Oculus VR & Oculus Rift
มีผู้ใช้แอพ Meta Quest บางราย พบหน้าเพจของ Project Apollo หรือชื่ออย่างเป็นทางการน่าจะเป็น Quest Pass ซึ่งเป็นโปรแกรมแจกเกมฟรีให้สมาชิกกดรับสิทธิในแต่ละเดือน ลักษณะเดียวกับ PlayStation Plus หรือ Xbox Games with Gold
รายละเอียดในเพจของ Quest Pass ระบุว่าสมาชิกจะได้แอพหรือเกมฟรี 1-2 เกมต่อเดือน สามารถกดรับสิทธิแล้วติดตั้งใช้งานได้ทันที และสามารถใช้งานได้ตราบเท่าที่ยังจ่ายค่าสมาชิกอยู่ (ลักษณะเหมือน Game Pass) แต่ยังไม่มีข้อมูลว่าค่าสมาชิกจะเป็นเท่าไรต่อเดือน
Meta ประกาศหั่นราคาแว่น Quest แบบถาวร ดังนี้
ส่วนแว่นรุ่นเล็กที่สุด Meta Quest 2 (128GB) ยังคงราคาเดิมที่ 399 ดอลลาร์ (เท่ากับว่าช่วงห่างของรุ่นความจุเหลือ 30 ดอลลาร์เท่านั้น)
เมื่อเดือนกรกฎาคม 2022 บริษัท Meta เพิ่งขึ้นราคา Meta Quest 2 ทั้งสองรุ่นความจุ จากเดิม 299 และ 399 ดอลลาร์ เป็น 399 และ 499 ดอลลาร์ตามลำดับ โดยให้เหตุผลว่าต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น
Meta ประกาศแผนการออกฮาร์ดแวร์ Metaverse ทั้งหลายเป็นการภายใน และแน่นอนว่าหลุดออกมายังสื่อ ดังนี้
Meta ออกซอฟต์แวร์อัพเดต v50 ให้แว่น Quest (ทั้ง Quest 2 และ Quest Pro) ของใหม่ที่สำคัญคือ Direct Touch ให้ผู้ใช้สามารถ "แตะนิ้ว" บนปุ่มเสมือนในโลก VR ได้จริงๆ แล้ว
ก่อนหน้านี้ ซอฟต์แวร์ของแว่น Quest สามารถติดตามการเคลื่อนไหวของมือทั้งมือ (hand tracking) มาตั้งแต่ปี 2019 แต่ต้องใช้ท่า pinch สองนิ้วในการสั่งงาน ซึ่งไม่เป็นธรรมชาติเท่าไรนัก
ตอนนี้ Meta แก้ปัญหานี้ได้แล้ว สามารถติดตามการแตะนิ้ว เลื่อนนิ้ว แบบเดียวกับที่เราคุ้นเคยบนสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของการสั่งงาน VR โดยไม่ต้องใช้คอนโทรลเลอร์ใดๆ
Meta อีเมลแจ้งผู้ใช้งานเฮดเซต Quest VR รุ่นแรก (Quest 1) ว่าบริษัทจะหยุดสนับสนุนการอัพเดตซอฟต์แวร์ในฟีเจอร์ใหม่ แต่จะยังได้รับอัพเดตบั๊กและช่องโหว่ความปลอดภัยต่อไปถึงปี 2024
นอกจากนี้ผู้ใช้งาน Quest VR ยังสามารถใช้งานทั่วไปได้ต่อไปตามปกติ ยกเว้นการสร้างหรือเข้าร่วมปาร์ตี้ และไม่สามารถใช้ฟีเจอร์โซเชียลใน Meta Horizon Home ได้ ตั้งแต่ 5 มีนาคม 2023 เป็นต้นไป
Quest เปิดตัวปลายปี 2018 และเริ่มขายในปี 2019 จากนั้น Meta ก็ออกรุ่น Quest 2 ตามมาในปี 2020
ที่มา: The Verge
มีรายงานว่า John Carmack ผู้ร่วมก่อตั้งและอดีต CTO ของ Oculus ซึ่งต่อมารับตำแหน่ง CTO ที่ปรึกษาให้ Meta ได้ลาออกจากตำแหน่งดังกล่าวแล้ว ซึ่งมีสัญญาณก่อนหน้านี้แล้ว ที่เขาตั้งบริษัทใหม่ Keen Technologies
