กูเกิลประกาศเพิ่มฟีเจอร์ใหม่หลายอย่างให้กับ Google Maps เวอร์ชันเดสก์ท็อป

อย่างแรกคือคนที่ใช้ Google Maps เวอร์ชันเก่าคงจำไอคอนมนุษย์ตัวเหลือง Pegman ที่ลากไปวางบนแผนที่เพื่อเข้าโหมด Street View ได้ แต่หลังจากกูเกิลเปิดตัว Google Maps โฉมใหม่ที่ฟีเจอร์หลายอย่างหายไป เจ้า Pegman ก็เป็นหนึ่งในฟีเจอร์ที่ถูกตัดออกไปด้วย (แม้จะยังเข้าโหมด Street View ได้อยู่เหมือนเดิม)

วันนี้กูเกิลเอาเจ้า Pegman กลับคืนมาแล้ว แต่ตำแหน่งจะเปลี่ยนไปจากเดิมที่อยู่มุมซ้ายบน ก็มาอยู่มุมล่างขวา (ข้างคำว่า Explore) แทน ซึ่งเมื่อเรากดปุ่ม Pegman ก็จะเห็นจุดสีเหลืองบนแผนที่เพื่อระบุตำแหน่งที่มีภาพ Street View เหมือนกับของเดิม

การค้นหาตำแหน่ง-พิกัดของอุปกรณ์พกพาในปัจจุบัน นอกจากการใช้ GPS โดยตรงแล้วยังมีเทคนิคการวิเคราะห์ตำแหน่งจาก Wi-Fi access point, สถานีฐานของมือถือ หรือหมายเลขไอพี โดยผู้ให้บริการค้นหาพิกัดอย่างกูเกิลหรือไมโครซอฟท์จะเก็บข้อมูลเหล่านี้ไว้เพื่อใช้งานเวลาตรวจสอบพิกัด

ถึงแม้ว่าปัจจุบันบริการลักษณะนี้ (เช่น Google Location Services) จะสามารถใช้งานได้ฟรี แต่ก็ไม่มีอะไรการันตีว่าในอนาคตมันจะสามารถใช้งานได้ฟรีต่อไป เพราะผู้ให้บริการทุกรายต่างก็เป็นบริษัทหวังผลกำไรด้วยกันทั้งสิ้น

Foursquare ทดสอบแพลตฟอร์มโฆษณา Foursquare Ads สำหรับร้านค้าขนาดเล็กมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว (ข่าวเก่า) โดยโฆษณาระบบนี้จะคล้ายๆ AdWords ของกูเกิลคือเปิดให้ร้านค้าต่างๆ เข้ามาซื้อโฆษณาผ่านหน้าเว็บได้เอง กำหนดกลุ่มเป้าหมายเองได้เลย

ลูกค้าที่จะเห็นโฆษณาคือลูกค้าที่อยู่ในพื้นที่ และมองหาร้านอาหารหรือธุรกิจที่ตรงกับที่เราระบุไว้ ระบบของ Foursquare จะจับคู่ให้ และคิดเงินเมื่อลูกค้าเริ่มมีปฏิสัมพันธ์กับโฆษณาเท่านั้น (แสดงโฆษณาอย่างเดียวไม่เสียเงิน)

ตอนนี้ Foursquare เปิดให้ร้านค้าทั่วโลกสามารถลงโฆษณาได้แล้ว ร้านค้าไหนสนใจก็ทดลองกันได้ตามลิงก์ข้างต้นครับ

Google Maps เพิ่มฟีเจอร์ด้านการนำทาง โดยสามารถกำหนดสถานที่ปลายทางหลายๆ แห่งในเส้นทางเดียวกัน (multiple destinations) เหมาะสำหรับคนที่ขับรถแล้วต้องการแวะสถานที่หลายแห่งระหว่างทาง ก็สามารถทำ route เพียงเส้นเดียวได้เลย

วิธีใช้งานคืออินเทอร์เฟซของ Google Maps จะมีปุ่ม + เพิ่มเข้ามา เอาไว้เพิ่มสถานที่ปลายทางที่ต้องการได้เรื่อยๆ นอกจากนี้เรายังสามารถลากสลับตำแหน่งของสถานที่ต่างๆ ว่าจะไปที่ไหนก่อน-หลังได้ด้วย

