1 เมษายน ที่ผ่านมา ดูจะเป็นวันที่เราๆท่านๆ ดูจะต้องระวังตัวกันเป็นพิเศษ เพราะใครๆต่างก็ดาหน้ามาหลอกเรา แม้แต่ขาใหญ่ พี่ Google ก็ไม่ยกเว้น Google ได้ส่ง Gmail มาเป็นทัพหน้าเพื่อร่วมสนุกสนานกับเทศกาลวันที่แสนจะมีสาระนี้ ...

เมื่อประมาณหนึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา (นับจากเวลาที่เขียนข่าวนี้) หากคุณเข้าไปใช้บริการหน้าหลักของ Gmail ก็จะพบกับ Gmail ที่เปี๋ยนไป๋ (ขอแซวโฆษณาเก่านิดนึง)

ดังภาพข้างล่าง

หลังจากที่มีการคาดเดากันไปต่างๆนาๆว่า Schmidt แอบคุยอะไรกับ Jobs ตอนนี้คำตอบนั้นได้ปรากฎขึ้นมาแล้ว เนื่องจาก Google ได้เปิดตัว YouTube โฉมใหม่ที่ไม่สนับสนุน Flash อีกต่อไป

ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ YouTube เลิกสนับสนุนเทคโนโลยีที่มีผู้ใช้จำนวนมาก เพราะ YouTube ก็เคยประกาศยกเลิกการสนับสนุน IE6 ไปก่อนหน้านี้แล้ว ส่วนเรื่องที่น่าแปลกใจก็คือ เมื่อไม่นานมานี้ Google ได้รวม Flash เข้ากับ Chrome จึงน่าจะแสดงความสัมพันธ์อันดีระหว่าง Google กับ Flash ของ Adobe แต่ทำไมจึงเลิกใช้ Flash บน YouTube เอาเสียดื้อๆเล่า

หมดปัญหากับการสื่อสารกับสัตว์เลี้ยงตัวโปรดอีกต่อไป เมื่อวันนี้ Google UK ได้เปิดตัว Google Translate for Animals เป็นโปรแกรมล่าสุดที่ถูกพัฒนาขึ้นโดย Google สามารถใช้งานได้กับมือถือ Android ทุกรุ่น สามารถแปลเสียงของสัตว์ต่างๆได้หลายประเภท

(สามารถชม vdo ตัวอย่างการทำงานบน Nexus One ได้หลัง break ครับ)

ที่มา: Google Translate for Animals

ไม่เฉพาะมนุษย์เท่านั้นที่สามารถใช้งาน Google ได้ วันนี้ Google ได้เปิดตัว Google Voice Search for animals ให้บรรดาสัตว์ทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นวัว ม้า หนู กบ และอื่นๆ เพื่อให้สิ่งมีชีวิตทั่วโลกได้เข้าถึงบริการของ Google ได้มากที่สุด

(ดูตัวอย่าง vdo ได้หลัง break ครับ)

ที่มา: Google Animaru

กูเกิลประกาศรายชื่อประเทศที่สามารถใช้งาน Android Market เพิ่มรวมแล้วเป็น 46 ประเทศจากเดิม 29 ประเทศ ซึ่งรายชื่อใหม่นั้นรวมประเทศไทยด้วย ส่วนรายชื่อประเทศทั้งหมดดูได้จากแหล่งข่าว

ซึ่งจะส่งผลให้
1) ผู้ใช้สามารถใช้งานโหลดแอพจาก Android Market ได้ (แก้ไข: paid app ยังไม่มีประเทศไทยนะครับ ฟรีแอพเห็นหลายคนบอกโหลดได้นานแล้ว)
2) นักพัฒนาสามารถอัพโหลดแอพเข้า Android Market ได้ แต่ในตลาดประเทศไทย กูเกิลยังจำกัดเฉพาะการอัพโหลดฟรีแอพเท่านั้น

