GoPro ประกาศซื้อทีเดียว 2 บริษัทรวด โดยเป็นบริษัทด้านซอฟต์แวร์ตัดต่อวิดีโอชื่อ Replay และ Splice ซึ่งจะถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์การตัดต่อวิดีโอบนอุปกรณ์พกพาของ GoPro

Replay เป็นแอพตัดต่อวิดีโอจากฝรั่งเศส มีจุดเด่นด้านการนำคลิปหลายคลิปมารวมกัน พร้อมเอฟเฟคต์ต่างๆ ที่ใช้งานง่าย ส่วน Splice เป็นแอพฝั่งสหรัฐ มีจุดเด่นด้านฟีเจอร์การตัดต่อวิดีโอระดับสูง เทียบชั้นได้กับแอพตัดต่อวิดีโอบนเดสก์ท็อป แอพทั้งสองตัวมีเวอร์ชัน iOS แล้ว และเตรียมออกเวอร์ชัน Android ปีนี้ หลังขายให้ GoPro แล้วแอพจะยังให้บริการต่อไปดังเดิม

ถึงแม้บอร์ด Sharp ลงมติรับข้อเสนอซื้อจาก Foxconn เรียบร้อย แต่เรื่องนี้อาจไม่จบลงอย่างที่คิดซะแล้ว เพราะฝั่ง Foxconn ออกมาประกาศ "ชะลอ" การเซ็นสัญญาซื้อกิจการกับ Sharp ซะอย่างนั้น

เหตุผลของ Foxconn ระบุว่าเพิ่งทราบ "ข้อมูลใหม่" เกี่ยวกับสถานะทางการเงินของ Sharp เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ คือโอกาสที่จะเกิดหนี้สินได้ในอนาคตกว่า 100 รายการ มูลค่ารวมกว่า 3.1 พันล้านดอลลาร์ (ตอนนี้ยังไม่ถือเป็นหนี้ แต่อนาคตไม่แน่) ซึ่ง Foxconn ต้องขอเวลาศึกษาข้อมูลอีกสักระยะหนึ่ง

ที่มา - Wall Street Journal

ชะตาชีวิตของ Sharp มาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญในวันนี้ เพราะบอร์ดของบริษัทตัดสินใจรับข้อเสนอซื้อมูลค่า 700 พันล้านเยนหรือ 6.2 พันล้านดอลลาร์ จาก Hon Hai Precision Industry หรือที่เรารู้จักกันในแบรนด์ Foxconn เรียบร้อยแล้ว

ก่อนหน้านี้ Sharp ได้รับข้อเสนอสองทาง จาก Hon Hai ซึ่งเป็นบริษัทไต้หวัน และจาก INCJ ของรัฐบาลญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอของ Hon Hai มีมูลค่าเยอะกว่ามาก

ทีมงานบริษัท Xamarin พัฒนาเทคโนโลยี .NET แบบโอเพนซอร์สมาตั้งแต่ปี 2000 (ตอนนั้นคือบริษัท Ximian) เวลาผ่านมานานถึง 16 ปี ไมโครซอฟท์ก็ซื้อ Xamarin ในท้ายที่สุดครับ

เดิมทีผลิตภัณฑ์หลักของ Ximian คือ Mono ซึ่งเป็น .NET เวอร์ชันโอเพนซอร์ส แต่พอมาถึงยุคอุปกรณ์พกพาเฟื่องฟู ทีม Xamarin ก็พัฒนา Xamarin Studio ชุดเครื่องมือพัฒนาแอพแบบข้ามแพลตฟอร์มด้วยภาษา .NET จับตลาดกลุ่มนักพัฒนาที่คุ้นเคยกับ .NET/C# แต่ต้องการทำแอพลง iOS และ Android ซึ่งก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างดี

ปัจจุบัน Xamarin มีพนักงาน 350 คน มีลูกค้าองค์กร 15,000 แห่ง การที่ไมโครซอฟท์มาซื้อ Xamarin ก็สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ใหม่ของบริษัทที่ต้องการขยายเครื่องมือพัฒนาโปรแกรม ให้ครอบคลุมทุกแพลตฟอร์มนั่นเอง