แผนการของ "โนเกียยุคใหม่" หลังขายธุรกิจมือถือ ประกาศไว้ชัดว่าอนาคตของโนเกียคือ อุปกรณ์เครือข่าย NSN, ระบบแผนที่ HERE และธุรกิจการขายสิทธิใช้งานสิทธิบัตร

ข่าวนี้เป็นความเคลื่อนไหวของ HERE ครับ โดยโนเกียประกาศว่ารถยนต์ของ Mitsubishi Motors North America ที่จะวางขายในปี 2014 จะมีระบบแสดงข้อมูลสภาพจราจร, สภาพอากาศแบบเรียลไทม์, ราคาน้ำมันจาก HERE Traffic

โนเกียคุยว่าข้อมูลจาก HERE Traffic ครอบคลุมปั๊มน้ำมันกว่า 1 แสนแห่งในสหรัฐ, ข้อมูลสภาพจราจรกว่า 3 แสนไมล์ และข้อมูลสภาพอากาศอัพเดตทุก 30 วินาที กระบวนการส่งข้อมูลจะผ่านคลื่นวิทยุแบบ HD Radio ไปยังระบบ infotainment ของรถยนต์โดยตรง

พอดีเห็นโพสแนะนำโครงการบนเพจครับ เข้าไปอ่านดูแล้วเห็นน่าสนใจดีเลยนำมาเขียนเป็นข่าวครับ

โดยโครงการนี้ได้ระดมอยู่บน Indiegogo (เว็บระดมทุนแนวเดียวกับ Kickstarter) โดย คุณ Shotiwan Wattanalarp และคุณ Jirawat Harnsiriwatanakit ได้ให้ข้อมูลในหน้าประกาศว่าแอพ Locaze นี้เป็นแอพนำทางที่เริ่มนำร่องในระบบรถประจำทางซึ่งสามารถแสดงตำแหน่งรถประจำทางที่อยู่บนเส้นทางนั้นๆ ได้ ทำให้สามารถได้ว่ารถประจำทางมาถึงป้ายหรือยัง

โนเกียเปิดตัว HERE Connected Driving ระบบโซลูชั่นการนำทางบนรถยนต์ครบวงจร โดยระบบ HERE Connected Driving นั้นออกแบบให้ทำงานผ่านระบบกลุ่มเมฆทั้งหมด ในชุดของ Connected Driving นั้นประกอบด้วย

Foursquare ก้าวไปอีกขั้น จากเดิมที่ทำหน้าที่แนะนำสถานที่เมื่อผู้ใช้เจตนาเปิดแอพ Foursquare ก็เพิ่มมาเป็นการแนะนำสถานที่โดยคาดเดาว่าผู้ใช้น่าจะต้องการ (proactive recommendation ลักษณะเดียวกับ Google Now)

เทคนิคที่ Foursquare ใช้คือให้แอพทำงานอยู่ตลอดเวลา และเมื่อผู้ใช้ไปอยู่ในพื้นที่ที่มีสถานที่น่าสนใจ ก็จะแสดงข้อมูลผ่าน notification ของ Android ขึ้นมาให้เลย (iOS ยังต้องรออีกหน่อย)

Foursquare เทียบฟีเจอร์นี้ว่าเป็น sixth sense และบอกว่าบริษัททำงานอย่างหนักเพื่อไม่ให้ฟีเจอร์นี้กินแบตเตอรี่ โดยข้อมูลจากการทดสอบของบริษัทเองพบว่าแบตลดลงไปชั่วโมงละ 0.7% เท่านั้น และถ้าเปิดทิ้งไว้ทั้งวันก็กินแบตเท่ากับการเล่น Angry Birds นาน 20 นาที

Google Field Trip แอพสำรวจสถานที่ต่างๆ รอบตัว (ข่าวเก่า) แปลงกายมาอยู่บนแว่น Google Glass แล้ว

