ยุทธศาสตร์ซอฟต์แวร์ของซัมซุงในช่วงหลังคือการสร้าง "บริการออนไลน์" แบบข้ามแพลตฟอร์ม ซึ่งเราเห็นกันชัดเจนจากแอพแชต Samsung ChatOn ที่มีให้ใช้บนมือถือแทบทุกค่าย
ล่าสุดซัมซุงเตรียมต่อยอดยุทธศาสตร์นี้โดยขยายบริการเพลงออนไลน์ Music Hub ของตัวเอง ไปยังอุปกรณ์ยี่ห้ออื่นๆ ด้วย
ซัมซุงยังไม่ระบุว่า Music Hub จะใช้งานบนระบบปฏิบัติการใดได้บ้าง แต่เนื่องจากตัวแอพ Music Hub มีให้ดาวน์โหลดบน Google Play อยู่แล้ว ก็คาดว่าชุดแรกน่าจะเป็นมือถือแอนดรอยด์ยี่ห้ออื่นๆ นั่นเอง
การขยาย Music Hub มายังมือถือยี่ห้ออื่นๆ จะทำให้ซัมซุงกลายเป็นผู้เล่นอีกรายในตลาดเพลงออนไลน์ แข่งกับผู้เล่นรายอื่นอย่าง Amazon, Google, Sony, Spotify, Rdio เป็นต้น
เมื่อปีที่แล้วโนเกียเปิดตัว Nokia Music บริการเพลงออนไลน์สำหรับมือถือ Windows Phone (ที่ใช้งานได้ฟรีในสหรัฐ)
วันนี้โนเกียให้ข้อมูลของ Nokia Music+ บริการแบบพรีเมียมที่คิดค่าบริการรายเดือน โดยไม่จำกัดการดาวน์โหลดเพลงมาฟังแบบออฟไลน์ คุณภาพเสียงสูงขึ้น 8 เท่า (ไม่ระบุบิตเรต) มีฟีเจอร์เนื้อเพลง และฟังผ่านเว็บแอพได้โดยไม่ต้องใช้โทรศัพท์มือถือ
Nokia Music+ จะเปิดตัวในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ค่าสมาชิกจะอยู่ราว 3.99 ดอลลาร์/ยูโรต่อเดือน ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามแต่ละประเทศ
ที่มา - Nokia Conversations
หลายคนคงจำ Napster บริการแชร์เพลงเปลี่ยนโลกที่ก่อตั้งโดย Sean Parker กับ Shawn Fanning ได้ ถึงแม้ Napster จะโดนปัญหาฟ้องร้องจนต้องขายเปลี่ยนมือมาแล้วหลายครั้ง แต่วงการเพลงหลัง Napster ก็ไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป
__Downloaded__ เป็นภาพยนตร์สารคดีเล่าเรื่องราวของ Napster โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการต่อสู้ของสองผู้ก่อตั้งกับบรรดาค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ที่พยายามปิด Napster ลง เรื่องนี้กำกับโดย Alex Winter และมีกำหนดฉายเปิดตัวครั้งแรกในงาน SXSW เดือนมีนาคมนี้
จากข่าว Myspace เผยหน้าตาเว็บแบบใหม่ สวยโฉบเฉี่ยว และ รีวิว Myspace รูปแบบใหม่ วันนี้ผู้ใช้ทุกคนสามารถสมัครบริการ Myspace รูปแบบใหม่ได้แล้วครับ
การใช้งานต้องเข้าไปที่ new.myspace.com สามารถล็อกอินด้วยบัญชี Facebook/Twitter/Myspace (ของเดิม) ได้เลย หน้าตาของ Myspace แบบใหม่ก็เหมือนกับในข่าวก่อนหน้านี้ คือเน้นรูปภาพเต็มจอ เลื่อนหน้าจอแนวขวาง เน้นการฟังเพลงและดูมิวสิควิดีโอ
