หนังสือพิมพ์ Telegraph ของอังกฤษ รายงานว่า ในงานประชุมของ Business Insider ที่นครนิวยอร์ก Jeff Bezos เจ้าของและผู้ก่อตั้ง Amazon ออกมายอมรับว่าการตัดสินใจของตนเองที่ออกมาทำ Fire Phone โทรศัพท์มือถือของ Amazon นั้น เป็นความผิดพลาดที่สร้างความเสียหายให้กับทาง Amazon เป็นจำนวนหลายล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ โดยบอกว่า "เป็นการทดลอง" ของ Amazon เอง

Bezos ระบุเพิ่มเติมว่า ความผิดพลาดจากการทดลองเหล่านี้เกิดขึ้นได้เป็นปกติ โดยในกรณีของ Fire Phone นั้น เขาระบุว่ามันเป็นการด่วนสรุปจนเกินไปว่าสำเร็จหรือล้มเหลว

ด้าน Re/code เว็บไซต์รายงานข่าวไอที ออกมาระบุเพิ่มเติมว่า Bezos ใบ้ในงานสัมมนาดังกล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่จะมี Fire Phone รุ่นใหม่ๆ ออกมาอีก

Jeff Bezos ซีอีโอของ Amazon ให้สัมภาษณ์ในงานสัมมนาของ Business Insider ที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา โดยหนึ่งในประเด็นที่น่าสนใจหัวข้อหนึ่งเกี่ยวกับ ความล้มเหลวของ Fire Phone ที่ต้องลดราคา ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

Bezos กล่าวเกี่ยวกับ Fire Phone ว่า "เราจะทำมันซ้ำอีกหลาย ๆ ครั้ง" ซึ่งก็แปลว่า Amazon ยังไม่ยอมแพ้ในตลาดสมาร์ทโฟน

เทศกาลลดราคาสินค้าในช่วงปลายปีตั้งแต่ Black Friday ไปจนถึง Cyber Monday นี้เป็นช่วงที่คนซื้อของกันเป็นจำนวนมหาศาล เฉพาะในช่วงเทศกาลนี้เมื่อปีที่แล้ว Amazon ได้รับคำสั่งซื้อสินค้ากว่า 36.8 ล้านชิ้นจากทั่วโลก หรือคิดเป็น 426 ชิ้นต่อวินาที ซึ่งในช่วงเทศกาลนี้ของทุกปีเป็นช่วงที่พนักงานในศูนย์จัดการสินค้าของ Amazon มีงานต้องทำมากที่สุด

ผ่านจากช่วง Black Friday ที่เป็นเทศกาลดลราคาสินค้าของห้างร้านฝั่งสินค้าดิจิตอลอย่างอีบุ๊กและหนังสือเสียง (audiobook) ก็ลดกับเขาในวัน Cyber Monday

สำหรับ Audible ที่เป็นบริษัทขายหนังสือเสียงจัดโปรโมชั่นหนังสือกว่า 400 เล่ม ราคา 4.95 ดอลลาร์ทุกเล่ม หนังสือหลายเล่มราคาค่อนข้างแพง เช่น Capital in the Twenty-First Century ราคาเต็มถึง 39.95 ดอลลาร์

ช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาล Black Friday ของฝรั่งนะครับ ล่าสุด Amazon ก็ร่วมวงลดราคากับเขาแล้ว โดยนำสินค้าตระกูล Kindle และ Fire มาลดราคาดังนี้

ตระกูล Kindle

• Kindle ลดจาก 79 เหลือ 49 ดอลลาร์สหรัฐ
• Kindle Paperwhite ลดจาก 119 เหลือ 99 ดอลลาร์สหรัฐ
• Kindle Fire HDX 7" Tablet ลดจาก 199 เหลือ 179 ดอลลาร์สหรัฐ

ตระกูล Fire

Amazon Fire Phone ขายไม่ออกจนสินค้าค้างสต๊อกมาก และเคยลดราคาเครื่องมาแล้วหนึ่งครั้ง

สถานการณ์ดูจะยังไม่ดีขึ้น ล่าสุด Amazon จึงลดราคา Fire Phone เครื่องเปล่าแบบไม่ติดสัญญาลงมาอยู่ที่ 199 ดอลลาร์เท่านั้น (ราคาเปิดตัว 649 ดอลลาร์เมื่อเดือน มิ.ย. ไม่ถึงหกเดือนลดมาเกินครึ่งแล้ว) แถมราคานี้ยังจะแถมฟรีสมาชิกบริการ Amazon Prime (มูลค่า 99 ดอลลาร์ต่อปี) อีกด้วย