เรียกว่าเป็นการเดินหน้าอย่างต่อเนื่องของ IBM ในการขยายตัวด้านสุขภาพ โดยเฉพาะกับแผนก IBM Watson เมื่อทางบริษัทประกาศเข้าซื้อบริษัท Truven Health Analytics บริษัทที่ทำธุรกิจด้านข้อมูลทางการแพทย์ (แพทย์และเภสัชกรหลายคนอาจจะเคยใช้แอพอย่าง Micromedex Drug Reference) ด้วยตัวเลขการเข้าซื้อสูงถึง 2.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 92,000 ล้านบาท)

การเข้าซื้อดังกล่าวจะทำให้ IBM ได้ทั้งลูกค้าของบริษัทกว่า 8,500 ราย, พนักงานกว่า 2,500 คน ไปจนถึงข้อมูลของ Truven ที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก ผู้บริหารของ IBM ระบุว่าการเข้าซื้อในครั้งนี้จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งของแพลตฟอร์ม IBM Watson ในตลาดการแพทย์ได้เป็นอย่างดี

เรียบร้อยโรงเรียนจีนไปอีกรายกับ Ingram Micro ผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ของโลกจากสหรัฐ หลังบริษัทลงทุนจีน Tianjin Tianhai Investment Company ประกาศซื้อหุ้นทั้งหมด คิดเป็นมูลค่ารวม 6 พันล้านดอลลาร์

Ingram Micro ก่อตั้งในปี 1979 ปัจจุบันเป็นบริษัทในตลาดหุ้น NYSE ของสหรัฐ ส่วนบริษัท Tianjin Tianhai อยู่ในเครือ HNA Group กลุ่มทุนยักษ์ใหญ่ของจีนจากมณฑลไห่หนาน (บ้านเรารู้จักกันในชื่อมณฑลไหหลำ) ซึ่งเป็นเจ้าของสายการบิน Hainan Airlines, อสังหาริมทรัพย์, โรงแรม, ท่องเที่ยว, ลอจิสติกส์, การเงิน

บอร์ดของ Ingram Micro อนุมัติการขายกิจการเรียบร้อยแล้ว คาดว่าการควบกิจการจะเสร็จสิ้นในครึ่งหลังของปี 2016 ส่วนธุรกิจของ Ingram Micro รวมถึงผู้บริหารจะไม่เปลี่ยนแปลงใดๆ

กูเกิลขยับเข้ามาซื้อกิจการในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นครั้งแรก โดยซื้อแอพแชทสำหรับการทำงานชื่อ Pie ซึ่งเป็นบริษัทในสิงคโปร์

กูเกิลอธิบายว่าซื้อทีม Pie เพื่อเพิ่มจำนวนวิศวกรในสิงคโปร์ ตามแผนที่เคยประกาศไว้ว่าจะปั้นสิงคโปร์เป็นฮับด้านวิศวกรรมแห่งใหม่ นอกจากนี้ กูเกิลยังประกาศรับสมัครวิศวกรประจำที่สิงคโปร์ รวมถึงรับนักศึกษาฝึกงานระยะเวลา 12 สัปดาห์ด้วย

ดูท่าทางแล้วกูเกิลเอาจริงกับสำนักงานที่สิงคโปร์ คนแถวนี้ท่านใดสนใจก็ลองไปสมัครกันดูได้ครับ

Amazon Web Services ซื้อกิจการบริษัท NICE ผู้เชี่ยวชาญซอฟต์แวร์สำหรับคอมพิวเตอร์สมรรถนะสูง (High Performance Computing - HPC) จากอิตาลี ซอฟต์แวร์ของ NICE มีทั้งระบบจัดการงานสำหรับกริด EnginFrame และซอฟต์แวร์ด้านกราฟิก 3D visualization ชื่อ Desktop Cloud Visualization (DCV)

หลังการซื้อกิจการแล้ว ผลิตภัณฑ์ของ NICE จะยังให้บริการต่อไปตามปกติ และ NICE ก็จะค่อยๆ เข้ามาร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์กับ AWS ต่อไป

Myspace เครือข่ายสังคมยุคแรกๆ แยกตัวมาจาก News Corporation ในปี 2011 และเปิดตัวเว็บโฉมใหม่ในปี 2012 จากนั้นเว็บก็กลับมาได้รับความนิยมแบบเงียบๆ

ล่าสุด Myspace เปลี่ยนเจ้าของอีกครั้ง โดยกลับมาอยู่ภายใต้อาณาจักรสื่ออีกแห่งคือ Time Inc. เจ้าของนิตยสาร Time, Fortune, Sports Illustrated และนิตยสารด้านไลฟ์สไตล์อีกจำนวนมาก

