Mozilla ออก Firefox 77 รุ่นเสถียร ซึ่งเวอร์ชันนี้ไม่ค่อยมีของใหม่มากนัก
ที่มา - Mozilla
ไมโครซอฟท์อธิบายของใหม่ใน Windows 10 May 2020 Update (v2004) มีประเด็นที่น่าสนใจคือ ระบบจัดการหน่วยความจำแบบใหม่ที่เรียกว่า segment heap
เดิมที ระบบหน่วยความจำของ Windows มีแบบเดียว เรียกว่า NT heap ใช้กันมาตั้งแต่ Windows NT แต่พอถึงยุคของ Windows 10 ก็เริ่มมีระบบ segment heap ที่จัดการหน่วยความจำก้อนเล็กๆ ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพียงแต่จำกัดเฉพาะแอพแบบ UWP เท่านั้น (ถ้าเป็นแอพ Win32 จะยังใช้ NT heap)
ไมโครซอฟท์เผยความร่วมมือกับกูเกิล พัฒนาให้เว็บเบราว์เซอร์สาย Chromium ทั้งหมด (รวมถึง Chrome และ Edge) รองรับตัวตรวจสะกด Windows Spellcheck เมื่อใช้งานบนวินโดวส์
เดิมที Chromium ใช้ตัวตรวจสะกดโอเพนซอร์ส Hunspell ซึ่งใช้ในโครงการโอเพนซอร์สดังๆ หลายตัว (เช่น Firefox, LibreOffice) แต่ถ้าเทียบกันแล้ว Windows Spellcheck เหนือกว่ามากทั้งในแง่ฟีเจอร์ ภาษาที่รองรับ และความแม่นยำ สามารถตรวจสะกด URL, ที่อยู่อีเมล และตัวย่อต่างๆ ได้ (ในขณะที่ Hunspell จะมองว่าเป็นคำผิดทั้งหมด)
เมื่อต้นปี กูเกิลประกาศจะบล็อคข้อความแจ้งเตือนของ Chrome ที่ก่อให้เกิดความรำคาญ ตอนนี้กูเกิลประกาศแผนดำเนินงานแล้ว ว่าจะเริ่มใน Chrome 84 ที่มีกำหนดออก 14 กรกฎาคม 2020
เว็บไซต์ที่จะถูกบล็อคข้อความแจ้งเตือน จะต้องเข้าข่าย "abusive notifications" ซึ่งแยกเป็น 2 กรณีคือ
ต่อจากข่าว Chrome ยกเลิกบังคับใช้คุกกี้ SameSite ชั่วคราว ป้องกันเว็บพังในช่วง COVID-19 เมื่อเดือนเมษายน
ล่าสุดกูเกิลประกาศแล้วว่า Chrome จะกลับมาบังคับ SameSite Cookie อีกครั้งในวันที่ 14 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันออก Chrome 84 รุ่นเสถียร แต่นโยบายจะบังคับใช้กับ Chrome 80 ขึ้นไปด้วย
หลังจาก Microsoft Edge ย้ายมาใช้เอนจิน Chromium เสร็จสมบูรณ์ ก็ได้เวลาที่ไมโครซอฟท์จะทยอยเปลี่ยนเอนจิน EdgeHTML ของเดิมมาเป็น Chromium มากขึ้น
เอนจิน EdgeHTML ฝังมากับ Windows 10 และยังไม่ถูกนำออกในเร็ววัน เพราะถูกเรียกใช้ในแอพพลิเคชันอื่นๆ ที่ต้องการเรนเดอร์หน้าเว็บอีกต่อหนึ่งผ่าน Microsoft Edge WebView อีกที
สิ่งที่ไมโครซอฟท์เพิ่มเข้ามาคือ Microsoft Edge WebView2 ที่เปลี่ยนมาใช้ Chromium แทนให้เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ข้อดีสำหรับนักพัฒนาคือการที่มันใช้เอนจิน Chromium ที่นิยมอยู่แล้ว ปัญหาเรื่องการเรนเดอร์หน้าเว็บจึงหมดไป
กูเกิลออก Chrome 83 โดยข้าม Chrome 82 ตามที่เคยประกาศไว้ (จาก 81 มาเป็น 83 เลย) เวอร์ชันนี้มีของใหม่เป็นจำนวนมาก โดยเน้นที่ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว
หมายเหตุ: ฟีเจอร์หลายตัวจะทยอยเปิดให้ใช้งาน ผมลองอัพเดต Chrome เป็นเวอร์ชัน 83 แล้วก็พบว่ายังไม่ได้ฟีเจอร์เกือบทั้งหมดที่ประกาศไว้
ไมโครซอฟท์เปิดฟีเจอร์ของ Microsoft Edge รุ่นต่อไป โดยปรับรูปแบบการใช้งานให้สะดวกขึ้น
Chrome ประกาศแผนการแบนโฆษณาที่กินทรัพยากรสูง (resource-heavy ads) ที่ส่งผลต่อประสบการณ์ใช้งานเบราว์เซอร์
เงื่อนไขของโฆษณาที่กินทรัพยากรสูง จะต้องเข้าข่ายข้อใดข้อหนึ่ง
Chrome ยกตัวอย่างโฆษณากลุ่มนี้คือ โฆษณาที่แอบฝั่งสคริปต์ขุดคริปโต หรือโฆษณาที่เขียนโปรแกรมมาไม่ดี ไม่ได้ปรับแต่งทรัพยากรให้เหมาะสม เมื่อถึงขีดจำกัดที่ Chrome ตั้งไว้ โฆษณากลุ่มนี้จะถูกบล็อค กลายเป็นช่องว่างๆ ที่เขียนว่า "Ad removed" แทน
Chrome ประกาศฟีเจอร์ใหม่ชื่อว่า tab groups จัดกลุ่มแท็บโดยสามารถตั้งชื่อและกำหนดสีให้แต่ละกลุ่มได้ หลังจากทดสอบในวงจำกัดมาแล้วหลายเดือน
ระหว่างการทดสอบกูเกิลพบว่าผู้ใช้มักตั้งชื่อกลุ่มตามหัวข้อการใช้งาน, ความรีบด่วนของงาน (ทันที, สัปดาห์นี้, ทำทีหลัง), ตามสถานะงาน (เริ่มแล้ว, กำลังทำ, ติดตามผล) โดยกูเกิลแนะนำว่าสามารถใช้อีโมจิเป็นชื่อกลุ่มก็ได้เหมือนกัน
tab group รองรับ Chrome บนวินโดวส์, แมค, ลินุกซ์, และ Chrome OS โดยตอนนี้เปิดใช้งานในเ Chrome Beta แล้ว และจะเข้าเวอร์ชั่นเสถียรในสัปดาห์หน้า
ที่มา - Google Blog
Mozilla ออก Firefox 76 รุ่นเสถียร ของใหม่ในเวอร์ชันนี้เน้นที่ระบบจัดการรหัสผ่าน Lockwise แจ้งเตือนผู้ใช้ทันทีหากพบว่าเว็บไซต์ถูกเจาะ รหัสผ่านรั่ว นอกจากนี้ Firefox 76 ยังเพิ่มเมนู Logins and Passwords เข้ามาในเมนูหลักให้กดกันง่ายๆ (หรือเข้าได้จากหน้า about:logins)
ของใหม่อีกอย่างที่สำคัญคือรองรับ Audio Worklets ช่วยให้ Firefox ประมวลผลไฟล์เสียงที่ถูกบีบอัดมาได้ ฟีเจอร์นี้ยังช่วยให้ Firefox สามารถคุยวิดีโอคอลล์ผ่าน Zoom ได้โดยตรง ไม่จำเป็นต้องติดตั้งโปรแกรม Zoom บนเครื่องอีกแล้ว
ในโพสต์เดียวกันกับการประกาศออกเบราว์เซอร์เดสก์ทอปเวอร์ชัน 3.0 Vivaldi ยังได้ประกาศออกรุ่นเสถียรของ Vivaldi บน Android หลังจากที่ได้ทดสอบรุ่นเบต้ามาตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว
สำหรับจุดเด่นที่ทำให้ Vivaldi บน Android แตกต่างไปจากเบราว์เซอร์บนสมาร์ทโฟนเจ้าอื่นคือ การใช้ UI แบบแท็บเพื่อความสะดวกในการจัดการ/สลับการใช้งานหน้าเว็บเพจ แบบเดียวกันกับเบราว์เซอร์บนเดสก์ทอปที่ผู้ใช้น่าจะคุ้นเคยกันดี
Vivaldi เบราว์เซอร์ทางเลือกเพื่อผู้ใช้ power user โดยอดีตซีอีโอ Opera ได้ประกาศออกเวอร์ชัน 3.0 ที่มุ่งเน้นไปยังฟีเจอร์รักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ โดยได้เพิ่มทั้งระบบบล็อคโฆษณาและความสามารถในการบล็อคตัวติดตามผู้ใช้งานบนเว็บไซต์เข้ามาในอัพเดตนี้
รายละเอียดของใหม่พอสรุปได้ดังนี้
