ความคืบหน้าล่าสุดของคดีเครื่องหมายการค้า "App Store" ที่แอปเปิลฟ้อง Amazon "Appstore" (เขียนต่างกันนิดนึง) เริ่มไม่เป็นผลดีต่อฝ่ายแอปเปิล
ผู้พิพากษาหญิง Phyllis Hamilton ให้สัมภาษณ์หลังการไต่สวนรอบล่าสุดว่า เธอ "อาจจะ" ปฏิเสธคำขอของแอปเปิล เพราะแอปเปิลยังไม่สามารถแสดงหลักฐานว่าผู้บริโภคนั้นสับสนกับการที่ Amazon ใช้คำว่า Appstore เลย อย่างไรก็ตาม เธอจะพิจารณาเอกสารคำฟ้องอีกครั้งก่อนตัดสินใจ
ในคำฟ้องของแอปเปิลระบุว่าผู้ใช้รู้จัก "App Store" ว่าเป็นแหล่งดาวน์โหลดโปรแกรมบน iPhone และแอปเปิลได้รับความเสียหายจากการที่ Amazon ใช้คำว่า Appstore ซึ่งมีมาตรการปกป้องลูกค้าจากไวรัสและข้อมูลรั่วไหลน้อยกว่า App Store ของแอปเปิล
นินเทนโดประกาศว่าจะเริ่มปล่อยอัพเดตให้กับ Nintendo 3DS สำหรับผู้ใช้งานในทวีปอเมริกาเหนือในวันที่ 6 มิ.ย. (ตามเวลาสหรัฐฯ) โดยอัพเดตล่าสุดนี้มาพร้อมกับ
รัฐบาลเมืองไทเปได้ออกมาสั่งให้ทั้งแอปเปิลและกูเกิลเริ่มการรับประกันความพึงพอใจให้กับลูกค้า ด้วยการรับปากว่าจะคืนเงินให้หากลูกค้าไม่พอใจกับแอพที่ซื้อมาจาก App Store หรือ Android Market ภายในเจ็ดวันหลังจากการซื้อ
โดยปัญหาหลักของสินค้าประเภทแอพคือการไม่มีกล่องบรรจุหรือสื่อที่สามารถนำไปคืนกับร้านค้าได้เหมือนกับสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป แต่การที่แอปเปิลและกูเกิลไม่มีการรับประกันความพึงพอใจ ก็ถือว่าเป็นการละเมิดกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคของเมือง
อยากรู้เหมือนกันว่าหากสองบริษัทนี้เลือกที่จะไม่ทำตาม จะเกิดอะไรขึ้น
หลังจากที่ทาง Apple ได้ออกมาเรียกร้องให้ทาง Lodsys หยุดส่งจดหมายขู่กับทางนักพัฒนาโปรแกรมบน iOS ล่าสุดทาง Lodsys ได้ออกมาตอบโต้ว่า "ใบอนุญาตที่ทาง Apple ได้ไปนั้นไม่ครอบคลุมถึงนักพัฒนาที่เป็นบุคคลที่สาม" ผ่านทางบล๊อกของบริษัท
นอกจากนี้ทาง Lodsys ได้ยื่นฟ้องนักพัฒนาโปรแกรม 7 ราย ได้แก่ Iconfactory, Quickoffice, Illusion Labs, Wulven Game Studios, และนักพัฒนาอิสระอีกสามคน ในข้อหาละเมิดสิทธิบัตรสองรายการ ซึ่ง Lodsys ได้กล่าวว่าการยื่นฟ้องในครั้งนี้เป็นการตอบโต้ "การคุกคาม" ของ Apple
ในระหว่างการให้สัมภาษณ์ผ่าน Nokia Conversations คุณ Stephen Elop ระบุว่าแอพพลิเคชันสำหรับการใช้งานในท้องถิ่น [มิใช่แอพฯ ที่คนส่วนใหญ่จากหลายประเทศใช้งาน เช่น WhatsApp] เป็นสิ่งที่สำคัญและโนเกียจะพยายามรวมศูนย์และนำเสนอต่อผู้ใช้งานหลากหลายกลุ่มโดยการรวม App Store สำหรับแอพฯ บน S40, Symbian และ Windows Phone 7 เข้าด้วยกัน
