MoneyGram บริการโอนเงินระหว่างประเทศรายใหญ่ของโลก ประสบปัญหาระบบล่มติดต่อกันหลายวัน มีรายงานปัญหามาตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน ซึ่งกระทบลูกค้าของ MoneyGram ทั่วโลกที่ไม่สามารถโอนเงินได้ (ปัจจุบัน ณ ขณะที่เขียน หน้าเว็บของ MoneyGram ยังมีข้อความแจ้งว่าเกิดปัญหา)
ในแถลงการณ์ของ MoneyGram อธิบายว่าเจอปัญหาความปลอดภัยไซเบอร์ จึงตัดสินใจปิดระบบทั้งหมด เพื่อป้องกันปัญหาลุกลาม ตอนนี้บริษัทอยู่ระหว่างการสอบสวนในเชิงลึก ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญและหน่วยงานภาครัฐต่อไป
ประกาศฉบับล่าสุดของ MoneyGram เมื่อประมาณ 3 ชั่วโมงก่อนหน้านี้ บอกว่าระบบบางส่วนกลับมาใช้งานได้แล้ว โดยเอเยนต์ของ MoneyGram สามารถกลับมารับและส่งเงินโอนข้ามประเทศได้บ้างแล้ว
Bilibili แพลตฟอร์มดูอนิเมะที่บริการขัดข้องตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมา จากเหตุการณ์ศูนย์ข้อมูลไฟไหม้ ทำให้ผู้ใช้งานไม่สามารถรับชมวิดีโอได้ทั้งหมด รายงานสถานะล่าสุดว่าบริการได้รับการแก้ไข จนกลับมาใช้งานได้บางส่วนแล้ว
ฟังก์ชันที่ยังมีปัญหาไม่สามารถใช้งานได้ เช่น การเติมเงิน Bilibili Premium, ข้อความลอยในวิดีโอ, ประวัติการรับชมวิดีโอ ซึ่ง Bilibili กำลังแก้ไขส่วนนี้อยู่
Bilibili ยังพูดถึงแผนการชดเชยลูกค้า Subscription ว่าจะมีการประกาศในภายหลังเมื่อระบบทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ
ที่มา: Bilibili
Bilibili แพลตฟอร์มดูอนิเมะยอดนิยม รายงานสถานะล่าสุดหลังจากเว็บไซต์และแอปไม่สามารถรับชมเนื้อหาได้ตั้งแต่วันอังคารที่ 10 กันยายน ซึ่งเวลาต่อมาระบุว่าเกิดจากไฟไหม้ที่ผู้ให้บริการเซิร์ฟเวอร์ จึงคาดว่าเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ไฟไหม้ศูนย์ข้อมูล Alibaba Cloud Zone C ในสิงคโปร์
เมื่อวานนี้เกิดเหตุไฟไหม้ศูนย์ข้อมูล Alibaba Cloud Zone C ในสิงคโปร์ กระทบบริการจำนวนมาก โดยต้นเพลิงเกิดจากแบตเตอรีลิเธียมในศูนย์ข้อมูล
กระบวนการดับเพลิงกินเวลา 4 ชั่วโมง ตั้งแต่ 10:20-14:40 ตามเวลาปักกิ่ง แต่หลังจากควบคุมเพลิงได้แล้วก็ยังมีความร้อนอยู่ ทำให้ทีมงานไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้ และอุปกรณ์เน็ตเวิร์คทำงานผิดปกติ ตลอดจนมีน้ำดับเพลิงเข้าไปในห้องเซิร์ฟเวอร์ ทำให้กระบวนการกู้คืนระบบใช้เวลา
