Apple, Inc.
แอปเปิลประกาศการเปลี่ยนแปลงของกรรมการบอร์ดบริษัท ก่อนการประชุมผู้ถือหุ้นใหญ่สามัญประจำปี ซึ่งต้องมีการลงคะแนนเสียงรับรอง โดย Dr. Wanda Austin อดีตประธานและซีอีโอ The Aerospace Corporation จะถูกเสนอชื่อเป็นกรรมการบอร์ดคนใหม่
การเสนอชื่อบอร์ดคนใหม่นี้ เนื่องจากมีกรรมการบอร์ดสองคนที่อายุครบตามระเบียบกรรมการบอร์ด ที่จะไม่ถูกเสนอชื่ออีกครั้งหากมีอายุถึง 75 ปี ได้แก่ Al Gore อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐ และ James Bell อดีตซีเอฟโอ Boeing ทั้งสองจึงจะเกษียณจากการเป็นบอร์ดของแอปเปิลในปีนี้
เมื่อคืนนี้ในระหว่างเวลาการซื้อขายหุ้นในตลาดสหรัฐ ไมโครซอฟท์มีมูลค่ากิจการตามราคาหุ้นสูงกว่าแอปเปิล ทำให้กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่ากิจการมากที่สุดในโลกในช่วงเวลาหนึ่ง ก่อนที่ปิดตลาดซื้อขายแอปเปิลจะกลับมาเป็นมีมูลค่าสูงกว่าตามเดิม
มูลค่ากิจการของไมโครซอฟท์เคยแซงแอปเปิลมาแล้วหลายครั้งทั้งในปี 2018 และปี 2021 แต่เป็นระยะเวลาที่ไม่นานนัก แอปเปิลก็กลับมาแซงคืนเป็นบริษัทมีมูลค่ากิจการมากที่สุดในโลก
ที่ผ่านมาการแชร์ข้อมูลโดยตรงหากันระหว่างอุปกรณ์ผ่านบลูทูธ โดยเฉพาะช่องทางอย่าง AirDrop ในอุปกรณ์ของแอปเปิล เป็นช่องทางที่หน่วยงานของจีนพยายามออกระเบียบควบคุม เพราะสามารถติดตามตรวจสอบได้ยากกว่าช่องทางอื่น
ล่าสุดมีรายงานว่าหน่วยงานวิจัยของปักกิ่ง อ้างว่าพบวิธีดึงข้อมูล หมายเลขโทรศัพท์, อีเมล และชื่ออุปกรณ์ ของผู้รับและผู้ส่งรูปภาพผ่าน AirDrop ได้แล้ว โดยแกะข้อมูลจาก log ของอุปกรณ์
หน่วยงานวิจัยนี้บอกว่าข้อมูลผู้ส่งไฟล์ใน AirDrop นั้น มีการเก็บแบบเข้ารหัสไว้ใน log ที่ระดับอุปกรณ์ แต่สามารถถอดรหัสได้โดยใช้วิธี Rainbow Tables ซึ่งวิธีการนี้ทำให้หน่วยงานของจีนสามารถตรวจสอบผู้ต้องสงสัยหากมีการเผยแพร่เนื้อหาที่ไม่เหมาะสมได้
Hey Calendar แอปแยกจากบริการหลัก Hey แพลตฟอร์มจัดการของ Basecamp ที่ผู้ก่อตั้ง David Heinemeier Hansson ออกมาเปิดศึกกับแอปเปิลอีกครั้ง หลังจากเขาส่งแอปเพื่อขึ้น App Store แต่ถูกปฏิเสธ โดยแอปเปิลบอกว่าเพราะแอปไม่สามารถทำอะไรได้เลยเมื่อเปิดขึ้นมา มีแค่หน้าล็อกอินของ Hey ไม่มีปุ่มสมัคร ทำให้ Hansson ตอบโต้ว่าแอปอื่นเช่น Netflix หรือ Google Calendar ก็เป็นแบบนี้ แต่แอปเปิลก็อนุมัติแอป
ล่าสุด Hey Calendar ได้รับการอนุมัติขึ้น App Store เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่ง Hansson บอกว่าเขาและทีมงานก็แค่ไปแก้ปัญหาที่แอปเปิลบอกว่าแอปเปิดมา "ทำอะไรไม่ได้เลย" ให้ทำอะไรได้บ้าง