Jimmy Iovine ซีอีโอ Beats ประกาศอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับบริการสตรีมเพลงของบริษัทชื่อ Daisy เนื่องจาก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่า Beats ต้องการจะขยายบริษัทให้ครอบคลุมวงการเพลงให้มากกว่าเดิม และได้ซื้อ MOG เว็บไซต์ให้บริการเพลงไปเมื่อกลางปีที่ผ่านมา (ข่าวเก่า) โดยให้สัมภาษณ์กับ AllThingsD ในหลายประเด็นด้วยกัน เช่น
ทำไม Daisy ถึงแตกต่างจากคนอื่น
บริการสตรีมเพลงอื่น ๆ กลั่นกรองข้อมูลที่ตรงใจผู้รับได้ช้า แต่ Daisy ทำได้เร็วกว่า
วันนี้กูเกิลประกาศว่า ได้อัพเดตบริการ Google Music ในอเมริกาให้รองรับฟีเจอร์การสแกนและจับคู่เพลง (เหมือน iTunes Match) ฟีเจอร์นี้จะเปิดให้ผู้ใช้สแกนเพลงในคลังของตนเองและจับคู่กับเพลงบน Google Music หากจับคู่กับเพลงบน Google Music ได้แล้ว ผู้ใช้สามารถสตรีมเพลงบิตเรต 320Kbps ได้ โดยจำกัดจำนวน 2 หมื่นเพลง ที่สำคัญคือบริการนี้ฟรี! ขณะที่ทั้งแอปเปิลและอเมซอนที่มีบริการเหมือนกันนี้เก็บ 24.99 ดอลลาร์ต่อปี
ที่มา - 9to5Google
เว็บไซต์ LiveSide.net ค้นเจอหลักฐานในโค้ดของ SkyDrive.com กล่าวถึงบริการ "music player" พร้อมทั้งภาพของปุ่มที่ใช้ควบคุมการเล่นเพลงด้วย
ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลอย่างเป็นทางการจากไมโครซอฟท์ แต่คาดว่าไมโครซอฟท์น่าจะเปิดบริการฟังเพลงผ่านกลุ่มเมฆ แบบเดียวกับ Amazon Cloud Player, iCloud และ Google Play Music ในเร็วๆ นี้ ตอนนี้ยังไม่มีความแน่ชัดว่ามันจะเกี่ยวข้องกับ Xbox Music ที่เปิดตัวไปแล้วหรือไม่
ที่มา - LiveSide.net
Google เพิ่มเพลงเข้าสู่ Google Play สำหรับยุโรปอีก 5.5 ล้านเพลง
เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา Google บรรลุข้อตกลงในการเพิ่มเพลงเข้าสู่ตลาดยุโรปอีก 35 ประเทศ ซึ่งเกิดจากข้อตกลงร่วมกับ Armonia ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทที่ถือสิทธิจำหน่ายเพลงจากฝรั่งเศส, อิตาลี และสเปน โดยข้อตกลงครั้งนี้มีเพลงในแผนกลาตินของ Sony Music รวมทั้งคลังเพลงของ Universal Music ในส่วนของสหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริการวมอยู่ด้วย
การเพิ่มเนื้อหาสำหรับลูกค้าในยุโรปครั้งนี้ เพื่อเข้าใกล้คู่แข่งธุรกิจร้านค้าออนไลน์อย่าง Apple และ Amazon ในระดับโลกมากยิ่งขึ้น หลังจากช่วงที่ผ่านมา Google Play ยังมีคงมีเนื้อหาหลายส่วนที่จำกัดเฉพาะผู้ใช้งานในสหรัฐอเมริกา
Spotify บริการเพลงออนไลน์แบบสตรีมมิ่ง ระดมเงินลงทุนรอบใหม่ 100 ล้านดอลลาร์จากนักลงทุนหลายราย โดยครึ่งหนึ่งของเงินจำนวนนี้มาจากสถาบันการเงินใหญ่อย่าง Goldman Sachs