Field Trip เวอร์ชัน Glass จะตัดทอนความสามารถลงจากรุ่นมือถือ แต่ก็จะยังแสดงข้อมูลสถานที่จาก Field Trip ในรูปแบบ card ที่ Google Glass ใช้เป็นปกติ, สามารถอ่านข้อมูลสถานที่ให้ฟังได้ และถ้าเราเดินทางไปยังจุดที่มีสถานที่น่าสนใจ Field Trip จะแสดงไอคอนเตือนขึ้นมาที่มุมบนแว่นให้ด้วย

John Hanke จากทีม Niatic (ทีมเดียวกับที่พัฒนา Ingress) บอกว่าการใช้งาน Field Trip บน Glass ถือเป็น augmented reality ที่ควรจะเป็น เพราะมันสามารถบอกข้อมูลรอบตัวเราได้โดยที่เราไม่ต้องออกแรงทำอะไรเลย

หลังจาก กูเกิลซื้อกิจการ Waze ประมาณสองเดือน เราก็เริ่มเห็นการผนวกรวมกันของ Waze กับ Google Maps บ้างแล้ว

เริ่มจาก Google Maps เวอร์ชันมือถือ (Android, iOS, mobile web) เพิ่มข้อมูลอุบัติเหตุจราจร (incident report) โดยดึงมาจากข้อมูลที่ผู้ใช้ Waze รายงานเข้ามา เบื้องต้นยังใช้ได้เฉพาะสหรัฐ สหราชอาณาจักร และยุโรป-ละตินอเมริกาบางประเทศ

ในทางกลับกัน แอพ Waze (Android, iOS) จะได้ความสามารถ Google Search สำหรับค้นหาข้อมูลของสถานที่ภายในแอพ และตัวแก้ไขแผนที่ Waze Map Editor จะดูภาพถ่ายดาวเทียมของ Google Maps รวมถึงภาพถนนจาก Google Street View เพื่อให้แก้ไขแผนที่ได้แม่นยำขึ้น

กูเกิลประกาศว่าแอพ Google Maps อัพเดตล่าสุดบน Android/iOS จะเริ่มมีโฆษณาของร้านค้าต่างๆ แสดงที่ขอบด้านล่างของหน้าจอ เมื่อผู้ใช้ค้นหาข้อมูลหรือสถานที่ใน Google Maps แล้ว

โฆษณาเหล่านี้จะแสดงเป็นข้อความสั้นๆ ประมาณ 3 บรรทัด เมื่อผู้ใช้แตะที่โฆษณาก็จะแสดงผลละเอียดมากขึ้น (นับเป็น 1 คลิกตามระบบ CPC ของ AdWords) จากนั้นกูเกิลมีวิธีนับคลิกที่สอง แบ่งเป็น 2 แบบ

Nokia ประกาศความร่วมมือกับ Qualcomm ในการพัฒนาบริการเกี่ยวกับตำแหน่งที่ตั้งภายในอาคารใหม่ (indoor location-based service) โดยบริการนี้จะใช้เทคโนโลยีด้านการหาพิกัด IZat ของ Qualcomm ช่วยระบุตำแหน่งในอาคาร ซึ่งแม่นยำกว่าการระบุตำแหน่งด้วยสัญญาณไวไฟหรือเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน

โนเกียกล่าวว่าบริการใหม่นี้จะเพิ่มทางเลือกให้นักพัฒนาแอพและร้านค้าสามารถเข้าถึงและนำเสนอข้อมูลแก่ผู้คนอย่างเจาะจงและในบริบทที่เราต้องการได้มากยิ่งขึ้น อาทิ การโฆษณาของแต่ละร้านค้า เป็นต้น

ศูนย์วิจัย Mercedes-Benz Research & Development North America (MBRDNA) เปิดเผยกับ Silicon Valley Business Journal ว่า กำลังทำโปรเจกต์ระบบนำทางที่ประสานการทำงานร่วมกันระหว่างระบบนำทางในรถยนต์และระบบนำทางคนเดินเท้าโดยใช้ Google Glass อยู่