TrueMoney เปิดตัวฟีเจอร์ Apple Zone ให้ผู้ใช้สามารถผูกบัญชี TrueMoney เข้ากับ Apple ID ของตัวเอง เพื่อจัดการการจ่ายเงินในระบบของแอปเปิล เช่น iCloud+, Apple TV+, Apple Music, Apple Arcade ได้ในบิลเดียว
วิธีใช้งานสามารถกดได้จากปุ่ม Apple Zone ในแอพ TrueMoney บน iOS 16.5 ขึ้นไป แล้วเชื่อมต่อ Apple ID ก่อน โดยผู้ใช้ยังสามารถรับสิทธิพิเศษเป็นบริการของแอปเปิลแบบทดลองใช้งาน 2-4 เดือนได้ด้วย
ที่มา - TrueMoney
นอกจากที่แอปเปิลประกาศวันวางขายเฮดเซต Apple Vision Pro ในอเมริกาอย่างเป็นทางการ, อัพเดต Xcode สำหรับนักพัฒนาเพื่อรองรับการส่งแอป visionOS ขึ้น App Store แอปเปิลยังอัพเดตคำแนะนำในการส่งแอปเพิ่มเติมสำหรับ visionOS โดยเฉพาะด้วย
โดยคำแนะนำที่แอปเปิลระบุเพิ่มเติม สำหรับการส่งแอปขึ้น visionOS App Store นั้น มีทั้ง การทดสอบแอป, การทำสกรีนชอต, การทำไอคอนที่เป็น 3D ตลอดจนคำสะกดชื่อ visionOS หรือ Apple Vision Pro ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ดูเป็นเรื่องปกติดี แต่มีประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจ
แอปเปิลประกาศเปิด Apple Store สาขาใหม่ในประเทศเกาหลีใต้ สาขา Hongdae ซึ่งอยู่ในกรุงโซล กำหนดเปิดให้บริการวันแรก 20 มกราคมนี้ เวลา 10 นาฬิกาเป็นต้นไป ตามเวลาในท้องถิ่น
Apple Store นี้เป็นสาขาที่ 7 ในเกาหลีใต้ ตั้งอยู่ใกล้กับ Hongik University มีบริการทั้ง Genius Bar และคลาสความคิดสร้างสรรค์ Today
แอปเปิลยังปล่อยกราฟิกของ Apple Store สาขา Hongdae เป็นกราฟิตี้สัญลักษณ์แอปเปิล ที่ซ่อนคำว่า Hongdae (홍대) ไว้ในรูปภาพด้วย
ที่มา: MacRumros
จากที่ Apple ประกาศวันวางขายแว่น Apple Vision Pro ตอนนี้ Apple เริ่มเดินเครื่องประชาสัมพันธ์ Apple Vision Pro อย่างเป็นทางการแล้ว โดยเริ่มจากการปล่อยโฆษณา Get Ready ที่รวบรวมภาพการสวมใส่แว่น และหน้ากากจาก Pop Culture ที่มีทั้งภาพยนตร์, รายการทีวี และการ์ตูน ซึ่งประกอบไปด้วย
แอปเปิลออกอัพเดต Xcode 15.2 และ TestFlight 3.5 ซึ่งเป็นอัพเดตเพื่อรองรับเฮดเซต Vision Pro ที่แอปเปิลเพิ่งประกาศวันจำหน่ายวันแรกในอเมริกา คือวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้
