เว็บไซท์ VentureBeat อ้างว่าแอปเปิลได้ทำการขอร้องกูเกิล ไม่ให้พัฒนาการใช้งานเทคโนโลยีมัลติทัชบนแพลทฟอร์ม Android และกูเกิลก็ยินยอมแต่โดยดี โดยข้อมูลนี้มาจากหนึ่งในทีมพัฒนา Android ที่ไม่อยากเปิดเผยตนเอง

โดยจากข้อมูลนั้น แอปเปิลได้นำเทคโนโลยีมัลติทัชมาใช้เป็นตัวชูโรงสำหรับไอโฟนและไอพ็อดทัช และได้ขอให้กูเกิลไม่เพิ่มการรองรับการใช้งานมัลติทัชเข้าไปใน Android และกูเกิลก็ยินยอม

นอกจากนี้ ยังได้บอกอีกว่า กูเกิลนั้นคำนึงถึงความสัมพันธ์กับแอปเปิลเป็นสำคัญในการทำตามคำร้องขอ ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างแอปเปิลกับปาล์มคงไม่ต้องพูดถึงแล้ว หลังจากที่แอปเปิลได้พูดออกเป็นนัยถึงปาล์ม ว่าแอปเปิลจะต่อสู้ถึงที่สุดเพื่อไม่ให้ทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัทถูกละเมิด

มีรายงานข่าวอ้างว่าบริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ AIS เตรียมนำเข้าอิสระไอโฟน โดยจัดจำหน่ายให้กับกลุ่มลูกค้าองค์กร เอสเอ็มอีและตามออร์เดอร์เท่านั้น โดยตั้งราคาขายต่ำกว่าในตลาดราว 4 พันบาท

AIS อ้างว่าการนำเข้านี้ไม่ถือว่าผิดกฎเพราะเป็นการนำเข้าผ่านผู้แทนจำหน่ายที่ได้รับการแต่งตั้งแล้ว โดยการจัดจำหน่ายนี้จะไม่มีอยู่ตามร้านค้าทั่วไป

ข้างฝ่าย DTAC กล่าวว่ายังไม่มีแผนจะทำการตลาดแบบ AIS เพราะตอนนี้ก็ยังเจรจากับทางแอปเปิลอยู่ ทั้งนี้บริษัทต้องการรอใบอนุญาต 3 จีเสียก่อน จึงอาจจะเริ่มทำการจัดจำหน่ายแบบเดียวกับ TrueMove

ที่มา: โพสต์ทูเดย์

iLife เป็นชุดโปรแกรมของจัดการรูป วิดีโอ เพลง ดีวีดี และเว็บ ของแอปเปิล โดยภายในชุดก็จะมีโปรแกรมในชุดทั้งหมด 5 ตัว คือ iPhoto, iMovie, iWeb, iDVD และ GarageBand โดยปกติก็จะแถมมาด้วยสำหรับแมคทุกเครื่อง ซึ่งหลังจากงาน MacWorld ครั้งล่าสุดที่มีการเปิดตัวชุด iLife '09 โดยมีฟีเจอร์ใหม่ๆ มากมาย แต่ที่น่าจะฮือฮาที่สุดก็คงจะเป็น iPhoto ที่จะมาลองรีวิวให้ดูกัน

สิงที่อยากทดสอบอีกอย่างนอกจากตัวโปรแกรมคือการสั่งซื้อสินค้าผ่าน Apple Online Store Thailand เพราะพึ่งเปิดตัวได้ไม่นาน เลยลองทดสอบเรื่องความเร็วในการส่ง การตอบคำถามของ Call Center และระบบติดตามสินค้า

ข่าวสั้นสองข่าวเกี่ยวกับฟีเจอร์ของ Mac OS X 10.6 Snow Leopard

อันแรกมีนักพัฒนาที่ได้รับ Snow Leopard รุ่นทดสอบ ค้นพบว่ามีเฟรมเวิร์ค CoreLocation เพิ่มเข้ามาสำหรับการค้นหาว่าพิกัดของคอมพิวเตอร์ที่ใช้อยู่ตรงไหน ฟีเจอร์นี้อยู่ใน iPhone SDK อยู่แล้ว แต่พอมาอยู่ในแมคที่ไม่มี GPS ก็ใช้วิธีการตำแหน่งคร่าวๆ จากสถานีของโทรศัพท์มือถือที่ต่อเชื่อมกับคอมพิวเตอร์แทน คาดได้ว่าโน้ตบุ๊กของแอปเปิลในอนาคตอาจจะมี GPS เพิ่มเข้ามา