แต่ที่น่าสนใจคือ 10% ของเงินจำนวนนี้มาจาก Coca-Cola บริษัทเครื่องดื่มที่ทุกคนรู้จักกันดี งานนี้ทั้งสองบริษัทไม่ได้แถลงข่าวใดๆ แต่ก็เป็นสัญญาณว่าโค้กเองก็เริ่มมองหาพันธมิตรบนโลกออนไลน์มากขึ้น และอาจใช้ความสัมพันธ์นี้ช่วยผลักดัน Spotify ขยายตลาดไปยังประเทศอื่นๆ นอกจากสหรัฐและยุโรปด้วย
โค้กเป็นบริษัทที่ใช้การตลาดผ่านดนตรีและศิลปินเยอะมาก การลงทุนครั้งนี้อาจบ่งชี้ว่าในอนาคตโค้กสนใจทำตลาดดนตรีออนไลน์มากขึ้น นอกเหนือจากการตลาดดนตรีแบบออฟไลน์ที่มีอยู่เดิม
ไมโครซอฟท์เผยข้อมูลของ Xbox Music บริการเพลงออนไลน์ของตัวเองที่จะมาพร้อมกับ Windows 8, Windows Phone 8 และ Xbox 360
จุดเด่นของบริการนี้คือรูปแบบการใช้งานที่หลากหลาย จะซื้อเป็นเพลงแบบ iTunes ก็ได้ หรือจะซื้อเหมาบริการสตรีมมิ่งแบบ Spotify ก็ได้เช่นกัน (ฟรืแบบมีโฆษณา หรือจ่ายเดือนละ 9.99 ดอลลาร์) นอกจากเพลงจำนวน 30 ล้านเพลง แล้วยังมีมิวสิควิดีโอกว่า 70,000 คลิปไว้บริการ
ในเบื้องต้นไมโครซอฟท์จะเปิดบริการสตรีมมิ่งแบบมีโฆษณาบน Windows 8 ก่อน (ชุดแรก 15 ประเทศไม่บอกว่ามีประเทศอะไรบ้าง) จากนั้นจะตามด้วยบริการเพลงแบบเหมาจ่ายใน 22 ประเทศ (ยังไม่มีข้อมูลว่าประเทศไทยจะได้กับเขาหรือไม่นะครับ)
The Verge อ้างแหล่งข่าวหลายรายว่า Xbox Music บริการเพลงออนไลน์ของไมโครซอฟท์ที่จะมาสืบทอด Zune Music Pass (ข่าวลือก่อนหน้านี้) จะเปิดตัวในวันที่ 26 ตุลาคมนี้ (พร้อม Windows 8)
ตามข่าวบอกว่ามันจะใช้กับ Windows 8, Windows Phone และ Xbox 360 โดยเชื่อมเพลงและรายการเล่นเพลงไปเก็บบน SkyDrive แต่ยังไม่สามารถใช้ได้กับอุปกรณ์ของค่ายอื่นๆ อย่าง Android/iOS ตามที่มีข่าวก่อนหน้านี้
ที่มา - The Verge
SoundHound บริการค้นหาเพลงด้วยเสียงประกาศวันนี้ว่ามีผู้ใช้งานในรูปแบบแอพทั้งบนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตเกิน 100 ล้านคนแล้ว จุดเด่นของ SoundHound นั้นคือการทำให้วิธีค้นหาข้อมูลเพลงง่ายสำหรับผู้ใช้งานที่สุด โดยใช้วิธีการจับคู่เสียงดนตรีไม่ว่าจะเป็นการฮัมทำนอง หรือเปิดเสียงใส่เข้าไปในการค้นหา
SoundHound มีการปรับเปลี่ยนแบรนด์ในปี 2010 ช่วยให้นับจากตอนนั้นที่มีผู้ใช้งานอยู่ 2 ล้านคน สามารถก้าวกระโดดขึ้นมาได้ถึง 100 ล้านคนในเวลาอันสั้น ซึ่ง Keyvan Mohajer ซีอีโอและผู้ก่อตั้งกล่าวว่าเป็นผลจากการเติบโตของตลาดอุปกรณ์พกพา และกระแสบอกต่อในเครือข่ายสังคม โดยจากข้อมูลผู้ใช้งานนั้นส่วนใหญ่มาจากแพลตฟอร์ม iOS และ Android
โนเกียเปิดตัวบริการเพลงออนไลน์ Nokia Music ในสหรัฐ โดยมีฟีเจอร์สำคัญที่คู่แข่งไม่มีทางสู้ได้เนื่องจากมันให้บริการสตรีมเพลงฟรีแบบไม่มีโฆษณา