จากข่าว ASICS ผู้ผลิตรองเท้ากีฬาจากญี่ปุ่น ซื้อกิจการแอพ Runkeeper เว็บไซต์ The Verge มีบทวิเคราะห์ว่าแอพฟิตเนสดังๆ ถูกซื้อกิจการโดยบริษัทใหญ่ไปเกือบหมดแล้ว เช่น

• Adidas ซื้อ Runtastic
• Under Armour ซื้อ Endomondo, MapMyFitness และ MyFitnessPal
• Fitbit ซื้อ FitStar

The Verge มองว่าการซื้อกิจการลักษณะนี้ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย เพราะฝั่งผู้ผลิตอุปกรณ์กีฬาได้ชุมชนผู้ใช้งานที่มีอยู่จำนวนมาก ส่วนฝั่งผู้สร้างแอพก็แก้ปัญหาเรื่องรายได้ เพราะแอพมีคนใช้เยอะจริง แต่คนจ่ายเงินอาจมีไม่เยอะคุ้มกับค่าใช้จ่าย

YouTube ซื้อกิจการ BandPage สตาร์ตอัพที่ช่วยให้วงดนตรี/นักดนตรีสร้างฐานแฟนๆ ผ่านเครือข่ายสังคมสารพัดชนิด และบริการเพลงสตรีมมิ่งเกือบทุกค่าย เช่น Spotify, Shazam, Rhapsody, SoundCloud, Vevo

นักดนตรีสามารถใช้ BandPage ช่วยบริหารจัดการเรื่องกิจกรรม การขายของที่ระลึก โดยมีระบบหลังบ้านช่วยให้จัดการเรื่องนี้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ BandPage ยังมีโซลูชันช่วยสร้างเว็บไซต์ของวง หรือถ้ามีเว็บอยู่แล้วจะสร้าง widget อัพเดตข้อมูลของ BandPage ไปแปะไว้แทนก็ได้เช่นกัน

ปัจจุบัน BandPage มีนักร้องดังๆ อย่าง Beyonce, Alicia Keys, Justin Timberlake, Kings of Leon, Maroon 5, Rihanna เป็นลูกค้าอยู่แล้ว ทางบริษัทบอกว่าการไปควบรวมกับ YouTube จะช่วยให้การกระจายข้อมูลกว้างไกลมากขึ้น

Jason Jacobs ผู้ก่อตั้ง Runkeeper แอพสุขภาพที่ตรวจจับการออกกำลังกาย ได้ประกาศผ่าน Medium ว่า Runkeeper ได้บรรลุข้อตกลงที่จะขายกิจการทั้งหมดให้กับ ASICS Corporation บริษัทผู้ผลิตรองเท้ากีฬาและอุปกรณ์กีฬาจากประเทศญี่ปุ่น

แอพ Runkeeper ก่อตั้งในปี 2008 มีผู้ใช้งานปัจจุบันหลายล้านคน โดยแอพรองรับการตรวจจับการออกกำลังกาย ทั้งการวิ่ง เดิน หรือปั่นจักรยาน โดย Jacobs บอกว่าการร่วมมือกับ ASICS เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล เพราะแอพ Runkeeper นั้นเน้นที่กิจกรรมการวิ่งเป็นหลักอยู่แล้ว

ด้าน ASICS กล่าวว่าการซื้อ Runkeeper เข้ามา จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและบริการแก่ลูกค้าที่รักการออกกำลังกายได้ดีมากขึ้น

Opera Software SA บริษัทแม่ของเบราว์เซอร์ Opera จากนอร์เวย์ ได้รับข้อเสนอซื้อกิจการจากกลุ่มทุนที่ประกอบด้วยบริษัทเกมมือถือ Kunlun, บริษัทแอนตี้ไวรัส Qihoo 360 และบริษัทลงทุน Golden Brick Capital

ข้อเสนอซื้อให้ราคา 71 โครนต่อหุ้น (มากกว่าราคาตลาด 53%) รวมมูลค่าบริษัทที่ 10.5 พันล้านโครนหรือ 1.2 พันล้านดอลลาร์ บอร์ดของ Opera มีมติเอกฉันท์ให้รับข้อเสนอนี้ และรอการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นในช่วงต้นเดือนมีนาคมนี้ (Opera เป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์นอร์เวย์)