Xcode 15.2 เปิดให้นักพัฒนาสามารถสร้างแอปบน visionOS ระบบปฏิบัติการของ Vision Pro ได้ รวมทั้ง SDK ของ iOS 17.2, iPadOS 17.2, tvOS 17.2, watchOS 10.2 และ macOS Sonoma 14.2 ส่วน TestFlight 3.5 เปิดให้นักพัฒนาสามารถทำแอปเวอร์ชันทดสอบเบต้าได้ รองทั้งรองรับการใช้แอป iOS และ iPadOS บน Vision Pro
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น ได้เกิดอุบัติเหตุชิ้นส่วนของสายการบิน Alaska Airlines เที่ยวบิน 1282 หลุดขณะบินอยู่บนอากาศ เกิดช่องว่างและปัญหาความดันในห้องโดยสาร ทำให้เครื่องบินลงจอดฉุกเฉิน ไม่มีผู้เสียชีวิต
อย่างไรก็ตามข้าวของบนเครื่องบินหลายอย่างก็หลุดร่วงลงไป และหนึ่งในนั้นที่ถูกค้นพบคือ iPhone ที่ร่วงลงมาจากระดับ 16,000 ฟุต (ประมาณ 5,000 เมตร) สภาพเครื่องอยู่ในเคสป้องกัน หน้าจอไม่มีรอยแตกร้าว แบตเตอรี่เหลืออยู่ประมาณ 44% เครื่องอยู่ในโหมด Airplane และมีอีเมลจากสายการบินแจ้งเรื่องการเคลมกระเป๋า ซึ่งเมื่อ Seanathan Bates ผู้พบ iPhone นี้ แจ้งไปยังหน่วยงานความปลอดภัย ก็ได้ข้อมูลว่านี่เป็น iPhone เครื่องที่สองที่หลุดมาจากเครื่องบินนี้และถูกค้นพบ
ไม่ต้องเดากันนาน แอปเปิลประกาศวันเริ่มขายเฮดเซต Vision Pro ในอเมริกาอย่างเป็นทางการแล้ว โดยเริ่มขายตั้งแต่วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2024 เป็นต้นไป ใน Apple Store ทุกสาขาในอเมริกา และในออนไลน์ส่วนสโตร์ของอเมริกา
ลูกค้าสามารถพรีออเดอร์ได้ตั้งแต่ 19 มกราคม เป็นต้นไป
ราคาขาย Vision Pro เริ่มต้นที่ 3,499 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1.2 แสนบาท เป็นรุ่นความจุ 256GB และเลนส์อุปกรณ์เสริมสำหรับผู้มีปัญหาสายตา เริ่มต้นที่ 99 ดอลลาร์
Mark Gurman แห่ง Bloomberg รายงานข่าวล่าสุดสินค้าใหม่แอปเปิลในจดหมายข่าวประจำสัปดาห์ Power On คราวนี้ว่าด้วยแผนการออกสินค้าใหม่ในปี 2024
เริ่มที่เฮดเซต Vision Pro โดยบอกว่าตอนนี้สินค้าเริ่มจัดส่งตามศูนย์กระจายสินค้าแอปเปิลในอเมริกา เพื่อเริ่มขายในเดือนกุมภาพันธ์ คาดว่าแอปเปิลจะประกาศรายละเอียดวันที่เริ่มขายในสัปดาห์หน้า เพื่อแย่งพื้นที่ข่าวกับ CES 2024
Vision Pro จะขายและรับสินค้าเฉพาะที่ Apple Store ซึ่ง Gurman บอกว่า พนักงาน Apple Store แต่ละสาขาในอเมริกาได้ส่งตัวแทนไปฝึกอบรมที่สำนักงานใหญ่แอปเปิลใน Cupertino แล้ว และจะมีการจัดประชุมพนักงานรวมวันที่ 21 มกราคม ซึ่งน่าจะอัพเดตแผนการขายโดยละเอียด
