เว็บไซต์ The Verge เปิดเผยว่า Alex Kipman หนึ่งในบิดาของ Kinect เป็นผู้ควบคุมแผนงานคอมพิวเตอร์สวมใส่ได้และการปรับแต่งแพลตฟอร์ม Windows ให้ทำงานบนหน้าจอขนาดเล็ก โดยทีมของ Kipman จะเน้นงานทดสอบและปรับแต่ง Windows ให้รันบนคอมพิวเตอร์สวมใส่ได้อย่างแว่นตาหรือนาฬิกา และกำลังทดลองต่อยอดโครงการ Fortaleza หรือ Kinect Glasses แว่นตาคล้ายๆ กับของกูเกิลที่สวมแล้วเห็นวัตถุต่างๆ สมจริงมากขึ้น รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi หรือ 4G ว่าบริษัทจะสามารถทำโครงการนี้เป็นผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดได้หรือไม่

เมื่อวานเพิ่งมีข่าวลือว่าซัมซุงมีแผนจะทำนาฬิกาอัจฉริยะรุ่นใหม่ในชื่อ Galaxy Band มาแทน Galaxy Gear ที่ผลตอบรับไม่ดีนัก ตอนนี้อีกรายที่ทำนาฬิกาอัจฉริยะมาก่อนอย่าง Sony ก็มีข่าวออกมาว่ากำลังจะโละโปรเจคนี้ทำใหม่ หลังจากทำมาแล้วถึงสองรุ่น แต่ก็ยังไม่ติดตลาดเสียที

กูเกิลจดสิทธิบัตร Wearable Computer with Nearby Object Response ซึ่งกล่าวถึงวิธีการที่ทำให้ผู้สวมใส่อุปกรณ์ที่มีหน้าจอแบบสวมหัว (head-mounted display หรือ HMD) อย่างแว่นตา หลีกเลี่ยงการชนกับสิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัวได้

สิทธิบัตรนี้กล่าวถึงการตรวจจับการชนจากเซ็นเซอร์วัดระยะทางและ/หรือเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว ส่วนการแจ้งเตือนผู้ใช้ให้เลี่ยงการชนนั้นอาจรวมถึงการ de-emphasize วัตถุเสมือนที่แสดงผลบน HMD อย่างน้อยหนึ่งวัตถุให้ดูไม่เป็นระเบียบ (ต้นฉบับเรียก cluttered view) และเน้นแสดงผลวัตถุเสมือนนั้นในลักษณะแบบโปร่งใส่และ/หรือเป็นวัตถุใหม่

หวังว่าท้ายที่สุดกูเกิลจะปรับใช้สิทธิบัตรลักษณะนี้กับ Google Glass รุ่นต่อๆ ไปนะ

ผมเชื่อว่าใครหลายคนคงในที่นี้หวังให้โนเกียปล่อยมือถือบนแพลตฟอร์ม Android และก็อาจมีความหวังขึ้นมาจากข่าวลือมือถือโค้ดเนม Normandy นี่แหละคือมือถือระบบปฏิบัติการ Android จากโนเกียและไมโครซอฟท์อาจอนุญาตให้โนเกียขาย Android แต่หลังจากอ่านข่าวนี้อาจทำให้หลายคนรู้สึก "ฝันสลาย" ก็เป็นได้ครับ

Samsung Display เผยสไลด์จากการประชุมกับนักวิเคราะห์การเงิน โดยให้มุมมองอนาคตของการนำหน้าจอแบบยืดหยุ่นได้ (flexible display) มาเชื่อมกับระบบเซ็นเซอร์แบบต่างๆ (ทั้งเซ็นเซอร์ด้านการเคลื่อนไหวและด้านชีวภาพ) ทำให้เกิดอุปกรณ์แบบใหม่ๆ อีก 3 ประเภท