Cisco ประกาศซื้อกิจการ Jasper ผู้สร้างซอฟต์แวร์บริหารจัดการอุปกรณ์ IoT คิดเป็นมูลค่า 1.4 พันล้านดอลลาร์

Jasper ให้บริการ SaaS สำหรับจัดการอุปกรณ์ IoT จากระยะไกล (เช่น ผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ) ช่วยให้องค์กรลดความยุ่งยากและความซับซ้อนของการจัดการอุปกรณ์จำนวนมากๆ ลงได้ ปัจจุบัน Jasper มีลูกค้ากว่า 3,500 องค์กรทั่วโลก ตัวอย่างลูกค้ารายใหญ่ได้แก่ Ford, GM, Heineken และอุปกรณ์ยอดนิยมอย่าง Amazon Kindle ก็ใช้บริการของ Jasper

Cisco ซื้อ Jasper เพื่อเสริมทัพโซลูชัน IoT สำหรับองค์กร และระบุว่าจะขยายความสามารถของ Jasper ทั้งการเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi ระดับองค์กร, ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยและการวิเคราะห์ข้อมูล

รายงานจาก Financial Times เผยไมโครซอฟท์เตรียมเข้าซื้อบริษัทซอฟต์แวร์รอบใหม่อีกระลอก โดยบริษัทล่าสุดที่ถูกเล็งไว้คือ SwiftKey ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์คีย์บอร์ดชื่อดังบนแอนดรอยด์ที่มียอดดาวน์โหลดมากกว่า 10 ล้านครั้งด้วยกัน

ตามข่าวที่ออกมาระบุว่าไมโครซอฟท์จะทุ่มเงินกว่า 250 ล้านเหรียญเพื่อเข้าซื้อ SwiftKey โดยคาดกันว่าเป้าหมายหลักคือการเข้าครอบครองเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เบื้องหลังฟีเจอร์เดาคำระหว่างพิมพ์ซึ่งได้รับคำชมมาเนิ่นนาน รวมถึงนักพัฒนาเบื้องหลังระบบนี้ด้วย

หลังรายงานออกมา มีนักข่าวสอบถามไปยังไมโครซอฟท์ และ SwiftKey โดยตรง แต่ทั้งคู่ปฏิเสธจะออกความเห็นกับประเด็นดังกล่าว

Slashdot Media บริษัทเจ้าของเว็บไซต์ข่าวไอที Slashdot และเว็บฝากซอร์สโค้ด SourceForge ขายกิจการให้กลุ่มบริษัท BIZX เจ้าของเว็บไซต์สื่อออนไลน์ ที่เชี่ยวชาญด้านเว็บท่องเที่ยวและโทรคมนาคม (VoIP)

Slashdot เป็นเว็บข่าวไอทียุคแรกๆ (และต้นแบบของ Blognone ด้วย) ก่อตั้งในปี 1997 แต่มีจุดเปลี่ยนสำคัญคือขายให้ DHI Group เจ้าของเว็บหางาน Dice.com ในปี 2012 จากนั้นเว็บไซต์เปลี่ยนหน้าตาและรูปแบบหลายอย่าง (รวมถึงระบบคอมเมนต์เป็นเอกลักษณ์มายาวนาน) จนแฟนๆ ไม่ชอบใจและคนเข้าเว็บลดลงไปมาก จนกระทั่งมาเปลี่ยนเจ้าของอีกครั้งในปีนี้

Juniper Networks ประกาศซื้อกิจการ BTI Systems ผู้ขายอุปกรณ์เครือข่ายให้บรรดา ISP และผู้ให้บริการคลาวด์ สินค้าของ BTI มีหลากหลาย ทั้งอุปกรณ์ Ethernet สำหรับโอเปอเรเตอร์, อุปกรณ์บริหารเครือข่าย ไปจนถึงของใหม่ๆ อย่าง Software-Defined Networking (SDN) และ Network Functions Virtualization (NFV)

Juniper ระบุว่าจะรวมสายผลิตภัณฑ์ของ BTI Systems เข้ากับคอนโทรลเลอร์ NorthStar ของตัวเอง การซื้อกิจการครั้งนี้จะช่วยให้สินค้าของ Juniper ครบเครื่องมากขึ้น ส่วนมูลค่าการซื้อกิจการไม่เปิดเผย