ตอนนี้ผมกำลังรอ Legend หรือ Desire อยู่ครับเลยไม่ได้ลองว่าใช้ได้หรือยัง

จากข่าว กูเกิลเตรียมการรวม Flash เข้ากับ Chrome ให้สนิทกว่าเดิม? ได้ข้อสรุปดังนี้

• Chrome จะรวม Flash Player มาให้ในตัว ไม่ต้องดาวน์โหลดเพิ่ม
• Flash Player จะอัพเดตตัวเองผ่านตัวอัพเดตของ Chrome โดยอัตโนมัติ
• Flash จะถูกรันในโหมด sandbox ของ Chrome เพื่อความปลอดภัย

การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะเริ่มจาก Chromium ก่อน แล้วตามมายัง Chrome ในภายหลัง

นอกจากนี้ Adobe, Mozilla, Google จะผนึกกำลังกันพัฒนา API สำหรับปลั๊กอินตัวใหม่ชื่อ NPAPI ซึ่งจะช่วยให้เบราว์เซอร์ทำงานร่วมกับปลั๊กอินได้ดีขึ้น

ปัญหาที่สำคัญมากของ Android คือมีรุ่นให้เลือกเป็นจำนวนมาก (platform fragmentation) เฉพาะรุ่นของ Android เอง ในตลาดตอนนี้มีตั้งแต่ 1.5, 1.6, 2.0 และ 2.1 นี่ยังไม่รวมซอฟต์แวร์รุ่นปรับแต่งอย่าง HTC Sense UI และ MOTOBLUR อีกด้วย ปัญหานี้ส่งผลให้การพัฒนาโปรแกรมบน Android ทำได้ยากมาก ต่างจาก iPhone ที่มีความหลากหลายของแพลตฟอร์มน้อยกว่า

Google Summer of Code สำหรับปี 2010 ได้เริ่มเปิดรับสมัครนักศึกษาเข้ามาร่วมพัฒนาโอเพนซอร์สแล้ว โดยปีนี้มีโครงการเข้าร่วมกว่า 150 โครงการ ไล่ตั้งแต่โครงการชื่อดังอย่าง Drupal, Eclipse, Chromium, Mozilla ไปจนถึง Facebook (Joomla! หายไปไหน)

GSOC คือโครงการที่ Google สนับสนุนให้นักเรียน นักศึกษาหันมาสนใจโอเพนซอร์สในช่วงปิดเทอมหน้าร้อน(ฝรั่ง) โดยนอกจากนักศึกษาจะได้ประสบการณ์แล้ว ยังจะได้เสื้อสุดเก๋, ใบรับรองจากกูเกิล และเงินสนับสนุน 4500 USD (ประมาณ 145,000 บาท)

กูเกิลเพิ่มฟีเจอร์การส่งไฟล์ให้กับ Google Talk แบบผ่านหน้าเว็บแล้ว โดยจะเริ่มจาก widget ของ Google Talk ที่อยู่ใน iGoogle และ Orkut ก่อน ส่วน Gmail Chat นั้นต้องรออีกสักพัก แต่มาแน่ครับ

การส่งไฟล์นี้สามารถทำงานร่วมกับ Google Talk เวอร์ชันเดสก์ท็อปได้ (ส่วน IM ตัวอื่นๆ อันนี้คงต้องรอ)

ที่มา - Google Talkabout

ทาง C|Net มีรายงานจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ ว่าในวันนี้ทางกูเกิลและ Adobe จะร่วมกันประกาศความร่วมมือในการรวมเอา Flash เข้าเป็นส่วนหนึ่งของ Chrome อย่างแนบแน่นกว่าเดิม

ยังไม่มีความชัดเจนใดๆ แต่ทางที่พอจะเป็นไปได้มีอยู่สามทางในการทำงานร่วมกันคือ

1. เป็นการประกาศรวม Flash เข้าไว้ใน Chrome OS เฉยๆ
2. ปรับปรุงการทำงานร่วมกันระหว่าง Chrome และ Flash เพื่อให้ประสิทธิภาพดีขึ้น (อาจจะหมายถึงการแยก process ของ Flash ในแต่ละหน้าเว็บ)
3. ทั้งสองข้อแรก