อุปกรณ์อย่างแรกคือนาฬิกาที่ซัมซุงวางขายสินค้าไปแล้ว ต่อมาคือ "ผลิตภัณฑ์ด้านฟิตเนสและการดูแลสุขภาพ" ที่ในเอกสารระบุว่าจะทำตลาดช่วงปี 2015 และปิดท้ายด้วย "แฟชั่น" ในปี 2018

ข่าวใกล้ๆ กันคือมีคนไปค้นพบว่าซัมซุงยื่นจดเครื่องหมายการค้าคำว่า Samsung Sport กับสำนักงานทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2013 ซึ่งก็น่าจะบอกใบ้ทิศทางการออกผลิตภัณฑ์ของซัมซุงในระยะอันใกล้นี้

Apple ได้สิทธิบัตรเกี่ยวกับสิ่งประดิษฐ์ใหม่อีก 1 รายการ นั่นคืออุปกรณ์แสดงผลแบบสวมใส่ศีรษะ โดยสิทธิบัตรฉบับนี้เพิ่งได้รับการอนุมัติหลังจากที่ Apple ได้ยื่นจดเอาไว้ตั้งแต่ปี 2008

สิ่งประดิษฐ์ตามที่ระบุในสิทธิบัตรนั้นมีลักษณะคล้ายกล้องมอง 2 ตา ที่มาพร้อมสายรัดศีรษะ ภายในมีการแสดงผลผ่านหน้าจอ 2 ชุดที่แยกออกจากกันเพื่อสร้างภาพแยกเฉพาะสำหรับดวงตาข้างซ้ายและขวา และแน่นอนว่ามันสามารถสร้างมุมมอง 3 มิติให้แก่ผู้ใช้ได้ไม่ว่าจะใช้มันเล่นเกมหรือดูวิดีโอ

ไมโครซอฟท์ รีเสิร์ชร่วมกับมหาวิทยาลัยแห่งโรเชสเตอร์ในสหรัฐฯ และมหาวิทยาลัยเซาแธมตันในสหราชอาณาจักร พัฒนาต้นแบบ ยกทรงอัจฉริยะ (smart bra) ที่ฝังเครื่องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) เครื่องวัดการเปลี่ยนแปลงความสามารถในการเหนี่ยวนำไฟฟ้าของผิวหนัง (EDA) ไจโรสโคปแบบสองทิศทาง และเครื่องวัดอัตราเร่งแบบสามทิศทาง (ภาพที่ 1)

นักวิจัยอธิบายว่า สัญญาณ EKG และ EDA สามารถใช้ประเมินอารมณ์ของผู้สวมใส่ ณ ขณะนั้นได้ และที่เลือกใช้ยกทรงเพราะต้องการอุปกรณ์ที่ผู้ใช้สวมใส่สบายเป็นเวลานานและสามารถเก็บสัญญาณ EKG และ EDA ได้ในคราวเดียวกัน และเพราะสามารถติดตั้งอุปกรณ์ให้ตรวจจับคลื่นไฟฟ้าหัวใจใกล้หัวใจได้

ผู้เล่นในตลาดอุปกรณ์ไอทีแบบสวมใส่ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดมีอีกรายที่เผยโฉมอุปกรณ์ของตัวเองออกมาอย่าง PulseOn สายรัดข้อมือสำหรับเก็บข้อมูลสุขภาพที่ริเริ่มโดย Tero Mennader อดีตพนักงานของโนเกีย

จุดเด่นของ PulseOn ในตอนนี้คือการเป็นเครื่องมือสำหรับวัดอัตราการเต้นหัวใจที่แม่นยำมากๆ โดยไม่ต้องทำให้ขนาดใหญ่เหมือนกับเครื่องวัดแบบติดหน้าอก ตัว Mennader เองระหว่างทำงานกับโนเกียก็เป็นผู้คิดค้นสิทธิบัตรเทคโนโลยีที่สามารถวัดอัตราการเต้นหัวใจให้แม่นยำแทบจะเท่าตัวเลขจริงอยู่ด้วย