Spotify ได้เข้าซื้อกิจการสตาร์ทอัพ 2 บริษัท คือบริษัท Soundwave และ Cord Project

บริษัทแรกคือ Soundwave เป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการค้นหาเพลง มีแอพที่ถูกติดตั้งแล้วกว่า 1.5 ล้านครั้งใน 190 ประเทศ โดยซีอีโอ Brendan O'Driscoll กล่าวว่าบริการ Soundwave จะปิดตัวลงอย่างถาวร สิทธิบัตรและเทคโนโลยีจะถูกรวมเข้ากับ Spotify โดยข้อมูลของ Soundwave จะเป็นประโยชน์ให้ Spotify ทราบว่าผู้คนในตลาดเกิดใหม่จะชอบฟังเพลงอะไร

ส่วน Cord Project เปิดตัวในปี 2014 มีแอพแชทสำหรับส่งข้อความเสียงชื่อ Cord มีผู้ใช้กว่า 1 ล้านคน ซึ่งทีมจาก Cord Project จะไปอยู่ในทีมของ Spotify ซึ่งทีมนี้จะเน้นในเรื่องการ "กระตุ้นความสนใจในประสบการณ์คอนเทนต์" (compelling content experience)

บริษัทความปลอดภัยเครือข่าย FireEye ซื้อกิจการ iSIGHT Partners บริษัทด้านข้อมูลภัยคุกคามไซเบอร์ (cyber threat intelligence) ที่เน้นตลาดองค์กร ด้วยมูลค่า 275 ล้านดอลลาร์

รูปแบบธุรกิจของ iSIGHT คือมอนิเตอร์ภัยคุกคามใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นตลอดเวลาทั่วโลก บริษัทมีนักวิเคราะห์ข้อมูล 250 คนใน 17 ประเทศ และขายบริการข้อมูลแบบจ่ายค่าสมาชิก (subscription) หลังขายให้ FireEye แล้ว ลูกค้าของ iSIGHT ยังใช้บริการได้ต่อไปดังเดิม แต่ FireEye ก็เตรียมขยายบริการข้อมูลเจาะเป็นรายอุตสาหกรรมมากขึ้น

ไมโครซอฟท์ซื้อกิจการ MinecraftEDU หรือ Minecraft เวอร์ชันดัดแปลงสำหรับสถานศึกษา จากบริษัท TeacherGaming ที่เน้นการใช้เกมในการเรียนการสอน (ซื้อแต่ส่วน MinecraftEDU ไม่ได้ซื้อบริษัท TeacherGaming)

สิ่งที่ MinecraftEDU ทำคือซื้อไลเซนส์ Minecraft มาจาก Mojang เพื่อพัฒนาให้เหมาะกับการใช้สอน แล้วขายต่อแบบจำนวนมากๆ ให้โรงเรียนในราคาลดพิเศษ รวมถึงรับโฮสต์เซิร์ฟเวอร์ Minecraft สำหรับโรงเรียนที่ไม่อยากโฮสต์เองด้วย ปัจจุบันมีการใช้ MinecraftEDU ในโรงเรียนรอบโลกกว่า 40 ประเทศ นับเป็นชั้นเรียนได้ 7,000 ห้องแล้ว

Appcelerator เจ้าของเครื่องมือพัฒนาแอพบนอุปกรณ์พกพา (เขียนด้วย JavaScript แล้วแปลงเป็นเนทีฟบนแพลตฟอร์มต่างๆ) ขายบริษัทให้ Axway บริษัทซอฟต์แวร์สำหรับองค์กร (บริษัทมาจากฝรั่งเศส ใหญ่ระดับอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ Euronext จากยุโรป)

Appcelerator บอกว่าจุดเด่นของ Axway คือเข้าถึงตลาดองค์กรขนาดใหญ่ทั่วโลก มีศักยภาพช่วยขยายตลาดให้ Appcelerator ได้ ฝั่งของ Axway เองก็พยายามปรับปรุงผลิตภัณฑ์ของตัวเองให้ทันสมัย การเข้าซื้อ Appcelerator จึงสอดคล้องกันเป็นอย่างดี