The New York Times อ้างอีเมลภายในที่ Carmack ส่งให้กับเพื่อนร่วมงาน เขาบอกว่าแนวทาง VR ใน Meta หลายอย่างไม่เป็นไปอย่างที่เขาต้องการ แม้เขาน่าจะเป็นหนึ่งในคนที่เสียงดังและสามารถผลักดันได้มากที่สุด จึงคิดว่าสมควรย้ายไปทำสิ่งอื่นดีกว่า
John Carmack ผู้ร่วมก่อตั้งและอดีต CTO ของ Oculus (ลาออกในปี 2019 ปัจจุบันมีตำแหน่งเป็น "CTO ที่ปรึกษา") ได้รับเชิญไปพูดที่งาน Meta Connect 2022 แต่ปรากฏว่าเขา "สับเละ" ต่อแนวทางการพัฒนาโลก VR ของบริษัท Meta อดีตนายจ้างของตัวเอง
หลังจากทั้งพรีวิวและมีภาพหลุดกันมาตลอด ในที่สุด Meta ก็เปิดตัวแว่น Meta Quest Pro อย่างเป็นทางการแล้ว พร้อมกับราคาขายแบบโปรสมชื่อคือ 1,499 ดอลลาร์ หรือกว่า 57,000 บาท สามารถพรีออเดอร์ได้ทาง Meta Store ในประเทศที่รองรับ (ไม่มีไทย) หรือผ่านช่องทาง Best Buy และ Amazon เริ่มส่งมอบสินค้า 25 ตุลาคม เป็นต้นไป
สเปกฮาร์ดแวร์ของ Meta Quest Pro ใช้หน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon XR2+ รุ่นใหม่ ประสิทธิภาพการใช้พลังงานสำหรับงาน VR ดีขึ้น 50% แรม 12GB พื้นที่หน่วยความจำ 256GB และเซ็นเซอร์ตรวจจับความละเอียดสูง 10 จุด (5 อันด้านใน และ 5 อันด้านนอก)
บริษัท Meta เพิ่งประกาศจัดงาน Meta Connect วันที่ 12 ตุลาคมนี้ สินค้าหลักที่จะเปิดตัวคือแว่น Meta Quest Pro หรือ Project Cambria ที่โชว์ข้อมูลกันมาตั้งแต่ปีที่แล้ว
Meta ประกาศจัดงานสัมมนา Meta Connect กำหนดการตามเวลาในไทยคือวันพุธที่ 12 ตุลาคม เวลาเที่ยงคืน (คืนวันที่ 11 ตุลาคม) โดยเป็นการถ่ายทอดสดออนไลน์
Meta บอกว่าเนื้อหาในงาน จะอัพเดตความคืบหน้าและวิสัยทัศน์ของ metaverse มีทั้งคีย์โน้ตและหัวข้อย่อยสำหรับนักพัฒนา สามารถลงทะเบียนได้ที่ metaconnect.com
ในงานคาดว่า Meta จะเปิดตัวเฮดเซต VR รุ่นใหม่ด้วย ซึ่งซีอีโอ Mark Zuckerberg เคยเปิดเผยก่อนหน้านี้
ที่มา: Meta Quest
Qualcomm ประกาศเซ็นสัญญากับ Meta ในการใช้ชิป Snapdragon XR กับแว่น VR ต่ออีกหลายปี (multi-year)
ข่าวนี้อาจไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจนัก เพราะแว่น Meta/Oculus Quest ทั้งสองรุ่นก็ใช้ชิป Snapdragon มาตลอดอยู่แล้ว (Quest รุ่นแรกใช้ Snapdragon 835, Quest 2 ใช้ Snapdragon XR2) แต่การที่ Meta ยังมีแว่นรุ่นใหม่ๆ รอเปิดตัวอยู่อีกหลายรุ่น เช่น Project Cambria การเซ็นสัญญาครั้งนี้ก็ถือเป็นการการันตีกลายๆ ว่าแว่นในอนาคตจะยังใช้ชิป Snapdragon ต่อไป