ถ้าจำกันได้ ในปี 2020 มีประเด็นระหว่างแอปเปิลกับ Basecamp เมื่อบริษัทเปิดตัวแอปอีเมลแนวคิดใหม่ Hey แต่ถูกแอปเปิลถอดแอปออกจาก App Store โดยตอนนั้นแอปเปิลให้เหตุผลว่าเพราะ Hey เมื่อเปิดแอปมา ไม่มีตัวเลือกอื่นนอกจากให้ล็อกอินเข้าระบบ ซึ่งผู้ใช้งานต้องไปสมัครกับ Hey ภายนอกโดยตรงก่อน (99 ดอลลาร์ต่อเดือน) ไม่มีปุ่มสมัครหรือจ่ายเงินในแอป ทำให้ David Heinemeier Hansson ผู้ก่อตั้ง (และเป็นคนสร้าง Ruby on Rails) ออกมาวิจารณ์เรื่องนี้ว่าแอปเปิลเลือกปฏิบัติกับเขา สุดท้ายเรื่องจบลงที่การเพิ่มปุ่ม ลองใช้ฟรี 14 วัน ทำให้
The New York Times รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องเผยว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ เข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายของการสอบสวนประเด็นผูกขาดทางการค้าของแอปเปิลแล้ว โดยน่าจะยื่นฟ้องร้องได้ภายในครึ่งแรกของปี 2024
ประเด็นหลักที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐใช้ในการฟ้องร้องแอปเปิลข้อหาผูกขาดทางธุรกิจ คือการออกแบบการทำงานที่เป็นระบบปิดของแอปเปิล เช่น Apple Watch เป็นสมาร์ทวอทช์ที่ทำงานได้ดีร่วมกับ iPhone มากกว่าการใช้สมาร์ทวอทช์อื่นหรือไม่ ไปจนถึงประเด็นร้อนล่าสุดอย่าง iMessage, ระบบการจ่ายเงิน Apple Pay, AirTag ทำงานได้ดีบน iPhone เมื่อเทียบกับแทร็กเกอร์อื่น, การปิดไม่ให้ใช้คลาวด์เกมมิ่ง เป็นต้น
Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์สินค้าใหม่แอปเปิลสายซัพพลายเชนคนเดิม คราวนี้เขาให้ข้อมูลว่าด้วยกล้องของ iPhone 16 แถมยังยาวไปถึง iPhone 17 เลยด้วย รายละเอียดดังนี้
ถึงแม้จะผ่านปี 2023 ไปแล้ว และคนที่รอมาตลอดก็คงทราบกันดีว่าในปีที่ผ่านมา แอปเปิลไม่ได้ออก iPad รุ่นใหม่มาเลย จากที่ปกติต้องมีอัพเดตบ้างอย่างน้อยสักรุ่นทุกปี ซึ่งถือเป็นปีแรกนับตั้งแต่ iPad รุ่นแรกเปิดตัวในปี 2010
แม้ไม่มี iPad ใหม่ออกมา แต่ก็มีสินค้าเกี่ยวกับ iPad ที่ออกรุ่นใหม่ในปี 2023 นั่นคือ Apple Pencil พอร์ต USB-C ที่ขายถูกกว่า Pencil ทุกรุ่น ... ซึ่งก็มีแค่นั้นจริง ๆ
Joe Kiani ซีอีโอ Masimo บริษัทผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ ให้สัมภาษณ์กับ WSJ ประเด็นที่บริษัทฟ้องร้องแอปเปิลข้อหาละเมิดสิทธิบัตรเซ็นเซอร์วัดระดับออกซิเจนในเลือด จนทำให้คณะกรรมการการค้าของสหรัฐอเมริกา หรือ ITC ออกคำสั่งแบนการนำเข้า Apple Watch มาขายในอเมริกาช่วงสั้น ๆ แต่ล่าสุดศาลรับคำอุทธรณ์ ทำให้แอปเปิลกลับมาขาย Apple Watch ต่อได้