Amazon แจ้งว่าการลดราคาครั้งนี้เป็นการลดราคาชั่วคราวเท่านั้น แต่ไม่ได้ระบุว่าจะคงราคานี้ไปถึงเมื่อไรครับ

Amazon Web Services มีบริการชื่อ AppStream เป็นการนำแอพพลิเคชันวินโดวส์บนกลุ่มเมฆของ AWS แล้ว "สตรีม" หน้าจอ/เสียงไปยังอุปกรณ์ใดๆ ก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือพีซีที่ใช้ระบบปฏิบัติการอื่นๆ (รวมถึง Chrome/Chrome OS)

หลังจากเปิดบริการมาครบหนึ่งปี ล่าสุด AWS ออกมาประกาศว่า AppStream สามารถสตรีมแอพพลิเคชันใดๆ ก็ได้บนวินโดวส์โดยไม่ต้องแก้ไขโค้ดแม้แต่บรรทัดเดียว การใช้งานก็เพียงแค่ดาวน์โหลดไฟล์ .exe ของแอพที่ต้องการแล้วติดตั้งบน instance EC2 เท่านั้น (เป็น Windows Server 2008 R2)

Amazon เตรียมรุกตลาดใหม่ในธุรกิจท่องเที่ยว เตรียมเปิดบริการให้จองโรงแรมที่พักตั้งแต่ต้นปีหน้า

เว็บข่าวด้านการท่องเที่ยว Skift รายงานว่า Amazon กำลังหารือกับโรงแรมและรีสอร์ทหลายแห่งตามเมืองใหญ่ เพื่อเตรียมเปิดบริการ Amazon Travel ซึ่งเป็นบริการจองโรงแรมที่พัก ทั้งนี้ในรายงานยังระบุอีกว่า Amazon อาจเริ่มให้บริการนี้เบิกฤกษ์กันตั้งแต่วันปีใหม่เลยทีเดียว โดยจะประเดิมด้วยโรงแรมใน 3 เมืองของสหรัฐอเมริกา อันได้แก่ New York, Los Angeles และ Seattle บ้านเกิดของ Amazon

ชิป ARM ที่ประสิทธิภาพดีขึ้นในช่วงหลังทำให้หลายคนเริ่มหวังว่าเราจะเห็นชิป ARM ในเซิร์ฟเวอร์มากขึ้นเรื่อยๆ แต่ความฝันนี้คงยังห่างไกลเมื่อผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่อย่างอเมซอนกลับระบุว่า ARM ยังพัฒนาไม่เร็วพอ โดยเฉพาะเมื่อคำนึงถึงต้นทุนรวม

ประเด็นสำคัญ คือ ค่าพลังงานที่อินเทลยังคงสามารถตอบสนองได้ดีกว่า โดยผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่อย่างอเมซอนจำเป็นต้องคำนวณค่าใช้จ่ายในระยะยาวมากกว่าราคาต่อชิปเพียงอย่างเดียว

ARM มีข้อได้เปรียบที่มีชิปกินพลังงานต่ำมากแต่ประสิทธิภาพชิปก็ต่ำไปด้วย สำหรับผู้ให้บริการคลาวด์ที่ต้องการประสิทธิภาพพลังงานดีๆ แล้วนำซีพียูไปแบ่งขายได้ ความได้เปรียบนี้คงไม่ช่วยให้ ARM บุกศูนย์ข้อมูลได้

Amazon Web Services (AWS) เปิดตัวบริการใหม่ AWS Lambda บริการประมวลผลข้อมูลอัตโนมัติตามเหตุการณ์ (event) ที่กำหนดไว้ (เช่น ถ้าผู้ใช้ถ่ายภาพใหม่เมื่อไร ให้ Lambda นำภาพนี้จัดเก็บลงบัญชี S3)

Amazon เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้เครื่องอ่านอีบุ๊กตระกูล Kindle หลายอย่างดังนี้

