กูเกิลประกาศปล่อย Stadia Pro ให้ทุกคนใช้งานฟรี 2 เดือน จากปกติราคา 9.99 ดอลลาร์ต่อเดือน โดย Stadia Pro นี้จะมาพร้อมกับเกม 9 เกม

บริการนี้จะเริ่มเก็บเงินหลังครบ 2 เดือน แต่สามารถยกเลิกการสมัครสมาชิกได้ทันที และยังเล่นต่อได้จนหมดอายุ และเนื่องจากช่วงนี้โรค COVID-19 ระบาด กูเกิลเตือนว่าจะปรับค่าเริ่มต้นความละเอียดภาพให้เหลือ 1080p จาก 4k ตามปกติ แต่สามารถปรับกลับเองได้

บริการ Stadia ให้บริการแล้วใน 14 ประเทศแต่ยังไม่มีประเทศไทย

ที่มา - Google

อย่างที่ทราบกันว่าหนึ่งในปัจจัยสำคัญและจุดขายของเกมแพลตฟอร์มแต่ละค่ายคือเกมเอ็กคลูซีฟหัวใหญ่ ๆ ซึ่งที่ผ่านมาโซนีกินขาดมาโดยตลอด ขณะที่ล่าสุดไมโครซอฟท์เองก็กำลังไล่ตามจากการสร้างและซื้อสตูดิโอเข้ามาในเครือ (ดูสตูดิโอในเครือ 2 ค่ายเทียบกันได้ที่นี่) และสตูดิโอเกมและเกมเอ็กคลูซีฟก็เป็นสิ่งที่ Stadia ของ Google ต้องไล่ตามทั้งสองค่ายให้ทัน

แม้บน Stadia แพลตฟอร์มเกมแบบสตรีมมิ่งของ Google จะมีเกมที่เล่นออนไลน์อย่าง Destiny 2, Borderlands 3 และ Ghost Recon Breakpoint อยู่ แต่ก่อนหน้านี้ เกมทั้งหมดจะสามารถเล่นออนไลน์ได้กับผู้เล่นเฉพาะบน Stadia เท่านั้น แต่เกม The Division 2 จาก Ubisoft ที่จะปล่อยลง Stadia ในวันที่ 17 มีนาคมนี้ จะเป็นเกมแรก ที่สามารถเล่นข้ามแพลตฟอร์ม (crossplay) ไปเจอกับผู้เล่นบนพีซีได้

Doom Eternal เป็นหนึ่งเกมที่ทีมงาน Stadia เลือกให้เป็นหนึ่งในพระเอกของแพลตฟอร์ม โดย Marty Stratton ขึ้นพูดคีย์โน้ตในงานเปิดตัว Stadia ว่า ว่า Doom Eternal สามารถรันได้ที่ 4K 60FPS บน Stadia (ใช้คำว่า true 4K ด้วย)

อย่างไรก็ตามล่าสุด id Software ทีมพัฒนาได้อัพเดตข้อมูลของตัวเกม (launch detail) โดยบอกความสามารถที่คอนโซลเครื่องต่าง ๆ จะรันได้ ที่น่าสนใจคือในส่วนของ Stadia กลับบอกว่ารันได้ที่ 1080p 60FPS บนจอ FHD แต่หากเป็นจอ 4K จะเล่นที่ความละเอียด 1800p และอัพสเกลให้เป็น 2160p 60FPS แทน

กูเกิลประกาศจัดงานสัมมนาออนไลน์สำหรับนักพัฒนาเกม Google for Games Developer Summit เป็นครั้งแรก หลังงาน Game Developers Conference (GDC) 2020 เลื่อนไม่มีกำหนด ทำให้กูเกิลเลือกมาจัดงานเองผ่านระบบออนไลน์แทน

งานมีวันที่ 23 มีนาคม 2020 โดยหัวข้อการนำเสนอแบ่งเป็น 3 เรื่อง รวมเวลาพรีเซนต์ทั้งหมดกว่า 10 ชั่วโมง

• การพัฒนาเกมบน Android รวมถึง Google Play และ Firebase
• การใช้ Google Cloud สำหรับนักพัฒนาเกม
• Stadia