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงการคาดเดาเท่านั้น แต่หากมีการประกาศความร่วมมือจริงเราคงเห็นรายละเอียดภายในวันนี้แล้ว

จากบล็อก Gmail Blog ทาง Google ได้ประกาศเพิ่มฟีเจอร์แจ้งเตือนผู้ใช้เมื่อถูกแฮค เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้ ด้วยจะมีกล่องข้อความเตือนแจ้งเตือนให้ผู้ใช้ทราบ (ดูรูปตัวอย่างจากที่มา) หากเมลของผู้ใช้มีการเข้าใช้งานผิดจากปกติ เช่น ตำแหน่งการล็อกอินด้วย IP ผิดเปลี่ยนไปจากเดิมที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ ก็จะแจ้งให้ผู้ใช้ทราบทันที่หลังเข้าใช้เมลของตนเอง ว่าเข้าระบบครั้งล่าสุดเมื่อไหร เข้าใช้งานจาก IP อะไร ถ้าผู้ใช้พบการแจ้งเตือนและมั่นใจว่าเมลตัวเองโดนแฮคแน่ๆ ก็สามารถขอความช่วยเหลือไปยังทีมงานได้เลย

เช้าเมื่อวานนี้ ที่ร้านกาแฟชื่อ Calafia ในศูนย์การค้า Town and Country ที่ Palo Alto มีคนถ่ายภาพผู้ชายสองคนนั่งกินกาแฟกัน ภาพนี้จะไม่มีความสำคัญเลย ถ้าหากว่าผู้ชายสองคนที่ว่าไม่ใช่สองซีอีโอของบริษัทไอทีที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก และกำลังมีปัญหาความสัมพันธ์ร้าวฉานอย่างรุนแรง

ผู้ชายคนแรกใส่เสื้อคอเต่าสีดำ กางเกงยีนส์และรองเท้ากีฬา เขาคือ Steve Jobs ซีอีโอของแอปเปิล

คู่สนทนาของเขาใส่รองเท้าหนังกับแจ็คเก็ตสีน้ำเงิน ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก Eric Schmidt ซีอีโอของกูเกิล

ไม่มีใครรู้ว่าทั้งสองคนคุยอะไรกัน คนที่ถ่ายภาพนี้ได้ยินแค่สองประโยคว่า

"They're going to see it all eventually so who cares how they get it."

กับ

David Fischer อดีตรองประธานฝ่าย Global Online Sales and Operations ของ Google ย้ายไปทำงานให้กับ Facebook ในตำแหน่งรองประธานฝ่าย Advertising and Global Operations แล้ว

David Fischer เข้าร่วมทำงานกับ Google ในฝ่าย Online Sales and Operations ตั้งแต่ต้นในปี 2002 เค้ามีส่วนช่วยในการสร้างเครือโฆษณาออนไลน์ของ Google รวมถึงบริหารช่องทางขายออนไลน์ของ AdSense ด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีผลงานอีกหลายชิ้น เช่น จัดการการแสกนหนังสือเข้า Google Book Search และเปิดสำนักงานใหม่ในหลายๆ เมือง

Sheryl Sandberg COO ของ Facebook ซึ่งเป็นเจ้านายเก่าของ Fischer ที่ Google ด้วย บอกว่า Fischer จะช่วยให้ Facebook สามารถให้บริการด้านโฆษณาได้ดียิ่งขึ้น

ยังเป็นข่าวได้ต่อเนื่องจริงๆครับ สำหรับกรณีที่ Google ตัดสินใจถอนตัวออกจากตลาดจีน