จากข่าวที่คณะกรรมการการค้าของสหรัฐอเมริกา หรือ ITC ออกคำสั่งแบนการนำเข้า Apple Watch สองรุ่นมาขายในสหรัฐอเมริกา หลังจากบริษัทพัฒนาอุปกรณ์การแพทย์ Masimo ฟ้องแอปเปิลในข้อหาละเมิดสิทธิบัตร ก็มีรายงานเพิ่มเติมว่าคดีน่าจะมีจุดเริ่มต้นจากอะไร
Mark Gurman แห่ง Bloomberg คนเดิม ระบุว่าตัวละครสำคัญของคดีฟ้องร้องนี้คือ Marcelo Lamego วิศวกรปริญญาเอกจาก Stanford สัญชาติบราซิล ซึ่งทำงานที่ Masimo ตั้งแต่ปี 2003 ในตำแหน่งนักวิจัยวิทยาศาสตร์ แล้วได้เลื่อนเป็นซีทีโอของ Cercacor บริษัทตั้งใหม่ในเครือของ Masimo ในปี 2014 เขาลาออกจาก Masimo ย้ายไปทำงานที่แอปเปิล เรื่องนี้อาจฟังดูเป็นเรื่องปกติ
แอปเปิลประกาศเตรียมกลับมาขาย Apple Watch Series 9 และ Apple Watch Ultra 2 สองรุ่นที่ถูก ITC สั่งแบนห้ามนำเข้ามาขายในสหรัฐอเมริกาก่อนหน้านี้ โดยเริ่มขายผ่านหน้าร้าน Apple Store ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และเตรียมกลับมาขายผ่านช่องทางออนไลน์ด้วยเช่นกัน
ประกาศของแอปเปิลนี้เป็นผลจากที่ศาลอุทธรณ์ออกคำสั่งหยุดแบน Apple Watch สองรุ่นนี้ชั่วคราวตามที่แอปเปิลยื่นคำขอ ทำให้แอปเปิลสามารถขายสินค้าต่อไปได้ชั่วคราว
ตามที่ ITC ออกคำสั่งแบนการนำเข้า Apple Watch Series 9 และ Apple Watch Ultra 2 มาขายในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากประเด็นละเมิดสิทธิบัตรระบบวัดออกซิเจนในเลือดของ Masimo ทำให้แอปเปิลตัดสินใจหยุดขาย Apple Watch สองรุ่นนี้ก่อนคำสั่งมีผลในวันที่ 26 ธันวาคม
อย่างไรก็ตามแอปเปิลก็ได้ยื่นอุทธรณ์ขอให้ระงับคำสั่งนี้ชั่วคราวอีกครั้ง ซึ่งคราวนี้ได้ผล เพราะล่าสุดศาลอุทธรณ์ออกคำสั่งหยุดการแบนสินค้านี้ชั่วคราว โดยให้ ITC ชี้แจงข้อมูลสนับสนุนการออกคำสั่งแบนภายในวันที่ 10 มกราคม 2024 ซึ่งเท่ากับว่าแอปเปิลสามารถขาย Apple Watch สองรุ่นที่มีปัญหานี้ในอเมริกาได้ต่อไปเกือบ 2 สัปดาห์
นักปล่อยข่าวลือ และนักสะสม Prototype ตัวยงอย่าง @KosutamiSan ได้เผยแพร่รูปชิ้นส่วนของ HomePod โค้ดเนม B720 โดยระบุว่า HomePod รุ่นหน้าจะใช้ดีไซน์ และขนาดจอเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือได้หน้าจอโค้งนูน (Convex) บริเวณด้านบนสุดของอุปกรณ์ เจ้าตัวยังบอกว่าสวยงามดีเมื่อประกอบเสร็จแล้ว
ระหว่างที่ Apple เตรียมตัววางขายแว่น Vision Pro อย่างเป็นทางการ (คาดว่าเป็นต้นเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า) ในวันศุกร์ที่ผ่านมา มีข้อมูลจากกรมทรัพย์สินทางปัญญาของฮ่องกง เผยว่า Apple จดสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์กว่า 70 รายการ