หลายคนอาจพอจำกันได้ว่า Amazon ก็มีบริการด้าน cloud storage กับเขาด้วยเหมือนกัน โดยเปิดตัว Amazon Cloud Drive ตั้งแต่ปี 2011 แม้คนไม่ค่อยรู้จักมากนักแต่ผลิตภัณฑ์ก็ยังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

ความเคลื่อนไหวล่าสุดคือ Amazon เปิด API ให้นักพัฒนาภายนอกสามารถใช้ Cloud Drive เก็บไฟล์หรือข้อมูลของแอพได้ด้วย ซึ่ง Amazon ก็ประกาศชื่อแอพดังๆ หลายตัวที่ร่วมเป็นพาร์ทเนอร์เรียกใช้ API ตัวนี้ เช่น OfficeSuite Pro, Perfectly Clear, File Commander, FileThis, ScanCafe เป็นต้น

นักพัฒนาแอพท่านใดสนใจเรียกใช้งาน Amazon Cloud Drive เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้จากลิงก์ต้นทางครับ

อเมซอนเปิดบริการชุดใหม่สำหรับกระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์ โดยใช้ชื่อชุดว่า Application Lifecycle Management Tools ประกอบด้วยบริการใหม่ 3 ตัวที่เกี่ยวข้อง ได้แก่

อเมซอนเปิดตัวเอนจินฐานข้อมูลของตัวเองที่ชื่อว่า Aurora สำหรับให้บริการบน AWS เพิ่มเติมจากเดิมที่มี Amazon RDS for MySQL อยู่แล้ว โดยมีจุดต่างสำคัญคือ Aurora จะทำงานบน AWS ได้มีประสิทธิภาพสูงกว่า ทางอเมซอนระบุว่าประสิทธิภาพที่ได้อาจจะสูงถึง 4 เท่าตัว ทำให้สามารถใช้เครื่องขนาดเล็กลงเพื่อทำงานเท่าเดิมได้

ระบบสตอเรจของ Aurora จะทำสำเนาหกชุดทุกครั้ง โดยข้ามไปยัง 3 Availability Zones ระบบเขียนฐานข้อมูลยังทำงานต่อไปได้แม้แม้สตอเรจสองชุดไม่ทำงาน และยังอ่านต่อได้หากมีสตอเรจสามชุดไม่ทำงาน

แม้ Fire Phone จะล้มเหลวไม่เป็นท่า แต่ Amazon ก็ยังคงไม่ละความพยายามในการสร้างฮาร์ดแวร์ออกสู่ท้องตลาด และครั้งนี้ Amazon ได้เปิดตัวอุปกรณ์เพื่อใช้งานภายในที่พักอาศัย มันคือ Echo ลำโพงพูดได้ที่พร้อมจะคุยและตอบคำถามทุกคนในบ้าน

Echo คือลำโพงที่สามารถเข้าใจคำพูดของคนได้โดยอาศัยซอฟต์แวร์รู้จำคำพูดของมนุษย์ มันสามารถสามารถแจ้งข้อมูลทั่วไปอย่างวันและเวลา, สภาพอากาศได้ ทั้งยังสามารถตอบคำถามของผู้ใช้งานได้โดยการค้นหาข้อมูลจากฐานข้อมูลอันมหาศาลในกลุ่มเมฆของ Amazon

อเมซอนเปิดตัว Amazon Echo คอมพิวเตอร์ที่ควบคุมด้วยเสียงเป็นหลัก รอรับคำสั่งตลอดเวลาโดยสั่งว่า "Alexa" เพื่อเริ่มต้นการทำงาน สามารถถามตอบคำถามทั่วไป, ตั้งนาฬิกาปลุก, เล่นเพลง, ค้นหา Wikipedia, จัดการรายการซื้อสินค้า, จัดการรายการสิ่งที่ต้องทำ (to-do list)

เทคโนโลยีรูปแบบเดียวกันคนทั่วไปน่าจะเคยเห็นในภาพยนตร์อย่าง Jarvis ใน Iron Man, หรือใกล้ตัวขึ้นมาก็เป็น Siri และ Google Now สิ่งที่ทำให้ Echo ใกล้เคียง Jarvis คือมันรองรับการฟังเสียงจากระยะไกล ทำให้ไม่ต้องพูดจ่อกับตัวเครื่องแต่สามารถสั่งงานจากที่ใดก็ได้ในห้อง