Chromebook ถือเป็นฮาร์ดแวร์สายกูเกิลที่มีระยะเวลาซัพพอร์ตยาวนานกว่า Android มาก (บางรุ่นคือมีระยะเวลาซัพพอร์ตนานถึง 8 ปี) แต่ไม่ว่าระยะซัพพอร์ตนานแค่ไหน สุดท้ายแล้วก็มีจุดสิ้นสุดอยู่ดี
ดูเหมือนว่ากูเกิลไม่ได้พอใจแค่นั้น เพราะมีคนไปค้นเจอโค้ดของ "LaCrOS" โครงการที่แยกส่วนเว็บเบราว์เซอร์ Chrome ออกจากระบบปฏิบัติการ Chrome OS เพื่อให้สามารถอัพเดตเฉพาะตัว Chrome ต่อไปได้ แม้ว่า Chrome OS จะหมดระยะซัพพอร์ตแล้วก็ตาม
การอัพเดตเอนจิน Chrome ให้ทันสมัย รองรับฟีเจอร์เว็บใหม่ๆ เป็นประเด็นสำคัญไม่น้อย ก่อนหน้านี้ Chromecast ก็เคยมีประเด็นเรื่องการอัพเดตเวอร์ชัน Chrome เช่นกัน
Gabi Cirlig นักวิจัยความปลอดภัยระบุกับเว็บ Forbes ว่าเขาพบว่าเบราว์เซอร์ Xiaomi ที่ติดตั้งไปกับโทรศัพท์ของ Xiaomi เป็นค่าเริ่มต้น และเบราว์เซอร์ที่เปิดให้ดาวน์โหลดจาก Google Play อย่าง Mi Browser Pro และ Mint Browser นั้นจะส่งข้อมูลการใช้งานกลับเซิร์ฟเวอร์จำนวนมาก โดยส่งข้อมูลไปพร้อมกับหมายเลขประจำเครื่องและเวอร์ชั่นแอนดรอยด์ที่น่าจะทำให้ระบุตัวตนผู้ใช้กลับได้โดยง่าย
โฆษกของ Xiaomi ระบุกับ Forbes ยืนยันว่าบริษัทรักษาความเป็นส่วนตัวผู้ใช้, ข้อมูลที่เก็บไปก็ไม่ผูกกับตัวตนผู้ใช้แต่อย่างใด, และผู้ใช้ได้ให้ความยินยอมในการเก็บข้อมูลแล้ว โดยอ้างว่าการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บโดยไม่ระบุตัวตนผู้ใช้นั้นเป็นแนวทางทั่วไปที่หลายบริษัทใช้ปรับปรุงการทำงานของเบราว์เซอร์
หลังกูเกิลกลับมาออก Chrome 81 จากที่ต้องหยุดออกรุ่นใหม่ไปช่วงหนึ่ง ฝั่ง Microsoft Edge ที่ใช้เอนจิน Chromium ก็ออกเวอร์ชัน 81 ตามมา
ของใหม่ในเวอร์ชัน 81 มีไม่มากนัก เน้นไปที่การแปลภาษา DevTools เท่านั้น ในมุมของผู้ใช้งานคงไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงอะไร ส่วน Edge เวอร์ชันหน้าจะข้ามเลข 82 เช่นเดียวกับ Chrome โดยจะเป็นเลขเวอร์ชัน 83 เลย
ก่อนหน้านี้ ไมโครซอฟท์เพิ่งประกาศฟีเจอร์ใหม่ชุดใหญ่ให้ Edge ที่จะทยอยเพิ่มเข้ามาใเวอร์ชัน Insiders เร็วๆ นี้
กูเกิลกลับมาปล่อย Chrome 81 ตามที่ประกาศไว้ และเป็นเวอร์ชั่นก่อนข้ามเวอร์ชั่น 82 ไปเดือนพฤษภาคมนี้ โดยมีฟีเจอร์หลัก 3 รายการ ได้แก่
เวอร์ชั่นนี้ Pete LePage เจ้าหน้าที่ Developer Advocate ของ Chrome ยังต้องบรรยายสาธิตฟีเจอร์ใหม่ๆ จากที่บ้านของเขาในนิวยอร์กอีกด้วย
ทีมพัฒนา Chrome เสนอการทดสอบ UI แบบใหม่สำหรับส่วนเสริมของเบราว์เซอร์ (extension) โดยระบุเหตุผลว่าเป็นการแสดงให้ผู้ใช้เห็นชัดเจนขึ้นว่าส่วนเสริมใดเข้าถึงข้อมูลอะไรบ้าง อย่างไรก็ดีหน้าจอที่เสนอมาระบุถึงกระบวนการติดตั้งส่วนเสริมว่าไอคอนที่มุมขวาบนนั้นจะถูกซ่อนทันทีหลังจากติดตั้ง และผู้ใช้ต้องกด pin กลับมาเองอีกครั้งเพื่อแสดงไอคอน