บริษัทมือถือจีน ZTE ยืนยันว่าจะร่วมต่อสู้ในตลาดนาฬิกาอัจฉริยะ (smartwatch) โดยจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของตัวเองในไตรมาสแรกของปี 2014 และวางขายจริงในไตรมาสที่สองของปี

ZTE บอกว่านาฬิกาของตัวเองจะมีความสามารถทางเทคโนโลยีทัดเทียมกับคู่แข่ง (อย่าง Galaxy Gear) แต่จะตั้งราคาถูกกว่า เพื่อจับตลาดคนจีนที่ให้ความสำคัญกับเรื่องราคาเป็นหลัก นาฬิกาของ ZTE จะคล้ายกับนาฬิกาของซัมซุงตรงที่ใช้ได้กับมือถือของ ZTE เท่านั้น และเตรียมเปิดฟีเจอร์ให้มือถือ Android อื่นๆ ในอนาคต

เบื้องต้น ZTE จะวางขายนาฬิกาในประเทศจีนก่อน แล้วค่อยขยายไปยังตลาดสหรัฐและยุโรปต่อไป นอกจากนี้ ZTE ยังระบุว่ากำลังพิจารณาทำสินค้าแบบสวมใส่ได้อื่นๆ เช่น แว่นตา และรองเท้า (จับตลาดสุขภาพ) อีกด้วย

Sony อาจกำลังจะฉีกแนวทำอุปกรณ์คอมพิวเตอร์แบบสวมใส่ได้ ดังจะเห็นได้จากการยื่นจดสิทธิบัตรวิกผมอัจฉริยะที่ใช้ชื่อเรียกตรงไปตรงมาว่า SmartWig

ตามคำบรรยายในคำขอจดสิทธิบัตรของ Sony นั้น ภายนอกของ SmartWig ก็ทำจากวัสดุที่อาจจะเป็นขนสัตว์, เส้นผมมนุษย์ หรือวัสดุสังเคราะห์อื่นที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เฉกเช่นเดียวกับวิกผมทั่วไป หากแต่ภายในมีวงจรอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถสื่อสารกับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นได้แบบไร้สาย ซึ่งอาจจะเป็นสมาร์ทโฟน, นาฬิกา smart watch หรือแว่นตา smart glasses

อีกสิ่งหนึ่งที่อยู่ภายใน SmarWig คืออุปกรณ์สร้างการสั่นซึ่งจะตอบสนองเมื่อมีการแจ้งเตือนเข้ามาที่สมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์คอมพิวเตอร์แบบพกพาอื่นที่เชื่อมต่อแบบไร้สายอยู่กับ SmartWig นั่นเอง

Pebble ประกาศการอัปเดตซอฟต์แวร์ใหม่ที่จะสามารถทำงานร่วมกับระบบการแจ้งเตือนของ iOS 7 โดยสมบูรณ์ จากที่แต่เดิมจะสามารถทำงานได้อย่างราบรื่นเฉพาะการแจ้งเตือนจากบางแอพพลิเคชั่นอย่าง Phone, Messages หรือ Mail เท่านั้น โดยซอฟต์แวร์ใหม่นี้จะมาพร้อมกับแอพพลิเคชั่น Pebble เวอร์ชันใหม่ที่จะเปิดให้ดาวน์โหลดจาก App Store ในอีกไม่กี่วันนี้

Amir Efrati อดีตนักข่าวของ Wall Street Journal อ้างว่าได้เอกสารภายในของกูเกิลที่มีรายละเอียดของ Android 4.4 KitKat (ที่ยังไม่เปิดตัวสักที)

เพิ่งประกาศว่าจะทำ Google Glass รุ่นที่สองไปได้วันเดียว กูเกิลก็ปล่อยภาพของ Google Glass รุ่นใหม่ผ่านทาง Google+ มาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

รูปทรงโดยรวมของ Google Glass ยังใช้การออกแบบเดิมอยู่ แต่มีการปรับเปลี่ยนนิดหน่อยอย่างเพิ่มพอร์ตหูฟังคู่ตัวเข้ามา ซึ่งสามารถเสียบได้ผ่านพอร์ต micro USB บริเวณแกนตัวเครื่องใกล้กับหูได้ด้วย อีกส่วนจะเป็นหมอนรองหูบริเวณด้านท้ายของขาแว่น น่าจะทำให้ใส่ได้สะดวกขึ้นครับ