ทาง Alibaba Cloud ระบุว่าระบบที่เปิด high availability เอาไว้สามารถย้ายระบบออกไปโดยอัตโนมัติได้ตามที่คาดหวัง เช่น Redis, MongoDB, MySQL แต่บริการที่เปิดใช้แบบ single availability zone เช่น object storage หรือฐานข้อมูลต่างๆ หากอยู่ใน Zone C ก็จะดับไป
AIS Play เกิดเหตุล่มก่อนการแข่งขันแบตมินตันชิงโอลิมปิกระหว่าง วิว กุลวุฒิ วิทิตศานต์ และ วิคเตอร์ อเซลเซ่น (ทีมชาติเดนมาร์ก) โดยผู้ใช้บางคนค้างหน้าโลโก้ บางคนล็อกอินหลุดและล็อกอินกลับเข้าไปไม่ได้
ตอนนี้ทาง AIS Play ประกาศเพิ่มช่องทางรับชม https://www.ais.th/live-event เพิ่มเติมแล้ว
ที่มา - Facebook: AIS Play
ไมโครซอฟท์ประกาศผ่านบล็อก Windows IT Pro Blog ว่าจากกรณี CrowdStrike สิ่งแรกที่ไมโครซอฟท์ทำคือตั้งทีมรับมือปัญหาเฉพาะหน้า (first responder) โดยใช้ทีมซัพพอร์ตกว่า 5 พันคนทำงาน 24x7 ช่วยกู้ระบบของลูกค้าทั่วโลกให้กลับมาออนไลน์
ไมโครซอฟท์ยังออกตัวช่วยกู้ระบบ (Recovery Tool) ซึ่งหลังจากออกเวอร์ชันแรกมาแล้ว ยังพัฒนาต่ออีกหลายเวอร์ชันตามความต้องการของลูกค้า (หน้ารวมข้อมูลทุกอย่างของ Recovery Tool) เช่น รองรับการบูตจาก WinPE, การบูตจาก safe mode, การบูตผ่านเครือข่าย PXE
George Kurtz ซีอีโอของ CrowdStrike โพสต์ข้อมูลผ่าน LinkedIn ระบุว่าพีซีวินโดวส์ที่ติดตั้ง Falcon Sensor ตอนนี้กลับมาออนไลน์ได้แล้ว 97% (เทียบกับตอนก่อนอัพเดต)
CrowdStrike ไม่ได้เปิดเผยจำนวนพีซีที่ได้รับผลกระทบ แต่ถ้าเราใช้ตัวเลขประเมินของไมโครซอฟท์ 8.5 ล้านเครื่อง มาเป็นที่ตั้ง ตอนนี้น่าจะยังมีพีซีที่ออฟไลน์เพราะยังติดอาการจอฟ้าอยู่ราว 2.55 แสนเครื่อง
ก่อนหน้านี้ CrowdStrike เพิ่งเผยแพร่รายงานสอบสวนเบื้องต้น ว่าปัญหาเกิดจากบั๊กของระบบทดสอบ เลยปล่อยให้โค้ดที่มีบั๊กหลุดไปยังโปรดักชันได้
บริษัทประกันภัย Parametrix ประเมินความเสียหายจากเหตุการณ์ระบบไอทีล่มทั่วโลกเพราะ CrowdStrike โดยนับเฉพาะบริษัทขนาดใหญ่ใน Fortune 500 และไม่นับรวมไมโครซอฟท์ คาดว่ามูลค่าความเสียหายอยู่ราว 5.4 พันล้านดอลลาร์ หรือเกือบ 2 แสนล้านบาท