นอกจากนั้น คุณ Brandon Watson ได้กล่าวระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า โนเกียจะมุ่งทำตลาดในหลายประเทศมากยิ่งขึ้น (รวมถึง ประเทศจีน อินเดีย และรัสเซีย) ซึ่งการมี App Store ในประเทศเหล่านั้นจะช่วยให้นักพัฒนาสามารถเข้าถึงและขายแอพฯ เฉพาะกลุ่มลูกค้าในแต่ละประเทศได้
สงครามระหว่าง Amazon กับแอปเปิลเริ่มเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ เมื่อ Amazon เปิดบริการ Mac App Store Mac Downloads ร้านขายซอฟต์แวร์สำหรับแมคของตัวเอง (ขายผ่านการดาวน์โหลด ไม่ได้เป็นกล่อง)
Amazon เคยขายซอฟต์แวร์บนวินโดวส์แบบดาวน์โหลดมาก่อนแล้ว คราวนี้เป็นการขยายฐานซอฟต์แวร์มาครอบคลุมแมคด้วย
ซอฟต์แวร์ที่ขายมีทั้งซอฟต์แวร์ชื่อดัง เช่น Office for Mac, Intuit Quickbooks, Roxio Toast 10 และเกมบนแมค เช่น Bioshock, The Sims 3, Call of Duty 4, Dragon Age Origin เป็นต้น จำนวนซอฟต์แวร์ตอนนี้มีประมาณ 250 ตัว และบางตัวไม่มีขายใน Mac App Store ของแอปเปิลด้วย
ปล่อยให้คู่แข่งมีหน้าร้านขายแอพที่เป็นเว็บไซต์กันไปเยอะแล้ว คราวนี้ก็ถึงคิวไมโครซอฟท์โชว์ Windows Phone Marketplace เวอร์ชันเว็บบ้าง
รูปแบบการทำงานของมันจะเหมือนเว็บขายแอพอื่นๆ ผู้ใช้สามารถเลือกดูข้อมูลของแอพได้ผ่านเบราว์เซอร์ ซื้อแอพผ่านบัตรเครดิตที่ผูกกับ Windows Live ID และสามารถติดตั้งแอพบนมือถือได้จากเบราว์เซอร์เลย (แบบเดียวกับ Android Market)
ตอนนี้ยังมีแต่ภาพครับ ส่วนเว็บจริงจะเปิดตัวพร้อม Windows Phone "Mango" ต้องอดใจรอกันอีกหน่อย
ที่มา - Windows Phone Developer Blog
ยังไม่ใช่ประกาศอย่างเป็นทางการของแอปเปิล แต่บริษัทที่เก็บสถิติด้านแอพบนมือถือ 3 รายคือ 148apps, Chomp และ Chillingo ก็ร่วมมือกันตรวจสอบและประกาศว่า แอพบน iTunes App Store มีจำนวนเกิน 500,000 แอพแล้ว
แอพยอดนิยมอันดับหนึ่งยังเป็น Angry Birds ที่อยู่อันดับหนึ่งมานาน 275 วัน ส่วนแอพที่ได้อันดับหนึ่งมากเป็นอันดับรองลงมาคือ The Moron Test (38 วัน) Moto Chaser (27 วัน) Flight Control, iShoot และ Skee-Ball (26 วันเท่ากัน)
หมวดแอพยอดนิยมได้แก่เกม (15%) หนังสือ (14%) บันเทิง (11%) และการศึกษา (8%) สัดส่วนของแอพฟรีอยู่ที่ 37% ของแอพทั้งหมด และราคาเฉลี่ยของแอพอยู่ที่ 3.64 ดอลลาร์