รายละเอียดภายนอกของ Google Glass ก็มีเพียงเท่านี้ คงต้องรอให้กูเกิลเผยความเปลี่ยนแปลงภายในต่อไปครับ

ที่มา - +Google Glass

จากข่าวลือที่ว่ากูเกิลกำลังทำ Google Watch หรือนาฬิกาที่เน้นฟีเจอร์ Google Now อยู่ ตอนนี้มีข้อมูลชิ้นใหม่ที่ขยายความจากเดิมจากทาง Wall Street Journal มาอีกระลอกแล้ว

ฟังก์ชันการใช้งานของนาฬิกาดังกล่าวจะมีพื้นฐานจาก Google Now โดยจะเน้นการดูข้อมูลแบบกวาดตาดูเร็วๆ เช่นสภาพอากาศ ข้อมูลท่องเที่ยว และข่าวสารต่างๆ โดยอ้างอิงจากข้อมูลบนอีเมล ประวัติการท่องเว็บ และสถานที่ของผู้ใช้ได้

Wall Street Journal รายงานว่า Microsoft กำลังทดสอบแว่นตาที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้แบบเดียวกับ Google Glass และนาฬิกาข้อมือที่รองรับการสัมผัสอยู่

Gartner คาดว่าในปี 2016 ตลาดอุปกรณ์แบบสวมใส่ได้จะมีมูลค่าสูงถึง 10 พันล้านดอลลาร์ ส่วน Canalys กล่าวว่าบริษัทด้านเทคโนโลยีไม่อาจรั้งรอที่จะเข้าสู่ตลาดได้ แต่การที่เข้าสู่ตลาดนี้ก็ต้องเผชิญกับความท้าทายอย่างข้อจำกัดด้านแบตเตอรี่ซึ่งทำให้อุปกรณ์มีเซ็นเซอร์ให้ใช้อย่างจำกัด นอกจากนั้นอุปกรณ์ลักษณะนี้จะยังเป็นที่ต้องการในวงจำกัด (niche) ไปอย่างน้อยสามถึงห้าปีข้างหน้า ซึ่งก็สอดคล้องกับ Topology Research ที่กล่าวว่าราคาของอุปกรณ์ลักษณะนี้จะสูงเกินไปที่จะดึงดูดผู้บริโภคมาลองใช้งาน

Samsung ยื่นจดสิทธิบัตรงานออกแบบแว่นตาแบบใหม่ โดยยื่นจดในประเทศเกาหลีใต้

Samsung ระบุว่าสิ่งที่ถูกจดสิทธิบัตรคืองานออกแบบแว่นตาสำหรับสวมใส่เล่นกีฬา บริเวณขาแว่นมีหูฟังในตัว สามารถใช้งานเพื่อการโทรศัพท์และแสดงการแจ้งเตือนได้เมื่อเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนด้วยสาย microUSB โดยในส่วนของเลนส์ใกล้ดวงตามีจอแสดงภาพที่สามารถปรับให้แสดงภาพได้ทั้งแบบทึบแสงและโปร่งแสง

อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงการจดสิทธิบัตรด้านการออกแบบเท่านั้น ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าหากมีการนำไปผลิตเป็นสินค้าวางขายจริง อาจมีความสามารถอื่นที่ถูกเพิ่มเข้ามาในภายหลังอีกก็เป็นได้

บอกปากเปล่าไปก่อนแล้วว่า Galaxy Gear จะรองรับสมาร์ทโฟน Galaxy รุ่นอื่นนอกเหนือจาก Galaxy Note 3 เร็วๆ นี้ และล่าสุดทางซัมซุงก็ประกาศรายชื่อ และเวลาคร่าวๆ ของรุ่นที่จะได้ใช้งานร่วมกับ Galaxy Gear ได้ออกมาแล้ว

