คดีความระหว่างแอปเปิลกับซัมซุงยังดำเนินต่อไป และมีเอกสารภายในของทั้งสองบริษัทถูกเผยแพร่ออกมา (เพราะใช้เป็นหลักฐานในชั้นศาลอยู่เรื่อยๆ) รอบนี้เป็นเอกสารภายในของกูเกิลที่แอปเปิลนำมาใช้เป็นหลักฐานสนับสนุนว่า "Android ลอก iOS" ในประเด็นเรื่องจอสัมผัส
เรื่องนี้เคยพูดกันมาเยอะว่า Android รุ่นแรกๆ นั้นออกแบบมาเพื่อแข่งกับ BlackBerry และ Windows Mobile เป็นหลัก ตอนแรกกูเกิลไม่ได้สนใจเรื่องจอสัมผัสมากนัก ซึ่งกูเกิลก็กลับลำทันทีเมื่อแอปเปิลเปิดตัว iPhone ในปี 2007 (แต่ประเด็นคือนี่เป็นครั้งแรกที่มีเอกสารจริงๆ ของกูเกิลออกมายืนยันข้อมูลนี้)
เอกสารนี้มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Android Project Software Functional Requirements เป็นเวอร์ชันฉบับเดือนกรกฎาคม 2006 (ก่อน iPhone เปิดตัวครึ่งปี) และเขียนโดย Hiroshi Lockheimer หัวหน้าทีมวิศวกรรม Android (ที่เพิ่งไปให้การในศาล)
เอกสารฉบับนี้กำหนดสเปกฮาร์ดแวร์พื้นฐานของ Android ณ เวลานั้น รวมถึงกำหนดฟีเจอร์พื้นฐานของ Android ที่สืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน เช่น การซิงก์ข้อมูล ปฏิทิน เบราว์เซอร์ มัลติมีเดีย ฯลฯ
ส่วนที่เป็นประเด็นคือ Input Devices (หน้า 20 ในเอกสาร) ที่กำหนดให้มี 3 ประเภท ได้แก่ คีย์แพด (ปุ่มตัวเลข), จอสัมผัส, คีย์บอร์ด QWERTY
ในเอกสารเวอร์ชันนี้ กูเกิลบอกว่า Android ยังไม่รองรับจอสัมผัส และมันถูกออกแบบมาโดยคำนึงว่าโทรศัพท์มีปุ่มจริง (physical buttons) เสมอ แต่กูเกิลก็ทิ้งท้ายไว้ว่าไม่ได้ปิดกั้นการใช้งานจอสัมผัสในอนาคตแต่อย่างใด
ที่มา - Re/code
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
- สรุปของใหม่และสาระสำคัญจาก AWS re:Invent 2023 | Cloudnone Special EP
Comments
ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว!
Input Devices (หน้า 20 ในเอกสาร) ที่กำหนดให้มี 3 ประเภท ได้แก่ คีย์แพด (ปุ่มตัวเลข), จอสัมผัส, คีย์บอร์ด QWERTY
ชัดเจนนิครับว่ารองรับแต่ไม่ใด้กำหนดง่าต้องมี
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
Touch screen will not be supported. มันแปลว่ารองรับแต่ไม่ได้กำหนดว่าต้องมี? มันไม่รองรับ อยากจะมีก็มีไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่แค่เปิดว่าในอนาคตอาจจะมี
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
Touch screen will not be supported: the Product was designed with presence of discrete buttons as assumption
supported ในที่นี้หมายถึงการสนับสนุนโดย os เหมือน Bluetooth 4 LE ที่เพิ่งจะมารองรับบน Android 4.3 แต่ก็มีการไช้ก่อนหน้านี้ หรือ IR blaster ที่เพิ่งจะมารองรับบน Android 4.4 แต่ก็มีการไช้ก่อนหน้านี้ครับ
พอรวมกับตัวเสริม 'Product was designed with presence of discrete buttons as assumption' ว่าง่ายๆก็คือ os ออกแบบมาโดยคิดว่ามีปุ่มให้กด เลยไม่สนับสนุนสินค้าที่มีจอสำผัส(เท่านั้น)