หลังจากที่มีข่าวว่า GoDaddy.com จะถอนตัวแล้ว และมีข่าวลือว่า Dell จะเอาด้วย แต่ล่าสุดก็ได้ออกมาปฎิเสธข่าวนี้ไปแล้ว ล่าสุดมีข่าวว่า Motorola ที่กำลังใช้ Android เป็นเรือธงในการตีคืนตลาดมือถืออีกครั้ง ได้ตัดสินใจเลิกใช้ Google เป็นเครื่องมือค้นหาในมือถือ Android ที่ออกขายในจีนแล้ว จากการประกาศของ David Wolf หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ในเอเชียของ Motorola

iFixit เจ้าพ่อแกะเครื่อง ได้ทำรูปเปรียบเทียบฮาร์ดแวร์ระหว่าง iPhone 3GS กับ Nexus One ซึ่งเมื่อดูจากประสิทธิภาพเทียบกับราคาแล้วปรากฏว่า Nexus One ชนะเกือบทุกเรื่อง ตั้งแต่ CPU, แรม, ขนาดของหน้าจอ รวมไปถึงขนาดของแบตเตอรี่ แต่จะแพ้ในด้านของตัวประมวลผลกราฟฟิคและความแม่นยำของหน้าจอ

ถึงจะมีประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์เทียบกับราคาที่ดีกว่า แต่ยอดขายของ Nexus One นั้นเทียบไม่ได้เลยกับมือถือคู่แข่งรายอื่นๆ ถึงแม้ HTC จะบอกว่า Nexus One ถือว่าประสบความสำเร็จก็ตาม

ดูรูปด้านในครับ

รายงานการโฆษณาบนเว็บอาจจะเป็นตัวเลขที่หลายๆ คนสนใจยิ่งกว่าการใช้งานปรกติ เพราะแม้คนจะใช้งานมากแต่หากไม่สามารถทำกำไรได้ก็อาจจะไม่คุ้มค่าลงทุน และตัวเลขล่าสุดของ Admob ก็แสดงให้เห็นว่า iPhone ได้ขึ้นที่ 1 ในการแสดงโฆษณาบนโทรศัพท์แล้วด้วยส่วนแบ่งถึง 50% จากปีที่แล้วที่อยู่ที่ 33%

โนเกียกำลังย่ำแย่ในตลาดนี้เพราะสัดส่วนลดลงเหลือ 18% จาก 43% ในปีที่แล้ว ส่วน Android นั้นเติบโตเร็วที่สุดจาก 2% มาเป็น 24%

ภาพรวมในปีที่แล้วที่น่าสนใจคือโทรศัพท์ทั่วไปหรือ Featured Phone นั้นกำลังมีสัดส่วนลดลง และซัมซุงก็ขึ้นมาเป็นผู้ผลิตอันดับหนึ่ง ส่วน MID นั้นกลับเพิ่มสัดส่วนขึ้นนิดหน่อย และสมาร์ทโฟนกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วจนเกือบแตะ 50% แล้ว

รายงานฉบับเต็มอยู่หลัง break

ข่าวค่อนข้างเก่าแล้ว แต่ผมเพิ่งรู้ และก็ยังไม่มีคนเขียนลง Blognone ดังนั้นก็ขอเล่านะครับ

เรื่องมีอยู่ว่าผมใช้ Google แล้วเจอหน้าผลการค้นหาแบบใหม่ ละม้ายคล้าย Bing พอสมควร (ดูรูปหลัง break) คือไม่ซ่อนแถบทางด้านข้างสำหรับจำกัดผลการค้นหา

ผมนึกว่าเพิ่งจะเริ่มทำ แต่จากการหาข่าวดูพบว่าลองมาได้ประมาณสี่เดือนแล้ว

โดยส่วนตัวผมว่าแบบนี้ดีกว่าเอาไปซ่อนนะ เห็นชัดดีว่าทำอะไรได้บ้าง ตอนก็ต้องรอดูว่า Google จะเอามาใช้จริงหรือไม่

ที่มา - Gizmodo

สำหรับประเด็นกูเกิล vs จีน คนที่คัดค้านเรื่องการเซ็นเซอร์ผลการค้นหาในจีนตั้งแต่แรกไม่ใช่ใครอื่น เขาคือ Sergey Brin ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทนั่นเอง