ข่าวที่สองคือฟีเจอร์มัลติทัช ซึ่งตอนนี้โปรแกรมบางตัวของแอปเปิลอย่างเช่น Safari หรือ Preview มีให้ใช้แล้ว กำลังจะกลายเป็นเฟรมเวิร์คใหม่อีกตัว เพื่อให้โปรแกรมอื่นๆ ที่ไม่ใช่ของแอปเปิลเรียกใช้ได้เหมือนกัน

Tegra เป็นชิปประมวลผลสำหรับอุปกรณ์พกพาที่ NVIDIA เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว จุดเด่นของมันคือรวมหน่วยประมวลผลทุกชนิดที่จำเป็นสำหรับมือถือมาไว้บนฮาร์ดแวร์ชิ้นเดียว และแน่นอนมีความสามารถด้านกราฟฟิกระดับ GeForce รุ่นเล็ก (ข่าวเก่า)

Tegra อาจจะเป็นชิปที่ร้อนแรงที่สุดในปี 2009 ก็ได้ เพราะมีข่าวลือจากบริษัทวิจัย Broadpoint (ซึ่งอ้างข้อมูลมาจากผู้ผลิตชิ้นส่วนฮาร์ดแวร์อีกต่อหนึ่งว่า) HTC, ไมโครซอฟท์ และแอปเปิล สนใจสร้างมือถือที่ใช้ Tegra อยู่

ดูเหมือนว่า MacBook Pro 17" รุ่น Unibody ที่แอปเปิลเพิ่งประกาศเปิดตัวไปจากงาน MacWorld '09 ที่ผ่านมาเมื่อเดือนที่แล้ว จะงานเข้าซะแล้ว

ผมเป็นคนหนึ่งที่สั่งเจ้าเครื่องตัวนี้ เมื่อวานอยู่ดี ๆ เข้าไปเช็ค Order ปรากฏว่าจาก Shipping Date วันที่ 7 เดือนนี้ กลายเป็น 19 เดือนนี้แทน และเท่าที่ผมคุย ๆ กับคนอื่น ๆ ในฟอรั่มของ MacRumors ดูเหมือนหลาย ๆ คนจะพบปัญหาเดียวกัน

เพียงแต่ว่าผู้สั่งซื้อในสหรัฐทั้งหลายในตอนแรกดูเหมือนจะไม่มีการล่าช้าแต่อย่างใด โดยคนที่รายงานเข้ามาว่ามีปัญหาจะมีแต่คนที่อยู่ในประเทศอื่น ๆ แต่ดูเหมือนว่าไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา คนที่สั่งซื้อในสหรัฐก็โดนเลื่อนไปวันที่ 19 เหมือนกันหมด

Arstechnica ได้บอกว่าทีมงานเว็บและผู้ใช้บางส่วนได้พบว่าคุณสมบัติใหม่บางส่วนของ iLife '09 นั้นสามารถใช้ได้เฉพาะบนเครื่องแมคที่ใช้ซีพียูจากอินเทลเท่านั้น หนึ่งในนั้นก็คือ Learn to Play จาก GarageBand '09

โดย Learn to Play เป็นฟีจเจอร์ใหม่ของ Garageband '09 ที่ผู้ใช้สามารถที่จะเรียนวิธีการเล่นเปียโนและกีตาร์ได้ แต่ผู้ใช้แมครุ่น PowerPC เมื่อพยายามจะใช้จะพบคำว่า "Garageband Learn to Play ต้องการอินเทลแมคสองคอร์ขึ้นไป"

ดูเหมือนว่าข่าวลือที่ผ่าน ๆ มาว่า Snow Leopard ระบบปฏิบัติการตัวต่อไปสำหรับเครื่องแมคอาจจะไม่สนับสนุนเครื่องแมค PowerPC อีกต่อไปจริง ๆ แล้วก็ได้

หลังจากที่มีคำสั่งจากคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (Conseil de la concurrence) ให้ยกเลิกสิทธิ์ในการขายไอโฟนแบบผูกขาดของบริษัทออเรนจ์ในประเทศฝรั่งเศสไปแล้วก่อนหน้านี้ ทั้งแอปเปิลและออเรนจ์ก็ยื่นฟ้องต่อศาลอุทธรณ์ขอให้ทบทวนคำสั่งดังกล่าว และในวันนี้ศาลอุทธรณ์ก็อ่านคำพิพากษายืนยันคำสั่งตามเดิมต่อไป