Google ประกาศดึงตัว Shannon Studstill หัวหน้าทีมพัฒนาเกมจากสตูดิโอ Santa Monica ของ Sony และเป็นอดีตโปรดิวเซอร์จากซีรีส์เกม God of War มาร่วมบริหารสตูดิโอเปิดใหม่ใน Playa Vista ย่านลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งอยู่ภายใต้ Stadia Games and Entertainment

Jade Raymond รองประธาน Stadia Games and Entertainment กล่าวว่าสตูดิโอใหม่ที่นำโดย Studstill จะมุ่งเป้าไปที่การสร้างเกมเอ็กคลูซีฟเพื่อมาลงแพลตฟอร์ม Stadia โดยเฉพาะ โดยจะแทรกไปด้วยลูกเล่น วิธีการใหม่ๆ ในการให้ผู้เล่นสามารถเล่นเกม และมีปฏิสัมพันธ์กันในระหว่างเล่นเกมบนคลาวด์เกมมิ่ง ซึ่งตอนนี้ทางสตูดิโอยังไม่พร้อมจะเปิดเผยแผนในการสร้างเกมอย่างเป็นทางการ แต่กำลังรับฟังสิ่งที่เหล่าเกมเมอร์ต้องการ ก่อนจะเสริมลูกเล่นแบบ Stadia เข้าไป เพื่อสร้างประสบการณ์การเล่นเกมแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน

Stadia เปิดตัวไปแบบไม่ค่อยประสบความสำเร็จนัก ทั้งในแง่ประสบการณ์เล่นเกม (ที่มีอาการแล็กอยู่บ้าง), ฟีเจอร์ไม่ครบ และจำนวนที่ค่อนข้างน้อย โดยในมุมนักพัฒนาเกมก่อนหน้านี้ก็เคยให้ความเห็นว่า Stadia มีศักยภาพพอในระยะยาว แต่กลัวแค่ว่า Google จะฆ่าทิ้งเสียก่อน

ล่าสุดนักพัฒนาเกมอิสระหลายคนให้สัมภาษณ์กับ Business Insider ว่าทีมงาน Stadia เข้ามาพูดคุยถึงดีลในการนำเกมหรือพัฒนาเกมลง Stadia ทว่าในดีล Stadia แทบไม่พูดถึงตัวเงินที่เป็นแรงจูงใจในการพัฒนาเลย (ต้นทางใช้คำว่า ..kind of non-existent) ทำให้หลายคนกังวลและไม่มั่นใจ Google ว่าจะจริงจังกับ Stadia แค่ไหนในระยะยาว

หลังจาก Google Stadia เปิดตัว แต่จำกัดสมาร์ทโฟนรุ่นที่รองรับแค่ตระกูล Pixel มานาน 3 เดือน ในที่สุดกูเกิลก็ขยายบริการมายังสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ (บ้าง) จากผู้ผลิต 3 รายคือ Samsung, Razer, ASUS ROG รวมทั้งหมด 18 รุ่น

กรณีของ Samsung รองรับสมาร์ทโฟน Galaxy ระดับเรือธงทุกตัวตั้งแต่ S8, Note 8, S9, Note 9, S10 (รวม S10e), Note 10, S20 ส่วนสมาร์ทโฟนเกมมิ่งอีก 2 แบรนด์รองรับ Razer Phone, Razer Phone 2, ASUS ROG Phone, ASUS ROG Phone II

นอกจากนี้ ASUS ยังประกาศความร่วมมือกับกูเกิล พรีโหลด Stadia มาในสมาร์ทโฟน ROG รุ่นถัดไป (ซึ่งก็น่าจะใช้ชื่อ ROG Phone III) โดยความร่วมมือครั้งนี้มีอายุไปจนถึงสิ้นปี 2021

ปี 2019 ที่ผ่านมาอาจเป็นหมุดหมายสำคัญของวงการเกม จากการเปิดตัวแพลตฟอร์มการให้บริการเกมผ่านคลาวด์ Stadia ของกูเกิลและ Project xCloud ของไมโครซอฟท์ ในเวลาไล่เลี่ยกัน