Sergey Brin เป็นคนรัสเซียที่ย้ายมาอยู่ในสหรัฐตั้งแต่เด็ก เขาบอกว่านโยบายควบคุมแบบเข้มข้นของจีน ทำให้เขานึกถึงอดีตในสหภาพโซเวียตเดิม และนโยบายล่าสุดของจีนนั้นเข้มงวดเกินกว่าจะทำธุรกิจได้สะดวกเช่นเดิมอีกแล้ว เขายังเสริมว่าการโจมตีกูเกิลโดยแฮกเกอร์ชาวจีน เปรียบเสมือนฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้กูเกิลตัดสินใจลาขาดจากจีน

เป็น "ความจริงอีกด้าน" ของปัญหากูเกิล vs จีนนะครับ (ด้านแรกคือข่าว GoDaddy จะหยุดให้บริการจดโดเมนเนมในจีน)

ในข่าว แทบไม่ต้องเดา จีนบล็อค Google.com.hk บางส่วนแล้ว ผมเขียนไว้ว่า "China Unicom เครือข่ายอันดับสองอาจเลื่อนหรือเลิกขายมือถือ Android" ตอนนี้มีความคืบหน้าแล้ว

รายงานจากหนังสือพิมพ์ Financial Times ของอังกฤษ บอกว่า China Unicom เตรียมเอาบริการ Google Search และบริการอื่นๆ ของกูเกิล ออกจากมือถือ Android ที่ China Unicom ขาย ประธานของ China Unicom บอกว่ายินดีทำงานร่วมกับทุกบริษัทที่ปฏิบัติตามกฎหมายจีน และตอนนี้ทาง China Unicom "ไม่มีความร่วมมือใดๆ กับกูเกิล"

ผลการงัดข้อกันระหว่างจีนกับ Google เว็บไซต์ให้บริการสืบค้นข้อมูลยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ ที่ให้ปิดบริการสืบค้นข้อมูลในจีนผ่านเวบไซต์ google.cn โดยให้ย้ายไปสืบค้นผ่านเวบไซต์ google.com.hk แทนตามที่รู้กัน

ล่าสุดสื่อของทางการจีน (China state media) ได้กล่าวว่า Google คิดผิดเต็มเปา หรือ พลาดอย่างแรง (totally wrong) ที่ตัดสินใจถอนตัวออกจากตลาดประเทศจีน เป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ในเมื่อจีนเป็นตลาดด้านอินเทอร์เน็ตรายใหญ่ที่สุดของโลก

กระทรวงการต่างประเทศของจีนระบุว่า การกระทำของ Google จะไม่ส่งผลต่อความสัมพันธ์ต่อจีนและสหรัฐ แม้ว่าเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา สื่อของทางจีนก็พึ่งจะกล่าวหาว่า Google ทำไปเพราะมีสายสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับพวกคณะที่ปรึกษาของ Obama ก็ตาม

หลังจาก กูเกิลเปลี่ยนทางเว็บจาก google.cn ไปยัง google.com.hk แทน สิ่งที่ทุกคนตั้งคำถามคือ จีนจะบล็อค google.com.hk หรือไม่ ซึ่งผลออกมาแล้วตามความคาดหมายของทุกคน

มีรายงานว่าผู้ใช้อินเทอร์เน็ตที่อยู่ในจีนแผ่นดินใหญ่ ยังสามารถเข้า google.com.hk ได้ แต่ถ้าค้นหาด้วย "คำต้องห้าม" ติดต่อกันช่วงหนึ่ง จะไม่สามารถคลิกที่ผลการค้นหาเพื่อเข้าเว็บที่ต้องการได้ ซึ่งเป็นวิธีการเดียวกับที่พบใน google.cn ก่อนหน้าความขัดแย้งระหว่างจีนกับกูเกิล อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญพบว่าการรีเซ็ตเครื่องสามารถแก้ปัญหานี้ได้

ศาลยุติธรรมยุโรป (European Court of Justice) ได้ตัดสินคดีว่ากูเกิลไม่มีความผิด กรณีถูกฟ้องร้องละเมิดเครื่องหมายการค้า จากผู้ผลิตหลุยส์วิตตอง และเจ้าของเครื่องหมายการค้าอื่นอีกสองราย