นอกจากประเด็นเรื่องราคาแล้ว โนเกียยังเตรียมของเด็ดไว้เอาใจคนฟังเพลงอีกเพียบ เช่น playlist ที่มีมืออาชีพด้านดนตรีเตรียมไว้ให้แล้วว่า 150 รายการ, playlist ของศิลปินดังอย่าง Lady Gaga และ Rihanna, ดาวน์โหลดเพลงมาฟังแบบออฟไลน์ได้, บริการค้นหางานคอนเสิร์ตของศิลปินที่สนใจ เป็นต้น
ผู้ใช้ Lumia 900 และ 710 ในสหรัฐจะได้ใช้บริการนี้ฟรี เพียงแค่ดาวน์โหลดแอพ Nokia Music เท่านั้น ไม่ต้องลงทะเบียนใดๆ และแน่นอนว่าฟรีแบบไม่มีโฆษณา
ไมโครซอฟท์ประกาศหยุดขาย Zune ไปเมื่อปีที่แล้ว แต่ผู้ใช้ Zune เดิมก็ยังเข้าถึงบริการต่างๆ ที่มีอยู่เดิมได้ต่อไป
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้มีผู้ใช้บางรายได้รับอีเมลแจ้งจากไมโครซอฟท์ว่า จะหยุดให้บริการออนไลน์แก่ Zune ในวันที่ 31 สิงหาคมนี้ (พรุ่งนี้) โดยครอบคลุมถึง
Spotify บริการสตรีมเพลงผ่านอินเทอร์เน็ตที่กำลังมาแรงในสหรัฐฯ ประกาศขยายบริการเพิ่มเข้าไปยังประเทศแคนาดาแล้ว หลังจากก่อนหน้านี้เพิ่งขยายบริการไปยังบางประเทศในยุโรป ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ รวมตอนนี้ Spotify ให้บริการทั้งหมด 15 ประเทศแล้ว
แต่จากการขยายบริการอย่างรวดเร็วทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มค่อนข้างมาก เห็นได้จากผลประกอบการเมื่อปีล่าสุดที่ขาดทุนเยอะกว่าเดิม แต่ในขณะเดียวกันรายได้ก็เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวเช่นกัน และแผนต่อไปของ Spotify คือการขยายประเทศให้บริการเพิ่มขึ้น เพื่อแข่งขันกับคู่แข่ง (iTunes ?) จากข้อมูลล่าสุดมีผู้ลงทะเบียนมากกว่า 32.8 ล้านบัญชีแล้ว
ขอรายงานข่าวเกี่ยวกับ SkyDrive หลายข่าวในคราวเดียวกันเลยครับ
ข่าวแรก มีผู้ใช้ SkyDrive รายหนึ่งค้นพบว่า SkyDrive ได้เพิ่มภาพปกของอัลบั้มเพลงที่เขาอัพโหลดขึ้นไปเก็บไว้บนกลุ่มเมฆโดยอัตโนมัติ ทาง LiveSide ก็ได้ทดลองแล้วพบว่ามีภาพปกปรากฏขึ้นเช่นกัน ไม่รู้ว่านี่เป็นสัญญาณที่ว่า Xbox Music จะทำงานร่วมกับ SkyDrive ตามข่าวลือก่อนหน้านี้หรือไม่
ข่าวต่อมา LiveSide ค้นพบโค้ด recycleBinEnabled
บนเว็บ SkyDrive.com ทาง LiveSide คาดว่าจะเป็นโค้ดเปิด/ปิดการเข้าถึงฟีเจอร์ที่น่าจะมีชื่อว่า Recycle Bin แต่ก็ไม่มีข้อมูลอื่นที่จะบอกว่าฟีเจอร์นี้ทำหน้าที่อะไรกันแน่
บริษัทวิจัย Nielsen เผยผลสำรวจความคิดเห็นจากประชากรสหรัฐต่อการฟังเพลงในยุคปัจจุบัน พบว่า "วัยรุ่น" (ในข่าวไม่ระบุช่วงอายุว่าเท่าไร) นิยมฟังเพลงจาก YouTube มากที่สุด คิดเป็น 64% ของกลุ่มสำรวจ อันดับสองเป็นวิทยุ 56% ตามด้วย iTunes 53% และซีดี 50%
อย่างไรก็ตาม เมื่อถามว่าค้นพบหรือรู้จักเพลงใหม่ๆ จากที่ใด แชมป์กลับเป็นสื่อเก่าอย่างวิทยุ 48% ส่วน YouTube มีแค่ 7% เท่านั้น (อีกคำตอบคือเพื่อนหรือคนรู้จักแนะนำ 10%)