ก่อนหน้านี้บริษัทที่ใช้ชื่อว่า Lodsys ได้ไล่ส่งจดหมายขู่นักพัฒนาโปรแกรมบน iOS ที่ขายส่วนเสริมของโปรแกรมจากในตัวโปรแกรมโดยตรง (In-App Purchase) ว่าได้ทำการละเมิดสิทธิบัตร ทำให้นักพัฒนาหลาย ๆ คนได้ออกมาเรียกร้องให้แอปเปิลทำอะไรซักอย่าง ล่าสุดแอปเปิลได้ส่งจดหมายโต้ถึง Lodsys ว่านักพัฒนาทั้งหมดบน iOS ถือไลเซ่นส์อย่างถูกต้องแล้ว เนื่องจากกระบวนการของ In-App Purchase ทั้งหมดต้องผ่านฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ API ฯลฯ ของแอปเปิลซึ่งเป็นผู้ได้รับไลเซ่นส์อย่างถูกต้อง
นอกจากนี้แอปเปิลยังได้ขอให้ Lodsys ทำการยกเลิกข้อเรียกร้องในจดหมายที่ส่งถึงนักพัฒนาก่อนหน้านี้ทั้งหมด
ตลาดแอพมือถือหรือ mobile app กลายเป็นตลาดที่มาแรงที่สุดในตอนนี้ ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจว่ามีคนไทยจำนวนไม่น้อยพัฒนาแอพขึ้นมาแจก/ขาย/โปรโมทองค์กร
ผมคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ถ้าหากเรารวบรวมรายชื่อแอพ-เกมที่พัฒนาโดยคนไทย-องค์กรของไทย (แต่อาจจะจับตลาดคนต่างชาติก็ได้นะครับ) ซึ่งจะทำให้ 1) ช่วยอุดหนุนกันได้ง่าย 2) ส่งความเห็นเพื่อปรับปรุงแอพให้คุณภาพดียิ่งขึ้น
Ask Blognone จึงอยากทำตัวเป็นสื่อกลาง รวบรวมรายชื่อแอพที่พัฒนาโดยคนไทย-องค์กรไทย ไม่ว่าจะขายหรือแจกฟรี โดยรอบแรกสุดก็เน้นไปที่ iOS (iPhone/iPad/iPod) ซึ่งน่าจะเป็นตลาดที่มีแอพไทยมากที่สุด ส่วนอนาคตก็จะวนไปยังแพลตฟอร์มอื่นๆ ต่อไป
กติกา
ขอขุดข่าวเก่า (จริงๆ) มาขึ้นเล่าสู่กันฟังครับ
หากใครติดตามข่าวเกี่ยวกับ Windows Phone 7 ก็จะพบว่ามีเพียงไม่กี่ประเทศเท่านั้นที่นักพัฒนาสามารถอัพโหลดแอพฯ ผ่าน App Hub ขึ้นไปวางขายบน Windows Phone Marketplace ได้ ไมโครซอฟท์ก็ตระหนักถึงจุดนี้และในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาก็ได้เปิด Global Publisher Program ใหม่ชื่อ Yalla Apps เพื่อให้นักพัฒนาในประเทศที่ไมโครซอฟท์ยังไม่ได้เปิดตัว Windows Phone 7 และบริการที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นทางการ สามารถอัพโหลดแอพฯ ขึ้น Marketplace ได้โดยการอัพโหลดขึ้นไปที่ Yalla Apps แล้ว Yalla Apps ก็จะนำแอพฯ นั้นไปขึ้น Marketplace อีกต่อหนึ่ง
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ นักพัฒนาแอพให้กับ iOS หลาย ๆ คนได้รับจดหมายจากบริษัท Lodsys ว่าพวกเขาได้ละเมิดสิทธิบัตรการซื้อส่วนเสริมของแอพจากภายในแอพ (In-App Purchase) ของบริษัท แม้ว่าในความจริงแล้วขั้นตอนในการซื้อส่วนเสริมเหล่านี้จะต้องดำเนินการผ่าน iTunes ของแอปเปิล
บริษัท Lodsys ที่ไม่เป็นที่รู้จักนี้ได้บอกว่านักพัฒนาที่ได้รับจดหมายทุกคนจะถูกฟ้อง หากไม่ทำการจ่ายค่าตอบแทนและบริษัทยังอ้างอีกว่าพวกเขามีสิทธิในการเข้าถึง 0.575% ของรายได้จากการซื้อส่วนเสริมภายในแอพทั้งหมดภายในสหรัฐอเมริกา นั่นก็หมายความว่าหากนักพัฒนามีรายได้ในส่วนนี้ 1 ล้านดอลลาร์ บริษัทนี้จะได้ไป 5,750 ดอลลาร์