คดีนี้เกี่ยวข้องกับสามคดีที่ตัดสินไปแล้วในประเทศฝรั่งเศส ในคดีแรก เจ้าของเครื่องหมายการค้า 'Vuitton' 'Louis Vuitton' และ 'LV' พบว่า sponsored links ที่ปรากฏเมื่อค้นด้วยเครื่องหมายการค้า เป็นโฆษณาสินค้าลอกเลียนแบบ ในขณะที่อีกสองคดีนั้น เป็นของเจ้าของเครื่องหมายการค้า 'Bourse des Vols' และ ‘Eurochallenges’ ซึ่งเมื่อค้นด้วยชื่อเหล่านี้แล้ว ปรากฏ sponsored link ไปยังเว็บไซต์ของคู่แข่งแทน

หลังจากกูเกิลประกาศใช้มาตรการ redirect ทราฟฟิกไปยังฮ่องกง เพื่อแก้ปัญหาโดนจีนบังคับให้เซ็นเซอร์ผลการค้นหา กูเกิลยังได้เปิดหน้าเว็บสำหรับให้ข้อมูลว่า ขณะนี้จีนบล็อคบริการใดของกูเกิลบ้าง

หน้าเว็บนี้มีชื่อว่า China service availability ข้อมูลจะดีเลย์สักเล็กน้อย เท่าที่ผมดูขณะเขียนข่าวนี้ บริการของกูเกิลที่โดนบล็อคทั้งหมดคือ YouTube, Sites, Blogger ส่วน Google Docs, Groups และ Picasa โดนบล็อคบางส่วน

ที่มา - Business Insider

หลังจากเจรจาต่อรองกับรัฐบาลจีนในเรื่องการเซ็นเซอร์ผลการค้นหาไม่เป็นผล ล่าสุดกูเกิลได้ทำเปลี่ยนเส้นทางทราฟฟิก (redirect) จาก Google.cn ไปยังเว็บไซต์ Google.com.hk ที่ตั้งอยู่ในฮ่องกงแล้ว แน่นอนว่า Google.com.hk จะไม่มีการเซ็นเซอร์ข้อมูล และกูเกิลจะเปิดบริการค้นหาในภาษาจีนกลางบน Google.com.hk สำหรับผู้ใช้งานที่มาจากจีนแผ่นดินใหญ่

ในบล็อกของกูเกิลกล่าวว่า "รัฐบาลจีนแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนระหว่างการเจรจาว่า การเซ็นเซอร์ข้อมูลเป็นข้อกำหนดที่ไม่สามารถต่อรองได้ ดังนั้น เราเชื่อว่าวิธีการที่ให้บริการค้นหาสำหรับภาษาจีนกลาง จาก Google.com.hk เป็นทางออกที่น่าจะดีที่สุดสำหรับปัญหานี้ วิธีการนี้ถูกต้องตามกฏหมาย 100% และแน่นอนว่ามันจะทำให้ชาวจีนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้มากขึ้นแน่นอน"

Skipfish ซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สตัวล่าสุดจากกูเกิล ใช้สำหรับตรวจสอบความปลอดภัยของเว็บแอพพลิเคชัน เขียนโดยใช้ภาษา C ล้วน สามารถใช้งานได้บน Linux, FreeBSD 7.0+, Mac OS X และ Windows (ผ่าน Cygwin) โปรแกรมลักษณะเดียวกันนี้มีอยู่บ้างแล้วเช่น Nikto และ Nessus แน่นอนโปรแกรมอยู่บน Google Code ใช้สัญญาอนุญาตแบบ Apache 2.0

การตรวจสอบมีหลายระดับ มีชุดทดสอบเกือบ 60 แบบ หลักๆ ก็เช่น SQL Injection, คำสั่ง SQL ผ่าน GET/POST พารามิเตอร์, Shell Injection, XSS, SSL ดูรายละเอียดเต็มๆ ที่ Wiki