แอพฟังเพลงยอดนิยมบนสมาร์ทโฟนคือแอพฟังเพลง 54%, แอพวิทยุ 47% และแอพซื้อเพลง 26% นอกจากนี้ผู้ที่ซื้อเพลงผ่านระบบดิจิทัล 61% ยังระบุว่ามีความคุ้มค่าระดับสูงถึงสูงมาก ในขณะที่ตัวเลขสำหรับการซื้อซีดีต่ำกว่าเล็กน้อยที่ 55%
เว็บไซต์ TorrentFreak ได้เปิดเผยเอกสารหลุดจากสมาคมผู้ประกอบกิจการเพลงของสหรัฐอเมริกา หรือ RIAA ซึ่งเป็นผลการศึกษาในประเด็นที่ว่าผู้คนได้เพลงมาจากแหล่งใดกันบ้างในช่วงปี 2010-2011 พบว่า 35% นั้นมาจากการซื้ออย่างถูกต้องไม่ว่าจะเป็นซื้อซีดีหรือดาวน์โหลดเอา ส่วนอีก 65% มาจากการได้มาแบบไม่ต้องเสียเงิน
ในส่วนของการได้เพลงมาแบบไม่เสียเงินที่มีถึง 65% นั้น เมื่อแยกย่อยลงมาพบว่าสัดส่วนการได้เพลงผ่านการแชร์ในเครือข่าย P2P มีเพียง 15% ขณะที่การโหลดจากเว็บรับฝากไฟล์นั้นคิดเป็นเพียง 4% เท่านั้น ส่วนกรณีที่เหลือของการได้เพลงแบบไม่ต้องเสียเงินนั้น กลับมาจากวิธีการที่ไม่ต้องพึ่งบริการออนไลน์ได้แก่การยืมฮาร์ดดิสก์มาก๊อปปี้ และเอาแผ่นเพื่อนมาไรท์กันตรงๆ เลย
7digital ร้านขายเพลงออนไลน์ชื่อดังอีกราย ประกาศเปิดตัวแอพขายเพลงออนไลน์สำหรับ Windows 8 แล้ว โดยลูกค้าสามารถซื้อเพลงได้ตั้งแต่วันนี้ ก่อนหน้า Windows 8 ออกตัวจริงเสียอีก
หลังจากอาการดีขึ้นเรื่อยๆ MySpace ภายใต้เจ้าของใหม่อย่าง Specific Media ก็เตรียมแผนปรับปรุงครั้งใหญ่ในบริการโซเชียลเน็ตเวิร์คของตัวเองให้เน้นจุดแข็งด้านบริการเพลงให้มากขึ้น
MySpace โฉมใหม่เกิดขึ้นหลังจากที่จับมือกับ Justin Timberlake เพื่อปรับให้เป็นโซเชียลเน็ตเวิร์คที่สนับสนุนศิลปินให้ออกเพลงของตัวเองได้บนแพลตฟอร์ม ซึ่งขณะนี้กำลังทดสอบภายในรุ่น beta แล้ว คาดว่าจะเปิดให้ใช้ได้อย่างเป็นทางการในช่วงปลายปีนี้ โดยสองพี่น้อง Vanderhook เจ้าของ MySpace คนปัจจุบันเชื่อว่าการปรับปรุงครั้งนี้จะทำให้ MySpace กลับมาได้อีกครั้ง
Beats Electronics ประกาศเข้าซื้อเว็บไซต์ให้บริการเพลงออนไลน์ MOG เป็นที่เรียบร้อย หลังจากมีข่าวลือหนาหูในช่วงหลังว่า Beats ต้องการจะขยายบริษัทให้ครอบคลุมวงการเพลงให้มากกว่าเดิม จากเดิมที่มีระบบเสียงในมือถือ เดสก์ท็อป รถยนต์ และทำหูฟัง ตอนนี้ก็มีบริการเพลงออนไลน์ที่มีฐานลูกค้าราว 500,000 รายเพิ่มเข้ามาแล้ว
ตัวเลขดีลครั้งนี้ไม่มีการเปิดเผยออกมา แต่ทาง Los Angeles Times รายงานไว้ว่าต่ำกว่า 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หลังจากที่ Beats ประกาศซื้อ Luke Wood ซีอีโอของบริษัทก็ออกมาบอกว่าจะยังให้บริการ MOG ต่อไปเหมือนเดิม จนกว่าจะหาทางรวมบริการดังกล่าวเข้ากับผลิตภัณฑ์ที่ Beats ทำอยู่ได้
ต้องรอดูว่านอกจาก Beats แล้ว ผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง HTC จะได้อะไรจากดีลนี้บ้าง