ความคืบหน้าล่าสุดของกรณีเครื่องหมายการค้า "App Store" ของแอปเปิล
ไมโครซอฟท์และผู้ผลิตมือถือรายใหญ่ 3 รายคือ HTC, Nokia, Sony Ericsson ร่วมกันยื่นคัดค้านการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า "App Store" ของแอปเปิลในทวีปยุโรป โดยให้เหตุผลว่าคำนี้ขาดความเฉพาะ (distinctiveness) จึงไม่ควรอนุมัติสิทธิบัตรนี้แก่แอปเปิล
ที่มา - GeekWire
บริษัทวิจัยด้านมือถือชื่อ research2guidance จากเยอรมนี ประเมินการเติบโตของจำนวนแอพใน Android Market และ iPhone App Store และพยากรณ์ว่า Android Market จะมีแอพแซง iPhone App Store ในเดือนสิงหาคมปีนี้
ช่วงหลังๆ Android Market มีจำนวนแอพใหม่มากกว่า iPhone App Store แล้ว โดยเดือนเมษายนที่ผ่านมา Android Market มีแอพใหม่ 28,000 ตัว ส่วน iPhone App Store มี 11,000 ตัว
ปัจจุบัน Android Market มีแอพเกือบ 3 แสนตัว และ iPhone App Store มี 3.8 แสนตัว ส่วนเดือนสิงหาคมที่จะเป็น "จุดตัด" ทั้งสองค่ายจะมีแอพ 4.25 แสนตัว
บริษัทวิจัย IHS iSuppli รายงานว่าธุรกิจการขายแอพต่างๆ ที่ใช้งานบนระบบปฏิบัติการบนโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ตนั้นจะมีรายได้รวมถึง 3.8 พันล้านดอลลาร์ในปี 2011 นี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 78% เมื่อเทียบกับปีก่อน
ทั้งนี้จากการวิจัยบอกว่าแอพที่จำหน่ายผ่าน App Store ของแอปเปิลจะเป็นผู้กวาดส่วนแบ่งยอดขายไปมากถึง 3 ใน 4 ในปีนี้ด้วยมูลค่า 2.91 พันล้านดอลลาร์ โดยมีอัตราการเติบโตถึง 63% จากปีก่อน ขณะที่อันดับสองเป็นของแอพบน Android ที่จะสร้างยอดขายได้ 425 ล้านดอลลาร์
ขอรวบสองข่าวที่เกี่ยวกับ Windows 8 เป็นข่าวเดียวกันครับ
ข่าวแรก มีการเผยภาพหน้าจอที่ใช้ธีม Aero Lite จากภาพ (ดูได้หลัง break) ทำให้ทราบว่าธีม Aero Lite นั้นรวมการออกแบบส่วนติดต่อผู้ใช้แบบ Metro นอกจากนั้นธีม Aero Lite ยังรองรับการแสดงผลแบบโปร่งแสง (transparent glass) อีกด้วย (ถึงแม้ตอนนี้ฟีเจอร์ดังกล่าวจะยังทำงานไม่สมบูรณ์ใน Windows 8 รุ่นทดสอบก็ตาม)
ที่มา: ฟอรัมบน My Digital Life ผ่าน Neowin.net
กลุ่มนักพัฒนาที่เรียกตัวเองว่า Infini Dev Team (ไม่ใช่กลุ่มเดียวกันกับ iPhone Dev Team) ได้ออกมาประกาศว่าพวกเขาพบวิธีที่จะสามารถทำให้ไอโฟนสามารถดาวน์โหลด App ผ่านทางเบราว์เซอร์ได้โดยไม่ต้องพึ่ง App Store หรือ Cydia อีกต่อไป โดยพวกเขาได้ให้ชื่อ App Store แห่งนี้ว่า "Lima"