อันที่จริงแนวคิดของ Stadia หรือ xCloud ไม่ใช่ของใหม่ เพราะโซนี่่เองก็มีบริการลักษณะเดียวกันมาสักพักแล้ว แต่การมาถึงของ Stadia และ xCloud สร้างแรงกระเพื่อมในวงการเกมและทำให้ Cloud Gaming ถูกพูดถึงมากขึ้นมาก

หากมองในระยะยาวที่ Cloud Gaming อาจกลายเป็นแพลตฟอร์มเล่นเกมในยุคหลังคอนโซล กลับเป็นไมโครซอฟท์ที่มีความได้เปรียบที่สุดในตอนนี้

บทความนี้จะพาไปสำรวจสถานการณ์ Cloud Gaming พร้อมกับการมองอนาคตว่าทำไมไมโครซอฟท์ถึงกุมความได้เปรียบเอาไว้ตั้งแต่วันนี้แล้ว

Google Stadia เปิดตัวไม่สวยงามเท่าไรนัก ทั้งในแง่ฟีเจอร์ที่ยังมีไม่ครบตามที่โฆษณาไว้ตอนแรก (นับถึงปัจจุบันยังรองรับเฉพาะมือถือ Pixel, ยังไม่รองรับ 4K บนเบราว์เซอร์) และจำนวนเกมที่ยังมีให้เล่นน้อย

Stadia ยังมีเวอร์ชัน Pro ที่คิดค่าสมาชิกรายเดือน แลกกับการมีเกมฟรีมาให้เล่นต่อเนื่อง แต่หลังจากช่วงเปิดตัวผ่านมาแล้วเป็นเดือน กูเกิลกลับยังไม่ประกาศเกมฟรีเพิ่มให้อย่างที่สัญญาไว้ (หมายเหตุ: กูเกิลเพิ่งประกาศ Gylt และ Metro Exodus สองเกมบน Stadia Pro เปิดให้เล่นวันนี้ 1 ก.พ.)

Unity เอนจินเกมขวัญใจมหาชน ประกาศออกเวอร์ชันใหม่ 2019.3 ที่มีฟีเจอร์ใหม่ๆ ชุดใหญ่ ทั้งฝั่งกราฟิก 2D/3D โดยเฉพาะฟีเจอร์ High Definition Render Pipeline (HDRP) ที่รองรับ ray tracing เรียบร้อยแล้ว

ฝั่งของตัว Editor ได้รับการยกเครื่อง UI ใหม่, เพิ่มฟีเจอร์ Quick Search หาข้อมูลได้ทุกอย่าง, ระบบ Input System ที่จัดการเรื่องอินพุตเกมเป็นมาตรฐานเดียวกัน

Unity ขึ้นชื่อเรื่องการรองรับแพลตฟอร์มเกมแทบทุกอย่างในจักรวาลนี้ (ตัวเลขตอนนี้คือ 25 แพลตฟอร์ม ซึ่งครอบคลุมถึงแพลตฟอร์มอย่าง Gear VR, Google Daydream, Magic Leap) และล่าสุดใน Unity 2019.3 ก็รองรับ Google Stadia เพิ่มอีกแพลตฟอร์มหนึ่ง ซึ่งน่าจะช่วยให้เราเห็นเกมดังๆ ถูกพอร์ตไปลง Stadia ได้ง่ายขึ้นด้วยนั่นเอง

กูเกิลประกาศอัพเดตแพทช์ใหม่ให้บริการเกมสตรีมมิ่ง Google Stadia ของทางบริษัท โดยเดือนธันวาคมนี้มีอัพเดตฟีเจอร์ Stream Connect ที่แชร์หน้าจอและเล่นเกมเดียวกันร่วมกับเพื่อนได้, อัพเดตเพิ่มประสิทธิภาพของ Chromecast Ultra และเพิ่มเกมใหม่เข้ามาอีก 4 เกมด้วย

ฟีเจอร์ Stream Connect ที่แชร์หน้าจอของเพื่อนในเกมแบบ picture-in-picture จะรองรับเกม Tom Clancy's Ghost Recon Breakpoint เป็นเกมแรก (ดูในภาพด้านล่าง) และเกมยังแสดงผลได้ดีประสิทธิภาพไม่ตก