การร้องเรียนในเรื่องนี้เริ่มจากบริษัท Bouygues Telecom คู่แข่งอันดับสองในตลาดฝรั่งเศสได้ยื่นร้องเรียนก่อน ตามมาด้วยบริษัท SFR คู่แข่งอันดับสามและสหภาพผู้บริโภค (UFC-Que Choisir) ร่วมกันร้องเรียนจนได้คำสั่งนี้ออกมาเมื่อวันที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมา

สถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม (สบท.) บอกว่าได้มีการตรวจสอบโปรโมชั่นไอโฟน 3G ของทรูมูฟ พบว่าอาจจะเข้าข่ายละเมิดสิทธิผู้บริโภค

จากเนื้อหาข่าว พอสรุปได้ว่าปัญหาหลักคือผู้ใช้เริ่มมีปัญหาในการยกเลิกสัญญาแล้ว โดยเฉพาะเมื่อต้องทำการสมัครผ่านอินเทอร์เน็ต ทำให้สัญญาไม่เป็นลายลักษณ์อักษร และหากต้องการยกเลิกสัญญากลับได้รับคำตอบว่ายกเลิกไม่ได้ แม้ว่าทรูจะยืนยันว่าเครื่องไอโฟน 3G สามารถนำไปใช้กับเครือข่ายอื่นได้ก็ตาม

ปัญหาที่สองคือปัญหาการเลือกปฏิบัติ และแบ่งแยก กีดกันผู้ใช้บริการ โดยเฉพาะโปรโมชั่นเบสิกหรือซื้อเครื่องเปล่า ที่สงวนสิทธิให้สำหรับลูกค้าทรูเท่านั้น ทำให้ผู้ใช้บริการทั่วไปไม่สามารถสมัครใช้บริการได้

ครึ่งปีหลังของปี 2008 เราได้เห็นหลายๆ ค่ายพยายามเป็นอย่างยิ่งที่จะดึง Adobe มาเป็นพวกเพราะต้องการเทคโนโลยี Flash ให้ลงในโทรศัพท์ค่ายตัวเองให้ได้ ที่เห็นชัดๆ คงเป็น Nokia 5800 ที่รองรับได้ดีขนาดที่ว่าเล่นวีดีโอในเว็บได้แล้ว แต่คำถามหลักกลับตกลงไปอยู่ที่ไอโฟนที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างดีว่าจะรองรับ Flash เมื่อใหร่กัน

วันนี้เองทางผู้บริหารของ Adobe ก็ออกมาระบุว่าขั้นตอนในตอนนี้นั้นอยู่ที่ทาง Adobe เอง โดยการพัฒนาล่าสุดนั้นยังไม่สามารถเค้นประสิทธิภาพของ Flash ออกมาได้ดีพอที่ทางแอปเปิลจะติดตั้งลงในไอโฟนได้

ถ้าใครยังพอจำการเปิดตัว iPhone ของสตีฟ จ็อบส์เมื่อปี 2007 ได้ เขาบอกว่าขอส่วนแบ่งตลาดเพียง 1% จากยอดขายมือถือทั้งหมด 1 พันล้านเครื่องต่อปี (นั่นคือขาย iPhone ได้ 10 ล้านเครื่องนั่นเอง)

ถึงแม้ว่าปีแรกจะโดนหยามว่าไม่สำเร็จ แต่พอปีถัดมา 2008 กับ iPhone 3G และราคาที่เย้ายวนใจในระดับหนึ่ง ทำให้แอปเปิลสามารถทำตามเป้าหมายของตัวเองได้แล้ว

บริษัทวิจัย ABI Research บอกว่าในปี 2008 มีโทรศัพท์มือถือถูกขายออกไปทั้งสิ้น 1.21 พันล้านเครื่อง และแอปเปิลมีส่วนแบ่งตลาด 1.1% หรือประมาณ 12 ล้านเครื่อง อันดับส่วนแบ่งตลาดเป็นดังนี้

ที่มาของเรื่องให้ย้อนดูข่าวเก่าครับ

• สตีฟ จ็อบส์ยอมรับ สุขภาพไม่ดีจึงขอลาเวที - 5 มกราคม 2552
• สตีฟ จ็อบส์ ประกาศลาป่วยถึงเดือนมิถุนา - 15 มกราคม 2552

จากข่าวแรก จดหมายของจ็อบส์บอกว่าปัญหาสุขภาพของเขานั้น "ไม่น่าเป็นห่วง"