สำหรับวิธีการดาวน์โหลด App ผ่านเบราว์เซอร์นี้ทำงานลักษณะเดียวกันกับการโหลด App บน Android คือเพียงแค่ URL ก็เพียงพอแล้วสำหรับการดาวน์โหลดและค้นหา App นับได้ว่าเป็นทางเลือกเพิ่มอีกทางสำหรับผู้ที่ Jailbreak แล้ว
Lima เองก็จะมีระบบจัดการ Repositories ทั้งหลายและระบบ Back Up ข้อมูลให้กับผู้ใช้ ทำให้ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้วิธี Back Up ผ่านโปรแกรมอื่น ๆ เช่น xBackup หรือ PKGBackup อีกต่อไป
Windows 8 Italia ได้ขุดคุ้ย Windows 8 รุ่นทดสอบหมายเลข 7955 เพิ่มเติมและได้พบฟีเจอร์ใหม่อีกมากมาย อาทิ
ถ้าใครเคยดูภาพยนตร์เรื่อง Inconvenient Truth ซึ่งเกี่ยวกับภาวะโลกร้อนคงเคยได้ยินชื่ออัล กอร์กันมาบ้าง มาวันนี้เขาได้ทำแอพหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ภายใต้ชื่อว่า "Our Choice" ลงสู่ App Store แล้ว (4.99 ดอลลาร์) ซึ่งแน่นอนว่ามีเนื้อหาเกี่ยวกับมลภาวะ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภาวะโลกร้อน โดยจะมีเนื้อหาใหม่ๆ ที่นำเสนอต่อจาก keynote ที่เขาเคยขึ้นพูด
ข่าวนี้ต่อจาก มาตามนัด!! Apple ฟ้อง Amazon ละเมิดชื่อ "App Store" แล้ว ทาง Amazon ได้ยื่นเอกสารต่อศาลในคดีที่แอปเปิลฟ้องละเมิดเครื่องหมายการค้าแล้ว โดย Amazon เลือกสู้คดีในประเด็นว่า "app store" เป็นคำสามัญทั่วไป (generic) ไม่ใช่ชื่อเฉพาะของแอปเปิลแต่อย่างใด (ซึ่งเป็นเหตุผลเดียวกับคดีของไมโครซอฟท์)
ที่เจ็บแสบคือหลักฐานสนับสนุนของ Amazon ก็คือคำพูดของสตีฟ จ็อบส์ ในการแถลงผลประกอบการของแอปเปิลครั้งหนึ่ง ซึ่งตอนนั้นจ็อบส์ได้วิจารณ์ Android ว่ามีปัญหา fragmentation เพราะมี "app store" หลายอันให้เลือกใช้
ต้นฉบับคำพูดของจ็อบส์มีดังนี้
เว็บไซต์ Cnbeta จากประเทศจีนได้โพสต์ภาพหน้าจอของ Windows App Store ที่อ้างว่าจะมากับ Windows 8 (ยังไม่มีใครพิสูจน์ได้ว่าจริงแค่ไหน)
แม้ภาพชุดนี้จะมีจุดแปลกๆ ที่น่าสังเกตหลายอย่าง เช่น ใช้ชื่อว่า Windows App Store ทั้งที่มีปัญหากฎหมายกับแอปเปิล, มีซอฟต์แวร์ที่ไม่ใช่ของไมโครซอฟท์อย่าง Firefox/Thunderbird/Opera ให้เลือกด้วย ฯลฯ แต่ในภาพรวมก็สอดคล้องกับข่าวลือก่อนหน้านี้ที่ระบุว่าไมโครซอฟท์จะทำ App Store ใน Windows 8
หลายคนอาจจำ MiKandi ร้านขายโปรแกรมสำหรับผู้ใหญ่บน Android กันได้ สโลแกนของ MiKandi คือ "The World's First Adult AppStore" ฟังดูน่าสนใจ แต่วลีนี้กลับมีปัญหากับแอปเปิลเสียแล้ว