กูเกิลประกาศซื้อกิจการ Typhoon Studios สตูดิโอพัฒนาเกมอิสระจากแคนาดา เพื่อเข้ามาทำเกมให้แพลตฟอร์ม Stadia ตามที่เคยประกาศไว้

Typhoon Studios ก่อตั้งในปี 2017 โดยอดีตทีมงานของ Ubisoft, EA และ Warner Bros. Games โดยเพิ่งมีผลงานเกมแรกคือ Journey to the Savage Planet ที่กำลังจะวางขายเดือนมกราคม 2020 บนแพลตฟอร์ม PS4, Xbox One, PC

ผู้ร่วมก่อตั้ง Reid Schneider เคยทำงานเป็นโปรดิวเซอร์ของ Splinter Cell (Ubisoft) และ Battlefield Vietnam, Army of Two (EA) ก่อนมาเป็นหัวหน้าสตูดิโอของ Warner Brothers Games Montreal

บริการเกมสตรีมมิ่ง Google Stadia มีวิธิคิดเงินอยู่ 2 แบบคือ Stadia Pro เดือนละ 10 ดอลลาร์ (เปิดบริการแล้ว, รองรับ 4K, แถมเกมฟรี) และ Stadia Base (เปิดปี 2020, ไม่รองรับ 4K, ไม่มีเกมฟรี ต้องซื้อเกมเองทั้งหมด)

ช่วงที่เปิดตัว Stadia Pro ประกาศรายชื่อเกมฟรีเพียงเกมเดียวคือ Destiny 2 ทำให้บริการอาจดูไม่ค่อยคุ้มค่านัก แต่ภายหลังกูเกิลก็ประกาศแถม Samurai Shodown เพิ่มเข้ามาอีกเกม

หลัง Google Stadia เปิดบริการอย่างเป็นทางการ คอมเมนต์ที่บรรดารีวิวต่างๆ พูดตรงกันคือ ภาพความละเอียดระดับ 4K ที่กูเกิลโม้เอาไว้ ถือว่าคุณภาพต่ำกว่าภาพ 4K บนเครื่องเกมคอนโซลมาก (เทียบเกมเดียวกัน ฉากเดียวกัน)

ล่าสุดกูเกิลออกมายอมรับแล้วว่า บางเกมบน Stadia ใช้วิธีเรนเดอร์ในความละเอียดต่ำกว่านั้น (ที่ระบุชื่อคือ Destiny 2 เรนเดอร์ที่ 1080p และ Red Dead Redemption 2 ที่ 1440p) จากนั้นกูเกิลค่อยใช้วิธี upscaling ภาพให้เป็น 4K อีกทีหนึ่ง

เหตุผลของกูเกิลคือตัวเซิร์ฟเวอร์รองรับการเรนเดอร์ 4K แต่ขึ้นกับบริษัทเจ้าของเกมด้วยว่าจะเรนเดอร์ 4K หรือไม่ ซึ่งกรณีนี้ Bungie และ Rockstar ไม่ได้ปรับแต่งเกมของตัวเองให้เรนเดอร์ 4K บน Stadia นั่นเอง

Google ประกาศรายชื่อเกมที่จะเปิดให้เล่นในวันแรกของการให้บริการบน Stadia เพิ่มอีก 10 เกมจากเดิม 12 เกม เป็นทั้งหมด 22 เกม โดยคาดว่าเพื่อเป็นการชดเชยปัญหาในช่วงเปิดให้บริการ ที่ดูไม่มีความพร้อมหลาย ๆ อย่าง

รายชื่อเกมทั้งหมดที่จะมีให้เล่นวันที่ 19 พฤศจิกายนทั้งหมดมีดังนี้

Gwen Frey นักพัฒนาเกมอิสระ ผู้พัฒนาเกม Kine ซึ่งเป็นหนึ่งใน 12 เกมเปิดตัว Stadia ให้สัมภาษณ์กับ GamesIndustry.biz ว่าคิดเช่นไรกับ Stadia