หลังจาก Amazon เปิดตัว Fire Phone ในราคาค่อนข้างแพง (649 ดอลลาร์ แบบติดสัญญา 199 ดอลลาร์) แถมขายเฉพาะกับเครือข่าย AT&T เพียงรายเดียว ส่งผลสะเทือนต่อยอดขายของ Fire Phone จนต้องลดราคาเครื่องแบบติดสัญญาเหลือ 0.99 ดอลลาร์

แนวทางที่ผิดพลาดนี้ส่งผลต่อสถานะการเงินของบริษัทในไตรมาสล่าสุด โดย Fire Phone ทำขาดทุนทางบัญชีจากสินค้าค้างสต๊อกที่ 170 ล้านดอลลาร์

บริการ Kindle ของอเมซอนช่วงหลังนอกจากจะขายหนังสือแล้วยังมีสำนักพิมพ์เป็นของตัวเองในชื่อ Kindle Press ล่าสุดทางอเมซอนเปิดหน้าเว็บ Kindle Scout ให้ผู้ใช้ช่วยกันอ่านตัวอย่างหนังสือแล้วโหวตหนังสือที่ดีที่สุดที่สมควรได้รับการตีพิมพ์

หนังสือที่ส่งเข้ามาจะมีสิทธิ์อยู่ในหน้าโหวต 30 วัน ส่วนผู้ใช้สามารถโหวตหนังสือได้พร้อมกันสามเล่มเท่านั้น อย่างไรก็ดีคะแนนโหวตถือเป็นคะแนนเพื่อ "เสนอชื่อ" (nominate) เท่านั้น ไม่ได้เป็นการตัดสินว่าหนังสือเล่มไหนจะได้ตีพิมพ์แต่อย่างใด โดยทาง Kindle จะเป็นผู้เลือกในขั้นสุดท้ายเอง

วันนี้ Amazon ประกาศเปิดตัว Fire TV Stick คู่แข่งของ Chromecast อย่างเป็นทางการ

Amazon ระบุว่า Fire TV Stick นั้นให้ประสบการณ์ในการรับชมเหมือนกับ Fire TV รุ่นปกติทุกประการ โดยมาพร้อมกับหน่วยความจำ 8 GB, แรม 1 GB, หน่วยประมวลผลกลางแบบสองแกน (ไม่ระบุรุ่นและผู้ผลิต อัพเดต (28/10/2557 16.35) อ่านสเปคเต็มได้ท้ายข่าว) และรองรับ Wi-Fi แบบ MIMO โดยทาง Amazon ระบุว่าให้หน่วยความจำมามากกว่า Chromecast ถึง 4 เท่า และแรมมากกว่าอย่างน้อยเท่าตัว พร้อมรองรับการสั่งการด้วยเสียงผ่านแอพหรือรีโมทไร้สาย (ตอนนี้มีเฉพาะ Android สำหรับแอพ ส่วนรีโมทที่สั่งการด้วยเสียงแยกขายต่างหาก)

อเมซอนรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ของปี 2014 ยอดขายเพิ่มขึ้น 20% จากปีก่อนอยู่ที่ 20,579 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตามบริษัทขาดทุนสุทธิถึง 437 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือว่าขาดทุนสูงมากเมื่อเทียบกับปีก่อนที่ขาดทุน 41 ล้านดอลลาร์ หรือไตรมาสก่อนหน้านี้ก็ขาดทุน 126 ล้านดอลลาร์

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้อเมซอนขาดทุนหนักก็คือ Fire Phone ซึ่งขายไม่ออกจนบริษัทต้องลดราคาเหลือ 99 เซนต์ อเมซอนระบุว่าได้บันทึกขาดทุนเครื่องที่ค้างสต็อกส่วนนี้ไป 170 ล้านดอลลาร์

Amazon ขาใหญ่ของวงการอีคอมเมิร์ซเตรียมเปิดร้านค้าของตัวเองสาขาแรกแล้ว หลังจาก The Wall Street Journal ออกมารายงานแผนดังกล่าวว่าพร้อมจะเปิดตัวในเร็ววันนี้

ร้านค้าจริงๆ แห่งแรกของ Amazon จะเปิดตัวในย่านแมนฮัตตัน ช่วงหยุดยาวปลายปีนี้ โดยจะให้บริการของ Amazon เองทั้งการรับ-คืนของที่สั่งออนไลน์มา รวมถึงแผนที่กำลังวางไว้อย่างการโชว์สินค้าของตัวเองในซีรีส์ Kindle และ Fire อีกด้วย