บริษัทขนาดใหญ่ที่ได้รับผลกระทบจาก CrowdStrike มีในแทบทุกอุตสาหกรรม เช่น สายการบิน ธนาคาร โรงพยาบาล ฯลฯ โดย Parametrix ประเมินว่าอุตสาหกรรมโรงพยาบาลโดนหนักที่สุด 1.938 พันล้านดอลลาร์ ตามด้วยธนาคาร 1.149 พันล้านดอลลาร์ ส่วนกลุ่มสายการบินยักษ์ใหญ่ 6 บริษัทใน Fortune 500 โดนไปราวๆ 860 ล้านดอลลาร์
เมื่อวานนี้นอกจากเหตุการณ์ CrowdStrike อัพเดตเครื่องวินโดวส์แล้วพัง ยังมีอีกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงไล่เลี่ยกัน (แต่ไม่เกี่ยวข้องกัน) คือ Microsoft Azure ล่มในบางพื้นที่
รายงานของไมโครซอฟท์ระบุว่าระบบของ Azure มีปัญหาเฉพาะในเขต Central US ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม ราวตีห้าของประเทศไทย และฟื้นกลับมาได้ทั้งหมดราว 1 ทุ่ม (การล่มเกิดก่อนปัญหา CrowdStrike ทำจอฟ้า) สาเหตุเกิดจากปัญหาสตอเรจทำงานผิดพลาด ทำให้จำนวนเครื่อง VM ในระบบมีไม่เหลือพอให้ใช้บริการ ระบบไอทีใดๆ ที่เรียกใช้บริการ VM และสตอเรจบน Azure จึงได้รับผลกระทบ
รัฐบาลออสเตรเลียประกาศเรียกประชุม National Emergency Mechanism คณะทำงานในภาวะฉุกเฉินของประเทศ หลังระบบไอทีต่างๆ มีปัญหาเป็นวงกว้างจากการอัพเดตผิดพลาดของ CrowdStrike
หน่วยงานต่างๆ ของรัฐบาล เช่น กรมตำรวจ New South Wales ออกมาระบุว่าได้รับผลกระทบแต่ระบบแจ้งเหตุฉุกเฉินหมายเลข 000 ของออสเตรเลียยังทำงานได้
NCM เป็นกลไกฉุกเฉินที่สร้างขึ้นมาสมัย COVID-19 ที่เปิดทางให้นายกรัฐมนตรีสั่งการหน่วยงานต่างๆ ได้โดยตรง อย่างไรก็ตามตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลว่ารัฐบาลออสเตรเลียจะใช้กระบวนการนี้ออกมาตรการอะไรออกมา
หลังจาก CrowdStrike ระบบป้องกันไวรัสระดับองค์กร ออกแพตช์ผิดพลาดจนมีปัญหาในองค์กรจำนวนมาก ตอนนี้องค์กรที่ได้รับผลกระทบก็เริ่มออกมาแจ้งข่าวระบบล่ม เช่น
Niconico เว็บไซต์วีดีโอสตรีมมิ่งอันดับสองของญี่ปุ่น ถูกโจมตีทางไซเบอร์ตั้งแต่เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา และต้องระงับการให้บริการต่างๆ ในเครือจนถึงตอนนี้
Niconico ออกแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ว่า เมื่อเช้าวันเสาร์มีการตรวจพบว่าระบบต่างๆ ทำงานผิดพลาด หลังจากการตรวจ พบว่าเกิดจากการโจมตีทางไซเบอร์ขนาดใหญ่ รวมถึง ransomware จากนั้นจึงทำการตัดการเชื่อมต่อและปิดเซิร์ฟเวอร์ และระงับการให้บริการต่างๆ ชั่วคราว การโจมตียังลามไปถึงระบบเครือข่ายภายในด้วย บริษัทจึงปิดระบบภายในและปิดสำนักงานเป็นการชั่วคราวแล้ว