Johann Jungwirth ประธานของศูนย์วิจัยยกตัวอย่างการทำงานว่า สมมติผู้ใช้เปิดให้ระบบนำทางแนะนำเส้นทางกลับบ้าน เมื่อผู้ขับขี่ลงจากรถเพื่อเดินต่อไปยังบ้านของตน ระบบก็จะนำทางในเส้นทางที่เหลือจากที่จอดรถกลับไปที่บ้านผ่าน Google Glass ได้อัตโนมัติ โดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องมาระบุจุดหมายปลายทางใหม่จากที่จอดรถแต่อย่างใด

อันนี้เป็นข่าวต่อจากข่าวที่แอปเปิลซื้อกิจการบริษัทด้านระบบแผนที่ 2 เจ้าครับ

ภายหลังที่ทางแอปเปิลซื้อกิจการ HopStop ไปได้ไม่นาน ล่าสุดมีสายรายงานให้กับทาง Windows Phone Central ว่า แอพพลิเคชั่น HopStop ถูกถอดออกจาก Windows Phone Store ไปแล้ว และสำหรับคนที่มีแอพนี้อยู่ในเครื่องอยู่แล้ว จะไม่สามารถใช้งานได้ และมีข้อความแจ้งเตือนว่า ตอนนี้ทางทีมงานของ HopStop ได้หยุดการสนับสนุนบนแพลตฟอร์ม Windows แล้ว แนะนำให้ใช้เว็บบนโทรศัพท์แทน

แอปเปิลซื้อกิจการบริษัทด้านข้อมูลภูมิศาสตร์ 2 บริษัทในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน

• บริษัทแรก Locationary อยู่ในแคนาดา เป็นบริษัท startup ที่เก็บข้อมูลเชิงภูมิศาสตร์ด้วยวิธีการแบบ crowdsourcing โดยเน้นไปที่ข้อมูลร้านค้าหรือธุรกิจ
• บริษัทที่สอง HopStop เน้นที่ข้อมูลด้านการขนส่งมวลชน ปัจจุบันแอพ HotStop มีผู้ใช้ต่อเดือนประมาณ 2 ล้านคน (iOS+Android) และมีระบบ crowdsourcing ข้อมูลลักษณะเดียวกับ Waze แต่เน้นที่การเดินทางด้วยขนส่งมวลชนเป็นหลัก

แอปเปิลไม่ได้ประกาศข่าวการซื้อกิจการทั้งสองบริษัทนี้ แต่เมื่อนักข่าวสอบถามไปยังโฆษกของแอปเปิล ก็ได้รับคำยืนยันว่าซื้อจริงทั้งคู่ แต่ไม่เปิดเผยรายละเอียดมากกว่านี้

โนเกียประกาศปล่อยแอพพลิเคชันตระกูล HERE ประกอบด้วย HERE Maps, HERE Drive และ HERE Transit สำหรับกับอุปกรณ์ที่ใช้ Windows Phone 8 ทุกรุ่น โดยคุณสมบัติของแอพตระกูล HERE บน Windows Phone 8 นั้นจะไม่แตกต่างจากแอพตระกูล HERE ที่อยู่บน Nokia Lumia เลยแม้แต่น้อย

HERE Drive นั้นจะแตกต่างจาก HERE Drive+ ตรงที่ไม่ได้ลิขสิทธิ์แผนที่รอบโลก (ซึ่งจำเป็นต้องใช้ HERE Drive+ ถึงจะได้ลิขสิทธิ์แผนที่รอบโลก) โดยผู้ใช้สามารถดาวน์โหลด HERE Drive ได้ฟรีในประเทศสหรัฐอเมริกา, แคนาดา, สหราชอาณาจักร, เม็กซิโก, ฝรั่งเศส, อิตาลี, เยอรมนี และสเปน และสามารถอัพเกรดเป็น HERE Drive+ ได้ในราคา 15.49 ยูโร (หรือราว 620 บาท) สำหรับสมาร์ทโฟน Lumia 720, 520, 521 และผู้ใช้ Windows Phone ในประเทศที่กล่าวมาก่อนหน้านี้

โนเกียประกาศผ่านเว็บไซต์ Nokia Conversations ว่าตอนนี้เปิดให้คนทั่วไปสามารถทดสอบแอพ HERE สำหรับ Asha platform (ซึ่ง ณ เวลานี้มีเพียงแค่รุ่น Nokia Asha 501) โดยตัว HERE Maps บน Asha platform จะถูกออกแบบให้สามารถใช้งานได้แม้ตัวเครื่องไม่มี GPS ก็ตาม