แอปเปิลแสดงท่าทีชัดเจนว่าไม่ต้องการให้คนอื่นใช้คำว่า "App Store" ซึ่งที่ผ่านมาก็มีกรณีกับทั้งไมโครซอฟท์ และ Amazon Appstore จนเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต ล่าสุดแอปเปิลได้ส่งจดหมายแจ้งเตือน (cease and desist) ไปยัง MiKandi ให้เลิกใช้คำว่า "App Store" แล้ว
ไม่ปล่อยให้รอนาน เพราะหลังจากที่ Apple ออกมาแย้ง Microsoft เรื่องคำว่า App Store สามารถนำมาใช้เป็นเครื่องหมายการค้าได้ วันนี้ Apple ก็ออกมาแสดงสิทธิ์ความเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้านี้แล้ว โดยคู่กรณีรายแรกก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็น Amazon.com ที่เปิดบริการ Amazon's Android AppStore นั่นเอง
โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ฝ่ายกฏหมายของ Apple ได้ยื่นฟ้องต่อศาลเพื่อให้ Amazon.com ยกเลิกการใช้คำว่า "AppStore" ในชื่อบริการ Android AppStore ของ Amazon โดยให้เหตุผลต่อศาลว่า คำว่า "App Store" นั้นถูกใช้บนอุปกรณ์ของ Apple เช่น iPhone/iPad/iPod มานานแล้ว และการนำเครื่องหมายการค้านี้ไปใช้ในบริการที่คล้ายคลึงกันของ Amazon.com จะทำให้ผู้ใช้สับสน
ไม่ใช่มีแต่ iPhone App Store หรือ Android Market ที่มีปัญหากับแอพที่วางขาย เพราะร้านขายแอพอิสระอย่าง GetJar ก็มีปัญหากับแอพชื่อดังอย่าง Opera Mini จนต้องถอดออกจากหน้าร้านแล้ว
เหตุผลก็เพราะ Opera Mini ละเมิดเงื่อนไขการใช้งานของ GetJar ซึ่งหมายถึงกรณี Opera เปิด Mobile App Store ร้านขายแอพข้ามแพลตฟอร์ม ภายในแอพของตัวเอง (ที่ให้โหลดผ่าน GetJar อีกทีหนึ่ง)
GetJar ประกาศเรื่องนี้ผ่าน @getjar แล้ว ส่วน Opera ยังไม่มีแถลงการณ์ใดๆ ในประเด็นนี้
เมื่อปี 2009 เว็บ Engadget เคยรายงานเกี่ยวกับบริษัท Larva Labs ที่ได้ออกมาบอกว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหาเงินเพียงพอต่อการใช้ชีวิตไปวัน ๆ จากเกมขายดีอันดับแรก ๆ บน Android Market แต่ในวันนี้ เมื่อ Android กลายเป็นแพลตฟอร์มที่โตเร็วที่สุด หลาย ๆ สิ่งก็ได้เปลี่ยนไป
Spacetime Studios บริษัทที่ผลิต MMORPG บนมือถือชื่อ Pocket Legends ยังตกใจกับตัวเลขที่พวกเขาเห็น โดยบริษัทของเขานั้นทำกำไรจากผู้ใช้ Android มากกว่าผู้ใช้ iOS ถึง 30-50 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว นอกจากนั้นแล้วผู้ใช้ Android ยังใช้เวลาในการเล่นเกมมากกว่า และยังไล่ดาวน์โหลดแอพต่าง ๆ บ่อยกว่าด้วย ซึ่งข้อมูลนี้แสดงให้เห็นว่าในตลาด Android นั้นอาจจะเป็นแหล่งที่เหมาะสมสำหรับแอพคุณภาพมากกว่าตลาดที่โตมาก่อนอย่าง iOS