ทาง Patently Apple ที่เป็นเว็บไซต์นำเสนอข่าวสาร และการจดสิทธิบัตรของ Apple ได้ระบุไว้ว่ารายละเอียดของ สิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ (Design Patent) ที่ Apple จดนั้นแตกต่างจากการยื่นสิทธิบัตรทั่วไป ตรงที่ไม่มีข้อกำหนดที่ต้องเผยแพร่ข้อมูลอื่นๆ ของผลิตภัณฑ์ นอกจากหมายเลขของสิทธิบัตรนั้นๆ สู่สาธารณะ
หลังจากที่ EU ผ่านกฎหมาย Digital Markets Act (DMA) เพื่อป้องกันการกีดกันทางการค้าในสหภาพยุโรป โดยมีผลบังคับใช้ภายในเดือนมีนาคม 2024 ถึงแม้ว่า Apple จะไม่ออกมาเคลื่อนไหวอย่างเป็นทางการ แต่จากรายงานต่างๆที่ออกมา ทำให้มีการคาดการณ์จากหลายสำนักวิเคราะห์ว่าหน่วยงานกำกับการดูแลในหลายๆประเทศกำลังออกกฎบังคับแบบเดียวนี้ในประเทศของตัวเองเช่นกัน และหนึ่งในนั้นคือประเทศในฝั่งเอเชียอย่างประเทศญี่ปุ่น
ตามรายงานของสำนักข่าว Nikkei Asia หน่วยงานกำกับดูแลในญี่ปุ่นเตรียมออกกฎหมายป้องกันการผูกขาด เพื่อบังคับให้บริษัทเทคโนโลยีใหญ่ๆ เช่น Apple และ Google เปิดให้ผู้ใช้สามารถโหลดแอปจาก Store ภายนอก และจ่ายเงินซื้อคอนเทนต์ผ่านช่องทางเลือกได้
มีรายงานมาตั้งแต่ปีก่อนแล้ว ว่าแอปเปิลเตรียมแก้ไข iOS ให้สามารถลงสโตร์ดาวน์โหลดแอปผ่านช่องทางอื่นนอกจาก App Store ได้ ตามข้อกำหนดใหม่ของ EU ที่จะมีผลในปี 2024 แต่คาดว่ามีผลใช้งานได้เฉพาะกลุ่มประเทศ EU เท่านั้น ซึ่งประเทศอื่นก็อาจจะตามแนวทางนี้ด้วย
Nikkei Asia รายงานความคืบหน้า ที่หน่วยงานกำกับดูแลของญี่ปุ่นก็เตรียมออกคำสั่งให้แอปเปิลและกูเกิล ต้องเปิดให้ผู้ใช้งานลงสโตร์ของผู้พัฒนารายอื่นได้เช่นกัน โดยคาดว่าจะนำเรื่องเข้าพิจารณาในสภาปีหน้า มี 4 หัวข้อที่จะพิจารณาคือ แอปสโตร์กับวิธีจ่ายเงิน, เสิร์ช, เบราว์เซอร์ และตัวระบบปฏิบัติการ รายละเอียดคาดว่าจะออกมาช่วงต้นปี
ข้อมูลนี้จาก Mark Gurman แห่ง Bloomberg คนเดิม หลังจากที่มีข่าวว่า Tang Tan รองประธานฝ่ายออกแบบผลิตภัณฑ์ของแอปเปิล จะลาออกจากบริษัทในเดือนกุมภาพันธ์ ข้อมูลล่าสุดคือเขาจะไปทำงานที่ LoveFrom บริษัทด้านการออกแบบของ Jony Ive อดีตหัวหน้าฝ่ายออกแบบผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลนั่นเอง
รายงานบอกว่า Tan จะรับผิดชอบการออกแบบพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ด้าน AI ที่มีข่าวก่อนหน้านี้ว่า LoveFrom กำลังทำร่วมกับ OpenAI ผ่านซีอีโอ Sam Altman โดย OpenAI จะดูแลส่วนซอฟต์แวร์ให้