Meta ประกาศขึ้นราคาแว่น Meta Quest 2 อีก 100 ดอลลาร์ในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ โดยให้เหตุผลเรื่องต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น
เพื่อเป็นการปลอบใจ Meta จะแถมยอดฮิต Beat Saber (ที่ตอนนี้เป็นของ Meta แล้ว) ให้ฟรีจนถึงสิ้นปี 2022 ด้วย
ไม่ใช่มีแต่ตัวแว่นที่ขึ้นราคา อุปกรณ์เสริมของ Quest หรือแม้กระทั่งแว่นรุ่น refurbished ก็ขึ้นราคาตามด้วยเช่นกัน
Mark Zuckerberg ซีอีโอ Meta ประกาศว่าตั้งแต่สิงหาคม 2022 เป็นต้นไป จะมีระบบบัญชีใหม่เรียกว่า Meta account เพื่อให้ผู้ใช้งานเฮดเซต VR และผลิตภัณฑ์ metaverse อื่น ของ Meta ใช้ล็อกอิน จากเดิมต้องใช้บัญชี Facebook หรือบัญชี Oculus เท่านั้น
สิ่งที่ Zuckerberg ย้ำคือการแยกบัญชีช่วยให้ผู้ใช้งาน มีประวัติและข้อมูลที่แยกจากกันกับ Facebook และบัญชี Meta ใหม่นี้ ไม่ใช่บัญชีสำหรับโซเชียล แต่ใช้สำหรับจัดการรายการอุปกรณ์และการจ่ายเงิน ส่วนข้อมูลด้านโซเชียลจะแยกเป็น Meta Horizon profile ต่างหาก รวมทั้งระบบรายชื่อเพื่อน การตั้งค่าต่าง ๆ จึงช่วยให้ผู้ใช้งานที่ไม่ต้องการนำบัญชี Facebook มาใช้งานสบายใจขึ้น
Financial Times สัมภาษณ์นักพัฒนาแอพ-เกมสาย VR หลายราย ที่บ่นว่าบริษัท Meta เก็บค่าธรรมเนียมสโตร์ (Oculus Store เดิม หรือ Quest Store ในปัจจุบัน) ในอัตรา 30% ซึ่งถือว่าแพงเทียบเท่ากับสโตร์แอพมือถือของแอปเปิล-กูเกิล ทั้งที่ Mark Zuckerberg เองก็ออกมาวิจารณ์เรื่องนี้อยู่บ่อยๆ
โฆษกของ Meta ระบุว่านโยบายของบริษัทคือ ผู้ใช้สามารถ sideload แอพนอกสโตร์ได้เสมอ (สโตร์ทางเลือก เช่น SideQuest) นักพัฒนาจึงมีทางเลือกว่าจะเผยแพร่แอพของตัวเองผ่านช่องทางไหน
อย่างไรก็ตาม Financial Times อ้างข้อมูลจาก Sensor Tower ว่าตัวแอพของ Oculus มีคนดาวน์โหลด 19 ล้านครั้ง ส่วน SideQuest มีเพียง 4 แสนครั้งเท่านั้น ในทางปฏิบัตินักพัฒนาก็ไม่มีทางเลือกมากนักอยู่ดี
Mark Zuckerberg โชว์ต้นแบบแว่น VR ที่เคยพัฒนาในห้องแล็บของบริษัท Meta จำนวนทั้งหมด 4 รุ่น โดยทั้ง 4 รุ่นไม่ใช่แว่นรุ่นที่จะวางขายจริง
Meta ประกาศเปิดร้านขายฮาร์ดแวร์แห่งแรกของบริษัท ใช้ชื่อว่า Meta Store เปิดที่เมือง Burlingame ในแคลิฟอร์เนีย ไม่ไกลจากซานฟรานซิสโก และสำนักงานใหญ่ของ Meta ที่เมือง Menlo Park
สินค้าที่วางขายในร้านคือฮาร์ดแวร์ของ Meta ที่มีเยอะขึ้นเรื่อยๆ ในยุคหลัง ไม่ว่าจะเป็นแว่น VR Oculus/Meta Quest, แว่น Ray-Ban Stories แบบติดกล้อง, หน้าจออัจฉริยะ Portal สำหรับคุยวิดีโอคอลล์ เป็นต้น