การกู้คืนระบบทั้งหมดคาดว่าใช้เวลามากกว่าหนึ่งเดือน บริษัทยังแจ้งว่ากำลังเตรียมสร้างทั้งระบบขึ้นมาใหม่เพื่อป้องกันการโจมตีในอนาคต
ตั้งแต่ช่วงบ่ายเมื่อวานนี้ (อังคาร 4 มิถุนายน 2024) ผู้ใช้งาน ChatGPT จำนวนมากพบปัญหาไม่ใช่สามารถใช้งานได้ โดย OpenAI ยืนยันปัญหาที่เกิดขึ้น 2 ครั้ง โดยรอบแรกเกิดตั้งแต่เวลา 14:21น. และกลับมาเป็นปกติเวลา 18:45น. ส่วนรอบที่สองเริ่มเกิดปัญหาเวลา 21:33น. กลับมาเป็นปกติเวลาเที่ยงคืน ทั้งหมดตามเวลาในประเทศไทย
OpenAI บอกว่าปัญหาที่เกิดขึ้นกระทบกับการใช้งาน ChatGPT สำหรับลูกค้าทุกแผน ทั้งบนเบราว์เซอร์และผ่านแอปมือถือ แต่ไม่กระทบการใช้งาน API หรือ platform.openai.com
ตลาดหุ้นนิวยอร์กสั่งหยุดซื้อขายหุ้น Berkshire Hathaway แบบ A (BRK.A) หลังราคาหุ้นร่วงลงไปถึง 99.97% จากหุ้นละกว่า 620,000 ดอลลาร์ หรือ 23 ล้านบาท เหลือเพียง 185 ดอลลาร์หรือ 7,000 บาทเท่านั้น
หุ้น BRK.A มีการซื้อขายบนกระดานไม่เยอะนักเนื่องจากราคาสูงมาก นับแต่เปิดตลาดวันนี้มีการซื้อขายเพียงไม่ถึง 4,000 หุ้นเท่านั้น
ล่าสุดตลาดหุ้นนิวยอร์กกลับมาเปิดซื้อขายเหมือนเดิม หลังปิดไป 1 ชั่วโมง โดยราคาเด้งกลับมาที่เดิม ยังไม่มีแถลงว่าสาเหตุของราคาผิดปกติเช่นนี้เกิดจากอะไร
ที่มา - CNBC
Google Cloud ออกแถลงเหตุที่ UniSuper กองทุนรวมของออสเตรเลียที่มีสมาชิกกว่า 620,000 คน ถูกลบบัญชีออกโดยระบุว่า UniSuper ใช้บริการ Google Cloud VMware Engine Private Cloud ซึ่งจะต้องเปิดใช้บริการผ่านเครื่องมือภายในตัวหนึ่งเพื่อจัดสรร capacity ให้ตรงตามความต้องการของลูกค้า เจ้าหน้าที่ของ Google ที่ใช้งานเครื่องมือนี้เผลอลืมใส่ข้อมูลหนึ่งลงไป (ไม่ได้ระบุว่าเป็นพารามิเตอร์อะไร) ระบบภายในจึงตั้งพารามิเตอร์นี้เป็น 1 ปีตามค่าตั้งต้น
ไมโครซอฟท์อัปเดตว่าปัญหา Bing, Copilot และ Copilot บน Windows ไม่สามารถใช้งานได้ ซึ่งมีรายงานตั้งแต่ช่วงบ่ายวันพฤหัสบดีที่ 23 พฤษภาคม ที่ผ่านมาตามเวลาในไทย ตอนนี้ปัญหาทั้งหมดได้รับการแก้ไขและกลับมาใช้งานได้ตามปกติแล้ว