The remedy for this nutritional problem is relatively simple and straightforward

แต่สิบวันถัดมา เขาต้องประกาศลาพักยาวไปจนถึงเดือนมิถุนายน

หลังจากโปรแกรม I Am Rich เป็นที่ฮือฮาสำหรับราคาที่ตั้งไว้ 999.99 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 35,000 บาท) สำหรับโปรแกรมที่แค่แสดงผลรูปอัญมณีสีแดงบนจอเพียงเท่านั้น วันนี้ App Store เสนอขายโปรแกรมใหม่สำหรับ iPhone/iPod Touch ราคาแพงอีกแล้วครับ

โปรแกรมดังกล่าวชื่อว่า MyCentrl ซึ่งผลิตโดยบริษัท Unype โดยโฆษณาว่า "MyCentrl is a social networking application" และภาพหน้าจอแสดงรูปของ People, Chat, Go To, View และ Setting เท่านั้น ไม่มีคำอธิบายอื่นใด รวมไปทั้งที่เว็บไซต์ของบริษัทก็ไม่ได้ให้รายละเอียดอื่นอีกด้วย โดยโปรแกรมดังกล่าวตั้งราคาไว้อยู่ที่ 999.99 ดอลลาร์สหรัฐเหมือน I Am Rich (ราคานี้เป็นราคาสูงสุดที่ผู้ขายจะตั้งได้)

ก่อนหน้านี้ นายเปเปอร์มาสเตอร์ เจ้าปัญหาสำหรับ IBM นั้นได้ถูกคำสั่งศาลไม่ให้ทำงานกับแอปเปิล เนื่องจาก IBM ได้อ้างว่าเขาผิดสัญญาการจ้างงานที่เคยทำไว้กับ IBM โดยการลาจาก IBM ไปหาคู่แข่ง

แต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะสามารถทำงานกับแอปเปิลได้แล้ว โดยเขาจะทำงานในตำแหน่ง Senior Vice President (รองประธานอาวุโส) ของหน่วย Devices Hardware Engineering ตั้งแต่วันที่ 24 เดือนเมษายนนี้เป็นต้นไป โดยงานหลักของเขาส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับการพัฒนาฮาร์ดแวร์เกี่ยวกับไอพ็อดและไอโฟนเป็นหลัก

จากข่าว สตีฟ จ็อบส์ ประกาศลาป่วยถึงเดือนมิถุนา และ สตีฟ จ็อบส์ อาจจะปลูกถ่ายตับ สำนักข่าว Valley Wag ซึ่งรวมเรื่องซุบซิบในซิลิคอน วัลเลย์ ได้รายงานว่าสตีฟ จ็อบส์ เข้าพักที่โรงพยาบาลสแตนฟอร์ดเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และมีคิวผ่าตัดในช่วงเช้าวันจันทร์ (27) ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐ

ข่าวหลุดออกมาจากพนักงานของโรงพยาบาลสแตนฟอร์ด ที่มาร่วมงานปาร์ตี้หลังงานเลิกในช่วงเย็นวันนั้น และเล่าให้เพื่อนๆ (รวมถึงแหล่งข่าวของ Valley Wag) เกี่ยวกับคนไข้คนพิเศษของเขาเมื่อตอนกลางวัน

จริงแค่ไหนไม่รู้ แต่ก็ขอให้หายไวๆ นะครับ

วันนี้ (24 ม.ค. 08) เมื่อ 25 ปีที่แล้ว Steve Jobs ได้เปิดตัว apple macintosh เครื่องแรกครับ ดูได้ ที่นี่ ตอนนั้นมีคนร่วมฟังถึง 3000 คน และเป็นการเปิดตัวที่กระแทกวงการคอมครั้งใหญ่ทีเดียว สังเกตุจากผู้เข้าร่วมซิครับ ว่าเค้าตื่นเต้นขนาดไหน

Apple Macintosh commercial เป็นโฆษณาของ macintosh รุ่นนี้ที่ได้รับความนิยมมากในช่วงนั้นครับ เป็นโฆษณาที่ดี และสื่อได้ถูกรูปแบบทีเดียวครับ

เห็น macintosh เครื่องแรกแล้วก็ขำดี อยากรู้ว่ามันทำอะไรได้บ้าง แล้วอีก 25 ปีข้างหน้า ถ้า macintosh ยังอยู่ จะพัฒนาไปถึงไหนกันนี่