Meta บอกว่าเปิดร้าน Meta Store เพื่อให้ลูกค้าได้ลองสัมผัสสินค้าฮาร์ดแวร์จริงๆ ก่อนซื้อ เช่น มีพื้นที่สำหรับลองเล่นเกม VR ด้วยแว่น Quest ด้วย
Meta ประกาศทดลองขายไอเทมในโลกเสมือน Horizon Worlds โดยเปิดให้ผู้เล่น (ตอนนี้ยังจำกัดแค่ครีเอเตอร์บางคน) สามารถสร้างไอเทมมาขายให้ผู้เล่นคนอื่นๆ ได้
การซื้อไอเทมเสมือนใน Horizon Worlds เรียกว่า in-world purchase ตอนนี้ยังจำกัดเฉพาะในสหรัฐและแคนาดาเท่านั้น ผู้ซื้อต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป โดย Meta จะหักส่วนแบ่งรายได้ 25%
Meta ประกาศเลิกใช้แบรนด์ Oculus ตามที่เคยแถลงไว้ตอนเปลี่ยนชื่อบริษัท โดยแว่น Oculus Quest 2 ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Meta Quest (ไม่มีเลข 2) และบัญชีทวิตเตอร์ของ @Oculus ก็เปลี่ยนมาใช้ @MetaQuestVR แทน อย่างไรก็ตาม ตอนนี้โดเมนเนม oculus.com ยังถูกใช้งาน และหน้าเว็บยังใช้ชื่อ Oculus Quest 2 อยู่
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ถูกวิจารณ์จากผู้ใช้ Oculus จำนวนมาก จนทาง Meta ต้องออกมายอมรับว่าได้ฟังเสียงวิจารณ์แล้ว การเปลี่ยนชื่อเป็นสิ่งที่ยากเพราะคนผูกพันกับแบรนด์เดิม
เกมสร้างเมืองยอดนิยม Cities: Skylines กำลังจะออกเวอร์ชัน VR ในชื่อ Cities: VR สำหรับแว่น Meta Quest 2 (แบรนด์ Oculus เดิมจะเลิกใช้แล้ว) เกมจะเปิดให้เล่นในช่วงฤดูใบไม้ผลิ 2022
เกม Cities: VR พัฒนาโดยสตูดิโอ Fast Travel Games จากสวีเดน ที่เชี่ยวชาญเรื่องเกม VR และเคยมีผลงานอย่างเกม Wraith: The Oblivion - Afterlife, The Curious Tale of the Stolen Pets, Apex Construct มาก่อน ส่วนเกม Cities: Skylines ภาคหลักเป็นผลงานของสตูดิโอ Colossal Order จากฟินแลนด์
รูปแบบเกมเพลย์ของ Cities: VR ยังเป็นเกมสร้างเมืองเหมือนเดิม ที่เพิ่มเข้ามาคือการเข้าไปสัมผัสบรรยากาศในมุมของคนในเมืองโดยตรง และการปรับคอนโทรลให้เหมาะสมกับการควบคุมแบบ VR
Facebook กำลังทยอยออกอัพเดตใหม่ v34 ให้กับผู้ใช้ Oculus Quest อัพเดตนี้มาพร้อมฟีเจอร์ Space Sense ระบบที่จะทำงานร่วมกับ Guardian System ที่ให้ผู้เล่นตั้งค่าบริเวณที่จะใช้เล่น VR ได้
Space Sense ช่วยไฮไลท์วัตถุที่เข้ามาในบริเวณการเล่น (Guardians bound) ของผู้ใช้ ไม่ว่าจะเป็นเด็ก สัตว์เลี้ยง หรือเก้าอี้ที่ถูกเลื่อน โดยจะไฮไลท์เป็นขอบสีชมพูเรืองแสง แม้จะเล่นเกมอยู่ มีระยะการทำงาน 9 ฟุต สามารถเข้าไปเปิดได้ในการตั้งค่าส่วน “Experimental Features” หลังอัพเดตเป็น v34 แล้ว