บัญชี Microsoft 365 Status โพสต์รายงานสถานะครั้งสุดท้ายเมื่อเวลาเที่ยงคืนที่ผ่านมาว่าฟีเจอร์ Copilot ทั้งหมด กลับมาทำงานได้ตามปกติ สามารถดูรายละเอียดได้ที่ Admin Center หมายเลข CP795190 ซึ่งระบุว่ากลับมาเป็นปกติตั้งแต่ 21:55น. วันศุกร์ที่ 24 พฤษภาคม
มีรายงานปัญหา Bing เสิร์ชเอ็นจินของไมโครซอฟท์ไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ และส่งผลกระทบกับ API ทำให้บริการที่เชื่อมต่อบริการเสิร์ชกับ Bing เช่น DuckDuckGo พบปัญหาในการใช้งานด้วย นอกจากนี้ Microsoft Copilot ก็ไม่สามารถโหลดหน้าใช้งานได้ตามปกติส่วนที่เป็นการค้นหาข้อมูลเว็บ
เว็บไซต์ Downdetector รายงานปัญหานี้ทั้งของ Bing และ DuckDuckGo โดยพบปัญหาจำนวนมากตั้งแต่เวลาประมาณ 13:20น. ตามเวลาในไทย จนถึงตอนนี้ยังคงมีปัญหาอยู่
UniSuper กองทุนรวมของออสเตรเลีย ที่ดูแลเงินลงทุนของพนักงานมหาวิทยาลัยและหน่วยงานวิจัยในออสเตรเลียกว่า 620,000 คน ประสบปัญหาระบบออนไลน์ใช้งานไม่ได้มาเป็นเวลาเกิน 1 สัปดาห์ ด้วยเหตุผลว่า Google Cloud จัดการคอนฟิกผิดพลาด เผลอ "ลบ" บัญชีองค์กรของ UniSuper ออกจากระบบ
วันนี้ธนาคารบริการออนไลน์ของธนาคาร DBS ในสิงคโปร์ล่มไปตั้งแต่ช่วง 5 โมงเย็นตามเวลาประเทศไทย และแก้ไขจนกลับมาได้ในเวลา 3 ชั่วโมง โดยปัญหาครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากแบงค์ชาติสิงคโปร์ (MAS) เพิ่งปลดคำสั่งล็อกฟีเจอร์ระบบเพื่อให้ธนาคารแก้ปัญหาเสถียรภาพระบบก่อน
นอกจากระบบของ DBS เองแล้ว ระบบของธนาคารไปรษณีย์สิงคโปร์ หรือ POSB ที่ DBS เป็นคนให้บริการก็ล่มไปพร้อมกัน ทางธนาคารขอให้ลูกค้าใช้บัตรเครดิตหรือเดบิต ตลอดจนถอนเงินจาก ATM ไปก่อน
ลูกค้า DBS เข้าไปแสดงความไม่พอใจรูปแบบต่างๆ เช่นพาดพิงถึงซีอีโอธนาคารที่ได้รับค่าจ้างปีที่ผ่านมากว่า 10 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ แม้จะลดลงถึง 27% แล้ว
แบงค์ชาติสิงคโปร์ (MAS) ปรับมาตรการลงโทษธนาคาร DBS ที่ถูกสั่งล็อกระบบเพื่อให้แก้ปัญหาธนาคารออนไลน์ล่มเมื่อต้นปี 2023 โดยหลังจากนี้จะอนุญาตให้ DBS ปรับระบบและการทำธุรกิจได้ตามปกติ
มาตรการล็อกระบบที่ผ่านมาทำให้ DBS แทบเพิ่มฟีเจอร์อะไรไม่ได้ นอกจากการแก้ให้ระบบเสถียรขึ้นเท่านั้น และยังห้ามไม่ให้ลดสาขาหรือตู้เอทีเอ็มอีกด้วย
อัปเดต: ใช้งานได้ตามปกติ ตั้งแต่เวลาประมาณ 16:00น.