Bloomberg รายงานข่าววงในว่าไมโครซอฟท์กำลังพัฒนาบริการเพลงออนไลน์ Xbox Music ให้มีฟีเจอร์ทัดเทียมกับคู่แข่ง ทั้งในเรื่อง cloud locker (อัพโหลดไฟล์เพลงขึ้นไปเก็บบนเซิร์ฟเวอร์ไมโครซอฟท์) และการฟังเพลงแบบสตรีมมิ่งผ่านเน็ต
ปัจจุบันนี้ไมโครซอฟท์มีเฉพาะบริการขายเพลงเป็นไฟล์ ในขณะที่คู่แข่งทั้ง iTunes, Amazon MP3 และ Google Music มีบริการแบบสตรีมมิ่งกันหมดแล้ว แถมยังมีบริการสตรีมมิ่งที่ได้รับความนิยมอย่าง Spotify อยู่ในตลาดอีกด้วย
คาดว่าบริการ Xbox Music จะเปิดตัวช่วงปลายปีนี้ โดยตอนนี้ไมโครซอฟท์กำลังเจรจาเรื่องสิทธิ์การใช้งานกับค่ายเพลง 4 รายใหญ่คือ Warner, EMI, Sony และ Universal อยู่
หลังจากรอคอยกันมาแสนนาน แอปเปิลก็ประกาศเปิด iTunes Store อย่างเป็นทางการในประเทศเอเชียรวม 12 ประเทศ ซึ่งมีประเทศไทยรวมอยู่ด้วย
ผู้ใช้ในประเทศเหล่านี้สามารถซื้อเพลงได้จาก iTunes Store โดยตรงแล้ว โดยมีทั้งเพลงสากลจากโลกตะวันตก และเพลงจากศิลปินในประเทศ รวมถึงการซื้อหรือเช่าภาพยนตร์จาก iTunes ได้เช่นกัน
ใครลองแล้วเป็นอย่างไรก็มาแลกเปลี่ยนกันหน่อยนะครับ
ที่มา - Apple Press Release
เมื่อปลายเดือนพฤษภาคมมีข่าวว่าแอปเปิลกำลังเข้าซื้อ Redmatica บริษัทซอฟต์แวร์ตัดแต่งเพลงสัญชาติอิตาลี และอยู่ในระหว่างตรวจสอบว่าการเข้าซื้อครั้งนี้เข้าข่ายผูกขาดตลาดหรือไม่ และในวันนี้การตรวจสอบดังกล่าวได้รับอนุมัติจากอิตาลีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็ยืนยันการเข้าซื้อของแอปเปิลไปพร้อมกัน ภายหลังการเข้าซื้อนี้ทีมของ Redmatica จะรวมเข้ากับแอปเปิล และคาดว่า Redmatica จะยกเลิกการให้บริการซอฟต์แวร์ทั้งหมด
หลังจากการอนุมัติเสร็จสิ้น Andrea Gozzi ผู้ก่อตั้ง Redmatica ขึ้นข้อความหน้าเว็บขอบคุณผู้ใช้ และแนะนำให้ผู้ที่ดาวน์โหลดจาก Mac App Store ทำการแบคอัพให้เรียบร้อย ส่วนฝั่งซื้อจากเว็บไซต์จะมีอีเมล์ส่งซีเรียลตัวใหม่ไปให้ ส่วนการซัพพอร์ตจะมีถึงวันที่ 12 มิถุนายนนี้
ที่งาน E3 2012 ไมโครซอฟท์เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ของ Xbox หลายอย่าง ในภาพรวมแล้วยังเป็นการผลักดันแพลตฟอร์ม Xbox ในฐานะ "จุดศูนย์กลางของห้องนั่งเล่น" เหมือนกับที่ดำเนินมาตลอดช่วงปีหลังๆ
พระเอกของงานรอบนี้คือ Xbox SmartGlass (ที่เพิ่งมีข่าวหลุดออกมาก่อนงานไม่นาน) มันคือแอพบนอุปกรณ์พกพาหลายแพลตฟอร์ม ได้แก่ Windows 8, Windows Phone, iOS, Android ช่วยให้เราควบคุมการทำงานของเครื่อง Xbox ได้จากอุปกรณ์พกพา ไม่ว่าจะเป็นการดูหนังฟังเพลง ท่องเว็บ รวมไปถึงใช้ควบคุมเกมบน Xbox (แบบ Wii U ได้ด้วย)