงไตรมาส 3 ของทุกปี แต่กรณีของปีหน้า 2025 กลับระบุเลขเป็น Q2 แทน
Google แถลงร่วมกับรัฐบาล ประกาศแผนการลงทุน 3.6 หมื่นล้านบาท สำหรับแผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์และศูนย์ข้อมูลในกรุงเทพและชลบุรี หลังประกาศตั้งรีเจี้ยนมาตั้งแต่ปี 2022
Google ระบุว่าจะมีส่วนช่วยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจประมาณ 1.4 แสนล้านบาทแก่ GDP ของประเทศไทย ภายในปี 2029 และสร้าง 14,000 ตำแหน่งต่อปีโดยเฉลี่ย ตั้งแต่ปี 2025 ถึง 2029 จากการศึกษาของบริษัท Deloitte
DeepMind เผยแพร่งานวิจัยของ AlphaChip โมเดลปัญญาประดิษฐ์ช่วยออกแบบวงจรในชิป ซึ่งใช้งานจริงมาเงียบๆ สักระยะหนึ่งแล้วกับชิป TPU สามรุ่นหลังสุด, ซีพียู Google Axion รวมถึงชิปของบริษัทอื่นอย่าง MediaTek Dimensity 5G ด้วย
DeepMind บอกว่าการออกแบบชิปในปัจจุบันมีความซับซ้อนสูงมาก จึงนำแนวคิด reinforcement learning ให้ปัญญาประดิษฐ์เรียนรู้ด้วยตัวเองผ่านการ "เล่นเกม" แบบเดียวกับ AlphaGo และ AlphaZero แต่แทนที่จะเป็นโกะหรือหมากรุก ก็เป็นเกมออกแบบผังวงจรอิเล็กทรอนิกส์แทน
กูเกิลเพิ่มฟีเจอร์ Smart Reply ให้กับ Gmail มาตั้งแต่ปี 2017 แต่ที่ผ่านมาคำตอบที่ AI แนะนำยังแค่สั้นๆ เพียง 1-2 ประโยคเท่านั้น
ในยุคจักรราศีคนคู่ Gemini ดลบันดาลให้ Smart Reply ฉลาดขึ้น สามารถตอบเป็นประโยคยาวๆ หลายย่อหน้าได้แล้ว สิ่งที่เราต้องทำมีเพียงกดปุ่ม Reply ใน Gmail แล้ว Gemini จะแต่งข้อความตอบกลับอีเมลให้เลือกประมาณ 3 เวอร์ชัน เรามีหน้าที่แค่เลือกแนวคำตอบที่ต้องการแล้วกดส่งทันที โดยไม่ต้องพิมพ์ตอบเลยสักนิดก็ได้ (แต่ก็แก้ไขเองได้เสมอหากต้องการ) ฟีเจอร์นี้มีชื่อเรียกว่า contextual Smart Reply
ฟีเจอร์นี้เปิดใช้แล้วสำหรับลูกค้า Google Workspace แบบธุรกิจที่มี Gemini หรือลูกค้าทั่วไปที่ซื้อแพ็กเกจ Google One AI Premium
กูเกิลเผยสถิติจากการใช้ภาษา Rust ในระบบปฏิบัติการ Android มาตั้งแต่ปี 2019 เป็นเวลาราว 6 ปี ว่าช่วยลดช่องโหว่ที่เกี่ยวข้องกับหน่วยความจำลงได้มาก จากฟีเจอร์ด้านหน่วยความจำที่ระดับตัวภาษา ถือเป็นมาตรการความปลอดภัยระดับสูงที่ทรงพลังมาก
แนวทางของกูเกิลคือเขียนโค้ดใหม่ของ Android ด้วยภาษา Rust ที่เป็น memory safe language ส่วนโค้ดเก่าพยายามคงจำนวนไว้ไม่ให้เพิ่มขึ้นมาก ผลคือสัดส่วนโค้ดที่เป็น memory safe ค่อยๆ เยอะขึ้นเรื่อยๆ (ตอนนี้ประมาณ 2:1 ระหว่างโค้ดเก่า vs โค้ดใหม่) แต่ผลที่ได้คือช่องโหว่ความปลอดภัยที่เกี่ยวกับ memory safety ลดลงอย่างมาก
กูเกิลอัปเดตฟีเจอร์ให้ NotebookLM แอปจดบันทึกที่ทำงานด้วย Gemini 1.5 และรองรับภาษาไทย โดยเพิ่มการรองรับข้อมูลต้นทางต่อไปนี้
กูเกิลยกตัวอย่างกรณีที่สามารถนำ NotebookLM มาช่วยสร้างบันทึกจากข้อมูลต้นทางกลุ่มนี้ เช่น ทำสรุปเนื้อหาวิดีโอทั่วไป วิดีโอเลกเชอร์ รวมทั้งไฟล์เสียงที่บันทึกจากในห้องเรียน
นอกจากนี้กูเกิลยังอัปเดต Audio Overview ฟีเจอร์สร้างไฟล์เสียงแบบพอดคาสต์สรุปเนื้อหาเอกสาร โดยสามารถแชร์ไฟล์เสียงได้โดยตรงภายในแอปแล้ว
ที่มา: กูเกิล
กูเกิลยื่นคำร้องกล่าวหาไมโครซอฟท์ ต่อหน่วยงานกำกับดูแลป้องกันการผูกขาดตลาดแห่งสหภาพยุโรป ในประเด็นการแข่งขันของบริการประมวลผลบนคลาวด์ โดยระบุว่าไมโครซอฟท์ใช้อำนาจที่มีในตลาดซอฟต์แวร์องค์กร ผลักดันให้ลูกค้าใช้งาน Azure และใช้วิธีการที่ทำให้ลูกค้าต้องอยู่กับบริการนี้ต่อไป (Lock-In)
ตัวแทนของไมโครซอฟท์ชี้แจงว่า ก่อนหน้านี้บริษัทได้เจรจายุติการร้องเรียนในลักษณะเดียวกัน กับผู้ให้บริการคลาวด์ในยุโรป จึงเชื่อว่าคำร้องเรียนของกูเกิลต่อสหภาพยุโรปก็จะไม่มีผลเช่นกัน
ปัจจุบันบริการคลาวด์ของกูเกิลมีส่วนแบ่งตลาดรวมเป็นอันดับ 3 รองจาก AWS ของ Amazon และ Azure ของไมโครซอฟท์
กูเกิลประกาศอัปเดตรูปภาพที่แสดงใน Street View รวมเกือบ 80 ประเทศ เช่น ออสเตรเลีย บราซิล เดนมาร์ก ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ รวันดา เซอร์เบีย แอฟริกาใต้ และอีกหลายประเทศ (ไม่ได้ระบุว่ามีไทยหรือไม่) และเพิ่มประเทศใหม่ได้แก่ บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา นามิเบีย ลีชเทินชไตน์ และปารากวัย
กูเกิลบอกว่ารูปภาพที่เพิ่มขึ้นมาจำนวนมาก เป็นผลจากการเปลี่ยนมาใช้กล้องรุ่นใหม่ที่มีขนาดเล็กและเบาลงตั้งแต่ปี 2022 ทำให้เข้าถึงสถานที่ต่าง ๆ ได้ดีขึ้น