โดยรุ่นที่จะใช้ร่วมกับ Galaxy Gear ได้แก่สามรุ่นเคยท็อปอย่าง Galaxy S4, Galaxy S III และ Galaxy Note II ซึ่ง Galaxy S4 จะได้ก่อนใครพร้อมกับอัพเดต Android 4.3 ในเดือนตุลาคมนี้

นอกเหนือจากสามรุ่นที่ว่า รุ่นเล็กลงมาอย่าง Galaxy S4 mini, S4 Active, Mega 5.8, Mega 6.3, และ S4 zoom ก็จะใช้งานกับ Galaxy Gear ได้ด้วย โดยระยะเวลาการรองรับของแต่ละรุ่นจะต่างกันตามรอบการอัพเดตซอฟต์แวร์ โดยจะเริ่มในช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้

ผู้บริหารระดับสูงของ HTC ให้สัมภาษณ์กับ Financial Times (ต้องสมัครสมาชิกจึงอ่านได้) มีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

ปล่อยให้คู่แข่งอย่าง Nike นำด้านอุปกรณ์ไอทีแบบสวมใส่ได้มาพักใหญ่ คราวนี้ Adidas เริ่มรุกกลับบ้างด้วยการเปิดตัว miCoach SMART RUN นาฬิการันแอนดรอยด์สำหรับนักวิ่งมาแล้ว

ตัว miCoach SMART RUN มาพร้อมกับหน้าจอสัมผัส transflective (จอสำหรับใช้กลางแดด กันแสงสะท้อนได้มาก) ขนาด 1.45" ความละเอียด 184x184 พิกเซล ตัวซอฟต์แวร์รันระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.1.1 เวอร์ชันปรับแต่ง มีพื้นที่ภายใน 4GB มีแบตเตอรี่ในตัว 410 mAh ใช้งานได้ยาวนาน 14 วันต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง มากน้อยขึ้นอยู่กับโหมดการใช้งาน ใช้เวลาชาร์จกลับนานที่สุดเพียง 4 ชั่วโมงเท่านั้น ตัวนาฬิกาหนาพอสมควรที่ 15.6 มม. และใช้วัสดุโครงเป็นโลหะ ด้านหลังเป็นแมกนีเซียม

หลังจากที่ Nike ประกาศจัดงานประชุมของบริษัท ซึ่งหลายคนคาดการณ์ว่าจะเปิดตัว FuelBand รุ่นใหม่ ล่าสุด เป็นไปตามคาด Nike เปิดตัว FuelBand SE ซึ่งเป็นรุ่นที่ปรับปรุงจากรุ่นก่อนให้ดีขึ้นกว่าเดิม โดยฟีเจอร์ใหม่ของรุ่นนี้มีดังนี้

Kaz Hirai ซีอีโอของโซนี่ให้สัมภาษณ์ถึงตลาดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์แบบสวมใส่ (wearable computing) ที่กำลังเริ่มต่อสู้กันดุเดือด โดยเขาเปรียบเทียบว่าเหมือนการชิงพื้นที่ทำเลทองในตลาดอสังหาริมทรัพย์ เพราะข้อมือหรือใบหน้าของผู้ใช้มีพื้นที่จำกัด ดังนั้นถ้าผู้ใช้เลือกใช้สินค้ายี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่งแล้ว การจะเปลี่ยนไปใช้ยี่ห้ออื่นเป็นเรื่องยาก ต่างกับตลาดมือถือที่สามารถพกอุปกรณ์สองเครื่องได้พร้อมกัน

Kaz ยังให้ความเห็นว่าตลาดนาฬิกาอัจฉริยะยังไม่มีความชัดเจนว่าผู้ใช้คาดหวังสิ่งใดจากนาฬิกากันแน่ และยังไม่รู้ว่านาฬิกาขนาดไหนจึงถือว่ามีขนาดไม่ใหญ่เกินไป นอกจากนี้ผู้ผลิตสินค้าต้องเลือกสร้างดุลย์ระหว่างฟีเจอร์กับแบตเตอรี่ ถ้าเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งมากเกินไป อีกอย่างหนึ่งจะมีน้อยลง