เมื่อใดที่ Amazon เปิดร้านจริง ก็เป็นสัญญาณชัดเจนที่จะคุกคามบรรดาห้างร้านแบบเดิมอีกครั้งแล้ว

ที่มา - The Wall Street Journal

หลังจากที่ Jeff Bezos ซื้อกิจการหนังสือพิมพ์ Washington Post เมื่อปีที่แล้ว ก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรมากมาย แต่ล่าสุด Amazon ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกิจการหลักของ Bezos เตรียมที่จะนำเอาเนื้อหาของหนังสือพิมพ์ Washington Post ให้อ่านฟรี สำหรับเจ้าของ Fire HD รุ่นล่าสุด

อย่างไรก็ตาม บริการข่าวดังกล่าวจะขยายไปยังแพลตฟอร์มอื่นๆ เพิ่มเติมด้วย นอกเหนือไปจากแท็บเล็ต Fire (เช่น Kindle, iPad, Android) แต่จะต้องเสียค่าใช้จ่ายบริการสมาชิก สำหรับคนที่ต้องการจะเข้าใช้บริการนอกเหนือจากแท็บเล็ต Fire HD

ที่มา - Engadget

คณะกรรมาธิการของยุโรป (European Commission) ประกาศเตรียมสอบสวนเชิงลึก (in-depth investigation) Amazon และประเทศลักเซมเบิร์ก เกี่ยวกับข้อตกลงทางด้านภาษี ซึ่งทางคณะกรรมาธิการของยุโรปสงสัยว่า ข้อตกลงระหว่าง Amazon กับลักเซมเบิร์ก ผิดข้อตกลงของสหภาพยุโรปที่ระบุไว้เกี่ยวกับความช่วยเหลือของภาครัฐ (illegal state aid) หรือไม่

เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้น เพราะ Amazon รายงานตัวเลขผลกำไรของบริษัทในภูมิภาคยุโรปที่เกิดจากบริษัทลูกที่ตั้งอยู่ที่ประเทศลักเซมเบิร์ก แต่ปรากฏว่าผลกำไรดังกล่าวกลับไม่ถูกเก็บภาษีเลยแม้แต่น้อย ซึ่งทางคณะกรรมาธิการของยุโรป ระบุว่ากรณีนี้อาจเป็นการเลือกปฏิบัติของทางลักเซมเบิร์ก ซึ่งถือว่าเป็นการละเมิดข้อตกลงของสหภาพยุโรปที่ทางลักเซมเบิร์กเป็นภาคีสมาชิกอยู่ด้วย

อเมซอนประกาศเตรียมบูตเครื่องที่อยู่บนบริการ EC2 ทั้งหมดในอีกไม่กี่วันข้างหน้า คาดว่าเพื่อแพตช์บั๊ก XSA-108 ที่ยังไม่เปิดเผย

อเมซอนระบุว่าเครื่องประเภท HS1 และ R3 จะไม่ถูกรีบูตในรอบนี้ โดยทางอเมซอนจะไล่บูตเครื่องไปเรื่อยๆ จนกระทั่งสิ้นสุดในวันอังคารหน้า

บั๊ก XSA-108 มีกำหนดเปิดเผยข้อมูลสู่สาธารณะในวันที่ 1 ตุลาคมนี้

ที่มา - ArsTechnica

Amazon ตัดสินใจอัดเงินเพิ่มอีก 55 ล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนหน่วยงานวิจัยผลิตภัณฑ์ด้านฮาร์ดแวร์ของตนเอง

หน่วยงานวิจัยดังกล่าวใช้ชื่อว่า a2z Development Center เน้นการพัฒนาสินค้าฮาร์ดแวร์ของ Amazon เองโดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ต้องการพัฒนาแบบเก็บข้อมูลเป็นความลับ ซึ่งหน่วยวิจัยนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนก Lab126 ที่เป็นทีมผู้รับผิดชอบการสร้าง Fire Phone กับ Fire TV นั่นเอง โดยจากการประเมินที่อ้างอิงเอกสารทางกฎหมายที่ Amazon ยื่นต่อทางการ ก็พบว่า a2z Development Center นี้จะเพิ่มการจ้างงานอีก 798 ตำแหน่ง