เธอบอกว่า Stadia มีศักยภาพสูงในระยะยาว แต่ในช่วงแรกกูเกิลจะวางตัว Stadia เป็นคู่แข่งของเครื่องคอนโซล ทำทุกอย่างได้เหมือนคอนโซล ซึ่งจะยังสามารถดึงศักยภาพของ Stadia ออกมาได้อย่างเต็มที่ เธอมองว่ากูเกิลจะค่อยๆ เริ่มต้นกับ Stadia อย่างช้าๆ ในช่วงแรก แล้วค่อยๆ ขยายศักยภาพของแพลตฟอร์มในระยะยาว

Stadia บริการแพลตฟอร์มเกมใหม่ที่เล่นผ่านการสตรีมด้วยอินเทอร์เน็ตลกำลังจะเปิดบริการวันที่ 19 พ.ย.นี้ ทว่า Stadia ยังห่างไกลจากคำว่าสมบูรณ์ เมื่อทีมงานออกมายืนยันฟอรัม AMA ใน Reddit ถึงความไม่พร้อมในหลาย ๆ ด้านในช่วงที่เปิดให้บริการ

อย่างแรกเลยคือตัว Stadia Controller น่าจะส่งถึงมือผู้พรีออเดอร์หลังวันที่ 19 นี้และอาจช้าไปจนถึงต้นเดือนธันวาคมด้วย ซึ่งจะมาพร้อม Chromecast Ultra ที่มีอัพเดตให้รองรับ Stadia ส่วนผู้ที่มี Chromecast Ultra อยู่แล้วจะได้รับอัพเดตหลังเปิดให้บริการ เช่นเดียวกับ Buddy Passes ที่คนสั่งพรีออเดอร์ Founder Edition จะได้โค้ดให้เพื่อนเล่น Stadia ฟรี 3 เดือน ก็จะได้รับหลังให้บริการราว 2-3 สัปดาห์

กูเกิลประกาศรายชื่อเกมบน Stadia ซึ่งจะเริ่มให้บริการในสหรัฐวันที่ 19 พฤศจิกายนนี้ รายชื่อเกมแบ่งเป็น 2 ชุด คือ เกมที่เปิดให้เล่นวันที่ 19 พฤศจิกายน จำนวน 12 เกม และเกมที่ยังไม่ระบุวันเปิดให้เล่น (แต่ภายในปี 2019) อีก 14 เกม รวมเป็น 28 เกม

เกมเกือบทั้งหมดเป็นเกมที่เคยออกบนแพลตฟอร์มอื่นอยู่แล้ว ยกเว้นเกม GYLT เกมพัซเซิลที่เป็นเอกซ์คลูซีฟของ Stadia เอง

กูเกิลเพิ่งประกาศเปิด สตูดิโอพัฒนาเกม Stadia Games and Entertainment เพื่อพัฒนาเกมแบบ first party ลงแพลตฟอร์ม Stadia โดยยังไม่เผยข้อมูลมากนัก

Jade Raymond หัวหน้าสตูดิโอแห่งนี้ ให้สัมภาษณ์กับ GamesIndustry.biz เผยข้อมูลเพิ่มเติมว่าจะตั้งสตูดิโอย่อยจำนวนหนึ่งที่พัฒนาเกมแตกต่างกันไป (a few different first-party studios) และตั้งทีมจัดจำหน่ายเกม (publishing org) เพื่อช่วยสนับสนุนเกมจากสตูดิโอภายนอกด้วย

กูเกิลเปิดตัว Stadia แพลตฟอร์มเล่นเกมสตรีมมิ่ง และประกาศสร้างสตูดิโอทำเกม Stadia Games and Entertainment เพื่อให้นักพัฒนาสร้างเกมป้อนลง Stadia ล่าสุดกูเกิลประกาศที่ตั้งแห่งแรกของสตูดิโอแล้วคือ Montréal แคนาดา

Jade Raymond ผู้ดูแลสตูดิโอบอกว่า ทางสตูดิโอจะผลิตเกมเอ็กซ์คลูซีฟในแนวเกมที่หลากหลาย และมุ่งมั่นที่จะสร้างสภาพแวดล้อมที่จะช่วยให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ทำงานกับ Stadia สามารถสร้างประสบการณ์การเล่นเกมที่แปลกใหม่ได้