คุณสมบัติเด่น ๆ ของ HERE บน Asha platform นอกจากที่จะเป็นแผนที่ที่เห็นได้ทั่วไปแล้ว ยังรองรับการแสดงผลจราจรแบบ real-time, ค้นหาสถานที่ภายในอาคาร รวมทั้งแสดงเส้นทางของระบบขนส่งมวลชนได้ แต่ ณ เวลานี้ยังไม่รองรับแผนที่แบบออฟไลน์ได้

สำหรับใครที่ถือ Nokia Asha 501 สามารถดาวน์โหลด HERE Maps (Beta) ได้แล้วที่ Nokia Store ครับ

Foursquare ออกเครื่องมือชื่อ Time Machine นำประวัติการเช็คอินของเราในอดีตทั้งหมดมาทำ visualization ให้เห็นว่าเรานิยมเช็คอินที่ไหนบ้าง เดินทางไกลที่สุดแค่ไหน สถานที่ใดนิยมไปตอนเช้า-บ่าย-เย็น เป็นต้น

นอกจากนี้ Time Machine ยังแนะนำสถานที่ที่เรา "ควรจะไป" โดยอิงจากประวัติการเช็คอินด้วย

ที่มา - Foursquare Blog

Wikipedia เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ชื่อ Nearby เลือกแสดงบทความที่เกี่ยวข้องกับสถานที่ซึ่งอยู่ในบริเวณรอบๆ ตำแหน่งของผู้ใช้งานในขณะนั้น โดยระบุตำแหน่งผู้ใช้ด้วย GeoData Extension ของ Wikimedia

ฟีเจอร์ Nearby นี้จะช่วยให้ผู้ใช้ได้รับทราบข้อมูลของสถานที่โดยรอบตนเองในขณะนั้นได้ดียิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ในนครรัฐวาติกัน ฟีเจอร์นี้จะแสดงบทความ Sistine Chapel (สถานที่พำนักของสมเด็จพระสันตปาปา), ภาพวาด The Last Judgement (ภาพวาดชื่อดังในนครรัฐวาติกัน) เป็นต้น

โนเกียเคยโชว์ฟีเจอร์ LiveSight (City Lens เวอร์ชันเพิ่มความสามารถ และผนวกเข้ากับตัวแผนที่ ไม่ได้แยกเป็นแอพหรือเลนส์) เมื่อต้นปี และสัญญาว่าจะผนวกมันเข้ามาใน Here Maps

วันนี้โนเกียประกาศอัพเดต Here Maps ให้เพิ่มฟีเจอร์ LiveSight เรียบร้อยแล้ว การทำงานจะคล้ายๆ กับ Google Street View คือกดเปลี่ยนจากโหมดแผนที่มาเป็นโหมดเสมือนจริง จากนั้น LiveSight จะแสดงป้ายข้อมูลของสถานที่ในบริเวณนั้นๆ ให้ทราบทันที

ที่มา - Nokia Conversations via Engadget

เว็บข่าวของอิสราเอล Calcalist รายงานว่า Facebook กำลังเจรจาเพื่อขอซื้อกิจการแอพแผนที่นำทาง Waze ด้วยมูลค่าราว 800 - 1,000 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม Waze เคยมีข่าวได้รับข้อเสนอซื้อกิจการทั้งจากแอปเปิลและไมโครซอฟท์

Waze เป็นบริการแผนที่นำทาง ที่ใช้วิธีการรายงานสภาพการจราจรจากกลุ่มผู้ใช้งานด้วยกันเอง ข้อมูลล่าสุดนั้น Waze มีผู้ใช้งานแล้ว 45 ล้านคน โดยในปีที่ผ่านมามีการส่งข้อมูลรายงานสภาพการจราจรกว่า 90 ล้านครั้ง จาก 110 ประเทศ

เว็บไซต์ AllThingsD สัมภาษณ์ John Hanke หัวหน้าทีม Niantic Labs หน่วยย่อยของกูเกิลและผู้พัฒนาเกม Ingress