นักพัฒนาที่มาตอบโพสข้อเสนอนี้ไม่พอใจนัก โดยหลายความเห็นระบุว่ากูเกิลผูกเรื่องการปกป้องความเป็นส่วนตัวผู้ใช้เข้ากับการแสดงไอคอนที่จะทำให้ส่วนเสริมถูกเรียกใช้งานยากขึ้นทั้งๆ ที่ผู้ใช้เป็นติดตั้งเองแต่แรก
Mozilla ออก Firefox 75 เวอร์ชันเสถียร การเปลี่ยนแปลงสำคัญคือแถบ address bar ที่ปรับโฉมให้ช่องใหญ่ขึ้นตอนค้นหา, แนะนำคำค้นที่เกี่ยวข้อง และแสดงรายชื่อเว็บไซต์ที่เข้าบ่อย (Top Site) เพิ่มเติมในรายการด้วย
ของใหม่อย่างอื่นได้แก่ รองรับแพ็กเกจแบบ Flatpak บนลินุกซ์แล้ว ทำให้ติดตั้ง Firefox บนดิสโทรรุ่นใหม่ๆ (โดยเฉพาะสาย Red Hat/Fedora) ได้ง่ายขึ้น
โครงการ Chromium ประกาศปรับดีไซน์ของ "ฟอร์ม" บนหน้าเว็บ (ปุ่ม ตัวเลือก แถบเลื่อน ฯลฯ) ที่เดิมสไตล์ต่างกันคนละทิศทาง ให้ดูเป็นไปในแนวทางเดียวกันมากขึ้น
โครงการนี้เป็นความร่วมมือระหว่างทีม Google Chrome และ Microsoft Edge มาช่วยกันออกแบบ โดยตั้งใจให้ดีไซน์ใหม่เป็นสากลมากขึ้น ใช้ได้กับทุกระบบปฏิบัติการ มีความแบนราบ (flat) ตามสมัยนิยม ลดการไล่สี (gradient) จากโลกยุคก่อนลงมา
Net Applications รายงานสถิติเว็บเบราว์เซอร์ประจำเดือนมีนาคม 2020 มีจุดเปลี่ยนที่น่าสนใจคือ ส่วนแบ่งตลาดของ Microsoft Edge สามารถแซงหน้า Firefox ได้แล้ว ขึ้นมาเป็นเบราว์เซอร์อันดับสองของโลกเดสก์ท็อปแล้ว
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Edge มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นคือ Edge ตัวใหม่พลัง Chromium ออกรุ่นเสถียร และไมโครซอฟท์ก็ทยอยปล่อยอัพเดตให้ผู้ใช้ Windows 10 กัน
Microsoft Edge ประกาศแผนการยกเลิก TLS 1.0 และ 1.1 ในเวอร์ชัน 84 ที่จะออกในเดือนกรกฎาคม 2020 โดยผู้ที่จำเป็นต้องใช้ TLS 1.0/1.1 ยังสามารถเปิดกลับคืนได้อยู่ (ปิดเป็นค่าดีฟอลต์)
ส่วน IE11 และ Edge ตัวเก่า (ปัจจุบันเรียก Edge Legacy) จะปิดการทำงานของ TLS 1.0/1.1 ในเดือนกันยายน 2020
ไมโครซอฟท์ประกาศฟีเจอร์ใหม่ชุดใหญ่ให้ Edge โดยจะทยอยเพิ่มมาใน Insider Channel เร็วๆ นี้
เราเห็นข่าว Chrome ขอหยุดพักการอัพเดตเวอร์ชันไปหลายวัน เพราะทีมพัฒนาได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัส
ฝั่งของ Firefox (ที่สำนักงานใหญ่ Mozilla ก็อยู่ไม่ห่างจากกูเกิลนัก) เลือกใช้นโยบายที่ต่างไป คือ ยังรักษาตารางการออกเวอร์ชันใหม่ที่เคยประกาศเอาไว้ แต่อาจลดจำนวนฟีเจอร์ใหม่หรือการเปลี่ยนแปลงในแต่ละเวอร์ชัน เพื่อป้องกันปัญหาเจอบั๊กแล้วไม่สามารถแก้ได้ทัน
Firefox เวอร์ชันถัดไปคือ Firefox 75 มีกำหนดออกวันที่ 7 เมษายน 2020
จากที่กูเกิลประกาศว่า Chrome หยุดออกเวอร์ชันใหม่ชั่วคราว เพราะทีมต้องปรับตารางทำงานจากปัญหาไวรัส
ล่าสุดทีมงาน Chrome กลับมาทำงานตามปกติแล้ว โดยปรับรอบการออกรุ่นใหม่ เพื่อชดเชยเวลาที่เสียไป