ในช่วงระยะเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา เราเริ่มเห็นแนวโน้มการพัฒนาของเทคโนโลยีที่หมุนไปสู่แนวโน้มที่จะ "สวมใส่" (Wearable) กันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นจากฝั่งของกูเกิลอย่าง Google Glass ไปจนถึงรองเท้าอัจฉริยะ และบรรดาอุปกรณ์เพื่อสุขภาพอย่าง Fitbit Flex ในบรรดาอุปกรณ์เหล่านี้ "นาฬิกา" น่าจะเป็นสิ่งที่มีความเคลื่อนไหวค่อนข้างมากในรอบปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น Geak จากประเทศจีน Pebble ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง Toq ขอ

Fitbit เปิดตัวสายรัดข้อมือตัวใหม่ใช้ชื่อว่า Fitbit Force ซึ่งเป็นรุ่นพัฒนาจากรุ่นเก่าอย่าง Fitbit Flex รูปร่างภายนอกเหมือนรุ่นเดิม แต่มีจุดเด่นคือ มีหน้าจอ OLED บอกสถานะการออกกำลังกาย 7 รูปแบบรวมถึงเป็นนาฬิกาได้, เซ็นเซอร์ MEMS 3-axis accelerometer สำหรับวัดรูปแบบการเคลื่นไหว 3 ทิศทางและสั่นได้, รองรับการเชื่อมต่อทั้ง iOS และ Android

ด้วยการที่ Fitbit Force มีเซ็นเซอร์ MEMS 3-axis accelerometer ทำให้ Fitbit Force ทำงานได้ดีกว่ารุ่นเก่า สามารถบอกสถานะต่างๆ ได้ ด้วยการกดปุ่มเปลี่ยนด้านข้าง เช่นสถานะ การนอน, เวลา, ขั้นบันได, นาฬิกาปลุก เป็นต้น นอกจากนี้ตัว Fitbit Force ยังสามารถกันน้ำได้ในระดับหนึ่ง

ปีนี้เป็นปีทองของ Xiaomi จริงๆ ครับ นอกจากจะร่วมมือกับ Tencent เปิดตัวมือถือ Red Rice, เปิดตัว Xiaomi MI3 และ MiTV, รวมทั้งการคว้าตัว Hugo Barra ไปร่วมงานในปีนี้ไปแล้ว ยังมีข่าวลือที่น่าจับตามองอีกครั้งหลุดมาครับ โดยมีข่าวมาจากโรงงานในเมืองเซินเจิ้นของจีน อ้างว่าขณะนี้โรงงานกำลังเริ่มต้นผลิตนาฬิกาอัจฉริยะ (smartwatch) ตามคำสั่งของ Xiaomi มีกำหนดการว่าจะเปิดตัวภายในปีนี้

ในงาน CEATEC (งานแสดงสินค้าเทคโนโลยี) ที่ประเทศญี่ปุ่น NTT DoCoMo ยักษ์ใหญ่วงการสื่อสารได้เปิดตัว Wearable Computing เป็นแว่นตาอัจฉริยะ โดยใช้ชื่อเป็นทางการว่า Intelligent Glass (ภาพท้ายข่าว)

Intelligent Glass ถูกออกแบบมาจากปัญหาของนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่ไปเที่ยวญี่ปุ่น เมื่อไปอ่านข้อความในร้านค้าหรือเมนูอาหารแล้วไม่เข้าใจในภาษาท้องถิ่น แว่น Intelligent Glass จะวิเคราะห์ตัวอักษรผ่านแว่นตา แล้วดึงข้อมูลจากการเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ระยะไกลแล้วแปลภาษาออกมาทางหน้าจอ เบื้องต้นรองรับการแปลภาษาญี่ปุ่น, จีน, เกาหลี และอังกฤษ