จากคำให้สัมภาษณ์ของ Tim Cook ผู้บริหารของแอปเปิลที่ขู่คู่แข่งว่าจะดำเนินการทางกฎหมายหากถูกละเมิดลิขสิทธิ์ (จริงๆ ก็ไม่ได้ระบุชื่อแต่ฟังแล้วก็รู้แน่ว่าคือปาล์ม) ที่ผ่านมา (ข่าวเก่าโดยคุณ infernohellion: แอปเปิลขู่ Palm Pre จะไม่ยืนเฉย หากโดนละเมิดสิทธิ) วันนี้ปาล์มก็ออกมาให้สัมภาษณ์โต้กลับแล้วครับ

คุณ Lynn Fox ซึ่งเป็นผู้แทนจากบริษัทปาล์ม ได้ให้สัมภาษณ์กับ All Things Digital ว่า

จากข้อมูลการจดสิทธิบัตรที่ถูกเปิดเผยออกมาในวันนี้ จะเห็นว่าแอปเปิลกำลังค้นคว้าเซ็นเซอร์ตรวจจับเสียงรอบข้างอยู่ (ambient sound sensor) ในลักษณะเดียวกับเซ็นเซอร์ตรวจจับระดับแสงรอบข้าง ที่ได้ถูกนำมาใช้บนเครื่องแมค ไอพ็อดทัช และไอโฟนอยู่ทุกวันนี้

โดยเซ็นเซอร์ตัวนี้ จะถูกนำมาใช้เพื่อปรับระดับเสียงให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม และความดังของเสียงรอบข้าง เนื่องจากหากผู้ใช้งานอยู่ในที่เงียบ ริงโทนเสียงดังอาจจะน่ารำคาญมาก แต่หากอยู่ที่ดังอาจจะทำให้ไม่ได้ยินเสียง หากมีเซ็นเซอร์นี้อยู่ จะทำให้สามารถปรับความดังเสียงออกจากลำโพงให้เหมาะสมกับเสียงรบกวนรอบข้างได้

มีข่าวลือออกมามากมายเกี่ยวกับการที่แอปเปิลอาจออกโทรศัพท์ขนาดเล็กและเน็ตบุ๊ค ในการรายงานผลประกอบการของแอปเปิลที่ผ่านมา แอปเปิลได้ออกมาสยบข่าวลือที่ออกมาก่อนหน้านี้แล้วครับ

Tim Cook ซึ่งเป็น CEO ชั่วคราวของแอปเปิลได้ให้สัมภาษณ์ว่า แอปเปิลไม่สนใจตลาดโทรศัพท์ระดับล่าง และตลาดระดับนั้นไม่ใช่สิ่งที่แอปเปิลจะยุ่งเกี่ยวด้วย เพราะแอปเปิลไม่ได้ต้องการยอดขายปริมาณมาก แต่ต้องการผลิตโทรศัพท์ที่ดีที่สุดในโลกต่างหาก

ระหว่างการรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของปี นาย Tim Cook ตำแหน่ง COO ของแอปเปิลนั้นได้ออกมากล่าวเกี่ยวกับ Palm Pre อ้อม ๆ ว่า "เราจะไม่ยืนเฉยแน่ ในเมื่อมีคนมาละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของเรา"

จากคำพูดที่ว่านี้ ค่อนข้างชัดเจนว่านาย Cook ได้กล่าวถึง Palm และนาย Jon Rubinstein ผู้ใหญ่ของ Palm ที่เคยทำงานกับแอปเปิลมาก่อน แม้ว่าเขาจะไม่ได้กล่าวถึง Palm ตรง ๆ ก็ตาม ...​ "ผมไม่ได้พูดเจาะจงถึงบริษัทไหน"

แม้ว่า Palm และผู้พัฒนากลุ่มใหญ่ที่เคยทำงานกับแอปเปิล ที่ถูกชักชวนโดย Jon Rubinstein ยังไม่ประกาศวันเปิดตัวของ Palm Pre แต่ดูเหมือนว่าแอปเปิลคงไม่นิ่งนอนใจอย่างแน่นอน

แอปเปิลแถลงผลประกอบการประจำไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2009 ซึ่งเป็นไตรมาสที่หลายคนจับตามอง เนื่องจากมีช่วงคริสต์มาสของฝรั่งและเป็นปีที่เศรษฐกิจเริ่มถดถอยพอดี

แบบรวบรัดคือทั้งรายรับและกำไรของแอปเปิลยังเติบโต (สวนกระแสชาวบ้าน) เพียงแต่อัตราการเติบโตก็ไม่ร้อนแรงอย่างเดิม ด้วยปัจจัยด้านสภาพตลาด