อย่างไรก็ตามยังไม่มีรายละเอียดเกม แะแนวเกมที่ทางสตูดิโอจะผลิตออกมา ส่วนตัวแพลตฟอร์ม Stadia นั้นจะเปิดให้เล่นในวันที่ 19 พ.ย. นี้ ราคา 9.99 ดอลลาร์/เดือน

กูเกิลประกาศข่าวในงานแถลงข่าว Pixel 4 ว่าบริการเกมสตรีมมิ่ง Stadia จะเปิดบริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 19 พฤศจิกายนนี้

กูเกิลเคยประกาศราคาของ Stadia มาก่อนแล้วตั้งแต่ตอนงาน E3 ว่าเฉพาะตัวบริการคลาวด์ Stadia Pro คิดราคา 9.99 ดอลลาร์ต่อเดือน โดยผู้เล่นต้องซื้อเกมแยกต่างหาก (กูเกิลจะมีเกมเล่นฟรีให้บ้างเล็กน้อย เช่น Destiny 2) โมเดลจะต่างจากบริการเกมสตรีมมิ่งอื่นๆ เช่น PlayStation Now, GeForce Now หรือ xCloud ของไมโครซอฟท์ (ซึ่งยังไม่เปิดราคา) ที่เป็นการเล่นเกมแบบเหมาจ่าย รวมค่าเกมมาด้วยเลย (จะมองว่า Stadia เหมือนการเช่าเครื่องร้านเน็ตก็ได้ แค่เปลี่ยนเป็นเช่าเครื่องบนคลาวด์)

ผู้ที่ต้องการเล่น Stadia ในช่วงเปิดตัวจะต้องซื้อชุด Stadia Founder’s Edition ราคา 129.99 ดอลลาร์ ซึ่งจะรวมคอนโทรลเลอร์ 1 อัน, Chromecast Ultra สำหรับต่อทีวี และสมาชิก Stadia Pro นาน 3 เดือน

บริการสตรีมเกม Stadia ของกูเกิลนั้น ตัวเกมจะรันอยู่บนคลาวด์ทั้งหมด กูเกิลบอกว่าความละเอียดภาพสูงสุดถึง 4K และมีเฟรมเรตระดับ 60 fps แต่ถึงอย่างนั้นก็คงมีคนสงสัยว่าต่อให้ได้อินเทอร์เน็ตเร็วแค่ไหน ปัญหาความหน่วง (Latency) จนทำให้เกมแล็กก็น่าจะเกิดขึ้นได้อยู่ดี

Wired UK มีบทสัมภาษณ์ทีมงาน Stadia ของกูเกิลอย่างละเอียด ถึงวิสัยทัศน์ที่กูเกิลมองเห็นต่อวงการเกมสตรีมมิ่ง

ประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจคือการย้ายงานประมวลผลมาอยู่บนคลาวด์ 100% จะช่วยขยายศักยภาพของเกมออนไลน์แบบ MMO ให้รองรับผู้เล่มจำนวนมหาศาลในเซิร์ฟเวอร์เดียวกัน

ปกติแล้วเกมแนว MMO จะมีแนวคิดที่เรียกว่า shard หรือ sharding ซึ่งเป็นการแบ่งส่วนของผู้เล่นเป็นกลุ่มๆ ไปตามแต่ละเซิร์ฟเวอร์ เนื่องจากข้อจำกัดทั้งฝั่งเซิร์ฟเวอร์เอง และฝั่งไคลเอนต์ที่ต้องประมวลผลความเคลื่อนไหวของผู้เล่นจำนวนมากๆ ในหน้าจอเดียวกัน

ตัวแทนของกูเกิลไปพูดที่งานสัมมนาด้านทีวี International Broadcasting Convention ในอัมสเตอร์ดัม งานนี้เป็นงานปิด แต่ก็มีคนนำภาพสไลด์เกี่ยวกับแผนการของ Android TV ออกมาให้เว็บไซต์ xda เผยแพร่ต่อ

ข้อมูลจากสไลด์ระบุว่า กูเกิลเผยแผนการของ Android TV ในอีก 3 ปีข้างหน้า ได้แก่ Android Q, R, S ดังนี้