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ถ้านับแบบ Bluetooth นั้นก็คงรองรับทุกอย่างแหละครับ เพราะถึง OS ไม่รองรับ ผู้ผลิตก็ไปปรับปรุงเพิ่มเติมให้รองรับ
ย่อหน้าสุดท้ายของคุณก็ชัดเจนนะครับในเรื่องนี้คือเค้าออกแบบมาสำหรับปุ่มกด และไม่สนับสนุนสินค้าที่มีจอสัมผัส แต่พอเห็น iPhone แล้วถึงเปลี่ยนไประบบสัมผัส จนตัวแรกของ Android ที่ออกขายมาเป็นจอสัมผัส ซึ่งคนละเรื่องกับปี 2006 ก่อน iPhone เปิดตัว
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ไช่ครับ Android เป็น open source ถึง OS ไม่รองรับ ผู้ผลิตก็ไปปรับปรุงเพิ่มเติมให้รองรับใด้
แต่ในเอกสารมีการพูดถึง Touch screen แปลว่ามีการคิดเผื่อเอาไว้แล้ว
ปล. ย่อหน้าสุดท้าย ผมบอกว่าเค้าไม่รองรับมือถือที่ไช้จอสำผัส "เพียงอย่างเดียว" และ htc dream ก็มี keyboard
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
+1000
คิดเผื่อเอาไว้แล้ว แต่ตัวที่กำลังทำรองรับแค่คีย์บอร์ด ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่คิดทำ
Android เป็น open source ถึง OS ไม่รองรับ ผู้ผลิตก็ไปปรับปรุงเพิ่มเติมให้รองรับใด้
แต่ในเอกสารมีการพูดถึง Touch screen แปลว่ามีการคิดเผื่อเอาไว้แล้ว
เจอสองมุขนี้เข้าไป ไงคงผู้วิสัยทัศนก้าวไกลล้ำหน้าตลอดแหละ.. เวลาทำ project/product สามารถเอาทุกอย่างมารวมใส่ไว้ด้วยกันหมด ไม่ต้องตัดสินใจเลือกกันหรอก ว่าจะทำอะไรก่อนหลังทำเมื่อไหร่ อะไรสามารถทำได้บ้าง มีอะไร conflict กันมั้ย
ว่าแต่ open source แบบ Android นี่ ผู้ผลิตหรือคนอื่นๆ สามารถนำไปปรับปรุงให้ทันสมัยและเข้ากันได้ตลอดเวลาฤา (เมื่อไหร่ AOSP จะได้ใช้ codebase ของ kitkat ?) .. แถมพอ feature ใหม่ๆ เริ่มยิ่งแยกไปอยู่ในรูปแบบของ app/service มากขึ้น ความเข้ากันได้ยิ่งลดลงไปเรื่อยๆ
Android มีการดัดแปลงแปลกๆ หลายตัวครับ เช่นการใส่ irda หรือการใส่เครื่อง scan ลายนิ้วมือที่ทำมาก่อน ios ปากกาของ Galaxy note สำผัสด้านหลัง ของ moto หรือ remote กล้อง o click ของ oppo
แนวทางค่อยข้างชัดเจน อยากใส่อะไรมาก็ตามใจ แต่จะมีแค่ app / api ของตัวเองที่รองรับ ถ้าใด้รับความนิยม google ก็จะตามไปร้องรับทีหลัง
Free ของ open source ไม่ใด้แปลว่าไม่ต้องจ่าย แต่หมายถึงอิสระ ที่ไม่มีใครกำหนดว่าทำนั้นใด้ทำนี้ไม่ใด้
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวว่า เอกสารฉบับ July 2006 หน้าตาเป็นแบบนี้ครับ
ไม่มีใครรู้ว่าเอกสารฉบับต่อๆ มา (เช่น ปลายปี 2006 หรือต้นปี 2007) ว่ายังไงบ้าง
ลบๆ
ฝั่งนึงลอก ก็ต้องพยายามแก้ต่างในศาลว่าไม่ได้ลอกแบบหลังชนฝา
อีกฝั่งก็จะพยายามเล่นงานฝั่งที่ลอกให้ได้
ความจริงเป็นไงไม่รู้ แต่ในศาลเรื่องก็ออกมาเป็นงี้ตลอด
จริง Google คิดเรื่องใช้จอ Touch screen ไม่ผิดหรอก ในเวลานั้นมันเป้นเทคโนโลยี่ในอนาคต คิดเผื่อไว้มันก็ได้อยู๋แล้ว ถึงจะไม่ได้คิดจะเอามาใช้จริงๆก็เถอะ แค่พอ Apple ทำแล้วบูม Google ก็เลยหันหัวเรือ ตามเต็มกำลัง