Hanke เล่าเบื้องหลังว่า Niantic Labs ได้รับคำท้าจากซีอีโอ Larry Page ให้ประดิษฐ์ประสบการณ์ใหม่ของการใช้งานอุปกรณ์พกพาในอนาคต

Hanke ยังบอกว่าทิศทางของ Niantic ในปัจจุบัน (ที่เน้นการสำรวจทิศทางของเกมแบบอิงสถานที่) ถือว่าแยกส่วนจากทิศทางหลักของกูเกิล เขาบอกว่ากูเกิลมีเทคโนโลยีน่าสนใจทั้ง Android และ Google Glass ที่ Niantic นำไปต่อยอดได้

ยุทธศาสตร์ของ Foursquare ที่หันไปเน้นการรีวิวสถานที่เพื่อแข่งขันกับ Yelp มากขึ้น ตอนนี้กลับมาเน้นที่จุดเริ่มต้นอีกครั้ง โดยในแอพบน iOS เวอร์ชันล่าสุดได้เพิ่มคุณสมบัติเช็กอินแบบความเร็วสูง (supersonic speed check-in เขาระบุแบบนี้) โดยเมื่อผู้ใช้เห็นรายชื่อสถานที่ สามารถกดชื่อสถานที่ค้างไว้ แถบสีเขียวจะปรากฏขึ้นด้านบน และในเวลาไม่กี่วินาทีก็เช็กอินให้ทันที

ทั้งนี้ผู้ใช้งานยังสามารถเช็กอินในรูปแบบเดิมได้ โดย Foursquare อธิบายว่าเหตุผลที่ปรับปรุงการเช็กอินให้ง่ายขึ้นไปอีก เพราะปริมาณการเช็กอินช่วยให้ระบบ Foursquare เรียนรู้ว่าสถานที่ไหนที่น่าสนใจ ที่ผู้ใช้งานชอบไป ซึ่งช่วยให้ระบบแนะนำสถานที่ทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้น

หลังจากรีแบรนด์แพลตฟอร์มแผนที่เป็น Here เมื่อปีที่แล้ว ล่าสุดโนเกียประกาศแอพชุด Here บน Windows Phone 8 ซึ่งมือถือยี่ห้ออื่นๆ ก็สามารถใช้งานได้ด้วย

แอพในชุดประกอบด้วย

• Here Maps
• Here Drive (นำทางภายในประเทศ)
• Here Drive+ (นำทางได้ทั่วโลก)
• Here Transit
• Here City Lens

  การอัพเกรดความสามารถครั้งนี้ทำให้แอพในชุด Here ทำงานร่วมกันได้ เช่น เรียก Here Drive หรือ Here Transit ได้จากหน้าแอพ Here Maps โดยตรง

ส่วน Here Maps ก็มีฟีเจอร์ใหม่ชื่อ LiveSight ระบบนำทางแบบ augmented reality ที่นำข้อมูลจากแผนที่มาแสดงบนภาพจริง (เหมือน City Lens)

มีข่าววงในว่า Facebook กำลังพัฒนาฟีเจอร์ Find Nearby Friends (แจ้งเตือนว่ามีเพื่อนของเราอยู่ในบริเวณใกล้เคียง) ออกมาเป็นแอพแยกอีกตัวหนึ่ง โดยทีมงานที่พัฒนาเป็นทีมจากบริษัท Gowalla และ Glancee ซึ่งเป็นบริษัทด้าน location-based ที่ถูกซื้อกิจการมาทั้งคู่

ตามข่าวบอกว่าแอพตัวนี้จะเปิดตัวช่วงกลางเดือนมีนาคม และสามารถทำงานอยู่เบื้องหลังได้ แม้ผู้ใช้ไม่ได้รันแอพไว้ตลอดเวลา

ถ้าข่าวนี้เป็นจริง แอพตัวนี้คงตอบโจทย์เรื่องยุทธศาสตร์ของบริษัท ทั้งเรื่อง mobile first และการขายโฆษณาโดยอิงกับพิกัดของผู้ใช้

ที่มา - Bloomberg