Facebook โชว์ภาพแว่นโค้ดเนม Project Cambria ซึ่งเป็นแว่นรุ่นใหม่ระดับไฮเอนด์ มีฟีเจอร์ระดับสูงอย่าง social presence, color Passthrough, pancake optics รวมถึงการเชื่อมต่อกับ Presence Platform มี passthrough API สำหรับนำภาพวัตถุภายนอกมาแสดงในแว่น (ลักษณะเหมือน HoloLens ของไมโครซอฟท์)
Facebook ประกาศชัดว่า Project Cambria ไม่ใช่ Oculus Quest 3 แต่จับอีกตลาดที่เทคโนโลยีสูงกว่านั้น ราคาแพงกว่า และเป็นแว่นที่เปิดโลกสู่ metaverse ตามวิสัยทัศน์ของบริษัท กำหนดการเปิดตัว Cambria บอกคร่าวๆ แค่ว่าปีหน้า 2022
นอกจากเกม Grand Theft Auto ทั้ง 3 ภาคเก่าที่กำลังจะออกใหม่เป็นรูปแบบ Remaster แล้วนั้น ทาง Oculus ยังมีความร่วมมือกับ Rockstar Games ในการพัฒนาเกม Grand Theft Auto: San Andreas ในรูปแบบของ VR จากทาง Facebook อีกด้วย
รายละเอียดมาจากการถ่ายทอดสดรายการ Facebook Connect ที่ Mark Zuckerberg ประกาศว่าเกมนี้จะถูกนำมาปรับปรุงใหม่อีกครั้งสำหรับการเล่นผ่าน VR โดยเฉพาะ ซึ่ง Mark Zuckerberg กล่าวไว้ในรายการว่า "ผู้เล่นจะได้สัมผัสประสบการณ์รูปแบบใหม่กับโลกของเกม Open-world ที่ผมคิดว่าเป็นเกมที่ยอดเยียมที่สุดที่เคยสร้างมาเลย ผ่านรูปแบบของ Virtual Reality"
สอดคล้องกับการเปลี่ยนชื่อบริษัท Facebook เป็น Meta บริษัทก็ประกาศเลิกใช้แบรนด์ Oculus และเปลี่ยนมาใช้แบรนด์ Meta แทน
Andrew Bosworth หัวหน้าฝ่าย AR/VR ที่เรียกว่า Facebook Reality Labs ประกาศแนวทางการเปลี่ยนชื่อแบรนด์ดังนี้
Oculus ภายใต้ Meta ชื่อใหม่ของเฟซบุ๊ก ประกาศเปิดตัว Presence Platform แพลตฟอร์มพัฒนาโลกเสมือน รวมเอาความสามารถของ API หลายตัวที่ Oculus เคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้เป็นชุดเดียวกัน ตอนนี้มีชุด SDK ประกอบกันได้แก่
Oculus ออกอัพเดตสุดท้ายให้แว่น Oculus Go ตามที่สัญญาไว้โดย John Carmack ซึ่งมีตำแหน่งเป็น CTO ที่ปรึกษา
แว่น Oculus Go ตกรุ่นไปแล้วหลังการมาถึงของ Oculus Quest 2 แต่เนื่องจากแว่นมีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก (ข้อมูลประเมินโดย IDC คือ 2 ล้านตัวตลอดอายุผลิตภัณฑ์) การปล่อยให้แว่นเหล่านี้ตกรุ่นไปเฉยๆ เป็นเรื่องน่าเสียดาย ทำให้ Carmack ผลักดันให้ Oculus ออกซอฟต์แวร์ unlocked OS build ที่เปิดให้ผู้ใช้เข้าถึง root access ของระบบ (ฐานของ Oculus Go เป็น Android) เพื่อนำไปปรับแต่งได้อย่างอิสระในอนาคต