ซึ่งก็ไม่ผิดที่จะตามกระแส
แต่ที่ผิดคือ Samsung ที่ลอก UI และ design ของ iPhone มาแบบทั้งดุ่นเลยในช่วงแรกๆที่มาใช้ Android
touch screen นี่จำได้ว่ามีตั้งนานแล้วนะครับ ผมใช้ pda win mobile ตั้งแต่ราวปี 2000
แต่ที่ apple ทำให้ multi touch เป็นที่นิยมนี่ก็เจ๋งจริงๆ อาจเป็นเจ้าแรกด้วย
ส่วนตัวถ้าแค่แนวคิด วิธีใช้ แค่ว่าเป็นจอสัมผัสคงไม่ถึงกับผิดอะไรนะ ถ้าไม่ได้ไปละเมิดสิทธิบัตรอะไร มันเป็น trend ของเทคโนโลยี หรือของคนอยู่แล้ว ของอื่นๆ ก็ลักษณะเดียวกันเหมือน trend ชาเขียว ตอนนั้นอะไรก็ชาเขียวหมด ถ้าไม่ได้ไปก็อบสูตรชาเขียวคนอื่นก็ ok
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ความจริง ก็คือ ลอกส่วนหนึ่ง แต่หลายส่วน ก็ไม่ได้หลอก
Apple พยายาม ใส่ความว่าหลอกทั้งหมด
แต่ google พยายามบอกว่าไม่ได้ หลอกนะ แต่ไม่ยอมรับว่า จริงๆๆ ก็หลอกบางส่วนมา เหมือนกัน
สรุป โกหก กันทั้งคู่ เพื่อผลประโยชน์
ตกลงจะลอกหรือจะหลอก :)
ให้ใช้สัมผัสเท่านั้น Capacitive+Multitouch กับไม่ปิดกั้นการสัมผัสมันต่างกันเยอะอยู่นะ
แอปเปิลทำเหมือนตัวเองเป็นคนคิดค้นจอสัมผัสรายแรกของโลก
ต่อไปนี้โลกเราคงเป็นแบบนี้
ฉันทำนี้แล้ว แก ห้ามทำ ถ้าทำฉันฟ้อง
ประเด็นฟ้องเรื่องลอก ui ก็โอเคอยู่ sumsung นั้นไม่ควรลอก
แต่ถ้าฟ้องว่าทำมือถือ Touch screen นี้รับไม่ได้
+1
ตอนแรกไม่คิดทำ พอเห็นคนอื่นทำออกมาดี เลยทำตามบ้าง
มันก็ลอกชัดๆอยู่แล้ว ถ้าไม่โง่เรื่องแค่นี้น่าจะคิดได้
Trust me, I am a Wizard
"พอเห็นคนอื่นทำออกมาดี เลยทำตามบ้าง" ส่วนตัวผมคิดว่าไม่น่าใช้คำว่าลอกนะครับ เพราะ apple เองตอนแรกก็ไม่คิดจะทำ iphone จอใหญ่ และipad จอ 7-8" นะครับ
แต่น่าจะเป็นเรื่องกระแสของ ตลาดมากกว่า
"ถ้าไม่โง่เรื่องแค่นี้น่าจะคิดได้"
ใช้คำพูดแรงไปมั้ยครับ มือถือสมัยนี้ก็เป็น touch screen กันหมด จะให้ซัมซุงทำปุ่มกดออกมาขายเหรอครับ คือถ้า apple เป็นคนคิดค้นทำ touch screen รายแรกของโลกแล้วมาฟ้องอันนี้ได้ครับ แต่นี่ตัวเองก็ไม่ได้เป็นคนคิดกลับไปเอาของที่คนอื่นเค้าคิดมาฟ้องคนอื่นอีกที ใช้ได้เหรอครับแบบนี้
ถ้าคนฉลาดเค้าเป็นกันแบบนี้...
ผมเป็นคนโง่ต่อไปก็ได้ครับ!!
โดนตีโต้จนได้
ผมมองในมุมผู้บริโภค android ทำระบบสัมผัสนะดีแ้ล้ว ผู้ใช้อย่างเราๆได้ประโยชน์มากที่สุด ^^
"การที่เจ้าไม่ได้เห็นไม่ได้แปลว่าเราจะไม่ทำ"-บิดาแห่งแอนดรอยด์ ไม่ได้กล่าว
ไปหาข้อมูลมาล่ะพี่ วิกิ บอกมาว่า เรื่อง Touch Screen มันมีมาตั้งแต่ปี 1965 แล้วมีใช้จริงตอนปี 1983 (31 ปีที่แล้ว) บริษัทแรกที่ใช้คือ Hewlett-Packard (HP) แล้วอีก 24 ปีต่อมาพี่ Apple ก็เอามาใช้กับสินค้าของตัวเอง
ที่แอปเปิ้ลเอามาใช้คือทำให้มันฮิตครับ อีกอย่างเป็นจอสัมผัสแบบ Capacitive ด้วยเมื่อก่อนนิยม Resitive กันมากกว่า และจอสัมผัสแบบที่แอปเปิ้ลใช้มีราคาแพงกว่า