มีรายงานจากผู้ใช้งาน X หรือ Twitter เดิม ทั่วโลก รวมทั้งในประเทศไทย ไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ ซึ่งเว็บไซต์ Downdetector ก็รายงานปัญหาจำนวนมากเช่นกันตั้งแต่เวลา 14:06น. ตามเวลาในประเทศไทย
แนวโน้มล่าสุดผู้ใช้งานส่วนใหญ่เริ่มใช้งานได้ตามปกติแล้ว
ปัญหา X ใช้งานไม่ได้นี้ ทำให้แฮชแท็ก #ทวิตล่ม ขึ้นอันดับ 1 เทรนด์ของ X ประเทศไทยด้วย ซึ่งมาจากผู้ใช้งานที่ยังพอโพสต์อะไรได้บ้างนั่นเอง
ที่มา: Downdetector
ในหนึ่งวันที่ผ่านมา ไม่ได้มีแค่บริการของ Meta ที่เจอปัญหาไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ โดยช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาในไทย บริการออนไลน์หลายอย่างของแอปเปิล ก็มีปัญหาไม่สามารถใช้งานได้เช่นกัน
บริการที่ได้รับผลกระทบอาทิ App Store, Apple Podcasts, Apple Music, Apple TV+ ฯลฯ โดยมีปัญหาตั้งแต่เวลา 5:13-6:35น. ตามเวลาในไทย
แอปเปิลบอกว่าปัญหานี้เกิดกับผู้ใช้งานบางส่วน ไม่สามารถใช้งานได้ ตอนนี้กลับมาเป็นปกติทั้งหมดแล้ว
ที่มา: MacRumors
มีรายงานปัญหาจากผู้ใช้งานบริการในเครือ Meta ไม่ว่าจะเป็น Instagram, Facebook, Messenger และ WhatsApp จำนวนมากไม่สามารถใช้งานได้
ข้อมูลจาก Downdetector พบปัญหาทั้ง 4 บริการดังกล่าว ตั้งแต่เวลาประมาณ 1:00น. ของวันที่ 4 เมษายน 2024 โดยล่าสุดเริ่มใช้งานตามปกติได้บ้างแล้ว ส่วนข้อมูลจาก Dashboard สถานะบริการของ Meta ระบุว่า API ของ Instagram, Messenger และ WhatsApp เริ่มมีปัญหาตั้งแต่เวลา 1:10น. ตามเวลาในไทย
บริการของ Meta พบปัญหาใช้งานไม่ได้ครั้งล่าสุดคือเดือนที่แล้ว เป็นเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
เมื่อวานนี้ร้านแมคโดนัลด์หลายสาขาในหลายประเทศพบปัญหาระบบไอทีขัดข้อง ทำให้ไม่สามารถให้บริการได้ เนื่องจากระบบสั่งอาหาร จ่ายเงินล่มทั้งหมด โดยมีรายงานทั้งในสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย แคนาดา อิตาลี นิวซีแลนด์ สหราชอาณาจักร
แมคโดนัลด์ออกแถลงการณ์ยืนยันปัญหานี้ว่าเกิดขึ้นประมาณเที่ยงคืนวันศุกร์ ตามเวลา Central เป็นปัญหาระบบเทคโนโลยีที่เชื่อมต่อใช้งานทั่วโลก โดยแก้ปัญหาอย่างรวดเร็วและตอนนี้กลับมาใช้งานได้เป็นส่วนใหญ่แล้ว พร้อมบอกว่าไม่ใช่ปัญหาการโจมตีทางไซเบอร์ แต่เกิดจากการแก้ไขคอนฟิกของผู้ให้บริการภายนอกที่ส่งผลกระทบ
ผู้ใช้งาน X ในญี่ปุ่นจำนวนมากต่างโพสต์ภาพที่แมคโดนัลด์ปิดให้บริการ บางภาพแสดงให้เห็นหน้าจอทั้งหมดในร้านแสดงโลโก้ค้างอยู่
Meta ชี้แจงปัญหาที่แพลตฟอร์มในเครือทั้ง Instagram, Facebook และ Threads ไม่สามารถใช้งานได้ประมาณ 2 ชั่วโมงเมื่อคืนนี้ โดย Andy Stone ฝ่ายสื่อสารองค์กรของ Meta บอกว่าเกิดจากปัญหาทางเทคนิค
แดชบอร์ด Meta Status อธิบายว่าปัญหาที่เกิดขึ้นว่ามาจากระบบล็อกอิน โดยเริ่มมีปัญหาตั้งแต่เวลา 22:17น. เริ่มใช้งานได้ตั้งแต่ 00:07น. และกลับมาใช้งานตามปกติได้ทั้งหมดเวลา 02:27น.