หลังการขายบริษัทแล้ว ทีมผู้ก่อตั้งและผู้บริหารของ Appcelerator จะยังอยู่กับบริษัทต่อไป และลูกค้าของ Appcelerator ก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจากเดิม ทั้งในแง่สินค้า ราคา บริการหลังขาย

หลังจาก Sidecar บริการเรียกรถคู่แข่งของ Uber/Lyft ประกาศปิดตัว ล่าสุดค่ายรถยักษ์ใหญ่ General Motors (GM) เข้าไปซื้อทรัพย์สินที่เหลืออยู่และเทคโนโลยีของ Sidecar รวมถึงจ้างพนักงานอีก 20 คนทำงานต่อด้วย

GM เพิ่งลงทุนใน Lyft ไปถึง 500 ล้านดอลลาร์ ท่าทีของ GM แสดงให้เห็นชัดเจนว่าต้องการลงมาลุยตลาดการเรียกรถยนต์ด้วย (บริษัทรถยนต์ในสหรัฐมีประวัติการเป็นเจ้าของบริษัทรถเช่ามายาวนาน) แหล่งข่าวของ Bloomberg อ้างข้อมูลวงในว่าโครงการนี้ของ GM ใช้ชื่อว่า "Maven" และเพิ่งจดเครื่องหมายการค้าไปเมื่อปลายปีที่แล้ว

เมื่อปีที่แล้ว Dialog Semiconductor ประกาศเข้าซื้อ Atmel ผู้ผลิตชิป AVR ที่เป็นหัวใจสำคัญของบอร์ด Arduino ด้วยมูลค่า 4.6 พันล้านดอลลาร์ ล่าสุดทาง Atmel ก็ประกาศยกเลิกข้อเสนอซื้อครั้งนี้โดยระบุว่า Microchip ผู้ผลิตชิป PIC คู่แข่งสำคัญเสนอข้อเสนอที่ดีกว่า

ทาง Atmel จะจ่ายค่ายกเลิกข้อเสนอให้กับ Dialog เป็นเงิน 137.3 ล้านดอลลาร์

ข้อเสนอเดิมของ Dialog แบ่งเป็นเงินสด 4.65 ดอลลาร์ต่อหุ้น และหุ้นของ Dialog 0.112 หุ้นต่อหุ้นของ Atmel 1 หุ้น หลังจากที่มีการประกาศข้อเสนอ หุ้นของ Dialog ตกลงอย่างต่อเนื่อง (จากก่อนประกาศอยู่ที่ 45 ดอลลาร์ต่อหุ้น ตอนนี้เหลือ 26.01 ดอลลาร์ต่อหุ้น) ทำให้มูลค่าที่ผู้ถือหุ้น Atmel จะได้รับตกลงอย่างมาก

เส้นทางชีวิตของ Delicious เว็บแชร์ลิงก์ (social bookmarking) ผ่านอุปสรรคขวากหนามมามากมาย หลังจาก Yahoo ซื้อกิจการในปี 2005 แล้วขายให้บริษัท AVOS ในปี 2011 ความเป็นเจ้าของเว็บก็ถูกเปลี่ยนมือมายังบริษัทลงทุน Science, Inc. ในปี 2013

KakaoTalk แอพแชตยอดนิยมจากเกาหลีใต้ ทุ่มเงิน 1.55 พันล้านดอลลาร์ซื้อกิจการ MelOn บริการเพลงแบบสตรีมมิ่งรายใหญ่ของเกาหลีใต้ ด้วยการจ่ายเป็นเงินสดและหุ้น

ปัจจุบัน MelOn มีสมาชิก 28 ล้านคน และเป็นบริการเพลงออนไลน์อันดับหนึ่งของเกาหลีใต้ ทาง Kakao ให้เหตุผลของการซื้อว่าเพลงเป็นคอนเทนต์ที่ทรงพลังในยุคแห่งอุปกรณ์พกพา และจะช่วยให้บริการ KakaoTalk เข้มแข็งมากขึ้นไปอีก

ปัจจุบัน KakaoTalk มีผู้ใช้ในเกาหลีใต้ประมาณ 37 ล้านคน (ทั้งประเทศมีประชากร 50 ล้านคน) และเริ่มมองหาช่องทางการขยายตลาดไปยังนอกประเทศให้มากขึ้น ซึ่งก็ต้องเผชิญกับคู่แข่งสัญชาติอื่นๆ ทั้ง LINE, WeChat, WhatsApp และ Facebook Messenger