หลังจากที่เดากันมาแล้วกี่ครั้งกี่ครั้งว่าแอปเปิลจะเลิกขาย MacBook สีขาวอย่างเป็นทางการเร็ว ๆ นี้ สุดท้ายก็เดาผิด (อีกแล้ว) เพราะแอปเปิลได้แอบอัพสเปคของ MacBook ตัวนี้ให้เกือบเท่า Unibody MacBook แล้ว

โดยสเปคใหม่ได้เปลี่ยนมาใช้ Core 2 Duo ตัวใหม่ พร้อมกับมีแรมมาให้อีกเป็น 2GB (แม้ว่าจะยังเป็น DDR2 อยู่) แต่ที่สำคัญที่สุดคือการ์ดจอได้เปลี่ยนมาใช้ GeForce 9400M เหมือนกับรุ่น Unibody อื่น ๆ แล้ว โดยทั้งหมดนี้มาในราคา 37,900 บาท

สรุปง่าย ๆ หากไม่ซื้อเครื่องนี้แต่เพิ่มเงินอีก 11,000 บาท จะได้เครื่องที่ "ดูดีกว่า" และความจุฮาร์ดดิสก์ที่มากกว่านิด แรมขั้นสูงกว่า DisplayPort และจอกระจก

แต่สิ่งเดียวที่ MacBook ขาวนี้ยังคงเหนือกว่าคือ ....... มันมี FireWire 400

จากเอกสารสนับสนุนการใช้งานจากแอปเปิล ผู้ที่ซื้อชุดโปรแกรม iWork '09 จากกล่องที่วางขายตามร้านไม่จำเป็นที่จะต้องป้อนเลขซีเรียลนัมเบอร์หลังจากติดตั้งโปรแกรมเสร็จแล้ว ซึ่งจะแตกต่างจากเมื่อก่อนที่ผู้ใช้งานจำเป็นที่จะต้องใส่หมายเลขซีเรียลนัมเบอร์เมื่อเริ่มใช้งานครั้งแรก

เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ของแอปเปิล เพราะชุดโปรแกรม iLife และ Mac OS X เองก็ไม่ได้ต้องการให้ผู้ใช้ใส่ซีเรียลนัมเบอร์มาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะซอฟต์แวร์ทั้งสองนี้มักจะมาพร้อมกับเครื่องแมคที่ขายช่วงเวลาเดียวกับรุ่นซอฟต์แวร์นั้น ๆ อยู่แล้ว

แหล่งข่าวจากบล็อกในประเทศจีนระบุว่าแอปเปิลกำลังผลิต MacBook Air รุ่นใหม่ที่ขยายหน้าจอให้ใหญ่กว่าเดิม และจะใช้อินเทล Core 2 รุ่นใช้พลังงานต่ำพิเศษสำหรับ MacBook Air รุ่นใหม่นี้ งานนี้อาจจะเป็นเพียงแค่ข่าวลือลอยๆ เท่านั้น เพราะลองคิดดูว่าขนาด 15 นิ้ว ก็ไม่ใช่ขนาดที่พกพาสะดวกเท่าไรนักและจะไปซ้ำซ้อนกับ MacBook Pro ที่มีขนาดเท่ากันและหนักกว่า แต่ราคาไม่ต่างกันมากด้วยเมื่อเปรียบเทียบกับ MacBook Air รุ่นที่วางขายอยู่ในปัจจุบัน

ที่มา - Apple Insider

มีข่าวลือจากเว็บไซต์ Tom's Hardware ว่าแอปเปิลเป็นหนึ่งในบริษัทแรกๆ ที่ได้รับตัวต้นแบบของ nVidia Ion (แพลตฟอร์มที่ใช้ Atom ของ Intel กับชิพกราฟฟิค GeForce 9400M ของ nVidia) และกำลังพิจารณาที่จะใช้กับผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลเอง โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะเป็น Mac Mini รุ่นใหม่ ซึ่งไม่ได้อัพเกรดมานานแล้ว

อย่างไรก็ตาม มีผู้วิเคราะห์ว่าเมื่อพิจารณาถึงขนาดของแพลตฟอร์มนี้ (เพียงแค่ 3" x 4") ร่วมกับความสามารถในการแสดงผลในระดับ Hi-Definition ได้อย่างไม่มีปัญหา ทำให้นึกได้ว่าจริงๆ แล้ว แอปเปิลอาจจะกำลังสนใจนำมาใช้กับ Apple TV ที่กำลังไปได้รุ่งมากกว่า